เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
มหาโจรในคราบของพระ
ก่อนจังหัน
วันนี้มีพระมาฉันที่นี่ ๓๑ องค์ ขาดไป ๒๔ ผู้ที่ไม่ฉัน ๒๔ เรียกว่าพระท้องแห้ง ๒๔ องค์วันนี้ไม่ฉันเลย แต่ท่านจะให้เต็มภายในใจของท่าน ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ ภาวนาสำคัญมากทีเดียว จิตไม่ภาวนามันก่อความยุ่งเหยิงวุ่นวายทั่วโลกดินแดน คือไม่ได้มองดูจิตตัวเป็นมหาเหตุ มันก่อเรื่องก่อราวอยู่ในจิต แสดงออกไปเป็นศาสตราอาวุธ เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กันตลอด ออกไปจากใจดวงเดียวนี้แหละ ใจนี้ไม่มีธรรมเป็นน้ำดับไฟระงับมัน ธรรมคือความสงบร่มเย็น กิเลสคือฟืนคือไฟก่อเผาไหม้ไปหมดทั่วโลกดินแดน ที่ไหนไม่มีสงบเพราะกิเลสอยู่ที่หัวใจโลก หมุนอยู่ที่หัวใจโลก
ยิ่งเป็นผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งหมุนใหญ่ เป็นฟืนเป็นไฟใหญ่โต แม้ทางพุทธศาสนาเราเฉพาะอย่างยิ่งเป็นพระ เป็นพระผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งหมุนหาแต่ความผิด เผาพระทั้งหลายทั่วประเทศไทย เป็นอย่างนั้นนะ ถ้ากิเลสเข้าไปแล้วใหญ่ขนาดไหนก็ใหญ่เถอะ ใหญ่กิเลสทั้งนั้น ใหญ่ฟืนใหญ่ไฟ เรื่องกิเลสไม่ใช่ของดี ตั้งชื่อตั้งนามมันขึ้นเป็นนั้นเป็นนี้ ชั้นนั้นชั้นนี้ ฟาดจนกระทั่งชั้นสมเด็จ เป็นกองไฟทั้งหมดเอามาเผาโลกมีความหมายอะไร ตั้งขึ้นมีความหมายอะไร ลงส่งเสริมกำลังให้มหาโจรปล้นชาติปล้นศาสนา เพราะยศถาบรรดาศักดิ์นั้นแหละ มันยศมันแย็ดอะไรเราก็ไม่รู้นะ เวลานี้เป็นอย่างนั้น เอายศนี้มาเป็นเครื่องประดับแล้วกลายเป็นฟืนเป็นไฟเผากัน
ผู้ใหญ่ๆ ทั้งนั้นแหละก่อความเดือดร้อนเวลานี้ พระก็คือผู้ใหญ่เป็นผู้ก่อความเดือดร้อนมากทีเดียว แทนที่ผู้ใหญ่จะให้ความสงบร่มเย็นแก่ผู้น้อย กลายเป็นผู้ใหญ่ก่อฟืนก่อไฟกองใหญ่ขึ้นไป เรื่องราวหาความสงบไม่ได้ เดี๋ยวก่อเรื่องนี้ขึ้นมา เดี๋ยวก่อเรื่องนั้นขึ้นมา ออกจากผู้ใหญ่ทั้งนั้น พระผู้ใหญ่ มหาโจรผู้ใหญ่ในคราบของพระเวลานี้ กำลังแสดงฤทธิ์แสดงเดชในประเทศไทยของเรา ในวงพุทธศาสนาของเรา เดือดร้อนไปหมดทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทยของเราเวลานี้ นี่ละกิเลสเข้าตรงไหนเป็นไฟเข้าตรงนั้น เอาละให้พร
หลังจังหัน
วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงพระท่านจะมาประชุมกันที่นี่มากอยู่ ผู้ที่จะมาฉันตอนเช้าที่นี่ก็มี มาตามเวลานั่นก็มี แล้วแต่ผู้อยู่ใกล้อยู่ไกลและตามอัธยาศัย ส่วนกำหนดก็บ่ายโมง ประชุมที่ศาลาใหญ่วันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับเรื่องเลอะเทอะนี่แหละ พูดให้ชัดเจนตามอรรถตามธรรม ที่ชำระล้างมานี่ ที่มาประชุมอยู่เรื่อยๆ มีแต่เรื่องชำระล้างสิ่งสกปรกที่พวกตัวสกปรกมันเอามาโปะๆ มีแต่ผู้ใหญ่ๆ ทั้งนั้น ใหญ่อะไรก็ไม่ทราบ ตั้งให้ยศใหญ่เท่าไรยิ่งยุแหย่ก่อกวนทำลายแง่นั้นแง่นี้ น่าสลดสังเวช เด็กเขาก็รู้ ทำไมผู้ใหญ่ไม่รู้นี่ซิ มันตั้งเจตนาหน้าด้านทีเดียว ผู้ใหญ่หน้าด้านคืออย่างนี้เอง อำนาจใหญ่เท่าไรยิ่งเป็นกำลังใหญ่ที่จะทำลาย ไม่ใช่ส่งเสริมนะ
เราก็สงสารพระที่อยู่ในป่า ท่านปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยตลอดมา ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยมีพระป่าจะเคลื่อนไหวออกมาชำระล้างสิ่งเลวร้ายทั้งหลายดังที่เป็นอยู่ในระยะนี้ในเมืองไทยของเรา ท่านตั้งหน้าตั้งตาภาวนาปฏิบัติตามศีลตามธรรม ด้วยความมีหิริโอตตัปปะ ความสะดุ้งกลัวต่อบาปต่อกรรม กระหยิ่มยิ้มย่องต่อคุณงามความดีและบำเพ็ญตนอยู่ในป่าในเขาตามเยี่ยงอย่างของพระพุทธเจ้าที่ทรงพาดำเนินมา แล้วก็อยู่ไม่ได้เพราะฟืนไฟเสี้ยนหนามมูตรคูถมันเข้าโปะในท่ามกลางประเทศไทย ท่ามกลางพุทธศาสนา ท่ามกลางพระเณรผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบให้แตกกระจัดกระจาย อยู่ในป่าก็ต้องได้ออกมาชำระล้างสิ่งเลวร้ายทั้งหลายเหล่านี้ และเรื่อยมานะ เป็นหลายครั้งหลายหน มีตั้งแต่พระป่าที่ท่านทรงศีลทรงธรรมตามหลักธรรมหลักวินัยนั้นแล ออกมาชำระล้าง
พอเรื่องนี้สงบลง เอ้า เรื่องนั้นขึ้นมา เรื่องนี้ขึ้นมา นี่ก็กำลังขึ้นถึงเรื่องอุดม เขาว่าอุดม เจริญ มันอุดม เสื่อม นี่ก็ผู้ใหญ่นั้นแหละ ผู้ใหญ่แบบสกปรกเอาเข้าไปทำงานในสำนักงานพุทธศาสนา คำพูดคำจาไพเราะเพราะพริ้งหยดย้อย ว่าจะเข้าไปทำศาสนาให้เจริญ ครั้นเข้าไปแล้วมีแต่เรื่องทำลายๆ ตรงกันข้ามกับที่ว่าจะทำศาสนาให้เจริญ ทีนี้พระไทยก็ทนอยู่ไม่ได้ มันตรงกันข้ามกับที่ว่าจะทำศาสนาให้เจริญ แสดงออกแง่ใดมีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ศาสนา ก็ต้องได้ขับออกจากสำนักงานพุทธศาสนา ร้อนถึงนายก ทางนั้นก็จะให้ออก ทางนี้ก็ขออยู่ไปจนครบเกษียณ คือวันที่ ๓๐ กันยา ที่ผ่านมาแล้วนี้ ทางโน้นก็อนุโลมให้อยู่จนครบเกษียณ แต่ห้ามไม่ให้ก่อเรื่องก่อราวอะไรขึ้นในระยะที่ยังไม่ครบเกษียณนี้ ก็ยอมรับนั่นแหละ ยอมรับด้วยความนิ่ง มันนิ่งเพื่อจะเผานั่นซี
นี่ยังไม่ครบเกษียณ มันเสือกเข้าไปในมหาเถรสมาคม มส.นั้นแล้ว พูดไพเราะเพราะพริ้งจะไปรับใช้เป็นที่ปรึกษาของมส. คือมหาเถรสมาคมว่างั้น ถูกขับไล่ออกไปเพราะเป็นฟืนเป็นไฟต่อศาสนา แล้วก็พลิกเข้ามานี้อีก ก็ผู้ใหญ่นั้นแหละสั่งเข้ามาส่งเข้ามา ผู้ใหญ่ประเภทใดผู้ใหญ่ประเภทนี้ สมควรจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ฐานะสมณศักดิ์นั้น หรือไม่สมควร มันน่าพิจารณานะ เป็นผู้ใหญ่อย่างนี้แล้วเอาฟืนเอาไฟไสเข้าไป ให้ไอ้นี่แหละเข้าไป พูดไพเราะเพราะพริ้งว่าให้เป็นที่ปรึกษาหารือของมส. ว่างั้น นี่ฟังว่ารับกันแล้ว แล้วเรื่องก็เริ่มขึ้นแล้วนี่ จะประชุมเรื่องเหล่านี้แหละ รับกันแล้ว
พูดตามเหตุผลกลไกแล้ว ก็คนนี้เป็นคนทำความเสียหายต่อศาสนามามากมาย จนกระทั่งพระสงฆ์ไทยทนดูอยู่ไม่ได้ ขับออกจากสำนักงาน แล้วมันก็เอากันเข้ามาในมส.เข้าอีก ใครเป็นคนเอาเข้ามาผู้นั้นผิด ใหญ่ขนาดไหนผิดขนาดนั้นทีเดียว ถ้าพูดตามภาษาของโลกก็เรียกว่า มันสมควรแล้วหรือที่จะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่สมณศักดิ์ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่ แต่มาทำความชั่วช้าลามกด้วยอำนาจแห่งความเป็นผู้ใหญ่ป่าๆ เถื่อนๆ อย่างนี้ มันสมควรจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่เหรอ อะไรที่สมควร ก็ขับลงทะเลโน่น ถอดสมณศักดิ์ ถ้าพูดตามหลัก เพราะมันตั้งหน้าตั้งตาทำลาย ไม่ใช่ไม่รู้นะซึ่งควรจะให้อภัยกัน แก้ทางโน้นดึงทางโน้นมันไสเข้ามาทางนี้ ตัวมหาภัยตัวใหญ่ๆ
เวลานี้กำลังเข้าอยู่ในมหาเถรสมาคม มส. ผู้ที่ส่งเข้ามาก็เป็นผู้ผิดอันดับหนึ่ง ผู้เข้ามาก็ผิดอยู่แล้ว ถูกสาปแช่งไปแล้ว แล้วเข้ามามหาเถรสมาคม ถ้ามหาเถรสมาคมรับไว้มหาเถรสมาคมก็เป็นมหาโจร จะเป็นอื่นไปไม่ได้ เพราะมหาเถรสมาคมก็เป็นที่ไว้วางใจของสังฆมณฑล เป็นที่ปรึกษาหารือด้วยความเป็นอรรถเป็นธรรม นี้เอามหาโจร เอามหาภัยเข้ามาไว้ทำไมในมส.นี่ ความสามารถในมหาเถรสมาคมไม่มีหรือถึงเอาคนประเภทนี้เข้ามา เข้ามาก็มาทำลายแบบเดียวกันแหละ ดังที่เคยทำลายมาแล้วๆ โดยลำดับ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ต้องมาทำลาย นี่ละที่พระสงฆ์ท่านเดือดร้อน อยู่ในป่าในเขาก็ต้องออกมาชำระล้างกันในเรื่องอันนี้ ชี้แจงเหตุผลต้นปลายทุกอย่าง อันนี้ละกำลังเวลานี้
มันน่าทุเรศไหม ใหญ่เท่าไรยิ่งหน้าด้านมากนะ หาเรื่องหาราวเผาอยู่ตลอดเวลา ใหญ่เท่าไรยิ่งหาเผาในที่สำคัญๆ บงการออกมาจากผู้ใหญ่ๆ ปากเหม็น ใจสกปรก ใจเป็นฟืนเป็นไฟ ใจเป็นส้วมเป็นถาน กระจายออกมาที่ไหนเหม็นคลุ้งไปหมดทั่วประเทศไทยและสังฆมณฑลเวลานี้ มีแต่พวกใจเหม็นปากเหม็นทั้งนั้น อำนาจใหญ่ๆ ใหญ่ซิกองขี้ใหญ่ มันเป็นอย่างนั้นนะเวลานี้ นี่เราพูดตามภาษาธรรมพูดอย่างนี้ เรียนมาเหมือนกันรู้เหมือนกันผิดถูกชั่วดี แล้วเอาเข้ามาทำไมถ้าไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาหน้าด้านเผาชาติเผาศาสนาเท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่น เพราะทราบกันทั่วแล้ว ทำไมผู้ใหญ่ที่ว่าใหญ่ๆ นั้นส่งเข้ามาทำไม ผู้ใหญ่นี้ผิด ผิดใหญ่สมตัวผู้ใหญ่ ถ้าเป็นภาษาหลวงตาบัวแล้วก็ว่า เอาไว้ทำไม ว่างั้นเลย เฉดลงทะเลนู่น เป็นภาษาพูดธรรมดาเรา ถ้าพูดภาษาตำแหน่งหน้าที่เหตุผล เขาก็ว่ากันไปตามเรื่องตามราวโดยลำดับลำดา ถ้าพูดชาวบ้านก็ว่า เอาไว้ทำไมไอ้นี่ ตัวเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้มาตลอด เอาไว้ทำไม
ถ้าไม่อยากให้เผาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องเอาออก ถ้ามียศถาบรรดาศักดิ์ ต้องลดลง ถอดจากตำแหน่ง ฐานะเช่นใด ไม่สมควรจะมาอยู่ในสถานที่เป็นมงคลต่อชาติ ขับออกอย่างนั้นถึงถูก ภาษาชาวบ้านเขาเขาพูดอย่างนั้น แต่ภาษาวงราชการงานเมืองท่านจะปฏิบัติไปยังไงไม่ทราบ ภาษาธรรมวินัยนั้นรู้ชัด ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก อยู่อย่างนี้ นี่เราพูดตามภาษาธรรมวินัย แยกออกมาเป็นภาษาชาวบ้าน เราก็พูดตามภาษาชาวบ้าน เพราะเราพูดเหล่านี้เราก็ไม่ได้ไปไล่เขา เราไม่ได้ไปถอดยศเขาใช่ไหม เราพูดเฉยๆ จึงว่าภาษาชาวบ้าน มันเป็นอย่างนี้นะเวลานี้ มันเลวขนาดนั้นนะ เป็นมหาโจรท่ามกลางศาสนา เป็นผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งเป็นหัวหน้ามหาโจรอย่างใหญ่หลวง แสดงออกอย่างออกหน้าออกตาหน้าด้านที่สุดเลย
นี่ละที่ได้มาประชุมชำระกันเรื่อยๆ ก็เอาหลักเหตุผลเป็นเครื่องประกันนี่นะ ชำระทีไรก็เหตุผลเหนือกว่าๆ มันก็พังลงไป ตั้งขึ้นมาใหม่อยู่อย่างนี้ นี่ก็กำลังจะต้องได้พิจารณากันต่อไปนี้ ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านก็จะประชุมกันหาอะไร ขับมันลงทะเลนู่น มันมียศกี่ยศถอดออกให้หมด มันทำหน้าที่การงานอะไรขับหนีออกหมด ไม่ใช่หน้าที่การงานของผู้สกปรกอย่างนี้ งานการเหล่านี้เป็นงานการที่มีศักดิ์ศรีดีงามต่อชาติต่อศาสนา เอาคนสกปรกเอาคนเลวร้ายมาทำงาน มาบีบบังคับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นของสะอาดได้ยังไง ขับออกถ้าเป็นภาษาชาวบ้าน ออกตามเหตุตามผลอย่างนี้
แต่ภาษากฎเกณฑ์หรือภาษากฎระเบียบ ตามข้อบังคับหรือระเบียบต่างๆ นั้น ท่านจะว่าอะไรก็แล้วแต่ท่าน แต่ภาษาชาวบ้าน เพราะหลวงตาบัวเป็นลูกชาวบ้าน หลวงตาบัวก็พูดแบบภาษาชาวบ้าน ขับออกหนีเอาไว้ทำไม มันมีกี่ยศ ร้อยยศพันยศถอดออกให้หมด คนเป็นเสนียดจัญไรเป็นมหาภัยต่อชาติเอาไว้ทำไม หน้าที่ที่มันกดขี่บังคับชาตบ้านเมืองนี้ปัดออก อย่าให้มาทำมันสกปรก คนสกปรกไปทำงานเพื่อความสะอาดของชาติเป็นไปไมได้ว่างั้นเลย นี่เป็นภาษาของชาวบ้าน ภาษาของหลวงตาบัวที่พูดธรรมดาๆ เราพูดอย่างนี้
ภาษาของทางการบ้านเมืองท่าจะพิจารณาอะไรเป็นเรื่องของท่าน เราไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เช่นเราว่าขับออกอย่างนี้เราก็ไม่ได้ขับ เพราะภาษาชาวบ้าน ถอดยศเหล่านี้หลวงตาก็ไม่ได้ไปถอด หลวงตาพูดเฉยๆ เข้าใจไหม ขับมันลงทะเลคนสกปรกนี้ หลวงตาก็ไม่ได้ขับ พูดเฉยๆ จึงเรียกภาษาชาวบ้าน ภาษาหลวงตาบัว พูดเฉยๆ ไม่ทำ ถอดเฉยๆ แต่ปากแต่ไม่ได้ถอดยศ แต่ทางการบ้านเมืองท่านจะทำยังไง ต้องมีเหตุผลสิ่งเหล่านี้น่ะ เรามันเป็นชาวบ้าน พระชาวบ้าน ลูกชาวบ้าน เราก็พูดตามภาษาชาวบ้านอย่างนี้เอง เอาพักไว้เสียก่อน มีอะไรอีกว่ามา
ผู้กำกับ หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม
เพียงแค่ศีล ๕ ยังถือกันไม่ได้
เมื่อค่ำคืนของวันที่ ๒๙ กันยายน รายการธรรมะทางสถานีวิทยุกระจายเสียงที่จัดรายการโดยพระไทยชื่อเขมรรูปหนึ่ง ได้กล่าวพาดพิงถึงผู้เขียน และสำนักข่าวพิมพ์ไทยในทำนองเสียๆ หายๆ ทำนองว่า เขียนข่าวให้ขาวกลับเป็นดำ เขียนดำให้เป็นขาว เชื่อถือไม่ได้ ในรายการนี้ได้เชิญ พล.ต.ท.อุดม เจริญ อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ เข้าร่วมแจมในรายการด้วย
สับปลับสุดเหลือจะกล่าว ทุศีลอย่างน่าละอายไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจิตใจถึงมีอคติต่อ พิมพ์ไทยถึงขนาดนี้?
เมื่อได้มาพิจารณาถึงมูลเหตุที่ต้องผูกใจเจ็บก็เห็นจะไม่ใช่เรื่องอื่น ด้วยผู้เขียนเคยตีแผ่ความลับของพระรูปหนึ่ง ที่ไปพูดปลุกระดมให้บรรดาญาติโยมผู้เป็นอุบาสกอุบาสิกาเกิดอาการโกรธกริ้วจนสติแตก จึงพากันใช้ด้ามธงธรรมจักร ซึ่งเป็นเครื่องหมายของพระพุทธศาสนาฟาดหัวสาธุชนชาวพุทธด้วยกัน
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งผู้เขียนได้เข้าไปเห็นเหตุการณ์ด้วยตาตนเองทั้งหมด มีการบันทึกภาพเอาไว้ด้วย ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเทปซึ่งบันทึกไว้ทั้งภาพและเสียง
ผู้เขียนได้เขียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสัตย์ ลงในพื้นที่คอลัมน์นี้ ๓ วัน แต่ไม่ได้เขียนเจาะจงไปว่าพระรูปนี้หรือรูปไหนๆ ที่พูดปลุกระดมให้คนชาวพุทธทำร้ายคนชาวพุทธด้วยกันเอง ซึ่งต่อมาพระไทยชื่อเขมรรูปนี้ได้ร้องขอมาทางผู้เขียนว่า ขอให้ปรับการเขียนเสียใหม่ ถ้ายังไม่ปรับก็จะไม่รับรองความปลอดภัย ด้วยความเคารพ ผู้เขียนจึงรับปากและจากนั้นก็ไม่เคยเขียนอะไรให้ไปกระทบกระทั่งกับพระไทยชื่อเขมรรูปนี้อีก
แต่ท่านเองกลับเสียสัจจะ ขาดสัมมาวาจา ขาดวาจาชอบใจชอบ และขาดความประพฤติชอบเยี่ยงพระภิกษุผู้มีศีลทั้งหลายพึงจะมี ดังพิสูจน์ได้จากการพูดจาจาบจ้วงออกทางสถานีวิทยุกระจายเสียง ในค่ำคืนดังกล่าว
ถ้าจะให้เขียนใหม่อีกรอบ เพื่อให้ขาวเป็นขาว ดังที่ท่านว่าผู้เขียนก็จะเขียนประกอบหลักฐานให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นจะจะ กับสายตาอีกสักครั้ง
ถามว่าจะเอาไหม จะเอาอีกรอบหนึ่งไหม??
เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พระสายวัดป่าศิษย์ของหลวงตาพระมหาบัว ประมาณ ๓๐ รูป เดินทางเข้าไปยังวัดสระเกศ เพื่อต้องการจะขอทราบความจริงกรณีที่มีข่าวว่า มส.มีมติแต่งตั้ง พล.ต.ท.อุดม เจริญ ให้เป็นที่ปรึกษา มส.หลังเกษียณอายุราชการ เนื่องจากเมื่อ ๒-๓ วันที่ผ่านมา พระคุณเจ้าได้เข้าไปขอคัดสำเนามติ มส.เรื่องการแต่งตั้งดังกล่าวที่สำนักงานพระพุทธฯ
แต่ถูกเจ้าหน้าที่สำนักมหาเถรปฏิเสธที่จะถ่ายสำเนาให้ ไม่ยอมแม้จะให้ดูมติ
กล้าตอบไหมล่ะครับว่าเรื่องนี้ไม่มีการหมกเม็ด??
พระป่าที่เข้าไปในวัดสระเกศ ต่างได้รับคำก่นด่าจากคณะญาติโยมของวัดสระเกศอย่างเสียๆ หายๆ มีญาติโยมท่านหนึ่งตะโกนดังๆ ว่า ไอ้พระหน้า...(หว่างขา) ไอ้พวกพระรับจ้างพวกกูไม่นับถือ ได้แฉกันให้เห็นแล้วว่าหลวงตาจ่ายเช็คค่าจ้างให้พวกมันเดินทางมาก่อม็อบ
เรื่องนี้เกิดจากฝีมือใคร? ใครคือผู้นำเช็คของขวัญไปแฉความเท็จในที่ประชุมมหาเถรสมาคม คนที่ว่าขาวให้เป็นขาวจะกล้าออกมารับหรือไม่ล่ะว่า ตัวกูนี่แหละคือผู้ขนความเท็จไปถวายในที่ประชุม
เหตุการณ์ที่วัดสระเกศในวันนั้น พระแทบจะชกกับพระ โยมแทบจะตะบันหน้ากับโยม พระวัดสระเกศก็ใช่เบา บางรูปถึงกับพูดใส่หน้าโยมผู้มีอุปการะต่อวัดสระเกศว่า ถ้าพระจะต่อยกับพระคุณว่าจะผิดไหม
กิริยาท่าทางของพระวัดสระเกศที่ออกมายืนกันอยู่เป็นกลุ่มนั้น แทบไม่มีรูปไหนเลยที่จะแสดงความเป็นมิตรต่อพระด้วยกัน
ใครวะที่ทำให้ชาวพุทธทะเลาะกัน??
ณ.หนูแก้ว
หลวงตา ฟังด้วยกันแล้วเราไม่พูดละ ภาษาชาวบ้านเราก็พูดออกแล้ว เรื่องของเราเป็นชาวบ้าน นอกสภาเราก็พูดออกแล้ว อันนี้ในสภาก็แล้วแต่จะพูดกันไป
นี่ละของปลอม มันเอาแต่ความโหดร้ายทารุณเข้ามาแก้ ก็เท่ากับเอามูตรเอาคูถเข้าไปโปะให้สกปรกยิ่งขึ้นอย่างนี้ละ เหล่านี้เป็นกิริยาการแสดงออกของอันธพาลทั้งนั้น ไม่ใช่ของผู้มีสมบัติผู้ดีเพื่อศีลเพื่อธรรม เพื่อความสงบร่มเย็นจากเหตุผลซึ่งปรึกษาปรารภซึ่งกันและกันเลย มีแต่เรื่องมหาโจรมหามารแสดงอยู่อย่างนี้ ท่านทั้งหลายก็ฟังด้วยกันแล้ว เราเป็นภาษาชาวบ้านก็พูดไปแล้วเข้าใจแล้วเหรอ
ความดีมีให้ปฏิบัติตามความดี อย่าปฏิบัติตามความเลว ความเลวนั้นเขามีผู้รับผิดชอบต่างหาก มีกฎหมายบ้านเมือง เรื่องศีลเรื่องธรรมเป็นเรื่องของเราที่จะพูดเพื่อความสงบร่มเย็นต่อกัน เราพูดเรื่องศีลเรื่องธรรมเรื่องความดีงาม ปฏิบัติตนด้วยความดีงามเท่านั้นเป็นความถูกต้องของคนดีพระดี ให้นำไปปฏิบัติ เรื่องอย่างนั้นเป็นเรื่องที่เคยมีมาแล้ว
กฎหมายบ้านเมืองเขามี เป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเราอย่างนั้น ถ้าสมมุติว่าพระที่ว่าอวดเก่งๆ นั้นมาตีพระเข้าไปดูซิน่ะ หรือมาฆ่าพระในนั้นดูซิ เรื่องจะเกิดขึ้นไหม กฎหมายจะมาทันที เขาจะมัดคอไปเลยเขาไม่ต้องหาใครละ นั่นคือกฎหมาย อันนั้นเขามี เราพูดของเราตามเรื่องศีลธรรมไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับกฎหมาย กฎหมายมอบให้เป็นเรื่องบ้านเมืองเขาไป เรื่องศีลธรรมเป็นเรื่องของผู้ดีทั้งหลายทั่วๆ ไปที่จะนำออกปฏิบัติและแสดงต่อกัน จะเป็นความสงบร่มเย็นต่อชาติไทยของเรา เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องความสงบ เป็นเรื่องความแตกร้าว เป็นเรื่องความทำลายชาติไทยของเรา รวมทั้งศาสนาอยู่ในนี้เป็นหัวใจของชาติ นี่จะทำหัวใจของชาติตลอดถึงพระมหากษัตริย์กระเทือนทั่วประเทศไทยให้แตกกระจัดกระจายไปหมด ไม่ใช่เป็นเรื่องของดีที่นำมาแสดงนี้ ให้พากันเข้าใจเอาไว้ อย่าไปส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้มีกำลังมากขึ้น ชาติไทยจะจม ศาสนาจะจม พระมหากษัตริย์ก็จะจมไปด้วย
เราเป็นผู้ประคับประคองชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องเป็นผู้ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม ส่วนกฎหมายบ้านเมืองมีอยู่แล้ว ผู้ที่รักษากฎหมายบ้านเมืองเขามี เป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเราพูดกันโดยเหตุโดยอรรถโดยธรรมเท่านั้นเอง พากันเข้าใจเอานะ เท่านั้นละ ต่อไปนี้ให้พร
ให้พากันภาวนานะ ทางภายในก็ดี อยู่ภายในก็ดี ข้างนอกก็ดีให้พากันภาวนา ทำความสงบใจตัวเป็นมหาเหตุก่อเรื่องราว ทั้งเราทั้งเขาก่ออยู่ด้วยกัน ไม่ก่ออย่างนั้นก็ก่ออย่างนี้อยู่ในตัวนั้นแหละ ให้ระงับดูใจตัวเองตัวมันดีดมันดิ้น ถ้ามันดิ้นมากๆ ให้เอาพุทโธบีบมันไว้ สติบีบมันไว้ มันจะไม่ดีด กิเลสจะหนาแน่นขนาดไหนก็ตาม สติเป็นของสำคัญ ถ้าลงสติบีบไม่ให้มันคิดปรุงในเรื่องไม่ดีแล้วมันจะคิดไม่ได้ บังคับไว้ในนั้น ขังไว้ในนั้นด้วยพุทโธปิดเอาไว้ สติปิดเอาไว้มันจะออกไม่ได้เลย ต่อไปมันจะอ่อนภายใน สติธรรม ปัญญาธรรม ความสงบร่มเย็นจะปรากฏขึ้นเหยียบหัวมัน
โลกคือหัวใจเรานี้ ที่เป็นโลกล้วนๆ ด้วยอำนาจของกิเลสนี้จะค่อยสงบตัวลงๆ พากันไปปฏิบัตินะ ให้บีบบังคับด้วยสติ มันจะคิดอะไรไม่ดีเอาสติจับเข้าไป ไม่ยอมให้มันคิดเรื่องนี้มันจะคิดไปไม่ได้ นี่ปฏิบัติมาแล้วที่มาสอนพี่น้องทั้งหลาย ศาสนาท่านก็สอนไว้กลางๆ เรานำมาปฏิบัติได้เห็นผลในตัวของเราแล้ว เป็นจริงๆ แล้วนำมาสอนพี่น้องทั้งหลายให้จำเอาให้ดี เวลากิเลสมันผาดโผน สติปัญญาต้องผาดโผน เอากันให้หนักทีเดียว มันจะพ้นสติปัญญาไปไม่ได้ กิเลสจะกองเท่าภูเขาสู้สติปัญญาไม่ได้ สติปัญญาจะเหยียบมันลงทันทีเลย เท่านั้นละ ทีนี้จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |