มีแต่ของจอมปลอมทำลาย
วันที่ 29 เมษายน 2547 เวลา 19:00 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อค่ำวันที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

มีแต่ของจอมปลอมทำลาย

 

         พอมาปฏิบัติแล้ว จิตใจมันหมุนเข้าภายในๆ ความรู้ความเห็นก็เกิดขึ้นภายใน  เรื่องอรรถเรื่องธรรมเกิดขึ้นๆ ภายใน เป็นขึ้นภายใน เรื่องภายนอกมันก็ค่อยจางไปๆ มันมาหนักแน่นอยู่ภายในใจ ทีนี้เวลาถึงการเทศนาว่าการมันก็ออกจากนี้ไปเลย ออกจากนี้ๆ ไปเลย จนกระทั่งมาสอนหมู่สอนเพื่อนเรียกว่าปริยัติแทบไม่มี นอกจากยกเป็นภาษิตหรือเอามาเป็นข้อหนักแน่นหรือเพิ่มเติมกับธรรมที่มาส่งเสริมกันเท่านั้น จะให้เอาปริยัติมาเทศน์จริงๆ อย่างทุกวันนี้มันไม่ระลึกถึงเลยนะ เราไม่ได้ประมาท  เราพูดตามความจริง

         หากว่าเทศน์ตามปริยัติทุกวันนี้เรียกว่าเทศน์ไม่ได้ เพราะความจำไม่มีหลงลืมหมดเลย จะเทศน์ภาคปฏิบัติมันขึ้นปัจจุบัน จะเทศน์เท่าไรมันก็เทศน์อย่างที่เคยได้ยินนั้นแหละ ว่าไปเรื่อยๆ พอจบแล้วก็หายไปเสีย เวลาจะเริ่มเทศน์ก็ขึ้นเลย ทีนี้เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องว่าอัดอั้นตันใจ จะเทศน์ให้เขาฟังได้หรือไม่ได้ มันเลยไม่มี ไม่มีเลย เพราะธรรมชาติอันนี้เหนือกว่าในสิ่งที่เคยมีมาแต่ก่อนแล้ว ความอัดอั้นตันใจอะไรแต่ก่อนมันลบไปหมดเลย เพราะอันนี้ท่วมไปหมด จะเทศนาว่าการในธรรมะขั้นใดภูมิใดมันก็อยู่ในจิตนี้หมด ออกจากนี้ ออกจากนี้ไปเรื่อยๆ เลย ไม่ว่าธรรมะขั้นใด ออกจากใจล้วนๆ

         ออกจากนี้ก็คือออกจากภาคปฏิบัติของตนเอง ใจจึงเป็นอรรถเป็นธรรม จนกระทั่งกลายเป็นธรรมล้วนๆ ไปเลย จะเทศน์หนักเบามากน้อยเพียงไรก็แล้วแต่ความเหมาะสมของธรรมที่จะแสดงออกๆ ออกจากนั้นๆ ไม่ไปเที่ยวหาคว้าทางไหนๆ เลยละ เทศน์อยู่ตรงนั้นเลย พอจบแล้วก็หายเงียบ ไม่มีอารมณ์ว่าเทศน์หนักไปเบาไปอย่างนี้ไม่มี เพราะเป็นความถูกต้องด้วยกัน จะหนักก็ถูกต้อง เบาก็ถูกต้อง เหมือนเขาถากไม้ ถากเบาก็ถูกต้อง ถากหนักก็ถูกต้อง การเทศนาว่าการจะลงแง่หนักเบาก็ถูกต้องไปตามๆ กัน มันจึงไม่ได้เป็นอารมณ์กับอะไร

         เวลามันเป็นอยู่ในหัวใจอย่างนี้แล้ว กับคำที่มาโจษจันต่างๆ ว่าอวดอุตริมนุสธรรม เป็นอาบัติปาราชิก มันฟังกันไม่ได้เลย โอ๋ยฟังไม่ได้สลดสังเวชนะเรา มันจ้าครอบโลกธาตุ ปาราชิกตัวไหนที่จะเข้ามาแหยมได้ มันครอบไปหมดแล้ว มันจะมีอะไรเป็นอารมณ์กับเรื่องเหล่านั้น  ตัวอวดอุตริมนุสธรรม  ไม่รู้ว่าตัวรู้  มาอวดว่าตัวรู้ ตัวเป็นอรหัตอรหันต์อะไรนี้  เขาฟ้องร้องอย่างไอ้อุดมมันฟ้อง  เข้าใจไหมล่ะ  ได้ยินทั่วประเทศไทยไม่ใช่เหรอ  ฟ้องเราว่าเป็นปาราชิก  ไอ้หน้าด้าน พูดจริงๆ อย่างนี้ละ  เห็นหรือยังเรากลัวใครล่ะ  ฟังซิน่ะ

