เทศน์ให้สัมภาษณ์คณะหนังสือพิมพ์
เมื่อค่ำวันที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
พระพุทธเจ้าเป็นสกุลแห่งพระป่า
คุณทองก้อน เกล้าขอโอกาส นำคุณเกรียงไกร เป็นนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นี่คุณณรงค์ จากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย คนนี้หนังสือพิมพ์ข่าวสด จะขอโอกาสสัมภาษณ์หลวงตาขอรับ (ที่สัมภาษณ์หลวงตาคืนนี้มีหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ไทยรัฐ สารสวรรค์)
ไทยรัฐ ขออนุญาตสัมภาษณ์เลยนะครับหลวงตา
หลวงตา มีอะไรเอ้าว่ามา เราก็ฟัง
ไทยรัฐ อยากจะถามหลวงตาเกี่ยวกับพระป่า เห็นว่าหลวงตาเป็นพระอาจารย์ใหญ่ของสายพระป่า พระวิปัสสนา คำว่าพระป่าในสังคมยุคปัจจุบัน ในสังคมที่เป็นสังคมยุคใหม่ การรับรู้เรื่องเกี่ยวกับพระป่าและวัตรปฏิบัติของพระป่า อาจารย์ห่วงว่าพระป่าจะหมดไป หรือเลือนหายไปจากความทรงจำของคนในสังคมหรือเปล่าครับ เพราะว่าสังคมมันทันสมัยขึ้น ยุคใหม่ทันสมัยยิ่งขึ้น
หลวงตา ถ้าสังคมทันสมัยแบบกิเลสนี้ศาสนาจะจมได้ พระป่าพระไหนจมได้ทั้งนั้น ถ้าเป็นคนที่ว่าตามสมัย คือธรรมสมัยนะ โลกาสมัย มันต่างกัน สมัยของโลกคือเรื่องของกิเลส หาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้ สมัยของธรรมมีหลักมีเกณฑ์ มีเหตุมีผล ที่นี่ย้อนเข้ามาถึงพระป่าว่าจะสิ้นสุดไปยังไง เป็นยังไง เรื่องเดิมจริงๆ มาจากป่าจริงๆ นะ จากป่าหรือบ้านจริงๆ นี้จะพูดตามตำรับตำราขององค์ศาสดาที่สอนไว้ให้ท่านทั้งหลายได้ฟัง โดยเอาคัมภีร์ออกมาจากหัวใจนี้ เรียนมานี้จำได้นะ
พระพุทธเจ้าเป็นสกุลแห่งพระป่าทั้งมวล สาวกทั้งหลายเป็นสกุลแห่งพระป่าทั้งมวล ตลอดพระป่าทุกวันนี้สืบมาเนื่องมาจากพระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกที่ท่านพาอยู่ในป่าตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ถ้าจะพูดให้ทันสมัยอย่างทุกวันนี้ เขาเรียกว่า มหาวิทยาลัยป่า-มหาวิทยาลัยบ้าน อย่างมหาวิทยาลัยที่เขาตั้งขึ้นทุกวันนี้ คือมหาวิทยาลัยกิเลส มีตั้งแต่วิชาความรู้ของโลกของสงสาร ของกิเลสตัณหาทั้งนั้นเข้าไปเต็มอยู่ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ๆ เอาชื่อของสงฆ์ไปเป็นนามเฉยๆ แต่แล้วเอาคำว่าสงฆ์นั้นแหละเป็นพื้นฐานเหยียบขึ้นของกิเลสทั้งหลาย และตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์นั้น มหาวิทยาลัยสงฆ์นี้ เพื่อให้ไพเราะเพราะพริ้งหยดย้อย ให้กิเลสพวกเดียวกันมันตื่นเต้นเป็นบ้าไปด้วยกัน นี่เรียกว่ามหาวิทยาลัยบ้าน
ทีนี้มหาวิทยาลัยป่าคือพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญอยู่ในป่า ตั้งแต่วันเสด็จออกทรงผนวช บำเพ็ญมาตลอด ๖ ปีได้ตรัสรู้ธรรมในป่า แล้วบรรดาพระสงฆ์สาวกทั้งหลายเข้าไปสดับธรรมจากพระพุทธเจ้าอยู่ในมหาวิทยาลัยป่านั้น ได้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน ขึ้นมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปฐมสาวก คือพระอัญญาโกณฑัญญะ พระวัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ เหล่านี้ ๕ องค์ นี่สำเร็จมาจากมหาวิทยาลัยป่าของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยธรรมชาติแท้ ชำระกิเลส สะสางกิเลส
จากนั้นเวลาประทานพระโอวาทอุปสมบทพระ ในเบื้องต้นขึ้นต้นว่าเอหิภิกขุอุปสัมปทา ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมเรากล่าวดีแล้ว แล้วก็เป็นภิกษุขึ้นทันที ต่อจากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนมา พระองค์เป็นผู้เปลี่ยนเองจึงไม่ผิดพลาดที่ตรงไหน มาขึ้นถึงเป็นสรณะแล้วก็เป็นพระโดยสมบูรณ์ จากนั้นก็ให้เป็นญัตติจตุตถกรรม อย่างทุกวันนี้ สวดญัตติจตุตถกรรม เป็นพระสงฆ์มาจากพระโอวาทของพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน ทีนี้เวลาบวชแล้ว นี่ละพระโอวาทที่สำคัญของพระอยู่ในป่าก็ตาม ในบ้านก็ตาม ที่จะผ่านโอวาทอันนี้ไปไม่ได้เลยแม้องค์เดียว
พออุปสมบทเสร็จแล้ว พระองค์ทรงประทานโอวาท เรียกว่านิสสัย ๔ เครื่องอยู่อาศัยของพระที่ถูกต้องชอบธรรม ๔ ประการ แต่นี้จะยกมาเพียงอันเดียวที่อยู่ในจำนวนนิสสัย ๔ นะ พอบวชเสร็จแล้ว รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย บรรพชาอุปสมบทแล้วให้ท่านทั้งหลายไปเที่ยวอยู่ตามรุกขมูลร่มไม้ ในป่าในเขา ตามถ้ำเงื้อมผา ป่าช้าป่ารกชัฏ ที่แจ้งลอมฟาง อันเป็นความสะดวกแก่การบำเพ็ญสมณธรรม เพื่อความเจริญรุ่งเรืองแห่งธรรมภายในใจของเรา เพราะเป็นสถานที่ไม่ยุ่งเหยิงวุ่นวายกับโลกามิสทั้งหลาย หรือเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวายของโลก และให้พวกเธอทั้งหลายจงทำความอุตส่าห์พยายามอยู่อย่างนี้ตลอดชีวิตเถิด คือไม่เว้นเลยตลอดชีวิตของพระแต่ละองค์ๆ ให้ทำความอุตส่าห์พยายามอยู่ในป่าในเขานี้ตลอดชีวิตเถิด เข้าใจแล้วเหรอ
นี่ละข้อสำคัญที่เป็นต้นรากของสกุลป่าพระป่าของพระพุทธเจ้ามา ทีนี้เวลาพระองค์ใดบวชก็ตามเป็นอุปัชฌาย์ต้องให้โอวาทข้อนี้ ไม่ให้ไม่ได้ ผิด ปลดอุปัชฌาย์ทันที พระโอวาทข้อนี้เป็นโอวาทที่สำคัญมาก ประทานให้แก่สัทธิงวิหาริกผู้บวช แล้วให้ไปอยู่ในป่าในเขาอย่างนี้ เป็นแต่เพียงว่าไม่บังคับ ให้เธอทั้งหลายไปอยู่ในป่าในเขาแล้วก็ให้ทำความอุตส่าห์พยายามอยู่ในสถานที่นั้นตลอดชีวิตเถิด เข้าใจแล้วเหรอ
ไทยรัฐ ครับ หลวงตาครับ คำว่าพระป่ากับพระบ้านมันเกิดขึ้นได้ยังไง
หลวงตา เกิดขึ้นจากพระพุทธเจ้า ตะกี้นี้ก็พูดแล้ว พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาป่า พระป่า พระสงฆ์สาวกทั้งมวล สรณํ คจฺฉามิ ของเรานี้เกิดจากป่าทั้งนั้น เรียกว่าแทบทั้งนั้น ถ้าว่าเปอร์เซ็นต์ก็ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเกิดในป่าในเขา ที่พระองค์ประทานพระโอวาทให้ไปบำเพ็ญ ไม่ได้มาสำเร็จมรรค ผล นิพพาน อยู่ในกระดูกหมูกระดูกวัว ตามท้องตลาดอย่างนี้เราไม่เคยเห็น เข้าใจไหม
ทีนี้ก็มาพระบ้านนั้นก็มี อรัญวาสี คือพระที่อยู่ในป่าเป็นปรกติ เช่นพวกอยู่รุกขมูลร่มไม้ในป่าในเขา คามวาสี ผู้ที่อยู่ใกล้บ้าน ในบ้าน หรืออยู่กลางบ้านก็มี ท่านเรียกว่าวัดบ้านเข้าใจไหม อันนี้ก็มีมา พระองค์ก็ไม่ทรงบีบบังคับประการใด ทรงอนุญาตทั้งสอง ใครอยากจะอยู่ที่ไหนก็ให้อยู่ได้ตามอัธยาศัย แต่พระโอวาทนี้สอนอย่างนี้ด้วยกันหมด คือให้อยู่ในป่าในเขาทั้งนั้น แต่บวชแล้วจะไปอยู่ในบ้านในเรือน ในตลาดลาดเลที่ไหนท่านก็ไม่บังคับ แต่สอนเบื้องต้นสอนให้อยู่ในป่านี้แหละ ให้ทำความอุตส่าห์พยายามอยู่อย่างนี้ตลอดชีวิตเถิด
นี่เรียกว่ารากเหง้าเค้ามูลของพระป่า มาจากพระพุทธเจ้าที่ทรงบำเพ็ญอยู่ในป่า เป็นศาสดาในป่า สาวกทั้งหลายตรัสรู้ธรรมในป่า ทีนี้บรรดาพระทั้งหลายที่ปฏิบัติตามก็เป็นไปตามพระโอวาทที่ท่านทรงสอนว่าให้ไปเที่ยวอยู่ตามรุกขมูลร่มไม้ ท่านก็อยู่ในป่าในเขาเรื่อยมาอย่างนี้ เป็นการสืบทอดมาไม่ขาดวรรคขาดตอน พอจะเป็นของปลอมแปลงให้คนทั้งหลายได้สงสัยสนเท่ห์
ไทยรัฐ จำนวนของพระป่าปัจจุบันนี้น้อยลงไปไหมครับ
หลวงตา เรื่องน้อยไม่น้อย ท่านมีอยู่ตามปรกติของท่านอยู่ในป่า สกุลปัจจุบันนี้ก็คือออกจากหลวงปู่มั่น เป็นอาจารย์ใหญ่ อาจารย์วิปัสสนาเรียกว่าปรมาจารย์ เทศนาว่าการตลอดถึงการพิมพ์หนังสือของท่านออก ประวัติของท่านนี้ทั่วประเทศไทยและทั่วโลก เรื่องของท่านอาจารย์มั่น เลยถือเอาว่าวงกรรมฐานนี้มีหลวงปู่มั่นเป็นประธาน วงการใหญ่โตอยู่ตรงนี้ หลวงปู่มั่นนี้ก็ออกมาจากกรรมฐานอันเดียวกัน สืบทอดมาจากพระพุทธเจ้าๆ เป็นลูกเป็นหลานเป็นเหลนมาเรื่อยๆ เป็นสกุลป่ามาด้วยกัน
ไทยรัฐ ถ้านับหลวงปู่มั่นเป็นพระป่ารุ่นแรกที่นับกันนะครับ หลวงตาเป็นรุ่นที่เท่าไรครับ
หลวงตา เรื่องว่ารุ่นแรกรุ่นอะไรนั้นเราไม่อาจพูดได้ เพราะป่านี้เป็นมาตั้งแต่พระพุทธเจ้าแล้ว ทรงอุปสมบทให้พระสงฆ์ทั้งหลายเป็นพระป่าอยู่ในป่ามาแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าท่านอาจารย์มั่นอยู่ในสมัยใดนี้จึงพูดไม่ได้ ก็สมัยของพระป่ามาดั้งเดิมนั่นเอง
ไทยรัฐ แต่ที่ห่วงกันนี่คือว่า ถือว่าหลวงตาเป็นพระป่ารุ่นสุดท้ายที่สืบวัตรปฏิบัติมาจากหลวงปู่มั่น ถ้าหมดจากหลวงตาไปแล้วหลวงตาห่วงไหมครับว่าจะไม่มีคนสืบทอดวัตรปฏิบัติของพระป่าที่เป็นแบบดั้งเดิมต่อไปครับ
หลวงตา การปฏิบัติสืบทอดท่านปฏิบัติสืบทอดมาเรื่อยๆ อย่างนี้ ตั้งแต่หลวงตาบัวยังไม่เกิด ท่านปฏิบัติสืบทอดมาเรื่อยๆ อย่างนี้ ส่วนที่จะเป็นไปข้างหน้าขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับความสนใจและการประพฤติปฏิบัติของพระแต่ละองค์ๆ แล้วรวมเป็นพรรคเป็นพวก ถ้าจิตใจของพระต่ำทรามลงไปก็เถลไถลออกจากป่าที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ฟาดเข้าบ้าน เข้าไปอยู่ตามตลาดตเล ที่ไหนว่างตรงไหนปักกลดลงตรงนั้น แล้วดูเลขดูยาม ดูดวงชะตาราศี แล้วไปบำเพ็ญอยู่ในป่า ในป่าคืออะไร ป่าหมู ป่าวัว ป่าควาย ตลาด เข้าใจไหม แต่ที่ว่าสำเร็จอยู่ในตลาดนี่เรายังไม่เคยเห็น ส่วนที่สำเร็จในป่านั้นเรียกว่าร้อยทั้งร้อย พระที่เป็นสงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรานี้จะเรียกว่าร้อยทั้งร้อยก็ไม่ผิดที่เป็นสรณะของพวกเรา ที่ไปสำเร็จอยู่ในกระดูกหมูกระดูกวัวตามตลาดลาดเลนั้นกี่องค์เราไม่เคยได้ยิน เราก็บอกไม่ได้ยิน ในตำราก็ไม่มี มีแต่พระที่สำเร็จมาตามแนวทางที่ถูกของศาสดาที่ประทานพระโอวาทไว้แล้ว ดำเนินตามนั้นก็สำเร็จมรรค ผล มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงพระป่าในปัจจุบันนี้ เอ้า ทีนี้ว่าต่อไป
ไทยรัฐ อย่างพระป่ารุ่นใหม่ๆ ครับ เท่าที่หลวงตาเห็นวัตรปฏิบัติปัจจุบันนี้ หลวงตากังวลหรือห่วงอะไรหรือเปล่าครับ
หลวงตา หลวงตาไม่ได้กังวล เพราะท่านเหล่านี้เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่แล้ว ที่กังวลก็กังวลตั้งแต่พวกเปรตพวกผีที่จะเข้ามาทำลายพระปฏิบัติเหล่านี้ให้สึกหรอ หรือเสื่อมอันตรธาน ตลอดถึงจะฉิบหายไป เพราะพวกเปรตพวกผี พวกโจรพวกมารทั้งนั้น สำหรับพระวงกรรมฐานหลวงตาไม่เป็นห่วง เพราะท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่แล้ว คงธรรมคงวินัยมาตลอด ท่านไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง เหมือนดังที่เป็นมานี้ ซึ่งเอามาแสดงนี้ไม่มีคัมภีร์ใดวินัยใดที่ออกมาประกาศลั่นโลก อวดตนอวดตัวหลอกลวงโลกอยู่เวลานี้ นี่ไม่มีคัมภีร์ ไม่มีวินัยข้อใด แต่ออกมาด้วยความหน้าดื้อหน้าด้านสันดานหยาบของกิเลสต่างหาก เราพูดตามหลักความจริง
ทีนี้พระเจ้าพระสงฆ์ที่ออกมาจากในป่า ก็เพราะเห็นความสกปรกของพวกนี้ที่จะทำชาติบ้านเมืองและศาสนาให้จมลงไป เมื่ออยู่ในฐานะที่ท่านจะช่วยได้ เพราะท่านเป็นพระไทย พ่อแม่ของท่านเป็นคนไทยทั้งนั้น เกี่ยวโยงกันอยู่ ท่านก็ได้ออกมาช่วยดังที่ออกมาชำระเป็นครั้งเป็นคราว การออกมาชำระเหล่านี้ท่านออกมาจากป่า คัมภีร์วินัยติดท่านมา องค์ศาสดาคือธรรมและวินัยติดท่านมาอยู่ตลอดเวลา ไม่มีเคลื่อนคลาด ท่านจึงนำหลักธรรมหลักวินัยมาชำระล้างสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ค่อยสงบไปๆ เป็นระยะๆ
เวลานี้กำลังก้าวเข้ามาอยู่สังฆราช อันนี้ก็ไม่มีหลักธรรมหลักวินัย ที่ตั้งกันมาโดยลำดับลำดา ตั้งด้วยความจอมปลอม ตั้งด้วยกาฝาก เป็นความรู้เป็นอาหารของกิเลส เป็นกาฝากทั้งนั้นจะมาทำลายศาสนา ท่านเห็นว่าไม่ใช่ธรรม นี้ไม่ใช่วินัย ท่านปัดออกๆ มาประชุมแต่ละครั้งๆ ท่านมาชำระสิ่งเหล่านี้ เอาหลักธรรมหลักวินัยออกมายืนยัน เป็นเครื่องรับรองต่อมา เข้าใจแล้วเหรอ ท่านไม่ได้มีอะไรเสียหาย พระป่าเหล่านี้ไม่มีคำว่าเสียหาย พูดตามหลักความจริงแล้วท่านออกมาด้วยธรรมด้วยวินัย ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน โดยมีหัวหน้าเป็นผู้พานำออกมา แล้วมีข้อใดอีกล่ะ
ไทยรัฐ อย่างกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พระป่าที่ออกมาเคลื่อนไหวเองนี่ก็ไม่ได้ทันเหตุการณ์ เพราะบ้านเมืองมันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วครับหลวงตา
หลวงตา เหตุการณ์มันคืออะไร บ้านเมืองมันเปลี่ยนแปลงไปทางไหน พระป่ายังไม่ทราบ เราในนามพระป่าเราอยากทราบ แล้วมันเคลื่อนไหวไปยังไงบ้าง เอ้าว่ามาซิ
พิมพ์ไทย เหมือนกับกรณีที่เห็นได้ชัดที่วัดบวรฯ เมื่อวานซืนนี้นะครับหลวงตา เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ก็ดี หรือพระที่มาชุมนุมกันในวัดก็ดี หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ดี มองเห็นพระป่าแตกต่างกับพระบ้าน ให้ความสำคัญแตกต่างกัน เหมือนกับจะนิยมเรื่องยศ เรื่องสมณศักดิ์ มากกว่าการปฏิบัติในป่า
หลวงตา แล้วจะให้เราว่าไง ก็เมื่อเขานิยมอย่างนั้นจะให้เราว่าไงล่ะ ก็เรานิยมอย่างนี้นี่ เราไม่นิยมอย่างนั้น เพราะอย่างนั้นไม่มีในศาสนาของพระพุทธเจ้า ตำรับตำรา ยศถาบรรดาศักดิ์ ให้ตั้งอันนี้อันนั้นให้ แม้ท่านตั้งในครั้งพุทธกาล ก็สาวก ๘๐ องค์ล้วนแล้วตั้งแต่เป็นพระอรหันต์ล้วนๆ พระพุทธเจ้าทรงประทานสมณศักดิ์ให้เสียเอง ว่าองค์นี้เด่นทางนั้น องค์นั้นเด่นทางนั้นๆ จนกระทั่ง ๘๐ องค์ แล้วพระสงฆ์เหล่านี้ท่านก็ไม่ได้ตื่นในลาภในยศ สักการบูชา ท่านไม่ได้เป็นบ้ายศ ท่านก็เป็น สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเราอยู่ แล้วเป็นยังไง
ทีนี้ที่ว่าหนักในลาภในยศกับพระป่านี้แปลกกัน แปลกในทางบวกหรือแปลกในทางลบ เอ้าว่าไปซิ ถ้าว่าแปลกในทางลบ เป็นยังไงถึงว่าแปลกในทางลบ พระป่าผิดอะไร ถ้าว่าแปลกในทางบวกเราก็ไม่สงสัย เพราะท่านมาด้วยความถูกต้องแล้ว เอ้าว่าไปอีก
พิมพ์ไทย กรณีแบบนี้หลวงตาจะทำอย่างไร ให้ประชาชนส่วนใหญ่เขาได้เข้าใจว่าพระวัดป่ายังยึดศีลยึดธรรมอยู่ มั่นคงในธรรม ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง อย่างที่หลายๆ คนกำลังเข้าใจ กลับไปมองเห็นความสำคัญของพระนักเรียนนักศึกษาที่เรียนปริญญาตรี ปริญญาโท ทำอย่างไรจะให้คนเข้าใจได้ครับ
หลวงตา ก็ต้องเขาเข้าใจเขาเอง ผู้ไปเรียน เรียนเพื่อความเข้าใจ เพื่อเหตุเพื่อผล ถ้าปลีกออกนอกลู่นอกทางไปทางกิเลสตัณหาก็ไม่ใช่ธรรม ถึงจะตั้งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็ตาม มหาวิทยาลัยสงฆ์นั้นก็มีแต่ความรู้วิชาของโลกของสงสารเข้าไปเต็มหมด วิชาธรรมไม่มีก็ไม่มีความหมาย ตั้งโก้ๆ ไปอย่างนั้นละ วิทยาลัยสงฆ์เข้าใจไหม วิทยาลัยของพระพุทธเจ้า วิทยาลัยป่า นั้นเป็นหลักธรรมชาติล้วนๆ เข้าใจเหรอ ที่จะไปให้ความคิดเห็นของเขาเปลี่ยนแปลงไปนั้นให้เป็นเรื่องของเขาเอง หลักความจริงก็มีอยู่อย่างนี้ เช่นอย่างพระป่าท่านก็เอาหลักความจริงมาประพฤติปฏิบัติ แล้วผู้ที่ไม่ปฏิบัติจะไปลบล้างพระป่านี้ผิด เราไม่ปฏิบัติเราไปลบล้างผู้ท่านปฏิบัติ ซึ่งตักตวงเอามรรค-ผลอยู่ตามลำดับลำดาโดยทางศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า มันก็ผิดผู้ไปตำหนิ ก็เรียกว่าเก่งกว่าศาสดา ศาสดาประทานโอวาทไว้แล้วเพื่อให้ดำเนินอย่างนี้ ดำเนินอย่างนี้เถิด เรื่อยไป แล้วให้อุตส่าห์พยายามปฏิบัติอย่างนี้ตลอดชีวิตเถิด พระพุทธเจ้าสอนมาอย่างนี้
เรื่องมรรคผลนิพพาน อยู่กับธรรมกับวินัย ซึ่งเป็นองค์ศาสดาแทนพระพุทธเจ้า เป็นศาสดาของพระทั้งหลายแทนพระพุทธเจ้าเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว ไม่ได้มีมหาวิทยาลัยนั้นมหาวิทยาลัยนี้เป็นศาสดาแทน ไม่เคยมี ไปดูซิหลักวิชาในมหาวิทยาลัยต่างๆ มันมีตั้งแต่วิชาของโลกของสงสาร ซึ่งเป็นวิชาสกปรกทั้งนั้น วิชาธรรมไม่มีสกปรก ธรรมเป็นธรรม วินัยเป็นวินัย ปฏิบัติชำระซักฟอกสิ่งเหล่านี้ออกเป็นลำดับ นี่พระป่าท่านปฏิบัติมาอย่างนี้ เข้าใจเหรอ เอ้า ขัดตรงไหนว่ามา
ไทยรัฐ ทำไมพระป่ามีแต่เฉพาะสายธรรมยุต
หลวงตา โอ๋ย มหานิกายก็มี มีเต็มไปหมด อย่างสายท่านอาจารย์ชานี้ก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น อาจารย์ชานี้เป็นลูกศิษย์มาตั้งแต่อาจารย์กินรี อาจารย์ทองรัตน์ ที่เป็นอาจารย์ของอาจารย์ชามา และอาจารย์ทองรัตน์ อาจารย์กินรี เป็นต้นเข้ามาศึกษาอบรมกับหลวงปู่มั่น แล้วอาจารย์มีที่มวกเหล็ก ท่านเสียที่มวกเหล็ก ปรากฏว่าอัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุนะ นี่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นแล้วมาขอญัตติ นี่ท่านพูดเป็นธรรมนะ มาขอญัตติกับท่าน โอ๋ย ท่านอย่าญัตติเลย
ไทยรัฐ ขอญัตติเป็นธรรมยุต
หลวงตา เพราะท่านเหล่านี้เป็นมหานิกาย มาขอญัตติเป็นธรรมยุต ท่านเลยบอกว่าอย่าญัตติเลย ว่างั้น เรื่องธรรมเรื่องวินัยเป็นองค์ศาสดาแทนเรา พระไม่ว่าธรรมยุต-มหานิกายถ้าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วเป็นผู้ที่จะตักตวงเอามรรค ผล นิพพาน เสมอกันหมด ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ชื่อเสียงไม่สำคัญ ไก่เขาก็มีชื่อ ขอให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเถิด ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมาญัตติกับพวกผมแล้ว โลกเขาถือฝักถือฝ่าย ถือพรรคถือพวก แล้วพระทั้งหลายที่มีจำนวนมากซึ่งเป็นฝ่ายมหานิกายนั้นจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเข้ามาเป็นธรรมยุตเสียท่านเหล่านั้นก็เข้าไม่ติด เพราะฉะนั้นจึงขอให้เป็นอย่างนี้อยู่นั่นแหละ ขอให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้ก็แล้วกัน
เพราะฉะนั้น ท่านเหล่านี้จึงไม่ได้ญัตติเป็นธรรมยุต อาจารย์ชาก็เป็นสายเดียวกัน ท่านก็ไม่ได้เป็นธรรมยุต ท่านก็ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นผู้สามารถตักตวงมรรค ผล นิพพาน ตามที่พระพุทธเจ้าสอนเสมอหน้ากัน ทั้งธรรมยุต-มหานิกาย อันนี้ตั้งชื่อไว้เฉยๆ ไก่มันก็มีชื่อ ธรรมยุต-มหานิกายก็เป็นชื่ออันหนึ่งๆ ถ้าปฏิบัติไม่ดีไม่ว่าธรรมยุต ไม่ว่ามหานิกายเลวด้วยกันทั้งนั้น ถ้าปฏิบัติดีแล้วสามารถที่จะตักตวงเอามรรค ผล นิพพานได้ ท่านว่า สุปฏิปนฺโน อุชุ ญาย สามีจิปฏิปนฺโน ไม่ได้ว่านี้ธรรมยุต นี้มหานิกาย ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ปฏิบัติเพื่อความรู้จริงเห็นจริง แล้วท่านเหล่านี้ละเป็นผู้จะตักตวงเอามรรค ผล นิพพาน
เมื่อสรุปลงว่า เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ ท่านเหล่านี้เองเป็นเนื้อนาบุญของโลก เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าธรรมยุต-มหานิกายเป็นสงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิได้ด้วยกันทั้งนั้นถ้าปฏิบัติถูกทาง เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่ให้ญัตติ แล้วท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้ญัตติ ด้วยเหตุนี้เองสายธรรมยุต-สายมหานิกายจึงมีพระป่าอยู่ด้วยกัน เข้าใจแล้วเหรอ สายอาจารย์ชาก็เป็นพระป่าด้วยกัน มาจากหลวงปู่มั่น นี่มีด้วยกัน ทั้งธรรมยุต ทั้งมหานิกาย แล้วมีอะไรอีกล่ะ
ไทยรัฐ จริงๆ แล้วเรื่องของธรรมยุตกับมหานิกายนี่เป็นยังไงครับหลวงตา มีความขัดแย้ง หรือไม่มีความขัดแย้ง หรือเป็นคู่ขนานกันอะไรยังไงหรือเปล่าครับ
หลวงตา ไม่ได้ขัดแย้ง ถ้าเป็นเรื่องอรรถเรื่องธรรมไม่ขัดแย้ง มหานิกายก็ลูกพ่อนั้น ธรรมยุตก็ลูกพ่อนี้แม่นี้ เข้ามาประสานงานกันเป็นคนดีด้วยกันแล้วดีด้วยกันทั้งสอง ถ้าคนนั้นก็เลวคนนี้ก็เลวก็ทะเลาะเบาะแว้งแล้วกัดกันเหมือนหมา เรื่องธรรมยุตและมหานิกายเป็นชื่อเท่านั้น ขอให้ดำเนินตามรอยของพระพุทธเจ้า สวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้ว ทั้งธรรมยุตทั้งมหานิกายเป็นศากยบุตร ลูกศิษย์ตถาคตด้วยกัน ไม่มีการทะเลาะกัน เข้าใจไหม เป็นผู้สามารถที่จะตักตวงเอามรรค ผล นิพพานด้วยกัน เข้าใจแล้วนะ ตรงไหนไม่เข้าใจให้ถามมา
ไทยรัฐ แต่หลังๆ นี่ครับ นอกจากมีธรรมยุต-มหานิกายแล้ว ก็มีความพยายามที่จะแบ่ง อย่างพระธรรมยุตที่อยู่ในเมืองก็ถือว่าเป็นพระธรรมยุตอีกแบบหนึ่ง ก็คืออยู่เป็นพระบ้านธรรมดา และพระมหานิกายเข้าใจส่วนใหญ่ว่าเป็นพระบ้านที่อยู่สบายๆ และแบ่งว่าจะเป็นสายของพระป่า สายหลวงตา คือเป็นพระป่า อาจจะไม่นับเป็นธรรมยุตหรือเป็นมหานิกาย
หลวงตา ท่านก็ออกมาจากชื่อเดิมนั่นแหละ มหานิกายก็มาเป็นพระป่าก็ได้ ธรรมยุตมาเป็นพระป่าก็ได้ เป็นพระปฏิบัติดีแล้วก็ เอส ภควโต สาวกสงฺโฆเหมือนกัน นั้นแลคือสาวกของพระพุทธเจ้าได้เหมือนกัน เข้าใจแล้วเหรอ
ไทยรัฐ ที่เขาว่าหลวงตาออกมาเคลื่อนไหว เรื่องเกี่ยวกับการคัดค้านการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สังฆราช หรือเรื่องตราของสมเด็จพระสังฆราชที่มีการนำมาใช้ หลวงตาว่าเป็นเรื่องธรรมยุตขัดแย้งกับมหานิกายนี่จริงหรือเปล่าครับหลวงตา
หลวงตา ขัดแย้งทั้งนั้น อันนี้ผิดทั้งนั้น ใครก็ขัดแย้งได้ถ้าจะขัดแย้งนะ ถ้าไม่ขัดแย้งจะปล่อยให้เขากลืนกินก็กลืนกินได้ ยากอะไร เพราะอันนี้ไม่มีในหลักธรรมหลักวินัย อย่างพระสังฆราชมีมากี่องค์ๆ ใครได้เคยตั้งใครทำงานแทนสมเด็จสังฆราชพอจะแผ่อำนาจออกมาอย่างนี้ไม่เคยมี อันนี้เป็นแผ่อำนาจมากทีเดียว เพียงจะเริ่มต้นเป็นสังฆราชเท่านั้น แล้วบีบบี้สีไฟพระในวงสังฆมณฑลนี้แหลกเหลวไปหมด เราพูดตรงๆ บีบไม่ได้แต่คณะกรรมฐาน คณะพระป่า ไม่กล้ามาแตะ นอกนั้นเอาเบ็ดร้อยจมูก ร้อยจมูกไปหมดแล้วให้อยู่ในนี้ อันนี้ก็เพราะเห็นแก่อะไร เห็นแก่ดินเหนียวติดหัว เข้าใจไหม พวกยศ พวกลาภ พวกอะไรสมณศักด์นะแสกอะไรเราก็ไม่รู้เราเป็นคนป่า พวกยศ พวกลาภ พวกรายได้รายรวย ชื่อเสียงเรียงนามอะไรก็แล้วแต่ มันห่วงอันนี้ยิ่งกว่าชาติกว่าศาสนา มันจึงไม่กล้าออกมา ถ้าออกมาแล้วกลัวดินเหนียวติดหัวนั้นตกออก เข้าใจเหรอ มันอาจเป็นอย่างนี้ก็ได้ หรือว่าท่านไม่อยากเข้ามายุ่ง ความดี ความผิด ความถูก ท่านก็เรียนมาเหมือนกันท่านก็รู้ ท่านอยู่ด้วยความสงบก็มี เข้าใจเหรอ
ที่เราออกมา จะว่าออกมาหรือไม่ออกมา เราก็โต้ตอบกันตามเหตุตามผล ว่าจะออกมาไหนเราก็ไม่เห็นออกมา เวลานี้พูดอยู่นี้เราก็ออกไปไหน เราก็นั่งอยู่บนศาลานี่ มีผู้มาถามเราก็ตอบอย่างนี้ ว่าเราออกไปไหนล่ะ พิจารณาไหม เมื่อมีผู้มาถามเราก็ตอบตามที่มาถาม หรือว่าเราออกไปไหน หรือเราออกไปข้าศึกศัตรูที่ไหน ขึ้นเวทีที่ไหนเราไม่ได้ขึ้น มีแต่พวกนี้รุมเข้ามาหาเรา ถามเพื่อเหตุเพื่อผล เราก็ตอบตามเหตุผลให้ฟัง แล้วว่าเราออกมาคัดค้านต้านทานยังไง ไม่ออก ถ้าออกมาก็ออกมาด้วยรวมกันทั้งพระที่จำนวนมากมายเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น มาเพื่อชำระสะสางสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่ไม่มีในธรรมในวินัย เป็นกาฝากทั้งนั้น แล้วจะมากลืนกินต้นไม้ต้นนั้นให้ฉิบหายไป เพราะต้นไม้ต้นใดที่มีกาฝากมากต้นไม้ต้นนั้นต้องตาย มันเกิดกาฝากแล้วมันกินเนื้อกินหนังของต้นไม้ เลี้ยงลำต้นของมัน แต่ต้นไม้ตาย กาฝากยัง(อยู่) เข้าใจไหม
อันนี้ก็เหมือนกัน พวกกาฝากทั้งหลายไม่มีธรรมมีวินัย มีแต่เรื่องกิเลสตัณหาจะเอาให้ได้อย่างใจๆ กุเรื่องนั้นขึ้นมาก่อเรื่องนี้ขึ้นมา ก่อกวนขึ้นมา ผู้ที่ท่านมีธรรมมีวินัย มีหลักมีเกณฑ์ท่านก็ต้องมาปัดมาแก้ออก มาชำระสะสาง แล้วก็ยังมาหาเรื่องท่านว่ามาก่อกวน ดีไม่ดีจะว่ามาทำสงฆ์ให้แตกจากกัน นั่นฟังซิ ท่านทำให้แตกจากกันที่ไหน ท่านมาประสานต่างหาก ชำระสะสางต่างหาก พระป่าองค์ไหนที่ปฏิบัติผิดธรรมผิดวินัยออกมาชำระล้างนี่เราไม่เคยเห็นองค์ไหน นอกจากเรื่องราวที่มันเต็มอยู่ที่ไม่กำหนดว่ามีกี่หมื่นกี่พัน มันมากกว่าหมื่นกว่าแสนเวลานี้ ที่ก่อกวนยุ่งเหยิงวุ่นวายอยู่นี้มากยิ่งกว่าพระจำนวน ๕๐๐ หรือ ๑๐,๐๐๐ องค์นี้ ที่มาชำระด้วยความเป็นธรรมเป็นวินัย ท่านไม่มีเสียหายอะไร เข้าใจเหรอ แล้วมีอะไรต่อไปอีกล่ะ
ไทยรัฐ หมายความว่าทางฝ่ายบ้านเมือง และพระผู้ใหญ่ที่อยู่ในสายปกครองนี่พยายามที่จะใช้อำนาจมากกว่าใช้เรื่องของธรรมะ เรื่องของพระวินัยหรือเปล่าครับหลวงตา
หลวงตา ถ้าใช้เรื่องธรรมวินัยแล้วไม่ได้เถียงกัน บอกตรงๆ เลยก็ได้ ไม่บอกก็ได้ว่าใช้อำนาจ อำนาจของกิเลสตัณหา อำนาจแห่งความโลภโลภา ความตะกละตะกลามในลาภในยศ ในอำนาจต่างๆ ป่าๆ เถื่อนๆ ไม่สำคัญขอให้ได้ก็แล้วกัน อันนี้ทำโลกให้เดือดร้อนได้ ศาสนาก็เดือดร้อน แม้แต่พระป่าอยู่ในป่าท่านก็เดือดร้อนต้องออกมากำจัดกัน เพราะนี้ไม่ใช่ทางของศาสดา ทางของศาสดาอยู่ด้วยความสงบงบเงียบ ธรรมมีวินัยมีให้พากันปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักธรรมหลักวินัย ศาสนาและประชาชน พระเณรก็สงบร่มเย็น ถ้ามีเรื่องกาฝากเข้ามาอย่างนี้มีมากมีน้อย เท่าไรก็เต็มขาดสะบั้นไปได้ทั้งชาติทั้งศาสนาโดยไม่สงสัย เพราะกาฝากเหล่านี้มีจำนวนมาก เข้าใจไหม
ไทยรัฐ ถ้าเรามีพระผู้ใหญ่ที่เป็นต้นแบบที่ไม่ถูกต้อง ชอบใช้อำนาจมากกว่าใช้เรื่องพระธรรมวินัย แล้วพระใหม่ๆ นี่เขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นแบบไหนครับหลวงตา
หลวงตา พ่อเขาเป็นเสือโคร่งเขาก็เป็นเสือโคร่งละซี พ่อเขาเป็นยักษ์ลูกหลานก็เป็นลูกยักษ์หลานยักษ์ไปละซิ ถ้าเป็นคนดีก็เป็นจอมปราชญ์เป็นนักปราชญ์ ลูกนักปราชญ์ หลานนักปราชญ์ไปละซิ เข้าใจเหรอ มันก็มีอย่างนั้น
ไทยรัฐ อนาคตของพระพุทธศาสนาหรือคณะสงฆ์นี่จะเป็นยังไง
หลวงตา เป็นยังไงก็ดูกันอยู่นี้มันเป็นยังไง เวลานี้ความขัดแย้งเป็นยังไง ถ้าความขัดแย้งมันลงกันไม่ได้มันเป็นได้ทุกแบบ ถ้าลงกันตามหลักธรรมหลักวินัย เอาความถูกต้องเป็นกฎเป็นเกณฑ์แล้ว ไม่มีใครที่จะเรียนมากยิ่งกว่าพวกนี้ เข้าใจไหม จะสงบทันที แต่นี้มันไม่ได้สนใจกับอรรถกับธรรมกับวินัยซิ สนใจตั้งแต่เรื่องกิเลสตัณหาที่จะพาโลกให้ล่มจมนั้นเอง
ไทยรัฐ ในเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ถ้าสมมุติว่าให้พระคุยกับพระก็หมายความว่าเรื่องที่เราขัดแย้งกันอยู่อาจจะจบ
หลวงตา ถ้าพูดเป็นธรรมมันก็จบ ถ้าพูดเพื่อทะเลาะ เพื่อกัดกัน พระต่อพระก็เป็นหมากัดกันได้ เข้าใจเหรอ ถ้าพูดเพื่อเป็นธรรม ปรึกษาหารือเพื่ออรรถเพื่อธรรมแล้วพูดได้ ไม่พูดก็เข้าใจเพราะเรียนมาด้วยกัน อะไรผิดธรรม อะไรผิดวินัยรู้ด้วยกัน ไม่มีใครที่จะเรียนมากยิ่งกว่าพวกนี้ แต่ทำไมมันจึงมาขวางธรรมของพระพุทธเจ้า ก็เพราะมันไม่ยอมฟังเสียงธรรมเสียงวินัยนั่นเอง นี่ละที่มันทะเลาะกันเพราะเหตุนี้เอง ผู้ฟังเสียงธรรมเสียงวินัยอยู่ อะไรที่จะเข้ามาทำลายผู้รักษาอยู่ สมบัติอันล้นค่านี้มันก็ต้องได้ตบได้ต่อยกัน เข้าใจเหรอ
ดังที่พระออกมานี้ท่านมาชำระ ท่านไม่ได้มาเป็นข้าศึกต่อผู้ใดนี่นะ ท่านมาชำระ เอาหลักความจริงออกมาพูด เอ้าถ้าหากว่าผิดตรงไหนก็ไม่เห็นใครค้านมา เพราะหลักของท่านถูกต้องตามหลักธรรมวินัย แต่ที่มันเกิดมานี้มันเป็นอยู่ตลอดเวลานี้มันไม่มีธรรมไม่มีวินัย เอามาอ้างไม่มี มีแต่เรื่องปลอมๆ ทั้งนั้น มากุขึ้นเป็นเรื่องของจริง ยกมูตรยกคูถขึ้นมาเป็นทองคำทั้งแท่งโปะหัวคนทั้งประเทศ ทั้งชาติทั้งศาสนาให้จมไปด้วยเป็นมูตรคูถ เป็นส้วมเป็นถานกันหมดทั้งประเทศเท่านั้นแหละ ที่เรียนมามันไม่สนใจปฏิบัติ ถ้าสนใจปฏิบัติแล้วศาสนาใดจะเลิศเลอยิ่งกว่าพุทธศาสนาของเรา เป็นศาสนาที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว สวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบ ขอให้ปฏิบัติตามนี้เถิด ก็เท่านั้นเอง
ไทยรัฐ อย่างกรณีขัดแย้งที่เกิดขึ้น องค์กรสงฆ์หรือรัฐบาลเองเขาก็บอกว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้อง แล้วพยายามที่จะทำให้คนทั้งประเทศนี่เชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลและคณะสงฆ์นี่ทำถูกต้อง ส่วนการเคลื่อนไหวของพระป่านี่ผิด ทีนี้อยากจะถามหลวงตาว่า การโฆษณาชวนเชื่อประเภทนี่ครับหลวงตา มันมีผลอะไรต่อความน่าเชื่อถือของพระป่า หรือหลวงตาหรือเปล่าครับ หมายถึงว่าคนทั่วประเทศถูกทำให้เชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาล หรือคณะสงฆ์ทำนี่มันถูกต้อง
หลวงตา มันไม่ถูกต้องเดี๋ยวนี้น่ะ จะไม่ให้ค้านได้ยังไง ถ้าถูกต้องจะมาค้านทำไมพระป่า ไม่ค้าน อันนี้คือมันไม่ถูกต้อง มาตั้งโอ่อ่าสวยๆ ว่ารัฐบาลรัฐแบนอะไรก็ไม่รู้ ความประพฤติเลวยิ่งกว่าส้วมกว่าถาน ใครจะไปยอมเชื่อ ใครจะไม่คัดค้าน เอากันตรงนี้ซี เราจะเอาชื่อเอาเสียงใหญ่ๆ มาเบ่ง อย่ามาเบ่งกับธรรมกับวินัย ไม่มีอะไรใหญ่ยิ่งกว่าศาสดา อันนี้เป็นพวกส้วมพวกถาน พวกกิเลสตัณหามันจะใหญ่ยิ่งกว่าศาสดาไม่ได้ ถ้าเรายอมรับตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วจะมีเรื่องอะไร เพราะสิ่งเหล่านี้มีหลักธรรมหลักวินัยประกันอยู่แล้ว มันไม่ยอมทำตามนั่นซี มันจะเอาตามใจสกปรกของตนเอง แล้วไปกวาดไปต้อนเอาคนอื่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เข้ามาเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ แล้วก็ทำลายคนได้ทั้งชาติทั้งศาสนา ไม่อาจสงสัย เข้าใจเหรอ เรื่องก็มีเท่านั้น แล้วจะให้หลวงตาว่าอะไรอีกล่ะ
ไทยรัฐ ความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นนะครับ ถ้าหลวงตาจะออกมาต่อสู้คัดค้าน หลวงตาได้ตั้งเป้าหมายหรือเปล่าครับว่าเราจะต่อสู้ให้ถึงตรงไหน
หลวงตา ไปถามเขาเสียก่อน เขาตั้งเป้าหมายหรือไม่เป้าหมายเอาไฟเผาโลกอยู่เวลานี้มีเป้าหมายหรือไม่ การตอบของเรามีเป้าหมายหรือไม่เป้าหมายมันก็รู้กันเอง เข้าใจไหม ทางนั้นผิดมาเขาตั้งเป้าหมายหรือไม่ ทางนี้ถูกตั้งเป้าหมายก็คือความถูกต้องซึ่งปฏิบัติอยู่แล้ว มีเท่านั้นเอง แล้วมีอะไรอีกล่ะ
ไทยรัฐ เคยฟังหลวงตาเทศน์ครับ หลวงตาเป็นเพื่อนกับสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ อยากจะให้หลวงตาเล่าความสัมพันธ์ระหว่างหลวงตากับสมเด็จพระสังฆราช
หลวงตา ไม่เล่า เพราะเรื่องสมเด็จพระสังฆราชก็เคยรู้กันแล้ว เล่าไปหาอะไร เป็นเรื่องของบุคคลไปแล้ว พูดถึงเรื่องส่วนรวมซิ ที่มันจะกระทบกระเทือนแก่ส่วนรวม เข้าใจแล้วเหรอ สมเด็จสังฆราชก็เคยกันแล้ว
สารสวรรค์ หลวงตาครับ เขาบอกเมืองอุดรไม่มีพระอรหันต์จริงไหมครับ
หลวงตา ถ้ามีแต่คนตาบอดมันก็จริงหมดโลกนั่นแหละ ถ้ามีคนตาดีอยู่มันจะบอดเท่าไรผู้ตาดีก็มีอยู่อย่างนั้นจะว่าไง แล้วจะไปลบคนตาดีให้บอดเหมือนกันมันลบไม่ได้ ผู้ตาดีมันดีอยู่ ผู้บอดก็ให้มันบอดไปละซิ เข้าใจหรือเปล่าล่ะ เอ้าค้านมาอีกถ้าว่าผิดนี่ ผิดไหมที่พูดไปนี้
สารสวรรค์ ไม่ผิดละครับ
หลวงตา เอ้าพูดมา เวลานี้จะตอบ
พิมพ์ไทย หมายถึงว่าพระป่านำพระวินัยออกมาชำระสะสางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ให้ถูกต้องเสีย ตรงนี้นะครับหลวงตาไม่มีกำหนดเวลาว่าจะเมื่อไร
หลวงตา อันนี้ก็แล้วแต่ปรึกษาหารือกันเพื่อลงความสัตย์ความจริง ที่จะให้โลกสงบ ศาสนาสงบลงได้ ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายผิดฝ่ายถูกที่จะลงความเห็น โดยถือหลักธรรมหลักวินัยเป็นจุดศูนย์กลาง ถ้าจะเอาทิฐิมานะความรู้ความฉลาด หรืออำนาจบาตรหลวงของตนมาบีบบี้สีไฟยังไงก็ไม่สงบ ความสงบจะสงบได้ด้วยธรรม กิเลสจะไม่พาใครสงบเลย ถ้าเป็นธรรมสงบ ไม่ไปไหนเลยละ เอ้ามีอะไรว่ามาเวลานี้จะตอบนะ ให้ถามมาเลยบอกตรงๆ นะ เราจะตอบ เอ้าให้ถามมา แล้วมีอะไรอีกล่ะ
เอะอะๆ มีตั้งแต่หาเรื่องใส่พระป่าๆ พวกนี้มหาโจร-มหามารที่กำลังจะกลืนชาติบ้านเมืองอยู่นี้มันเป็นอะไร ไม่ได้ย้อนหลังดูมันบ้างเหรอ ที่จะทำลายชาติ พระป่าไม่ได้ทำลายชาตินะ พระป่าส่งเสริมชาติ ส่งเสริมศาสนาเต็มกำลังความสามารถ ไอ้พวกนี้มันไม่ได้ปฏิบัติ ธรรมวินัยมันเรียนมาก็ไม่สนใจปฏิบัติ มันหาแต่ขวากแต่หนามแต่ฟืนแต่ไฟมาเผาชาติบ้านเมือง ยกตัวอย่างเช่น เราช่วยชาติบ้านเมืองที่ผ่านมานี้เป็นเวลา ๖ ปี เอาให้เห็นตัวอย่างชัดๆ นะ แล้วพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยได้ออกช่วยชาติบ้านเมืองของตนตามกำลังความสามารถ จนกระทั่งได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันกับ ๓๑๒ กิโลครึ่ง มอบเข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว และดอลลาร์ได้ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ เรียกว่ามอบเข้าหมดแล้ว
นี่เป็นกำลังของพี่น้องชาวไทยเราที่อุตส่าห์พยายาม แล้วพวกนี้เป็นรายตัวก็ได้ตั้งแต่ใหญ่ๆ เบิ้มๆ มาละ มหายักษ์ลงมา เข้าใจไหม คนนี้จะได้เอาทองคำหรือเงินบาท หรือดอลลาร์นี้เข้าไปช่วยชาติบ้านเมืองหรือไม่ ในฐานะที่เธอเป็นคนของชาติไทย เธอได้มีส่วนใดบ้างเข้าไปสนับสนุนพอที่จะมาทำลายเวลานี้ คำว่าทำลายคืออะไร เราจะยกมาอีก คือพวกนี้ทำความดีที่ไหนๆ ไอ้พวกเลวร้ายทั้งหลายนี้จะไปกีดไปขวาง ไปทำลาย แม้ที่สุดเขานิมนต์พระไปแสดงอรรถธรรมเพื่อนำสมบัตินั้นเข้าสู่คลังหลวงของเรา มันก็ไปกีดไปขวาง ไปคัดไปค้านตลอดมาพวกนี้ และมันเคยมีหลายไหนมันเอาทองคำมาให้สักหนึ่งบาท ข้ามีสิทธิที่จะคัดค้านต้านทานในสิ่งที่ท่านทั้งหลายทำไม่ถูก อย่างนี้ไม่มี ทองคำบาทหนึ่งก็ไม่มี ดอลลาร์หนึ่งดอลล์ก็ไม่มี ตลอดเงินไทยไม่มี
คนดีทำงานกันทั่วประเทศไทย ทั้งฝ่ายพระเจ้าพระสงฆ์ ทั้งฝ่ายฆราวาส ช่วยกันสุดเหวี่ยง มันไม่ได้มาช่วยสักนิดหนึ่ง มีแต่มาทำลายๆ พวกนี้ไปที่ไหนทำลายที่นั่น ก่อกวนที่นั่นเรื่อยมา ท่านทั้งหลายชั่งดูซิอะไรจริงอะไรปลอม คนเรารักชาติทุกคน เสาะแสวงหาความดี สมบัติเงินทองมาเข้าคลังหลวงของเรายังเป็นความผิดสำหรับพวกนี้ พวกนี้เห็นว่าเป็นความผิดหมด จึงได้มากีดกันคัดค้านต้านทาน แล้วมันเอาสมบัติอะไรเข้ามาให้ชาติไทยของเราได้ชมบ้างมีไหม ทองคำบาทหนึ่งก็ไม่เคยมี ดอลลาร์ดอลล์หนึ่งก็ไม่เคยมี ตั้งแต่เราเริ่มช่วยชาติบ้านเมืองเรายังไม่เคยเห็นรายใดในคนจำพวกนี้น่ะ ที่ได้เข้ามาส่งเสริมชาติไทยของเราด้วยการบริจาค แต่การทำลายนี้ไปทุกแง่ทุกมุม ไปที่ไหนก่อกวนที่นั่น ทำลายที่นั่น ยุแหย่ที่นั่น อันนี้เป็นพื้นฐานนิสัยสันดานหยาบของมัน เป็นมาตั้งแต่ใหญ่ๆ เบิ้มๆ มาโดยลำดับ ไปที่ไหนมีอย่างนี้ทั้งนั้น
ท่านทั้งหลายพิจารณาซิ หลวงตาพูดตามหลักความจริง เอ้าถ้าหากว่าหลวงตานี้พูดผิดเอาคอไปตัดเลย นี่ได้เห็นได้ยินแล้วจากประชาชนทั้งหลาย บางรายเขาก็ยุบยอบไปเหมือนกัน เพราะมันมาขู่เขา บางรายเขาไม่สนใจเขาทำของเขาเรื่อยมา นี่ละเป็นยังไงพวกนี้มันทำความดีงามอะไรแก่ชาติแก่ศาสนาของเรา พอที่จะมีแก่ใจฟังมัน มีแต่เรื่องจอมปลอม แสดงออกมาเหล่านี้จอมปลอมทั้งนั้น เวลานี้ก็จอมปลอม ออกมาตั้งแบบนั้นตั้งแบบนี้ มีแต่แบบจอมปลอมของมันที่ตั้งทั้งนั้นละ ไม่ได้มีความจริง ถ้ามีความจริงเถียงทำไม ทะเลาะกันทำไม หลักธรรมวินัยมีด้วยกัน ต่างคนต่างปฏิบัติก็สงบเย็นใจไปด้วยกัน อันนี้มันไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัย มันปฏิบัติแหวกแนวไปตามแนวทางของเทวทัต เพราะฉะนั้นมันจึงขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่โดยดีตลอดมานั่นแหละ เอ้าพูดเท่านี้ก่อน แล้วมีอะไรว่ามาอีก
พิมพ์ไทย ทราบมาว่ามีพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง พยายามที่จะรวบรวมพระที่อยู่ในสายการปกครองให้ได้มากกว่าจำนวนพระป่า เพื่อจะให้เป็นคณะสงฆ์ลงมติให้แต่งตั้งครูบาอาจารย์ของเขาขึ้นเป็นพระสังฆราชนะครับ
หลวงตา ให้มันยกภูเขามาตั้งก็ได้ เทียบเหมือนกับธนบัตรปลอมเข้าใจไหม ธนบัตรปลอมใบห้าก็ตาม สิบก็ตาม ร้อยก็ตาม พันก็ตาม มีแต่ธนบัตรปลอม มากองไว้เต็มภูเขา แล้วจะเอานี้มาเป็นอำนาจมาบีบบังคับธนบัตรจริง เข้าใจไหม ธนบัตรจริงใบห้าบาทเต็มห้าบาท คุณภาพของธนบัตร สิบบาท ร้อยบาท พันบาท เป็นของจริง นี้คือธนบัตรจริง อันไหนมีน้ำหนักกว่ากัน อันใดเป็นเครื่องยืนยันได้ อันนั้นทั้งหมดปลอม อันนี้ทั้งหมดจริง เอ้า เอามาเทียบดูซิ มันจะมีจำนวนมากน้อยเอาน้ำหนักนี้มาทับกันไม่ได้ ต้องเอาความจริงมาทับกัน มาแข่งกันใช่ไหม ของจอมปลอมมาทับได้ยังไง ของจริงมีอยู่นี่ เข้าใจหรือ
เช่นยกมูตรยกคูถมา มูตรคูถนี้กองเท่าภูเขา ทองคำแกมีเท่าไรเอามาเทียบกัน ทองคำนี้คือว่าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทรงธรรมของพระพุทธเจ้าไว้ เทียบกับทองคำทั้งแท่งๆ แล้วอันนั้นมีแต่มูตรแต่คูถ จะยกมูตรยกคูถมาว่าเป็นกำลังใหญ่มาทับทองคำทั้งแท่งให้คนยอมรับ ไปเอามูตรคูถของมันทั้งหมด ทองคำทั้งแท่งนี้ปล่อยให้จมดินไป เป็นไปได้ไหม อันนี้ก็เหมือนกัน มันจะเอาโคตรมาตั้งเป็นใหญ่เป็นโตขนาดไหนก็ตามความจริงมีอยู่ เราเอาความจริงตอบกันต่างหาก เราไม่เอาจำนวนมารบกันนะ เอาความจริงรบกัน เข้าใจเหรอ เอ้ามีอะไรว่ามา เวลานี้กำลังเตรียมจะตอบ ให้ถามมา เวลานี้จะตอบให้ถามมา เราจะตอบเต็มเหนี่ยวเลย
พิมพ์ไทย ถ้าเขาตั้งขึ้นมาจนได้ ทั้งๆ ที่ผิดก็ตั้งขึ้นมา
หลวงตา ตั้งขึ้นมาก็ล้มไปธรรมดาของมัน มันจะตั้งขึ้นมาก็ตั้งกองขี้ขึ้นมาใครจะไปดูมัน ทองคำตั้งไม่ตั้งก็เป็นทองคำอยู่อย่างนี้แล้วจะให้ว่าไง เอ้าพิจารณา ผิดหรือถูกหลวงตาบัวพูดนี้น่ะ ก็ตั้งของปลอม ของเลอะๆ เทอะๆ มาก็เหมือนกองมูตรกองคูถ มันจะตั้งใหญ่โตขนาดไหนก็ให้มันตั้งมา เข้าใจเหรอ ทองคำแท่งเดียวเท่านี้ ฟาดหน้าผากมันหงายหมาทั้งโคตรมันเลย เข้าใจเหรอ อย่าว่าหงายแต่มัน หงายจนกระทั่งโคตรมันเลย
พิมพ์ไทย แล้วจะทำยังไงให้คนส่วนใหญ่เขาเห็นว่าอันนี้ของปลอม อันนี้ของจริงครับ
หลวงตา เอ้าก็พูดให้ฟังอยู่นี้ ของจริงของปลอมก็พูดไปด้วยกัน ทำไมจะไม่ฟัง ถ้าไม่ฟังก็จมได้ชาติไทยเรา
พิมพ์ไทย เหมือนกับว่าหลวงตาพูดในวงแคบ แต่ถ้าหากว่าฝ่ายที่เขามีสื่ออยู่ในมือมากๆ มีทีวี มีหนังสือพิมพ์อยู่ในมือเยอะๆ
หลวงตา สื่อก็สื่อปลอม ของคนปลอมทั้งนั้นนี่นะ ไม่ได้ของจริง อะไรมาปลอมหมด เหมือนอย่างเครื่องใช้ของนักโทษ มันไปเป็นนักโทษแล้ว เสื้อก็เสื้อนักโทษ กางเกงนักโทษ รองเท้านักโทษ หมวกนักโทษ อะไรอยู่ในนี้เป็นนักโทษหมด ใครชมมันไหม มันก็เป็นนักโทษไปด้วยกัน มันจะตั้งมาขนาดไหนก็แบบคนในเรือนจำ เข้าใจเหรอ คนนอกเรือนจำคนเดียวมีค่ามากกว่า แน่ะก็เท่านั้นเอง
สารสวรรค์ อนาคตจะมีนิกายเพิ่มอีกไหมครับ
หลวงตา อย่าถามมา เรายังไม่ตอบ ไม่ถึงกาลตอบไม่ตอบ เอาวงนี้ที่วินิจฉัยกันอยู่เวลานี้นะ
ไทยรัฐ หมายความว่า จริงๆ แล้วพระเองนี่ก็ไม่ต้องการอะไรมากมายใช่ไหมครับหลวงตา
หลวงตา จะต้องการอะไร พระพุทธเจ้าไม่ต้องการ บริขาร ๘ เท่านั้น เข้าใจเหรอ บาตร สบง จีวร สังฆาฏิ ประคดเอว ธัมมกรกเครื่องกรองน้ำ มีดโกน กล่องเข็ม มีเท่านี้พอ เท่านั้นเอง
ไทยรัฐ แล้วพวกอำนาจยศถาบรรดาศักดิ์มันมายังไงครับหลวงตา
หลวงตา มันก็มาตามความอยากได้ อยากร่ำอยากรวยของมันนั่นแหละ เราด้นเดาไปเฉยๆ เขาได้มาแบบไหนเราไม่ได้ไปตามดู ถ้าอยากทราบไปตามดูเขาซิว่าเขาได้มาแบบไหน เราไม่ได้ไปตามดูเราก็พูดด้นเดาไปอย่างนั้น สิ่งไหนที่ด้นเดาเราก็บอกว่าด้นเดา ถ้าอยากรู้ชัดเจนให้ไปตามถามมันดูซิน่ะ ได้มาแบบไหนนี่น่ะๆ เข้าใจไหม บอกว่าเอ้าๆ ให้ถามมา เวลานี้จะขึ้นเวที ขึ้นเวทีแล้วให้ถามมาเดี๋ยวนี้เลย ให้ถอยใครไม่เคยถอย สามแดนโลกธาตุนี้เราไม่เคยถอย มีแต่มูตรแต่คูถทั้งนั้น มันจ้าอยู่ในหัวใจนี้แล้ว
พิมพ์ไทย จากภาพที่มองเห็นระยะสองสามวันที่ผ่านมาก็ดี หรือระยะที่พระป่าออกมาเคลื่อนไหวก็ดี มองดูแล้วคนส่วนใหญ่จะไปนิยมของปลอมมากกว่าของจริงนะครับหลวงตา
หลวงตา มันก็ชะตาของชาติไทยเราเท่านั้น ชะตาของศาสนาเราชาติไทยเรา อะไรก็ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ให้ช่วยเราก็ช่วยไม่ได้ เราช่วยตัวเองเราพอแล้ว เราไม่หวังให้ใครมาช่วยเรา สำหรับเราเองเราพอแล้วไม่มีใครให้ช่วย ที่เราพูดนี้เราช่วยโลกต่างหาก สำหรับเราไม่ต้องการให้ใครมาช่วย เราพอทุกอย่างแล้ว เราเทศน์ด้วยความพอแห่งธรรมทั้งหลายมีในหัวใจ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้ ไม่เคยมี
พิมพ์ไทย หลวงตาเมตตาไปช่วยประชาชน ให้เขารู้แจ้งเห็นจริงบ้างไหมครับ ว่าสิ่งไหนปลอม สิ่งไหนจริง
หลวงตา ก็หนังสือพิมพ์ วิทยุ นี้มันกว้างขวางยิ่งกว่าหลวงตา ทำไมไม่เอาไป เอาไปบ้างซิ หลวงตาพูดว้อๆ เท่านี้ได้เรื่องอะไร ของมีเต็มอกอยู่นี้เอาไปนั่นเข้าซิ เข้าใจแล้วเหรอ
พิมพ์ไทย แล้วทำยังไงให้พิมพ์ไทยเป็นหนังสือพิมพ์ใหญ่ๆ ได้ครับ
หลวงตา พูดตามความสัตย์ความจริงมันจะค่อยเป็นของมันเอง (สาธุ) ถ้าเรื่องจอมปลอมนี่เขาเอาเงินมาจ้างมาโปะให้ๆ ออกข่าวอย่างนั้นๆ ให้ฉันหน่อยนะ นี่มีแต่เรื่องโกหก ให้โกหกช่วยฉัน ฉันจะเอาเงินให้ อย่างนี้หนังสือพิมพ์เจ๊ง ชาติเจ๊ง หนังสือพิมพ์ไม่เจ๊งได้เหรอ เข้าใจไหม ชาติเจ๊ง ศาสนาเจ๊ง ศาสนาจม ชาติจม หนังสือพิมพ์จะไปเด่นอยู่บนฟ้าได้ยังไง จมไปด้วยกัน ถ้าเราเห็นแก่ชาติแก่ศาสนา แก่บ้านแก่เมืองของเราแล้วมีอะไรเราก็ตามมีตามเกิด จนก็จนเราจนในท่ามกลางเมืองไทย ขออย่าไปทำความชั่วช้าลามกให้เสียชาติบ้านเมืองและศาสนาของเราเป็นที่พอใจ เอาความสัตย์ความจริงออกพูดซิ เข้าใจเหรอ นี่เขามาโยนบาทไหนให้คนนั้นคว้ามับ คนนี้คว้ามับ จมเมืองไทย เห็นแก่ค่าจ้างรางวัลจมได้ ถ้าเห็นแก่ชาติบ้านเมืองไม่จม เข้าใจเหรอ
ไทยรัฐ หลวงตาครับ คณะสงฆ์ควรจะมีระบบการปกครอง หรือการดำรงอยู่ในคณะสงฆ์ยังไงครับหลวงตา
หลวงตา ท่านมีระบบอยู่แล้วถ้าพูดตามหลักธรรมชาติ ธรรมวินัยเป็นเครื่องปกครองสงฆ์ได้อย่างแม่นยำมาตั้งแต่พระพุทธเจ้า อันนี้มันตั้งขึ้นท่านั้นท่านี้ที่มันมายุ่งอยู่เวลานี้ มันกลายเป็นกาฝาก ปกครองแบบนั้นปกครองแบบนี้ สุดท้ายก็กว้านเข้ามาหัวอกของตัวเอง เป็นใหญ่ เป็นอัตตาธิปไตย เอาตนเป็นใหญ่ ทีนี้มันก็เหลวไหลไปหมด ถ้าเอาธรรมวินัยเป็นใหญ่แล้วไม่มีอะไรพูดกันละ
ไทยรัฐ แต่จริงๆ พระเองก็ไม่ต้องการปกครองหรือพันธนาการอะไรที่มันวุ่นวาย
หลวงตา หลักตามธรรมชาติแล้วท่านปกครองของท่านอยู่แล้ว ความเป็นผู้ใหญ่ผู้น้อยท่านก็เคารพเป็นลำดับลำดามาตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้า ครั้งพระพุทธเจ้าไม่เห็นว่าตั้งคนไหนเป็นเจ้าคณะนั้นเจ้าคณะนี้ไม่มีในหลักธรรมวินัย มามีใหม่ๆ นี้แหละ มันถึงได้ยุ่งตลอดเวลา เพราะไม่ได้สนใจธรรมวินัย สนใจตั้งแต่กฎระเบียบบ้าอะไรก็ไม่รู้แหละ
ไทยรัฐ หมายความว่า ทางคณะสงฆ์เองก็พยายามที่จะไปเลียนแบบการปกครองทางโลก
หลวงตา นั่นแล้ว เอาโลกเข้ามาแล้วมาเหยียบธรรมมันก็ยุ่งละซิ ถ้าโลกเป็นโลก ธรรมเป็นธรรมเสียก็สบายๆ
ไทยรัฐ ตอนนี้ปนกันหมดทั้งโลกทั้งธรรม
หลวงตา ปนกันหมด เราจะเห็นได้ชัด ตั้งแต่เราเรียนหนังสืออยู่นั้นน่ะ เด็กเข้ามาเป็นลูกศิษย์พระอยู่ในวัดหนึ่งๆ มีน้อยเมื่อไร แต่เขาไปเรียนอยู่นอกวัด เป็นโรงร่ำโรงเรียนของเขาต่างหาก พระก็ไม่ได้มีความรู้วิชาของทางโลกเข้ามาเจือปน มีแต่หลักธรรมหลักวินัยล้วนๆ เรียนนี้สงบเย็นเรื่อยมา เพราะวิชาทางโลกกับทางธรรมไม่มาคละเคล้ากันให้เปื้อนเปรอะเลอะเทอะสกปรก เข้าใจไหม ทางโลกก็เป็นทางโลก ทางธรรมเป็นทางธรรม และต่างคนต่างปกครองกันไปมันก็ดีมาอย่างนั้น
เดี๋ยวนี้มันเอากิเลสตัณหาซึ่งเป็นวิชาต่ำๆ ของคนมีกิเลสเข้ามาคละเคล้ากับศาสนา ศาสนาเลยกลายเป็นมูตรเป็นคูถให้กิเลสเหยียบแหลกลงไปหมดเวลานี้ เรียนมันปีนขึ้นไปอย่างนั้นนะ เรียนวิชาธรรมะเอาธรรมะเป็นเขียงเหยียบขึ้น เพื่อความดีดความดิ้นตามโลกตามสงสาร มหาวิทยาลัยไหนก็เถอะน่ะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เราพูดอย่างอาจหาญ ไปที่ไหนมีตั้งแต่วิชาของโลกเต็มมหาวิทยาลัยนั้นๆ วิชาธรรมมีที่ไหน ไม่ได้เหมือนวิชาของพระพุทธเจ้าที่มหาวิทยาลัยป่า
ไทยรัฐ พระเรียนไปเพื่อที่จะออกไปรับใช้ทางโลก
หลวงตา ก็นั่นแล้ว มันผิดไปอย่างนั้นแล้ว
พิมพ์ไทย หมายถึงว่าเรียนมา เรียนธรรมเรียนวินัยมาแล้วก็เหยียบตรงนั้นขึ้นไป
หลวงตา ใช่นั่นแล้ว ปีนไปหากิเลสตัณหา เอาหลักธรรมหลักวินัยเป็นเขียงเหยียบขึ้นแล้วก็เอาศาสนาเป็นโล่บังหน้า แล้วก็เหยียบศาสนาขึ้นไปเวลานี้
ไทยรัฐ โลกมันกลับ
หลวงตา มันกลับอย่างนี้ละ ว่าโลกเจริญก็กิเลสนั่นแหละเจริญ ธรรมจะเจริญที่ไหน ถ้าตั้งใจปฏิบัติตามศีลตามธรรมแล้วท่านอยู่ในป่าท่านเจริญพระ ใครจะเจริญรุ่งเรืองสว่างไสวยิ่งกว่าพระที่ปฏิบัติตนตามศีลตามธรรมอยู่ในป่า พูดได้อย่างชี้นิ้ว เลย พระอยู่ในป่าที่ออกมาเหล่านี้ท่านทรงอรรถทรงธรรม ปฏิบัติเรื่องศีลเรื่องธรรม เข้าหากันพูดแต่เรื่องมรรคเรื่องผล เรื่องศีล เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญา วิชาทางโลกมายุ่งไม่ได้เลย มีแต่เรื่องวิชาธรรมล้วนๆ แสดงออกแง่ไหนมุมใดเป็นที่ปีติยินดี เป็นกำลังใจเสริมซึ่งกันและกัน พระป่าท่านคุยกันท่านเป็นอย่างนั้นนะ ท่านไม่ได้เอาเรื่องโลกเรื่องสกปรกเข้าไปยุ่งในวัดในวาท่าน คุยกันกี่ชั่วโมงมีแต่ความเพลิดเพลินรื่นเริงด้วยอรรถด้วยธรรม เพื่อถอดเพื่อถอน เพื่อเป็นกำลังใจที่จะหนุนความเพียรให้ยิ่งขึ้นไปทั้งนั้น พระป่าท่านปฏิบัติมาอย่างนี้
นี่มันมีไหมล่ะ อยู่ในวัดมันก็อาศัยชาวบ้านเขากินข้าว ถ้าอยู่ลำพังธรรมดาไม่มีใครเอาข้าวมาให้กิน เอาผ้าเหลืองมาคลุม โกนหัวแล้วก็อาตมาๆ เข้าใจไหม เวลาวิชาความรู้กิริยาที่แสดงออก โลกเลวสู้นี้ไม่ได้ นี่ละมันทำความสกปรกให้ศาสนาเปื้อนอยู่เวลานี้ เพราะอันนี้เอง อยู่ในวัดหันหน้าออกจากวัด มันไม่ได้หันหน้าเข้าวัด คือเข้าศีลเข้าธรรม รักษาศีลรักษาธรรมด้วยความรักสงวนเลย มันวิ่งหาโลกหาสงสารเป็นบ้าตลอดเวลา
สุดท้ายวัดหนึ่งๆ กลายเป็นส้วมเป็นถานขึ้นมา พระเณรกลายเป็นกองมูตรกองคูถเต็มวัดเต็มวา ใครไปรู้ได้เมื่อไร ความปฏิบัติเหลวแหลกแหวกแนวมันอยู่กับพระกับเณรแต่ละองค์ๆ ภายในวัดนั่น เขาไม่เรียกเฉยๆ ว่าพระเณรแต่ละองค์ นี้คือกองมูตรกองคูถ วัดที่เป็นสถานที่อยู่ของพระเณรนี้คือส้วมคือถานเขาไม่พูดเฉยๆ หลักความจริงมันเป็นอย่างนั้น มันไม่ได้สนใจกับอรรถกับธรรมอะไร อยู่โก้ๆ ไปอย่างนั้น สวยงามอย่างนั้น ท่านผู้ปฏิบัติตามอรรถตามธรรม ท่านอยู่ในป่ามาพูดดูซิคำไหน ไพเราะเพราะพริ้งด้วยอรรถด้วยธรรมซาบซึ้งตลอดเวลานะ
นี่ละพระป่าที่ออกมา ออกมาอย่างอาจหาญชาญชัยด้วยศีลด้วยธรรมของท่าน ไม่บกพร่อง สมบูรณ์แบบ อันนี้มันมีศีลมีธรรมสักตัวหรือไม่มีก็ไม่ทราบละ มีแต่น้ำลาย โกหกมดเท็จโลกตลอดไปๆ มีจำนวนมากเท่าไรก็มีแต่ส้วมแต่ถานเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่มีศีลมีธรรมเป็นเครื่องปกครอง หาความสงบไม่ได้ เอ้ามีอะไรอีกถามมาจะตอบ
พิมพ์ไทย ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงมีพุทธสาวกที่ทรงปาฏิหาริย์บ้าง ทรงฤทธิ์เดชบ้าง ทรงเป็นปราชญ์บ้าง ทำให้ศาสนาแผ่ขยายไปกว้างไกล ให้คนได้รู้จักพุทธศาสนา ได้มีที่พึ่ง ในสมัยของหลวงตาบ้าง หลวงตามีฤทธิ์
หลวงตา แม้แต่ครั้งพุทธกาลมีฤทธาศักดานุภาพอย่างนั้นก็จริงนะ แต่ผู้ที่จะสำเร็จเป็นผู้ที่เลิศเลอด้วยการปฏิบัติบรรลุมรรค ผล นิพพาน ไม่ได้บรรลุเหาะเหินเดินฟ้า เหาะเหินเดินฟ้านกมันก็เหาะได้บินได้เข้าใจไหม ดำดินเรือมันก็ไปได้ อะไรมันก็ไปได้ บินบนนกมันก็ไปได้ อันนี้ท่านไม่ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์วิเศษอะไร ยิ่งกว่าการปฏิบัติตามศีลตามธรรมเพื่อมรรคผลนิพพาน มรรคผลนิพพานเลิศเลอจากการปฏิบัตินี้ต่างหาก ปาฏิหาริย์ภายในจิตใจ สลัดสิ่งที่พัวพันสกปรกนี้ออกให้หมด จิตใจสว่างจ้า นี่ท่านผู้เลิศเลอ
ท่านไม่จำเป็นหาปีกหาอะไรมาบิน เข้าใจไหม นี่อยากบินหรือนี่ถึงมาถาม อยากบินก็ไปสนามบินดอนเมืองนั่นซี ที่นี่ไม่ใช่สนามบิน ไปดอนเมืองนั่นซิ
พิมพ์ไทย ที่ผมถามผมอยากทราบว่า มีพระลูกศิษย์ของหลวงตาเก่งๆ บ้างไหมครับที่จะออกมา
หลวงตา ไม่จำเป็นจะต้องพูด พูดไปหาอะไร ตั้งแต่สิ่งที่เก่งๆ เอามาพูดมันก็ไม่ยอมฟังเสียง ถ้าหากว่าอันนี้เก่งก็ไปถามนกดูซิน่ะ มันเก่งไหมนกนั่นน่ะ อันนี้เป็นสิ่งปลีกย่อย ตามนิสัยวาสนาของท่านแต่ละองค์ๆ มีได้ เช่นอย่างนั่งนี้ ตัวลอยขึ้นอย่างนี้ท่านก็มีได้อย่างทุกวันนี้ แต่จำเป็นอะไรที่ท่านจะมาพูดสิ่งเหล่านี้ เป็นของเล็กน้อย ไม่มีน้ำหนักยิ่งกว่าศีล สมาธิ ปัญญา วิชชาวิมุตติหลุดพ้น เพื่อมรรค ผล นิพพาน อันนี้ต่างหากที่ท่านสนใจ ท่านปฏิบัติ อยู่ด้วยกันด้วยความสนิทเพราะธรรมเหล่านี้ต่างหาก ไม่ได้สนิทด้วยการเหาะเหินเดินฟ้า ถ้าอยากเหาะเหินเดินฟ้าก็ไปดอนเมืองก็ได้ ถ้าอยากดำน้ำลงไป ไปหาปลาก็ได้ มันอดอยากอะไร
พิมพ์ไทย หมายถึงว่าจะได้มาช่วยเบาแรงหลวงตา
หลวงตา เบาแรงอะไร หลวงตาหนักอะไรถึงจะมาเบาแรงหลวงตา เหอ หลวงตาไม่เห็นหนักอะไรนี่วะ อะไรจะมาเบาแรงหลวงตา
สารสวรรค์ หลวงตาครับ กองทัพของหลวงตาเหมือนกับไม้ซีก จะไปงัดกับไม้ซุงไหวหรือครับ
หลวงตา แล้วอะไรเป็นไม้ซุง ว่ามาซิ
สารสวรรค์ ทางการปกครองคณะสงฆ์
หลวงตา คณะสงฆ์มันจะใหญ่โตขนาดไหน มันก็อยู่ในพื้นดินนี่แหละ เข้าใจเหรอ ไม้ซีกก็ตาม ถ้าซีกวิเศษวิโสถึงนิพพานเลิศเลอ คือศาสดาองค์เอก ไม้ซีกก็ตามได้องค์เดียวก็พอ ไม่จำเป็นต้องหากันไปทั้งภูเขาละน่ะ เราไม่เอามาเทียบ ไม่เทียบอย่างนั้น การสอนอันนี้เอ้าใครจะทำก็ทำ ใครจะเอาก็เอา เราไม่มีอะไรกับโลกเราบอกจริงๆ ถึงกาลเวลาที่เราจะไปของเราแล้วเราตายง่ายมาก เราบอกจริงๆ
การเทศนาว่าการสอนโลกมา สอนด้วยความอาจหาญจากหัวใจที่สว่างกระจ่างแจ้งอยู่ตลอด เราไม่ได้สอนว่าไปยืมนั้นยืมนี้ เขามาชมเชยสรรเสริญจมูกโด่งขึ้นเลย ถ้าเขามาตำหนิติเตียนจมูกบี้เข้าไป เราไม่มีอย่างนั้น เขาชมเชยสรรเสริญก็เหมือนทองคำน้ำหนัก ๑๐ กิโล เขาดูถูกเหยียดหยามก็เหมือนอิฐก้อนหนึ่งน้ำหนัก ๑๐ กิโล ทั้งสองอย่างนี้มีน้ำหนักเท่ากัน ถ้าให้คนทั้งหลายไปยกเขาจะคว้าเอาทองคำใช่ไหมล่ะ อันนี้ดี ส่วนน้ำหนักขนาดไหนไม่ได้คิด จะตายก็ตามขอให้ได้แบกทองคำ แต่ท่านผู้ที่เลิศเลอยิ่งกว่าทองคำนั้นอิฐก็ไม่ยก ทองคำก็ไม่ยก เพราะหนัก อันนั้นเลิศกว่านี้แล้วอันไม่หนัก นั่นต่างหากนะ เข้าใจเหรอ
ไทยรัฐ คือการหลุดพ้นใช่ไหมครับ ไม่แบกไม่อะไร
หลวงตา พอแล้วไม่แบกอะไร ชมเชยก็ไม่แบก สรรเสริญหรือติฉินนินทาไม่แบก รู้เท่าทัน ตัดออกเองเลยเป็นหลักธรรมชาติของจิตที่พอตัวแล้ว ไม่ต้องหวังใครมาพึ่ง
ไทยรัฐ หลวงตาครับ ระหว่างคำว่าพระธรรมวินัยกับกฎหมายแตกต่างกันยังไงครับ
หลวงตา แตกต่าง กฎหมายก็ออกไปจากธรรมวินัย หยาบกว่าธรรมวินัย แต่ยังดีที่ออกจากธรรมวินัยไป ส่วนกฎหมอยเป็นอยู่นี่ดูเอา กฎหมอย กฎหมา กฎหมัด มันกำลังกัดกันอยู่ในนี้ พวกนี้เรียนมาจริงเรื่องกฎหมายนะแต่ไม่ได้เอามาใช้ สู้กฎหมอยไม่ได้ เอากฎหมอย กฎหมา กฎหมัด ออกมาใช้กัดกันแหลกอยู่เวลานี้ นี่พวกกฎหมา กฎหมอย กฎหมัด เข้าใจเหรอ เคยได้ยินไหมคำพูดอย่างนี้
พิมพ์ไทย เคยได้ยินหลวงตาเทศน์ครับ
หลวงตา นั่นแล้ว ก็มันมีอยู่ตามนี้ก็พูดตามมันมีนี่นะ ของไม่มีเราไม่เอาอุตริ เราเอาของจริงทั้งนั้นมาพูด เอ้าว่ามาตรงไหน
พิมพ์ไทย ทองคำตอนนี้ได้ ๓๐๐ กว่ากิโลแล้ว ต้องรอให้ครบ ๑ ตันใช่ไหมครับ
หลวงตา ถ้าว่ารอก็รอ ไม่รอก็ไม่รอ เพราะเราไม่ขอร้องใครอันนี้นะ ส่วนนั้นได้ประกาศลั่นโลกเลยที่ได้ ๑๐ ตัน ที่ได้จาก ๑๐ ตันมานี้ แล้วทองคำที่ได้มาภายหลังเราไม่ดุไม่ด่า ไม่ขอร้องอะไร อย่างพูดมากกว่านั้นก็คือว่าออดอ้อนเอาเท่านั้นละ ทองคำเรายังขาดอยู่เท่านั้นถ้าได้ ๑ ตันจะดี พูดเพียงเท่านี้นะ ไม่กวนใคร พูดอย่างนั้น เรามีคำสัตย์คำจริง เวลาเด็ด เด็ด เวลาปล่อยตามอัธยาศัยของพี่น้องชาวไทยเพราะเชื่อถือกันแล้ว ว่าทองคำตั้ง ๑๐ ตันยังได้ ทำไมทองคำเพียง ๑ ตันนี้จะเอาไม่ได้เหรอ เราเชื่อพี่น้องทั้งหลายแล้วเราก็ออดอ้อนเอาเท่านั้นเอง
มันตั้งได้ทุกแบบพวกสกปรก เราให้รักษาหลักเกณฑ์อันดีงามไว้เพื่อเป็นมรดกของชาติไทยเรา คือศาสนานี้ให้ดีก็แล้วกัน สำหรับหลวงตาไม่นานก็จะตายแล้วละ ให้อยู่ค้ำฟ้าไม่อยู่ ไม่ค้ำ ถึงเวลาตายได้เหมือนโลกทั่วๆ ไป เวลามีชีวิตอยู่จะทำประโยชน์มากน้อยเพียงไรเราก็ทำของเรา แล้วมีอะไรอีกไหมล่ะ เอ้ามีอะไรให้ถามมา เตรียมจะตอบอยู่แล้วจนกระทั่งตอบมาโดยลำดับ ถ้าไม่มีจะกลับก็ได้ไม่ว่าอะไร
เป็นยังไงมาเยี่ยมหลวงตาวันนี้เสียเที่ยวไหม
พิมพ์ไทย ไม่เสียเที่ยว ได้มากเลยครับ ยังไม่ได้ถ่ายรูปหลวงตาเลยครับ
หลวงตา ถ่ายไปหาอะไร เขามีตาเต็มบ้านเต็มเมืองเขาไม่เห็นถ่ายเราถ่ายอะไร มีหนังสือพิมพ์จะถ่ายเอ้าถ่ายได้ (สาธุ) เป็นกรณีพิเศษเราก็ให้ ถ้าทั่วๆ ไปไม่ได้ มันต้องแยกต้องแยะ
ข้อสุดท้ายหลวงตาขอบิณฑบาตกับหนังสือพิมพ์เรา ซึ่งเป็นหัวใจของชาติของโลก ขอให้ออกตามความสัตย์ความจริง อย่าเห็นแก่ค่าจ้างรางวัลซึ่งเป็นเพชฌฆาตสังหารทั้งชาติทั้งศาสนาให้จมไปด้วย ตัวเราก็จมไปด้วยกันอีก ให้ระวังอันนี้ให้ดีก็แล้วกัน เอาเท่านั้นละ ขอขอบคุณท่านทั้งหลายนะ ที่เป็นนักข่าวอุตส่าห์นำข่าว ไปเพื่อประกาศให้โลกทั้งหลายได้ทราบทั่วกัน แล้วปฏิบัติต่อชาติไทยศาสนาไทยของเราให้เจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคงต่อไปนะ (สาธุ)
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และสถานีวิทยุเอฟ.เอ็ม ๑๐๓.๒๕
|