เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
ธรรมปกครอง กิเลสปกครอง
นายกเราเป็นบุคคลที่น่ารัก โห หาเงินเข้าประเทศน้อยเมื่อไร ติดหนี้ติดสินเขาจนจะจม นายกคนนี้มาคุ้ยเขี่ยหาเงิน เข้าปึ๋งถอนตัวไปได้เลย หาได้ที่ไหนวะ หาเงินเข้าประเทศก็เก่ง ชาวอุดรผู้ว่าฯ ของเรานี่ได้ตีข้อมือเอาไว้ มีแต่จะขอท่านๆ ก็เมืองอุดรมันได้ตั้งห้าหกร้อยล้านแล้ว กั้นเมืองอุดรไม่ให้น้ำท่วม แล้วมาอะไรขออีก อู๊ย ยังบกพร่องอีกเยอะ ว่าอีกละ เราก็ให้ชี้แจงออกมาดู สิ่งใดที่สมควรเราก็เห็นด้วย อะไรที่ควรจะพักไว้ก่อนก็ให้พัก เพราะที่อื่นความจำเป็นก็มีมาก เช่น อำเภอหนองหานนี่ขยายได้เมื่อไร น้ำท่วมตลอด จะมาทำอันนี้เพื่อแก้ไขเรื่องน้ำจะได้ขยับขยายอำเภอได้ ก็ถูกต้อง ผู้ว่าขอเราก็เห็นด้วย ถ้าอันไหนที่เราเห็นด้วยเราก็เห็นด้วย
ส่วนทางจากกุมภวาไปศรีธาตุนั้น เราว่าอันนี้ควรจะรอไว้ก่อนก็ได้ ขอท่านมากไป ต้องมีผ่อนซิ ขอท่านมากไป โห หลายแห่ง แล้วยังจะน้ำโมงนู้นอีก อ้าว ก็เป็นที่เราไปเห็นแล้วอีกแหละ เลยอำเภอบ้านผือไปทางน้ำโมง ถนนสายนี้กับน้ำทางด้านนี้เวลามันไหลมา ท่วมหมด ข้าวกำลังเขียวชอุ่มนี้น้ำไหลมาดันกันอยู่นี้ มันออกไม่ทัน เสียหมดข้าว เปื่อยไปเลย นี่เราก็ไปเห็นแล้วจนเราได้พูด ทางสายนี้ถ้าหากว่าได้ตัดสะพาน คือทำสะพานเพิ่มเข้าอีกๆ ทางด้านนี้ก็จะดี นี่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกปี ทำ(นา) มาแทบเป็นแทบตาย เวลาข้าวกำลังเขียวชอุ่มน้ำมากึ๊ก เลยตาย น้ำออกไม่ทัน(ต้นข้าว) เปื่อย นั่น นี่พูดเมื่อวานนี้ พูดเรื่องห้วยโมงเมื่อวานนี้ เราเห็นด้วยทันที เราว่างี้แหละ
โห บ้านแถวนั้นน้อยเมื่อไรที่ถูกน้ำท่วม เปิดสะพานๆ เราก็เห็นด้วยเลย ก็เราไปดูแล้วนี่ กับหนองหานก็ชัดเจน เพราะไม่มีที่ขยับขยายไปไหน ไปที่ไหนมีแต่น้ำท่วมๆ ตั้งอำเภอหนองหานมานานสักเท่าไร ขยับขยายไปไหนไม่ได้เพราะน้ำท่วมตลอด เวลาที่จะไปขยับขยายทางอะไรเพื่อจะได้ขยายตัวเมืองตัวอำเภอได้ อันนี้เราก็เห็นด้วย จำไม่ได้เมื่อวานขออะไรบ้างนะ ผู้ว่าเราขอนายกเมื่อวานนี้ขออะไรบ้าง ๑) น้ำโมง ๒) หนองหาน (ถนนไม่ได้ขอ แต่ท่านพิจารณาแล้วว่าจำเป็น ท่านมีเงินงบประมาณอยู่ ท่านก็ให้ด้วย) ถนนไหน (ถนนที่หลวงตาว่าให้พักไว้ก่อนครับ) ท่านให้แล้วเหรอ (ครับ) นั่น ท่านให้ก็เป็นเรื่องของท่านเอง เราไม่อยากกวนท่าน เราให้พักไว้ก่อน ท่านให้เองก็ดีแล้ว
ท่านนอนอยู่ข้างนอกห้องเลย สบายดี โล่งดี เราไปดูก็เหมาะ ในห้องมีฝากั้น ประกอบกับหน้าร้อน ข้างนอกเหมาะดี โล่งไปหมดเลย นอนที่ไหนจะเป็นอะไรไป พวกตำรวจนี้เต็มอยู่ทุกแห่ง ตีหนึ่งเราออกมา เงียบๆ เราด้อมออกมาดูรอบไปหมด พวกตำรวจอยู่ทุกแห่งทุกหนเต็มไปหมด ตามเหล่านี้มี ที่แจ้งที่ลับ มืดๆ อะไรมีหมด ออกไปถึงประตู ที่ศาลาใหญ่ แต่เราไม่ออก ถึงแค่ประตูมองไปก็เห็นคนนอนอยู่เยอะเหมือนกัน
โธ้ วันนี้เดินทางหนักอยู่นะ ไม่ใช่เล่นๆ เพราะไปก็ต้องไปดูนั้นดูนี้อะไร ยุ่ง ไปตรงไหนต้องไปดูๆ ผ่านไปนี้ก็เรียนให้ท่านทราบว่า ส่วนหนองหานตรงนี้แหละที่ขอ ท่านจะเห็นด้วยทันที เพราะท่านจะให้อยู่แล้วนี่ อะไรๆ ที่เราเห็นว่ามันจะหนักไปก็ผ่อนไว้ก่อนๆ อย่างถนนเราว่าให้ผ่อนไว้ก่อน ท่านให้เลย ให้เลยเราก็คว้ามับเลยจะว่าไง คือไม่อยากให้หนักเกินไป เราคิดด้วยความสม่ำเสมอนะ อย่างเมืองอุดรนี้ได้งบประมาณมาตั้งห้าหกร้อยล้าน กั้นน้ำท่วมอุดร ก็ผ่านไปได้แล้ว แล้วที่เมืองอื่นเมืองที่จำเป็นๆ จังหวัดไหนบ้างที่จำเป็นควรจะได้รับการสงเคราะห์ เราอยากจะให้ทั่วถึงในความรู้สึกของเรา ถ้าเมืองไหนไม่จำเป็นก็ไม่ว่าอะไร ที่จำเป็นควรจะได้รับสงเคราะห์ก็ควรให้ได้รับสงเคราะห์
อย่างอุดรเราก็เห็นด้วยเท่าที่ได้รับสงเคราะห์มาแล้ว เราคอยเตือนเสมอให้สม่ำเสมอกันทั่วประเทศไทย คือทั่วประเทศไทยมันเหมือนอวัยวะของเรา สูงต่ำอะไรๆ อยู่ในความรับผิดชอบของใจดวงเดียวนี้ทั้งนั้น อะไรบกพร่องตรงไหนก็กระเทือนใจๆ ถ้าสมบูรณ์เต็มที่แล้วใจก็สบาย เมืองไทยของเราเหมือนกัน บกพร่องตรงไหนก็เหมือนอวัยวะของเราบกพร่องนั่นแหละ จึงต้องเยียวยา บำรุงรักษาตรงไหนๆ นี่แหละที่ว่าให้เสมอไป ถ้าหากว่าที่ไหนไม่จำเป็นก็ทราบกัน ที่จำเป็นแต่ไม่ได้รับการสงเคราะห์ เพราะเหตุไร มันก็ต้องถามเข้าไปใช่ไหม ให้เสมอ
อะไรจะดียิ่งกว่าคนที่มีความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน เหมือนร่างกายของเรามีความสามัคคีกัน ไปประกอบหน้าที่การงานไหน ไปไหนได้หมด เหาะเหินเดินฟ้าไปได้ เมื่อร่างกายสมบูรณ์แล้วไปไหนไม่อัดไม่อั้น ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายบกพร่องลงไปแล้วขัดข้องอยู่นั้นแหละ อันนี้ชาติไทยของเรา เราก็ต้องการให้มีความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน เพราะคำว่าชาติเป็นหัวใจอันใหญ่หลวง ตั้งที่จุดศูนย์กลางชาติ ทีนี้แยกออกไปๆ กระทั่งอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน จังหวัด จนกระทั่งถึงภาคก็คืออวัยวะของร่างกาย จะต้องได้รับการบำรุงเสมอกัน เพราะอยู่ในคำว่าชาติรับผิดชอบด้วยกัน บกบางที่ตรงไหน ชาติต้องพิจารณาไปๆ อันนี้ถูกต้อง
การปกครองชาติก็เหมือนเรารับผิดชอบอวัยวะของเรานั้นแหละ มันบกพร่องตรงไหนๆ เราดูแลตลอดเวลาร่างกายของเรา ชาติก็เหมือนกัน มีความบกพร่องตรงไหนๆ ก็ช่วยกันดูแล สมมุติว่าได้งบประมาณจากไหนก็โอนออกไปๆ เพื่อจุดบกพร่องๆ ทั่วกันทั้งประเทศไทย นี่เรียกว่าบำรุงอวัยวะของตัวเองคือชาติของตัวเองให้สมบูรณ์พูนผล บ้านเมืองก็สงบร่มเย็น ธรรมเป็นอย่างนั้นแหละ เราไม่ใช่นักปกครอง แต่ธรรมะใหญ่กว่าสิ่งเหล่านี้ เพราะความรู้ทางด้านของโลกกับความรู้ทางธรรมะ ธรรมะสูงกว่าตลอด ละเอียดกว่าตลอด เพราะฉะนั้นธรรมะจึงออกได้ในที่ทุกสถานไม่อัดไม่อั้น คือธรรมะ ละเอียดมาก เข้าได้หมดเลย
เริ่มต้นตั้งแต่ตัวเราคนเดียว มีความพร้อมเพรียงสามัคคีแห่งอวัยวะสมบูรณ์แล้ว ครอบครัวฟังเสียงกัน ใครผิดใครถูก ดีชั่วประการใด ยอมรับกันด้วยความถูกต้องเป็นรากเป็นฐาน ไม่ใช่ดันทุรัง นี่ก็เรียกว่าความพร้อมเพรียงสามัคคี ในหมู่บ้านก็เหมือนกัน ฟังเสียงหัวหน้าบ้าน เพราะแต่ละบ้านๆ มีผู้ใหญ่บ้าน นั่นหัวหน้าบ้าน คอยฟังเสียง กระทั่งขยายออกไปก็ให้เป็นอย่างนั้น มีความพร้อมเพรียงสามัคคี ฟังหัวหน้าเรื่อยๆ ไป แน่นหนามั่นคงสงบร่มเย็นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั่วประเทศ ผู้ดูแลรักษามีอยู่ทั่วประเทศ ดูแลรักษาด้วยความเป็นอรรถเป็นธรรม บ้านเมืองสงบร่มเย็น นี่เรียกว่าธรรมปกครองโลก เป็นอย่างนั้น
ถ้าให้กิเลสปกครอง โห ไม่ได้นะ เป็นภัย กิเลสจะไม่มองเหตุมองผล มีแต่จะเอา จะให้ได้อย่างเดียว ไม่ว่าอะไรถ้าจะเอา จะให้ได้อย่างใจหวังๆ ผิดถูกไม่คำนึงเรื่องของกิเลส ส่วนธรรมแล้วต้องพิจารณาควรหรือไม่ควร อย่างที่ยกตัวอย่างพูดเมื่อตะกี้นี้ เมืองอุดรอันนั้นก็จะเอา อันนี้ก็จะเอา มันเอาอะไรนักหนา เมืองอื่นเขาก็มีเมืองใดมี ทำไมจะมาเอาแต่เมืองอุดร ทางนั้นก็ชี้แจงมาด้วยความจำเป็นอย่างนั้นๆ แน่ะเห็นไหมล่ะ เมื่อมีความจำเป็นสมควรที่จะได้รับการสงเคราะห์แล้วก็เหมาะสม แล้วก็แยกเข้าอีก มาคราวนี้จะขออะไรบ้าง ขอนั้นขอนี้ ฟาดไปจนกระทั่งถึงทางกุมภวาไปถึงศรีธาตุ ทางสายนี้เราก็ไปมาเสมอ โหย มันจะมากเกินไป พักไว้ก่อน ว่าอย่างนั้นแหละ
แล้วยังไงไม่ทราบ ผู้ว่าคงออดด้วยท่า นายกเลยให้ เราไม่ว่าอะไรแหละ เพราะเราบอกพักไว้ก่อน มันหนักมากแล้วนะ ทีนี้ผู้ว่าคงออดคงอ้อนเลยได้ เราก็เลยไม่ว่า ตกลงทางสายนี้ก็เลยได้กับเขา
เราอยากให้ชาวพุทธเรามีความหนักแน่นในธรรมเข้ามากๆ กว่าที่เป็นอยู่และที่เคยผ่านมาแล้ว รู้สึกเหลวไหลๆ ศาสนามองแทบไม่เห็น ถ้าต่างคนต่างเอาหลักธรรมหลักศาสนาเข้าเป็นจุดศูนย์กลาง เดินเข้าไปหาหลักนี้ จะสงบร่มเย็นดีงามทุกอย่าง ไม่ว่าหน้าที่การงานอะไรดีไปทุกอย่างนั่นแหละ ธรรมพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนใครให้เสียหาย สอนให้ดีล้วนๆ เป็นแต่ผู้ที่เสียหายมันแหวกแนวไปต่างหาก ออกนอกลู่นอกทางมันก็เสีย
(เขาให้กราบเรียนให้ทราบเฉยๆ ครับ ที่บ้านคำกลิ้งจะมีกำหนดการทอดผ้าป่ากตัญญูผู้สูงอายุ จังหวัดอุดรธานี วัดป่าบ้านคำกลิ้ง ต.บ้านจั่น จ.อุดรธานี วันเสาร์ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๗ คาดว่าจะมีผู้สูงอายุมาประมาณ ๔,๐๐๐ คนครับ กราบเรียนให้ทราบเฉยๆ ครับ) อ๋อ เราก็ทราบเฉยๆ เขาเฉยเราก็เฉยซี เขาต่อยเราก็ต่อยซีจะว่าไง เข้าใจแล้วนะ เฉยที่นี่ ผู้สูงอายุก็มีอยู่ทั่วไป เรื่องที่ว่าจะมาให้ไปเทศน์ แหม มันหนัก ทุกวันนี้ไม่อยากเล่นกับอะไรเลยนะ เหนื่อยมาก ก็พอดีที่หยุดโครงการ เทศน์ก็ทั่วโลกแล้ว ๖ ปีเต็ม ที่ออกกระจายทั่วโลก ทางอินเตอร์เน็ตด้วย ออกทั่วโลกแล้ว ที่ไหนเมืองไทยเราไม่ต้องถาม เพราะทั่วประเทศแล้ว นอกจากไม่สนใจจะฟังจะปฏิบัติ มันก็เป็นกรรมของสัตว์จะว่าไง ดีชั่วมีอยู่ในโลกแล้วแต่ใครจะยึดเอาทางไหน มันก็เป็นผลทางนั้นขึ้นมา
ก็เรียกว่าในชีวิตนี้เราทำสุดขีดกับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย โดยเราไม่เอาอะไรเลย ฟังซิ ไม่เอาอะไรเลย ติดเนื้อติดตัวเลย ที่ช่วยพี่น้องทั้งหลายมาเป็นเวลา ๖ ปีนี้ คิดดูบาทเดียวเราไม่เคยไปแตะเลย ท่านทั้งหลายจะหาที่ไหน สมบัติทั้งประเทศรวมมาหาเราคนเดียวเป็นผู้รับผิดชอบ ธรรมดามันต้องรั่วไหลแตกซึมตลอด เราไม่มี เข้มงวดกวดขันเหมือนอย่างเราเคยปฏิบัติต่อตัวเองและสิ่งทั้งหลายมาเรื่อยๆ กับเกี่ยวข้องกับหมู่กับเพื่อน จริงจังทุกอย่างรอบด้านไปเลย อันนี้ยิ่งเป็นเรื่องสมบัติของพี่น้องชาวไทยที่ส่งเข้ามาเพื่อจิตใจของชาวไทยเอง เราก็เป็นผู้นำเสียด้วย เป็นผู้ออกทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเรื่องของเราออกหมดเลยเสียด้วย เมื่อสมบัติมากน้อยมีมาเราต้องรักต้องสงวน
เช่นอย่างทองคำกับดอลลาร์นี้ก็เหมือนกัน ร้อยทั้งร้อยเข้า ตั้งแต่ระยะย้อนหลังนะ สำหรับดอลลาร์ต่อไปนี้จะไม่ค่อยแน่ก็บอกนะ คือถ้าหากว่าเงินไทยเราไม่พอกับการจับจ่ายที่เขามาขอความช่วยเหลือ ก็อาจจะได้แปรดอลลาร์นี้เข้ามาช่วยเงินไทยหนุนไป เพราะฉะนั้นเงินดอลลาร์นี้จึงไม่แน่ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนทองคำ ทองคำนี้เท่าไรๆ ก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดไปเลย ได้มาเท่าไรก็เก็บหอมรอมริบเอาไว้ๆ ได้พอสมควรแล้วก็มอบไปเลยไม่ออกไปไหน ส่วนดอลลาร์อาจแยกได้อย่างว่า เพราะความจำเป็นมีอยู่ทุกด้าน เมื่อวานนี้ก็ ๖ โรง ฟังซิ โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ ๖ โรง พอพูดก็ระลึกได้อย่างนี้แหละ วันละ ๔ โรง ๕ โรง ๖ โรง ที่มากที่สุด ๙ โรงวันหนึ่งนะ ยังไม่ถึง ๑๐ โรง มีแต่ ๙ โรง ๘ โรงลงมา เมื่อวานนี้ก็ ๖ โรง ก็อย่างนั้นแล้ว
โรงไหนมาเราจัดให้เสมอกันหมด เว้นแต่โรงที่เราให้เป็นพิเศษ อย่างเมื่อวานนี้ทางไหนมา เป็นพิเศษมาเมื่อวานนี้ เออ ทางนาแห้ว นี่เราก็ให้เป็นพิเศษ ให้เป็นพิเศษให้อะไรบ้าง ก็ต้องให้เป็นพิเศษแบบเดียวกันหมด ไม่ให้ยิ่งหย่อนกว่ากัน ถ้าเสมอก็เสมอกันหมดไม่ยิ่งหย่อน เมื่อวานนี้ก็มาตั้ง ๖ โรง เราไปกรุงเทพ ๒๐ วัน ดูรายการที่พระท่านจดเอาไว้ มัน ๓๓ โรงพยาบาล ก็อย่างนั้นแหละ คือไปไม่ไปก็ตาม ของที่เราสั่งซื้อไว้นี้จะบกบางไปไม่ได้ ต้องให้เสมอเหมือนกับเราอยู่นี่ ใครมาก็ให้ได้อย่างเดียวกันๆ เวลาจะออกเดินทางไปนี้ก็เติมน้ำมันให้ทุกคันรถๆ ฟังซิน่ะ อย่าง ๖ คันรถนี้ก็เติมน้ำมันให้
เรานั่งอยู่นี่เห็นรถบรรทุกน้ำมันถังใหญ่ ๒๐๐ ลิตรหรืออะไรมา โห รถนี่มันเอาอะไรมามากมายนักหนา มองดูเป็นถังๆ ถังอะไร เรานั่งอยู่นี่รถผ่านมา ว่าถังน้ำมัน น้ำมันอะไร น้ำมันรถนั่นแหละ โห มันขนาดนั้นเชียวเหรอ นี้มันสัมผัสเราก็เลยถาม ปรกติเราไม่เคยถามนะว่ามันหมดเท่าไรยังเท่าไร เราไม่เคยถาม ถ้าถามเราทำไม่ได้ เห็นแก่ความตระหนี่ถี่เหนียวมันจะไปยึดอยู่นั้นอยู่นี้ หมดไปเท่าไรๆ มันก็จะขยับเข้ามาไม่อยากให้ เข้าใจไหม เราไม่มีอย่างนั้น ไม่เคยถาม แต่เวลานั้นมันมาสัมผัส เอ้อ มันขนาดนี้ แล้วที่เราช่วยเติมน้ำมันรถประจำมานี้ คิดดูเป็นเดือนหนึ่งสักเท่าไร ว่าห้าแสนกว่า ว่างั้น โอ้โห ไม่ใช่เล่น เดือนหนึ่งก็ห้าแสนกว่า อย่างนั้นละ
เราทำประโยชน์ให้โลกเราทำจริงๆ นะ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจึงกล้าหาญชาญชัย ด้วยความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง ช่วยทุกอย่าง ทองคำ ดอลลาร์ เงินสด นี้เราเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียว เงินสดจะจ่ายมากจ่ายน้อยอยู่ในความรับผิดชอบของเรา เป็นผู้สั่งเก็บสั่งจ่ายๆ ไม่ให้ใครมาทำหน้าที่แทนเลย กลัวมันจะรั่วไหลแตกซึมนั่นแหละไม่ใช่อะไร เมื่อเราทำเองนี้ก็เต็มเม็ดเต็มหน่วย พอใจ หมดเท่าไรหมดไป นั่น จึงไม่คำนึงว่าหมดเท่าไร คือเงินเจ้าของไม่มีนะ วัดทั้งหลายท่านมีของท่าน ส่วนมากจะเป็นฝ่ายปริยัติ ฝ่ายปฏิบัติมักจะเป็นแบบเดียวกันนี่ ท่านไม่สนใจกับเงิน ได้มาเท่าไรท่านก็แบบนั้น ฝ่ายปฏิบัติท่านมุ่งต่ออรรถต่อธรรมมาก
อย่างวัดเรานี้ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดมา เงินที่เขาถวายหลวงตานี้ ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงป่านนี้มันจะประมาณสักกี่พันกี่หมื่นล้านวะ นี่ออกหมด คือเราออกมาตั้งแต่เริ่มสร้างวัด สร้างโรงร่ำโรงเรียน คนทุกข์คนจน โรงพยาบาลมาตั้งแต่โน้น จนกระทั่งถึงเวลาช่วยชาตินี่ มันถึงออกใหญ่มากขึ้น คนจึงมาทราบตอนที่ว่าเราช่วยชาติช่วยโรงพยาบาล ที่ไหนได้เราช่วยมาตั้งแต่ต้น เงินเราไม่เคยมีเลย เราไม่สนใจ อย่างนี้เรื่อยมา ทีนี้เวลามาช่วยชาตินี้ เราจะหยิบอันนั้นมาหยิบอันนี้มา หยิบมาหาอะไร อะไรที่จะเป็นมลทินต่อจิตใจของเรานิดหนึ่งไม่ได้เลยนะ เพราะทำทุกอย่างเราจะทำเป็นธรรมล้วนๆ เลย อะไรขัดธรรมแล้วไม่ฝืนๆ อะไรเป็นไปตามธรรมแล้วช่องกว้างช่องแคบจะออกตามนั้น พุ่งๆ เลย ถ้าอะไรขัดธรรมแล้วเป็นถอยกรูด ไม่เคยฝืนธรรมหัวใจเรา
เพราะฉะนั้น เราจึงภาคภูมิใจในการที่ช่วยพี่น้องทั้งหลายเต็มเม็ดเต็มหน่วย จนกระทั่งถึงวาระที่ว่าไปไม่รอดแล้วอยู่ ช่วยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นแหละ เราก็พอใจสบายใจ สิ่งที่ได้รับการช่วยเหลือจากเรานี้ ไปที่ไหนเป็นแถวเป็นแนวไปนะ โรงพยาบาล โรงเรียน มากที่สุดแหละ ผ่านไปไหนๆ มองไป นั่นหลังนั้นๆ โรงเรียน โรงพยาบาลก็เหมือนกัน ที่ไหนเป็นแถวไปเลย เราช่วยจริงๆ คือเราไม่เอาอะไร เราพอทุกอย่างก็บอกแล้ว เมื่อพอแล้วก็จะไปหาอะไรอีก ผู้ที่บกพร่องขาดเขินมีอยู่มากขนาดไหนก็ต้องดูกันซิคนเรา จึงได้ช่วยโลกตลอดมา เอาละวันนี้ให้พร
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th |