มันพูดมันยังไม่กลัวเรา  เวลาเราจะพูดกับมันเราจะกลัวมันหาอะไร  มันก็เข้ากันได้ตรงนี้ใช่ไหมล่ะ  มันหน้าด้าน พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมสอนโลกได้สามแดนโลกธาตุคือเป็นพระอรหันต์  สาวกทั้งหลายปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าในธรรมสายเดียวกัน รู้อย่างเดียวกัน เห็นอย่างเดียวกัน  สอนโลกแบบเดียวกัน เต็มภูมิของแต่ละองค์ๆ ที่เป็นนิสัยของสาวก  พระพุทธเจ้าทรงเป็นพุทธวิสัย เป็นผู้กว้างขวางลึกซึ้งมากทีเดียว ลำดับรองลงมาก็พระสาวก ก็เป็นสาวกวิสัย   พูดเต็มเม็ดเต็มหน่วยของอรรถของธรรมที่ได้รู้ได้เห็นมาสอนโลก สอนเต็มเม็ดเต็มหน่วยของตนที่ได้รู้เห็นมาเหมือนกันเป็นลำดับลำดา

ธรรมสายเดียวกัน ปฏิบัติแบบเดียวกัน  รู้อย่างเดียวกัน เห็นอย่างเดียวกัน พูดก็พูดได้อย่างเดียวกัน นั่น  เพราะฉะนั้นการเทศนาว่าการเราจึงไม่เคยมาสนใจเรื่องอย่างนี้ ที่อยู่ๆ ก็ฟ้องขึ้นมาว่าเราอวดอุตริมนุสธรรม ปรับอาบัติปาราชิก ขาดจากพระนู้นน่ะ ฟังซิน่ะ ของเล่นเมื่อไร แหม มันโหดร้ายมาก เห็นความโหดร้ายมากทีเดียว เทวทัตเกิดในท่ามกลางศาสนาแล้วเวลานี้ อยู่ในสำนักพุทธศาสนา  นี่มันกำลังเข้ามาเอาไฟเผาศาสนาอยู่เวลานี้  แหลกเหลวไปหมด 

มันไม่ได้เข้ามาปฏิบัติบำรุงรักษาศาสนาอะไรเลย มันตั้งหน้าตั้งตาเข้ามาทำลายพุทธศาสนา ตั้งแต่มันเข้ามาในสำนักพุทธศาสนานี้แล้วเรื่องราวเกิดขึ้นตลอดเวลา ตั้งแต่นู้นน่ะ  มหาคณิสสรคณิสแสนลงมา  มีแต่เรื่องจอมปลอมๆ  พ้นขึ้นมาๆ   ที่จะโจมตีพระพุทธศาสนา เผาพระพุทธศาสนาให้แหลกเหลวลงไป ทางท่านผู้ปฏิบัติอรรถธรรมด้วยความถูกต้องดีงามตามธรรมตามวินัยมีอยู่ไม่น้อย ท่านจึงได้ออกมาประชุมกัน ชำระสะสางสิ่งจอมปลอมและเลวร้ายทั้งหลายนี้ออกไปเป็นระยะๆ  เพราะมันจอมปลอมทั้งหมด  ถ้าว่ามูตร มันไม่ใช่มูตร มันคูถเต็มตัวๆ เลย ท่านชำระล้างออกเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงเรื่องปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นี่มันปลอมมาเรื่อยๆ ใหญ่โตขึ้นเรื่อย แผลงฤทธิ์ขึ้นเรื่อย 

ทางนู้นก็ได้มาประชุมกันอีก ชำระปัดออกไปของสกปรก ของเป็นภัย เป็นมหาภัยต่อศาสนา ต่อจิตใจของประชาชนชาวพุทธทั่วโลกดินแดน เอาไว้ไม่ได้  ท่านจึงมาประชุม  ปัดออกให้หมด ให้เหลือแต่หลักธรรมหลักวินัยล้วนๆ ที่ถูกต้องดีงามเป็นข้อยืนยันว่าไม่มีทางสงสัยแล้ว ออกประกาศจากการประชุมนั้น นำเข้าไปสู่ส่วนกลางเก็บเอาไว้ที่นั่น แต่ยังไงหลักเกณฑ์ก็มีอยู่ในนั้น นี่ละเรื่องมัน มันจอมปลอมของมัน  เตะทางนั้น ถีบทางนี้ ยันทางนี้ มันสมบัติอะไร สิ่งเหล่านี้มันมีในธรรมในวินัยที่ไหน 

พระท่านปฏิบัติอยู่เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยความเทิดทูน อันนี้มันไม่ได้ปฏิบัติ  มันหาแต่เรื่องเอาฟืนเอาไฟมาเผาด้วยความจอมปลอม ตั้งนั้นขึ้นมา ตั้งนี้ขึ้นมาให้ลำบากรำคาญแก่ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จำต้องออกมาชำระสะสางเป็นครั้งเป็นคราวอยู่เรื่อยๆ เห็นไหมล่ะ  พระสงฆ์ออกมาประชุมกันอยู่เรื่อยๆ ที่ไหนบ้าง ทางวัดเมืองกาญจน์ก็มี ที่ไหนเราก็ลืมไปแล้ว มีแต่เรื่องมาชำระของสกปรกโสมมอันจอมปลอมที่พวกเปรตพวกผีมันสร้างขึ้นมานั้นแหละ ตั้งแต่ไอ้นี่มันเข้ามาอยู่ในจุดศูนย์กลางนี้แล้ว   มันตั้งหน้าตั้งตาเอาไฟเผาศาสนา  ทางนี้ก็ต้องเป็นน้ำดับไฟมาชำระๆ กันตลอดเวลา

นี่ละความจริง จนกระทั่งเราทนไม่ได้ เอาไว้ทำไมคนประเภทนี้มาทำลายศาสนา  คนดีกว่านี้ไม่มีเหรอ เราถึงย้ำขนาดนั้นนะ ผู้ปกครองบ้านเมืองมีอยู่  ผู้ใหญ่ผู้น้อยมีอยู่  บ้านเมืองมีขื่อมีแป ศาสนามีหลักมีเกณฑ์  เอาสิ่งที่จอมปลอมนี้มาเผาบ้านเผาเมืองมันเกิดประโยชน์อะไร ถึงขนาดนั้นเรา มันจอมปลอมๆ สุดขีดๆ แล้วมันมาอวดว่าเป็นของดิบของดี ยังมาโฆษณาโจมตีทั่วบ้านทั่วเมือง มีแต่ของปลอมทั้งนั้น  มันไม่ได้มีของจริงอะไรพอจะยึดมาพินิจพิจารณา แล้วควรจะนำมาส่งเสริมศาสนาได้  มันมีแต่ไฟเผาศาสนาทั้งนั้น  จึงต้องตัดออกให้หมดเลย ไม่ให้มาติด

       นี่ละเป็นอย่างนี้ พี่น้องทั้งหลายฟังเอาซิ ก็มีแต่หลวงตาบัวเท่านั้นละพูดตามความสัตย์ความจริง ไม่เคยสะทกสะท้านกับผู้หนึ่งผู้ใดในสามแดนโลกธาตุ  ไม่เคยกล้า ไม่เคยกลัว พูดตามหลักความจริงให้พี่น้องทั้งหลายผู้รักสงวนอรรถธรรมอยู่ในหัวใจให้ได้ไปพินิจพิจารณา เวลานี้โฆษณาว่าการยิ่งหนักแน่นมากขึ้นนะ มีแต่ของจอมปลอมทั้งนั้นที่จะทำลายจิตใจของประชาชน แล้วคว้าเข้ามาเป็นอาหารว่างของตัวเอง เป็นเครื่องมือๆ เป็นอาหารว่าง กลืนไปหมดๆ

                อย่าว่าแต่กลืนประชาชน พระนั่นแหละตัวสำคัญ เป็นเจ้าฟ้าเจ้าคุณ สมเด็จสมแด็ดอะไรไม่เห็นมีความหมายอะไร  ให้เขาเอาเบ็ดเกาะปาก เขาจูงไปเลือดสาดๆ  แล้วพวกนี้ก็ไปเป็นอาหารว่างของเขา แล้วก็ไปเป็นเครื่องมือของเขา แล้วไปบังคับบัญชาพระทั้งหลายทั่วประเทศไทยให้ปฏิบัติตามสิ่งจอมปลอมอันนี้แหละ ทีนี้พระก็ไปในนามของพระไปสั่งสอนประชาชน  ประชาชนเขานับถือพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว  ทีนี้เห็นพระไปเขาก็มีความเคารพนับถือ เขากลัวบุญกลัวบาป ไอ้ตัวเทวทัตมันเอาผ้าเหลืองคลุมหัวมันไป  แล้วเหมือนหนึ่งว่ามันเป็นศาสนาใหม่ ศาสนาเอี่ยม ศาสนาที่ทันสมัย  ล้ำยุคล้ำสมัยคือศาสนาของอาตมานี้แล  มันจะเป็นอย่างงั้น

       อันนี้เราไม่ได้ยิน  แต่เรื่องมันเป็นอย่างนั้นตามเหตุผลกลไกนี้  แล้วก็เอาอุบายวิธีการที่จอมปลอมที่ทำร้ายหรือทำลาย เต็มไปในตัวของมัน  โดยอาศัยผ้าเหลืองคลุมศีรษะให้โลกเขาได้เคารพนับถือว่าเป็นผ้าเหลือง ส่วนภายในมันก็มีแต่มหาภัยๆ มันก็ไปบีบบังคับพระเณรทั้งหลาย  พระเณรก็สั่งเสียลงไปหาประชาชนญาติโยมให้เป็นเครื่องมือ ให้เป็นอาหารว่างของมันทั่วประเทศไทยเวลานี้ ท่านทั้งหลายทราบแล้วยัง  นี่เราประกาศป้างๆ ให้ทราบ ไม่มีใครประกาศ มีแต่หลวงตาบัวคนเดียวเป็นผู้ประกาศ

       เวลานี้เต็มบ้านเต็มเมือง พวกหน้าด้าน พวกเปรต ไม่รู้จักยางอาย ไม่มีเหตุมีผล  มีตั้งแต่จอมปลอมๆ พลิกขึ้นมา ปลิ้นขึ้นมา ปลอมขึ้นมา กุขึ้นมา เรื่องราวไม่มี หาเรื่องขึ้นมาหลอกประชาชน สตางค์หนึ่งมันก็ไม่เคยเอามาส่งเสริมชาติบ้านเมือง ดอลลาร์ ทองคำ ทั้งที่เราอุตส่าห์พยายามหากันช่วยกันทั่วประเทศไทย  ได้มาถึงขนาดนี้  ดังที่เห็นนี้ มันเป็นผู้คัดค้านต้านทาน เป็นผู้เอาไฟตามเผาสมบัติเหล่านี้  แล้วตามเผาหัวใจประชาชนทั้งประเทศที่อุตส่าห์พยายามพยุงชาติไทยของเราขึ้น  มันเป็นผู้หาทำลายทั้งหมด  โฆษณาด้วยการทำลายทั้งนั้น

                ฟังให้ดีนะพี่น้องทั้งหลาย  มันเป็นของดีที่ไหน  ยังเชื่อมันได้อยู่หรือ   ถ้าจะเชื่อมันก็เอา เป็นเต่าเป็นปลาให้มันกลืนให้หมดเสียซิ  ถ้าเป็นคนให้ดู  ไม่ควรเชื่อไม่เชื่อ ไม่ควรทำตามไม่ทำตาม นั่นถึงถูกต้อง เราเป็นเจ้าของสมบัติพวกนี้เป็นพวกโจรพวกมาร พวกมหาภัย  พวกมหาโจรที่เข้าปล้นชาติปล้นศาสนาอยู่เวลานี้  ไม่ใช่เป็นเจ้าของของชาติ ของศาสนา  พี่น้องชาวไทยทั้งหมดนี้ต่างหากเป็นเจ้าของของชาติของศาสนา เรายังจะนอนใจอยู่เหรอ  หมอบให้มันเหยียบหัวไปอยู่เหรอ  เราเป็นเจ้าของสมบัตินะ  ให้พิจารณาให้ดี

       เวลานี้มันออก ของเล่นเมื่อไร มันจะเผาสดๆ ร้อนๆ ทั้งเป็นๆ ไปหมด  ใบปลิวใบแปวออกไปไหนมีแต่ไปเผาชาติบ้านเมือง   ความดิบความดีนิดหนึ่งที่พอจะเชื่อถือได้มันมีที่ไหนออกมา ไม่เคยมี ยกตัวอย่างเช่น เราช่วยชาติกันทั้งประเทศ  ทองคำ ๑ บาทก็ไม่เคยเห็นมันเอามายื่นให้  แล้วดอลลาร์ ๑ ดอลล์ก็ไม่เห็นมายื่นให้ เงิน ๑ บาทก็ไม่เคยเห็นพวกนี้เอามายื่นให้เลย  มีแต่พี่น้องชาวไทยขวนขวายเต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วมันเที่ยวกีดเที่ยวกัน คัดค้านต้านทานไปทุกแห่งทุกหน

                ผลที่สุดการไปเทศนาว่าการที่ไหนมันไปคัดค้านต้านทานไว้หมด มันไม่ให้เทศน์  ฟังซิมันเป็นประเภทไหน ท่านทั้งหลายเชื่อถือมันได้เหรอคนประเภทนี้น่ะ  พิจารณาให้ดีนะ  นี่ละมันทำลายตลอดมาอย่างนี้ ไม่มีชิ้นดีเลย แล้วคนไทยเราถ้ายอมให้แล้วจมไปหมดนะ นี้เอาภาษาธรรมมาพูด ถ้าไม่ฟังเสียงธรรมจมแน่นอนไม่สงสัยชาติไทยเรา  ศาสนาก็จะไปพร้อมกัน เราเอาธรรมมาพูด ถ้าใครเชื่อธรรมให้ต่างคนต่างดีดต่างดิ้น  ต่างคนต่างต้านทานทุกสิ่งทุกอย่างที่จะมาทำลายสมบัติและชาติของตน ศาสนาของตน  เอาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่เป็นเจ้าของของชาติทั้งนั้นแหละ มันผิดตรงไหนๆ ฟัดกันเลย ต้านทานกันเลยซิมันถึงถูก จะมาหมอบเหมือนเต่าหมอบหดหัวอยู่ในกระดองได้เหรอ เมืองไทยจมนะ ศาสนาจม

       นี้เป็นภาษาพระ พูดนี้จะไม่มีสอง  ถ้าไม่ปฏิบัติตามธรรมที่กล่าวนี้แล้วจมแน่ๆ เรานี้ได้พยายามช่วยพี่น้องทั้งหลายมาเป็นเวลา ๖ ปี สุดเหวี่ยงแล้ว ไม่มีเสียดายชีวิต  ทุกอย่างท่านทั้งหลายเคยเห็นหลวงตาออกสนามไหม มีสะทกสะท้านกับใครบ้างในโลกนี้ ก็เพื่อชาติเพื่อศาสนาของเราโดยตัดคอของเรารองไปเลย ความกล้าความกลัวไม่มี  ขอให้ชาติศาสนาเราอยู่คงเส้นคงวาหนาแน่นเราเป็นที่พอใจ เราดำเนินด้วยอรรถด้วยธรรม ไม่ได้มีการกระทบกระเทือนให้ผู้หนึ่งผู้ใดให้เกิดความเสียหาย เพราะการดำเนินด้วยการช่วยชาตินี้เลย

       การให้สมบัติมาพี่น้องทั้งหลายพร้อมหน้าที่จะให้มาทั้งนั้น เราก็เป็นแต่เพียงว่าพูดให้รู้เรื่องเท่านั้น เราไม่ได้ไปหาเรี่ยไรคนนั้นคนนี้เราไม่มี  ถึงจะเรี่ยไรก็ไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่นี่เราไม่ได้ไปเรี่ยไร เราประกาศให้ทราบว่าบ้านเมืองเป็นของทุกคน  ชาติไทยเราเป็นชาติของทุกคน เวลานี้กำลังจะล่มจม ใครจะพินิจพิจารณายังไง จะแก้ไขดัดแปลงยังไงชาติไทยของเราจึงจะฟื้นขึ้นมาต้องช่วยเหลือกัน  ช่วยเหลือกันต่างคนก็ต่างมีมากมีน้อยก็ต้องช่วยเหลือกันมาตั้งแต่บัดนั้น เราไปเรี่ยไรที่ไหน ฟังซิน่ะ ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากันในนามว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน รับผิดชอบด้วยกัน ผิดที่ตรงไหน

       ถึงจะไปบอกเราก็ไม่ผิด พระวินัยมี เราเรียนมาแล้ว  มันจะมาอวดรู้อวดฉลาดมาจากไหน มันเป็นเปรตเป็นผีมาจากโลกไหนก็ไม่ทราบ  มันไม่เคยมาบวช  แล้วมันยังมาหาเรื่องว่าเราเรี่ยรงเรี่ยไร เป็นสังฆาปาราชิกไปได้ มันอวดเก่งกว่าศาสดา คือมันเหยียบหัวศาสดาแล้วรู้ไหม  นี้ละมันเป็นอย่างนี้พวกนี้ ที่ได้มาเหล่านี้ได้มาด้วยการประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบ  ในฐานะว่าเราเป็นเจ้าของของชาติด้วยกัน  แล้วต่างคนต่างสนับสนุนอุ้มชูขึ้นไป จนกระทั่งได้ผลเป็นมาถึงขนาดนี้แล้ว เป็นผลชั่วเหรอที่ได้มานี้  เป็นผลดีอยู่ในความรับผิดชอบของเราทั้งนั้น แล้วมากีดมาขวาง มันได้ดีอะไร  มันผิดทั้งเพพวกเปรตพวกผีนี่  มันทำผิดทั้งนั้น

       ไปที่ไหนมีแต่เรื่องทำลายๆ หาความดีไม่มีกับพวกนี้น่ะ หน้าด้านที่สุดคือพวกนี้ ขอให้ได้อย่างใจก็พอ เรื่องเหตุเรื่องผลไม่คำนึง ให้ได้อย่างใจ พอหลวมนิ้ว นิ้วสอด  หลวมมือมือสอด หลวมแขนแขนสอดออกไป กว้านเอามาๆ ขอให้ได้เท่านั้นพอ ท่านทั้งหลาย ฟังให้ดี นี้เอาธรรมมาพูด พูดอย่างอาจหาญชาญชัยตามหลักความจริง  ถ้าไม่ต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาต้านทานเหล่านี้ จะจมนะเมืองไทย  พูดให้ชัดเจนอย่างนี้ จมแน่ๆ  ภาษาธรรมพูดไม่มีผิด

       ถ้าปฏิบัติตามนี้แล้วเป็นธรรมไม่จม เรารักษาสมบัติของเราจะจมไปที่ไหน นั่น เวลานี้กำลังเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ทุกแห่งทุกหนด้วยความหน้าด้าน ประกาศทุกแง่ทุกมุมไปหมด แบบไม่มียางอายเลยนะ ความผิดความพลาดทั้งนั้นที่มันเอาออกประกาศ  มันถือว่าเป็นความถูกต้องของมันที่จะเอาให้ได้อย่างใจ เหยียบหัวคนทั้งประเทศ ตลอดศาสนาสังฆมณฑลของพระเจ้าพระสงฆ์ทั่วประเทศไทยเหยียบหัวไปหมด ด้วยความถูลู่ถูกัง เห็นแก่ได้แก่เอา  พวกตะกละตะกลามที่จะกลืนชาติกลืนศาสนาลงในเร็วๆ นี้

       ท่านทั้งหลายทราบหรือยัง ยังกัดหญ้าตุบตับๆ อยู่หรือ  เขาจะเอาไปต้มไปแกง เขาหั่นหอมหั่นกระเทียมรอบตัวอยู่แล้ว เคยเห็นไหม  ยังไม่ดูอยู่หรือ  ไม่ดูก็ให้ดูเสียนะ  เวลานี้เขากำลังหั่นหอมหั่นกระเทียมรอบตัว เรายังกัดหญ้าตุ๊บตั๊บๆ สบายอยู่เหรอ  เราเป็นควายเหรอถึงให้เขาหั่นหอมหั่นกระเทียม ไม่ได้มองดูเลย มันน่าคิดไหมเรื่องเหล่านี้น่ะ ทุเรศจริงๆ นะ อย่างมาออก ๒ ข้อนี้นะ ที่กระเทือนใจเรามากทีเดียว ที่ว่าเราอวดอุตริมนุสธรรม เราจึงได้พูด พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วมาสอนโลก อวดอุตริมนุสธรรมเหรอ

       ถ้าอวดอุตริมนุสธรรมตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมาถึงพระสาวก นำธรรมมาสอนด้วยความรู้แจ้งเห็นจริงก็เป็นอวดอุตริมนุสธรรมเหมือนกัน  เราก็เดินตามสายเดียวกัน  มันหาเอามาพูดทำไม เรื่องคำพูดเช่นนี้เด็กอมมือเขาก็ไม่พูด มันหน้าด้านขนาดไหนพวกเปรตพวกผีนี้ แล้วมาอยู่ในใจกลางพุทธศาสนาด้วย ให้ขับออก เขี่ยลงทะเลโน่น  เอาไว้ทำไม ประเทศไทยเราไม่มีคนดีบ้างหรือ คนดีที่จะมาทำงานเพื่อส่งเสริมชาติศาสนา จึงเอาเปรตเอาผี เอายักษ์เอามาร มาเผาศาสนาให้ร้อนมาเป็นเวลาตั้งหลายปีแล้ว  ตั้งแต่พวกเปรตนี้เข้ามาในวงการพุทธศาสนานี้ หาความเย็นไม่ได้  ร้อนตลอดเวลา

       ให้ฟังนะ วงราชการงานเมืองทุกคนให้ฟังทุกคน มันเป็นยังไง ไอ้นี่มันเอาอำนาจบาตรหลวงมาจากไหน ชาติไทยของเรามันอาภัพสุดขีดแล้วเหรอ จึงไม่สามารถที่จะพินิจพิจารณาแก้ไขดัดแปลงสิ่งเลวร้ายทั้งหลายเหล่านี้  ซึ่งออกมาจากเปรตจากผีเหล่านี้ได้ พิจารณาให้ดีนะ มันน่าทุเรศจริงๆ นอกจากนั้นยังว่าหลวงตาบัวไปเรี่ยไรโดยไม่ได้ขออนุญาต หลวงตาบัวไปเรี่ยไรใคร นั่นฟังซิ ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบในชาติของตนทราบทั่วหน้ากัน ว่าบ้านเมืองของเรากำลังเอนลงๆ จะจมลงทะเล ให้พากันพินิจพิจารณาแก้ไขดัดแปลง อุ้มชูขึ้นมาด้วยการวิ่งเต้นขวนขวายตามกำลังของตนที่จะได้มามากน้อย เพื่อหนุนชาติของเราให้มีความแน่นหนามั่นคงขึ้นไป 

       นี้เป็นการเรี่ยไรแล้วเหรอ ในความรับผิดชอบด้วยกัน ช่วยกันหนุนทางนี้ มันเรี่ยไรที่ตรงไหน มันเอามาจากคัมภีร์ไหนตัวเก่งๆ นี้น่ะ มันเคยบวชไหม ทั้งโคตรทั้งแซ่ของมันเราสงสัยว่ามันยังไม่เคยบวช  มันถึงมาอวดอุตริขึ้นมาอย่างนี้ได้สบายๆ หาว่าหลวงตาบัวเป็นผู้เรี่ยไรอย่างงั้นอย่างงี้ มันหลับตาเลยหลับตา ไอ้พวกนี้น่ะ  มันเลวไหมพวกนี้น่ะ แล้วยังจะฟ้องเราอีกนะ จะฟ้องอะไร ว่ามา (ว่าหลวงตาเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการหลอกลวงประชาชน ผิดทางกฎหมายอาญา ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินคดีก่อนที่เขาจะเกษียณอายุราชการครับ)

       นั่นฟังซิ เขาจะดำเนินคดี เรานี้ผิดกฎหมายอาญาด้วย เขาจะดำเนินคดีก่อนที่เขาเกษียณอายุ เราเลยบอกให้รอหมดทั้งโคตรเสียก่อน อย่าด่วนเกษียณ  เราตอบไปอย่างงั้นนะ ให้รอหมดทั้งโคตรอย่าด่วนเกษียณ ถ้าเกษียณแล้วมันจะไม่ได้ฟ้องหลวงตาบัว เข้าใจไหม ให้พากันเข้าใจนะ นี่มันหยาบขนาดไหน มันหาเรื่องปั้นขึ้นมา  จอมปลอมขนาดไหน มันปั้นพลิกขึ้นมาเป็นของจริง หลอกประชาชน เราก็โง่ชะมัดแล้วเหรอที่จะเชื่อความจอมปลอมของมัน คนไทยเราโง่ขนาดนั้นเชียวเหรอ จึงฟังเสียงทางนี้ไม่ออก ไม่เข้าใจ  เอ้าฝากไปพิจารณาทุกคนนะ

       นี่ละเรื่องที่หนักมากที่สุดตรงนี้ละ เราจึงอดพิจารณาไม่ได้ เรื่องอวดอุตริมนุสธรรมของเรานี่ นับตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ลงมาถึงเราธรรมสายเดียวกัน ถ้าอวดก็อวดมาตั้งแต่พระพุทธเจ้าแล้ว ศาสนาของพระพุทธเจ้าเป็นศาสนาอวดอุตริมนุสธรรม  พระสงฆ์ทั้งหลายอวดอุตริมนุสธรรมทั้งหมด ผู้ปฏิบัติตามทางสายเดียวกัน รู้อย่างเดียวกัน เห็นอย่างเดียว พูดอย่างเดียวกัน ก็เป็นการอวดอุตริมนุสธรรมทั้งหมด  แล้วผู้มันไม่อวดมันเอาอะไรมา  มันก็มีแต่ของปลอมมันหลอก มันไม่ใช่อวดหรือนี่

       อวดของปลอมเจ้าของให้โลกเขาดูเขาฟัง ให้เขาเป็นเหยื่อตัวเอง มันปลอมขนาดไหนนี่ เข้าใจเหรอ นี่ตัวปลอมตัวมันอวดอยู่เวลานี้น่ะ เอาของไม่จริงมาพูดนั่นเรียกว่าอวด  เอาของจริงมาพูดมันอวดที่ตรงไหน พูดตามความจริง นอกจากนั้นก็ยังจะมาฟ้องเราว่าผิดกฎหมายอาญาอีก  นู่นน่ะฟังซิมันน่าฟังไหม แล้วก่อนจะเกษียณอายุจะรีบจัดการให้ใคร (ให้สำนักงานพระพุทธศาสนา)เออ ให้สำนักงานพุทธศาสนามาฟ้องร้องเรา จะติดคุกติดตะรางรูปไหนก็แล้วแต่ ก่อนที่เขาจะเกษียณอายุ จึงบอกว่าอย่าด่วนเกษียณ  รออยู่ทั้งโคตรนั่น เราบอกงั้น  รอมาฟ้องเราติดคุกติดตะรางแล้วจะไปตกนรกทั้งโคตร หรือจะไปไหนก็ไปเถอะเราไม่สนใจ เราอยู่ในคุกไม่ไปตามดูใครละ เข้าใจไหม  ใครเก่งขนาดไหนก็ให้ไปตามเรื่องของตัวเอง เข้าใจแล้วเหรอ นี่มันเป็นอย่างนี้นะ แหม หยาบมากที่สุดพวกนี้ หยาบโลนที่สุด เสี้ยนหนามมหาภัยเต็มประเทศไทยเราเวลานี้ ขึ้นมาสอดแทรกทุกแง่ทุกมุม ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอานะ

     นี่ช่วยชาติช่วยศาสนาเต็มกำลังความสามารถ พี่น้องทั้งหลายทำด้วยความถูกต้อง รับผิดชอบในชาติของตน ขวนขวายสมบัติเงินทองเข้ามาจนเป็นที่พอใจได้ เสียหายตรงไหนพิจารณาซิ อบอุ่นขนาดไหน ทองคำน้ำหนักตั้ง ๑๐ ตันกว่า ดอลลาร์ก็ตั้ง ๑๐ ล้านกว่า เงินไทยนี่เป็นพัน หมื่นๆ ล้าน กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย ไม่มีความแน่นหนามั่นคงในจุดนี้จะเอาจุดไหน เอาจุดที่มันกำลังเอาไฟมาเผาอยู่หรือเป็นความแน่นหนามั่นคง หลอกนั้นหลอกนี้ เผานั้นเผานี้นี่เหรอเป็น

       จำให้ดีนะ เอาละพอ เหนื่อย 

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com  หรือ  www.Luangta.or.th

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก