เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
สถาบันทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ผู้กำกับ:วิจารณธรรมวันศุกร์ที่ ๓๐ กรกฎาคม
เหตุใดพระวัดป่าจึงเคารพศรัทธาสมเด็จพระสังฆราช?
ความเคารพศรัทธาอย่างมั่นคงต่อองค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ของพระภิกษุสงฆ์สายวัดป่า อันส่งผลให้ได้พากันออกมาเคลื่อนไหวตามคำสั่งของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ผู้เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ในทันทีที่ลั่นวาจาว่า "เราจะยกทัพมาช่วยเพื่อนเรา ด้วยสมเด็จพระสังฆราชเพื่อนเรากำลังถูกรุมกินโต๊ะทั้งที่มีชีวิตอยู่เป็นๆ "
เรื่องนี้ย่อมมีที่มาและที่ไป ว่าทำไมพระสงฆ์สายวัดป่าจึงมีความเคารพเทิดทูนต่อสมเด็จพระสังฆราชยิ่งกว่าพระสายปริยัติวัดในเมือง ประการที่หนึ่ง นับเนื่องจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้เคยเป็นพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงผนวช นับตั้งแต่ก่อนการทรงผนวชจนตลอดระยะเวลาแห่งการทรงผนวช ดังนั้น สถาบันพระมหากษัตริย์กับสถาบันพระพุทธศาสนาจึงมีความสำคัญยิ่งที่ใครก็ตามไม่ควรจะกระทำล่วงล้ำกล้ำเกิน
ประการที่สอง สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงมีแนวปฏิบัติทางสายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นประเพณีนิยมของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ที่นับเนื่องมาแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวช ทั้งนี้เพราะทรงถือปฏิบัติตามหลักของพระพุทธศาสนาที่ว่า เพื่อเป็นแบบแผนในการประพฤติปฏิบัติสำหรับแนะนำสั่งสอนผู้อื่น ซึ่งวิปัสสนาธุระคือการอบรมจิตใจตามหลักสมถะและวิปัสสนา เพื่อให้รู้แจ้งในธรรมและกำจัดกิเลสออกจากจิตใจ
ฉะนั้น พระสงฆ์ธรรมยุตจึงถือปฏิบัติสืบทอดมาแต่ครั้งนั้น กล่าวคือ ในเวลาพรรษาก็อยู่ศึกษาคันถธุระในสำนักของตนๆ เมื่อออกพรรษาแล้วก็ออกจาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาเพื่อหาที่วิเวกปฏิบัติวิปัสสนาธุระ ซึ่งประเพณีปฏิบัติดังกล่าวได้เจริญแพร่หลายในหมู่พระสงฆ์ธรรมยุตสืบมาจวบจนถึงปัจจุบัน ดังที่เรารู้จักกันในนามพระสายวัดป่า เป็นที่ทราบกันดีว่า การศึกษาปฏิบัติกรรมฐานมิได้จำกัดวงอยู่เฉพาะในหมู่พระสงฆ์ธรรมยุตเท่านั้น แต่ได้แพร่หลายไปยังพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกายด้วย เช่น พระสายวิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่ชา สุภทฺโท แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี
สมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้ทรงปฏิบัติพระองค์ตามหลักวิปัสสนากรรมฐานนี้อย่างสม่ำเสมอมิได้ขาด แต่ด้วยพระภารกิจทางการปกครอง จึงไม่มีโอกาสที่จะจาริกอยู่ในสำนักวัดป่า แต่ก็สามารถปฏิบัติได้โดยถือปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า "แม้จะอยู่ในบ้านในเมือง ก็ให้ทำสัญญาคือทำความรู้สึกกำหนดหมายในใจว่าอยู่ในป่า อยู่ในที่ว่าง อยู่ในที่สงบ ก็สามารถทำจิตใจให้ว่างให้สงบได้" ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้ทรงปฏิบัติพระองค์ตามหลักดังกล่าว
เมื่อมีโอกาสพระองค์จะเสด็จจาริกไปประทับตามสำนักวัดป่าในแถบภาคอีสาน ชั่วระยะเวลาหนึ่งเสมอมา และสิ่งที่จะขาดเสียมิได้ก็คือจะต้องทรงเสด็จเข้ายังวัดป่าบ้านตาดเพื่อเยี่ยมและปรึกษาข้อธรรมกับหลวงตาพระมหาบัว พระองค์ทรงตรัสสอนแก่สานุศิษย์เป็นอนุสรณ์ว่า "คนนรก" หมายถึงคนที่ร้อนรนอยู่เสมอ เพราะมีโลภ โกรธ หลง ประกอบทุจริตต่างๆ อยู่เป็นอาจิณ ซึ่งเสมือนไฟเผาเสมอ ทีแรกอาจเป็นไฟเย็น แต่เมื่อความชั่วปรากฏก็จะเป็นไฟร้อน
พระองค์ทรงตรัสถึง "คนเดียรัจฉาน" ว่า คือคนที่ทำอะไรไม่มีความละอาย ไม่มีความกลัวเกรงต่อความชั่วอะไร ทำชั่วได้อย่างเปิดเผยหรืออย่างหน้าตาเฉย ส่วน "คนเปรต" คือคนที่มีความโลภ อยากได้อยู่ไม่รู้จักอิ่มพอ มุ่งที่จะอาศัยเบียดเบียนผู้อื่นอยู่เท่านั้น (สุวฑฺฒโนวาท) ด้วยทรงเป็นพระสังฆบิดรของพระสงฆ์ทุกหมู่เหล่า และยังทรงเป็นสมเด็จพระอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ในยามที่พระองค์ทรงถูกกลั่นแกล้งรังแก พระลูกพระหลานที่เป็นพระสายวัดป่า จึงพากันออกมาให้การช่วยเหลือดูแลเทิดพระคุณ ด้วยเหตุฉะนี้ !!
ณ หนูแก้ว
(ลูกศิษย์นำใบปลิวภาพหลวงตาและคุณทองก้อน ซึ่งในใบปลิวเขียนว่า บุคคลอันตราย ผู้ทำลายความมั่นคงของสถาบัน ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องกำจัดบุคคลที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงจำพวกนี้ ใบปลิวนี้วางให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาที่ท้องสนามหลวงหยิบฟรี คณะศิษย์ได้ไปพบใบปลิวนี้คืนวันที่ ๒๙ ที่ผ่านมา)
นี่ก็ดูเอาพี่น้องทั้งหลายดูเอา ในรูปนี้ก็คือหลวงตาบัวกับคุณทองก้อน ที่ตัดคอรองทั้งชาติ ทั้งศาสนา ทั้งพระมหากษัตริย์ เรื่อยมาตั้งแต่วันเริ่มออกช่วยชาติที่เหตุการณ์ที่ไม่ใช่อันตรายเหล่านี้กำลังเข้ามาย่ำยี สถาบันนี้มาย่ำยี นี่เขาว่าสองกษัตริย์นี้เป็นอันตราย กษัตริย์บัวกษัตริย์ทองก้อนเป็นอันตราย พี่น้องทั้งหลายฟังเอานะ นี่เขาโฆษณา เขาโฆษณาว่าเรานี้เป็นอันตรายต่อสถาบันของเขา สถาบันของเขาเป็นสถาบันประเภทใดที่เที่ยวยุแหย่ก่อกวนกีดกันทุกสิ่งทุกอย่าง
แม้ที่สุดทำบุญให้ทานนี้ไม่ได้ ไปเที่ยวกีดเที่ยวกันไปหมด การที่เขาจะมายื่นสมบัติเงินทองให้เข้าช่วยชาติในนามที่ว่าเขาเป็นสถาบันแห่งชาติไทยของเรานี้ ไม่เคยมีทองคำหนึ่งบาทไม่เคยมี ดอลลาร์หนึ่งดอลล์ไม่เคยมี เงินหนึ่งบาทก็ไม่เคยมี แต่การทำลายพวกนี้ออกชื่อลือนามไปหมดทุกหย่อมหญ้า พวกสถาบันนี้น่ะ สถาบันที่เขาประกาศตัวของเขาอยู่เวลานี้ เขากลับมาว่านี่เป็นอันตราย หลวงตาบัวกับทองก้อนนี้ที่ตัดคอรองเพื่อพี่น้องทั้งหลายตลอดมา เพราะฉะนั้นคุณทองก้อนกับหลวงตาบัวจึงเป็นอันตรายต่อสถาบัน เขากำลังประกาศก้อง ให้จำเอานะทุกคน
เราพูดอย่างนี้เราพูดไม่เข้าข้างใดออกข้างใดนะ เราพูดเป็นธรรมล้วนๆ จะไม่มีอะไรเข้ามาเกี่ยวข้องเลย อย่างนี้ละพวกอันตรายมันเข้ามาแบบนี้ให้ฟังเอานะ แบบที่ว่านี้ สถาบันนี้คือสถาบันอันตรายทั้งต่อชาติ ทั้งต่อศาสนา ทั้งต่อพระมหากษัตริย์ของเรา ถ้าสถาบันนี้ได้ขึ้นแล้วชาติก็ดี ศาสนาก็ดี พระมหากษัตริย์ก็ดี จะไม่มีติดค้างอยู่ในเมืองไทยเลย จะมีแต่สถาบันอันนี้ล้วนๆ สถาบันที่เขายกขึ้นอยู่เวลานี้ สถาบันนี้เป็นสถาบันลบล้างความดีทั้งหมด มีตั้งแต่ความเลวร้ายเต็มบ้านเต็มเมืองอยู่กับสถาบันนี้ จำให้ดีนะ
นี่ละความจริงกับความจอมปลอมมันกลับตาลปัตรๆ อะไรเป็นความดีพวกสถาบันนี้จะเป็นความชั่วช้าลามกเป็นอันตรายทั้งนั้น แต่อันใดเป็นอันตรายสถาบันนี้จะยกขึ้นตลอดเพื่อเหยียบชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ลง ท่านทั้งหลายจำให้ดีทุกคน ให้มีความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน การประกาศทั้งนี้ยิ่งเป็นการประกาศก้องสถาบันแห่งโลกพินาศ กำลังขึ้นอยู่ในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเมืองไทยเรา จำให้ดีนะ ใครจะว่าเราเป็นอันตรายไม่เป็นอันตรายเราไม่สนใจ ถ้าว่ากล้วยหอมกล้วยไข่นั้นน่ะหลวงตานี้เป็นอันตราย ไม่บอกก็เป็นอยู่แล้ว ตะกี้นี้ก็หมดมาไม่รู้กี่อันเต็มบาตร ลูกศิษย์ก็เป็นอันตรายด้วยกัน แย่งข้าวก้นบาตรหลวงตาบัวไปแจกกัน พวกนี้พวกอันตรายเข้าใจไหม
เอานะให้พร้อมเพรียงกัน ให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้ว่าตั้งแต่เราเริ่มช่วยพี่น้องทั้งหลายมานี้ ได้เคยทำความเสียหายแก่ชาติไทยและศาสนาของเรา ตลอดพระมหากษัตริย์ตรงไหนบ้างให้จำให้ดี เอาไปเทียบกับอันนี้ทันที กับคุณทองก้อน คุณทองก้อนจะเป็นจะตาย บางทีจะไม่มีลมหายใจ สูดลมหายใจเพื่อโลกเพื่อสงสาร สละเวล่ำเวลาหน้าที่การงาน ตลอดชีวิต คุณทองก้อนก็สละไปหมด นี่ละเพื่อพี่น้องทั้งหลายเรา ขอให้เห็นใจ
เรากะว่าวันที่ ๒๑-๒๒ เราจะมอบในสองวันนี้วันใดวันหนึ่ง คือเราจะสัตตาหะมาภายใน ๗ วัน ๗ วันนี้ครอบเสาร์-อาทิตย์ที่จะมอบทองคำนี้ไว้ พอจากนี้เราจะกลับ มาในพรรษาพระท่านจะมาตามหลักพระวินัย ท่านทรงอนุญาตให้ไปได้ภายใน ๗ วันด้วยกิจธุระที่จำเป็น กิจธุระของเรานี้ที่ว่าจำเป็นคือจำเป็นต่อชาติของเราทั้งประเทศ ที่เรามานี้ นี่ละพระวินัยก็ทรงอนุญาต บิดา-มารดาป่วย ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ป่วย ท่านแสดงไว้ในความจำเป็น และสิ่งที่จำเป็นคล้ายคลึงกันนี้ก็ให้อนุโลมเข้าในข้อจำเป็นเหล่านี้ นี่เรื่องที่จะมามอบทองคำคราวนี้ก็เป็นความจำเป็นของคนไทยทั้งชาติ เราจึงได้สละเวลาสัตตาหะมาเป็นเวลา ๗ วัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ขัดข้องอะไรกับพระวินัย
(ตามข่าว พระ ๘,๕๐๐ รูปต้านมติมหาเถระ ชี้โมฆะ วิษณุขู่ฟ้องทองก้อน วิษณุจะฟ้องคุณทองก้อน) เออฟ้องไป ปากมีฟ้องไปเลย ปากมีถ้าแก้ได้ก็แก้ไป แก้ไม่ได้ก็จะมัดกันไป นักกฎหมายก็ต้องเป็นอย่างนั้นละ ไอ้กฎหมอยมันไม่เอามาว่าละ มันเอานักกฎหมายมาพูด ขู่ให้คนกลัว ขู่นั้นขู่นี้ให้กลัว ทำลูกเสือให้วัวมันกลัว
พระมาเมื่อวานดูว่า ๘,๕๓๐ นี่เรากดเอาไว้นะ ที่ ๘,๕๐๐ นี่คือถูกกดเอาไว้ไม่ให้มามาก จึงมาเพียง ๘,๕๐๐ ถ้าเปิดโอกาสตามผู้ที่จะมานั้นมากกว่านี้เป็นหมื่นกว่าขึ้นไปเลย แต่นี้เราบอกอย่าให้มากนัก เท่านี้ก็เป็นหลักเป็นเกณฑ์แล้วสำหรับชาติไทยเรา จำนวนเหล่านี้ก็มาในจำนวนของคนในชาติ มาในนามของชาติ เท่านี้พอ ขนาดพอดี อย่ามามากนัก ถึงขนาดนั้นตั้งแปดพันกว่าดูซิ ถ้าเราเปิดแล้วเฉยๆ แล้วมากกว่านี้อีก หรือว่าเอ้ามาเถอะ เท่านั้นละพุ่งเลยเชียว
พี่น้องทั้งหลายทราบแล้วเหรอ สถาบันนี่แหละที่กำลังเตรียมพร้อมที่จะทำลายศาสนาให้จมหมด ทำลายชาติอันดับที่สอง ทำลายพระมหากษัตริย์เป็นอันดับที่สาม นี่กำลังเตรียมพร้อม สถาบันนี้แหละ จำให้ดีนะ พวกเรามันเป็นพวกอันตรายต่อสถาบันนี้ นี่สถาบันนี้ไม่มีใครที่ไหน สถาบันที่ออกมาประกาศ เขาบอกสถาบันๆ อันนี้ละกำลังเตรียมพร้อมทุกซอกทุกมุมไปหมด ประกาศคนให้พร้อมหน้ากันเข้ารวมตัวในสถาบันนี้ แล้วเหยียบหัวพระพุทธเจ้า พระสาวกทั้งหลาย พระธรรม ตลอดถึงพุทธบริษัททั่วโลก เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม ที่เป็นลูกศิษย์ตถาคตนั้น จะเหยียบลงให้แหลกหมดไม่มีเหลือ เข้าใจเหรอ
ขอให้แต่หัวหน้าใหญ่มันขึ้นเท่านั้นแหละ หัวหน้าใหญ่กำลังจะขึ้นแผลงฤทธิ์ หัวหน้าสถาบันใหญ่ ท่านทั้งหลายทราบมิใช่หรือ กำลังปีนขึ้น ปีนขึ้นเรื่อยเดี๋ยวนี้นะ ปีนขึ้นแบบชั่วช้าลามก ปีนขึ้นแบบไม่เคยมีในเมืองไทยเราที่ปีน แบบไม่มีหิริโอตตัปปะ ลุกลี้ลุกลน ตะกละตะกลามที่สุด อยากได้ยศได้ลาภ คือได้อันนี้แล้วนี้แหละเรียกว่าได้มหาอำนาจ หัวหน้าสถาบันนี้ได้มหาอำนาจแล้วจะเหยียบพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และพุทธบริษัท นับแต่อินทร์ พรหมลงมา เทวบุตรเทวดาเหยียบแหลก แล้วเหยียบเข้าไปชาติทั้งหมดไม่ให้มีศาสนา ให้เป็นเหมือนหมาตัวหนึ่งๆ หางมีไม่มีไม่จำเป็น เรียกว่าไม่มีศาสนาก็เป็นหมาได้เต็มตัว
จากนั้นก็เหยียบเข้าไปพระมหากษัตริย์ ซึ่งเมืองไทยเราเทิดทูนท่านมาตั้งแต่กาลไหนๆ พระมหากษัตริย์ท่านทรงทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใด พุทธบริษัทบริวารเทิดทูนมาตลอด ท่านเป็นพุทธศาสนูปถัมภกอีกด้วย ทรงอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พุทธศาสนาของเราเทิดทูนมาทุกองค์พระมหากษัตริย์ ท่านเทิดทูนมา ทีนี้จะถูกสถาบันนี้เหยียบแหลกเลย สถาบันกำลังประกาศก้องอยู่เวลานี้ ท่านทั้งหลายจำแล้วยัง นี่ละสถาบันนี้แแหละกำลังประกาศก้องอยู่ จะเหยียบพุทธศาสนาเรียบวุธ ชาติไทยเราเรียบวุธ สถาบันฝ่ายทางกษัตริย์เรียบวุธหมด คือสถาบันนี้เอง ให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้ มันออกไปไหนให้ถามนี่สถาบันมาแล้วเหรอ สถาบันเก่งๆ นี้มาแล้วเหรอ ให้ว่างั้นนะ ไปซอกแซกถามไหนสถาบันไหน เราจะกราบ อยู่ไหนสถาบัน ไปหากราบ เมืองไทยเราไปกราบสถาบันนี้ทั้งประเทศนะ เข้าใจแล้วยัง
สถาบันนี้ใหญ่โตมาก ทำลายทั้งชาติ ทั้งศาสนา ทั้งพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่เคยมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์กาลไหนๆ พึ่งจะมาปรากฏในสถาบันนี้แหละ เป็นสถาบันที่มีฤทธาศักดานุภาพมาก เกินโลกเกินสงสารเขา เราจะได้เห็นสถาบันนี้ เอาละพอ
เมื่อเช้านี้ทองคำได้ ๑๑ บาท ๒๔ สตางค์ ทองคำที่ได้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคมถึงเช้าวันที่ ๓๐ กรกฎา เป็นจำนวนทองคำ ๘ กิโล ๕๑ บาท ๒๘ สตางค์นะ นี่ทองคำที่เราได้ตอนที่หลวงตามา วันที่ ๒๑-๒๒ เราก็จะมาครอบในย่านนี้ วันเสาร์-วันอาทิตย์ ๒๑-๒๒ นี้ ไม่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันมอบทองคำ เราจะมาก่อนหน้านี้เล็กน้อย โดยกำหนดเรียบร้อยแล้วมาถึงวันแล้วก็มอบเลย การมอบทองคำคราวนี้ให้ติดต่อกับทางธนาคารชาติ บอกว่าทางวัดสวนแสงธรรมขอให้ทางธนาคารชาติมารับทองคำจากสถานที่มอบนี้เลย คือสวนแสงธรรมนะ อย่าให้ทางนี้ไปเลย เพราะทางนี้ประชาชนคนจำนวนมากมาย ทางนู้นเพียงรถคันเดียวปั๊บมาเท่านั้นก็พอแล้ว แต่ทางนี้คนเต็มไปหมดแล้วจะเข้าธนาคารชาติไม่เหมาะเลย ว่างั้นเถอะ เพราะคนมากต่อมากจึงขอให้ทางนู้นมารับ ให้เรียนทางธนาคารชาติอย่างนี้ ตกลงเอาวันที่ ๒๑-๒๒ วันใดวันหนึ่งนี้ละเราจะมอบ ไปถึงวัดแล้วสั่งมาอีกทีหนึ่งวันตายตัว
คราวนี้ไม่ขอพี่น้องทั้งหลายที่ขาดทองคำ คือเราต้องการจะให้ได้ทองคำอีก ๑ ตัน ให้ครบทั้งหมดก็เลยเป็น ๑๑ ตัน ที่เรามอบทองคำคราวนี้ เป็นจำนวนทองคำ ๑๑ ตัน ให้ลด ลดไม่ได้เลย ตันหนึ่งก็ไม่ได้ ต้องขึ้น รวมทองคำทั้งสองครั้งนี้เข้าไปแล้วเป็น ๑๑ ตันกว่าเล็กน้อย นี่ละที่เราได้เป็นขวัญใจของพี่น้องชาวไทยเรา ออกมาจากความรักชาติ ความเสียสละด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน เพื่อกู้ชาติของตน ซึ่งพวกเรานั้นแหละทำด้วยความลืมเนื้อลืมตัวจะทำให้ชาติไทยล่มจมลงได้
ทีนี้เราชาติไทยนั่นแหละ รู้เนื้อรู้ตัวด้วยการได้รับคำตักเตือนสั่งสอนจากหัวหน้า มีพุทธศาสนาเป็นสำคัญ แล้วต่างคนต่างตื่นเนื้อตื่นตัวขนทรัพย์สมบัติเข้ามา ทองคำจึงได้ถึง ๑๑ ตันคราวนี้ แล้วดอลลาร์ก็ ๑๐ ล้าน ส่วนเงินสดไม่นับนะ กระจายทั่วประเทศไทย ตามตึกตามโรงพยาบาลสองร้อยกว่าโรง แล้วโรงร่ำโรงเรียนที่ราชการต่างๆ เช่นทางลาดยาวเป็นต้น นี่เป็นเงินสดออกๆ กรุณาทราบตามนี้
เราบริสุทธิ์ใจเต็มเหนี่ยว ดังที่เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่าการทำคราวนี้เราภูมิใจ ที่เราได้อุตส่าห์พยายามเต็มเม็ดเต็มหน่วย กำลังความสามารถมีเท่าไรทุ่ม แม้ชีวิตเราก็ปล่อยเลยเชียว เพื่อชาติเพื่อศาสนาของเรา เพื่อพระมหากษัตริย์ เราสละชีวิตของเรา เราไม่มีกล้า ไม่มีกลัว มีสำคัญตั้งแต่อย่างไรชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จะยังทรงอยู่ให้พี่น้องชาวไทยเราได้กราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจ ตลอดพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่กราบไหว้บูชาของคนทั้งชาติ ได้สืบเนื่องด้วยความถาวรมั่นคงต่อไป เรามุ่งอย่างนั้นนะ เพราะฉะนั้นเราจึงเสียสละทุกอย่าง ไม่มีอะไรเสียดายเลย
ด้วยเหตุนี้ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้จำเอาไว้ด้วย และให้ระลึกว่าความพร้อมเพรียงสามัคคีกันนี้มีคุณค่ามาก เห็นไหมเมืองไทยเราจะจม พลิกตัวขึ้นมาได้ด้วยอำนาจคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นแหละ พลิกตัวขึ้นมาได้ ตื่นเนื้อตื่นตัว ติดหนี้เขาพะรุงพะรัง เวลานี้ฟื้นขึ้นมาหมดแล้ว เห็นไหม นี่เพราะอำนาจแห่งความรู้เนื้อรู้ตัว ประหยัดมัธยัสถ์ การเป็นอยู่ปูวายใช้สอยประหยัดทุกอย่างๆ ไม่ลืมเนื้อลืมตัว แล้วเก็บหอมรอมริบสมบัติที่ได้มามากน้อย เช่นทองคำเป็นต้น เข้าสู่หัวใจของชาติเรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้ ก็ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันกว่า แล้วดอลลาร์ก็ ๑๐ ล้านกว่า นี้เข้าหัวใจของชาติ จากนั้นก็ออกตามอวัยวะของชาติทั่วประเทศไทย โดยทางเงินสด
หลวงตาจึงขอขอบคุณและอนุโมทนากับความรักชาติ ความเสียสละของพี่น้องทั้งหลายด้วยความพลีชีพใส่กัน จากการได้ยินได้ฟังโอวาทคำสั่งสอนของศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า นี่ละจึงขอขอบคุณและอนุโมทนากับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย และขอความสามัคคีนี้จงคงเส้นคงวาหนาแน่นอยู่กับพี่น้องทั้งหลายตลอดไป หนึ่งความรักชาติ สอง ความเสียสละสมบัติเพื่อชาติ เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์ของตน
ให้ต่างท่านต่างเป็นผู้รักเป็นผู้สงวนไว้เต็มที่เต็มฐานในหัวอกด้วยกันทุกคน และพร้อมที่จะเสียสละเพื่อชาติ เพื่อศาสนา เพื่อมหากษัตริย์โดยทั่วกัน และขอความสุข ความเจริญ ความสมหวัง จงเป็นไปในท่านทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ
(พระสงฆ์กราบลาหลวงตา) พระไทยเราทั่วประเทศเป็นผู้มีความจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต่างท่านต่างเสียสละออกมาจากการบำเพ็ญสมณธรรม อยู่ด้วยความสงบ เพราะสิ่งเหล่านี้ก่อกวนมาก ต้องออกมาชะมาล้างด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคี เราในนามเป็นหัวหน้าจึงขอขอบคุณและอนุโมทนากับบรรดาพระลูกพระหลานทั่วประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือโดยทั่วถึงกันทั่วหน้ากันเทอญ (สาธุ)
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
|