ธรรมเสมอภาค
วันที่ 30 เมษายน 2547 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม กทม.
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๓๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

ธรรมเสมอภาค

หยุดชดเชยมันยังไงกันเราก็อยากทราบ (วันที่ ๑ เป็นวันแรงงาน ถ้าธรรมดาเขาหยุด ทีนี้ตรงกับวันเสาร์ ติดไว้ก่อน ๑-๒ หยุด วันที่ ๓ อีกวันหนึ่งครับ) มันมีความจำเป็นมากน้อยเพียงไรเรื่องหยุดชดเชยนี่นะ มันดูๆ ฟังๆ แล้ว ในวงราชการนี้เอารัดเอาเปรียบประชาชนมากเกินไป ในเดือนหนึ่งก็หยุด ๘ วันแล้ว วันเสาร์ วันอาทิตย์ เขาหาเช้ากินเย็นตั้งแต่ตื่นนอนจนยันค่ำแทบเป็นแทบตาย เขามีชดเชยที่ไหน แทบเป็นแทบตาย ได้มาแล้วยังต้องแบ่งให้ทางวงรัฐบาลที่ว่าปกครองบ้านเมือง แล้วทีนี้วงราชการเดือนหนึ่งมันก็ตั้ง ๘ วันแล้ว หยุดเสาร์ อาทิตย์ๆ ยังชดเชย ถ้าชดเชยเป็นความจำเป็นจริงก็ไม่ว่า ไอ้นี่ชดเชยแบบชุ่ยๆ แบบสนุกสนาน แบบลืมเนื้อลืมตัว แบบโอ่อ่าของผู้ปกครองบ้านเมือง ไม่เหมาะ

ประชาชนเขามีหัวใจด้วยกันทุกคน มีหัวใจตั้งแต่วงราชการนั่นเหรอ อันนี้มันน่าคิดอยู่นะ เราถึงได้ออกมาพูด เราคิดทุกแง่ทุกมุม (หลวงตาเจ้าคะราชการไม่หยุดค่ะ หยุดแต่พวกกรรมกรเจ้าค่ะ) อันนี้มีเหตุผลผ่านไปเปลาะหนึ่ง แต่เหตุผลที่ว่าชดเชยๆ มีอะไรบ้าง ชดเชยตลอดไปนี้มันมีอะไรบ้าง ในวงราชการไม่หยุด งั้นซิให้มีเหตุมีผล เราไม่ทราบเราต้องถามหาเหตุหาผลนี่น่ะ ธรรมดาก็เรียกว่าวงราชการนี้เดือนหนึ่งมัน ๘ วันแล้ว ประชาชนเขาได้หยุดวันไหน ไม่มีเสาร์ อาทิตย์นะประชาชน ปากท้องพาดิ้นๆ ตลอดเวลา หาเช้ากินเย็นยังไม่พอปากพอท้อง แบ่งสัดแบ่งส่วนให้เป็นภาษีอากรอะไรต่อรัฐบาลไปอีกๆ

รัฐบาลเดือนหนึ่งก็หยุดตั้ง ๘ วันแล้ว ยังมีชดเชยชดแชอะไรเข้าไปอีก และนอกจากนั้นมีวันนั้นวันนี้อีกนะ หยุดไปอีก หยุดไปอีกนี้มันเกือบเท่าครึ่งหนึ่งแล้วนะ วันหยุดงานกับวันทำงานเกือบเทียบเท่าครึ่งหนึ่งแล้ว มันเกินไปเราว่างั้นละ ควรพิจารณาบ้างนะ บ้านเมืองเรามีหัวใจทุกคน ประชาชนพลเมืองมีเท่าไรคนมีหัวใจทุกคน ควรจะคิดเฉลี่ยเผื่อแผ่ถึงความจำเป็นต่อกันและกัน ไม่ควรที่จะหยุดเอาอย่างสบายๆ เห็นว่าเราเป็นผู้มีอำนาจ อยากทำอะไรๆ ก็ทำตามความมีอำนาจแบบลืมตัวอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ประชาชนเขาเบื่อ หัวใจประชาชนเขาก็มีเหมือนกัน อันนี้เป็นคำเตือนเฉยๆ นะ

ขอให้พิจารณาให้รอบคอบทุกอย่างการจะทำอะไร อย่าทำแบบชุ่ยๆ แบบลืมเนื้อลืมตัว เห็นว่าตนมีอำนาจอยากทำอะไรก็ทำ แล้วประชาชนเขาไม่มีหัวใจเหรอ เขามีหัวใจเหมือนกันนั่นแหละ จึงต้องพิจารณา หากไม่ควรชดเชยก็ไม่ชดเชย จำเป็นจริงๆ ที่ควรชดเชยก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ตั้งแต่วันเสาร์ อาทิตย์มันก็พอแล้ว แล้ววันหยุดราชการต่างๆ วันนั้นวันนี้มีอีกนะ เป็นพิเศษจากเสาร์ อาทิตย์ นั่นอีกอันหนึ่งๆ แล้วยังชดเชยแทรกเข้าไปอีก กินเอาเสียทุกอย่าง ไม่เลือก กินไปหมดเลย เกินไป

เรื่องธรรมต้องพิจารณาให้ละเอียดทั่วถึง เรื่องกิเลสเห็นแก่ได้แก่เอา นี่เป็นเรื่องของกิเลส เรื่องของธรรมไม่ได้เห็นแก่ได้แก่เอา เห็นแก่ความเป็นธรรม ควรได้เอา ไม่ควรไม่เอา เรียกว่าธรรมเสมอภาคๆ เป็นธรรม เห็นแก่ได้แก่เอาอย่างเดียวใช้ไม่ได้นะ อย่างวงราชการที่เข้ามาเผาศาสนาอยู่เวลานี้ มันวงราชการยังไง ฟังซิน่ะ เอาไฟมาเผา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่ก่อนไม่เคยมี แล้วฟืนไฟก็ไม่เคยแสดงอย่างนี้ จากอำนาจป่าเถื่อนของฆราวาสที่มาปกครองพระ บีบบี้สีไฟบังคับพระเราก็ไม่เคยมี มามีระยะนี้แหละ ตั้งแต่ตั้งอันนี้มาที่เห็นเด่นชัดนะ ตั้งสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาตินี่ขึ้นมา แหม เริ่มเป็นฟืนเป็นไฟมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่มหาคณิสสรคณิสแสน ตั้งขึ้นมาอะไรพิจารณาดูมันมีแต่ภัยๆ ไม่ใช่เป็นคุณเป็นประโยชน์อะไรเลย ต้องปัดออกๆ ไม่งั้นศาสนาจมไปเลย ไม่มีเหลือ

แล้วก็มาเป็นลำดับลำดา เดี๋ยวนี้กำลังเข้าเหยียบย่ำพระทั่วประเทศไทย นี่ออกจากสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มันฟังได้เมื่อไร ญาติโยมมีอำนาจมาบีบบี้สีไฟบังคับพระเราก็ไม่เคยเห็นในพุทธศาสนา ไม่เคยมี นี่ก็มาเห็นแล้วปัจจุบันนี้ บีบบี้สีไฟอย่างหาเหตุหาผลไม่ได้ อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ เอามาใช้ ศาสนาไม่ใช่ศาสนาป่าเถื่อนนี่นะ ท่านมีหลักมีเกณฑ์มีธรรมมีวินัยเป็นเครื่องยืนยัน เป็นเครื่องประพฤติปฏิบัติ อันนี้สุ่มสี่สุ่มห้า นอนอยู่ในบ้าน หลับครอกๆ ตื่นขึ้นมาแล้วมาบีบคอพระมันใช้ได้เหรอ

มันฟังไม่ได้นะเรา เพราะฉะนั้นเราถึงพูดเสมอ เราพูดตามเหตุตามผล ตามอรรถตามธรรม จึงไม่มีคำว่าสะทกสะท้านกับสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้เราไม่มี มีแต่อรรถแต่ธรรมที่จะก้าวเดินไปเพื่อความสงบร่มเย็น และเป็นประโยชน์แก่โลกเท่านั้นเอง ตรงไหนบกพร่อง ตรงไหนไม่ดีก็ต้องเตือนกันๆ เข้าไปรักษาพุทธศาสนาทำไมจึงเอาไฟไปเผาพระ เวลานี้พระจะเป็นบ๋อยพวกเปรตนี่แล้วนะทั่วประเทศไทย บังคับบัญชาไปหมด พระที่เรียนมากเรียนน้อยไม่มีความหมาย ไม่มีน้ำยานะเวลานี้ ถูกเบ็ดเกาะปากไปหมดนั่นแหละ คือเอาเหยื่อล่อปลา ยศ สมณศักดิ์สมณแส็กนั่นน่ะ มันใหญ่กว่าศีลกว่าธรรมไปที่ไหน

เดี๋ยวนี้มันแสดงตัวเป็นใหญ่ ไอ้พวกมูตรพวกคูถ พวกดินเหนียวติดหัวนี้มาเหยียบอรรถเหยียบธรรม ให้อรรถธรรมหมดอำนาจที่จะปกครองโลกเพื่อความร่มเย็นไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะมีแต่ฟืนแต่ไฟ ให้พวกนี้เข้ามาเหยียบย่ำทำลาย จะไม่มีอะไรเหลือนะ ฟังแล้วมันฟังไม่ได้ เรียนมาเหมือนกันมันรู้นี่นะปิดได้ยังไง หลักเกณฑ์มีอยู่ เรียนมาด้วยกัน อะไรที่ปลีกที่แวะจากหลักเกณฑ์คือความถูกต้องมันก็รู้ ก็ต้องเตือนกัน พูดกันซิ

นี่มีตั้งแต่เรื่องความเป็นภัยๆ ทั้งนั้นในวงศาสนาของประเทศไทยเราเวลานี้ นี่คือปล่อยให้ฆราวาสไปเป็นเจ้าอำนาจป่าเถื่อน เหยียบแหลกไปหมด พระไม่มีเหลือเลยเดี๋ยวนี้ เรียนสูงเรียนต่ำ เจ้าฟ้าเจ้าคุณ สมเด็จไหนก็แล้วแต่เถอะมันตั้งเป็นลมๆ แล้งๆ มันเป็นบ้ากับยศ กับดินเหนียวติดหัว ยิ่งกว่าชาติกว่าศาสนา กว่าอรรถกว่าธรรมไป เวลานี้มีแต่ตัวมูตรตัวคูถมันขึ้นเหยียบย่ำทำลายทองคำทั้งแท่งให้จมไปๆ ทองคำทั้งแท่งคือธรรม มีแต่ความสงบร่มเย็น อันนี้มันสงบที่ไหน ไปที่ไหนเป็นไฟเผาไปหมดๆ

เด็กเขาเรียนเขาก็รู้ อันนี้ทำไมผู้ใหญ่ และผู้ที่มาทำหน้าที่ในวงราชการและวงพุทธศาสนามันเป็นของเล่นเมื่อไร ยศมันเท่าไร พันตรี พันโท พันเอก พลโทพลเท ฟังซิ มันยศมันเย็ดมันอะไรก็ไม่รู้นะ แล้วมันเป็นประโยชน์อะไรไอ้ที่ตั้งมานี้ เอาฟืนเอาไฟมาเผาศาสนา เด็กเขาไม่ได้มาทำ ตาสีตาสาอยู่ตามท้องนาเขาไม่ได้มาทำลายพุทธศาสนา ดังที่พวกนี้ทำอยู่เวลานี้นะ มันเลวมากนะพวกนี้ เรียนมาเท่าไรๆ มีแต่มูตรแต่คูถเต็มพุงของมัน พ่นออกมาที่ไหนเป็นมูตรเป็นคูถ กระจายทั่วเหม็นคลุ้งกันไปหมดทั่วประเทศไทย วงศาสนาพระเณรเราจะอยู่ไม่ได้เวลานี้

เที่ยวเอาเบ็ดเกาะปากๆ บังคับบัญชาให้ปฏิบัติตามเรื่องอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ของตน ใครไม่ปฏิบัติตาม เอ้าถอดยศถอดเย็ดไปเลยละ มันเป็นอย่างงั้นนะเดี๋ยวนี้ มันป่าเถื่อนขนาดนั้น จนดูไม่ได้นะ ไม่ได้ถือศีลถือธรรมเป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติเพื่อความสงบร่มเย็นแก่ชาติบ้านเมืองเลย มันถือตั้งแต่ฟืนแต่ไฟเป็นเรื่องของกิเลส คือส้วมคือถานนั้นแหละ กระจายออกมาที่ไหนเหม็นคลุ้งๆ ไปหมด เวลานี้กิเลสส้วมถานของนักปราชญ์ดอกเตอร์ดอกแต้เรียนมาจากที่ไหนมาเป็นส้วมเป็นถาน กระจายทั่วประเทศไทยเหม็นคลุ้งไปหมดเวลานี้ ศีลธรรมจนจะไม่มีติดเนื้อติดตัวแล้ว เลอะเทอะขนาดนั้นนะ

ก่อแต่เรื่องแต่ราว ศีลธรรมมีอยู่ที่ปฏิบัติให้ความร่มเย็นมันไม่ยอมสนใจ มันสนใจตั้งแต่เอาฟืนเอาไฟเผาชาติเผาศาสนาเท่านั้นละ เผาส่วนรวมให้แหลกเหลวไปหมด มันน่าสลดสังเวชนะ เราพูดด้วยความเป็นธรรม เราไม่มีได้มีเสียกับอะไร สามแดนโลกธาตุนี้เราไม่มี เราพูดด้วยความเมตตาสงสาร เอียงไปทางไหนที่มันจะเป็นความเสียหายก็เตือนๆๆ ถ้าเอียงไปแฉลบออกไปเพื่อความเสียหาย เตือนให้เข้าร่องรอยที่เป็นความถูกต้องแล้วจะเป็นความสงบร่มเย็นต่อไป เราเตือนอย่างนั้นต่างหากนะ

เราไม่ได้เดือดร้อนกับอะไรโลกอันนี้ มันจะเป็นไฟก็เป็นเรื่องโลก หัวใจเราไม่ได้เป็นจะเป็นอะไรไป แต่นี้ก็เพราะความสงสารนั่นละ มนุษย์อยู่ร่วมกันก็ต้องเห็นใจกันซิ จะเอาแต่อำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ ไปบีบบี้สีไฟมนุษย์ด้วยกันมันดูไม่ได้นะ พากันคิดบ้างใครก็ดี วงราชการของเรานี่ละ ไอ้ตัวป่าๆ เถื่อนๆ นี่ละตัวสำคัญ ตัวทำลายอยู่เวลานี้ ถ้ามันไม่เป็นท่าเขี่ยมันลงทะเลคนประเภทนี้ คนดียังมีอยู่เมืองไทยเยอะ เอามันมาเผาทำไม เผาชาติเผาศาสนา คนดีมีอยู่มากมายนะ


ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com  หรือ  www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก