คนนี้ก่อแต่ความเหม็นคลุ้ง
วันที่ 27 กรกฎาคม. 2547 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

คนนี้ก่อแต่ความเหม็นคลุ้ง

 

 

ผู้กำกับ                 :           จากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย หลวงตาเมตตาให้อ่านให้ลูกศิษย์ฟังทั่วกัน หัวข้อเรื่อง

                          นายกฯจะมัวอุ้มศพเน่าๆ อยู่ทำไม ตอนหนึ่ง

         ใครๆ ก็รู้ว่าท่านรองฯวิษณุ เครืองาม ได้พ้นจากหน้าที่การกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๔๗ โดยมี พ่อใหญ่จิ๋ว พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ รองฯฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้เข้ามาทำหน้าที่แทน และทันทีที่เข้ามารับหน้าที่ "พ่อใหญ่จิ๋ว" ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ที่ประทับอาคารวชิรญาณสามัคคีพยาบาล ชั้น ๖ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กราบทูลให้พระองค์ทรงทราบว่า ใต้ฝ่าบาทได้เข้ามารับสนองงานพระพุทธศาสนาแล้วนับแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งพระองค์ก็ทรงรับรู้ต่อคำกราบทูลนั้นด้วยพระสติสัมปัญญะอันบริบูรณ์ เพียงแค่ "พ่อใหญ่จิ๋ว" เดินทางไปประชุม ณ กรุงปักกิ่ง ๓ วันเท่านั้น ก็ถูกมือดีดอดออกแถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง อาการพระประชวรของสมเด็จพระสังฆราช ถูกนำออกประกาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ ของกรมประชาสัมพันธ์ ในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๗

         เนื้อความในแถลงการณ์ทำเอาผู้คนแตกตื่นกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง โอ้..สมเด็จพระสังฆราช องค์พระสังฆบิดรของพุทธศาสนิกชน ทรงมีพระอาการประชวรเพียบหนักถึงเพียงนี้เชียวหรือ ผู้ประกาศข่าวช่อง ๑๑ รายงานเป็นระยะๆ ว่า "แถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระอาการประชวรของสมเด็จพระสังฆราช  ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เสด็จเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ดังที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เคยออกคำชี้แจงสรุปรายงานพระอาการประชวร เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๔๗ แล้วนั้น ขณะนี้ยังคงประทับรักษาพระอาการที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นปกติ และอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์เป็นอย่างดี

            รัฐบาลได้รับทราบรายงานทางการแพทย์ล่าสุดในวันนี้สรุปได้ว่า ในระยะหกเดือนที่ผ่านมา พระอาการบางโรคยังคงทรุดลงบ้างเป็นระยะๆ บางครั้งมีพระอาการรุนแรง เนื่องจากมีพระชนมายุสูงกว่า ๙๐ พรรษา ประกอบกับพระประชวรด้วยพระโรคเรื้อรังหลายโรค พระอาการเจ็บป่วยบางอย่างมีลักษณะเฉียบพลัน และรุนแรงบ่อยขึ้นกว่าเดิม บางครั้งแพทย์ต้องถวายเครื่องช่วยหายพระทัยในเวลาบรรทม ทั้งนี้ได้ถวายการทำกายภาพบำบัด ควบคุมพระกระยาหาร และถวายพระโอสถอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว คณะแพทย์จึงเสนอความเห็นว่า ควรทรงได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่และได้รับการถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลได้แจ้งคณะแพทย์ว่า ขอให้ถวายการรักษาเต็มกำลังความสามารถ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกแก่คณะแพทย์ทุกประการ และในระหว่างนี้เห็นว่าหากงดการปฏิบัติศาสนกิจหรือรับแขกที่มาเข้าเฝ้าโดยไม่จำเป็น การทรงงานใดๆ ที่ถวายให้ทรงวินิจฉัยสั่งการหรือการลงพระนามไว้ก่อน จนกว่าพระอาการดีขึ้น น่าจะเป็นการดีต่อพระพลานามัย ทั้งนี้รัฐบาลจะได้สรุปพระอาการที่ได้รับรายงานจากคณะแพทย์ให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ ต่อไป แถลงการณ์ฉบับนี้ไม่ปรากฏชื่อและตำแหน่งของผู้ออกแถลงการณ์

         จากความตื่นตระหนก และด้วยความห่วงใยของผู้จงรักภักดีแด่องค์สมเด็จพระสังฆราช คณะลูกศิษย์สายธรรมยุตที่เป็นพระวัดป่าจึงเดินทางเข้าตรวจสอบถึงแหล่งที่มาของแถลงการณ์ฉบับนี้ ณ สำนักนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่หลายท่านต่างค้นหาแถลงการณ์กันโกลาหล ไม่ปรากฏว่ามีอยู่ในสารบบของการออกเอกสารใดๆ ในสำนักนายกรัฐมนตรี  เมื่อคณะพระวัดป่าเดินทางไปขอทราบที่มาของเอกสารฉบับนั้นจากสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์ จึงได้รับการเปิดเผยถึงแหล่งที่มาว่า ได้รับทางแฟ็กซ์จากเลขาของนายวิษณุ  เครืองาม รองนายกฯ พร้อมกับยื่นเอกสารฉบับนั้นให้ดู จึงปรากฏคำสั่งของรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า "ห้ามนำออกอากาศจนกว่าจะได้รับแจ้ง ลงลายมือชื่อปราโมทย์ วันที่ ๑๕ ก.ค. ๒๕๔๗

            เพียงชั่วข้ามวันจึงมีประกาศพระราชกำหนด แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๔๗ ในมาตรา ๑๐ เกี่ยวกับการพิจารณาแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เรื่องนี้ที่ไปที่มาค่อนข้างยาวขอสาวต่อวันพรุ่งนี้ครับ ! ณ. หนูแก้ว

หลวงตา        :        คำว่าศพเน่าๆ คือใคร ใครก็รู้กันหมด เพราะคนนี้ก่อแต่ความเน่าเฟะๆ เหม็นคลุ้งไปทั่วประเทศไทยคือคนนี้เอง จะหาสารประโยชน์มาให้ชาติไทยได้ยินได้ฟังพอเป็นสิริมงคลไม่มี มีแต่แบบเน่าเฟะๆ อยู่อย่างนี้ ไปไหนก่อแต่ความเดือดร้อนวุ่นวาย ความแตกความแยก ความสมัครสมานไม่มี

         (มีโยมมาถวายทองคำ) คราวนี้ทองคำเราอย่างน้อยที่กำหนดไว้นี้ รวมทั้งหมดในการช่วยชาติคราวนี้ของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ รวมทองคำจะได้น้ำหนักไม่ต่ำกว่า ๑๑ ตัน ๑๑ ตันนี้แน่นอน เวลานี้ ๑๐ ตันกว่ามอบเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็จะมอบอีก รวมแล้วให้ได้ทั้งหมด ๑๑ ตัน คราวนี้จะมอบทั้งหมด ทองคำคราวนี้รวมทั้งหมดจะได้ ๑๑ ตันกว่า คิดว่ากว่าแน่ หนึ่งบาทต้องกว่าแหละ ให้ลดกว่านั้นไม่ลด นอกจากจะคืบขึ้นไปเรื่อยๆ จึงต้องนับตั้งแต่ทองคำ ๑๑ ตันกับ ๑ บาทขึ้นไปเลยละ ส่วนดอลลาร์ก็มาเรื่อยๆ อย่างนี้ละ เงินสดก็มาเรื่อย

          

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก