เจดีย์ใหญ่ช่วยจนเสร็จ
วันที่ 18 เมษายน 2547 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗

เจดีย์ใหญ่ช่วยจนเสร็จ

 

         (การท่าอากาศยาน จังหวัดอุดร นำรายงานการเข้าร่วมโครงการช่วยชาติ โดยตั้งตู้รับบริจาคบริเวณอาคารที่พักผู้โดยสาร รับบริจาคจากผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานอุดรธานี สกลนคร นครพนม รวมทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางอากาศ (กรมการบินพาณิชย์กองบิน ๒๓ อุดรธานี) มณฑลทหารบกที่ ๒๔ อุดรธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๔๑ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๘๖๙,๘๑๘ บาท ดอลลาร์ ๒,๒๗๓ เหรียญ รวมกองบิน ๒๓ และมณฑลทหารบกที่ ๒๔ เป็นเงินทั้งสิ้น ๓,๑๑๙,๙๖๘ บาท)

         พอใจๆ นะ ดูซิรวมเพียงแค่สนามบินสองสามสี่แห่งมารวมกันนี้ได้เงินตั้งหลายล้าน เห็นไหมล่ะ น้ำพักน้ำแรงของพี่น้องชาวไทยเราใครอยู่ที่ไหนบริจาคเข้ามาๆ ก็เข้าสู่จุดรวม ที่อื่นไม่มี ก็มีท่านผู้มีศรัทธาหัวหน้าอยู่ที่สนามบินตั้งตู้บริจาคได้เงินมาตั้งหลายล้าน ที่อื่นไม่มีผู้คิดผู้อ่านมันก็ไม่ได้ เวลานี้ก็เรียกว่าสมมักสมหมายแล้วทุกอย่าง ทองคำเราที่ขีดเส้นใต้ไว้เลยก็คือ ๑๐ ตัน ทีนี้เวลาได้มาก็ ๑๐ ตันกับ ๓๑๒ กิโลครึ่ง เข้าเรียบร้อยแล้ว ดอลลาร์เราก็ขีดเส้นตายไว้ ๑๐ ล้านขาดไม่ได้เลย เวลาได้เข้าเป็นเงิน ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ เหรียญ เรียกว่าพอใจ ถ้าไปหยุดกึ๊ก ๑๐ ตัน หยุดกึ๊ก ๑๐ ล้าน เรายังไม่สะดวกใจเลย เรียกว่าสุดกำลังจริง ๆ บืนแล้วมาแค่นี้ อันนี้ข้ามไปอีกยังได้สบาย เรียกว่าไม่อัดอั้นตันใจ

         นี้ก็ได้แย็บๆ ให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายทราบทั่วกันอีก คืออันนี้เราเก็บมาตั้งแต่วันเข้าไปดูคลังหลวง ดูทองคำ นอกจากทองคำในคลังหลวงบกบางมากแล้ว ที่ได้มายังคี่อีกไม่ได้คู่ เราติดไอ้คี่นั้นเราก็เลยเก็บไว้นั้นละเงียบ จะพยายามบืนตั้งแต่จำนวนที่เราได้ จะเอาให้ได้อันนี้ พออันนี้จวนเข้าๆ ก็จะถึงจุดหมาย ก็ได้เผดียงให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายทราบว่า จุดคี่ของเรายังมีอยู่นะ คี่นั้นจำนวนเรียกว่า ๑ ตันเลย อันนี้เป็นพิเศษ คราวนี้พลิกเปลี่ยนหมดเลย คราวที่แล้วเรียกว่าโครงการช่วยชาติบีบบี้สีไฟ เจอหน้าใครไม่ได้ไหนเงินไหนทองคำเข้าไป ขู่เรื่อยนะ

         อันนี้ก็ปิดโครงการอันนี้เหมือนกัน ทีนี้ยังเหลือประตูเล็กๆ น้อยๆ สอดแทรกอยู่ ค่อยออดค่อยอ้อนเอาเข้าใจไหม ใครให้มาเท่าไรก็เอาแต่ไม่ขอ แล้วแต่ท่านผู้มีศรัทธารักชาติตนเองแล้วจะพยายามหามาได้ตามเล็กตามน้อย เราก็ยังไม่กำหนดว่าเวลาเมื่อไรๆ เราจะมอบอันนี้ คือตามเกิดตามมีไปเสียก่อน พอเห็นสมควรแล้ว คำว่าสมควรก็คงจะเป็น ๑ ตันนั่นละ ซึ่งเวลานีเราได้ที่แน่นอนแล้ว ๓๑๒ กิโลครึ่ง ยังเหลือไม่ถึง ๗๐๐ กิโล

         วันงานนั้นได้ตั้ง ๑๗ กิโล อันนั้นก็ไม่ได้เข้า คือเอาไว้นี้ทั้งหมดจะออกจุดนี้ละ ทีนี้ก็ค่อยไหลมาเรื่อย ซึมมาเรื่อย ค่อยไหลค่อยซึมมาแบบออดอ้อน เราก็ไม่ขอ ไปแบบออดแบบอ้อน ซึมไปนั้นไหลไปนี้เรื่อย ทางนู้นก็ไหลออกมา จะเต็มไม่นานละ คิดว่าจะเต็ม พอเต็มนี่แล้วเราก็พอใจ ที่เราไปดู โอ๋ เรารู้สึกว่าจิตใจไม่สบายเลยตั้งแต่ไปดูทองคำในนั้นมาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องมารบกวนพี่น้องทั้งหลยถึงขนาด ๑๐ ตันทีเดียว พอได้ ๑๐ ตันจะพอหายใจได้สะดวก ๆ

         ส่วนคี่นี้ยังไว้ก่อน จะพยายามเอาให้ได้ แต่ที่มันหนักๆ อยู่เวลานี้ ๑๐ ตันนี้ เรียกว่ามันปิดตันไว้หมดช่องว่าไปหาคี่ไม่พูดเลย ทีนี้พออันนี้มันเข้ามาถึงจุดจนกระทั่งถึงจุดเต็มที่แล้ว ทีนี้ก็พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง คราวนี้จะเป็นแบบออดอ้อน ไม่รบกวนแหละ ใครให้ก็เอาไม่ให้ก็ออดอ้อนไปเรื่อยๆ อย่างงั้นละ มันก็ไหลมาซึมมา ไม่นานคิดว่าจะพอ รวมทั้งหมดจะเป็น ๑๑ ตัน เราค่อนข้างแน่ใจแล้วเวลานี้จะ ๑๑ ตันแน่ๆ เพราะเวลานี้ยังเหลืออยู่เพียง ๖๐๐ กว่ากิโลเท่านั้น

         ตั้งแต่เราไปมอบคราวนี้ยังตั้งพันกว่ากิโลนะ (๑,๑๘๗ กิโลครับ) ทีนี้เบาละ เพราะอย่างอื่นเราก็ไม่ได้อะไรนัก มีแต่อันนี้ค่อยไหลซึมเข้าไป ส่วนดอลลาร์ก็ได้เรียนพี่น้องทั้งหลายทราบแล้วว่า ดอลลาร์จะไม่ดิ่งทีเดียวเหมือนทองคำ ทองคำร้อยทั้งร้อยเข้าหมดๆ เลย ส่วนดอลลาร์จะมีแยก เรียกว่าไม่ติดตามโดยถ่ายเดียว คือถ้าหากว่าเงินสดที่เราช่วยชาติบ้านเมืองนี้ไม่พอ อาจจะไปแยกเอาดอลลาร์นี้มาเปลี่ยนเป็นเงินสดช่วยบ้านเมืองก็ได้ อันนี้จึงไม่แน่นอน เลยเรียนให้ทราบตามนี้ เพราะเรื่องคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับวัดป่าบ้านตาด มันเลยกลายเป็นสำนักงบประมาณวัดป่าบ้านตาดไปนะ

         วันหนึ่งๆ มากัน คนนั้นขออันนั้น คนนี้ขออันนี้ เดี๋ยวนี้ได้พักไว้นะ เรายังไม่ได้ให้หมด เพราะมันหนักมาก พอขออันนี้หมดเราจะตามมาเก็บที่พักไว้ ๆ เอ้ามาอีกๆ อยู่งั้น เราเลยจะตายเดี๋ยวนี้น่ะ ทางเงินสด แหม มันไม่ได้เบาบางเลย แต่ปล่อยไว้ตามเรื่อง มีเท่าไรก็ช่วยเท่านั้นอันนี้ ไม่เป็นโครงการตายตัวเหมือนทองคำกับดอลลาร์ที่จะเข้าสู่คลังหลวง อันนี้ตายตัวเลย ก็ได้มาเรียบร้อยแล้ว

         นี่ละอำนาจแห่งความรักชาติ ความเสียสละด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน โดยมีธรรมเป็นแนวหน้านำ ธรรมนำ นำด้วยความราบรื่นดีงาม แคล้วคลาดปลอดภัยทุกอย่าง นี่เราก็อาราธนาธรรมของพระพุทธเจ้ามาเป็นทางก้าวเดินกับพี่น้องทั้งหลาย เป็นเวลา ๖ ปีนี้แล้ว เรียกว่าราบเรียบเรื่อยมา ราบรื่นดีงาม ไม่มีคำว่ารั่วไหลแตกซึมที่ไหนที่เราจะข้องใจเราว่า เราได้หยิบเอาเงินทองของพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคทั้งประเทศมารวมเราคนเดียวเป็นผู้รับผิดชอบนี้ แม้บาทหนึ่งเราไม่เคยปรากฏเลย จะจ่ายมากจ่ายน้อยเราจะต้องมีเหตุมีผลสมความรับผิดชอบ เอา จ่ายมากจ่ายน้อยก็ตามมีเหตุผลแล้ว เอา จ่ายเรื่อยๆ อย่างนี้ตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้

         เราจึงบริสุทธิ์สุดส่วนละ สมกับว่าเราช่วยพี่น้องชาวไทยด้วยความเมตตาล้วนๆ ถึงขนาดร้องโก้กเลยเชียว ก่อนที่จะออกช่วยพี่น้องร้องโก้กเลย เหมือนว่าภาพพจน์มันขึ้นมา เมืองไทยเรากำลังหัวจ่อจะลงทะเลหลวง ความจนนั้นละบีบมันลง ชาติไทยของเราก็จะจม จึงได้พากันฟื้นขึ้นมา เวลานี้ก็รู้สึกว่าหายใจได้แล้ว ทางธนาคารชาติก็เป็นลูกศิษย์ได้เล่าให้ฟัง ทีนี้เบาใจได้แล้ว หลวงตาพักผ่อนได้แล้ว ทุกอย่างค่อยเป็นไปสมบูรณ์ไปเรื่อย ๆ แล้ว ไม่วิตกวิจารณ์เหมือนอย่างปี ๒๕๔๐ อันนั้นมันพิลึกใครก็ทราบด้วยกัน ๒๕๔๐ เรียกว่าภาพพจน์เหมือนว่าเมืองไทยเราทั้งประเทศจะจมลงในทะเลหลวงหมด เพราะความจนมาบีบบังคับ ทีนี้ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว ค่อยดีขึ้น ๆ

         ทองคำเราก็หนุนเข้าคลังหลวงตั้ง ๑๐ ตันแล้ว นับว่าอุ่นหนาฝาคั่งพอประมาณแหละ ดอลลาร์เราก็ไม่ได้มาก ๑๐ ล้านกว่า แค่นี้ก็เอา สำหรับเงินสดนันหมุนทั่วประเทศแหละ ไปหมด ไปที่ไหนผ่านไปที่ไหนเห็นแต่รอยที่เราสร้างนั้นสร้างนี้ผ่านไป เฉพาะโรงพยาบาลนี่มากที่สุด ดูจะเป็น ๒๐๐ โรงกระมัง ไม่ใช่เล่นนะ โรงพยาบาลพิสดารมากนะ ทั้งเครื่องมือแพทย์ ทั้งรถยนต์อะไรทุกอย่าง จากนั้นเป็นตึก เป็นตึกแล้วก็ที่นอนหมอนมุ้ง เตียงตั่งอะไรมีมาหมดนั่นแหละ มาพร้อมกันๆ นอกจากนั้นถ้าที่ไหนคับแคบเราซื้อขยายให้ๆ เรื่อยๆ โรงพยาบาล จึงพิสดารอยู่มากนะ รถยนต์นี่ร้อยกว่าคันไม่สงสัย นี่เราก็ได้ช่วยเต็มกำลัง คราวนี้รู้สึกว่าเบาละ ต่อไปนี้จะไม่เอาอะไรแหละ เบาไปทุกอย่างๆ แล้วกำลังของเราก็หมดไปๆ

เทศนาว่าการทุกวันนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน หลงหน้าหลงหลังแล้วนะ ก็พอดีจุดที่เรายุติพอเหมาะกันเลย เทศน์นี้ได้ระวัง มันคอยจะตัดอยู่เรื่อยสัญญาความจำ หลงปั๊บลืมปั๊บ เอ๊ นี่พูดอะไรมา บางทีระลึกได้ บางทีก็ระลึกไม่ได้ ตั้งใหม่ เป็นแล้วนะทุกวันนี้ เริ่มเป็นแล้ว ก็พอดีหยุด ก็เหมาะแล้วละ การเทศนาว่าการจะไม่เหมือนแต่ก่อน จะเทศน์ในโครงการก็ตามนอกโครงการก็ตาม เราจะเอาตามอัธยาศัยของเรา ธาตุขันธ์ของเราเป็นประมาณ เมื่อสมควรจะรับให้ก็เทศน์ให้ เราก็ไป ไม่พอจะไปได้เราก็ไม่ไปเท่านั้นเอง แต่ก่อนถูไถนะ ลำบากลำบนอะไรเมื่อรับเขาแล้วเราก็ต้องไป เดี๋ยวนี้ไม่เอาแล้วอย่างนั้น

หนักมากอยู่นะ ๖ ปีที่เราพาพี่น้องทั้งหลายตะเกียกตะกายนี้หนักมากอยู่ ภาระทุกอย่างไม่ว่าส่วนหยาบ ส่วนกลาง ส่วนละเอียดเข้ามานี้หมด สุดท้ายเลยกลายเป็นเกี่ยวกับทั้งทางบ้านเมืองด้วย ทั้งศาสนาด้วย รวมแล้วประเทศไทยรวมอยู่ในนี้หมดเลย เราจะต้องแบกต้องหามต้องคิดต้องอ่าน ไม่ใช่ว่าเราไปทางศาสนาล้วนๆ นะ ทางโลกเข้ามาแทรก โลกมันสกปรก ถ้าแทรกตรงไหน อู๋ย กระเทือนมาก แต่นี้เราอยู่ในความรับผิดชอบ มันเกี่ยวโยงกันอยู่ มันก็ต้องได้ชำระสะสาง ได้พินิจพิจารณา เรื่องมันมีอย่างนี้เอง ปรกติเราไม่เคยยุ่ง กับทางชาติทางบ้านเมืองเราไม่เคยยุ่ง หลักพระวินัยก็มีอยู่แล้ว พระไม่ยุ่ง เรื่องการบ้านการเมืองไม่ยุ่งพระ ผิดพระวินัย นั่น แต่เมื่อเรื่องของเราเข้าไปอยู่ในจุดศูนย์กลาง เหมือนหนึ่งว่าพระวินัยของพระเข้าไปอยู่ในจุดศูนย์กลาง ก็ต้องก้าวเดิน

ด้วยเหตุนี้เองใครจะมาว่าเราเล่นการบ้านการเมืองเราจึงไม่เคยสนใจฟัง หลักธรรมวินัยเราแน่นหนามั่นคงมาตลอด ไม่เคยเคลื่อนคลาดหลักธรรมวินัย ที่นำชาติของเรามาเป็นเวลา ๖ ปี เราไม่เคยทำธรรมวินัยเราให้ด่างพร้อย วินัยนี้เรียกว่ากฎหมายพระ พระรักษากฎหมายท่านรักษาเข้มงวดกวดขัน เฉพาะเรานี้ตั้งแต่บวชมา พูดตรงๆ นะ ไม่เคยได้เกิดความเสียใจเพราะศีลของเราด่างพร้อยหรือขาดตรงไหนๆ ไปด้วยเจตนาลามก เราไม่เคยมี ไอ้เรื่องไม่รู้ไม่เข้าอกเข้าใจ มันก็ผิดได้เป็นธรรมดา ไม่ได้รุนแรงอันนี้ ถ้าเจตนาเข้าไปใส่ปุ๊บ หิริโอตตัปปะไม่มี เป็น อลัชชิตา ความไม่ละอายบาปนี้เลวมาก นั่น อย่างนี้เราไม่มีในใจเราได้เลย ผิดพลาดก็ธรรมดา เช่น สมมุติว่าอย่างนี้นะ มีคนเอาอาหารมาวางไว้นี่ อาหารนี่เขารับประเคนเรียบร้อยแล้ว แล้วมีผู้ใดผู้หนึ่งเอาอาหารมาวางข้างๆ กันนี้ ก็นึกว่าเป็นเพื่อนเดียวกันเอาอาหารรับประเคนแล้วมาวางไว้นี้ มาก็ฉัน เข้าใจไหม นี่ละที่ว่าผิด ผิดโดยไม่รู้อย่างนี้ ผิดได้ ยอมรับโทษเสีย ยอมรับว่าผิดก็ไม่รุนแรง

ไม่ได้เจตนาว่า รับประเคนไม่รับประเคนก็ตามเถอะ ข้าพเจ้าหิวมาก ฟาดเลย ถ้าอย่างนี้เรียกว่าถึงวันตายก็ไม่ลบแหละ บาปประเภทนี้นะ เจตนาลามก ถ้าเป็นอย่างนี้ลบได้เลย ยอมรับ ผ่านไปแล้วไม่กำเริบ ผิดเท่าไรก็แค่นั้น หยุดเลย เพราะเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์อยู่ เป็นแต่เพียงว่าไม่รู้เฉยๆ อย่างนี้มี เรามีได้ ไม่ว่าใคร พระเรานี้มีได้ด้วยกัน มีผิดๆ พลาดๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็มี แต่ไม่มีเจตนานั่นซิ สำคัญตรงนี้ บางทีไม่รู้เลยอย่างนี้ เข้าใจว่ารับประเคนเรียบร้อยแล้ว มาก็ซัดเลย อ้าว ฉันแล้วเหรอ นี้ยังไม่ได้รับประเคน อู๊ย ตาย นั่นผิดแล้วนั่น หยุดทันทีเลย ผิดอย่างนี้มีได้ ส่วนอย่างอื่นเราไม่เคยปรากฏ เรารักศีลรักธรรมของเรามาตั้งแต่วันบวช ไม่เคยด่างพร้อยเลย จะไปเรียนหนังสือที่ไหนศีลนี้ต้องสมบูรณ์ตลอดๆ ไม่เคยมีด่างพร้อย แล้วเพื่อนฝูงเดียวกันก็แบบเดียวกันด้วย ไม่มีพอที่จะได้ตำหนิติเตียนรังเกียจกัน ไปอยู่วัดไหนๆ หลักธรรมวินัยอันเดียวกัน ปฏิบัติแบบเดียวกัน ก็ไม่ขัดข้องกัน เพื่อนฝูงไม่เดือดร้อน เราก็ไม่เดือดร้อน เพราะต่างคนต่างปฏิบัติตามหลักพระวินัยอย่างเดียวกัน

ส่วนธรรมเป็นของละเอียด ต้องบึกต้องบึน ธรรมไม่มีประมาณ ธรรมละเอียดมาก ส่วนพระวินัยตายตัว ผิดไม่ได้ปรับโทษทันที ส่วนธรรมผิดได้ เพราะฉะนั้นลูกศิษย์ของหลวงตาบัวมันจึงสนุกผิดกัน สนุกผิดยังไง ก็สอนให้มีความขยันหมั่นเพียร พอไปถึงนู้นว่า ข้าวก็ยังไม่หิวมาก พักสักหน่อยเสียก่อน นอนหลับครอกๆ นี่ตัวนี้ละมันฝืน ตัวขี้เกียจเข้าใจไหม นี่ก็เรียกว่าธรรม ความขยันก็เรียกว่าธรรมประเภทหนึ่ง ความขี้เกียจก็เข้ากับธรรม ไม่ปรับโทษ เข้าใจไหม ถ้าปรับก็ให้หมอนปรับเอง นี่เรียกว่าธรรม อย่างนี้ท่านไม่ปรับโทษ แต่พระวินัยนี่ไม่ได้

วันที่ ๒๕ นี่ก็จะต้องลงกรุงเทพอีกแล้วเรา ลงก็บึ่งถึงวัดอโศการามเลย วันนั้นออกจากนี้ไปถึงวัดอโศฯ วันที่ ๒๖ ก็เทศน์ อันนี้ก็จะทำยังไง ท่านทองท่านทำเจดีย์ของครูบาอาจารย์ที่ชำรุดลงแล้วคราวก่อนนั้น รื้อทำใหม่ ทำเจดีย์นี้อันเดียวใหญ่ด้วย งบประมาณดูว่า ๔๐ ล้าน ว่างั้น ทีนี้เงินทางวัดก็ไม่เพียงพอ เลยมาออดอ้อนเราขอให้ไปเทศน์ให้ เทศน์ตั้งเป็นกองผ้าป่าขึ้น สมทบเข้าไปเจดีย์ เพื่อจะหนุนการก่อสร้างให้สำเร็จรวดเร็ว ว่างั้น เราก็พิจารณาดู เจดีย์นี้เจดีย์อะไรบ้าง มีแต่ครูบาอาจารย์องค์เพชรน้ำหนึ่งๆ อยู่ในนั้น ซึ่งเราเคารพนับถืออย่างสุดหัวใจอยู่แล้ว เมื่อท่านมาขอร้องเราให้ช่วยอย่างนี้เราฝืนไปได้ยังไง ฝืนไม่ได้ ยอมเลยยอมรับ

เพราะฉะนั้นเราจึงไปเทศน์ ครั้งที่หนึ่งผ่านมาแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่จะไปเทศน์ในเจดีย์นี้ เพราะมีแต่ครูบาอาจารย์เพชรน้ำหนึ่ง เช่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ฟังซิน่ะ จะอยู่ในนั้น ประดิษฐานอยู่ในนั้น หรืออาจจะบรรจุพระธาตุท่านอยู่ในนั้นอีกก็ได้ ประดิษฐานรูปอะไรท่านมีแน่นอนละ มีหลายองค์บรรดาครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือ ท่านรวบรวมมาไว้ที่นั่นหมด ที่เจดีย์ใหญ่ นี่ละที่เราต้องช่วยเต็มที่แหละ เต็มกำลัง กว่าจะเสร็จก็คงนาน นานก็ช่างเถอะขอให้ดำเนินไป ก็บอกท่านค่อยทำไปเถอะ ค่อยเป็นค่อยไป จะพาถูไถกันไปนี่แหละ บอกอย่างนั้นนะ ช่วยท่านไปอย่างนั้น เอาจนเสร็จ ไม่เสร็จก็ไม่ถอยเหมือนกันเราก็ดี ครูบาอาจารย์อยู่ในนั้นๆ เคารพนับถือสุดหัวใจ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น อย่างนี้ โอ๋ย สุดหัวใจเรานะ เพราะฉะนั้นจึงช่วยเต็มเหนี่ยวเลย

ไปคราวนี้ก็จะไปเทศน์ที่นั่นแหละ พอเสร็จแล้วหากว่ามีเวลาว่างบ้างก็จะย้อนกลับมาพักสวนแสงธรรมสักสองสามคืน เราถึงจะกลับมาอุดร เหตุที่ได้กลับมาก่อนนี้ก็เพราะว่า ในวัดนี้งานของเรามี คนอื่นทำแทนไม่ได้ ถ้าหากว่าเราจะรอไปถึงนู้นก็ได้ แต่ทีนี้มันขาดงานของเราซึ่งเสียเวล่ำเวลา ป่วยการอีกด้วยนะ เฉพาะที่สำคัญก็คือบิลรับเงินที่มาจากโรงพยาบาลต่างๆ เมื่อเรารับเขาแล้วๆ แล้วก็สั่ง พอตกมาปั๊บ หมอรับรองคุณภาพเครื่องมือนั้นเรียบร้อยแล้วส่งบิลเข้ามาหาเราๆ เรากลับมาก็เพื่อจะจัดการนี้ แล้วก็จ่ายงวดด้วย เวลานี้ตึก ๘ หลัง มีแต่จ่ายงวดๆ ทั้งนั้น อยู่ในช่วงนี้เอง เราจึงต้องรีบกลับมาจ่ายงวดตึกหลังนั้นๆ เสียก่อน แล้วก็จ่ายพวกเครื่องมือแพทย์ อะไรที่ตกค้างอยู่ตามบริเวณวัด อันนี้ก็จ่ายๆ รอบไปหมด นั่นละถึงจะต้องกลับไปกรุงเทพอีก พออันนี้เสร็จแล้วก็ไป

เรียกว่าเหนื่อยมากอยู่นะเรา เหนื่อยจริงๆ ทีนี้ค่อยเบาลงหน่อย ภาระเรื่องเกี่ยวกับทองคำ ดอลลาร์ ก็เป็นอันว่าผ่านไปเรียบร้อยด้วยความภาคภูมิใจ ทั้งเราและบรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายทั่วประเทศไทย เราจึงขอขอบคุณอนุโมทนากับบรรดาพี่น้องเราทั่วประเทศ ที่ได้อุตส่าห์ตะเกียกตะกายมากับหลวงตา ซึ่งอาราธนาธรรมมาพาก้าวเดิน ก็เป็นไปด้วยความราบรื่นดีงามตลอดมา  เฉพาะอย่างยิ่งเราจะมอบทองคำครั้งใดๆ ก็ตาม มันมีกี่ครั้งกว่าจะเสร็จนี่ ครั้งใดว่าจะเอาให้ได้เท่านั้นนะ ได้เท่านั้น และเกินกว่าบ้างๆ มาตลอด จนกระทั่งถึงคราวนี้ เอาให้ได้ ๑๐ ตัน ขาดไม่ได้เลย นั่น คราวนี้ยิ่งเด็ดขาดใหญ่ เวลาได้มันก็ตั้ง ๑๐ ตันกับ ๓๑๒ กิโลครึ่ง นั่นเห็นไหมล่ะ แล้วดอลลาร์ก็ขีดเส้นตายเลยทีเดียวให้ได้ ๑๐ ล้าน ครั้นเวลาได้ก็ ๑๐,๒๑๐,๐๐๐ นั่น เราจึงว่าพอใจมาเป็นลำดับลำดา จึงขอขอบคุณและอนุโมทนากับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย ตั้งแต่ต้นจนอวสาน และจะขอขอบคุณล่วงหน้าไปอีกกับทองคำที่กำลังออดอ้อนอยู่เวลานี้ พากันจำเอาไว้นะ เอาละที่นี่ให้พร

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก