เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
เวลานี้รอตอบอยู่แล้ว
หลวงตา วันนี้เขาจะเริ่มอ่านบทความต่อจากเมื่อวานนี้ อ่านอย่างบรรจง ผู้ฟังจะฟังอย่างบรรจง เอ้าเริ่ม ว่าไปที่นี่
ผู้กำกับ จากหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ครับ เขาลงมา ๓ ตอน เมื่อวานตอนหนึ่ง ต่อไปนี้เป็นตอนสองกับตอนสาม เขาขึ้นต้นว่า
อีกสองตอนต่อจากนี้ไป จะเป็นคำตอบแก่พุทธศาสนิกชนได้อย่างดีที่สุด จากกรณีที่พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ผู้เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสายวัดป่า(ธรรมยุต) กล่าวในการแสดงพระธรรมเทศนาหลายครั้งว่า ได้ถูกนายพลผู้เป็นใหญ่ในสำนักงานพระพุทธศาสนาโจษอาบัติปาราชิกว่า อวดอุตริมนุสธรรม ท่านผู้ชมทั้งหลายพึงใช้สติปัญญาพิจารณาธรรมต่อไปนี้ซึ่งแสดง ณ วัดป่าบ้านตาดเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๗ จากนี้เป็นข้อความต่อจากเมื่อวานครับ
....เราก็พูดว่าจะแก้หรือไม่แก้ก็แล้วแต่ เราพูดตามหลักความจริงของเรา จิตของเรานี้สว่างจ้าครอบโลกธาตุมาตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ บนหลังเขาวัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร สว่างจ้าตั้งแต่โน้นมาไม่ลดราวาศอกที่ไหน เสมอ สว่างจ้ามาจนกระทั่งป่านนี้ แม้ที่สุดเวลาที่เขาฟ้องร้องหลวงตาบัวว่าเป็นสังฆาฯ ปาราชิก จิตนี้มันก็สว่างจ้าอยู่งั้นจะทำไง นี่เขาว่าหลวงตาบัวเป็นอาบัติปาราชิก จิตเรามันก็สว่างจ้าอยู่นี้ แล้วว่าเป็นปาราชิกได้ยังไง ถ้าปาราชิกแบบหลวงตาบัวนี้เราพอใจ เราบอกงั้นนะ ใครอยากเป็นปาราชิกแบบหลวงตาบัว ให้พยายามปฏิบัติธรรมเข้านะ คำฟ้องร้องให้เขาฟ้องร้องไป เราสว่างจ้าของเราพอ หลวงตาบัวก็จะเอาอันสว่างจ้าทำประโยชน์แก่โลก ส่วนปาราชิกราแช็ก มอบให้เขาไปเสีย ความหมายก็ว่างั้นเข้าใจไหม
(เขาไม่กลัวบาปนะคะหลวงตา) เขาไม่กลัว เขากล้าบาป เข้าใจไหม เรื่องกลัวบาปเขาไม่กลัว เขากล้าบาป นี้ข้อที่หนึ่ง เราพูดให้ลูกศิษย์ลูกหาฟังสนุกไปเฉยๆ แหละ ให้เป็นปาราชิกแบบหลวงตาบัวนะ เขาว่าอะไรก็จ้าอยู่นี้ แล้วทีนี้อันที่สอง เขาว่าหลวงตาบัวไปหาเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับอาบัติ ผิดกฎหมายด้วย ปรับอาบัติด้วย แล้วเขาจะฟ้องร้อง คนนี้แหละที่เขาจะฟ้องร้องนี่ก่อนที่เขาจะปลดเกษียณ เขาจะปลดเกษียณเดือนกันยานี้ เขาจะฟ้องร้องหลวงตาบัว ทั้งเป็นอาบัติด้วย ทั้งผิดกฎหมายด้วย เขาฟ้องร้องว่าไง (ว่าเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการหลอกลวงประชาชน ผิดกฎหมายอาญาครับผม) นี่ละเขาว่าผิดกฎหมายอาญา แล้วเขาจะฟ้องร้องก่อนที่เขาจะครบเกษียณออกไป นี่เขายังไม่ได้ฟ้องร้อง
ที่แสดงออกมาทั้งหมดนี้ เรานี่พูดจริงๆ เราทรงวินัยทรงธรรมไว้เต็มหัวใจเรา ที่มาโจษอย่างนี้เป็นคนรู้ธรรมรู้วินัยหรือไม่มันส่อให้เห็นชัดเจน ตีสะเปะสะปะออกมาอย่างนั้น ผู้นี้ผู้ดู กอดคัมภีร์อยู่นี้คัมภีร์ในหัวใจนี้ดู เพราะฉะนั้นจึงสนุกพูด ปาราชิกแบบนี้อย่างนั้นอย่างนี้เข้าใจไหม และเรี่ยไรเงินประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างนี้ พระวินัยของเราเป็นยังไง ไอ้ที่มันสะเปะสะปะฟ้องเข้ามานี้เป็นยังไงมันก็รู้เข้าใจไหม ทีนี้พูดถึงเรื่องหลักพระวินัยท่านแสดงไว้ชัดเจน ถ้าเรี่ยไรเพื่อตัวเองปรับอาบัติ ถ้าเรี่ยไรเพื่อผู้อื่นไม่ปรับ นี่อันหนึ่ง
อันนี้มันบอกเรี่ยไรไม่ได้รับอนุญาต ทีนี้การเรี่ยไรเหล่านี้เราก็ไม่มี ไม่ว่าเรี่ยไรเพื่อตัวเองไม่ว่าเรี่ยไรเพื่อส่วนรวมเราไม่มี อันนี้เมืองไทยของเราสะท้านหวั่นไหวจะล่มจมลงในทะเลหลวง ในปี ๒๕๔๐ เข้าใจเหรอ จนกระทบกระเทือนทั่วประเทศไทย และเรื่องราวนี้เข้ามากระทบเรา อ่านเหตุผลทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเราประกาศก้องขึ้นมา นี่เมืองไทยของเราจะจม ใครจะช่วยกันยังไงก็ให้ช่วยนะ หลวงตาบัวจะพยายามเต็มกำลังความสามารถ เอ้าเป็นหัวหน้าเลย พี่น้องทั้งหลายมีอะไรๆ เอาเข้ามาหนุนชาติไทยของเราให้ขึ้นจากหล่มลึก นี่เรียกว่าเรี่ยไรหรือ ประกาศทั่วโลกที่เมืองไทยของเราที่กำลังจะจม ให้ทราบทั่วหน้ากัน ให้ฟื้นขึ้นมา เราเป็นผู้ประกาศเอง เราเรี่ยไรหรืออย่างนั้นใช่ไหม
นี่เห็นไหมพระวินัยกับอันนี้มันเข้ากันไม่ได้เข้าใจเหรอ มันหลับตาฟ้องเข้ามา จึงน่าหัวเราะ ก็พอดีเมื่อเร็วๆ นี้ก็เอากันแล้วจะไล่ออก ตัวนี้ละตัวสำคัญไล่ออก เอาไว้ทำไมเอาข้าศึกศัตรูเอามหาภัยเข้ามาไว้แดนพุทธศาสนาทำไม ให้ขับออก คนดีกว่านี้ไม่มีเหรอ ฟาดเข้าไปจนกระทั่งถึงนายกฯ ทางนู้นก็เอากันละจะไล่ออก พอดีได้ขอจากนี้ไปถึงครบเกษียณ ยังไม่ย้ายจากนี้ไป ขอถึงวันครบเกษียณแล้วก็จะลาออก ทางนี้ก็มัดกันเข้าไป ข้อหนึ่ง ก่อนที่จะลาออกอย่าสร้างเหตุการณ์อะไรขึ้นมาในระหว่างนี้หนึ่ง อันที่สอง การโจมตีท่านหลวงตาบัวอย่างนี้อย่าทำอีกต่อไป บังคับกันไว้ ยอมรับหมด คอยดูมันจะออกแง่ไหนก็ไม่รู้ละ เราคอยฟังกับมันนะ
ก็เราไม่มีเรื่องอะไรกับใคร เราทำแต่ประโยชน์ ทางนั้นหาแต่โทษ หาแต่ฟืนแต่ไฟเข้าใจเหรอ นี่ละเรื่องราวก็มายุติตรงนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องการทำประโยชน์ให้โลกนี่ได้รับอุปสรรคกีดขวางมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้น แต่ก็ผ่านผึงๆๆ ไม่มีอะไรมากีดมาขวางได้เลย ขวางก็ฟาดขาดสะบั้นๆ มาตลอดจนกระทั่งบัดนี้ นี่ก็ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้ว และเรื่องราวกำลังขึ้นอยู่อย่างนี้ละ
จบตอนสอง ต่อด้วยตอนสามดังนี้ครับ
ตอนสุดท้ายนี้จะเป็นคำตอบแก่พุทธศาสนิกชนได้อย่างดีที่สุด จากกรณีที่พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ผู้เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสายวัดป่า(ธรรมยุต) กล่าวในการแสดงพระธรรมเทศนาหลายครั้งว่า ได้ถูกนายพลผู้เป็นใหญ่ในสำนักงานพระพุทธศาสนาโจษอาบัติปาราชิกว่า อวดอุตริมนุสธรรม ท่านผู้ชมทั้งหลายพึงใช้สติปัญญาพิจารณาธรรมต่อไปนี้ซึ่งแสดง ณ วัดป่าบ้านตาดเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๗
....พิจารณาเอาพี่น้องทั้งหลาย เราอยู่ในขวากในหนามในฟืนในไฟแต่เราเย็นสบายๆ เราไม่มีอะไรกับโลก โลกมีอะไรกับเรา เราก็ไม่มี เต็มเม็ดเต็มหน่วยอยู่อย่างนี้
นี่ละการช่วยชาติบ้านเมืองที่ว่าสมบุกสมบันอยู่ในขวากในหนามก็คือเรา เพราะเราเป็นหัวหน้า เอะอะจะมาโจมตีเรา คือโจมตีเราให้ขาดความเคารพนับถือของประชาชน หลวงตาบัวไม่ดีอย่างนั้นๆ ตามที่เขาโฆษณาโจมตี เมื่อคนขาดความเคารพนับถือแล้ว เรียกว่าหมดกำลัง พวกนี้เป็นอาหารว่างของเขาแล้วเข้าใจไหม เป็นเครื่องมือของเขาหมดแล้ว เขาจะกลืนชาติไทยของเราอย่างไม่ต้องเคี้ยว กลืนเลยๆ แต่เวลานี้มันมีก้างขวางคออยู่ คือหลวงตาบัวขวางอยู่ ไม้ค้ำคางมันอยู่ มันกลืนไม่สะดวกมันจึงมาตีตรงนี้เพื่อจะกลืนสะดวก ให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากัน
ก็มีอยู่สองคนที่เป็นกระดาน..ทางโลกก็คุณทองก้อน คุณทองก้อนนี่ก็ตัดคอรองเพื่อประเทศไทยของเราตั้งแต่วันเริ่มแรกออกช่วยชาติบ้านเมือง คุณทองก้อนเป็นผู้เสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนเราทีเดียวเลยช่วยชาติบ้านเมือง เราก็ทำอย่างพี่น้องทั้งหลายเห็น สองกษัตริย์นี่ละ กษัตริย์บัว กษัตริย์ทองก้อน เข้าใจไหม เป็นก้างขวางคอเขา เขาจึงโจมตีเอาให้แหลกทีเดียวนะ โจมตีอย่างไม่มีเหตุมีผลอะไรเลย เราจะยกตัวอย่างมาให้ฟังเพียงข้อเดียวก็พอ ว่าทองก้อนไม่มีเงินมีทองหรือว่าไง (มีเงินในบัญชีเป็นพันล้านครับ) นั่นละฟังซิ (เขาอ้างว่ามายักยอกเงินผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตาไปครับ) นี่อันหนึ่ง ว่ายักยอกเงินผ้าป่าหลวงตาบัวเอาไปกิน จะหมดหรือไม่หมดไม่ทราบ ว่ามีเงินในบัญชีตั้งพันล้าน นี่ละอย่างนี้เป็นต้น
ความจริงแล้วคุณทองก้อนไม่เคยเดินเข้ามาดูกรรมการที่นับเงินเลย แม้แต่หนเดียว ไม่เคยเห็น เงินเหล่านี้เขาไม่เคยเกี่ยวข้อง ไม่เคยมาพบมาเห็นเลย แล้วสุดท้ายเขานั่นละเป็นผู้ยักยอกเอาเงินหลวงตาบัวไปฝากธนาคารตั้งพันล้าน อย่างนี้เป็นต้น นี่ปั้นขึ้นมาอย่างนี้ไม่มีความจริง เพื่อจะทำลายคุณทองก้อนให้ขาดความนับถือของประชาชน แล้วกลืนได้ง่าย และก็ฆ่าหลวงตาบัวแบบเป็นอาบัติปาราชิก เรี่ยไรเงินนี้ ผิดทั้งกฎหมายอาญา ผิดทั้งพระวินัย เขาก็จะเอาหลวงตาบัวลง เขาจะกลืนประเทศไทยได้ง่าย ความหมายว่า มันมีสองกษัตริย์นี่ละที่เอาไม้ค้ำคางไว้มันกลืนไม่ลงเข้าใจเหรอ
นี่พูดให้ชัดเจน มันพูดยังพูดได้ เราพูดตามเรื่องราวทำไมเราพูดไม่ได้ ใช่ไหม มันพูดได้อย่างเปิดเผย เราก็เอาอย่างเปิดเผยได้สบายๆ เลย อย่างนี้จึงเรียกว่าคู่ต่อสู้กัน หมัดไหนมา มา ว่างั้นเลยนะ สองหมัดอนุญาตให้มาทั้งสองหมัด ทางนี้ทั้งสองหมัด ถ้าหมัดเราไม่พอเราไปยืมหมัดหมามาก็ได้ ฟัดกัน หมาเราอยู่ในวัดนี้มีหลายตัว เพียงจับหมามาตัวเดียวหมัดมันเต็มหลัง พวกนี้เผ่นลงทะเลหมดสู้เราไม่ได้ เอาละพอ เวลาสนุกก็สนุกบ้างซิ
พูดได้ทุกแบบก็เราไม่มีอะไรนี่ ใครจะว่าอะไรมันก็ไม่มีอะไรกับโลก จะโจษทางนั้นทางนี้อยู่ในวงสมมุติทั้งหมด ท่านทั้งหลายฟังเสียนะ เขาจะโจมตีแบบไหนๆ อยู่ในวงสมมุติทั้งหมด อันนี้ไม่ได้อยู่ในวงสมมุติ เหนือหมดแล้วมันสนุกดูเข้าใจไหม เราพูดจริงๆ เรื่องสังฆาปาราชิกนี้อยู่ในเรื่องสมมุติทั้งหมด เหนือหมดแล้ว เทศน์เราก็เคยเทศน์ให้พระเณรฟัง มีติดเทปไว้ด้วย เอาไปฟังทั่วประเทศก็ได้ ทั่วโลกก็ได้ เทปของเราที่เทศน์ออกมานี้ บอกว่าการปฏิบัติเวลาจิตถึงขั้นบริสุทธิ์เต็มเหนี่ยวแล้ว ขันธ์กับจิต ขันธ์นี้เป็นสมมุติ จิตเป็นวิมุตติอาศัยขันธ์อยู่ รับผิดชอบขันธ์
เมื่อสมมุติคือขันธ์ยังมีอยู่ การประพฤติปฏิบัติรักษาหลักธรรมหลักวินัยก็ต้องเป็นไปตามสมมุติของขันธ์นี้ ไม่ให้แยกแยะจากกัน จิตที่บริสุทธิ์ก็เป็นความบริสุทธิ์ ธาตุขันธ์ที่จิตบริสุทธิ์ครองอยู่ก็ต้องประพฤติปฏิบัติตัวไป เช่นเดียวกับพระผู้รักธรรมรักวินัยทั้งหลายปฏิบัติแบบเดียวกัน จะก้าวก่ายกันไม่ได้ ขัดข้อง แน่ะ เราก็พูดให้ฟัง บรรดาท่านพระอรหันต์ท่านปฏิบัติหลักธรรมหลักวินัยเหมือนกันกับพระทั่วๆ ไป เพื่อรักษาสมมุติไว้ พระบัญญัตินี้พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้อย่างนี้ๆ ก็ปฏิบัติตามนั้น แน่ะ เราก็พูด อย่างนี้เราเคยพูดอยู่แล้วนี่ พูดไปตามความจริง
ถ้าพูดถึงเรื่องจิตที่บริสุทธิ์หมดแล้วเรื่องสมมุติ ไม่ว่าจะดีชั่วประการใด หนักเบาขนาดไหนผ่านไปหมดแล้ว ไม่ได้มาเกี่ยวข้องกันเลย เช่นอย่างสังฆาปาราชิกนี้หมด ยกตัวอย่างเช่น พระทัพพมัลลบุตร เขาฟ้องร้องว่าท่านเป็นปาราชิก พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ตอนนั้น พระองค์พูดในตำรานั้นท่านพูดเพียงเป็นคำสวยงามธรรมดา ถ้าหากว่าเป็นคำพูดที่ให้เหมาะกันกับคำว่าเขาโจษท่านเป็นปาราชิกนั่น ทั้งๆ ที่ท่านเป็น พระอรหันต์แล้วนี้ จะมีน้ำหนักมากกว่านั้น นี่เขาว่าท่านเป็นปาราชิก
พระองค์ทรงรับสั่งว่าโจษเธอทำไม นั่นพระองค์รับสั่งนะ เพราะคำพระพุทธเจ้าก็พอแล้วแหละ ไปโจษเธอหาอะไร เธอเป็นสติวินัยรู้ไหม คำว่าสติวินัยคือรอบหมดแล้ว สติวินัยนี้ ก็ว่าอย่างนั้น พูดเพียงเท่านี้ แต่ถ้าให้พระพุทธเจ้ารับสั่งจริงๆ จะไม่เป็นอย่างนี้ ความรู้สึกของเราจะหนักกว่านี้อีก ตั้งแต่เราตัวเท่าหนูนี้มันยังหนักนะ เข้าใจไหม หมัดนั้นหนักมาหมัดนี้หนักไปเหมือนกัน นี่พระพุทธเจ้ารับสั่งไว้อย่างนั้น ไม่มีคำพูดทั้งหลายก็หมดแล้ว ไปโจษเธอทำไม เธอเป็นสติวินัยแล้ว หมายความว่าพ้นหมดแล้ว ความหมายว่างั้น จบแค่นี้ครับ
หลวงตา วันนี้ไม่มีอะไรละ ชัดเจนหมดแล้ว การเทศนาว่าการเราเทศน์ทั่วประเทศไทย ธรรมะตั้งแต่ปี ๒๔๙๓ มาโดยลำดับลำดา จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ถ้าจะนับเรื่องอรรถเรื่องธรรมซึ่งเราเทศน์ตั้งแต่ต้นมาจนกระทั่งบัดนี้ ปี ๒๔๙๓ มานั่นก็เทศน์สอนพระที่อยู่ในป่าในเขาตลอดมา จนกระทั่งถึงมาสร้างวัดป่าบ้านตาด ถ้าเป็นหนังสือจะสักกี่ร้อยเล่ม เป็นเทปจะมีจำนวนเท่าไร เทศน์สอนประชาชนทั่วโลก ทั่วเมืองไทย แล้วนอกจากนั้นยังออกทั่วโลกอีกด้วย ออกทางอินเตอร์เน็ต ออกทางวิทยุ ออกทุกแบบทุกฉบับ ล้วนแล้วตั้งแต่ธรรมะของหลวงตาบัวปาราชิกนี้แหละที่เทศน์
แล้วเทศน์ทั้งหลายเหล่านี้นั้น มีขัดข้องตรงไหน ขัดแย้งกับธรรมของพระพุทธเจ้าตรงไหนที่มาเทศน์นี้ ให้คัดค้านขึ้นมา เราบอก ตั้งแต่พื้นแห่งธรรมจนกระทั่งถึงนิพพาน เอ้า ค้านมา เราจะตามตอบให้หมด เราบอกอย่างนี้เลยตรงๆ ธรรมะที่เราเทศน์ทั่วโลกนี้มีพระองค์ไหนที่เป็นปาราชิกแล้วมาเทศน์อย่างนี้มีไหม มีพระปาราชิกองค์เดียวนี้แหละเทศน์ทั่วโลก อย่าว่าแต่เมืองไทยเรา เทวบุตรเทวดาเราไม่ต้องพูด ตั้งแต่พูดเรื่องคนนี้มันก็ไม่ยอมเชื่อ มันยังค้าน ถ้าเอาเทวบุตรเทวดามาแล้วพวกนี้หัวขาดเลย มันเอาหัวชนไม้ละซิมันไม่ยอมเชื่อ เอาหัวชนไม้หัวขาดไปเลยมันก็ไม่ยอมเชื่อพวกนี้ จึงไม่เอาเรื่องละเอียดนั้นมาพูด พูดเฉพาะเรื่องที่เราเทศน์สอนประชาชน ทั่วประเทศไทยเราด้วย และทั่วโลกด้วย ออกทางทุกสิ่งทุกอย่าง ออกหมด
นี่เราเทศน์ด้วยความยืนยันจากธรรมะของเราที่ได้รู้ได้เห็นมาจากการปฏิบัติของเรา ซึ่งเป็นผลที่พอใจทุกชิ้นทุกอันทุกชั้นทุกภูมิมาตลอด ถึงพระนิพพาน เราเทศน์หมดแล้ว เหล่านี้ถ้าผิดที่ตรงไหนให้ค้านมา พวกนักฟ้องเก่งๆ นักโจมตีเก่งๆ ให้โจมตีเข้ามา ตรงไหนที่ผิด เอ้า อ้างเหตุผลมาเราจะเป็นผู้รับตอบ เวลานี้เรารอตอบอยู่แล้ว จากธรรมะของเราทั้งหมดนี้มีจำนวนมากขนาดไหน มีพระองค์ไหนที่เทศน์แบบเรานี่ กว้างขวางมากมาย มีจำนวนมากที่สุดคือองค์นี้ละ นี่ละเรื่องความจอมปลอมที่จะกลืนชาติบ้านเมืองของเรา มันออกมาอย่างเปิดเผย อย่างหน้าด้าน พวกนี้หน้าด้านที่สุด แทรกอยู่ทุกแง่ทุกมุม
ท่านทั้งหลายให้ทราบ ว่าเวลานี้ในเมืองไทยเรามีตั้งแต่พวกนี้แทรกอยู่ทุกแง่ทุกมุม การฟ้องการร้องการโจมตีหาเหตุผลไม่ได้ มีแต่จะตีจะฆ่าโดยถ่ายเดียว ให้ได้สมใจตนเองที่เคียดแค้นมาโดยลำดับจนกระทั่งบัดนี้ เวลานี้ก็เข้าไปตั้งฟืนตั้งไฟในวงศาสนานั่นแหละ ก็สองกษัตริย์นี้ละตัวสำคัญมาก มหาภัยคือสองกษัตริย์ที่ได้ถูกขับไล่ออกจากวงศาสนานี้ ให้เอาคนดีเข้ามาแทน อันนี้ไม่ใช่คนดี มันเลวที่สุดแล้ว มหาภัยต่อชาติต่อศาสนาอยู่ในสองกษัตริย์นี้แล้ว ให้ไล่ออก ก็ได้พูดตะกี้นี้ มีรอกันเป็นลำดับลำดามา ให้ท่านทั้งหลายทราบ
นี่ละเรื่องมหาภัยมันออกแง่ไหนๆ มีตั้งแต่เรื่องโกหกทั้งนั้นพวกนี้ออก ไม่ว่าฝ่ายพระออก ไม่ว่าฝ่ายฆราวาสออก มันเป็นสายเดียวกัน พระก็ไม่ต้องเอาคำพูดกิริยาอาการของพระมาพูด เอาเรื่องเปรตเรื่องผีมาพูดทั้งนั้นเป็นสายเดียวกันไปหมด อย่างพวกนี้ก็ไม่มีเหตุมีผล โจมตีตลอด พระก็โจมตีตลอดมาอย่างนี้ เป็นสายเดียวกัน มันจะกลืนทั้งชาติกลืนทั้งศาสนาของเมืองไทยเราให้แหลกเหลวไปหมดไม่มีอะไรเหลือเลย ก็มีแต่พวกเปรตพวกนี้จะครองบ้านครองเมือง มันจะครองมูตรครองคูถอะไรก็คนไทยฉิบหายไปหมดแล้ว นอกจากมันครองส้วมครองถานเท่านั้นไม่เห็นมีอะไร เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้ ท่านทั้งหลายจำให้ดีนะ
เวลานี้ข้าศึกกำลังเกิดในชาติไทยของเราอย่างเปิดเผย ออกมาโดยลำดับ อย่างโจมตีนี้หาเหตุหาผลไม่ได้ ฟังเอา พวกนี้หรือพวกจะครองบ้านครองเมือง พวกที่มีแต่เปรตแต่ผีหาเหตุหาผลไม่ได้นี้ พูดออกมาคำไหนมีแต่ไฟเผาบ้านเผาเมือง เผาชาติเผาศาสนาทั้งนั้น พวกนี้เหรอเป็นพวกที่จะครองบ้านครองเมือง เอาไปพิจารณาอีกนะข้อนี้ เอาละพอ
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th |