เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

กฎหมายจริงๆ ออกมาจากธรรม

         เราได้เห็นความเลอะเทอะของวงราชการเราคราวนี้นะ ที่คราวเรามาเกี่ยวข้องกับวงราชการ นี่ละพูดให้ตรงเป๋งตามธรรมเลย เลอะเทอะมากที่สุด ใหญ่เท่าไรๆ ยิ่งเลอะเทอะ เลวที่สุดเวลานี้ หัวหน้าปกครองบ้านเมืองกลายเป็นหัวหน้าโจรหัวหน้ามาร หัวหน้าภัยมหาภัยไป นี่ละที่น่าสลดสังเวช เราดูจริงๆ ดูโลก ดูในตัวของเราก็ดูหมดแล้ว ชำระจนขาดสะบั้นไปหมด สิ่งที่เลวร้ายทั้งหลายเหล่านี้มันออกจากนี้ หมดไปแล้วมันก็ดูข้างนอกซิ มาเห็นเลอะเทอะ แต่สำหรับความเลอะเทอะในหัวใจของเรา เราไม่ไปก่อความเดือดร้อนแก่ผู้ใดนะ ก็รู้ว่ามันเป็นอยู่ในใจ มันดีดมันดิ้น เช่น จะภาวนาบังคับให้อยู่ในความสงบมันไม่ยอมอยู่ ฟาดเสียจนขนาดน้ำตาร่วงเห็นไหม นี่ละชำระกับความชั่ว เราเอาขนาดนั้น

         เอาจริงเอาจังทีเดียวเวลามาบำเพ็ญ วันไหนแพ้กิเลส ภาวนาแพ้กิเลส วันนั้นจะนอนไม่หลับ มันเคียดมันแค้นให้กัน มันเป็นอยู่ในหัวใจ คึกคักลุกออกมาอีกคราวนี้เอาให้ได้ ซัดอีกจนได้นะถึงจะนอนหลับสนิท นี่ถ้าควรจะชนะกันได้มันไม่ชนะนี้เสียใจมาก ถ้ากำลังมันเหนือเมฆอยู่แล้วนั้นเราก็ยอมรับเสียก่อน คือเราจะยอมรับแล้วชนะไปเป็นพักๆ เปลาะไหนที่เราจะเอาให้ชนะ ถ้าเปลาะนี้แพ้มันวันนั้นจะนอนไม่หลับ มันคิดมันปรุง ถ้าเป็นโลกเขาเรียกว่าเคียดแค้นให้กัน เคียดแค้นให้กิเลสภายในจิตใจ

         ลุกออกมาอีกคราวนี้เอาใหญ่เลย ฟัดกันเต็มเหนี่ยว จนกระทั่งได้ชนะแล้วไปนอนหลับตาสบายบ้าง เป็นอย่างงั้นนะ นี่ละความชั่วเพียงอยู่ในหัวใจเรา มันไม่ไปรุกรานใครละ มันรุกรานหัวใจเราเอง กิเลสเป็นอย่างนั้น อยู่ในตัวเองก็รุกรานตัวเอง ทำลายตัวเองให้เกิดความเดือดร้อน เวลาเราชำระมันก็ลำบากลำบนไม่ใช่น้อย อู๊ย ลำบากมาก การชำระความชั่วออกจากจิตใจนี้ลำบากมาก เพราะฉะนั้นโลกทั้งหลายจึงไม่อยากชำระกัน มีแต่กว้านเข้ามา พอกพูนเข้ามา ส่งเสริมเหยื่อให้มัน โลกก็เลยกลายเป็นฟืนเป็นไฟมากขึ้นโดยลำดับลำดา

         ทีนี้การเรียนมามากน้อยไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่เป็นเครื่องส่งเสริมฟืนไฟขึ้นไปจากความรู้มากๆ ที่เรียนมานั่นละ นี่ละธรรมเข้าแทรกไม่ได้อันนี้จะแสดงฤทธิ์แสดงเดช เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือตอนที่เราช่วยชาติ พวกมหาภัยที่แสดงต่อชาติบ้านเมืองอยู่เวลานี้มันน้อยเมื่อไร แล้วมีความรู้น้อยเมื่อไร มีแต่ความรู้สูงๆ ทั้งฝ่ายพระฝ่ายฆราวาส ความรู้น้อยเมื่อไร แล้วมันเอาความรู้ที่เป็นประโยชน์นั้นมาใช้เมื่อไร มีแต่เอาฟืนเอาไฟเข้ามา เราจึงเรียกว่ากฎหมายมันไม่ได้เอามาใช้ มันเอาแต่กฎหมอยมาใช้ทั้งนั้น มันถึงได้เผาบ้านเผาเมือง เห็นชัดเจนในคราวนี้

         เราพูดด้วยความเป็นธรรม ไม่ออกข้างใดเข้าข้างใด พูดด้วยความเป็นธรรม ใหญ่เท่าใดที่ไม่มีธรรมยิ่งเลอะเทอะมาก ทำความเสื่อมเสียให้แก่ชาติ ให้แก่ศาสนาส่วนรวมนี้ได้มากที่สุดเลย ดูแล้วสลดสังเวชนะ แหมถึงขนาดนี้เชียวนะกิเลส ความรู้ที่เรียนมาแทนที่จะเป็นเกียรติ จากการปฏิบัติตามความรู้ที่เรียนมานั้นต่อประชาชนให้ได้รับความร่มเย็นให้เขามีความยิ้มแย้มแจ่มใส กลับเป็นฟืนเป็นไฟไปเลย เป็นฟืนเป็นไฟเผาบ้านเผาเมือง เผาชาติศาสนาได้ด้วยนะ ความรู้ของคนที่เรียนมามากๆ ซึ่งเขายกยอว่าเป็นผู้ใหญ่ แต่มันใหญ่ในทางความชั่วช้าลามกนั่นเสียมันก็ทำเป็นฟืนเป็นไฟให้เผาโลกได้โดยไม่ต้องสงสัย

         เห็นได้อย่างชัดเจน หลวงตาบัวได้เห็นชัดเจนคราวนี้นะ เลวมากวงราชการเรา ผู้ใหญ่ที่ไม่มีธรรมก่อความเดือดร้อนให้ผู้น้อยได้มากที่สุด เห็นได้อย่างชัดเจนในคราวนี้แหละ มันไม่ฟังเสียงเลย พวกนี้หน้าด้านที่สุด ความรู้เรียนมามากน้อยนี้เอามาเป็นวิชาหน้าด้านทั้งนั้นๆ เอามาใช้การงานมีตั้งแต่เอากฎหมอยออกมาใช้ กฎหมายเรียนมาเต็มพุงมันไม่เอามาใช้ กฎหมายโลกทั้งหลายได้รับความร่มเย็น เพราะกฎหมายให้ความเป็นธรรม กฎหมายจริงๆ ออกมาจากธรรม พิจารณาด้วยความเป็นธรรมแล้วมาตั้งกฎเกณฑ์เป็นกฎหมายออกมาด้วยความเป็นธรรม

         แล้วมันไม่เอามาใช้นะ มันเอาตั้งแต่กฎหมอยออกมาใช้ที่จะเผาบ้านเผาเมือง เผาชาติเผาศาสนาที่ตรงไหนมันจะคุ้ยเขี่ยขุดค้นหามา เล่ห์เหลี่ยมหลายสันพันคมไม่เกินพวกนักกฎหมอยนะ พวกนี้เล่ห์เหลี่ยมหลายสันพันคม พลิกนั้นพลิกนี้ตลอดเวลา เขาคิดว่าธรรมจะไม่รู้ไม่เห็น ธรรมมองเห็นหมด พูดให้มันชัดเจน เราเรียนวิชาธรรมมานี้เป็นเวลา ๗๑ ปีนี้แล้ว ที่ออกฟัดกันกับกิเลสให้รู้เรื่องของกิเลส กิเลสกับเราเป็นข้าศึกกันฟัดกันนี้ก็ตั้งแต่ออกปฏิบัติพรรษา ๗ สอบเป็นมหาแล้วขึ้นเวทีฟัดกันเลยตั้งแต่นั้นมา

         เอาจนกิเลสม้วนเสื่อไม่มีอะไรเหลือแล้ว ทีนี้ถ้าจะว่าแบบภาษาโลกก็สนุกดูโลกว่างั้นเลย มันเป็นยังไงดูหมดรู้หมด นอกจากพูดหรือไม่พูดเท่านั้น เพราะไม่ใช่เป็นของหนักหน่วง ความรู้ภายในใจ-ความรู้ของธรรมไม่หนักหน่วง ไม่ได้เหมือนความรู้ของกฎหมายกฎหมอย ความรู้เลวทราม ไปที่ไหนก่อกวนไปหมด อัดอั้นตันใจ อยากโม้อยากคุย อยากให้เขาว่าตัวรู้หลักนักปราชญ์ฉลาดแหลมคม รู้ขี้หมาอะไร มันมีแต่กฎหมอย ไปที่ไหนก่อฟืนก่อไฟ เวลานี้กำลังก่ออยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง ท่านทั้งหลายเห็นไหม

         นี่ละเราเอาธรรมมาจับให้เห็นชัดเจน เราไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใด ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก คอขาดไม่เคยสนใจยิ่งกว่าความจริงคือธรรม นี้เราเทิดทูนสุดยอด ตายก็ตายไปเถอะ ถ้าลงธรรมกับหัวใจนี้กราบไหว้กันสนิทลงคอ ถ้าใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้ว เราไม่เคยกลัวเคยกล้ากับอะไร มีแต่ความห่วงใยพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ที่ความสกปรกโสมมออกจากคนที่เขาเสกสรรปั้นยอว่ามีความรู้ความฉลาดนั่นละ เอาฟืนเอาไฟมาเผาโลกให้เดือดร้อนวุ่นวาย ไปที่ไหนเหยียบไปๆ ให้สัตว์โลกทั้งหลายนี้หมอบอยู่นั่น พวกนี้เหยียบไปเลยๆ ถ้าเป็นเต่าก็เหยียบกระดอง มันไม่โผล่หัวออกมาดูความผิดถูกชั่วดี สมกับเราเป็นเจ้าของรักษาชาติบ้านเมืองเลย นี่อันหนึ่งนะ หมอบอยู่ในกระดอง หดอยู่ในกระดอง กลัวนั้นกลัวนี้

กลัวอะไร ใครเกิดมาก็จะตายเหมือนกัน ใครได้ตายสิบครั้งเกิดมาชาติเดียว ตายหนเดียวเหมือนกัน เวลามีชีวิตอยู่สิ่งใดที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ที่เราจะควรรักษาป้องกันสมบัติของเรา แม้ในบ้านของเราก็ต้องทำอย่างนั้น แล้วชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อไร เราก็ต้องป้องกันรักษาชาติบ้านเมืองของเรา จะมาหัวหดอยู่ในกระดองได้หรือ พิจารณาซิ บ้านเมืองจมนะ ชาติจม ศาสนาจม ถ้าต่างคนต่างหดหัวอยู่ในกระดอง กลัวตายจะว่าอะไร ก็กลัวเขาจะมาฆ่า เขาก็จะตายเหมือนกันกับเรา มันต่างกันอย่างไรบ้าง เขากับเราชีวิตอันเดียวกัน ตายหนเดียวเท่ากันนั่นแหละกลัวหาอะไร เวลามีชีวิตอยู่ที่จะรักษาสมบัติเงินทองข้าวของทั้งในครอบครัวและเป็นส่วนรวม ก็รักษาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยซิ

เรามาเห็นความเลวร้ายของพวกหน้าด้าน แหม เห็นชัดเจนมากนะ ด้านที่สุด ฝ่ายพระก็ด้านแบบพระ ฝ่ายฆราวาสก็ด้านแบบฆราวาส ฝ่ายพระก็ไม่ได้เอาหลักธรรมหลักวินัยมาใช้นะ ตั้งให้ใหญ่โตมากเท่าไรๆ ยิ่งเป็นมหาโจรของฝ่ายพระเข้าไป หลักธรรมหลักวินัยไม่นำมาใช้ เอาอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ซึ่งเป็นกฎหมอยนั่นแหละออกมาเหยียบพระเจ้าพระสงฆ์ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ภาคไหนๆ ลงไปถูกเหยียบด้วยอำนาจป่าเถื่อนนี้ทั้งนั้น นี่ละป่าเถื่อน นี่ละคือกฎหมายเถื่อน มันเหยียบไปหมด บังคับให้ปฏิบัติตามอำนาจป่าเถื่อนของตนๆ สั่งลงไปให้ทำอย่างนั้นๆ อย่างนั้นๆ มีแต่เรื่องกฎหมอยสั่งนะ ให้ก่อกรรมทำเข็ญต่อชาติต่อศาสนาของตน ไม่ได้ทำความเจริญให้แก่ชาติเลย นี่ละเรียกว่าพวกนักกฎหมอยเวลานี้ นักกฎหมอยจากความรู้ที่เขายกยอว่าเป็นครูเป็นอาจารย์ หรือเป็นบัณฑิตนักปราชญ์ กำลังออกเพ่นพ่านๆ เป็นมหาโจรเป็นมหาภัยปล้นบ้านปล้นเมือง ปล้นทั้งชาติ ปล้นทั้งศาสนา จะไม่มีเหลือนะเวลานี้ ดูเอา

เรียนมาด้วยกันนี้รู้จะว่ายังไง มันเลอะเทอะขนาดนั้น มันฟังใครเมื่อไร มีแต่หน้าด้านๆ อย่างเดียวไม่ได้ยอมฟัง ความละอายไม่มีกับพวกนี้ มีแต่ความหน้าด้าน ไปที่ไหนนี้ โห หาต้มหาตุ๋นหาโจมตีผู้นั้นผู้นี้ เจ้าของเลวยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อนมันยังไม่ดูมัน คนดีเขาทำดีมากมายขนาดไหนไปโจมตีเขาหาอะไร โจมตีเจ้าของตัวมันเสนียดจัญไรเป็นหมาขี้เรื้อนอยู่นี้ซิ เวลานี้มันกำลังแสดงตัว สั่งสมตัวแผ่กระจายความเป็นขี้เรื้อนของมันออกเต็มบ้านเต็มเมืองให้เป็นหมาขี้เรื้อน พระขี้เรื้อน นักกฎหมายนักกฎหมอยขี้เรื้อนไปตามๆ กันหมดนะเวลานี้ ดูเอานะพี่น้องทั้งหลาย มันเป็นยังไงเวลานี้

ชาวบ้านชาวเมืองเขาทำความดิบความดี เช่นอย่างช่วยชาติบ้านเมือง ทำเต็มเม็ดเต็มหน่วย เวลานี้ทองคำกำลังจะได้ ๑๐ ตันแล้ว นี่ใครไปหามา คนดีทั้งนั้นไปหามา ถ้าว่าดอลลาร์เวลานี้ก็จะได้ ๑๐ ล้านแล้ว ใครไปหามา มีแต่คนดีทั้งนั้นหามาเพื่อชาติของตนเองๆ ส่วนเงินสดกระจายไปทั่วประเทศไทย ใครอยากไปดู ถ้าว่าหลวงตาได้เงินมาจากพี่น้องทั้งหลายแล้วเอามาเข้าพุงตัวเอง นั่นพุงหลวงตาไปดูเอา ตามโรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาลต่างๆ ที่ราชการ เอ้าโดยเฉพาะเข้าไปดูในลาดยาว เป็นยังไงกี่ตึกกี่หลังอยู่ในนั้น นี้ละพุงของหลวงตาไปเที่ยวกระจายไว้หมด โรงพยาบาลเป็นแถวเวลานี้สองร้อยกว่าโรง นี้คือพุงหลวงตา สมบัติเงินทองไหลเข้าพุงนี้หมด ตึกนั้นตึกนี้ เครื่องไม้เครื่องมือ ตลอดถึงที่ของโรงพยาบาลซื้อให้ๆ ไม่ว่าอะไร โรงพยาบาลพิสดารมากกว่าทุกแห่ง เครื่องไม้เครื่องมือ รถรา เตียง ที่หลับที่นอน หมอนมุ้ง เข้ามาหัวอกเรา เราก็โกยไปๆ เข้าพุงเหล่านี้ๆ ทั้งนั้น

ใครอยากมาตรวจดูสมบัติเงินทองของหลวงตา ที่ทำความดีต่อชาติจนสุดหัวใจว่าเป็นความทุจริตต่อพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ให้ไปดูตามโรงพยาบาล จะมาดูตามตัวหลวงตาบัวไม่มี แม้แต่บัญชีก็ไม่สนใจกับมัน เราไม่ได้ทำงานเอาบัญชี ทำงานเอาประโยชน์แก่โลกต่างหาก เราจึงไม่สนใจ ไปค้นดูที่ไหนมันก็ไม่มี มีแต่เราจะบอกให้ไปค้นดูตามที่เราได้ทำไว้ นั่นละร่องรอยไปดูเอา ออกตั้งแต่ต้น ดูคนทุกข์คนจนทั่วประเทศไทยจะดูใครถึงจะครบล่ะที่เราไปช่วย บางรายๆ เป็นล้านๆ ก็มีเห็นไหม ถูกเขาต้มเขาตุ๋น ตนเองเป็นความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานด้วยความเป็นอรรถเป็นธรรม แล้วพวกเปรตพวกผีมันก็หาช่องว่างตอนนั้นละ พอใครเผลอมันก็ฟาดเสียจนกระทั่งล้ม อย่างนี้เราก็เห็น

เอ้า เขาติดต่อมา เจ้าของเองก็มีแต่นั่งเฝ้านอนเฝ้าน้ำตา นอนไม่หลับเพราะจมไปหมดจะทำยังไง นี่เรายกตัวอย่าง ที่เป็นรายสำคัญกว่าเพื่อนเราจับเอามาพิจารณา ทีนี้บรรดาเพื่อนฝูงเขาก็มีความสงสารมากทีเดียว เพราะเป็นคนดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่คิดว่าจะถูกต้มตุ๋นจากเพื่อนฝูงร่วมหัวกันทำงาน เขาเอาจนหมดตัวเลย แล้วเพื่อนฝูงเขาก็กระซิบมาทางเรา เขาบอกเบอร์โทรศัพท์ไว้เรียบร้อย เราก็ให้พระติดตามไปดู ถึงขนาดนั้นนะ เราช่วยโลกเราไม่ได้ช่วยเล่นๆ ไปดูจนได้หลักเกณฑ์เหตุผลทุกสิ่งทุกอย่าง สมควรแล้วว่าเป็นคนดีแท้ และเป็นคนถูกต้มตุ๋นแน่นอน เป็นคนเสียหายโดยเจ้าของไม่ได้ทำอะไร คือซื่อแล้วมันก็กลายเป็นเซ่อกับคนชั่วช้าลามกทั้งหลาย ติดต่อกันได้ความแล้ว เอ้าเท่าไร นั่นเห็นไหมล่ะ ฟาดเป็นล้านๆ ให้สบาย ที่จมไปเท่าไรฟื้นให้ได้หมดเลย อย่างนี้เราก็ทำ ทำแล้วเงียบจนกระทั่งป่านนี้ เราไม่เคยบอกเคยกล่าวใคร เพราะรักษาศักดิ์ศรีดีงามของเขา

เขาก็ไม่ได้มาขอรบกวนเราด้วยนะ เป็นคนอื่นเพื่อนฝูงของเขา เขาทนไม่ไหว เพราะเขาเป็นคนดีมาตลอด เป็นเพื่อนสนิทสนมฝากเป็นฝากตาย ครั้นอยู่ๆ แล้วก็มาเห็นเหตุการณ์ที่ดูไม่ได้เกิดขึ้นในเขา เขาคิดหาทางไหนไม่ได้ก็โทรมาทางอุดรมาหาเรา  ทางนี้ก็สืบๆ จนกระทั่งเข้าถึงบ้านเขาเลย ไม่ใช่ธรรมดา ได้เห็นเหตุผลกลไกเป็นความแน่ใจว่า เป็นความจริงอย่างนั้นก็ทุ่มกันเลย เอา ควรจะจ่ายสักเท่าไรๆ ซัดกันเลยละเรา  เป็นอย่างนี้นะ นี้เป็นอันใหญ่เราเคยพูด นี่ละที่ว่าไล่เลี่ยกันลงก็มีเยอะ จนกระทั่งคนทุกข์คนจนทั่วๆ ไป เหล่านี้เราไม่เคยเอ่ยชื่อเอ่ยนามของเขา บริจาคหรือให้ช่วยเหลือแล้วผ่านเลยๆ เพราะรักษาศักดิ์ศรีดีงามของคน คนก็มีศักดิ์ศรีดีงาม เราไม่พูดถึงเลย มีมากขนาดไหนทั่วประเทศไทย นี่ละเราทำมาอย่างนี้

ถ้าเขาออกทางหนังสือพิมพ์ประกาศในรายนั้นอย่างนี้ เราดูหนังสือพิมพ์แล้วติดตามไปดู จนกระทั่งเห็นชัดเจนแล้วเรามาช่วย รายเช่นนี้เราจะออกทางหนังสือพิมพ์ก็ได้ แต่เราไม่เคยสนใจหนังสือพิมพ์หนังสือเพลินอะไร คือเราจะพูดก็ได้ ไม่พูดก็ได้อันนี้ เพราะเขาเปิดตัวมาแล้ว ออกประกาศทางหนังสือพิมพ์ ถ้าเขาไม่ประกาศ เป็นเรื่องส่วนตัว รู้เรื่องกันแล้วเราจะไม่บอกเลย นี่ผิดหรือไม่ผิดหลวงตาบัวทำ เป็นความทุจริตต่อพี่น้องทั้งหลายเหรอเราทำแบบนี้ ท่านทั้งหลายฟังแล้วไม่ใช่เหรอ เป็นความทุจริตไหม เรารักษาศักดิ์ศรีดีงามของเพื่อนมนุษย์ที่เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ด้วยวิธีการที่จะให้เป็นประโยชน์ เป็นมงคลแก่เขา เพราะฉะนั้นเราจึงไม่เอ่ยชื่อของเขาเลย ให้ไปๆ นี้เป็นความทุจริตไหม พิจารณาซิพี่น้องทั้งหลาย

ประกาศโฆษณาเราช่วยคนนั้นๆ ๕ สตางค์ ช่วยคนนี้ ๑๐ สตางค์ ลั่นโลกอย่างนี้ กับเราให้กันอย่างเงียบๆ เป็นมงคลแก่เขา เขาได้รับความอุดหนุนจากเรา แล้วเขาดีอกดีใจ ศักดิ์ศรีดีงามเขาก็คงเส้นคงวา กับที่ว่า ๕ สตางค์ประกาศทั่วโลก อันไหนดีพิจารณาซิ สมมุติว่าท่านทั้งหลายมีความจนตรอกจนมุม หลวงตาบัวไปช่วยนี้ หลวงตาบัวเอาชื่อท่านทั้งหลายไปประกาศลั่นทั่วประเทศไทยน่าดูไหม เอา เทียบหัวใจเจ้าของเสียก่อน นี่เราทำอย่างนั้นเพื่อหัวใจโลก

นี่พูดถึงเรื่องการช่วยโลกเราช่วยมาทุกแห่งทุกหน ถ้าจะไปดูพุงของหลวงตาดูได้หมด สำหรับที่จะมาเข้าพุงหลวงตาจริงๆ แม้บาทหนึ่งไม่มี ออกตั้งแต่พุงอย่างนี้ตลอดเวลา ไปที่ไหนเห็นแต่สิ่งก่อสร้างๆ เต็มบ้านเต็มเมือง นี้หมายถึงเงินสดที่เราช่วยเวลานี้ นี่ได้อุตส่าห์พยายามเต็มกำลังความสามารถตลอดมา แล้วหลวงตาบัวนี้ไปทำความชั่วช้าลามกที่ไหน แล้วพี่น้องทั้งหลายได้มาร่วมมือร่วมใจกับหลวงตาบัวเพื่ออุ้มชาติศาสนาของตนขึ้นมานี้เป็นความเสียหายที่ตรงไหน แล้วทำไมจึงต้องมาโจมมาตีมาบีบบังคับท่านั้นท่านี้อย่างนี้ ใครเป็นฝ่ายผิด เอาฟังให้ดีนะ

พวกนี้มันเอาอะไรมาให้ ตั้งแต่ทองคำบาทหนึ่งก็ไม่เคยเห็นเอามาให้ ดอลลาร์หนึ่งดอลล์ก็ไม่เคยให้ เงินหนึ่งบาทก็ไม่เคยเห็นเอามาให้ พอเป็นน้ำใจในการที่จะตำหนิติเตียนเราว่าทำยังไงๆ ทำอย่างงั้นไม่ดีๆ เพราะเขามีส่วนได้เสียอยู่ด้วย เขามาตำหนิเราก็ไม่เป็นไร แต่นี้ไม่มีส่วนได้เสียอะไรเลย มีแต่เรื่องมาโจมตีๆ อย่างเดียว เลวมากที่สุด ว่างั้นเลยเรา ให้ตอบโดยทางสายธรรม ตอบอย่างอื่นไปไม่ได้ เรียกว่าเลวที่สุด หาทำลายตั้งแต่คนทำความดิบความดี เต็มบ้านเต็มเมืองเขาอุตส่าห์พยายาม แล้วไปหาทำลายบีบบี้สีไฟบังคับ ทางฆราวาสก็เอากฎหมายเป็นกฎหมอย ใหญ่เท่าไรยิ่งกฎหมอยใหญ่ อำนาจใหญ่ บีบบี้สีไฟตั้งแต่ศาลลงมา เจ้าหน้าที่ต่างๆ หน่วยราชการต่างๆ บีบบี้สีไฟให้อยู่ใต้อำนาจของกฎหมอย

กฎหมายที่ใช้ตามอำนาจหน้าที่นั้นไม่เอามาใช้ นั้นเป็นความถูกต้อง เอาแต่นี้มาใช้ เอา ทางฝ่ายพระก็เหมือนกัน หลักธรรมวินัยมีอยู่ด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน ไม่เอามาใช้ เอาตั้งแต่สิ่งแบบเดียวกันอีกแหละ ไปเที่ยวบีบบี้สีไฟบังคับบัญชาเจ้าคณะนั้นเจ้าคณะนี้ ให้มาทำงานที่จะอุปถัมภ์อุปัฏฐากสมเด็จพระสังฆราช ฟังซิน่ะ แล้วแสดงโกยอำนาจขึ้นมา ด้วยอาศัยพระสังฆราชนั่นละเป็นสำคัญ มันจะกอบโกยรื้อฟื้นกำลังวังชาของมันเหยียบชาติเหยียบศาสนาด้วยโล่บังหน้าเป็นความสวยงามว่า จะเป็นผู้อุปถัมภ์อุปัฏฐากพระสังฆราช นั่นละอำนาจใหญ่หลวงมันอยู่ตรงนั้น มันจะบีบบี้สีไฟพระทั่วประเทศให้อยู่ใต้อำนาจของคนสองสามคนซึ่งอยู่นอกวัด มันมาเป็นใหญ่เป็นโตยิ่งกว่าวัดกว่าวา เป็นใหญ่เป็นโตยิ่งกว่าพระพุทธเจ้า เป็นใหญ่เป็นโตยิ่งกว่าพระธรรมวินัยเสียอีก พวกนี้เป็นยังไง พิจารณาซิ

พระท่านปฏิบัติมาตามทางของศาสดาที่สอนไว้แล้วโดยถูกต้อง ร่มเย็นเป็นสุขตลอดมานี้ ไม่เห็นไปเรียกใครมา ไม่เห็นว่าใครมาอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระ ฆราวาสนอกวัดมันลุกลี้ลุกลนมาหาอะไร พระท่านปฏิบัติด้วยความดิบความดีสมบูรณ์พูนผลตามหลักธรรมหลักวินัย แล้วในวัดในวาต่างๆ ตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมา พระก็เจ็บไข้ได้ป่วยเหมือนกับประชาชนทั่วๆ ไป ท่านก็รักษาปฏิบัติท่านโดยลำดับลำดามา โดยหลักธรรมหลักวินัย ใครจะมีความเมตตาสงสารมากยิ่งกว่าพระในโลกอันนี้ อยู่ในวัดใดพระในวัดนั้นจะเป็นภาระด้วยกัน ดูแลรักษาปฏิบัติพระ

นี่ตั้งมาหาอะไร มาอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระ มันตั้งเอาอำนาจเฉยๆ ทำลายศาสนาด้วย ทำลายหัวใจคนด้วย บีบบี้สีไฟหัวใจพระเณรทั้งประเทศนี้ด้วย โดยมันไม่ได้ไปทำงานอะไร มันตั้งโก้ๆ ผู้ทำงานแทบเป็นแทบตาย พระในวัดกับพระป่วยที่อยู่ในวัดเท่านั้นปฏิบัติกัน พวกนี้มันไม่ได้ทำอะไร โฆษณาว่าการใหญ่โตรโหฐาน มันสร้างอำนาจเพื่อจะเหยียบหัวชาติไทย หัวพระหัวเณรทั้งประเทศจะเป็นอะไรไป ดูโดยอรรถโดยธรรม เราพูดโดยธรรม แง่งอนของมันมีกี่เล่ห์กี่เหลี่ยมกี่สันพันคมพวกนี้น่ะ มีตั้งแต่คอยทำลายๆ พูดนี้ไม่เข้าร่องเข้ารอย พลิกนั้นพลิกนี้ๆ จะยอมรับความจริงเรายังไม่เคยเห็นมันยอมรับความจริง มีแต่หลบนั้นเสือกนี้ไปอย่างนั้น ไม่มีทางที่จะรับความจริงพวกนี้ พวกร้อยเล่ห์ร้อยเหลี่ยมร้อยสันพันคม

คนดูคนทำไมดูไม่ออก มันรู้กันเห็นกันอยู่นี่ มันแสดงมาตลอดเวลา ยุ่งไปหมดศาสนาเวลานี้ ก็มีฆราวาส ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องอะไรกับวัดกับวา แต่เข้ามายุ่งวัดยุ่งวา มาเป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงใหญ่โตบีบหัวพระเณรไปแล้ว นี่ทราบว่ามันกำลังจะตั้งกฎหมาย กฎหมายก็คือกฎหมอยจะมาบีบบี้สีไฟวัดวาอาวาสพระเณรอีกแหละ เอ้านี่เราได้ยินมาอย่างนี้นะ เราได้ยินเราบอกว่าได้ยิน ตัวหัวมันมีข้อบังคับอะไรพอจะทำตัวดีให้โลกทั้งหลายเขาได้รับความร่มเย็นบ้างไม่เห็นมีนะ แล้วพระท่านไปก่อความเดือดร้อนอะไร มันจึงต้องตั้งกฎเกณฑ์ข้อบังคับเข้ามา คือตั้งกฎหมายอย่างนั้นกฎหมอยอย่างนี้เข้ามา

เราฟังอยู่เวลานี้ ได้ยินแต่คำเขาพูดเฉยๆ ยังไม่เห็นตัวจริงเราก็บอกยังไม่เห็นตัวจริง ได้ยินเราก็บอกได้ยินอย่างนี้ ให้ท่านทั้งหลายฟังเอานะ  เลวมากที่สุดพวกนี้เวลานี้ แสดงหลายเล่ห์หลายเหลี่ยม หลายสันพันคม ไปที่ไหนมีแต่ฟืนแต่ไฟเผารอบบ้านรอบเมือง ด้วยเล่ห์เหลี่ยมร้อยสันพันคม ทั้งฝ่ายฆราวาสทั้งฝ่ายพระที่เป็นพวกเดียวกัน พรรคเดียวกัน จะกินต้มตุ๋นชาติไทยและศาสนาไทยให้จมลงทะเลอันเดียวกัน พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้นะ

เราอุตส่าห์พยายามทำความดี พี่น้องทั้งหลายทำอะไร ถูกพวกนี้ไปเที่ยวกดขี่บังคับไปทั้งนั้นๆ แม้ที่สุดจะไปเทศน์อยู่นี้ก็ไปกีดไปขวางในสถานที่เทศน์ เทศน์นี่เขานิมนต์มา เขาเป็นเจ้าของของชาติ เขารักชาติ และเชื่ออรรถเชื่อธรรม เขานิมนต์พระเจ้าพระสงฆ์ คือนิมนต์อย่างหลวงตาบัวนี่ละไปเทศน์ที่นั่นที่นี่ พวกเปรตพวกผีนี่ไปเที่ยวกีดเที่ยวกันไม่ให้เทศน์ หลายเล่ห์หลายเหลี่ยมร้อยสันพันคม มันกีดหาอะไร พิจารณาซิมีเหตุผลอะไร ก็นี่เทศน์เพื่อจะทำประโยชน์แก่โลก

แล้วศาสนากับหัวใจของชาวพุทธ ติดแนบกันมาสักเท่าไร มันพึ่งเกิดเมื่อวานมันเอาความวิเศษวิโสมาจากไหน จะมาบีบมาบังคับเขาไม่ให้ไปฟังเทศน์ เรื่องโครงการต่างๆ ให้หยุด นู่นน่ะฟังซิอำนาจป่าเถื่อนของมัน ฟังให้ดีพี่น้องทั้งหลาย มันเลวขนาดไหนพวกนี้น่ะ เอ้าจำให้ดี ฝากข้อคิดไว้ให้พี่น้องทั้งหลายคิด ให้คิดนะอย่าฟังเฉยๆ อย่าเป็นหัวเต่าอยู่ในกระดอง เราเป็นเจ้าของของชาติให้ดูให้ละเอียดถี่ถ้วนทุกอย่าง ไม่อย่างงั้นชาติจม ศาสนาจม จำให้ดีคำนี้ เอาละพอ

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th