พระอันธพาล
วันที่ 3 ตุลาคม 2547 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

พระอันธพาล

 

         ผู้กำกับ จากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย วันที่ ๓ ต.ค.๔๗ เสนอข่าวว่า พระวัดป่ากว่า ๓๐ รูปบุกวัดสระเกศ หาต้นตอตั้ง “อุดม” เป็นที่ปรึกษามส. หวิดปะทะกับพระลูกวัดสมเด็จฯ พระเลขาต้องรุดเข้าประสานแผลได้ผลเกินคาด

กรณีการออกข่าวมหาเถรสมาคมมีมติแต่งตั้ง พล.ต.ท.อุดม เจริญ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้เป็นที่ปรึกษามส. หลังเกษียณอายุราชการ ทำท่าจะกลายเป็นเหตุร้าวฉานแก่วงการคณะสงฆ์ครั้งใหม่ หลังจากที่พระระดับแกนนำสายวัดป่าจำนวน ๑๐ รูป เดินทางเข้าขอคัดสำเนามติมส.เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แต่กลับมีการปกปิดไม่ยอมคัดให้ แม้จะขอดูก็ไม่ยอมให้ดู โดยอ้างต้องได้รับอนุมัติจากผู้ใหญ่เท่านั้น ซึ่งได้สร้างความฉงนใจแก่คณะสงฆ์วัดป่าเป็นอย่างมาก ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา ๙.๐๐ น. วานนี้ (๓๐ ก.ย.) พระสายวัดป่าประกอบด้วยพระครูอรรถกิจนันทคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร พระอธิการจิรวัฒน์ อตฺตรกฺโข เจ้าอาวาสวัดเสลี่ยงแห้ง จ.เพชรบูรณ์ พระอาจารย์ณรงค์ อาจาโร เจ้าอาวาสวัดป่ากกสะทอน จ.อุดรธานี พร้อมคณะประมาณ ๓๐ รูป ได้เดินทางเข้าไปยังวัดสระเกศ เพื่อต้องการเข้าพบกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาส ผู้ทำหน้าที่ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมื่อเดินไปเข้าไปยังตำหนักที่พำนัก ปรากฏว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้เดินทางออกไปปฏิบัติศาสนกิจภายนอก

ทั้งหมดจึงหารือกันเข้าขอพบกับพระเทพสิริภิมณฑ์ (ธงชัย สุขญาโณ) เลขานุการสมเด็จพระพุฒาจารย์ ที่บริเวณหน้าสำนักงานกลาง วัดสระเกศ โดยแจ้งความประสงค์ว่าต้องการยื่นหนังสือ เรื่อง ขอทราบความจริงกรณีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.อุดม เป็นที่ปรึกษามหาเถรสมาคม หลังเกษียณอายุราชการ แต่เนื่องจากพระเลขาฯยังติดฉันเพลอยู่ภายในกุฏิ พระลูกวัดรูปหนึ่งจึงออกมาทำหน้าที่ประสานงานแทน แต่กลับไม่ยอมรับเรื่อง โดยอ้างว่าหนังสือดังกล่าวทำมาโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบราชการ จึงเซ็นรับให้ไม่ได้ พร้อมกับขอร้องให้พระวัดป่าทั้งหมดออกไปจากวัด แต่พระวัดป่าทั้งหมดไม่ยอมกลับ โดยอ้างว่าต้องการขอพบกับพระเลขานุการก่อน เพื่อจะทำความเข้าใจกับเรื่องที่เดินทางเข้ามาขอพบ

จากนั้นได้มีคณะญาติโยมข้างวัดและลูกศิษย์วัดประมาณ ๔๐ คนได้ทยอยเข้ามารวมตัวกัน แล้วตรงเข้าต่อว่าต่อขานด้วยถ้อยคำหยาบคายกับพระสงฆ์วัดป่า ทางด้านพระลูกวัดสระเกศอีกประมาณ ๑๐ กว่ารูปก็ออกมารวมตัวอยู่ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับแสดงท่าทีไม่พอใจต่อพระสายวัดป่า มีบางรูปถึงกับพูดกับญาติโยมคนหนึ่งว่า “ถ้าพระต่อยพระแล้วจะผิดไหม” ทำให้บรรยากาศบริเวณหน้าสำนักงานกลางเกิดความตึงเครียดตลอดเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.สำราญราษฎร์และจากบก.บชน.ประมาณ ๑๐ กว่านายเข้ามาคอยห้ามปราม จนกระทั่งเวลา ๑๐.๓๐ น. พระเทพสิริภิมณฑ์ จึงออกมาเชื้อเชิญให้พระครูอรรถกิจนันทคุณเข้าไปพบบนอาคารศาลาจรุธินี

หลังจากใช้เวลาเข้าพบประมาณ ๒๐ นาที พระครูอรรถกิจนันทคุณจึงกลับออกมา โดยพระเทพสิริภิมณฑ์ได้เชิญให้พระวัดป่าทั้งหมดร่วมถ่ายรูปด้วยกัน พร้อมกับกล่าวว่า การได้มีโอกาสปรึกษาหารือกับพระวัดป่าในวันนี้ทำให้เข้าใจอะไรๆ ดีขึ้นมาก ซึ่งก็ได้แนะนำไปว่าหากคณะสงฆ์วัดป่ามีปัญหาอะไรอีก ก็สามารถติดต่อมาได้ทันที หรือถ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่เข้าใจก็มาปรึกษาหารือกันได้ แต่ก็ไม่ควรมากันมากๆ อย่างนี้ ส่วนกรณีหนังสือที่รับมาก็ยังไม่ได้อ่านโดยละเอียด จึงยังให้คำตอบอะไรไม่ได้

ด้านพระครูอรรถกิจนันทคุณกล่าวว่า การได้เข้าพบกับพระเลขาฯของสมเด็จพระพุฒาจารย์ในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ท่านรับฟังปัญหาของเราเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรที่เป็นปัญหาอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ได้ลงนามรับหนังสือตามที่เราต้องการ แต่เราก็ถือว่าเราให้เกียรติต่อกันและกัน เมื่อท่านรับไปแล้วท่านก็คงจะทราบถึงปัญหาที่แท้จริงว่า ทำไมเราถึงต้องออกมาทักท้วงการแต่งตั้ง พล.ต.ท.อุดม ให้เป็นที่ปรึกษามส. ทั้งๆ ที่ในกฎหมายสงฆ์ว่าด้วยมหาเถรสมาคม ก็ไม่มีมาตราใดหรือวรรคใดตราไว้ให้แต่งตั้งได้ นอกจากสมเด็จพระสังฆราชจะทรงแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๙ เท่านั้น ไม่ใช่แต่งตั้งเฉพาะตัวบุคคลเช่นนี้

“หลวงตาท่านก็ต้องการให้เข้าใจกันอย่างนี้ ท่านไม่ต้องการให้เกิดการแตกหักกันเหมือนอย่างที่หลายๆ คนยังไม่เข้าใจ การแต่งตั้งในครั้งนี้คลุมเครือเป็นอย่างมาก เราต้องการจะทราบความจริงว่า มส.มีมติแต่งตั้งจริงหรือไม่ หรือใครเป็นผู้เสนอให้แต่งตั้ง เราเข้าไปถามแล้วก็ไม่บอกความจริงแก่เรา เรื่องของเราเป็นเรื่องของพระ เราเข้ามาถามด้วยความสงบ เราไม่ได้เข้ามาประท้วงวุ่นวายอะไร คนที่ไม่รู้เรื่องพระต่างหากที่เข้ามาก่อให้เกิดความสับสน” พระครูอรรถกิจนันทคุณ กล่าว

หลวงตา ถูกต้องแล้วที่พูดนี่ อธิบายชัดเจนแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรพูดอีก ท่านก็พูดมีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรสงสัย หรือจะขัดแย้งออกมาพูดระยะนี้ไม่มี ท่านพูดก็ถูกต้องแล้ว ไหนที่ว่าพระต่อยมวย ว่าไงตรงนั้น (ผู้กำกับ อ่านซ้ำข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ว่า ถ้าพระต่อยพระแล้วจะผิดไหม) มันผิดตั้งแต่มันถามขึ้นมาโน่นน่ะ จะถึงกับต่อยอะไร ก็พระไม่ใช่แชมเปี้ยนนี่นะ ถ้าเป็นแชมเปี้ยนจริงๆ ให้ขึ้นเวทีไป สถานที่นี่ไม่ใช่สถานที่ต่อยมวย เป็นสถานที่ให้ความสงบร่มเย็นแก่โลกต่างหาก ไม่ใช่เวทีมวย เท่านั้นละ

มันยิ่งหยาบเข้าไปทุกวันๆ เลวเข้าไปทุกวัน แสดงออกมาเหล่านี้ฟังก็รู้กัน พวกอันธพาล เวลานี้อันธพาลในพระเรากำลังเริ่มกระจายออก แผ่อำนาจป่าเถื่อนมาให้ผู้ดีทั้งหลายได้ดูกันทั่วประเทศไทย ดีไม่ดีดูกันทั่วโลก พระวางลวดลายต่อยหมัดต่อยมวยไม่เคยมี ก็ได้เห็นแล้วคราวนี้ เอา เราคอยดูเหตุการณ์ไป ตาคนทั้งนั้น หูคน ใจคน ดูกันดูออกทั้งนั้น ผิดถูกชั่วดีรู้ มีกฎเกณฑ์ถูกต้องดีงามไว้สำหรับก้าวเดินเข้าไปหา ใครผิดใครถูกก็รู้

(ลูกศิษย์เห็นว่าตัวบ่างช่างยุไม่อยู่แล้วอะไรๆ ก็คงจะดีขึ้นละครับ บ่างช่างยุก็ อุดม เสื่อม ละครับ) ก็เดี๋ยวนี้ไล่มันไม่ใช่เหรอ ไอ้นี้ก็ตัวแสบก็บอกแล้วจะให้ว่าอะไรอีก ตัวแสบ ตัวทำลายชาติ ศาสนา อยู่ในจุดเดียวกันหมด ก็ไม่มีใครโต้ใครตอบ มีธรรมอันเดียวคือเรานำธรรมออกพูด พูดได้อย่างจะแจ้งเลยเทียว ไม่มีการสะทกสะท้านกับสิ่งใด ในสามแดนโลกธาตุนี้เราไม่มี เรานำธรรมพระพุทธเจ้ามาพูด ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูกตลอดไปอย่างนี้ ตัวแสบนี่ไปที่ไหนแตกทีเดียว ไอ้ตัวนี้ไม่มีคำว่าประสาน มีแต่ยุแหย่ก่อกวน ทำลายด้วยอำนาจป่าเถื่อนของมันนั่นแหละ แล้วมันจะเข้าไปอยู่ในวงสังฆมณฑลนี้ก็เป็นมหาโจรใหญ่เลย ที่มส.(มหาเถรสมาคม) กลายเป็นมหาโจรใหญ่ขึ้นในมส.นั้นทันทีทีเดียว พระสงฆ์ทั่วประเทศไทยไม่มีความเคารพนับถือ ดีไม่ดีจะย้อนศรกันด้วย อาจจะฟ้องร้องกันก็ได้ถ้าถึงขั้นจะฟ้องร้องกัน มันหนักเข้าไปก็ต้องมีหนักเข้าไปนั่นแหละจะว่าไง

ความผิดความถูกรู้กันอยู่ทุกคน มาพูดทำไมป่าๆ เถื่อนๆ ไม่ใช่สัตว์นี่นะ พระด้วย หัวโล้นๆ ด้วย มาพูดทำไม มาแสดงทำไม สิ่งที่หยาบโลนซึ่งโลกเขาไม่ต้องการ เขาน้อมเข้ามาหาพระกราบไหว้บูชาเพื่ออรรถเพื่อธรรมต่างหาก เขาไม่ได้กราบไหว้บูชาพวกเวทีมวยพวกป่าเถื่อนอย่างนี้นี่นะ มันเลวขึ้นไปทุกวันๆ นั่นแหละทุกวันนี้ พระพาให้เลวเวลานี้ ดูเอาพระอันธพาล พระมหาโจรดูเอา ในเมืองไทยเรานี้ดู ผู้ดีก็มี ผู้ชั่วก็มี ดูทั้งสองอย่างซิ วัดกันซิ เวลานี้กำลังแสดงอันธพาลขึ้นมาในวงแห่งพุทธศาสนาและประเทศไทยทั้งประเทศเลย ให้ได้เห็นทั่วหน้ากัน

เวลานี้พระกำลังเลวร้ายมากที่สุดเลย เลวร้ายขึ้นไปทุกวันๆ ให้โลกได้กราบไหว้พระที่เลวร้ายเคยมีที่ไหน มีแต่ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ผู้สิ้นกิเลสแล้วทั้งนั้นที่ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ รองลงมาก็ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่ได้กราบไหว้บูชาพระอันธพาล พระมหาโจร พระก่อกวนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างนี้ ไม่มีใครกราบ แสดงมาเท่าไรก็ยิ่งแสดงความเลวร้ายของตัวเองออกไปหนักเข้าทุกทีๆ นั่นแหละ

ที่จะให้ได้ดิบได้ดี ปรากฏชื่อลือนามให้โลกทั้งหลายกราบไหว้ เพราะความเลวทรามที่แสดงออกอยู่เวลานี้ของพระสงฆ์เรานี้ไม่มีทาง แสดงออกเท่าไรยิ่งเลวร้ายเข้าไปทุกวันๆ ถ้าเป็นจิตใจของพระเข้ามาแทรกบ้างแล้ว ควรจะระงับดับสิ่งเลวร้ายทั้งหลายนี้ลงจากเพศของพระ อย่าไปเหยียบหัวพระพุทธเจ้า เหยียบหัวพระธรรม พระสงฆ์ ต่อหน้าต่อตาคนทั้งประเทศซึ่งเป็นชาวพุทธด้วยกัน มันน่าสลดสังเวชมากทีเดียวพระเหยียบหัวพระพุทธเจ้า ด้วยการข้ามเกินหลักธรรมวินัย เหยียบหลักธรรมหลักวินัยไปหมด หลักธรรมวินัยนั้นแลเป็นศาสดาของพุทธบริษัททั้งหลายแทนเราตถาคต ท่านบอกไว้แล้ว เมื่อเราตายไปแล้ว ธรรมวินัยนั้นแลเป็นศาสดา

เวลานี้กำลังเหยียบหัวพระพุทธเจ้าคือธรรมวินัยอยู่ แล้วเป็นยังไง ใครจะกราบไหว้ได้ลงคอ ความดีความชั่ว คนดีคนชั่ว พระดีพระชั่ว มีอยู่ในโลก ให้คัดให้เลือกเอามาปฏิบัติเป็นคติเครื่องเตือนใจตัวเอง ชั่วก็เป็นคติอันหนึ่งที่จะนำมาพินิจพิจารณา ดีก็เป็นคติเตือนใจอันหนึ่งที่จะนำมาเป็นประโยชน์ ชั่วก็พิจารณาเพื่อแก้เพื่อถอดเพื่อถอน ปลดเปลื้องออกไป สิ่งเหล่านี้อย่าให้มีในตัวของเราและส่วนรวม ไม่ใช่ของดี ให้ต่างคนต่างปฏิบัติให้ดี ศีลธรรมมีอยู่ ของดีมีอยู่ ไม่มีแต่ของชั่วของเลวดังที่ประกาศอยู่เวลานี้ ของดียังมีให้เลือกเอานะ ถ้าไปตามความเลวจะเลวกันทั้งประเทศดูไม่ได้เลย ยิ่งกว่าหมาไปอีก คนเลวมันเลวกว่าหมานะ หมาเลวไม่เป็นไร แต่คนเลวนี้เลวกว่าหมา อย่านำวิชาหมา กิริยาของหมามาใช้ในวงมนุษย์ เฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นชาวพุทธ ดูไม่ได้เลยนะ วันนี้เอาเท่านั้นละ ให้พร

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก