เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
ฆราวาสปกครองพระ
ภูวัวตั้งแต่สมัยที่ท่านอุทัยอยู่นี้มีสององค์สามองค์เท่านั้น มากกว่านั้นไม่ได้เพราะไม่มีที่โคจรบิณฑบาต ก็มีชาวบ้านปลูกอยู่นั้นสองสามหลังคาเรือนจนๆ ท่านก็อุตส่าห์อยู่นั้นนะท่านอุทัย แรกๆ ท่านอาจารย์ฝั้นท่านมาพักที่นั่น ก็ไม่ได้นานแหละแต่ท่านมาพัก ท่านอุทัยก็เลยไปอยู่ที่นั่น ทำเลภาวนานี้เหมาะสมมากทีเดียว แต่ที่โคจรบิณฑบาตไม่มี มีบ้านสองสามหลังคาเรือนก็เป็นคนจน ท่านก็ทนอยู่ เขาก็ทนให้ ทนให้ทาน เขาก็จน ท่านก็จน เราก็ฟังอยู่ จะถือโอกาสไปเมื่อไรก็ยังไม่มีโอกาส พอได้โอกาสปั๊บก็ไปเลย ลงรถแล้วเข้าเลยเข้าไปดูทำเล
แต่ก่อนยังหนุ่มน้อย พอลงรถแล้วก็เข้าไปดูหมดเลย โอ๊ย กว้างขวางมาก ทำเลนี้เรียกว่าเลือกได้ตามต้องการเลย จะเอาชนิดไหน กลางคืนนี้ก็เป็นหินดานกลางแจ้ง เดินจงกรมก็ได้สะดวกสบายกลางคืน กลางวันก็อยู่ในร่มไม้ในป่า เลือกได้ตามต้องการ เราไปเที่ยวดูหมด ที่ไหนก็ทำเลเหมาะๆ เหมือนกันหมดเลย พอกลับมาก็บอกท่านอุทัยเลย บอกเลยว่าตั้งแต่นี้ต่อไปท่านจะรับพระสักเท่าไรให้รับได้เลย ผมไปดูทำเลนี้เหมาะสมมากกับการภาวนาของพระ ผู้เสาะแสวงหาอรรถหาธรรมจริงๆ แล้วเหมาะสมมาก ตั้งแต่นี้ต่อไปท่านจะให้พระมาอยู่ที่นี้มากน้อยเพียงไรให้มาเลย ไม่ได้กำหนด ให้มาเลย พระที่ตั้งใจภาวนาจริงๆ ให้มา เราจะรับเลี้ยงทั้งหมด เราบอก
ถ้าพระโกโรโกโสให้ไล่ลงภูเขาให้หมดอย่าให้อยู่ หนักภูเขา เราว่า ผู้ดี เอา ให้มา บอกตรงๆ อย่างนี้นะ ผู้ดีมาเท่าไรมาผมจะรับเลี้ยง ถ้ารับไม่ได้แล้วผมจะบอก นี่เป็นเวลา ๒๐ กว่าปีแล้ว ตั้งแต่นั้นมาเราก็ส่งเดือนละครั้งๆ นี้เรียกว่าเป็นประจำ ส่วนที่เราไปเมื่อไรเป็นอาหารเสริมเราไม่แน่ เฉพาะอาหารที่นำไปส่งๆ ประจำเดือนก็เรียกว่าเราเผื่อเอาไว้หมด แล้วยังมีพระที่อยู่ข้างๆ แห่งละสององค์ แห่งละองค์ก็มี ท่านภาวนาอยู่ตามเขา บางทีท่านมีตาปะขาวมาด้วย ให้ตาปะขาวมาขออาหารที่วัดภูวัว ทางนี้ก็จัดให้ไป ท่านเล่าให้ฟัง เราก็บอกเลยว่าให้ถวายท่านไปเลย ท่านจะเอาไปได้ขนาดไหนให้เอาไปเลย ผมไม่อาจที่จะไปส่งซอกแซกซิกแซ็กได้ มาส่งเฉพาะที่จำเป็น เช่นอย่างที่นี่เท่านั้น
เพราะฉะนั้นพระเวลาท่านจำเป็นท่านก็มา พาตาปะขาวมาบ้างอะไร หรือเณรมา เอาของไป ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งบัดนี้เป็นเวลา ดูเหมือน ๒๐ กว่าปีแล้ว พระจึงได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูว่าท่านจะถือ ๓๐ องค์เป็นจุดศูนย์กลาง มีมากกว่านั้นบ้าง ลดบ้าง มากกว่านั้นบ้าง คือท่านจะกำหนดเอา ๓๐ องค์เป็นจุดศูนย์กลาง มีสูงบ้างต่ำบ้างอยู่ในย่านนี้แหละ ตั้งแต่นั้นมาเราก็จัดตลอดไม่เคยให้ขาดเลย เดือนละครั้งๆ ปลายเดือนๆ เราจะไปที่ไหนๆ ถึงเวลาเขาก็รู้เองพวกนี้ เขาจัดไปเองๆ จัดเผื่อเลยนะ ให้พอแล้วเผื่อตลอด พระท่านก็สะดวกสบายการภาวนาเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ พระอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๒๐ ละ ตั้งแต่เราประกาศมาแล้ว มักจะ ๒๐ กว่าไปจวน ๓๐ หรือ ๔๐ บางทีถึง ๕๐ ก็มี แต่เป็นพระจรมาชั่วระยะๆ แต่ที่มักจะยืนตัวก็ ๓๐ กว่าบ้าง จวน ๓๐ บ้าง ยืนตรงนี้
ดูว่าท่านจะเอาเทป ส่วนมากจะเป็นเทปเรา พอตกค่ำพระท่านจะมารวมกันที่กุฏิ กุฏิมีสองชั้น ชั้นล่างเป็นหินดาน ชั้นที่สองสำหรับหลับนอน แต่พระท่านมาอยู่ชั้นล่าง ฉันก็ฉันข้างล่าง ข้างบนใช้เก็บสิ่งของอะไรบ้างเล็กน้อย ตอนเย็นท่านจะมารวมกันที่นี่ เอาเทปมาเปิด ท่านมานั่งภาวนาฟัง เป็นประจำนะนี่ เป็นประจำทุกคืนๆ เลย อย่างน้อยฟังเทศน์ ๑ ม้วน หรือว่า ๑ กัณฑ์อย่างน้อย ต่างองค์ต่างนั่งภาวนา เปิดเทปฟัง พอจบแล้วท่านองค์ใดอยากจะหลีกไปทำความเพียรที่อื่นที่ใดก็ไปได้ ผู้ไม่อยากไปจะอยู่ที่นั่นฟังเทปต่อไปอีกก็ได้ เรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้
นี่ก็จวนแล้วจวนสิ้นเดือนจะไป ไปรถเป็นประจำ ๔ คัน ๖ ล้อคันหนึ่ง ปิกอัพ ๓ คัน แต่บอง(เทิน) ขึ้นให้สูง บองขึ้นของให้เต็มเลย อย่างนี้เป็นประจำ พระท่านได้รับความสะดวกสบายในการบำเพ็ญสมณธรรม อาหารไม่ขาดเขินไม่เหลือเฟือจนเกินไป เพราะที่เราจัดให้นี้เราเคยผ่านมาหมดแล้ว จัดให้เรียกว่าค่อนข้างจะเหลือเฟือด้วยเป็นบางเวลา ที่จะขาดไม่ขาด เราจัดให้เรียบร้อย เราเป็นคนจัดเองสั่งเองๆ สถานที่เช่นนั้นเป็นสถานที่จะทรงมรรคทรงผลของผู้ปฏิบัติธรรมเป็นอันดับหนึ่ง ภูวัวเป็นอันดับหนึ่ง ที่อันดับหนึ่งๆ ก็มีเยอะนะ เช่น วัดดอยธรรมเจดีย์ วัดผาแดง วัดภูสังโฆ วัดศรีชมพู วัดนาคำน้อย เหล่านี้มีแต่พวกอันดับหนึ่งๆ ทั้งนั้นที่บำเพ็ญสะดวกสบาย
เมื่อวานนี้เราก็ไปวัดนาคำน้อย เอาของไปส่งให้ แล้วแนะนำสั่งสอนพระชั่วระยะเวลาเล็กน้อย ไม่อยู่นานแล้วก็มา นั่นเป็นอันดับหนึ่งๆ ให้เหมาะจริงๆ ให้มีครูบาอาจารย์ผู้เป็นหลักเป็นเกณฑ์ในด้านธรรมปฏิบัติจิตตภาวนาโดยเฉพาะๆ ให้มีครูบาอาจารย์เป็นหลักๆ เป็นย่านๆ เหมาะสมมากนะ เวลาท่านมีข้อข้องใจท่านก็ไปๆ ศึกษาอบรม ที่กล่าวมาเหล่านี้กล่าวแนะแนวทางเข้าสู่ตลาดแห่งมรรคผลนิพพาน คือสถานที่เช่นนั้นเหมาะสมมาก การประกอบความพากเพียรเหมาะสมมาก แล้วมีครูบาอาจารย์คอยแนะๆ ก็ยิ่งสะดวกมาก
เราจวนตัวเข้ามาเท่าไรยิ่งสงวนพระปฏิบัติมากขึ้นทุกวันๆ เราพูดให้ตรงศัพท์ตรงแสงตรงตามตำรับตำราที่ศาสดาสอนไว้ว่า ท่านเหล่านี้เองเป็นผู้สืบทอดมรดกมาจากครั้งพุทธกาลจนกระทั่งปัจจุบันนี้ คือพระป่า เสาะแสวงหาที่สงบสงัดบำเพ็ญตนตลอดเวลา เพื่อชำระกิเลสไม่มีลดละ นี่คือแถวทางเดินมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ท่านสืบทอดมรดกตกมาถึงทุกวันนี้ ไม่ผิดพลาดเลย การบำเพ็ญตามทางของศาสดา ธรรมะนี้สดๆ ร้อนๆ มรรคผลนิพพานสดๆ ร้อนๆ ไม่มีคำว่ากาลสมัยจะมาทำลายได้ ขอให้ได้สถานที่บำเพ็ญดีและปฏิบัติด้วยความสะดวกราบรื่นดีงามตามทางของศาสดาที่สอนไว้ โดยมีครูบาอาจารย์คอยแนะๆ ซึ่งครูบาอาจารย์แต่ละองค์ๆ เป็นหลักเป็นเกณฑ์ทางด้านจิตตภาวนา นั่นยิ่งสะดวกดี นี่ละตลาดแห่งมรรคผลนิพพาน
ศาสนธรรมคือตลาดแห่งมรรคผลนิพพาน สถานที่กระจายออกไปสำหรับที่บำเพ็ญ ก็ยิ่งเป็นทำเลเสาะแสวงหามรรคผลนิพพานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ท่านเข้าหากันท่านไม่ได้มีนะเรื่องโลกเรื่องสงสาร เรื่องสกปรกรกรุงรัง เข้าหากันๆ คุยกันเรื่องอรรถเรื่องธรรม เป็นยังไงภาวนา นั่นฟังซิ ไปอยู่ที่นั่นแล้วยังแยกออกไปอีก อยูถ้ำนั้นป่านั้นเข้าไปอีก แยกออกไปอีก ไปอยู่ที่นั่นเป็นยังไง ภาวนาเป็นยังไง ถ้ำนั้นเป็นยังไง ท่านสนทนากันเรื่องโลกไม่มีเลย พูดได้ว่าไม่มีเลย ท่านไม่เอ่ยถึงเลย ไม่ว่าท่านว่าเราเอ่ยถึงหาอะไรก็มุ่งหาธรรม เห็นหน้ากันใส่ปั๊บ เรื่องอรรถเรื่องธรรมจะออกทันทีๆ อย่างนี้ละที่เราเคยปฏิบัติมากับครูบาอาจารย์ ตำรับตำราก็มีอย่างนั้นด้วย
บรรดาพระสงฆ์สาวกเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เป็นยังไงไปอยู่ในถ้ำนั้นป่านั้นๆ การภาวนาเป็นยังไง นั่นศาสดาเรารับสั่งถาม เป็นอย่างนั้นนะ นี่ละธรรมถึงงอกเงย ผู้เสาะแสวงหาธรรมมีมาก การปฏิบัติธรรมก็มีจำนวนมาก ผลต้องปรากฏขึ้นจากภาคปฏิบัติการกระทำนั้นแหละ ไม่กระทำไม่มีภาคปฏิบัติ เรียนมาเฉยๆ ก็เป็นเหมือนหนอนแทะกระดาษ มันไม่สนใจ ถ้าสนใจเรียนมาๆ เพื่อเป็นคติธรรมก็เป็นธรรม เรียนมายิ่งเอาชื่อเอาเสียงด้วยแล้วเลวเลยเทียว ยิ่งเลยหนอนแทะกระดาษไปอีก เป็นอย่างนั้นนะ พูดให้ตรงศัพท์ตรงแสงซิ ธรรมพระพุทธเจ้าไม่อ้อมค้อม พูดอย่างตรงไปตรงมา
เราพูดถึงเรื่องพระท่านปฏิบัติ มีมาโดยลำดับลำดา ท่านสะดวกสบายในที่เช่นนั้นภาวนา เข้าหากันปั๊บถามมีแต่เรื่องอรรถเรื่องธรรมล้วนๆ พูดเรื่องภาวนา เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญาประเภทใดๆ ผู้ปฏิบัติย่อมรู้ย่อมเห็นในธรรมที่ตนปฏิบัติแล้วมาคุยกันก็เป็นกำลังใจของกันและกันเรื่อยไปเลย โห สดชื่นมากนะพระท่านไปอยู่ในป่า ท่านสดชื่นมาก ไม่ได้แห้งๆ เหี่ยวๆ นะ จิตใจท่านชุ่มเย็นไปด้วยอรรถด้วยธรรม คุยกันนี้เพลินเลยเวลาได้คุยกันเพลิน เพลินในอรรถในธรรมของกันและกัน ต่างองค์ต่างไปปฏิบัติ ต่างองค์ต่างรู้ต่างเห็นแปลกๆ ต่างๆ กันเป็นกำลังใจ ได้อุบายจากกันด้วย และเป็นกำลังใจด้วย เรื่องธรรมพระพุทธเจ้าไปต้องไปถามหาใครเมื่อมีภาคปฏิบัติ ตามแนวทางของศาสดาที่สอนไว้ จะสดๆ ร้อนๆ เกิดขึ้นที่ใจของผู้ปฏิบัตินั้นแล ไม่เกิดขึ้นที่ไหน เกิดขึ้นที่ผู้ปฏิบัติ เฉพาะจิตตภาวนาเกิดขึ้นที่ใจล้วนๆ
นี่เราพูดถึงเรื่องวัดภูวัว เราจึงอุตส่าห์พยายามส่งเสริมตลอดมา หากไม่มีข้อขัดข้องอะไรเหตุผลกลไกที่จะขัดอันนี้ เราก็จะพยายามส่งอย่างนี้ตลอด นอกจากมีข้อขัดข้องอะไรก็งดไปตามเหตุการณ์นั้นๆ เพราะเรารักสงวนมากที่วัดภูวัว เหมาะสมมากทีเดียว วัดผาแดงจะขึ้นไปไหนก็ไปซี เป็นที่หนึ่งๆ ทั้งนั้นขึ้นไปนู้น ก็มีเฉพาะครัวเป็นทำเลสำหรับรับแขกรับคน สาธารณะก็ที่ศาลา จากศาลาขึ้นไปนั้นมีแต่ป่าแต่เขา ขึ้นอยู่บนภูเขาสบายๆ เป็นอันดับหนึ่งๆ ของการภาวนา ทางภูสังโฆก็เหมือนกันเหมาะ
ถ้ามีผู้ปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนา ตัวเองก็ดี เพื่อนฝูงก็ดีที่อยู่ด้วยกัน ชุ่มเย็นไปตามๆ กัน กระจายออกไปไหนชุ่มเย็นไปหมด ถ้าธรรมออกไปไหนชุ่มเย็นๆ เป็นลำดับลำดา ฆราวาสก็เหมือนกันกับพระ ถ้าต่างฝ่ายต่างมีอรรถมีธรรมเข้าหากันสนิทกันทันที ชุ่มเย็น เป็นอย่างนั้นนะ ถ้าไม่มีธรรมแล้วพูดยากนะ ใครอย่าเอามาอวดเรื่องโลก เรื่องสมบัติของโลกที่กิเลสกว้านหามา มันมีแต่ฟืนแต่ไฟแฝงอยู่ในนั้นๆ แทบทั้งนั้นและทั้งนั้น ถ้าไม่มีธรรมเลยก็เรียกว่าทั้งนั้น ถ้ามีธรรมแทรกเข้าอยู่ก็แทบทั้งนั้น แน่ะเป็นอย่างนั้น พูดให้มันมีแง่ซิ
ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของเล่นเมื่อไร เวลานี้กำลังถูกเหยียบย่ำทำลายอย่างแหลกเหลว ทั้งที่ลับที่แจ้ง ทั้งเปิดเผย ทั้งไม่มียางอาย เป็นทุกแบบทุกฉบับแล้วในวงพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยของเรา ทั้งนักบวชและฆราวาสเป็นแบบเดียวกัน เวลานี้กำลังเหยียบย่ำทำลายศาสนาซึ่งเป็นของจริง ยกของปลอม ยกมูตรยกคูถขึ้นแทน เหยียบธรรมลงไปเวลานี้ กำลังออกอย่างเปิดเผยอย่างหน้าด้านเสียด้วย แหมหน้าด้านจริงๆ เราไปเห็นแล้วสลดสังเวช อย่างไปดูรูปที่ติดไว้หน้าศาลานี่ แหมสลดสังเวชทุกทีไม่เคยจืดจาง พอเจอปั๊บสะดุดกึ๊กๆ อย่างนั้นละ มันไม่เคยเห็น
บวชมาไม่เคยเห็นก็พึ่งมาเห็นเดี๋ยวนี้ มันจะไม่สะดุดได้ยังไง ไม่เคยมีพระจะไปทำตัวแบบมหาโจรผู้ร้าย ปล้นชาติ ปล้นศาสนา เหยียบหัวพระพุทธเจ้าและหัวประชาชนชาวพุทธนี้ลง ให้แหลกเหลวด้วยอำนาจแห่งมูตรคูถของตัวเองที่สกปรกสุดขีดนั้น มันดีได้ยังไง พิจารณาซิ มันสะเทือนใจถึงวันตายนู่นละสำหรับเราเองเป็นจริงๆ นะ เจอเมื่อไรสะดุดกึ๊กเลย มันเลวขนาดนั้นมันถึงแสดงออกได้ จิตใจเห็นไหมเวลามันหยาบมาก มันรู้จักอายรู้จักผิดถูกที่ไหน มันเรียนมาแล้วนะนั่น มันได้แต่เป็นหนอนแทะกระดาษมาเฉยๆ แล้วก็มาแทะหัวใจคน เหยียบหัวคนไปอีก เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปอีก นั่นเห็นไหม
เรียนธรรมจากพระพุทธเจ้า กลับไปเหยียบหัวพระพุทธเจ้าอีก ด้วยความไม่มียางอายในบาปในกรรมทั้งหลาย เราพูดอย่างตรงไปตรงมา นี่ละภาษาธรรม เราไม่ได้เหยียบย่ำทำลายผู้ใด ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูกตลอดไป เราเองเราสอนเราก็สอนอย่างนี้เรื่อยมา ตรงไหนผิดก็เอากันอยู่นั่น เวลานี้กำลังถูกเหยียบย่ำทำลายศาสนาเรา ผู้ดิบผู้ดีผู้ทรงศีลทรงธรรมร้อนไปตามๆ กันหมดเวลานี้ เราเคยเห็นไหมพระป่า ท่านเคยยุ่งกับใครที่ไหน ท่านอยู่ในป่าภาวนาหาอรรถหาธรรมตลอดเวลา สิ่งเลวร้ายทั้งหลายนี้กระทบเข้าไปๆ จนกระทั่งพระป่าอยู่ไม่ได้ ต้องออกมาชำระสะสางชี้แจงเหตุผลให้ทราบ
เรียกว่าเอาน้ำที่สะอาดมาชำระสิ่งที่สกปรกโสมม ที่มันกำลังเข้ามาเหยียบย่ำศาสนาและชาวพุทธของเราทั่วประเทศไทย ก็ออกมาดังที่ท่านประชุมกันเป็นหมื่นนู่น ของง่ายเมื่อไร ท่านมาด้วยความผิดศีลผิดธรรมที่ไหน ท่านมาด้วยความถูกต้องกับอรรถธรรม มาชำระสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ชี้แจงเหตุผลต้นปลายให้ฟัง มันยังหาว่าท่านมาก่อมากวนจะทำสังฆเภท ตัวเองนั่นตัวสังฆเภทเบอร์หนึ่งละ เวลานี้กำลังทำสังฆเภท แต่มันไม่สำเร็จเฉยๆ ถ้าสำเร็จเมื่อไรสังฆเภทนี้แตกฮือเลย ทั้งธรรมยุต มหานิกาย แตกไปด้วยกัน เพราะมหานิกายก็ดี ธรรมยุตก็ดี คนดีคนชั่วมีอยู่ด้วยกัน ผู้ไม่เห็นด้วยนั่นละจะคัดค้านขึ้นมา แตกกันตรงนี้ ผู้เห็นด้วยมันก็ไปของมัน ผู้ไม่เห็นด้วยค้านกัน แตกกันตรงนี้ นี่สังฆเภทกำลังจะเกิด
ยกขึ้นปีนขึ้น ไอ้มูตรไอ้คูถ ยกขึ้นจะให้เป็นทองคำ จะให้คนทั้งโลกนี้กราบไหว้บูชา ใครจะกราบไหว้ แม้แต่หมามันก็ไม่กราบ คนแท้ๆ รู้จักประสีประสาสูงต่ำดีชั่วจะกราบได้ลงคอยังไง มันก็ยังฝืนยกขึ้นมาให้กราบ ตีตกลงแล้วปีนขึ้นมาทางนี้อีก ก็มูตรกองเก่าคูถกองเก่านั่นแหละยกขึ้นมาอยู่อย่างนั้น เห็นไม่ใช่หรือ ด้านหรือไม่ด้าน ดื้อหรือไม่ดื้อ
เวลานี้ยิ่งเป็นเรื่องของฆราวาสเข้ามามีอำนาจ มีบทบาทอันใหญ่หลวงเพื่อทำลายศาสนา ไม่ได้มาส่งเสริมนะ มาเพื่อทำลาย มีฆราวาสเข้ามาเป็นหัวหน้าหัวตา ดีไม่ดีจะตั้งสังฆราชเข้าไปอีกฆราวาส ฟังซิมันเก่งขนาดไหน มามีอำนาจบีบบังคับพระเจ้าพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีอยู่มากมาย ให้เดือดร้อนวุ่นวายตามๆ กันหมดทั่วประเทศไทย เห็นหรือยัง ก็คือความเลวร้ายนี่ละมันเข้ามาก่อกวนเวลานี้ พระอยู่ในป่าท่านเคยออกมายุ่งเมื่อไร ท่านยังได้อุตส่าห์ออกมาเพราะเห็นแก่อรรถแก่ธรรม ไม่อย่างนั้นจะล่มจมไปหมดถ้าไม่มีผู้ต้านทานหรือชะล้างเอาไว้ จะล่มจมไปตามๆ กันหมด จากความเลวร้ายของพวกนี้ พวกเปรตพวกผีนี่ซึ่งกำลังทำลาย
เวลานี้กำลังยกฆราวาสขึ้นเป็นนายเหนือหัวพระ เที่ยวเหยียบหัวพระทุกวงการของศาสนา มิหนำซ้ำยังยกเป็นรัฐบาลออกมาด้วย เป็นอำนาจของรัฐบาลบีบเข้ามา ซึ่งรัฐบาลทั้งหลายท่านเป็นคนดีอยู่มากมายนะในวงรัฐบาล แต่มีตัวสำคัญๆ ที่เละๆ เทะๆ เป็นมูตรเป็นคูถเข้าไปแทรกอยู่ในวงรัฐบาล ก็เอาตัวนี้ออกมาอวด เอานามของรัฐบาลมาอวด รัฐบาลสั่งอย่างนั้นๆ เห็นไหม ใครก็รู้ด้วยกันทุกคน คนด้วยกันทำไมจะไม่รู้ มันเอามาอวดแล้วก็เหยียบไปเรื่อยนะ
เวลานี้กำลังฆราวาสเป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงมาบีบคอพระ พูดง่ายๆ ว่างี้เลย พระท่านปฏิบัติต่อกันมาสักเท่าไร ท่านมีความสงบร่มเย็นขนาดไหน เห็นมาตั้งแต่ดั้งเดิม เฉพาะอย่างยิ่งพระป่า ได้ชมเชยท่านตลอดมา เพราะท่านดำเนินตามหลักธรรมหลักวินัยจริงๆ ทีนี้เมื่อมีอะไรเหลวไหลเข้ามาแทรก ก็เกิดเรื่องขึ้นมาอย่างนี้แหละ แทรกมากก็เป็นอย่างนี้เห็นไหม ความเลวร้ายมันแทรกเข้ามากก็เดือดร้อนไปหมดทุกแห่งทุกหน พระอยู่ในป่าในเขาก็ต้องได้ออกมาชำระสะสางกัน นี่ไม่ใช่จากใครนะ พวกฆราวาสนั่นแหละมันไปเป็นใหญ่เป็นโตอยู่ในวงศาสนา
เช่น สำนักงานพุทธศาสนามีแต่พวกเปรตพวกผีพวกทำลายศาสนาทั้งนั้นไปอยู่ในนั้น เพราะฉะนั้นจึงได้ขับออกไป ครั้นขับออกไปแล้วก็ร้อนถึงนายกนะไม่ใช่ธรรมดา ขับออกไปแล้วก็มาขออยู่ถึงวันเกษียณเดือนกันยา นี่ก็ได้กำชับกันไว้ ในระยะที่ยังไม่เกษียณนี้อย่าไปก่อเหตุร้ายอะไรขึ้นนะ มันก็ก่อขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างนี้ หน้าด้านไหมพิจารณาซิ จากเกษียณแล้วก็มีตัวเบิ้มๆ ตัวสำคัญอีกนะ ทำท่าว่าเป็นผู้ใหญ่ มันใหญ่แบบกองมูตรกองคูถไม่ใช่ใหญ่แบบกองศีลกองธรรม เมื่อครบเกษียณแล้ว นี่เราพูดตามที่ได้ยินมานะ เราไม่ได้ไปฟังต่อปาก เราก็เอามาพูดตามที่ได้ยินได้ฟัง ผิดถูกประการใดอยู่กับผู้พูดให้เราฟัง เราก็เชื่อแน่ว่าท่านเหล่านี้จะไม่มาโกหกเรา
ว่าครบเกษียณแล้ว จะเอาคนนี้ละ คนใหญ่ๆ ตัวเบิ้มๆ ตัวสำคัญ นักเลงโต มหาพาลใหญ่ เวลาเกษียณแล้วเอาไปเป็นที่ปรึกษาหารือในมหาเถรสมาคม เรียกว่า มส.เสีย แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นคำสัตย์คำจริงจริงๆ ได้ยินแต่คำอย่างนั้น ให้เอาเข้าไปเป็นที่ปรึกษาหารือใน มส. ในมหาเถรสมาคมเสีย ว่างั้น เราได้ยินมาเพียงเท่านี้ ยังไม่ได้ยินเป็นคำขาดออกมาแน่นอนพอที่จะจับออกมาพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เราทราบเพียงเท่านี้เราก็พูดเพียงเท่านี้ก่อน ได้ทราบว่าจะเอาเทวทัตนี้ที่ถูกไล่ออกจากสำนักงานพุทธศาสนาแล้ว เกษียณแล้วให้ออกไป รอให้อยู่เพียงเกษียณ นี้มันก็แทรกเข้ามาแล้ว ว่าเกษียณแล้ว นี่ตัวใหญ่ๆ เบิ้มๆ ตัวสำคัญๆ นั่นละที่พูดว่า คนนี้เขาเกษียณแล้วให้เป็นที่ปรึกษาหารือของมหาเถรสมาคมเสีย
ว่าปรึกษาหารือ พูดสวยงามมากนะ เป็นที่ปรึกษาหารือของเถรสมาคม ให้เข้าไปเหยียบมหาเถรสมาคมให้มันขี้แตกไปหมด ว่าอย่างนั้นถึงถูกต้องดี แล้วมหาเถรสมาคมเหล่านั้นมีคนตาบอดหรือคนตาดีอยู่ในนั้น ได้ดูไหม คนๆ นี้เข้าไปเป็นคนประเภทใด คนที่ถูกขับไล่ไปจากสำนักงานพุทธศาสนาแล้วจะไปรับใช้ในมหาเถรสมาคม ก็คือไปเป็นนิวเคลียร์นิวตรอนอยู่ในวงมหาเถรสมาคม ถ้าวงมหาเถรสมาคมรับไว้เมื่อไร มหาเถรสมาคมก็เป็นกองโจรมหาโจรที่สังฆมณฑลจะรับไว้ไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้เลย นี่ก็จะแตกอันหนึ่งเหมือนกัน
มันยื่นเข้าไปตรงไหนมีแต่ฟืนแต่ไฟ พวกนี้ยื่นเข้าไปเอาแต่ฟืนแต่ไฟ เพราะพวกนี้เป็นฟืนเป็นไฟแล้ว จะเอาน้ำเอาท่ายื่นเข้าไปให้ชุ่มเย็นไม่มี มีตั้งแต่ฟืนแต่ไฟยื่นเข้าไป เวลานี้กำลังได้ยินเงื่อนอย่างนี้ เราก็เอานี้ออกมาพูดตามได้ยินนี้นะ ท่านทั้งหลายฟังเอา นี่กำลังเริ่มว่างั้น ว่าให้เอาเข้าไปเป็นที่ปรึกษาเสีย ปรึกษาอะไร ถ้าไม่เข้าไปทำลายมหาเถรสมาคมและทำลายพระสังฆมณฑลทั่วประเทศไทย จะเป็นอื่นไปไม่ได้ว่างั้น มันเคยทำลายมาแล้วถึงขนาดถูกขับไล่ออกไป นี่กำลังเริ่มนะไอ้นี้ก็ดี
นี่ฟังซิ ตัวที่ส่งเข้ามาคือใคร ตั้งแต่ไอ้เด็กอมมือมันก็ไม่กล้าที่จะส่งเข้ามา ใครก็รู้กันหมดว่าคนๆ นี้เป็นเช่นไร ทำไมผู้ที่ส่งเข้ามาจึงไม่รู้ หูหนวกตาบอดมาจากไหน ถ้าไม่ใช่หัวหน้าอันธพาลจะเป็นอย่างอื่นอย่างไรไปไม่ได้นะ ต้องเป็นหัวหน้าอันธพาลนักเลงโตที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้จมลงโดยถ่ายเดียวเท่านั้น พูดอย่างอื่นไปไม่ได้เพราะเด็กมันก็รู้นี่ ผิดถูกประการใด แล้วยังจะไปบีบคอพวกมหาเถรสมาคมให้รับไว้ นี่ละตอนนี้ละตอนจะเอากันอีก
ฟังซิท่านทั้งหลาย นี่ภาษาธรรม เราจะพูดให้เป็นอรรถเป็นธรรมเพื่อพี่น้องทั้งหลายได้ฟังทั่วหน้ากัน ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก เอา ถ้าหากหลวงตาพูดผิดเอาคอไปตัดเลยไม่เสียดายยิ่งกว่าอรรถธรรม เรากราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยอรรถธรรมเหล่านี้เท่านั้น นอกนั้นเราไม่ไหว้ใครเลย เราจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้
เวลานี้กำลังเริ่มเป็นอย่างนี้อีก มันขึ้นแง่นั้นขึ้นแง่นี้ พวกนี้มีแต่พวกทำลายนะ ไปที่ไหนมีแต่เรื่องทำลายๆ ก็คิดดูซิจะเอาคนที่เป็นเปรตเป็นผีทั้งเป็นอยู่แล้วเข้ามาในวงมหาเถรสมาคม ใครฟังได้ไหม ดูได้ไหม มันก็รู้กันอยู่ทั้งแผ่นดิน แล้วมันยังกล้า ไอ้ตัวเบิ้มๆ ที่ส่งเข้ามานั้นได้ยินว่าตัวเบิ้มๆ นะ ตัวมหาพาลละที่ส่งเข้ามา มหาพาลนักเลงโตที่ส่งเข้ามา ถ้าเป็นคนดีแล้วมันจะส่งเข้ามาอะไร แต่เด็กเขาก็รู้ว่าเป็นคนเช่นไร คนผู้นี้น่ะ แล้วมันหลับหูหลับตาส่งเข้ามาหาอะไร ฟังซิน่ะ
ระยะนี้ฆราวาสกำลังใช้อำนาจบาตรหลวงบีบบี้สีไฟศาสนานะ พระเจ้าพระสงฆ์ไม่ได้ปกครองตนตามหลักธรรมวินัยด้วยความสะดวกสบาย พวกนี้เข้าไปแทรกเข้าเป็นใหญ่เป็นโตเหยียบหัวพระเจ้าพระสงฆ์ลง เช่นอย่างตั้งสำนักพุทธศาสนา สำนักพุทธศาสนาสะแหนที่ไหน หลักธรรมวินัยยืนตัวมาแล้วตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมามีบกพร่องตรงไหนพอจะไปแก้ไข อันนี้มันแก้โน้นแก้นี้ แก้นี้แก้เพื่อทำลายไม่ได้แก้เพื่อส่งเสริมนะ ถ้าแก้เพื่อส่งเสริมเราก็ไม่ว่า อันนี้มีแต่แก้เพื่อทำลายๆ ทั้งนั้น มันจึงสลดสังเวชมากนะ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้ละ
วันไหนก็ได้พูดแต่เรื่องสกปรกๆ ตลอด ฆราวาสหัวดำๆ คลังกิเลสเอาไปปกครองพระ บีบบี้สีไฟพระ มีที่ไหนไม่เคยมี ในหลักพุทธศาสนาก็ไม่มี มีแต่พระท่านปกครองกันด้วยความสง่างามมาตลอด ไม่ได้ตั้งเป็นเจ้าคณะนั้น เจ้าคณะนี้อะไร พระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกผู้ใดเป็นผู้ใหญ่ๆ เคารพนับถือโดยหลักธรรมชาติ ด้วยความพอใจของตัวเอง เย็นมาตลอด อันนี้บีบบี้สีไฟ
ยิ่งฆราวาสมาเป็นนายเหนือหัวพระด้วยแล้วเวลานี้กำลังร้อนมากนะ เอาฆราวาสเอามูตรเอาคูถเข้ามาปกครองทองคำทั้งแท่ง คือผู้ทรงศีลทรงธรรมก็เท่ากับทองคำทั้งแท่ง ท่านก็จะอยู่ได้ยังไง ก็เดือดร้อนละซิ เอามูตรเอาคูถมาโปะหัวท่าน ฆราวาสมันดิบมันดีที่ตรงไหน ไปที่ตรงไหนเฉพาะพวกนี้ละพวกทำลายพระทำลายศาสนา มันเลอะเทอะขนาดไหนแล้วจะไปปกครองพระได้ยังไง เวลานี้กำลังแผลงฤทธิ์ อยู่ที่ไหนมีแต่อำนาจของฆราวาสไปปกครองพระ ดูไม่ได้เลย ไม่เคยมี ในหลักพุทธศาสนาไม่มี มันพึ่งมีขึ้นมานี้เอง เราบอกตรงๆ เราเรียนมาเหมือนกัน มันคันฟันเอาเสียบ้าง ก็เรียนมาด้วยกันรู้ด้วยกัน อะไรขวางธรรมขวางวินัยมันก็รู้ทันทีๆ เราปล่อยไปมันก็จะเลอะ แหลกไปหมด
ต่อไปนี้ก็จะได้ฟังวิทยุสวนแสงธรรมกว้างขวางออกไป เราเปลี่ยนอะไรเครื่องอะไร(เครื่องใหม่ฮะ สิบกิโลวัตต์ หลวงตาเมตตากำลังสั่งมา) คราวนี้ละ หาเครื่องใหม่มาใส่สิบกิโลวัตต์ที่สวนแสงธรรม แต่ก่อนไม่ค่อยกว้างขวางกำลังไม่แรง นี่ละสิบกิโลวัตต์ เอาหมดก็หมด เราเพื่อโลกทั้งนั้น ไม่ได้เพื่ออะไร เพราะฉะนั้นสมบัติเงินทองเราจึงมีไม่ได้ เราเพื่อประโยชน์แก่โลกทั้งนั้น ให้โลกได้รับความร่มเย็นเป็นสุขเราเป็นที่พอใจ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |