ทำลายสถาบันของตน
วันที่ 15 กรกฎาคม. 2547 เวลา 8:10 น. ความยาว 43.12 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

ทำลายสถาบันของตน

ก่อนจังหัน

ฟัง การปัดกวาดลานวัดถ้าวันไหนฝนตกก็ไม่ต้องปัดกวาดตามเวลา ถ้าฝนตกไม่ควรปัดกวาดได้ก็งดไป แล้วไปกวาดเอาตอนเช้า ถ้าตอนเช้าฝนตกอีกก็งดไปอีก คือไม่กวาดถ้าฝนตก ปัดกวาดด้านในบริเวณศาลาที่ขบที่ฉัน ข้างนอกก็ปล่อยไว้ก่อนจนกว่าว่ามันแห้งแล้วก็กวาดตามเวล่ำเวลาไปเลย ให้พากันสนใจในข้อวัตรปฏิบัติซึ่งเป็นเครื่องประดับพระเณรเราให้สวยงาม ข้อวัตรปฏิบัติสำคัญมากนะ ครูบาอาจารย์ไม่เคยละเว้น เป็นประจำข้อวัตรปฏิบัติให้ติดแนบกับตัวเสมอ ให้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติทุกคนๆ อย่ามองใจผู้อื่นผู้ใด กิริยาของผู้อื่นใดว่าผิดว่าถูกมากยิ่งกว่ามองดูความเคลื่อนไหวของตัวเอง ซึ่งออกไปจากใจ ให้มองตัวนี้ ตัวนี้แหละตัวแสดงอาการต่างๆ อยู่ตลอดเวลา คิดดีคิดชั่วต่อผู้อื่นออกจากนี้ทั้งนั้น

คิดชั่วให้คนอื่น นึกว่าเขาชั่ว ตัวคิดว่าเขาชั่ว ไม่ได้ว่าตัวเอง คนเราจึงเพ่งแต่ข้างนอกไม่มองดูข้างใน เลยไม่รู้ตัวเองว่าบกพร่องอย่างไรบ้าง การภาวนาดูภายใน คือดูใจของตนเอง เรื่องภาวนาเป็นเรื่องละเอียดสุดทีเดียว นักภาวนาถ้าได้ขึ้นเวทีต่อกรกับกิเลสแล้วออกมา จะพูดได้อย่างฉะฉานไม่สะทกสะท้าน เพราะผ่านมาหมดแล้วเรื่องวิชาการรบกับกิเลสด้วยอรรถธรรมเป็นอาวุธนะ ให้พากันตั้งอกตั้งใจ จะให้พร

หลังจังหัน

         ผู้กำกับ หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ประจำวันนี้ ขึ้นต้นว่า

เหยียบย่ำทำลายพระพุทธศาสนาชัด

ถ้าจะมองพฤติกรรมเหยียบย่ำทำลายพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านไม่ต้องไปดูที่ไหน ขอให้ดูได้จากเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้น ณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกของมหาเถรสมาคม นัดประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๔๗ วันนั้นได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง พระวัดป่าระดับเจ้าคณะตำบล ระดับเจ้าสำนัก ระดับวิปัสสนาจารย์ชั้นสูง จำนวน ๖ รูป พร้อมด้วยสานุศิษย์ที่เป็นสตรี ๒ คน ชายอีก ๓ คน ได้ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ในพื้นที่ที่จำกัด นับเป็นเวลานานกว่า ๓ ชั่วโมง ท่านเหล่านั้นต้องจำทนต่อสภาพอากาศอันร้อนอบอ้าว ต้องทนต่อการกระหายน้ำ ต้องทนต่อเสียงด่าทอประณามและเยาะเย้ยถากถางด้วยถ้อยคำที่ก้าวร้าวรุนแรงตลอดระยะเวลา

เสียงนั้นดังออกจากลำโพงขนาดใหญ่ ซึ่งมีระยะห่างจากจุดที่ถูกกักกันประมาณ ๕๐-๖๐ เมตร และห่างจากห้องประชุมมหาเถรสมาคมประมาณ ๑๐๐ เมตรเท่านั้น ทั้งยังต้องถูกกดดันทางด้านจิตใจอย่างแสนสาหัส เพราะเสียงนั้นเป็นเสียงปลุกระดมยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมนับเป็นร้อยๆ คน ให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังโกรธเคือง และกระหายที่จะพุ่งเข้าทำร้ายได้ทุกวินาที ถึงจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภอ.พุทธมณฑล ประมาณ ๑๐ นายมาทำหน้าที่คอยขวางกั้นห้ามปราม แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจอยู่ดี กำลังตำรวจน้อยเพียงเท่านั้นนับประสาอะไรที่จะมากั้นฝูงชน ที่กำลังอยู่ในอาการโกรธแค้นอย่างหนัก เป็นใครบ้างจะไม่มีอารมณ์โกรธ ในเมื่อพระผู้ใหญ่ใน ม.มหาจุฬาลงกรณ์ฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในการพูดปลุกระดมมวลชนมานานนับสิบปี เป็นคนพูดปลุกเร้าจิตใจทำนองว่า คนที่ถูกกักขังเหล่านั้นแหละ คือผู้ทำลายชาติ ทำลายศาสนา ทำลายมหาเถรสมาคม ล้มล้างกฎหมายสงฆ์ และต่อต้านการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นับร้อยแปดพันเก้าที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาพูด ซึ่งใช้เวลาในการพูดปลุกเร้าระดมเป็นเวลานานกว่า ๓ ชั่วโมง

สภาพของผู้ถูกปลุกระดมมีทั้งพระนิสิตหนุ่ม สามเณรน้อย และประชาชนทั้งชายหญิง ผู้มีจิตใจรักชาติรักศาสนา ต่างก็เกิดอาการกระเหี้ยนกระหือรือจะบุกเข้าขยี้เหยื่อเพียงหยิบมือนั้นให้สาสมแก่ใจ

คิดดูเอาเองเถิดท่านผู้ชม สำหรับผู้ที่ตกอยู่ในภาวะขั้นร้ายแรงอย่างนั้น ท่านจะเกิดอาการกดดันทางจิตใจอย่างใดบ้าง แรกๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ไปเป็นเพื่อนอยู่ด้วยสองสามคน พอเห็นท่าจะไม่ปลอดภัย ต่างคนต่างก็พากันขึ้นไปหลบบนอาคารหมด ทิ้งให้เหยื่อ ๗-๘ ท่านรอวินาทีถูกบดขยี้ สองถึงสามครั้งที่เหยื่อเหล่านั้นพยายามจะขึ้นไปอยู่บนอาคาร แต่ก็ถูกประตูทางขึ้นที่มีอยู่เพียงบานเดียวถูกปิดล็อกสนิทเข้าไม่ได้ พระจากกลุ่มปลุกม็อบรูปหนึ่งได้โผล่หน้าออกมาทางหน้าต่าง พยายามใช้ถ้อยคำอันไพเราะปฏิเสธการขอกลับขึ้นมาด้านบนว่า อย่าเลยท่านครูบาอาจารย์ ท่านอยู่ตรงนั้นแหละดีแล้ว อย่าขึ้นมาเคลื่อนไหวด้านบนเลยมันไม่ดีหรอก คนเป็นจำนวนมาก เดี๋ยวผมห้ามไม่อยู่ท่านจะเป็นอันตรายเปล่าๆ เชื่อผมเถอะ ท่านอยู่ตรงนั้นแหละดีแล้ว

ใครอย่าปฏิเสธนะว่าไม่ได้มีเจตนากักกันมนุษย์ให้เสื่อมเสียอิสรภาพ ถ้าพระป่ากับคณะศิษย์จะกลับออกไปเมื่อไรก็สามารถออกไปได้ตลอดเวลา แต่ต้องกล้าเสี่ยงฝ่ากลุ่มชน ม็อบที่กำลังเตรียมกลุ้มรุมทำร้าย ถ้าเป็นคุณบ้างล่ะ คุณจะกล้าเสี่ยงชีวิตฝ่าฝูงชนออกไปมั้ย ขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ตั้งสองแถวกันฝูงชนนั้นไว้แล้ว กับตำรวจอีกสี่ห้านายขนาบข้างร่างของนายทองก้อนขึ้นรถตำรวจ นายทองก้อนยังถูกรุมตีอย่างป่าเถื่อน ได้รับบาดเจ็บ แล้วพวกเราซึ่งจะนำครูบาอาจารย์กลับออกไป พวกเขามีฝูงชนมากก็จะยำจนเละ อาจจะตายหรือบาดเจ็บอย่างหนัก

ให้รู้สึกเสียดายข้าวปลาอาหารที่ประชาชนต่างก็เทิดทูนเหนือหัว เพื่อถวายให้พระภิกษุสามเณรเหล่านั้นได้ฉัน นึกเสียดายสถาบันการศึกษาสงฆ์ระดับสูง ที่มิอาจล้างจิตสำนึกและกำจัดกิเลสของพระเณรเหล่านั้นได้หมด ไม่เคยนึกเคยคิดเลยว่า พระเณรที่ชาวบ้านเขาถวายอาหารประณีตให้ขบฉันในแต่ละมื้อๆ จะมาก่อการปลุกระดมให้ฆ่าคน

                                                            ณ หนูแก้ว

หลวงตา เรื่องก็ชัดเจนหมดแล้วนี่ ไม่มีอะไรอีกละ เขาพูดชัดเจนตามความเป็นจริงที่ได้รู้ได้เห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู อยู่ในเหตุการณ์นำมาพูด จึงไม่มีอะไรที่เป็นการขัดแย้งกัน ผู้ฟังก็ฟังตามความจริงนั้น ให้นำไปปฏิบัติ พี่น้องทั้งหลายนี้เป็นเจ้าของของชาติของศาสนาทุกๆ ท่านไม่ใช่เหรอทั่วประเทศไทยเรา เรื่องที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นเรื่องทำลายทั้งชาติทั้งศาสนาให้แหลกเหลวไปในภาพของพระเณรที่ว่าศึกษาสูงๆ นั้นแหละ ที่มาทำลายอยู่ในพุทธมณฑลวันนั้น ดูเห็นแจ้งชัดกันแล้วทั่วหน้ากัน นี่เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาแล้วเหรอ พิจารณาซิ ล้วนแล้วแต่ผู้เรียนศีลธรรมมาทั้งนั้นพวกเหล่านี้ ทำไมจึงนำศีลธรรมพระพุทธเจ้ามาเหยียบย่ำทำลาย ซึ่งเท่ากับเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปในขณะนั้น เราพูดได้เพียงเท่านั้น

การทำอย่างนี้ พวกเขาอยู่ตามท้องนาเขายังดีกว่าพวกนี้หลายเท่าทีเดียว เขาไม่ก่อความวุ่นวายทำลายชาติทำลายศาสนาให้เห็นต่อหน้าต่อตาของชุมนุมชนทั้งประเทศ นี่ก็มาทำได้ลงคอ หยาบขนาดไหน ท่านทั้งหลายพิจารณาก็แล้วกัน จะเอาเป็นคติตัวอย่างอยู่เหรอพวกนี้น่ะ พิจารณาให้ดีนะ เพียงแสดงขึ้นเพียงเท่านี้ก็ขนาดนั้นแล้ว กระเทือนไปหมด

เรื่องคุณทองก้อนนั้นก็ได้พูดให้ท่านทั้งหลายฟังแล้วด้วยอรรถด้วยธรรม ไม่ได้ผิดพลาดจากศีลธรรมไป คุณทองก้อนนั้นตัดคอรองพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ สละชีวิตจนถูกเขาทุบเขาตีเอาวันนั้นจนหัวโนไป แล้วเขาก็ไปแจ้งความว่าพวกนี้ไปทำร้ายเขา ฟังซิคำพูดเช่นนี้ฟังได้ไหม พวกนั้นละพวกที่มาทำลาย แล้วไปแจ้งความว่าถูกทำร้าย ฟังเอาซิ มันพลิกไปอย่างไรบ้าง ภาษามนุษย์เป็นอย่างนี้เหรอ ถ้าไม่ใช่ภาษาสัตว์ เป็นภาษามนุษย์จะแสดงกิริยาอย่างนี้ออกมาไม่ได้ เพราะไม่มีใครต้องการ นอกจากพวกที่มักใหญ่ใฝ่สูง เป็นบ้าลาภบ้ายศเท่านั้นเอง บ้าอำนาจ แสดงฤทธิ์เดชของความเลวร้ายของส้วมของถานออกมา ให้ประชาชนเปรอะเปื้อนไปหมด กระเทือนไปหมดทั่วประเทศไทย เป็นของดีแล้วเหรอพิจารณาซิ พูดเท่านั้นละวันนี้

เราปฏิบัติหน้าที่ต่อพุทธศาสนาและประชาชนมาก็พึ่งมาเห็นคราวนี้ ที่เลวร้ายที่สุดในวงพุทธศาสนา ในวงพระวงเณรของเรา มีตั้งแต่เรียนสูงๆ จากมหาวิทยาลัยนั้นมหาวิทยาลัยนี้ พูดแบบโก้ๆ ออกมา การแสดงออกมีแต่เรื่องเปรตเรื่องผีเรื่องยักษ์เรื่องมาร มันก็เข้ากับมหาวิทยาลัยที่ว่าเรียนสูงๆ นั้นไม่ได้เลย นี่เรียกว่าไปทำลายสถาบันของตนให้แหลกเหลวไปหมดนั่นแหละ พ่อแม่ที่ส่งลูกเข้ามาเรียนมาศึกษามาปฏิบัติ ไม่ได้ส่งมาเพื่ออย่างนี้ แต่ลูกๆ เข้ามาคบค้าสมาคมกับมหาโจรมหาภัยอันธพาลแล้ว มันก็เป็นไปได้อย่างนี้ดูเอา

การคบค้าสมาคมท่านแสดงไว้ อเสวนา จ พาลานํ อย่าคบคนพาลสันดานหยาบ ที่จาบจ้วงไปได้ทุกแบบทุกฉบับไม่มียางอาย ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา ให้คบบัณฑิตนักปราชญ์ผู้มีศีลมีธรรมนำไปปฏิบัติ ก็เป็นสิริมงคลแก่ตนและส่วนรวม อันนี้เป็นภาษิตพระพุทธเจ้าแสดงไว้แล้วในมงคล ๓๘ ประการ ท่านทั้งหลายก็ได้ยินได้ฟังแล้ว มีเท่านั้นละวันนี้ไม่พูดอะไรมาก

ทองคำเราก็จวนแล้วเดี๋ยวนี้ จะให้ได้อีกหนึ่งตันที่มันคี่อยู่นั้น จึงขอจากบรรดาพี่น้องทั้งหลายแบบออดแบบอ้อน ไม่ขู่ไม่เข็ญไม่เด็ดไม่ขาดเหมือนแต่ก่อน พลิกเปลี่ยนนั้นแล้ว เพราะอันนี้เป็นเรื่องพิเศษ ตามอัธยาศัยของพี่น้องชาวไทยที่รักชาติตัวเอง จะได้นำเข้าไปอุดหนุนชาติไทยของเราให้มีความแน่นหนามั่นคงอุ่นหนาฝาคั่งทั่วประเทศไทย จึงได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ทองคำทั้งหมดนี้แม้สตางค์หนึ่งหลวงตาไม่เคยแตะ เงินก็เหมือนกัน สมบัติทั้งหลายที่ได้มาจากการบริจาคของพี่น้องทั้งหลายเรารักสงวนมาก สมกับความเมตตาที่เราร้องโก้กเพื่อช่วยชาติ เราไม่ไปแตะต้องแม้นิดหนึ่งเลย ใครจะหาเรื่องใส่เราขนาดไหนก็เป็นเรื่องของเขาหาเอง หาใส่เขาเองไม่ได้หาใส่เรา เราไม่มีเรื่องอย่างนั้น มีแต่ความดีงามที่ทำประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองอย่างทุกข์ยากลำบาก

อายุขนาดนี้แล้วยังตะเกียกตะกายอยู่ตลอดเวลา นี้ก็เพราะพี่น้องชาวไทยเรานั้นแหละ เราไม่หวังอะไรเลยเราพูดได้อย่างเต็มปาก ว่าเราบริสุทธิ์สุดส่วนในการช่วยชาติคราวนี้ เราจะหาที่ไหนมาเป็นประวัติศาสตร์ เราอยากจะพูดว่าหาไม่ได้แล้ว ว่างั้นเลย นี่เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ใจของเราก็บริสุทธิ์สุดส่วนแล้วมาได้ ๕๔ ปี เพราะฉะนั้นสิ่งมัวหมองทั้งหลายซึ่งเป็นเรื่องของกิเลส จึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเราไม่ได้ มีแต่ความบริสุทธิ์ต่อพี่น้องทั้งหลายทั่วหน้ากันตลอดมา

ได้มากได้น้อยไม่ไปไหน ใครจะว่าอะไรท่านทั้งหลายให้ฟังเสียงธรรม อย่าฟังเสียงมูตรเสียงคูถ เสียงมูตรเสียงคูถเป็นแต่เพียงเสียงส้วมเสียงถานนั่นแหละมันออกมา เสียงอรรถเสียงธรรมมีให้ฟังกัน นี้แสดงออกมาตั้งแต่วันเริ่มช่วยชาติกับพี่น้องทั้งหลายมา มีแต่ความบริสุทธิ์ มีแต่ความเมตตาล้วนๆ เราไม่เคยหยิบอะไรเข้ามาเป็นมลทินต่อหัวใจเราซึ่งเป็นธรรมล้วนๆ นี้เลย เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกสัดทุกส่วน อย่างเขาที่ซอกแซกหาอยู่เวลานี้ เขาเรียก ปปช.หรืออะไร (ปปช.ครับ) ปราบปรามอะไรว่าซิ (ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติครับ และอีกอัน ปปง.ครับ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตด้านการเงินของชาติเหมือนกัน มีสองหน่วยงานครับ)

นี่เขาก็เขียนจดหมายร้องเรียนเข้ามาหาพวก ปปช. ปปง. นี่เหรอ ให้มาสอบถามสืบเรื่องราวของเราที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคนั้น เอาไปใช้ในทางใดบ้างๆ ถ้าผิดพลาดอะไรก็จะจับเราเข้าคุกเข้าเรือนจำ ท่านทั้งหลายฟังเอานะ พวกเปรตพวกผีนี้ไม่ได้หากินในทางที่ถูกที่ดี หาแต่เรื่องความสกปรกรกรุงรังใส่ชาติบ้านเมือง เรานี้สุดกำลังแล้วที่ช่วยชาติคราวนี้ ไม่มีอะไรเหลือ หากจะมาสอบถามเราก็ไม่มีอะไรที่จะตอบจะรับ เพราะเราทำด้วยอรรถด้วยธรรม ด้วยความบริสุทธิ์ใจล้วนๆ  ไม่มีพวกส้วมพวกถานที่จะมาทำเปรอะทำเปื้อนให้เราอย่างนี้ เราไม่มี หากจะมาสอบถามเรื่องราวอะไรเราก็ไม่มีคำตอบ ถ้าอยากจะดูก็ให้ไปดูตามสถานที่ที่พอดูได้ เช่น โรงร่ำโรงเรียน สถานสงเคราะห์ โรงพยาบาล ที่ราชการต่างๆ นี่พอดูได้ ไปเที่ยวหาดูเอา

นอกจากนั้นดูไม่ได้เราก็ยอมรับว่าดูไม่ได้ แต่เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง ทั้งดูได้และดูไม่ได้ เรียกว่าบาทหนึ่งเราไม่เคยแตะ ฟังเท่านี้ก็แล้วกัน หากจะมานำเราเอาไปเป็นผู้ต้องหาฟ้องร้องเรื่องความทุจริตนี้ก็ให้เอาไปได้เลย หลวงตานี้ตัดคอรอง จะไม่วินิจฉัยในเรื่องนี้เลย เพราะเราทำด้วยความเป็นธรรมล้วนๆ อันนี้เป็นเรื่องสกปรกที่จะมาทำความแปดเปื้อนแก่หัวใจเราที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเต็มไปด้วยเมตตาต่อพี่น้องทั้งหลาย เราจึงไม่มีอะไรที่จะตอบรับกับพวกนี้เลย เพราะเป็นธรรมล้วนๆ แล้ว กรุณาทราบตามนี้

มาหาสอบหาถามอย่างนี้แหละ คนทำชั่วเต็มบ้านเต็มเมือง แทนที่จะไปหาจับเอาความผิดความพลาดเขามากักมาขังไว้ เพื่อคนผู้ดีทั้งหลายจะได้นอนตาหลับบ้างไม่ยอมไปจับ ไม่ยอมไปเสาะแสวงหาความผิดพลาดของเขา แต่มาเสาะแสวงหาความถูกต้องของเราให้กลายเป็นความผิดพลาดไปอย่างนี้ ท่านทั้งหลายให้ฟังเอานะ พวกนี้มีแต่พวกทำลายถ่ายเดียวโดยลำดับลำดามาไม่มีชิ้นดีเลย คิดดูซิทองคำหนึ่งบาทก็ไม่เคยยื่นเข้ามาใส่ส่วนรวมคือหัวใจของชาติเรา ดอลลาร์หนึ่งดอลล์ก็ดี เงินหนึ่งบาทก็ดี พวกนี้ไม่เคยเอาเข้ามาสอดใส่ นอกจากที่จะไปเที่ยวกั้นกางหวงห้าม ใช้อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ทุกแห่งทุกหนที่บรรดาประชาชนทั้งหลายสร้างความดีงามใส่ชาติของตน ไปบีบบังคับทุกแง่ทุกมุม เป็นมาตั้งแต่เราเริ่มออกช่วยชาติเรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้

แต่บรรดาพี่น้องทั้งหลายไม่สนใจ ทำหน้าที่เพื่อชาติของตนด้วยความรักชาติ ด้วยความเสียสละเรื่อยมา จนกระทั่งเราได้ทองคำเวลานี้ ๑๐ ตันกว่าแล้ว เริ่มจะเข้าถึง ๑๑ ตันแล้ว และดอลลาร์ก็ได้ ๑๐ ล้านกว่า ส่วนเงินสดนั้นทั่วประเทศไทย นี่ล้วนแล้วตั้งแต่น้ำใจแห่งความรักชาติ ความเสียสละของพี่น้องทั้งหลายทั้งนั้นที่รวมกันมาช่วยกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย พวกนี้ไม่ได้มีอะไร มีแต่เรื่องก่อกรรมทำเข็ญดังที่เห็นในพุทธมณฑลวันนั้น ก็คือพวกนี้เองไม่ใช่พวกไหน ก่อต้นก่อรากก่อเหง้า ก่อมาเพื่อความพินาศฉิบหายแก่ชาติแก่ศาสนาโดยถ่ายเดียวๆ เท่านั้นไม่มีอย่างอื่น ท่านทั้งหลายพิจารณาซิ เวลานี้เสี้ยนหนามกำลังเกิดในประเทศไทยของเรา

จุดพุทธศาสนาเป็นจุดที่ให้ความร่มเย็นแก่โลก เวลานี้กลายเป็นจุดสนามรบของหมากัดกันไปแล้วเวลานี้ ไม่มีเหตุมีผลอะไรเลย จะเอาให้ได้อย่างใจๆ จนเกิดความเดือดร้อนเสียหายทั่วประเทศไทย พวกนี้ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย ก่อเรื่องใดขึ้นมามีแต่เรื่องจอมปลอมๆ เข้ามายุแหย่ก่อกวน ระงับกันลงไปด้วยอรรถด้วยธรรมหลายครั้งหลายหน แล้วก่อขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างนี้ ดูเอาซิพวกนี้เป็นพวกเช่นไร ท่านทั้งหลายดูเอา หูมีตามีใจมีทุกคน เราเป็นเจ้าของของชาติ เจ้าของสมบัติแห่งชาตินี้ จะปฏิบัติยังไงต่อสิ่งเหล่านี้ ให้พากันคิดทุกผู้ทุกคน อย่าใจจืดใจจางว่างเปล่าเฉยๆ ชาติและศาสนาจะล่มจมไปด้วยความจืดจางของใจและด้วยความเข้มข้นแห่งความชั่วช้าลามกของคนประเภทนี้เอง จำให้ดีนะ เอาละจะให้พร

โยมในครัวกราบเรียนถามปัญหาธรรมะ หนูไม่เข้าใจเรื่องที่หลวงตาเคยชี้แนะเรื่องที่ว่า เวลาจิตตกอยู่ในความว่างแล้วหลวงตาบอกว่า ให้ใช้สติจ่อรู้อยู่กับความว่าง เพราะว่าพอจิตเจริญแล้ว ก็ใช้จิตดูแล้วพอสักพักนึงนี้มันก็จะทำท่าว่าจะหลอก

หลวงตา สติอยู่กับความว่าง ความว่างมันแปรได้นี่นา

โยม เพราะว่าจิตหนูไม่เกาะอยู่กับคำบริกรรมเจ้าค่ะ

หลวงตา ความว่างมันแปรได้ในขั้นที่แปรได้ ความว่างที่ตายตัวมี เราจะพูดให้ฟังความว่าง จิตเข้าสู่ความสงบมันก็ว่างในขั้นสติ ในขั้นสมาธิสงบ ความสงบในขั้นนี้เป็นความว่างในขั้นนี้ ความสงบในสมาธิเป็นความว่างในขั้นสมาธิ นี่แปรได้ทั้งนั้นเหล่านี้นะ และเข้าถึงขั้นว่างแห่งภูมิจิตภูมิธรรมก็ว่าง อันนี้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นี่ ว่างจนกระทั่งถึงจิตว่างหมดวางหมดปล่อยหมด นั้นว่างโดยประการทั้งปวง ว่างโดยหลักธรรมชาติเข้าใจไหมล่ะ มันว่างไปโดยลำดับๆ นะจิต

เวลาจิตเข้าสู่ความสงบมันก็ปล่อยอารมณ์มันก็ว่าง พอจิตเข้าสู่สมาธิ อารมณ์ละเอียดเข้าไป ปล่อยเข้าไป ว่างแนบแน่นเข้าไป นี่เป็นขั้นว่างที่สอง ออกจากนั้นมาแล้วมันก็ไม่ว่าง มันเปลี่ยน ทีนี้จิตว่างตามฐานของตนที่ชำระได้ตามทางฝ่ายรูปฝ่ายอะไรนี้หมดปัญหาไป เหลือแต่นามธรรมเป็นอารมณ์ที่ว่างอยู่ในภายในใจนั่นแหละ นี่ว่างในฐานของจิตเข้าใจเหรอ จากฐานของจิต

จิตคุ้ยเขี่ยขุดค้นเอารากฐานที่พาให้ไม่ว่างให้ยุ่งให้เกิด แก่ เจ็บ ตายออกหมดแล้วนั้น เรียกว่าว่างโดยประการทั้งปวง ว่างนี้ไม่เปลี่ยนแปลง จิตว่าง จิตพระอรหันต์ว่างไม่เปลี่ยนแปลง จิตพระพุทธเจ้า จิตพระอรหันต์ว่าง คือว่างประเภทนี้ ถอนรากถอนโคนแห่งความไม่ว่างนั้นออกเสีย ทีนี้ก็ว่างโดยประการทั้งปวง เข้าใจแล้วเหรอ เป็นขั้นๆ เวลามันอยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้นเสียก่อน สติเป็นสำคัญอย่าปล่อยสตินะ

โยม หนูออกจากสมาธิแล้วมันยังว่างค่ะ พอเคลื่อนไหวอยู่ในอิริยาบถอื่น หรือมีคนมาคุยด้วย คราวนี้ละค่ะจะจ่อสติไม่เป็นค่ะ

หลวงตา มันว่างก็ให้มันรู้ว่ามันว่าง ไหนว่าไง

ผู้กำกับ ออกจากภาวนาสมาธิแล้วก็ยังว่างอยู่ แต่พอไปพูดคุยกับคนอื่น มันจะเสื่อมครับ

หลวงตา ก็ยังบอกแล้วความว่างมันก็ยังเสื่อม มันเปลี่ยนก็บอกแล้วนี่น่ะ

โยม หนูจะเห็นว่าเวลากิเลสจะเกิด กับเวลาธรรมจะเกิดนะค่ะ อยากทราบว่าเวลาจะต้องพูดคุย หรือเคลื่อนไหวไปมาจะปฏิบัติไม่ค่อยถูก แล้วคราวนี้ไม่ทราบว่าจะต้องอยู่คนเดียวหรืออย่างไร

ผู้กำกับ พอเวลาไปพูดคุยกับคนอื่นแล้วเขาปฏิบัติตัวไม่ถูก

หลวงตา ถ้าไปหาคุยกับใครมันไม่ดีก็อย่าไปคุยซิ เวลาคุยก็คุยมามากแล้ว เวลาหยุดปากเพื่อผลประโยชน์สำหรับการภาวนาของตนก็หยุดได้นี่ เข้าใจไหมล่ะ พูดอย่างนี้เราเข้าใจหมดนะนี่ มันผ่านมาแล้วทั้งนั้น เข้าใจแล้วหรือ อย่าไปหาคุยกับคนนั้นคุยกับคนนี้ ถ้ามาหาคุยกับหลวงตานี้จะฟาดปากเอานะจะว่าไม่บอก คุยไม่ได้เรื่องได้ราว

นี่แหละที่ว่าอยู่กับใครไม่ได้ มันไม่ว่างงานทุกอย่าง คำว่างานอยู่ในนี้หมดเลย จะไม่ยุ่งกับใครเลย จนกว่าอันนี้ขาดสะบั้นลงไปแล้วคุยกับใครก็ได้ตีปากใครก็ได้ เข้าใจไหม อย่างเดี๋ยวนี้ๆ ตีปากใครก็ได้ หากไม่ตีเท่านั้นเอง เข้าใจไหม ไม่มีอันนี้จะกำเริบ เข้าใจหรือ เอาสติไว้ให้ดี มันว่างก็ให้รู้ว่ามันว่าง เข้าใจหรือ ว่างแล้วตั้งนิมิตขึ้นมา ตั้งนิมิตที่มากีดขวางความว่างขึ้นมา นิมิตนี้มันจะเป็นยังไง ตั้งขึ้นมาแล้วมันจะดับของมันไปเรื่อยๆ ดับจนเหมือนกับแสงหิ่งห้อย แพล็บ ตั้งขึ้นมาเป็นนิมิตแพล็บ ดับพุบๆ เร็วเข้าๆ จากนั้นมาก็เป็นความว่าง จากว่างแล้วก็วาง เข้าใจ สติเป็นสำคัญจำไว้นะ เอาแค่นั้นละ

โยม อีกเรื่องนึงนะเจ้าคะ กราบขอโอกาสค่ะ หลวงตาอย่าพึ่งไม่พอใจหรือว่าจะไล่หนูออกจากวัดเลยนะเจ้าคะ

หลวงตา ก็อย่าหาอุบายให้ไล่ซี อย่างนี้เรารับไว้ทั้งนั้นนี่ เข้าใจไหม เราไม่ได้รับเพื่อไล่ เรารับเพื่ออบรม เพื่อสอน แต่ที่ไม่ดีมันควรไล่ไม่ต้องบอก ไล่ด้วยตีด้วยเข้าใจเหรอ มีเท่านั้นแหละ อะไรอีกล่ะ

โยม หนูกราบเรียนขออนุญาตหลวงปู่ปัญญาไว้นะค่ะ เรื่องจะขอสร้างกุฏิขนาดเล็กหรือว่าแคร่ คราวนี้เป็นความคิดเห็นของหนูเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณแม่ฯ เพราะหนูมีปัญหาเรื่องจิตเจริญแล้วเสื่อมมา ๓ ปีแล้ว

ผู้กำกับ ขอสร้างกุฏิไว้สำหรับตัวเอง ไว้ภาวนาในวัดนี้ครับ

หลวงตา สร้างอะไร อยู่ตามแคร่มันก็อยู่ได้นี่นา หาสร้างโน้นสร้างนี้อย่ายุ่ง ให้สร้างหัวใจนี่ กุฏิสมถะ กุฏิสมาธิ กุฏิปัญญา กุฏิวิมุตติ กุฏิมันอยู่ในนี้ กระต๊อบนี่ เข้าใจเหรอ หาสร้างโน้นสร้างนี้ อย่ายุ่งไม่เอา เดี๋ยวสร้างแล้วก็ทะเลาะกันนะนั่น ในครัวมันทะเลาะกันเร็วนะ เราเคยบอก อย่าทะเลาะกันนะ ทะเลาะแล้วเราไม่วินิจฉัยนะ ไล่หนีเลย เราบอกเพราะเคยผ่านมาพอแล้ว มันรำคาญจะตายแล้วเรื่องเหล่านี้ รับไว้ก็รับไว้ด้วยความอดความทนนะ ให้เข้าใจเหรออย่าปากเปราะนะ ใครอย่าเห็นว่าตัวดี ถ้าใครเห็นว่าตัวดี คนนั้นละจะไปเหยียบย่ำทำลายคนอื่น คนที่เห็นว่าตัวดี ถ้าดูความเคลื่อนไหวของตัวเอง มันออกยังไงๆ ดูตัวนี้แล้วจะดีไปเรื่อยๆ ถ้าไปดูคนอื่นแล้วเลวไปเรื่อยๆ นะ คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี อะไรก็ไม่ดีไปเสียหมด เจ้าของเลวไปหมด เข้าใจไหมล่ะ ไปหาสร้างกุฏิที่ไหน ยุ่งอะไร  มันมีที่ไหนที่สร้างแน่นหมดแล้วนี่นะ

โยม หลวงปู่ปัญญาไปดูแล้วค่ะ

หลวงตา มันมีที่ไหนสร้าง

โยม มีตรงข้างหลังกุฏิคุณหญิงเจ้าค่ะ จะมีที่ว่างข้างหลังต่อแคร่ของอาจารย์....

หลวงตา อยู่มาเท่าไรแล้วอยู่ได้ อย่ามาหายุ่งไม่ได้นะ สร้างนั้นสร้างนี้ขึ้นมาก่อเรื่องให้เราหนักใจ อกจะแตกแล้วนะ มันเป็นยังไง อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้นี่

โยม ขอความเมตตาหลวงตา ไม่ทราบว่าจะมีแคร่ไหนให้หนูอยู่ได้เป็นระยะเวลานานๆ ไม่ต้องย้ายไปย้ายมาได้ไหมคะ

หลวงตา ออกจากวัดไปหาเอาเอง ไป อย่ามายุ่งไม่ได้นะ พวกนี้ยุ่งมากนะ หาเรื่องนั้นหาเรื่องนี้ ดูตัวยุ่งมันไม่ดู ถ้าตัวนี้สงบลงไปแล้วจะไม่ยุ่งกับอะไร เข้าใจเหรอ ตัวนี้พาให้ยุ่ง ถ้าให้นี่แล้วจะเอาอันนั้นจะเอาอันนี้จะเอาอันนั้นเรื่อยไป กิเลส เข้าใจเหรอ ฟาดมันลงนี้แล้วไม่ยุ่งกับอะไร อยู่สบาย  จะไปแล้วนี่ สายแล้ว เอาละทีนี้เราจะไปละ

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com  หรือ www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก