เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
วิธีปฏิบัติต่อซากผี
ก่อนจังหัน
วันนี้พระมาฉัน ๓๓ องค์ ขาดไป ๒๒ องค์ ท่านไม่ฉันท่านภาวนา ให้ท่านทั้งหลายดูเอา แต่เราไม่ได้เอาแบบพระทุกชิ้นทุกอัน เราเอาแบบพระในฐานะลูกศิษย์มีครูอาจารย์ ให้นำไปปฏิบัติให้เหมาะสมแก่เพศและกำลังของตน ถ้าจะปล่อยเลยตามเลยนั้นไม่มีความหมายอะไรนะมนุษย์เรา ชื่อแต่มนุษย์ ยังไม่มีหาง ถ้าหางติดปั๊บเข้าไปจะเรียกว่าหมาก็ได้ เพราะไม่มีกฎมีเกณฑ์ หมาตัวมันดีตัวมันรู้จักการงานของมันที่เจ้าของมอบให้ และเสี้ยมสอนมันทุกอย่าง มันเข้าใจดียิ่งกว่ามนุษย์ที่ไม่มีข้อวัตรปฏิบัติ ไม่มีกฎเกณฑ์รักษาตัวบ้างเลย ปล่อยเลยตามเลย สู้หมาไม่ได้ ให้พากันจำเอานะ
คำว่าอย่างนี้อย่าเข้าใจว่าเป็นคำหยาบโลน ตัวเราที่เลวลงไปด้วยความประพฤตินั้นเลวยิ่งกว่าหมา หมายังดี ให้พากันจำให้ดี กิเลสมันดื้อมันด้าน เราจะสอนแบบสุภาพอ่อนโยนนี้กิเลสกลืนเอาหมดเลย กิเลสผึงมา ธรรมะผึงไป แก้กันตก ขาดสะบั้นไปเลย เป็นคนดีขึ้นมา ให้จำเอาอย่างนั้นนะ อย่ามาถือคำนั้นสูงคำนี้ต่ำ คำนั้นหยาบไม่หยาบ กิเลสมันกลืนตลอดเวลา หยาบไม่หยาบไม่เห็นได้คิดกันบ้าง ให้พากันคิดนะ
พระท่านอุตส่าห์พยายาม มาจากต่างทิศต่างแดน มีปากมีท้องมีจิตใจธาตุขันธ์เหมือนเรา ท่านทำไมมาฝึก สิ่งอื่นใดท่านมีหมด แต่เรื่องธรรมนั้นขาดทั้งเขาทั้งเราทั่วโลกดินแดน ท่านจึงได้มาฝึกฝนอบรมเพื่อธรรม ธรรมเป็นธรรมชาติที่เลิศเลอ คำว่าธรรมนี้ เรียกว่าเลิศเลอสุดยอดแล้ว นิ่มนวลที่สุดไม่มีอะไรเกินธรรม เผ็ดแสบที่สุดไม่มีอะไรเกินกิเลสที่เป็นข้าศึกของธรรม เพราะฉะนั้นมนุษย์เราจึงมีศาสนาๆ ประจำตน แต่คำว่าศาสนานั้นมีต่างกันที่ผู้เป็นเจ้าของศาสนา เจ้าของศาสนาผู้สิ้นกิเลสตัวเป็นพิษเป็นภัยโดยสิ้นเชิงเรียบร้อยแล้ว เช่นพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์นี้สอนศาสนาแม่นยำมากทีเดียวไม่ผิดเพี้ยน นอกจากนั้นก็เป็นธรรมดาของคนมีกิเลส ย่อมมีกิเลสบงการแทรกไปในคำว่าศาสนาๆ จนได้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ศาสนา คือตัวภัยของสัตว์โลกนั้นแลก็เป็นได้
นี้เราได้ศาสนาที่ถูกต้องแม่นยำมาฝึกฝนอบรมตัวเราเอง จึงขอให้นำไปประพฤติปฏิบัติได้ตามกำลังความสามารถ เพศ วัย ของเรา อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว การปล่อยเนื้อปล่อยตัวเป็นสิ่งที่หมดราค่ำราคาแล้วถึงปล่อย เหมือนสิ่งของที่อยู่ที่อาศัยอาหารปัจจัยที่หมดค่าแล้วเขาทิ้งออกๆ เราอย่าให้เป็นคนหมดค่าหมดราคาถูกทิ้งออกๆ จากสังคมผู้ดีทั้งหลาย ไม่สมควรอย่างยิ่ง ให้พากันนำไปปฏิบัตินะ คนเราจะดีเพราะการฝึกฝนอบรม โดยมีแบบฉบับที่ถูกต้องดีงามคือธรรมเป็นเครื่องกำกับ ถ้าไม่มีเลยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยนะ
เรื่องการตกการแต่งภายนอกนั้น ใครแต่งได้หมดนั่นแหละ ของเหล่านี้มีอยู่ในโลก แต่จะตกแต่งภายในให้เป็นของดิบของดีนี้รู้สึกว่ามีน้อยมากและไม่มี อันนี้สำคัญมาก เพราะฉะนั้นสัตว์โลกจึงก่อความเดือดร้อนให้กันและกันจนฉิบหายวายปวงไป ก็เพราะไม่มีการตกแต่งใจให้ถูกต้องตามศีลตามธรรมนั้นเลย คำว่าศีลธรรมก็ไม่ทราบอีกเสียด้วย ก็ไม่ทราบว่าจะเอาอะไรมาตกแต่ง ก็มีแต่ธรรมชาติที่อยู่ในหัวใจซึ่งมีแต่ความเป็นพิษเป็นภัย กระจายออกมาที่ไหนเผาไหม้โลกไปทั่วดินแดน
นี่ท่านทั้งหลายได้มาพบพระพุทธศาสนา นับว่าเลิศเลอแล้วนะ ให้นำอันนี้ไปปฏิบัติ ฝืน ธรรมดาเราจะทำความดีต้องฝืน ไม่ฝืนไม่ได้ กิเลสกลืนหมดๆ เพราะความราบรื่นคือเรื่องของกิเลสกลืนเลยๆ แม้ที่สุดกลืนอาหารลงไปจะมีกระดูกมีก้างก็ตาม ถ้าตามเรื่องของกิเลสมันจะให้กลืนเลยไม่ต้องเลือกก้างเลือกกระดูกนะ กิเลสชอบอย่างนั้น ทีนี้ผู้มีอรรถมีธรรมต่างกัน ต้องฝืน มีอะไรเป็นพิษอยู่ในอาหารนั้น เช่นกระดูก เช่นก้าง คัดออกๆ นำไปแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อธาตุต่อขันธ์เท่านั้น นี่เรียกว่าธรรม ต้องมีการฝืน ไม่ฝืนไม่ได้ แหลกเหลวหมดนะ เอาละให้พร
หลังจังหัน
ผู้กำกับ บทความจาก เนชั่น สุดสัปดาห์ วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
สังฆมณฑลจะลุกเป็นไฟ และจะไม่มี ทรท.สมัยหน้า?
สืบเนื่องจากผู้แทนคณะสงฆ์ไทยกลุ่มหนึ่ง นำโดยลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือให้กับมหาเถรสมาคมหลายต่อหลายครั้ง เกี่ยวกับการที่มหาเถรสมาคมมีมติแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ ร่วมอยู่ในคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชด้วย ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ซึ่งทางคณะสงฆ์ไทยมีความเห็นว่า สมเด็จพระราชาคณะรูปนี้มีมลทินทางคุณสมบัติ อยู่ระหว่างถูกโจทก์อาบัติร้ายแรง เป็นการขัดต่อพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง
หากแต่ในหนังสือร้องเรียนไปยังมหาเถรสมาคม ไม่ได้ระบุว่ามีมลทินเรื่องอะไร และอาบัติร้ายแรงเรื่องอะไรบ้าง อย่างไรก็ตามต่อมาทางคณะสงฆ์ไทยได้ขอให้ทางมหาเถรสมาคมพิจารณาลงนิคหกรรมสมเด็จพระพุฒาจารย์ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๗ และให้การแต่งตั้งสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชโดยมหาเถรสมาคมเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ทางมหาเถรสมาคมก็ยังไม่ได้ทำอะไร
ปัญหาดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับเมื่อหลายปีก่อน ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชท่านมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม จัดการตามพระธรรมวินัยกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ที่ใช้เงินของวัดไปซื้อที่ดินในนามส่วนบุคคล แล้วมหาเถรสมาคมไม่มีท่าทีจะรับพระบัญชา ซ้ำยังมีกิริยาก้าวร้าวต่อพระองค์ท่านด้วย จึงเป็นเหตุให้สมเด็จพระสังฆราชไม่ร่วมสังฆกรรมกับคณะสงฆ์ และไม่เสด็จเข้าร่วมประชุมกับมหาเถรสมาคมอีกเลย
จากนั้นสมเด็จเกี่ยวก็ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมบริหารคณะสงฆ์ทุกๆ ๑๐ วันในมหาเถรสมาคมแทนมาโดยตลอด จนดูเหมือนว่าตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ต่อไปจะไปไหนเสียถ้าไม่ใช่ท่าน ซึ่งจะเป็นเช่นนั้นได้ต้องมีฆราวาสหนุนหลัง
ซึ่งฆราวาสที่หนุนหลังนั้น ทองก้อน วงศ์สมุทร ชี้ตรงไปยัง วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับคุณมีชัย ฤชุพันธ์ ที่ไปแก้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ ในปี๒๕๓๕ สมัยนายกฯอานันท์ ปันยารชุน จนทำให้เกิดความปั่นป่วนในคณะสงฆ์มาจนถึงทุกวันนี้
จุดประสงค์หลักของการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะสงฆ์ไทย ในปี พ.ศ.๒๕๔๗ พระครูอรรถกิจนันทคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร ชี้แจงต่อมาว่า เพราะกฎหมายที่ใช้อยู่ฉบับแก้ไขเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ นั้น สังคมได้ทดลองใช้แล้ว จากเดิม พ.ศ.๒๕๐๕ สมเด็จพระสังฆราชจะมาจากการสถาปนาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยไม่ต้องมีกรอบ เป็นองค์หนึ่งองค์ใดก็ได้ สุดแท้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯจะมีพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งสังคมจะวางใจในทศพิธราชธรรมของท่าน เราจึงต้องการให้แก้ไขกลับไปเป็นอย่างเดิม
เพราะกรอบในฉบับแก้ไขเมื่อปี ๒๕๓๕ ทำให้รู้ได้ว่าใครจะเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ต่อไป ดังนั้นผู้ที่จะขึ้นมาเขารู้ตัวมา ๑๐ กว่าปีแล้ว จากนั้นพระที่ต้องการอำนาจก็จะวิ่งเข้ามาที่นี่ทั้งหมด นี่คือภัยที่เห็น
แล้วปัญหาที่ทำให้การเคลื่อนไหวของตัวแทนคณะสงฆ์ไทย ไม่มีความคืบหน้านั้น เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงากล่าวว่า เพราะคุณวิษณุ เครืองาม ไม่เคยสนใจ และยังมาก้าวล่วงในสังฆมณฑล มาสร้างประมุขสงฆ์ มาแตะพระธรรมวินัย โดยเปิดประเด็นค้างไว้ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๔๖ ว่าจะมีสังฆราชสององค์ อีกองค์หนึ่งมาจากภาคอีสาน จึงทำให้เราต้องออกมาชี้แจง แต่ก่อนหน้านั้นการเคลื่อนไหวของลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ก็ชัดเจนอยู่แล้วที่จะแก้กฎหมาย
คณะสงฆ์ในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าท่านวางไว้ว่า จะผาสุกอยู่ได้ ต้องให้พระราชาเป็นผู้ดูแลคุ้มครอง แล้วคนกลางระหว่างพระสงฆ์กับพระราชา คือสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับเดิมปี ๒๕๐๕ ก็อยู่เป็นสุขเรื่อยมา แต่ฉบับ ๒๕๓๕ แก้เป็นตีกรอบว่า สมเด็จพระสังฆราช ผู้มีสมณศักดิ์สูงสุด ยังคงทำงานได้ แต่ถ้าไม่มาประชุมนาน ก็จะเก็งกันได้ว่าองค์ใดจะเป็นต่อ แล้วคราวนี้ทุกรูปที่ต้องการอำนาจจะเข้ามา จนกระทั่งในที่ประชุมมหาเถรสมาคมไม่มีใครไปกล้าตอแยกับท่าน
เวลาประชุมพูดอย่างไรก็อย่างนั้นไปเลย ค้านนี่ไม่มีใครพูด ถ้าสนับสนุนก็เออออห่อหมกกันไป จะเป็นภัยกับคณะสงฆ์ จะทำให้เกิดความผาสุกได้อย่างไร ตรงนี้หลวงตามหาบัวท่านเห็น และอนุญาตให้แก้เสีย ถ้าแก้แล้วก็ไม่รู้ว่าใครจะได้เป็นสังฆราช เพราะในหลวงทรงเป็นผู้แต่งตั้งเอง ทุกองค์จะต้องสังวรระวัง สร้างแต่คุณงามความดี ไม่สร้างฐานอำนาจ
ทองก้อนกล่าวว่า ตอนนี้ภัยอันตรายก็เห็นแล้ว พระมุ่งหวังสมณศักดิ์ แล้วมุ่งไปหาจุดศูนย์รวมแห่งอำนาจเช่นเดียวกับทางโลก เพราะรู้ว่าคนต่อไปใครจะมาเป็น ถ้าตามขั้นที่เขียนล็อกไว้ ต่อไปใครอยากมีสมณศักดิ์เลื่อนขึ้นเร็วๆ อยากมีลาภ มียศ ก็ต้องมุ่งไปที่ศูนย์รวมแห่งอำนาจ ซึ่งเห็นอยู่อย่างชัดเจนในเวลานี้
แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหามาจากพระที่ไม่ปฏิบัติ ถ้าเป็นพระปฏิบัติคงไม่มีทางเกิดปัญหาอย่างนี้?
หากปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นที่คณะสงฆ์ไทยเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือ เกรงว่าต่อไปพระธรรมวินัยจะบิดพลิ้ว หลักคำสอนในพระพุทธศาสนาบิดเบือน แทนที่การบวชจะเป็นไปเพื่อมุ่งสละลาภ ยศ สรรเสริญ ไปสู่ความหลุดพ้น จะกลายเป็นการเพิ่มพูนกองกิเลสต่อ ซึ่งขัดกับรสพระธรรมอันชุ่มเย็นที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบ
ทองก้อนยืนยันว่า ที่หลวงตาท่านสอนมา ท่านบอกว่า การปฏิบัติธรรม การบวชต้องปฏิบัติที่จิต ปฏิบัติภายนอกไม่ได้ผล เมื่อปฏิบัติไม่ลงที่จิตก็ไม่เห็นโทษภัยของ ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือโลกธรรม จึงเกิดความเดือดร้อนอย่างที่เกิดเรื่องขึ้น สังคมเราเวลานี้สับสน เราจึงอยากให้สังคมเห็นความเป็นจริง
พระครูอรรถกิจฯเสริมว่า อย่างอาตมามีตำแหน่งก็ไม่ได้สนใจตำแหน่งอะไร ถ้าออกมาเคลื่อนไหวอย่างนี้แล้วอยากลงโทษก็ลงโทษ หลวงตามหาบัวท่านก็มีสมณศักดิ์ ท่านก็ไม่ห่วงว่าจะปลดไม่ปลด ท่านไม่ว่า เราจึงกล้าที่มาเคลื่อนไหว
เราเคลื่อนไหวโดยมิได้โกรธแค้นมหาเถรสมาคม แต่เราปกป้องพระธรรมวินัย เรายังยอมรับในกฎหมาย ไม่ได้ลาออกอย่างคณะของพระโพธิรักษ์ เขาลาออกจากการปกครองของคณะสงฆ์เลย แต่เรายังยอมรับให้มหาเถรสมาคมปกครองเราตามมาตราอื่นๆ แต่สองมาตรานี้คือมาตรา ๗ กับมาตรา ๑๐ เป็นภัยกับมหาเถรสมาคมเอง ทำให้มหาเถรสมาคมถูกครอบโดยศูนย์รวมแห่งอำนาจ แม้การเมืองเองก็วิ่งเข้าหาศูนย์รวมแห่งอำนาจนี้เหมือนกัน จึงยุ่งเหยิงไปหมด เราไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อให้เป็นข่าวอย่างเดียว แต่เราอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เราทำเรื่องส่งไปสำนักพระพุทธศาสนาฯ ส่งไปให้รัฐบาล แต่ไม่เคยได้รับการตอบกลับเลยสักฉบับเดียว
ทองก้อนระบุว่า ตอนนี้ยืนยันได้เลยว่า คุณวิษณุ เครืองาม กับคุณอุดม เจริญ เป็นหัวเรือใหญ่ที่ตอกลิ่มลงบนแผ่นดินพระพุทธศาสนาในเวลานี้ แล้วได้ผลด้วย อย่างกรณีที่พระครูอรรถกิจฯ ยกตัวอย่างว่าได้ส่งหนังสือไปถึงคุณวิษณุและคุณอุดม นอกจากไม่อ่านไม่ตอบแล้วยังแปลงสาร อ้างความเท็จไปประกอบให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่สงฆ์อีก
หากพรรคไทยรักไทยยังอุ้มชูนายวิษณุ เครืองาม ซึ่งผมเป็นฆราวาสผมมีสิทธิเลือกตั้ง ก็ได้ทำหนังสือไปถึงนายกฯแล้วว่าไม่สะดวกใจที่จะสนับสนุนพรรคไทยรักไทย
มีอยู่อย่างหนึ่งที่ทองก้อนอยากให้สังคมรู้ก็คือ
ทำไมคุณวิษณุถึงกล้าอาจหาญทำขนาดนี้ โดยที่นายกฯไม่กล้าทำอะไร เพราะคุณวิษณุอ้างว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระเจ้าอยู่หัวฯ ผมถามว่า ในหลวงจะทรงมายุ่งหรือ ประชาชนอย่างผมรับไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ในสิ่งที่คุณวิษณุอ้าง คุณวิษณุพูดกับผมโดยส่วนตัว ต่อหน้านายกฯ บอกว่าทั้งหมดที่ทำเป็นพระราชประสงค์ของพระเจ้าอยู่หัวฯ ผมหันไปถามท่านนายกฯว่า ท่านนายกฯ รับรองหรือเปล่า คำพูดของคุณวิษณุ
ท่านนายกฯบอกว่ารับรอง แล้วคุณวิษณุพูดด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรับสั่งกับตัวเขาว่า ฉันไม่ไว้ใจสมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็ยิ่งงงใหญ่ว่าถ้าไม่ไว้ใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วตั้งทำไม เราจึงสับสนและจึงออกมาเคลื่อนไหว
ทองก้อนเล่าย้อนต่อมาว่า แต่ก็จับความที่คุณวิษณุพูดนั้นก็เพื่อจะบอกหลวงตามหาบัวว่า ให้หยุดเคลื่อนไหวเสีย ในหลวงทรงไม่ชอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ไม่ตั้งต่อ แต่ที่ไหนได้ก็มาตั้งใหม่ แก้พระราชกำหนดอีก อย่างนี้สื่อไม่กล้าเขียน เอาคอผมไปตัดที่ไหนก็ได้ ผมก็จะยืนยันว่าคุณวิษณุอ้างพระเจ้าอยู่หัวฯ อยู่ตลอดในการทำการคราวนี้
ส่วนตัวผมเชื่อว่าพระเจ้าแผ่นดินของเรา พระองค์ไม่ได้มีพระราชกระแสอย่างนี้แน่ แต่คุณวิษณุอ้างจนนายกฯกลัว ผมจึงไปประกาศที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อในหลวงไม่ไว้วางใจพระรูปนี้แล้ว ทำไมคุณวิษณุจึงตั้งขึ้นมา แล้วเวลานี้ก็เป็นฐานแห่งความแตกแยกของคนในแผ่นดิน ไม่ใช่ภัยเฉพาะศาสนาเท่านั้น
ซึ่งทองก้อนและคณะสงฆ์ก็ได้ทำจดหมายเตือนไปยังนายกรัฐมนตรี หลายต่อหลายครั้ง ดังที่กล่าวไปแล้ว แต่
นายกฯขำ ผมบอกเลยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังตรงนี้นั้น เขาต้องการยึดครองพระศาสนาก่อน จากนั้นยุให้พระป่ากับพระบ้าน หรือธรรมยุตกับมหานิกายแตกแยกกัน แล้วก็เข้าครอบครองศูนย์อำนาจทางศาสนา เพื่อเป็นฐานสร้างอำนาจทางโลก
คุณทักษิณ ชินวัตร นิมนต์หลวงตามหาบัวไปพูดปรับความเข้าใจที่บ้าน บอกว่า คุณอาสา สารสิน กล่าวว่า พระเจ้าอยู่หัวฯ วางพระทัยสมเด็จเกี่ยว เราเลยงงมากว่า เมื่อสามเดือนที่แล้วคุณวิษณุบอกว่าในหลวงไม่ทรงไว้วางใจสมเด็จเกี่ยว แต่ตอนนี้คุณอาสาบอกว่าไว้วางใจ แสดงว่าต้องมีการแอบอ้าง นายกฯไม่เคยเข้าไปคุยกับในหลวงเลย มีแต่คุณวิษณุว่าอย่างนี้อย่างนั้น แลวนายกฯพูดต่อหน้าหลวงตามหาบัวว่าจะแก้ เพราะผิดอย่างนี้ พอพูดเสร็จเจอคุณอาสาบอกอย่างนี้ ก็ไม่กล้าไปถามพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทองก้อนย้ำว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาทางคุณวิษณุอ้างพระเจ้าอยู่หัวฯ ตลอด แล้วมาขู่หลวงตากับผม เหนืออื่นใด ผมคิดว่าอย่ามาอ้างพระเจ้าอยู่หัวฯ
ภัยคนแรกคือคุณวิษณุ เพราะคือคนที่ชงเรื่องว่าให้มีพระสังฆราชสององค์ ถ้าสรุป คนที่อยู่เบื้องหลังนั้นต้องการให้หลวงตาชนกับนายกฯให้แตกหักกันเสียที เพราะหลวงตาบอกอยู่เสมอว่า อย่าทำกับพระสังฆราชแบบนี้ แต่ก็ทำกันจนได้ ผมอยากให้สังคมรับรู้ว่า มีคนอยู่เพียง ๒-๓ คน แล้วเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีโวหารแก่กล้า เอาความเท็จไปพูดในสภา อ้างเบื้องบนตลอด
ส่วนผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ทองก้อนกล่าวถึงคือใคร? ถ้าปลดวิษณุ เครืองาม แล้วจะแก้ปัญหาที่ค้างคาในสังฆมณฑลได้จริงหรือ
ทั้งหมดนี้ศิษยานุศิษย์สายหลวงตามหาบัว กล่าวได้แต่เพียงว่า ถ้านายกฯยังอุ้มชูคุณวิษณุ ลูกศิษย์หลวงตาหลายคนไม่สะดวกใจที่จะสนับสนุนพรรคไทยรักไทย
หลวงตา นี่พากันเข้าใจแล้วเหรอ? เวลานี้กำลังอำนาจบาตรหลวงทางโลกทางสงสารเข้าเหยียบย่ำทำลายพุทธศาสนา โดยเอาฆราวาสเป็นแกนนำที่สำคัญๆ มาก เข้ามาเป็นผู้มีอำนาจเหยียบย่ำทำลายพุทธศาสนา อย่างไม่ฟังเสียงใครเลยเวลานี้ พวกนี้พวกเรียกว่าจะเอาท่าเดียว จะเอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี้ให้อยู่ในเงื้อมมือ แล้วขี้รดหัว ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไปพร้อมๆ กัน คือพวกนี้เอง เราพูดเป็นธรรม เวลานี้กำลังก่อเรื่องก่อราวพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงหลายสันพันคมไม่มีใครเกินพวกนี้ แต่หาความจริงไม่ได้ ก็คือความหลอกลวงนี้แหละเป็นความจริงของเขา หลอกลวงตลอดเวลา จนกระทั่งพระอยู่ในป่าในเขาอยู่ไม่ได้ เพราะจะเข้าไปทำลายพระธรรมวินัยที่ท่านปฏิบัติด้วยความเทิดทูนตลอดมา ให้แตกกระจัดกระจาย เมื่อเห็นเหตุผลกลไกที่ไม่ดีอย่างนี้แล้ว ท่านก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว หลายๆ ครั้ง ที่มาชำระความสกปรกโสมมและเต็มไปด้วยอำนาจบาตรหลวง ที่จะเข้าครอบครองหรือทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรานี้ให้ล่มจมลงไป ท่านจึงต้องออกมาอยู่เรื่อยๆ อย่างนี้แหละ
ให้ท่านทั้งหลายฟังเอานะพี่น้องชาวไทยเรา เหล่านี้ก็กระเทือนไปถึงนายกเรา ถ้านายกเรายังอุ้มชูนายวิษณุ เครืองาม ให้เป็นเจ้าอำนาจใหญ่หลวงแทนนายกอีกแล้ว ต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครหย่อนบัตรให้เป็นนายกอีกต่อไป ไม่หย่อนตรงนั้นก็จะหย่อนให้พวกยักษ์พวกผีที่กำลังอ้าปากงาบชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราอยู่นี้เท่านั้นเอง บัตรทั้งหมดจะลงไปในปากที่กำลังอ้าอย่างกว้างขวางนี่ จะกลืนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พวกพี่น้องชาวไทยเราทั้งหลายก็เป็นอาหารว่าง ไหลเข้าสู่ปากพวกเปรตพวกผีพวกยักษ์พวกมารนี้ทั้งนั้น ที่จะให้เป็นหลักเป็นเกณฑ์อย่างแต่ก่อนเป็นไปไม่ได้แล้ว เราพูดจริงๆ นี่ตามภาษาธรรม
เวลานี้กำลังสร้างอำนาจบาตรหลวงมาก เรื่องอรรถธรรมวินัยไม่ต้องพูด พวกนี้เอาตั้งแต่เรื่องสกปรกโสมม ที่เป็นภัยต่อชาติ ต่อศาสนา พระมหากษัตริย์เท่านั้น ออกมาเหยียบย่ำทำลายอยู่เวลานี้ ไม่มีอย่างอื่นอย่างใดพอที่จะเป็นคติเครื่องเตือนใจได้เลย ฟังมาเป็นลำดับลำดา เริ่มต้นมาจนกระทั่งถึงบัดนี้ มีแต่พวกนี้คืบคลานเข้าไป เหยียบย่ำเข้าไปตลอด
แล้วยิ่งในวงราชการ นายกรัฐมนตรีคือคุณทักษิณ ชินวัตร เวลานี้ประชาชนเขาวิพากษ์วิจารณ์จนออกอย่างกระจ่างแจ้งแล้วว่า นายกเราไปไหนเวลานี้จึงมีแต่นายวิษณุ เครืองาม เป็นผู้มีอำนาจบาตรหลวงครอบชาติไทยทั้งชาติ มิหนำซ้ำยังเอาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ซึ่งอยู่เบื้องบนๆ สูงสุดแห่งชาติไทยของเราเข้ามาอวดมาอ้าง ในขณะเดียวกันก็คือเหยียบหัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานั้นแล จะเป็นอะไรที่ไหนไป เอามาเทิดทูนอ้างพระบาทสมเด็จฯเบื้องสูงๆ ก็อ้างนั้นเพื่อเอาลงมาเหยียบมาเหยียบนั้นเองจะเป็นอะไรไป ให้ท่านทั้งหลายทราบเสีย
เวลานี้ไฟกำลังลุกทีเดียว พวกอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ เข้ามาเป็นแกนทีเดียวอันสำคัญเป็นอำนาจใหญ่หลวง กำลังเหยียบย่ำทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา นี่ ละให้ฟังในเรื่องที่ว่าหย่อนบัตรนี้ ประชาชนเขาเป็นอย่างนี้ เขาอาจจะไปหย่อนให้นายวิษณุ เครืองาม ทั้งหมดก็ได้ทั่วประเทศนี้ ถ้าหากว่านายกเรายังหมอบราบอยู่กับนายวิษณุ เครืองาม ให้นายวิษณุ เครืองามเป็นผู้นำแทนนายกเราแล้ว นายกเรานี้จะไม่ปรากฏชื่อแหละ ทั้งๆ ที่หลวงตานี้รักมากที่สุดรักนายกเรา แต่สิ่งที่จะมาขวางหัวอก ที่จะให้ความรักมากนั้นทนอยู่ได้ ก็กลับกลายจะทนอยู่ไม่ได้ ถึงจะรักมากขนาดไหนก็เหมือนกับครัวเรือนของเรา ครัวเรือนของเรามีความรักความชอบสนิทสนมเป็นอวัยวะเดียวกัน แต่รายใดรายหนึ่งเกิดมาตายในครอบครัวนั้นเสีย คนๆ นั้นก็เน่าเฟะ คนตายอยู่ในท่ามกลางครอบครัวเน่าเฟะ แล้วคนในครอบครัวถึงจะรักจะชอบขนาดไหนจะปฏิบัติต่อซากผีที่เน่าเฟะนั้นอย่างไรบ้าง ถึงจะรักขนาดไหนก็ต้องนำซากผีที่เน่าเฟะนั้นออกจากบ้านไปเผาหรือไปฝังอะไรก็แล้วแต่ ทั้งๆ ที่รักอยู่นั้นแล จะฝืนเป็นอื่นไปไม่ได้
อันนี้ประชาชนทั้งหลายที่รักนายกเรา ก็รักในครัวเรือนแห่งชาติไทยของเรา เกิดนายกไปเป็นคนเน่าเฟะเสีย หมอบราบไปกับพวกมหาภัยนี้เสียอย่างเดียว นายกของเราก็เน่าเฟะ เมื่อนายกเน่าเฟะแล้วประชาชนทั้งหลายถึงจะรักขนาดไหนก็ต้องสลัดนายกออก เหมือนกับครอบครัวของเราที่เขารักคนในครอบครัวแต่ตายไปเสีย เน่าเฟะอยู่ในท่ามกลางครอบครัวนำไปเผาที่ป่าช้า อันนี้ก็มีลักษณะอย่างเดียวกัน ประชาชนถึงจะรักนายกขนาดไหนก็ตาม ถ้าทำตัวให้เป็นคนเน่าเฟะหมอบราบกับนายวิษณุ เครืองาม อยู่อย่างนี้ต่อไปแล้ว นายกเราจะเน่าเฟะ ตายอยู่ในท่ามกลางแห่งครอบครัวคือชาติไทยของเรา แล้วก็นำไปเผาไปฝังอะไรก็แล้วแต่เถอะ อันนี้ก็จะให้ซากผีที่อยู่ในป่าช้านั้นขึ้นมาครอบครองครอบครัวแทน เป็นยังไงเป็นไปได้ไหม ซากผีคือใคร เวลานี้พวกนี้กำลังเป็นซากผีที่ทำตัวเป็นคนดิบคนดีขึ้นมาปกครองบ้านเมือง ท่านทั้งหลายจะรับได้ไหม นี่แหละเรื่องราวมันก็เป็นอย่างนี้จะให้ว่าอย่างไร
เรื่องรักนั้นรัก แต่เมื่อมันตายเน่าเฟะอยู่ในท่ามกลางครอบครัว รักขนาดไหนก็จะต้องเอาออกจากครอบครัวเพื่อไปเผาไปฝัง อันนี้ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน หากว่านายกเราได้ทำตัวให้เน่าเฟะ โดยหมอบราบกับคนที่เป็นภัยต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่แล้ว ชาติไทยก็จะต้องปฏิบัติอย่างนั้น เน่าเฟะอยู่ในท่ามกลางแล้วต้องเอาออก นี่แหละรักขนาดไหนก็คัดไม่ได้เลือกไม่ได้ เลือกนายกเรา ถ้านายกเรายังปฏิบัติตัวแบบนี้อยู่แล้ว ประชาชนมีหัวใจทุกคนๆ มีหูมีตารู้กันทุกคน
อย่างนายวิษณุ เครืองาม กับนายอุดม เสื่อม นี้เด่นชัดที่สุด เป็นหัวหน้ามหาอำนาจที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างโจ่งแจ้งตลอดมา ประชาชนทราบไปหมด ในวงรัฐบาลไม่มีใครทราบหรือ ไม่ใช่มีแต่คนหูหนวกตาบอดไปเป็นคนในวงของรัฐบาล
นี่ก็ย่นเข้ามาหาในวงของศาสนา สมเด็จเกี่ยวกำลังวางอำนาจใหญ่โต จับอันนั้นยัดเข้ามา จับอันนี้ยัดเข้ามา มีแต่เรื่องฟืนเรื่องไฟมาเผาชาติ เผาศาสนาทั้งนั้น เวลานี้ก็เอานายอุดม ก็สมเด็จเกี่ยวนั้นเอง สมเด็จเกี่ยวเป็นผู้น้อยเมื่อไร เป็นผู้ปกครองศาสนาในสังฆมณฑลทราบทั่วถึงกันหมด เหตุใดสมเด็จเกี่ยวจึงเอาคนที่เสียหายอย่างร้ายแรงคือนายอุดมเสื่อมนี้ เข้ามายัดให้มหาเถรสมาคมเป็นผู้อุปถัมภ์อุปัฏฐากดูแลกราบไหว้นายอุดมคนนี้อีกเป็นแหล่งที่สอง แหล่งใหญ่โตมากคือแหล่งมหาเถรสมาคม ถ้ามหาเถรสมาคม รับนายอุดมเสื่อมนี้ไว้แล้ว ก็เรียกว่ามหาเถรสมาคมเน่าเฟะ ไม่มีใครเคารพนับถือ มหาเถรสมาคมให้รีบลาตัวออกไปเสียตั้งแต่ยังไม่ไล่ อย่างนี้จะเป็นความเหมาะสม เห็นว่ายอมรับความผิดถูกชั่วดีต่างๆ
เวลานี้เป็นยังไงไม่ทราบ นายอุดม ไอ้ตัวมหาเสนียดจัญไร ไอ้ตัวเป็นภัยต่อชาติ ต่อศาสนา พระมหากษัตริย์กำลังเข้ามาอยู่ในวงการ ว่าจะมาปรึกษาปรารภ ปรึกษาเรื่องจะทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์โดยถ่ายเดียวเท่านั้น อย่างอื่นไม่เห็นที่นายอุดมจะมาทำศาสนาให้เจริญ ให้บ้านเมืองเจริญ ไม่มี มีตั้งแต่จะปรึกษาทำไงชาติจึงจะฉิบหาย ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราจึงจะฉิบหายไม่มีเถ้าถ่านเหลืออยู่เลยนั้นเท่านั้น ที่นายอุดมจะเข้าบังคับบัญชา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปรึกษาหารือ ปรึกษาก็ปรึกษาอย่างนี้ ทำอย่างไรชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จึงจะจมไปได้อย่างรวดเร็ว นี่เขาจะปรึกษากันอย่างนี้
เป็นยังไงมหาเถรสมาคมเรา ใครเป็นคนตั้งมา มหาเถรสมาคมเป็นคนตาบอดหูหนวกหรือเป็นคนประเภทใด ควรพิจารณาอย่างนี้ด้วยดี เราเป็นหัวใจของสังฆมณฑล มหาเถรสมาคมเป็นหัวใจของพระสงฆ์ทั่วประเทศไทย ทำไมจึงมาทำตัวให้เน่าเฟะในท่ามกลางแห่งสังฆมณฑลอย่างนี้ ไม่สมควรอย่างยิ่ง ให้มหาเถรสมาคมพิจารณาโดยด่วน ถ้าไม่พิจารณาแล้วชาติไทยนี้จะจมด้วยคนประเภทนี้แหละ มันเป็นภัยมาตลอดๆ นายอุดม ใครได้ยกยอมันว่าเป็นคุณเมื่อไร มีแต่เป็นภัยมาตลอด เรายังจะให้มันมาเผาในจุดศูนย์กลางแห่งสังฆมณฑลคือมหาเถรสมาคมอยู่แล้ว ชาติไทย ศาสนาไทยจะพากันเอาไปไว้ที่ไหน ไม่มีอะไรเหลือเลย
นี่เราขอฝากคำนี้ไว้ ตามอรรถตามธรรมซึ่งเป็นความจริง เราไม่เคยสะทกสะท้าน ใครผิดบอกว่าผิด ใครถูกบอกว่าถูก สมเด็จเกี่ยวนี้ผิดมาตลอด ตั้งแต่ต้นเรื่องมา กี่เรื่องกี่ราว สมเด็จเกี่ยวเป็นหัวหน้าก่อความยุ่งยากวุ่นวายมาให้ตลอด จนกระทั่งถึงจะตั้งสมเด็จสังฆราชสดๆ ร้อนๆ กินสดๆ ร้อนๆ นี่ละไม่ต้องต้มต้องแกงเลย กินสดๆ ร้อนๆ ก็คือสมเด็จเกี่ยวนี่เองเป็นคนทำ แล้วส่งคนที่ชั่วช้าลามกเสียหายที่สุดเข้ามาในมหาเถรสมาคมก็สมเด็จเกี่ยวนี่เอง สมเด็จเกี่ยวผิดหรือถูก พิจารณาซิพี่น้องทั้งหลาย ฟังเอาซิ ไอ้อุดมนี้เป็นยังไง
แล้วกำลังเวลานี้ มหาเถรสมาคมกำลังรับเคราะห์อันนี้อยู่ มหาเถรสมาคมต้องรีบพินิจพิจารณา ถ้าเป็นมหาเถรสมาคมของสังฆมณฑลแห่งประเทศไทยซึ่งมีกฎมีเกณฑ์อยู่แล้ว อันนี้ไม่ใช่กฎเกณฑ์ กฎทำลาย ให้รีบแก้ไขดัดแปลงตั้งแต่บัดนี้ต่อไป เราของดไว้เพียงเท่านี้ก่อน จะฟังเรื่องราวสืบไป
นี่เป็นเสียงอรรถเสียงธรรม เราพูดตามอรรถตามธรรม ไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์ใด นอกจากกฎเกณฑ์แห่งธรรมซึ่งเป็นความถูกต้องดีงามแล้วเท่านั้น เรานำมาพูด ให้พยายามแก้ไขดัดแปลงกันเสียตั้งแต่บัดนี้ ไม่เช่นนั้นจะเน่าเฟะไปหมดทั้งประเทศ ทั้งชาติ ทั้งศาสนา พระมหากษัตริย์โดยไม่ต้องสงสัย จากประเภทมหาอำนาจกำลังงาบๆๆ อยู่เวลานี้ งาบคนทั้งประเทศนี้ให้เป็นอาหารว่างไปหมด จำเอานะ เอาแค่นี้ก่อน
ฟังธรรมะ เวลาได้ขึ้นไม่ได้ฟังใครนะ ฟังธรรมอย่างเดียว เข้าใจไหม ฟังธรรมอย่างเดียว นอกนั้นไม่ฟัง นอกนั้นเป็นส้วมเป็นถาน ฟังมันหาอะไร ถ้าไม่อยากเป็นหูส้วมหูถาน ฟังมันอะไร ถ้าหูอรรถหูธรรมไม่ฟัง จะฟังแต่ธรรมอย่างเดียวเท่านั้น โอ๊ย เราเบื่อจริงๆ นะ พวกเปรตพวกผีจะมากลืนบ้านกลืนเมือง เห็นชัดๆ แล้วนะเวลานี้ มันกลืนเข้ามาทุกด้านทุกทาง คนดิบคนดีร้อนเป็นฟืนเป็นไฟไปหมดเวลานี้
นี่ก็เป็นการลำบากนะ ที่จะคัดเลือกผู้นำในวาระต่อไปนี้จะคัดเลือกใคร นี่ก็เป็นการลำบากแก่หัวใจประชาชนทั้งประเทศอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ที่จะเลือกผู้นำที่ดิบที่ดีจะนำชาติบ้านเมืองให้ไปด้วยความแคล้วคลาดปลอดภัยนี้หายากนะเวลานี้ นายกเรานี้ก็เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน แต่ไม่พ้นที่จะเป็นเมี่ยง เป็นอาหารว่างของนายวิษณุ เครืองาม กับนายอุดม เฉพาะสองคนนี้เสียก่อนไปได้ละ ไม่พ้นไอ้นี้ไปได้ เวลานี้กำลังจะเอานายกเราเป็นอาหารว่าง ก็เท่ากับเอาคนทั้งประเทศเป็นอาหารว่างด้วยกัน นายวิษณุ เครืองาม กับนายอุดมนี้ละอ้าปากกว้างไว้ มีสองรายนี้ก่อน ที่หนุนหลังไม่น้อยนะ ที่อยู่หนุนหลังเอาปากสองปากนี้อ้าไว้สำหรับกลืนประชาชน มีเท่านี้ละ
เราก็เห็นใจนายกเพราะมีกรรมกันหนักหนากับนายวิษณุ เครืองาม นี้ ถึงกระดุกกระดิกอะไรไม่ได้เลย นายวิษณุ เครืองาม นี้คงมัดคอนายกเราไว้อย่างแน่นแฟ้นทีเดียว นายกเราจึงดิ้นอะไรไม่ได้เลย ประชาชนที่อยู่ในวงความร่มเย็นของนายกเราก็ดิ้นไปอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน ต่างคนต่างดิ้น นายกก็ดิ้นแบบหนึ่ง ประชาชนก็ดิ้นแบบหนึ่ง แล้วจะปฏิบัติอย่างไรพวกเราซึ่งเป็นประชาชนด้วยกัน เมื่อหัวหน้าเรามีทั้งยักษ์ทั้งผีมีทั้งเทวบุตรเทวดา เป็นเทวบุตรเทวดาแต่แสดงตัวออกไม่ได้ ยักษ์มัดคอไว้ จึงลำบากนะ
การคัดเลือกข้างหน้าที่จะให้เป็นผู้นำนี้จะเอาใคร หลวงตาบัวเองซึ่งอยู่ในท่ามกลางแห่งชาติและศาสนา นี้ก็หายใจจะไม่ออกเหมือนกันนะ เพราะเราหายใจเป็นธรรม หายใจไปตรงไหนมีแต่ข้าศึกศัตรูออกมาเต็มเลยๆๆ ไม่มีช่องว่างที่จะหายใจออก หลวงตาเลยอกจะแตกนะ เพื่อชาติ เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์ เราเป็นคนกลางคือธรรมล้วนๆ จึงหายใจออกยากเหมือนกัน จึงขอให้พากันพิจารณาปรับปรุงกันเสียใหม่ แก้ไขตั้งแต่บัดนี้ต่อไป
เรื่องของพระสงฆ์ก็อย่างนี้แหละ พระสงฆ์ก็เป็นผีขึ้นมาแล้วเดี๋ยวนี้ ในวงท่ามกลางแห่งพระสงฆ์เป็นผีขึ้นมา ทางบ้านเมืองก็เป็นผีขึ้นมา มีแต่พวกเดียวนี้เท่านั้นละ ถือบังเหียนไว้ควบคุมทั้งชาติ ทั้งศาสนา ดึงเข้ามาอันเดียวกันแล้วจะเผาให้เป็นกองเดียวกันเลย ทั้งชาติ ทั้งศาสนา พระมหากษัตริย์รวมลงในจุดเดียวกันแล้วเผาในจุดเดียวให้ฉิบหาย จากกลอุบายวิธีการของพวกนี้ทั้งนั้น ให้จำเอานะ
เป็นยังไงล่ะ ประชาชนหาผู้นำที่เราพูดนี้ เข้าใจไหมล่ะ เป็นยังไง เห็นด้วยไหมที่ว่าหาผู้นำนี้ลำบากมากนะเวลานี้ ไม่ทราบจะเอาใครเป็นผู้นำ ก็เราลำบากจนอกจะแตกอยู่แล้วเดี๋ยวนี้ ไม่ทราบจะให้ทำยังไง คนที่เรารักก็รักมากที่สุด เวลานี้กำลังถูกบีบบี้สีไฟจะทำให้เน่าเฟะในคนรักของเรา เราจึงยากมากนะ จึงยากลำบากทีเดียว
อู๊ย ลำบากมาก เราพูดตามความจริง เรารักนายกของเราสุดหัวใจนะ แต่นายกของเราถูกบีบบี้สีไฟ ไม่ทราบจะแยกออกไปยังไงต่อยังไง นี่ละที่เราอกจะแตกตรงนี้นะเข้าใจไหมล่ะ เรารักมาก ไม่มีใครจะทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมืองได้ยิ่งกว่านายก คุณทักษิณ ชินวัตรของเรา ชี้นิ้วเลย ตั้งแต่ยกขึ้นมาวันนั้น ๑๓ ข้อ นี้เรายังเก็บไม่หมดนะ ไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนนายกของเรา ๑๓ ข้อ ที่เรายกมาประกาศความดีของนายกเราและที่เศษที่ย่อยนั้นยังมีอีก เรายังตามเก็บมาอีกนี่นา แล้วมันจะกลายเป็นว่าเหล่านี้มาเป็นเชื้อไฟเสียทั้งหมด ไอ้พวกเปรตพวกผีที่อำนาจมากๆ บีบคอนายกเรา มันจะเอาไฟจ่อเผานี้ให้หมดเลย เข้าใจไหม อันนี้ที่เราวิตกมากที่สุดกับนายกของเรา เราวิตกมากจริงๆ เรารักมากทีเดียว
พวกนี้มันไม่ได้ทำความดีอะไรเลย ไฟไม่ทำความดีแต่เผานั้นเร็ว ไฟเข้าใจไหม นี่ละมันจะเอานี้ละมาเผา อู๊ยน่าทุเรศเหมือนกันนะ มันอัดอั้นตันใจมานานเรา วันนี้ยังไม่ได้เปิดมาก บอกว่าแย็บออกเสียบ้างเกี่ยวกับนายกเราที่อยู่เป็นเนื้อบนเขียง ถูกสับถูกยำ นายกเราเวลานี้เป็นเนื้อบนเขียง ถูกสับถูกยำอยู่ตลอด ไอ้เราผู้ที่คอยดูอยู่นี้มันอกจะแตกเข้าใจไหม อยู่นอกเขียงแต่ตามันก็เข้าไปอยู่ในเขียง ตาก็ดี ใจก็ดีเข้าไปอยู่ในเขียง เห็นเขาสับเขายำนายกของเราซึ่งเป็นสมบัติของเราที่รักมาก มันก็โมโหเราก็ดี แต่ทำอะไรก็ทำไม่ได้
มันลำบากนะ หลวงตาบัวนี่ จริงๆ เราไม่มีคำว่าเอนว่าเอียง เป็นธรรมล้วนๆ นายกเราทำประโยชน์ได้มากที่สุดเลย แต่อาจจะเป็นกรรมของท่านก็ได้ มันถึงหมุนเข้ามาๆ จะเหยียบนายกของเรา พูดให้ชัดๆ อย่างนี้เลย ไม่มีใครที่จะเด่นกว่านายกของเรา เดี๋ยวนี้กำลังกว้านหาสมบัตินอกประเทศเข้ามาสู่ประเทศของเราๆ ใครมีที่ไหน มีนายกของเราคนเดียว เหล่านี้เรายังไม่ได้พรรณนานะ กำลังเก็บกันมาได้เพียง ๑๓ ข้อที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ ยังมากกว่านั้นอีกนายกของเราที่ทำ
แต่ไม้ขีดไฟลูกเดียว มันจ่อเข้าไปมันก็เผาได้หมดเข้าใจไหม อันนี้ละที่เราลำบากมากอยู่เวลานี้ โถ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา เท่านั้นละ ก็พูดอย่างนั้นจะให้ว่ายังไงอีก ไปละที่นี่
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |