ฟื้นฟูชาติ ฟื้นฟูจิตใจ
วันที่ 31 มีนาคม 2547 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

ฟื้นฟูชาติ ฟื้นฟูจิตใจ

 

ก่อนจังหัน

 

         เรื่องต้นผ้าป่าเราไม่ต้องวิตกละ เปิดทางเข้าถึงกันหมดแล้ว เราอยากจะพูดว่าทางสำนักใหญ่ๆ สั่งออกมา เราอยากพูดว่าอย่างงี้นะ บอกว่ามีเท่าไรให้กว้านมาให้หมด เข้าอยู่ในกองผ้าป่าที่เวทีใหม่เราให้หมด เราอยากพูดว่าอย่างงั้น หรือเราพูดแล้วก็ไม่รู้ ให้มันสง่าทั่วโลกซิ คราวนี้เป็นคราวสุดท้ายของเราที่ช่วยชาติบ้านเมืองด้วย พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ คราวนี้จะประกาศขึ้นจุดศูนย์กลางแห่งกรุงสยามของเรา เอาให้เห็นทั่วโลก เราคิดอย่างงั้นเราถึงได้ทำอย่างงี้ เราคิดกระจายไปทั่วโลก

         เราจะเร่งทองคำ-ดอลลาร์ ให้เต็มเหนี่ยวคราวนี้ ขาดไม่ได้ละทองคำ ถ้าเศษเหลือขึ้นไปแล้วจะเป็นกิ่งก้านสาขาดอกใบประดับต้นลำใหญ่ๆ คือ ๑๐ ตัน ๑๐ ล้าน นี่ต้นลำอันใหญ่ ดอกใบที่เศษเหลือออกไปก็ไปเป็นกิ่งเป็นก้านดอกใบประดับสวยงามมาก เอาตรงนั้นนะ

         ถึงโครงการจะหยุดแล้วแต่การดำเนินของเราก็หยุดไม่ได้ เราก็ต้องเปิดไว้เสียก่อนชั่วระยะหนึ่ง แม้แต่ปิดไปแล้วตายตัวนี้ มาเท่าไรมันก็เข้าตามเดิมนั่นแหละ เพราะเราเป็นผู้รักษาเอง จะไม่มีรั่วไหลไปไหนเลย เราแน่ใจขนาดนั้น เราช่วยพี่น้องทั้งหลาย เรียกว่าตัดคอรองเลย มีเท่าไรๆ จะเข้าหมดๆ เพราะเราเป็นคนดูแลคนเดียว ทองคำเราจะเข้าได้สำหรับที่จะเข้าคลังหลวงคราวนี้ ภายในเช้าวันที่ ๖ ยังส่งทองที่จะไปหลอมในเช้าวันที่ ๖ หลังจากนั้นมาแล้วก็ต้องได้เก็บเอาไว้

         เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบว่า ทองคำเรานี้จะริบรวมไปหลอมในคลังหลวงนั้นวันที่ ๖ ภาคเช้ายังได้นะ พอออกจากนี้ไปแล้วก็เอาทองเข้าคลังหลวงวันที่ ๖ หลังจากนั้นไปแล้วได้มากน้อยไม่ว่า อะไรก็เก็บ ทีนี้ก็จะรอเช็คใหญ่เข้าธนาคารชาติ เช็คดอลลาร์ ทางธนาคารเขารอเขาจะพิมพ์ให้ ทางนี้ก็บอกว่าให้รอก่อน คนหนึ่งให้รอก่อนกำลังหามา คนหนึ่งจะพิมพ์ ให้รอเสียก่อนพิมพ์เราบอกงั้น อย่างทองคำนี้ก็เหมือนกันกำหนดไว้ว่า วันที่ ๖ ตอนเช้า พอออกจากนี้แล้วก็เข้าโรงหลอม ที่ได้มามากน้อยหลังจากนั้นไปแล้วก็ต้องเก็บไว้ตามเดิม หลอมแล้วเก็บๆ มันไม่ยากละเราเอาเข้าคลังหลวง เดินย็อกๆ ออกไป นี่ทอง ว่างั้นก็ได้ ยื่นให้กับผู้ว่าการธนาคารชาติเลยก็ได้ นั่นก็เป็นลูกศิษย์จะว่าไง มันไม่ยาก

หลังจังหัน

         เมื่อวานนี้ตอนเย็นคุณหญิงก็มาปรึกษาหารือกันเรื่องนี้ เข้าใจกันทุกอย่างแล้ว อย่างว่าอันนี้ต้องได้ปรึกษาหารือทางสำนักพระราชวังเสียก่อน ก็บอกให้เข้าไปเลย เอาหลวงตาเข้าไปเลย หลวงตานี่ไม่ถอยที่ไหนเข้าเลยๆ บอกงั้น เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยอะไร เราต้องตรวจให้หมดซี คนทั้งประเทศไทยเราทั้งประเทศตรวจได้หมด รักษาได้หมดทำไมแค่นี้รักษาไม่ได้ เราว่างั้นเมื่อวานนี้ ให้ตรวจให้ดูเรียบร้อยทุกอย่าง จะมีอะไรเป็นพิษเป็นภัยในนั้นก็ให้ดูให้รู้ ตรวจให้เรียบร้อยก่อน เข้มงวดกวดขันเรื่องคนเข้าคนออกนี้ เข้างวดกวดขันมากทีเดียว เข้าก็เข้าเฉพาะรายชื่อๆ จะมีคนคอยเข้มงวดกวดขัน อันนี้ก็ได้พูดกันแล้ว

         ส่วนต้นอะไรเราเหล่านี้ก็เข้าไปแล้วก็เอาเครื่องตรวจมาตรวจให้หมด เราบอกงั้นนะ ก่อนที่จะมีพิธีขึ้นมา ให้ตรวจให้หมด เฉพาะอย่างยิ่งที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าให้รอบเลย พูดกันเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทางนู้นเคยปฏิบัติอยู่แล้ว เป็นแต่เพียงว่าซ้ำเรื่องนี้เข้าไปอีก คราวนี้เรามุ่งที่จะให้ชาติไทยเราเด่นในคราวนี้ละ เด่นด้วยทุกสิ่งทุกอย่างในบรรดาสมบัติที่โลกถือว่าดีว่าเลิศทุกอย่าง จะเข้าในนั้นหมด ทองคำ ดอลลาร์ เงินสด วันนั้นจะเข้าในนั้นหมดเลย

         สำหรับต้นผ้าป่านี้ก็เหมือนกันจะเกลื่อนไว้เป็นระยะๆ เป็นจุดๆ มีคนดูแลรักษาตัว ทุกสิ่งทุกอย่าง พิษภัยอะไรให้ตรวจให้หมด เราบอกงั้นเลย ของที่เข้ามาในนั้นมีอะไรๆ บ้างตรวจให้ละเอียดลออเรียบร้อย เป็นที่แน่ใจแล้วทีนี้ก็รักษา ไม่ให้เข้าไปยุ่ง ไม่ให้เข้าไปแทรกอีก เราบอกงั้นเมื่อวานนี้ เราก็ทำเพื่อชาติไทยของเรา เวลาจะล่มจะจมกันเหงาหงอยกันทั้งประเทศ ร่ำลือไปถึงเมืองนอกเมืองไทยจะจม คราวนี้เมืองไทยฟื้นด้วยความรักชาติของตัวเอง เอาให้เต็มเหนี่ยวทุกคนๆ บรรดาพี่น้องชาวไทยเรา

         คราวนี้จะเด่นทั่วโลกละ จะออกทุกแง่ทุกมุมเลย ทั้งทองคำ ดอลลาร์ เงินสด เราจะออกในวันนั้นแหละ เรายังไม่แน่ทั้งทองคำ-ดอลลาร์ จึงยังประกาศไม่ได้นะ กำลังรวบรวมๆ ทองคำก็ดี ดอลลาร์ก็ดี จนเป็นที่แน่ใจแล้วทีนี้ออกละ ประกาศ ประกาศแล้วก็แน่แล้ว เพิ่มเข้ามาก็ไม่เอา เก็บไว้เพื่อหลังคราวต่อไป เรื่องอันนี้ถ้ามันมีมาเมื่อไรเราก็จะต้องได้รับผิดชอบอยู่ตลอดไป ไม่ว่าทองคำและดอลลาร์ เราต้องรับผิดชอบตลอดไป เพื่อความปลอดภัย คือมันจะมาอยู่เรื่อยๆ นั่นแหละ ไม่ใช่จะหมดทีเดียว ใครมีมากมีน้อยก็ถวายมาดังที่ถวายมา

         ผ่านไปแล้วก็แน่ใจอยู่ว่าจะมาอยู่ เราก็ต้องเก็บรักษาไว้ตามเดิม เมื่อพอหลอม ก็หลอมๆ ให้ได้ทองคำเพิ่ม เอา ๑๐ ตันเราเป็นต้นใหญ่ทีเดียว ที่เพิ่มจาก ๑๐ ตัน เราก็เป็นกิ่งก้านดอกใบประดับลำต้น เราจะเอาอย่างนี้ละ คือไม่ให้มีตั้งแต่ต้นเป็นหัวตออย่างนี้นะ ต้องมีดอกมีใบ มีอะไรอยู่ในนั้นประดับ เราจะเอาส่วนเพิ่มมาประดับ แล้วดอลลาร์ก็เหมือนกัน ดอลลาร์ก็ไม่ให้อยู่เพียง ๑๐ ล้าน เป็นความต้องการก็ตาม แต่ให้มีเครื่องประดับเหมาะสมนะ ดอลลาร์กับทองคำ

         เราพยายามสุดขีด พอจากนี้แล้วก็จะปล่อยตามเรื่องตามราวละ ธาตุขันธ์มันก็เป็นไปของมันอย่างงั้น ช่วยโลกก็ช่วยเต็มกำลังทุกอย่าง จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายจดจำและเชื่อได้เลย คำพูดการแสดงออกของเราที่ได้นำออกเพื่อพี่น้องทั้งหลายนี้ ไม่ได้เอาของปลอมมาใช้เลย ไม่ว่าจะพาก้าวเดินทางไหนๆ พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ค่อยพาก้าวเดิน ส่วนได้ส่วนเสียของเงินมีมากมีน้อยเราก็รับผิดชอบของเราเอง ได้มาเท่าไรเราเก็บหอมรอมริบๆ คัดเลือก ควรจะออกแง่ไหนๆ เราจะพิจารณาเองเพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมของเรา

         จากนี้แล้วก็เรียกว่าเลิกละ มันน่าจะไม่มีซ้ำอีกที่จะมาทำอย่างนี้นะ สำหรับหลวงตานี้ขีดเส้นตายเลยเท่านั้นละ ตายแล้วแต่ยังไม่ตาย กลับมาช่วยพี่น้องทั้งหลายแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว กำลังหมด ทุกสิ่งทุกอย่างอ่อนลงทุกเวลาๆ เป็นแต่เพียงว่าน้ำใจไม่อ่อนเท่านั้นเองที่ตะเกียกตะกายอยู่เวลานี้ บึกบึน ไปไหนก็ไปๆ เพราะจิตใจไม่มีวัย สม่ำเสมอ คงเส้นคงวาหนาแน่นตลอดเวลา ร่างกายจะทรุดโทรมลงก็ตาม แต่ใจไม่เคยมีปรากฏ และไม่ได้ระแวงว่าจิตใจจะมีความโยกย้ายผันแปรไปยังไงจากเดิม จะขึ้นหรือจะลงไม่มี เรียกว่าคงเส้นคงวาหนาแน่น

         สอนพี่น้องทั้งหลายก็เหมือนกัน เอาธรรมล้วนๆ มาสอน มาสอน มานำ คือมานำนี้ก็เอาธรรมมานำพี่น้องทั้งหลาย สอนอรรถสอนธรรมก็เหมือนกัน สอนด้วยอรรถด้วยธรรมจากความจริงของธรรมโดยแท้ มันควรที่จะเชื่อถือได้แล้ว จะมีความสงบร่มเย็นทั่วประเทศไทยของเรา ถ้าแฉลบออกไปจากธรรมแล้วก็มีแต่ภัย พิษจะมีล้อมหน้าล้อมหลัง ความทุกข์เผาตลอดเวลา ถ้ามีธรรมในใจแล้วก็มีเกาะมีดอนเป็นที่หลบซ่อนนะ พากันเอาธรรมไปปฏิบัติแก่ตัวเอง

         ธรรมนี้แหละที่เป็นหลักของใจ เพราะใจนี้ไม่อยู่ในร่างนี้ พอร่างนี้แตกใจนี้จะออกละ ออกหาภพใหม่ ภพใหม่เกิดชาติใหม่ การเกิดเป็นชาตินั้นชาตินี้ขึ้นอยู่กับกรรมดีกรรมชั่วของเรา ถ้ามีกรรมดีก็ขึ้นสูงไปเรื่อยๆ ถ้ามีกรรมชั่ว ชั่วมากเท่าไรก็ต่ำลงๆ ทุกข์มากเข้าๆ จิตนี้ไม่ตาย ร่างกายนี้ตาย คำว่าตายคือมันสลายออกจากส่วนผสมของร่างกายเท่านั้นเอง ส่วนที่จะให้ธาตุขันธ์ตายไม่ตาย ลงไปเป็นดิน น้ำ ลม ไฟตามเดิม จิตก็ออกเป็นจิตไปตามเดิม แต่เป็นนักท่องเที่ยวที่จะไปเข้าภพนั้น

         นี่ละจึงวิตกวิจารณ์กับภพชาติของเราที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า มันจะก้าวไปแบบไหนให้ดูตัวเอง ถ้าสร้างความแน่ใจไว้ด้วยความดีทั้งหลายแล้วเราจะเป็นที่แน่ใจตลอดไป ถ้าสร้างความชั่วช้าลามกด้วยความลืมเนื้อลืมตัว ทะนงตัวว่าเป็นผู้มั่งมีศรีสุข เฉลียวฉลาด อันนี้ละฆ่าตัวเอง ตรงนี้ฆ่าแน่นอน ลืมตัวแล้วนะ ถ้าลืมตัวแล้วก็จะดิ่งลงละจิตดวงนี้ ความชั่ว-ความดีจะไม่ไปไหน อยู่ในจิต ให้พากันพิจารณา สร้างความแน่นอนในใจให้เป็นที่แน่ใจด้วยศีลด้วยธรรม นั้นละที่จะทำให้แน่ใจได้คือด้วยศีลด้วยธรรมของเราเอง อย่างอื่นเราแน่ใจไม่ได้ อะไรๆ จะมีเต็มโลกเต็มสงสารเราจะไปแน่ใจกับมันไม่ได้ พังได้ทั้งนั้นแหละ เขาไม่พังเราก็พัง

         แต่ส่วนจิตกับความดีทั้งหลายนี้ไม่พัง ความชั่วก็ติด ด้วยเหตุนี้จึงต้องให้ระมัดระวังความชั่ว อย่าให้มาติดเรา ถ้าความชั่วได้ติดเราแล้ว ไปที่ไหนความชั่วก็ติดให้เกิดความทุกข์ไปในภพชาตินั้นๆ จึงต้องให้พากันระวังรักษา เรื่องความแน่ใจในจิตใจของตัวเองนี้ออกจากธรรมคือความดีงามของเรา ถ้าเราสร้างไว้มากน้อยเพียงไรยิ่งแน่ใจเข้าไป แน่ใจเข้าไป ยิ่งเป็นนักภาวนาด้วยแล้วยิ่งสร้างความแน่ใจไปโดยลำดับ คือภาวนาได้รู้ได้เห็นเข้าไปๆ สร้างฐานของจิตให้แน่นหนามั่นคงขึ้นไปโดยลำดับลำดายิ่งแน่ใจๆ ไปจนกระทั่งที่สุดของการท่องเที่ยวแห่งจิตดวงนี้ ที่เรียกว่านักท่องเที่ยว

         ที่สุดของนักท่องเที่ยวก็คือจิตหลุดพ้นแล้ว เช่นพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว สามัญชนก็บรรลุธรรมเข้าเป็นอรหัตบุคคล นั่นเรียกว่าสิ้นสุด การท่องเที่ยวของจิตไม่มีอีกต่อไป เรื่องความทุกข์ก็ไม่มีอีกต่อไป ดับหมดโดยสิ้นเชิง นี่ละความดีส่งถึงที่สุด ความชั่วส่งถึงที่สุดของมัน คือตกนรกหมกไหม้ เรียกว่าทุกข์มากที่สุดก็คือความชั่วที่เราสร้างไว้มากๆ ผู้นั้นละเป็นผู้จะไปได้รับ อย่าพากันเพลินภายนอกจนเกินเนื้อเกินตัวนะ จิตเรียกร้องหาความช่วยเหลือตลอดเวลา

         สมบัติมีมากก็จริง แต่จิตเหือดแห้งไปด้วยศีลด้วยธรรม หาความสุขไม่ได้นะ เราอย่าเข้าใจว่าคนมีสมบัติมากๆ จะมีความภูมิใจ ไม่ภูมินะ สมบัติเป็นสมบัติ จิตใจกับดีชั่ว ติดอยู่ด้วยกันมันจะแสดงอยู่ในใจของเราด้วยกัน ถ้าเรามีความดีแล้วชุ่มเย็นตลอด  ถึงไม่มีอะไรก็ชุ่มเย็น ถ้าหากว่ามีแต่ความชั่วแล้วสมบัติกองเท่าภูเขาร้อนภูเขา สมบัตินั้นไม่ร้อนแต่มันร้อนอยู่ที่หัวใจของเรา จึงต้องให้ดูที่ใจเป็นสำคัญ พากันตื่นเนื้อตื่นตัวนะ

         เวลานี้เราปลุกชาติ ฟื้นฟูชาติของเราก็ได้เห็นประจักษ์ตาแล้วเวลานี้ ได้มากน้อยเพียงไรทั่วประเทศไทยเราก็เห็นประจักษ์กันแล้ว ฟื้นฟูชาติไทยของเรา ทีนี้ฟื้นฟูจิตใจของเราขึ้นจากหล่มลึกคือกิเลสตัณหาที่กดถ่วงลง ฟื้นขึ้นมาด้วยศีลด้วยธรรมความดีงาม มันก็ขึ้นมาเหมือนกันกับเราฟื้นชาติไทยของเรานั่นละ เราฟื้นจิตใจให้ดีขึ้น จิตใจนี้เมื่อถูกฟื้น ถูกบำรุงรักษาแล้วจะเจริญรุ่งเรืองๆ สร้างความแน่ใจให้ตัวเองไปด้วยการสร้างความดีนั้นแหละ แล้วฟื้นขึ้นไปๆ จนถึงที่สุด เมื่อพอแล้วถึงที่สุด แล้วหมดทุกข์โดยสิ้นเชิงไม่มีอะไรเหลือ

         ธรรมของพระพุทธเจ้าสอนโลกสอนให้ถึงที่สุดของทุกข์โดยสิ้นเชิง ไม่ได้สอนอย่างเล่นๆ นะ ให้พากันตั้งใจปฏิบัติ อย่ามัวแต่เพลิดกับสิ่งนั้นเพลินกับสิ่งนี้ ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไปไม่มีสถานีจอดแวะ ไม่ได้มองดูใจที่เดือดร้อนอยู่ภายในตัวเองบ้างเลย ไม่เหมาะ ต้องดูทั้งภายนอก ภายนอกเป็นที่อาศัยของร่างกาย พากินอยู่ปูวาย พาหลับพานอน เคลื่อนไหวไปมา อาศัยสิ่งภายนอกเป็นเครื่องสนับสนุน ส่วนภายในใจนี้อาศัยความดี คือการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา นี่เป็นเครื่องหนุนให้หมุนไปในทางที่ถูกที่ดี ต่างคนต่างมีสมบัติประจำตน

         ร่างกายก็อาศัยภายนอก วัตถุต่างๆ เป็นสมบัติเครื่องอาศัยของร่างกาย ส่วนจิตใจก็อาศัยศีลธรรมเป็นเครื่องประดับใจ ให้ต่างคนต่างมีเครื่องประดับ ต่างคนต่างมีธรรมเป็นอาหารเครื่องหล่อเลี้ยง นี่ธรรมๆ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงน้ำใจ พากันปฏิบัตินะ ธรรมะพระพุทธเจ้านี่เลิศเลอสุดยอดแล้ว หาที่ค้านไม่ได้เลย เราปฏิบัติธรรมมาได้เป็นเวลา ๗๑ ปีนี้แล้ว เฉพาะอย่างยิ่งก้าวขึ้นสู่เวทีฟัดกับกิเลส นั้นเป็นการพิสูจน์เรื่องกิเลสตัณหาที่จะพาให้เกิดให้ตาย ให้ได้รับความทุกข์ความยากมันจะอยู่ที่ใจนั้นหมด เวลาธรรมจ่อเข้าไปนั้นเราจะได้เห็นเรื่องราวของกิเลสแสดงฤทธิ์ต่อธรรม รบกันเต็มเหนี่ยวๆ ไป

         เมื่อกิเลสแพ้ไปๆ ธรรมสูงขึ้น เหยียบกิเลสลง เหยียบกิเลสลง ธรรมยิ่งละเอียดลออ กิเลสละเอียดแค่ไหน ตามเผาผลาญจนไม่มีเหลือ สุดท้ายกิเลสสิ้นซาก ธรรมะก็เด่นเป็นธรรมที่เลิศเลอ นี่เรื่องธรรมกับกิเลสอยู่ในใจดวงเดียวกัน อย่าปล่อยให้กิเลสเหยียบย่ำทำลายใจของเรามากจนเกินไป จนลืมเนื้อลืมตัว ให้ธรรมเป็นผู้คุ้มครองรักษาด้วยการมีสติระลึกรู้ตัวเสมอ อย่าเพลิดเพลินจนเกินเนื้อเกินตัว ไม่ดีมนุษย์เรา สิ่งที่จะให้รู้เนื้อรู้ตัวมีอยู่คือธรรมให้นำเข้ามายับยั้งตัวเอง เช่นสติธรรม ปัญญาธรรม สติระลึกรู้ตัวเสมอ ความเคลื่อนไหวไปมา ความเป็นอยู่ปูวาย มีสติคอยสังเกตสังกาผิด ถูก ชั่ว ดี ปัญญาจะไตร่ตรองใคร่ครวญ แล้วก็ได้แต่ของดีมาใช้ๆ นี่เรียกว่าคนมีธรรม เป็นคนมีสติมีปัญญา คัดเลือกสิ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับตน คนนั้นก็ปลอดภัยไปเรื่อยๆ

         วันนี้พูดเพียงเท่านั้น ให้จำให้ดีนะ กองผ้าป่าเรา พุ่มผ้าป่าเรา ให้เตรียมท่าไว้ตั้งแต่บัดนี้ เตรียมให้สวยงามไว้เรียบร้อย วันนั้นจะขึ้นสง่างามละที่เวทีใหม่สวนอัมพร ที่นั่งเขามีกำหนดเรียบร้อยแล้วภายในมีจำนวนเท่านั้น แล้วภายนอกมีจำนวนเท่านั้น

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

 

 

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก