เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
ไม่มีที่จะเป็นคุณต่อผู้ใด
ผู้กำกับ : จากหนังสือพิมพ์ไทย หัวข้อว่า ต้องกราบขอขมาลาโทษต่อสมเด็จพระสังฆราช ขึ้นต้นดังนี้นะครับ การกระทำเกินต่อผู้เป็นพ่อแม่หรือครูอุปัชฌาย์ ปูชนียอาจารย์ ย่อมไม่มีใครทนเห็นทนฟังอย่างใจเย็นอยู่ได้ อย่างน้อยผู้ที่เป็นบุตรธิดา หรือผู้ที่เป็นศิษย์ต้องออกมาแสดงการปกป้อง และบางครั้งบางกรณีก็อาจถึงขั้นต้องชกต่อยกันจนปากคอแตกไปข้างหนึ่ง
ความมีกัตญญูรู้คุณ เป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของคนไทยทุกคน อย่างกรณีของเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกก็เช่นกัน ตลอดระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา ได้มีผู้กระทำการล่วงละเมิดต่อพระองค์อย่างเหลือล้ำกล้ำกลืนหลายครั้งหลายหน ทำคล้ายกับว่าพระองค์เป็นสมเด็จพระอาจารย์ที่ไร้สิทธิ์อย่างนั้น มีการใช้สิทธิ์ว่าตนเป็นบุคคลสำคัญ จึงอาจหาญบุกรุกเข้าถึงภายในห้องบรรทม บังคับขู่เข็ญพระทัยให้พระองค์ลงพระนามในหนังสือสำคัญ ทั้งสองครั้งสองครา
การนำพระตราตำแหน่งที่เป็นเครื่องเทิดพระอิสริยยศ ไปประทับลงบนลายมือชื่อ ของผู้ที่มิใช่เป็นองค์สกลมหาสังฆปริณายกก็ยังมีให้เห็น จนกระทั่งมีการนำเอาพระอาการพระประชวร อันเป็นเท็จบ้างเป็นจริงบ้างออกไปป่าวประจานทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ ของกรมประชาสัมพันธ์ ยังความสับสน และตื่นตระหนกตกใจต่อประชาชนทั้งประเทศ ไม่รู้ว่าใครทำไมถึงกล้ากระทำกล้ำเกินต่อพระองค์กันถึงเพียงนี้ ไร้จิตสำนึก มิได้มีสมองและตริตรองบ้างว่า หากผู้อื่นเขากระทำอย่างนี้กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของตนบ้าง แล้วตัวท่านจะมีความรู้สึกเช่นไร
สมมุติว่าพ่อของท่านกำลังนอนแบ็บอยู่ในโรงพยาบาล แล้วกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้นำอาการเจ็บป่วยของพ่อของท่านออกมาประจานต่อสาธารณชนว่า เวลานี้พ่อของนาย ก.กำลังนอนตาเหลือกตาถลนอยู่บนเตียง ขี้เยี่ยวไหลออกมาเลอะเทอะ หมอต้องให้ออกซิเจนช่วยหายใจ ดูอาการแล้วเห็นจะไปไม่รอด ผมขอใช้อำนาจในการเป็นกำนัน เป็นผู้ใหญ่บ้านห้ามเข้าเยี่ยม ห้ามบอกให้ญาติมาเยี่ยม ห้ามเซ็นพินัยกรรมอะไรทั้งสิ้น ถามจริงๆ เถอะท่านผู้เป็นบุตรเป็นหลานจะมีความรู้สึกอย่างไร
เรื่องการละเมิดใช้พระตราตำแหน่ง ก็ไม่รู้ว่าใครที่หาญกล้ากระทำเช่นนั้นได้อย่างไร จะรู้ไหมว่าพระตรานั้นเป็นพระตราตำแหน่งของพระองค์ เป็นหนึ่งในเครื่องสมณศักดิ์ที่ได้รับสถาปนาจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระตรานั้นมีคำว่าสกลมหาสังฆปริณายก แล้วใครที่นำไปใช้ประทับลงบนลายมือชื่อผู้ที่มิใช่เป็นองค์สกลสังฆปริณายก สมมุติว่ามีผู้อื่นไปนำเอาพัศยศของพระอาจารย์ท่าน ใช้สวดชักผ้าบังสุกุลคนตายบ้าง แล้วท่านผู้เป็นศิษย์จะมีความรู้สึกอย่างไร
เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พระสงฆ์สายวัดป่าจำนวนกว่า ๓,๕๐๐ รูป ได้พร้อมใจกันเข้าประชุม ณ วัดป่าบ้านตาด โดยมีหลวงตามหาบัวเป็นองค์ประธาน ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น และให้รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นการด่วนที่สุด รีบๆ หาโอกาสไปกราบขอขมาลาโทษต่อองค์สมเด็จพระสังฆราชเสียเถอะ กรรมหนักจะได้ค่อยบรรเทาลงได้บ้าง
ณ หนูแก้ว
หลวงตา : ก็ได้ฟังโดยทั่วกันแล้วไม่ใช่เหรอ ก็ไม่เห็นจำเป็นอะไรจะต้องพูด พูดกับคนขวางชาติขวางศาสนา คนเป็นภัยต่อชาติ ต่อศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่มีวันจบได้พวกนี้ พวกนี้เป็นมหาภัยตลอด ไม่มีที่จะเป็นคุณต่อผู้ใดทั้งนั้น พูดอะไรมันไม่ฟังเสียง พูดอย่างนี้มันก็ไม่ฟังเสียง พวกเปรต เข้าใจไหมล่ะ พูดไปหาอะไร ว่าอะไรถึงกันเลยๆ อย่างนั้นถึงถูก ว่ากันไปว่ากันมาอยู่อย่างนี้ไม่เห็นได้เรื่องได้ราวอะไร นี่มาถ้าไม่เข้าเรื่องปัดปุ๊บเดียวเลยไม่พูดหลายคำนะ ถ้าไม่ถูกแล้วปัดทันทีๆ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ไม่พูด อันไหนไม่ถูกปัดปุ๊บทันทีเลย เอาเทวดามารับรองเราก็ไม่เล่นด้วย นั่น ถ้ามันไม่ถูก
(หลวงตาเจ้าค่ะ วันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของคุณยาย (เจ้าของสวนแสงธรรม) ครบ ๑ ปี พวกลูกหลานกับลูกศิษย์จะมาขอทำบุญถวายผ้าบังสุกุล พร้อมด้วยปัจจัยจำนวน ๒๓๑,๐๐๐ บาท) ดีแล้ว ๆ ทำบุญอุทิศให้ท่าน ท่านมีคุณมากนะ ยายมีคุณมากกับคุณสกล สร้างวัดสร้างวาไว้ถวายพระ ท่านสร้างวัดสร้างวามีอานิสงส์อย่างมากมายทีเดียว ทางนี้ก็เห็นไหมคนทั่วประเทศไทยหลั่งไหลเข้ามา ทั้งทางนู้นทางนี้ท่านให้ความสะดวกทั้งหมด ถ้าท่านไม่ได้ถวายที่นี่ก็ว่างเปล่าเป็นทุ่งนา นี่ทำไมไม่เป็นทุ่งนา เห็นนี่คนแน่น มีศรัทธาบริจาคถวายใครทำได้ง่าย ๆ เมื่อไร เพราะฉะนั้นจึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลถึงท่านนะ ทีนี้ให้พรพร้อมหน้ากันหมดเลยนะ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ FM 103.25 MHz
และสถานีวิทยุอุดร FM 103.25 MHz
|