เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดอโศการาม
เมื่อเย็นวันที่ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
หลวงตามาเพื่อเจดีย์
วันพรุ่งนี้เอาให้เต็มวัดอโศการามเรานะวันพรุ่งนี้ เอาเงินมาคนละเป้ๆ ติดหลังมาเลย เราจะพาสร้างมหากุศล เอ้าฟัง อย่ามาห่วงหลวงตานะ แต่ให้หลวงตาเข้าใจไหม หลวงตาจะเอาเข้านี้ให้หมด หลวงตามาเพื่อเจดีย์นี้นะ มีเท่าไรเอามา เอามาให้หลวงตา หลวงตาจะเอาเข้านี้ให้หมด หลวงตามาเพื่อเจดีย์วันนี้ เจดีย์ครูบาอาจารย์ผู้เลิศเลอทั้งหลาย หลวงตาพอใจมาด้วยความเคารพบูชาท่านสุดหัวใจนะ นี่เห็นพี่น้องทั้งหลายมาบริจาคทานเราปลื้มใจไปด้วยนะ ไม่ใช่ธรรมดา เราพอใจไปด้วย
เพื่อชาติของเราได้สร้างมาเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้สมหวังทุกอย่าง ทีนี้สร้างศาสนาเข้าครอบชาติไทยของเราอีก นี่สร้างธรรม เจดีย์นี้ครอบไปหมดเลยนะ ไม่ใช่แคบๆ เจดีย์ครอบไปหมดเลย หลวงตาบัวมานี้มาเพื่อเจดีย์อันใหญ่หลวงของครูบาอาจารย์องค์เลิศเลอ หลวงตามาด้วยความพออกพอใจทุกอย่าง ขอให้พี่น้องทั้งหลายจำให้ดีทุกประโยค ที่พูดไปนี้เป็นประโยคสำคัญทั้งนั้นๆ จึงขอให้เข้าสู่ความสำคัญของใจ ใจเป็นของสำคัญมาก เอาข่าวคราวมหากุศลนี้เข้าสู่จิตใจ เบิกกว้างออกไปความตระหนี่ถี่เหนียวอย่าให้มาบีบบี้สีไฟจนเกินไป
มีห้าเอามาสิบติดหนี้เขาก็ได้เป็นอะไรไป เราไม่ว่าละ เอ้ามันต้องอย่างงั้นจึงเรียกว่านักรบซี ถ้าไม่อย่างงั้นก็เรียกนักหลบ นักรบกับนักหลบมันต่างกันเข้าใจไหม นักรบมีหมัดหนึ่งฟัดสองหมัดไปเลย หมัดไม่พอไปยืมหมัดหมามาอีกซัดอีก จึงเรียกว่านักสู้เข้าใจแล้วเหรอ (โยมนำปัจจัยมีรูปปั้นองค์ท่านพ่อลีมาถวายหลวงตา) นี่ท่านพ่อลีเรานะ ของเล่นเมื่อไร เด็ดเดี่ยวเฉียบขาดอยู่นี้หมด พ่อแม่ครูอาจารย์ชมเชยตลอด เราลืมเมื่อไรวะ ไม่เคยได้มีคำตำหนิเลย ท่านลีนี้เด็ดเดี่ยวเฉียบขาดด้วยศีลด้วยธรรมทุกอย่าง พร้อมหมดเลย
เรามาสร้างมหากุศลเป็นของยากเหรอ เขาไม่เคยสร้างมีมากต่อมากนะ แหม พูดแล้วเหี่ยวแห้งใจนะ ผู้ตักตวงเอาความดีเข้าสู่ใจเอากันเรื่อยๆ ผู้ที่แห้งผากๆ คว้าตั้งแต่ข้างนอก ข้างในแห้งผากๆ มีมากต่อมากนะ ข้างในร้องเรียกหาความช่วยเหลือตลอดเวลา หลวงตาจะพาทำบุญ หลวงตาตายไปแล้วไม่มีใครพูดอย่างนี้นะ ได้ยินไหมล่ะ เวลานี้ยังมีชีวิตอยู่พูดให้ลูกหลานทั้งหลายฟังทุกคนให้สร้างคุณงามความดีเสียเวลานี้
(โยมที่เป็นนักเขียนเคยเชื่อข่าวที่โจมตีหลวงตา จึงมากราบขอขมาหลวงตา) พวกเปรตมันแสดงท่าไหนออกมามีแต่เปรตทั้งนั้น ถ้าเราเป็นคนก็อย่าไปเชื่อมันก็แล้วกัน เท่านั้นแหละ สำหรับหลวงตาใครจะว่าอะไรก็เท่านั้นแหละ เฉยเราไม่สนใจ ถ้าวิตกวิจารณ์ก็วิตกวิจารณ์ไปลูกศิษย์ลูกหา สำหรับเราเองไม่มีอะไรแหละ ไม่มีจริงๆ ไม่มีอะไร ใครจะยกขึ้นฟากเมฆก็ไม่ขึ้น อยู่อย่างงั้นแหละ ใครจะเหยียบลงไปนู้นมันก็ไม่ลง ก็อยู่อย่างงั้นแหละ เราไม่มีอะไร เรื่องโลกสกปรก
เราจะช่วยชาติบ้านเมืองมันก็เหยียบชาติบ้านเมืองลงไป เราช่วยศาสนามันก็เหยียบศาสนาลงไป จึงเรียกว่าพวกเปรตพวกผี ถ้าเป็นคนทำไม่ลง เราจึงบอกว่าพวกเปรตพวกผีมันออกแบบไหนมันก็แบบเปรตแบบผีนั่นแหละ เราเป็นคนอย่าไปเชื่อมันก็พอ ก็เท่านั้นเอง หลวงตานี้ไม่มีอะไรกับใคร กับโลกอะไรๆ ไม่มี วันนั้นเห็นไหมที่หลวงตาขึ้นเวทีที่สวนอัมพรในท่ามกลางคนจำนวนมากมาย วันนั้นได้เห็นไหม นั่นละเห็นไหมหลวงตาเชื่อธรรมนี้เท่านั้น คนเต็มศาลาเราไม่ได้เชื่อยิ่งกว่าธรรม
เมื่อธรรมได้ขึ้นเต็มหัวใจแล้วขึ้นเลยทันที เหล่านี้ๆ มีความหมายอะไรๆ เราเทียบหมดแล้ว อันนี้มีความหมายขนาดไหนๆ ได้ความชัดเจนจึงรั้งไว้ไม่อยู่ เรียกขึ้นมาเลยเอ้าอ่านเห็นไหม นั่นละจึงเรียกว่าธรรมไม่สะทกสะท้านใคร ไม่มีที่ว่าหลบนั้นหลีกนี้ไม่มี ถ้าเป็นอย่างงั้นแล้วถือเป็นของจริงของตายใจไม่ได้ ธรรมต้องตายตัวๆ ไปเลย อย่างที่พี่น้องทั้งหลายได้เห็นในวันนั้น ท่ามกลางคนจำนวนมากมาย ยังเหลือตั้งแต่สมเด็จพระนางเจ้ายังไม่เสด็จมา นอกนั้นอยู่นั้นหมด นายกรัฐมนตรี ใครต่อใครอยู่นั้นหมดเลย
พอฟ้าหญิงเล็กเสด็จมา พอเข้ามาหาให้ถามเดี๋ยวนั้นเลย ถามไปทางทีวี ถามอะไรที่ยังไม่เต็ม (สถานีโทรทัศน์) เราก็ถามอีก ช่องนั้นๆ เอามาเลย ได้แล้วๆ ได้ช่องนั้น ไม่ได้อยู่ในโครงการ โครงการเต็มเอี๊ยดหมดแล้วนะ ส่วนนั้นเราไปหาได้พิเศษนี่น่ะ พอได้มาแล้วเขาก็เอามาตั้งไว้สองอันนี้ (หมายถึงไมโครโฟน) อันนี้ในหรือนอก ถ้าเป็นในทีวีออก อ่านทันที อันไหนไม่ใช่ปัดออก เอ้าอ่านบอกให้อ่านเลย คนจำนวนมากมาย เฉยเราไม่สนใจ ไม่มีอะไรเหนือธรรม
นี่ละธรรมออกแสดงท่านทั้งหลายเห็นเสีย คือความจริงโดยแท้ เราจึงไม่เคยหวั่นกับสิ่งใดเลย เป็นความจริงล้วนๆ ใหญ่ขนาดไหนไม่ได้ใหญ่ยิ่งกว่าความจริงที่จะเอาขึ้นอ่าน เอา ขึ้นอ่านนี้คือความจริงล้วนๆ ที่ออกมา ที่ให้คุณทองก้อนอ่านวันนั้นนะ ได้ตะเกียกตะกายหามาสักเท่าไรกี่ปีกี่เดือน รวมมานี้หมด นี้คือความจริง แล้วจะอ่านอันนี้ให้คนทราบทั่วไปหมด อย่าว่าแต่เพียงคนนั่งอยู่ในโรงใหญ่ๆ นั้นเลยนะ ทั่วประเทศไทยจะได้ยินหมด
เหล่านี้ไม่มีความหมาย งูๆ ปลาๆ มางั้นไม่ทราบความหมาย มาไม่ทราบเรื่องอะไร อันนี้ทราบ ผู้นี้ทราบ นำเรื่องอันนี้ออกอ่านผางๆ อ่านอย่างผางๆ เลย เป็นยังไง นั่นละเป็นอย่างงั้นละเรา อันนี้มีน้ำหนักมากที่สุด เราเว้นนี้เสียไม่มีความหมาย คนนั่งเต็มอยู่โรงใหญ่ๆ ก็ไม่มีความหมาย นี่ละธรรมเข้าใจไหม หลวงตาจึงไม่เคยมีอะไรกับใคร
(หนูนั่งแท็กซี่ คนขับแท็กซี่บอกว่าหลวงตาให้เงินคุณทองก้อน ๓๐ ล้านสร้างบ้าน) แต่คนคนนั้นเขาไปจ้างมันกี่บาทกี่สิบล้านมันไม่ได้พูดนะ อันนี้รับจ้างเขามาโฆษณา ไปหาจ้างเขาทุกแห่งทุกหนพวกนี้ไม่พูด แล้วก็มาพูดที่ว่าหลวงตาบัวให้เงิน ๓๐ ล้านคุณทองก้อน นี่ฟังไม่ได้ ฟ้าดินถล่มเลยนะ เรียกว่าฟ้าดินถล่ม เม็ดหินเม็ดทรายมันก็ไม่มีความจริงว่างั้นเถอะ เขาจ้างมาให้คนนี้ว่าอย่างงั้น จ้างไอ้คนนี้มา แท็กซี่ก็ตาม ใครก็ตาม ใครก็อยากได้เงินใช่ไหม จ้างเอาๆ ให้ว่าอย่างงั้นๆ นะแล้วยื่นเงินให้ๆ จ้างไปหมดเลย ว่าให้คุณทองก้อน ตัวนี้ที่เขาจ้างมันไม่เห็นพูดเข้าใจไหม
พวกนี้มันเอาเงินโปะเข้าๆๆ ทุกแง่ทุกมุมมันจะจ้างกันทั้งนั้นเลย เราจึงได้บอกมา แล้วบอกเป็นคำสุภาพนะ บอกว่าหลวงตาขอบิณฑบาตเถอะ การโจมตีแบบนี้หลวงตาฟังเสียงคำโจมตีนั้นมันแบบสะเปะสะปะเอาเหลือเกิน แสดงว่าพวกนี้ต้องไปรับจ้างจากนั้นมา เห็นแก่เงินแก่ทอง เขาให้ห้าให้สิบพอวันพอคืน แล้ววันแล้วคืนไปวันหนึ่ง อิ่มหนึ่งๆ ก็พอแล้ว รับเขามาแล้วจึงมาโฆษณาโจมตีหลวงตาสะเปะสะปะ ขอบิณฑบาตอย่าทำนะลูกหลาน ก็มันโจมตีมันสะเปะสะปะมาฟังมันก็รู้ ถ้าคนเอาเป็นความจริงมาจริงๆ หมัดเดียวรู้กันทันที ไม่มาก เข้าใจแล้วเหรอ หลวงตาไม่หวั่นกับใคร เรื่องโลกไม่มี
อย่าพากันไหวนะ ขอให้ท่านทั้งหลายทราบเอาไว้นะ บรรดาลูกๆ หลานๆ หลวงตาได้พลีชีพ อันดับแรกพลีชีพเพื่อฆ่ากิเลสในหัวใจตัวเอง อันดับที่สองพลีชีพ เพื่ออุ้มชูบรรดาพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทย และศาสนาให้ขึ้นจากความล่มจม เพราะฉะนั้นการแสดงของเราทุกแง่ทุกมุมจึงมีตั้งแต่คุณค่าๆ หาสิ่งที่เป็นภัยไม่ได้เลยในตัวของเรา เราไม่เคยมี พูดออกคำไหนแม่นยำๆ ไปหมด เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว กับคำที่เขามาหลอก เขาว่าผู้นั้นผู้นี้ได้รับจากหลวงตาบัว ๓๐ ล้าน ๔๐ ล้านนั้น มันเป็นยังไงกับนี้พูด อย่างงั้นก็เชื่อเขาแล้ว เชื่อเขาแล้วเหรอนี่ (ไม่เชื่อค่ะ ฟังไว้)
คำพูดของเรา กิริยาของเรา ที่แสดงออกทั้งหมดนี้รวมมาในการช่วยชาติทั้งหมดที่เราพลีชีพ ออกมารวมเป็นคำพูดนี้ว่า กิริยาคำพูดที่ออกมาท่านทั้งหลายฟังนี่มันพอเชื่อถือได้ไหม อยากว่าอย่างงั้นนะ หรือหลวงตาบัวนี่ต้มชาติเหรอ ต้มศาสนาเหรอ สนใจอะไร อย่าไปสนใจ แหม คนผู้เลวเลวมาก ผู้ที่ทำลายชาติศาสนาเลวมาก มีมากเสียด้วยนะ อย่างที่ว่านี้ เห็นใครเอาเงินยัดใส่มือ แล้วแต่งคำพูดสองสามคำ ให้โฆษณาโจมตีว่าอย่างงั้นๆ แล้วยื่นให้คนนี้เท่านั้น คนนั้นเท่านั้น
พวกนี้ก็หาเงินอยู่แล้วใครก็อยากได้เงินใช่ไหม พอได้แล้วมันก็ไปโฆษณาโจมตีมันจึงแฉลบออกมาแบบสะเปะสะปะ หาความจริงไม่ได้ เราจึงขอบิณฑบาต ลูกหลานอย่าไปโจมตีแบบนี้ หาความจริงบ้างมาโจมตี ฟังเสียงโจมตีนี้ไม่ใช่เจตนาร้ายต่อหลวงตาโดยถ่ายเดียวนะ นี่แสดงว่าไปรับจ้างเขามา พอได้เงินได้ทองแล้วพูดพอให้แล้วปากไปเท่านั้น โจมตีสะเปะสะปะ ต่อไปอย่าทำอย่างงี้นะลูกหลาน เราว่างั้น อย่าไปโจมตีอย่างงี้ คือมันบอกไปในตัว พูดมาคำไหนๆ มันสะเปะสะปะๆ หาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้
อย่างที่ว่าหลวงตาให้เงินคุณทองก้อน ใครเป็นคนที่นับเงินอยู่ตลอดเวลา เป็นผู้เก็บสะสมเงินก็ชายปั๋มใช่ไหม นั่นไปถามผู้นั้นก็แล้วกัน แล้วพวกที่นับเงินนี่คุณทองก้อนไม่เคยเดินมามองดูเงินแม้แต่หนเดียวไม่เคยมี แล้วสามสิบล้านมาจากไหน เข้าใจไหม อะไรอีก เอ๊ยสกปรก เดี๋ยวจะล้างปากอีกพูดออกมาแล้วล้างปาก พวกฟังนี่ไปล้างหูเสียนะ มันสกปรก เอาละเลิก มันล้างทั้งปากล้างทั้งหู มันลำบากนะของสกปรก เสียดายมันอะไรของชั่ว ของชั่วอยู่กับใครมันก็ชั่วคนนั้น ของดีอยู่กับใครก็ดีคนนั้น
หลวงตามันหมดราคาแล้วแหละ ใครจะว่าอะไรก็แล้ว ว่าอะไรก็แล้ว นี่ขอบิณฑบาตถ้าโจมตีจริงๆ หาแต่คำให้มีสัตย์มีจริงมาพูดให้ฟังบ้างนะ อันนี้สะเปะสะปะ แสดงว่าไปรับจ้างเขามา เราก็ว่างั้น ไม่ได้มีความจริงใจที่จะยกโทษเรานะ คืออาศัยเงินด้วยค่าจ้าง เขาให้ว่าอย่างงั้นก็ว่าไป ได้เงินก็เอา เขาไม่ได้มีความมุ่งอะไรกับเราจริงๆ ที่เขาโจมตีเหล่านั้นไม่ใช่จะเป็นความจริงทุกรายไปนะ ผู้ที่มันจริง มีจริงมันก็มี นั่นละผู้ยื่นเงินให้นั่นละพวกจริง เอาจริงเอาจังที่จะทำร้ายจริงๆ ทำลายจริงๆ ไอ้ผู้ที่รับไปนั้นอาศัยเงินเขาไปพอได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องวันหนึ่งๆ ก็พอ ก็มีเท่านั้นละ เอาละพอไปเลิกๆ อย่าไปสนใจก็แล้วกัน ชาติเราเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาไม่ได้เพราะการทำลายอย่างนี้ ด้วยการพยุงต่างหากเข้าใจไหม เพียงเท่านั้นเราก็จับได้แล้ว ยากอะไร
(หลวงตาเทศน์ธรรมะต่อ)
พระองค์ (พระพุทธเจ้า) แย้มพระโอษฐ์ออกมา เอ้อการปรารถนาก็ยอมรับว่าปรารถนา แต่ผู้ที่จะให้สมมักสมหมายถึงขีดถึงแดนนั้นมีน้อยมากนะ นั่นฟังซิ ฟังแต่ว่ามีน้อยมากทีเดียว แต่ยังไงก็ไม่เสียความดีทั้งหลายที่ปรารถนามา ได้แค่ใดๆ ก็เป็นผลเป็นประโยชน์แก่ผู้นั้น นี่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากชั้นดาวดึงส์ เพียงเท่านั้นเป็นผลประโยชน์แก่โลกขนาดไหน ทั้งผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ทั้งผู้ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ให้ถึงที่สุดและถึงที่สุดจริงๆ และผู้ไม่ถึงที่สุดก็ได้เป็นคุณสมบัติ หรือเป็นผลเป็นประโยชน์ได้ตามลำดับลำดาของผู้บำเพ็ญนั้นแล นี่ละพระพุทธเจ้า
เราไม่เคยเป็นพระพุทธเจ้า เป็นได้เพียงพระองค์เดียว เพราะการปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้านี้เป็นความลำบากลำบนมาก เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงรับสั่งว่า เอ้อการปรารถนานี้เป็นความดีงาม แต่ที่จะให้เป็นดั่งที่ว่าปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ให้เป็นพระพุทธเจ้านั้นอย่างนี้มีน้อยมาก ฟังซิมีน้อยมาก แต่ที่ไม่ได้ก็ไม่ได้เสีย แต่ที่ถึงจุดหมายตามที่ปรารถนามีน้อยมาก เป็นของลำบากไหมพิจารณาซิ คนเต็มแผ่นดินปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับสั่งว่ามีถึงจุดนั้นน้อยมาก
แต่เหตุไรพระองค์จึงโผล่ขึ้นมาเป็นศาสดาของพวกเราทั้งหลาย ได้กราบไหว้บูชามาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้เป็นเพราะเหตุไร นี้เพราะความอดความทน ความเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง ซื่อสัตย์สุจริตต่ออรรถต่อธรรม ไม่มีเล่ห์มีเหลี่ยมร้อยสันพันคมให้กิเลสแบ่งเอาไปกิน เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของกิเลส พระองค์ทรงบึกบึนมา จนกระทั่งได้ตรัสรู้ขึ้นมา ทีนี้เมื่อได้ตรัสรู้แล้วผู้ไม่ได้ตรัสรู้มันไม่ยอมเชื่อก็ช่างมันซิ เพราะมันเคยตาบอดมาตั้งกัปตั้งกัลป์แล้ว มันอยากบอดต่อไปก็ให้มันบอดซิ
ผู้ที่แจ้งสว่างแล้วดังพระพุทธเจ้าให้พากันกราบ ผู้ที่แจ้งผู้สว่างนั่นนะ อย่าไปกราบคนหูหนวกตาบอด ถ้าจะกราบเขาก็ให้กราบเราเสีย ตัวนี้มันขี้เกียจมาก ให้ว่างั้นเข้าใจไหม ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าว่าการงานการกุศลมันขี้เกียจมาก เราให้กราบความขี้เกียจนี้เสีย เขาก็เหมือนกันกับเรา นี้ร้ายกว่าเราอีก กราบเราแล้วก็พอ ไม่ต้องไปกราบหลายคน นี่ละความดีหายาก ผู้ท่านทำดีท่านดีอยู่
ทีนี้เวลาท่านตรัสรู้แล้วมาแสดงธรรมแก่โลก แล้วผู้บรรลุมรรคผลนิพพานจนกลายเป็นสาวกมีจำนวนมากมาย ในพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ๆ บรรดาสาวกอรหันต์ๆ มีจำนวนมากขนาดไหน ล้วนแล้วตั้งแต่บำเพ็ญตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ได้รับการอบรมแล้วมาปฏิบัติ จนกระทั่งถึงได้กำจัดกิเลสให้ขาดจากจิตใจไม่มีอะไรเหลือ เป็นสงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเราได้
นี่แหละธรรมมีอยู่อย่างนี้ ส่วนที่ไม่เป็นธรรมมันก็มีอยู่ตามเรื่องของมัน ที่ไม่เป็นธรรมมีอยู่ทุกหย่อมหญ้านั่นแหละ ส่วนที่เป็นธรรมมีน้อยมากในหัวใจของคน หัวใจมีอยู่ทั่วไปแต่มันหัวใจแบบมูตรแบบคูถมันมีมากที่สุด หัวใจแบบศีลแบบธรรมมีน้อยมากทีเดียว ให้ฟิตใจของเราให้ดี อย่าไปเชื่อคนตาบอดหูหนวก เป็นศาสดามาแต่ละพระองค์เป็นของยากลำบากแสนสาหัส ได้มาเป็นศาสดาสอนโลกแล้วโลกไม่ยอมรับก็ยิ่งเลวที่สุดแล้วโลกอันนั้น ไม่ยอมรับเป็นศาสดาเลย เป็นโลกที่เลวที่สุดเลย
เราจะเป็นโลกไหน เป็นโลกที่เลวที่สุด หรือโลกเดินตามครู ถ้าเป็นโลกเดินตามครูก็ให้อุตส่าห์พยายามปฏิบัติ นั่นละผลประโยชน์จะเป็นของเราๆ พระพุทธเจ้าตรัสคำใดไม่มีคำผิดเพี้ยนไปได้เลย ตรงเป๋งๆ ท่านจึงเรียกว่า เอกนามกึ หนึ่งไม่มีสอง คือความรับสั่งของพระพุทธเจ้าจะไม่มีสองเลย ว่ายังไงเป็นอย่างนั้น พระญาณหยั่งทราบไม่มีสอง หยั่งทราบยังไงเป็นอย่างงั้นๆ ตลอดมา แล้วมาสอนโลกก็ไม่มีสอง เรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้วทุกอย่างๆ ใครปฏิบัติก็จะได้ผลตามที่ตรัสไว้ชอบแล้วนั้นแล
ไม่มีคำว่าผิดว่าเพี้ยนไปเหมือนกิเลสที่ร้อยสันพันคม เอาแน่เอาจริงกับมันไม่ได้ มันหากเต็มอยู่ในหัวใจของสัตว์โลก โลกชอบมันด้วย เพราะฉะนั้นมันจึงเต็มอยู่ในหัวใจของโลก ธรรมมันไม่ค่อยชอบ ให้เราฝืนมันซิ ปัดมันออกบ้าง วันหนึ่งๆ นอนแช่กันอยู่ ปัดมันออกชั่วระยะหนึ่ง เพื่อบำเพ็ญคุณงามความดีทำไมจะไม่ได้ ให้พากันตั้งอกตั้งใจบรรดาพี่น้องทั้งหลาย เราจะตั้งปฐมฤกษ์อันเป็นมงคลสูงสุดขึ้นที่กลางวัดอโศการามเรา เจดีย์ของครูบาอาจารย์ซึ่งล้วนแล้วตั้งแต่เป็นเพชรน้ำหนึ่งๆ ที่เข้ามาบรรจุหรือประดิษฐานอยู่ในที่นั่น ให้ได้เป็นมหามงคลแก่เราเป็นเวลานาน วันนี้เผดียงให้ท่านทั้งหลายทราบเพียงเท่านี้
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
|