หาที่คัดค้านไม่ได้
วันที่ 25 มิถุนายน 2547 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

หาที่คัดค้านไม่ได้

 

         ผู้กำกับ มีบทความจากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย คอลัมน์วิจารณธรรม ฉบับวันศุกร์ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๔๗ ดังนี้ครับ

เมื่อทำไม่ได้ก็ให้คนอื่นเขาทำ !

คำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา ได้สร้างวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้แก่สังคมไทย ทุกคนที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย ต่างดำรงชีวิตร่วมกันด้วยความโอบอ้อมอารี มีเมตตาธรรมต่อกันและกัน รู้จักเคารพต่อพระสงฆ์ ต่อผู้มีอายุมากกว่า ต่อครูอาจารย์ ต่อบิดามารดา และต่อผู้มีพระคุณ ส่งผลให้สังคมไทยได้อยู่เย็นเป็นสุขมาตราบเท่าทุกวันนี้

แต่ในปัจจุบันสังคมไทยเปลี่ยนไป ด้วยภาครัฐไม่ให้ความสนใจเรื่องพระพุทธศาสนาเท่าที่ควร ไม่ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมในระบบทางการศึกษา ผู้บริหารบ้านเมืองและข้าราชการไม่ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน

อีกทั้งยังหั่นงบประมาณสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาไปเกือบครึ่ง !

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลักคำสอนที่เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา เข้าไม่ถึงส่วนลึกแห่งจิตใจคน คนไทยจึงทิ้งรากฐานทางวัฒนธรรมที่ดีงาม ขาดความเคารพในพระสงฆ์ ไม่เกรงใจต่อผู้มีอายุมากกว่า ไม่นับถือครูอาจารย์ ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา ลบหลู่ดูหมิ่นผู้มีพระคุณ จึงส่งผลให้สังคมไทยขาดความสงบสุข

ประสบความเดือดร้อนกันทั้งแผ่นดิน !

ปัญหาการก่ออาชญากรรมขั้นรุนแรงในเด็กทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ ดังจะเห็นว่า เด็กวัยรุ่นในวันนี้ไม่รู้จักการรักนวลสงวนตัว ไม่รู้จักความเป็นกุลสตรี แต่งกายล่อแหลมยั่วยวน เปิดเผยของอันพึงสงวนอวดสายตาผู้คน เด็กชายวัยเพียง ๑๔-๑๕ ปี ก่อคดีรุมโทรมเด็กหญิงกันเป็นว่าเล่น มีจิตใจเหี้ยมโหดเข่นฆ่าผู้อื่นได้อย่างเลือดเย็น ก่อคดีลักขโมย จี้ ปล้น !

ทางด้านเด็กหญิงก็เกิดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เกิดปัญหาทำแท้งตามมา ก่อปัญหาคลอดลูกแล้วทิ้งให้ผู้อื่นเก็บไปเลี้ยง ฆ่าทารกทิ้ง ฆ่าหมกดิน โยนทิ้งลงถังขยะ โยนลงมาจากตึกสูงเหมือนกับทิ้งเศษขยะก้อนหนึ่ง

ทำไมรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบเกี่ยวกับกิจการพระพุทธศาสนา ถึงไม่เล็งเห็นปัญหาเหล่านี้ ทำไมไม่น้อมนำเอาพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแผนแม่บทในการพัฒนาคนบ้าง ?

ดังพระบรมราโชวาท ความว่า "พระธรรมนั้นเชื่อว่าเป็นอกาลิโก ถูกต้องเที่ยงแท้ และเหมาะที่จะน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติเสมอไม่ว่ากาลไหนๆ จึงย่อมเป็นแม่บทของการพัฒนาแบบยั่งยืนได้แน่นอน ปราศจากข้อกังขา ข้อสำคัญนั้น ชาวพุทธเองจะต้องขวนขวายศึกษาพุทธธรรมให้ทราบชัดโดยทั่วถึง และน้อมนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังให้ประจักษ์ผล พระพุทธศาสนาจึงจะอำนวยประโยชน์แก่การพัฒนาสมตามที่ปรารถนานั้นได้"

เล็งเห็นความสำคัญในพุทธธรรมบ้างซิครับ !!

ปัญหาความไม่ปลอดภัยของพระสงฆ์ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดเงินถวายเพื่อการยังชีพจากการออกบิณฑบาตไม่ได้เพียงรูปละ ๑๐๐ ต่อวันเท่านั้น  การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม แผนกบาลี ก็จัดถวายให้ไม่ถึงรูปละ ๑๐๐ บาทต่อปี การศึกษาของพระภิกษุสามเณรถูกทอดทิ้งไร้การเอาใจใส่จากภาครัฐ

เมื่อพระภิกษุสามเณรส่วนใหญ่ไม่สามารถจะอ่านภาษาบาลีในพระไตรปิฎกได้อย่างแตกฉาน แล้วท่านจะเอาแก่นแท้จากพระธรรมคำสอนที่ไหนไปสอนสั่งแก่ประชาชน ด้วยเหตุนี้ปัญหาเน่าเฟะจึงตกแก่สังคมไทย

เมื่อสัปดาห์ก่อน ฯพณฯ กำธน  สินธวานนท์ องคมนตรี ได้กรุณาให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระอนุสรณ์คำนึงว่า พระภิกษุและสามเณรควรได้รับการศึกษาพุทธธรรมในขั้นสูง เพื่อสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธพจน์และนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้องจนบรรลุธรรม แล้วนำไปสั่งสอนแก่พุทธบริษัทต่อไป พระองค์ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อถวายเป็นทุนในการศึกษาของพระภิกษุและสามเณร ทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรี ทุนละ ๗,๐๐๐ บาทต่อปี ส่วนทุนการศึกษาสำหรับผู้สอบผ่าน ป.ธ.๕ ศึกษาต่อเพื่อสอบ ป.ธ.๖ ทุนละ ๖,๐๐๐ บาทต่อปี และทุนสูงสุดสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาเพื่อสอบ ป.ธ.๙ ทุนละ ๑๖,๐๐๐ บาทต่อปี

ทุนพระราชทานเพื่อการศึกษาเล่าเรียนของพระภิกษุและสามเณร ซึ่งเป็นทุนหลวง จัดถวายให้มากกว่าทุนที่สำนักพุทธจัดให้ในแต่ละปี เป็นร้อยเท่าพันเท่า !

รู้สำนึกบ้างซิว่า การทำหน้าที่ของท่านนั้นล้มเหลว !!

อย่าปล่อยให้ผู้คนในชาติบ้านเมืองต้องประสบกับความเดือดร้อน ด้วยเหตุละเมิดหลักศีลธรรมกันอยู่อีกเลย

ถ้าปฏิบัติไม่ได้ตามพระบรมราโชวาท ก็ควรจะออกไปให้พ้นจากการทำหน้าที่ดูแลกิจการพระพุทธศาสนา สังคมไทยจะได้เกิดความสงบสุขขึ้นมาบ้าง !!

 

                                                                                  ณ. หนูแก้ว

            หลวงตา แล้วมีอะไรอีกล่ะ

ผู้กำกับ ล่าชื่อถอดถอนวิษณุพ้นตำแหน่งครับ

หลวงตา เอ้าว่าไป เป็นอะไรถึงต้องถอดถอนเขา เขาทำผิดอะไรเหรอ หรือเขาทำถูกแล้วยังไปถอดถอนเขา ว่าตามเหตุผลมาซี

ผู้กำกับ จากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย เช่นเดียวกันครับ ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๔๗ เขาพาดหัวข่าวว่า พระป่าศิษย์หลวงตาขู่จะระดมพระป่านับหมื่นกับประชาชนกว่า ๒ หมื่นเข้าพบนายกฯ เพื่อยื่นรายชื่อป.ช.ช.๑๕๐,๐๐๐ ชื่อถอดถอนนายวิษณุให้พ้นจากตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา ๘.๓๐ น. วานนี้ (๒๑ มิ.ย.) ได้มีพระภิกษุสายวัดป่าซึ่งเป็นคณะศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี จำนวนกว่า ๕๐๐ รูป พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ที่ติดตามมาจากวัดต่างๆ ทั่วประเทศอีกประมาณ ๔๐๐ คน ได้เข้าร่วมประชุมเรื่อง คัดค้านการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และการใช้พระตราที่ประทับประจำตำแหน่งของสมเด็จพระสังฆราช ภายในสวนแสงธรรม ถ.พุทธมณฑลสาย ๓ ซึ่งการประชุมดังกล่าว มีพระอาจารย์คลาด ครุธัมโม จากวัดถ้ำบางเตย จ.พังงา ผู้มีอาวุโสสูงสุดเป็นประธาน ใช้เวลาในการประชุมประมาณ ๑ ชม.

จากนั้นนายทองก้อน  วงศ์สมุทร แกนนำคณะศิษย์หลวงตาพระมหาบัว ได้กล่าวสรุปผลการประชุมให้คณะศิษย์ทุกคน ได้ทราบถึงวิธีการลัดขั้นตอนในการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และการใช้พระตราที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาคณะสงฆ์สายวัดป่าได้เคยทำหนังสือเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงจากผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนา และเคยเข้าไปขอฟังคำตอบแล้วถึง ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากผู้บริหารสำนักงานพระพุทธฯ

จากนั้นนายทองก้อน ได้จัดให้คณะศิษย์ทั้งหมดแบ่งกลุ่มกันออกเป็นจำนวน ๒๑ กลุ่ม ให้ออกเดินถือแผ่นป้ายที่มีข้อความต่างๆ เช่น คำว่า ดินเหนียวติดหัวนึกว่าตัวเองมีหงอน, ชาวพุทธรับไม่ได้ สังฆราชปลอม, ชวนพังเพราะธารินทร์ ทักษิณจะพังเพราะวิษณุ ไปตามย่านชุมนุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร แล้วให้กลับมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)ในเวลา ๑๖.๐๐ น.

ต่อมา พระครูอรรถกิจนันทคุณ แกนนำพระวัดป่า พร้อมด้วยพระภิกษุทั้งหมดประมาณ ๕๐๐ รูปได้พากันเดินทางโดยรถบัสจำนวน ๑๘ คัน เข้าไปรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าตำหนักสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว  อุปเสโณ) โดยที่แกนนำพระวัดป่าหลายรูปได้ผลัดเปลี่ยนกันพูดออกทางโทรโข่ง เรียกร้องให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ออกมาพบและต้องให้คำตอบให้ได้ว่า การใช้พระตราประจำตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช มหาเถรสมาคมมีกฎระเบียบไว้อย่างไร ผู้ใดอนุญาตให้นำพระตรามาประทับบนลายมือชื่อของสมเด็จพระพุฒาจารย์ และอาศัยอำนาจจากกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อใด

นอกจากนี้แกนนำพระป่ายังได้เรียกร้องให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ ออกมาให้คำตอบเกี่ยวกับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้ยินยอมให้ฆราวาสมามีอำนาจเหนือพระใช่หรือไม่

หลังแกนนำพระวัดป่าได้เรียกร้องให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ออกมาพบ เป็นเวลากว่า ชั่วโมง นายกนก  แสนประเสริฐ ผอ.ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ออกมาแจ้งว่า พระธรรมสิทธิเวที กรรมการ มส. และพระราชธรรมสาร เลขานุการสมเด็จพระพุฒาจารย์ จะออกมาพบเพื่อทำความเข้าใจ แต่แกนนำพระวัดป่าไม่ยอมให้มาพบ คงยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า ผู้ที่จะตอบคำถามได้จะต้องเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์เพียงรูปเดียวเท่านั้น และหากไม่ออกมาพบก็แสดงว่าข้อสงสัยทั้งหมดนั้นเป็นความจริง

หลังจากใช้เวลารอคอยสมเด็จพระพุฒาจารย์จนถึงเวลา ๑๓.๐๐ น.พระภิกษุและคณะศิษย์ทั้งหมดจึงพากันเดินทางออกไปจากวัดสระเกศ โดยนัดหมายให้ไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศ เพื่อยื่นหนังสือเรื่องขอทราบความจริง กรณีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม โดยมีนางบุญศรี  พานะจิตต์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธฯ และนางจุฬารัตน์  บุญยากร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เป็นผู้ออกมารับหนังสือ

หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ ๓๐ นาที นายสมชาย  สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธฯ ก็ออกมาชี้แจงให้คณะสงฆ์ได้ทราบว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสำนักงานพระพุทธ และเป็นเรื่องการดำเนินการของรัฐบาล ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ได้นำเข้าบรรจุในวาระการประชุม

คณะสงฆ์วัดป่าจึงออกแถลงการคณะสงฆ์ไทย ฉบับที่ ๕ มีข้อความว่า เมื่อกรณีนี้หาผู้รับผิดชอบไม่ได้ก็จะแจ้งให้พุทธบริษัท คือ พระภิกษุจำนวนหมื่นรูปกับฆราวาสอีกจำนวนไม่น้อยกว่า ๒ หมื่นคน จะพากันเข้าไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี ในวันที่ ๖ ก.ค. ๔๗ และจะยื่นรายชื่อประชาชนจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ รายชื่อ ต่อประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอนนายวิษณุ  เครืองาม รองนายกฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง และจะขอให้นายกฯเร่งดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด พร้อมกับให้ยกเลิกประกาศแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่ลงนามโดยนายวิษณุ  เครืองาม และหากไม่เป็นผล คณะสงฆ์ก็จะนำลายมือชื่อพุทธบริษัทยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป จากนั้นทั้งหมดจึงพากับเดินทางกลับออกจากวัดบวรนิเวศ จบครับ

หลวงตา เท่านั้นละไม่มีอะไร เพราะผู้อ่านตาไม่ดี ขาดวรรคขาดตอน เป็นมาจากต้นเหตุนั่นละ ที่มันจอมปลอมมาเรื่อย ผู้อ่านก็เลยอ่านไปตามจอมปลอมเท่านั้นละ วันที่ ๖ ก.ค. นี้พระประมาณ ๑ หมื่นรูปและประชาชนประมาณ ๒ หมื่นคนก็จะไปพร้อมกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อพบนายกฯ เรื่องก็ไม่เห็นมีอะไร เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกอย่าง ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของแผ่นดินและพุทธศาสนาไทย เราทำหน้าที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยของความเป็นเจ้าของแห่งชาติและศาสนาของตน ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดว่าทำไปนี้ผิด เป็นความถูกต้องในฐานะผู้เป็นเจ้าของของชาติและพุทธศาสนาของชาติไทยเรา เป็นความถูกต้องแล้ว เราจึงหาที่คัดค้านไม่ได้ เท่านั้นแหละนะ ถึงวันเวลาก็ไปตามนั้นเท่านั้นเองไม่มีปัญหาอะไร

ผู้กำกับ ขอกราบเรียนนิมนต์หลวงตาไว้แทนคณะลูกศิษย์ ไปแล้วอย่ารีบกลับ ให้เลยวันที่ ๖ ก่อนค่อยกลับครับ ลูกศิษย์อยากได้เป็นกำลังใจ

หลวงตา ระยะนั้นเราก็จะได้ไปกรุงเทพ ฟ้าหญิงนิมนต์ไปฉันที่พระตำหนักพระราชวังสวนจิตรลดา วันที่ ๔ ไปฉัน ทีแรกเรากะว่าจะกลับวันที่ ๕ พอดีทางนี้จะเข้าไป เราจะต้องรอดูเหตุการณ์เสียก่อน เสร็จเรียบร้อยแล้วเราถึงจะกลับ ก็มีเท่านั้นแหละเรื่อง ทีแรกเราจะกลับวันที่ ๕ ฉันวันที่ ๔ วันที่ ๕ กลับ เพราะเราไปงานนี้โดยเฉพาะ แต่มีเรื่องราวของแผ่นดินเข้าไปเกี่ยวข้อง เราในนามคนของแผ่นดินไทย ศาสนาไทย เราก็จะต้องรอดูเหตุการณ์ทุกอย่างในสถานที่นั่น ก็มีเท่านั้นแหละนะ จะรอฟังเหตุการณ์ หรือใครมีข้อข้องใจอะไรก็ให้ถามเราในสถานที่นั่น ที่สวนแสงธรรม ก่อนที่จะออกเดินทางเข้าสู่สถานที่ที่ทำงาน ก็มีเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราจึงยังกลับไม่ได้วันนั้น ต้องรอดูเสียก่อน

เวลานี้ชาติและศาสนาของเรากำลังถูกรุกราน ด้วยความจอมปลอมของคนไม่กี่คนแหละ ที่จะทำลายชาติศาสนาเวลานี้ ด้วยความหน้าด้านมึนตึงไม่ฟังเสียงอะไรเลย ดังที่ไปวัดสระเกศวันนั้นก็ทราบแล้ว เห็นไหมล่ะอย่างนั้นละ

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com  หรือ www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก