เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
ต้นผ้าป่านี้ให้ผิดจากต้นผ้าป่าทั้งหลาย
ทั้งทองคำและดอลลาร์จะเร่งใหญ่เลยให้ได้ตามจุดเป็นอย่างน้อย จะเศษเหลือจากนั้นไปเป็นเครื่องประดับส่วนใหญ่ คือ ๑๐ ตัน และ ๑๐ ตันเศษไปเท่าไรก็เป็นดอกเป็นใบประดับขึ้นไป แต่ถึง ๑๐ ตันกึ๊กอันนี้ก็ดูเหมือนยังไงอยู่ ไม่สนิทใจนะ ถ้ายิ่งขาด ๑๐ ตัน โอ๋ย ไม่ได้เลย ว่างั้นเถอะน่ะ เรื่องขาด ๑๐ ตัน สตางค์หนึ่งก็ไม่ได้ ขาด ๑๐ ล้านสตางค์หนึ่งก็ไม่ได้ พอเข้าไปถึง ๑๐ ล้าน ๑๐ ตัน กึ๊กนี่รู้สึกยังไงมีนิดๆ นะ พอว่าเศษเท่านั้นเท่านี้ เอ้าพอใจขึ้นทันทีเลย จุดนั้นละ ยังไงต้องเอาให้ได้คราวนี้เป็นคราวยิ่งใหญ่ เป็นเครื่องหมายของชาติไทยเรา ยังไม่ได้เคยพากันบำเพ็ญกุศลเพื่อชาติของตนเหมือนครั้งนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ใหญ่โตมาก
จนกระทั่งเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ท่านก็อุตส่าห์เสด็จมา ท่านเห็นอกเห็นใจลูกของท่าน ท่านก็อุตส่าห์เสด็จมา นี่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ฟ้าหญิงเล็กก็จะมา ค่อนข้างแน่นอน จึงเป็นงานอันยิ่งใหญ่ ทีนี้เวลาท่านเสด็จมานี่เราจะเอาอะไรไว้เป็นเครื่องเฉลิมพระเกียรติท่าน เราต้องคิดกันพวกเรา สำหรับทองคำ-ดอลลาร์นี้เป็นพื้นฐานขาดไม่ได้เลย นี้ประการหนึ่ง ประการที่สอง ก็คือผ้าป่าของเรา ผ้าป่าเราจะไม่ทำแบบที่เราเคยทำตามป่าตามดงของเรานะ
นี่เราเข้าเมืองหลวง สนามหลวงอันใหญ่โต เวทีหลวงนะ และเครื่องประดับของเราที่จะทำเป็นผ้าป่าให้พากันคิดเองนะ แต่นี้เป็นการบ่งบอกของหลวงตา ใครว่ายังไงให้โยนมานี้เลย หลวงตาขึ้นสนามแล้ว ว่าจะพยายามให้ได้ผ้าป่าของเราเข้าเป็นเครื่องประดับชาติของเราในงานใหญ่โตครั้งนี้ และเฉลิมพระเกียรติท่าน เวลาท่านเสด็จมาท่านได้ทรงทอดพระเนตรผ้าป่าของเรา แต่ผ้าป่านั้นเราจะไม่เอาแบบนี้นะแบบแต่ก่อน คือเราอยู่ข้างนอก ทำทีไรๆ ก็ได้ผ้าป่าข้างนอก นี้ผ้าป่านี้จะเข้าในเวทีใหญ่ ให้พากันพิจารณากัน จะรวมศรัทธา หรือรวมหัวกันก็ได้ทำเป็นต้นผ้าป่าแต่ละต้นรวมกันแล้วมาทำ
อย่างที่ถือมาตะกี้นี้เป็นตัวอย่าง และใครจะทำแยกจากนี้ไปยังไงก็ให้ทำได้ แต่เป็นต้นผ้าป่าที่ผิดจากผ้าป่าในป่าในดงทั้งหลาย ให้ผิดกัน วันนั้นได้มากเท่าไรยิ่งดี ผ้าป่าของเราให้มันดาดาษเต็มท้องสนามเวทีสวนอัมพร วันนั้นให้มากเท่าไรยิ่งดี จะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเรียบร้อย คือผ้าป่านี้เราจะไม่ให้เป็นแบบต้นฟางต้นอะไร มัดฟางที่เราทำ จะเปลี่ยนจากนี้ไปเป็นต้นผ้าป่าเข้าสู่หัวใจของชาติ คือให้มีการประดับบ้างพอสมควร ผ้าป่าของใครก็ประดับผิดจากผ้าป่าฟาง แล้วจะรวมกำลังกันก็ได้ แต่ละต้นๆ รวมกำลังกันทำตามกำลังความสามารถของเรา ที่ใครคิดว่าจะประดิดประดอยยังไงก็แล้วแต่ในต้นผ้าป่าแต่ละต้นๆ แล้วเอาเข้านั่นละเวทีใหญ่ เขาเรียกเวทีใหม่สวนอัมพร
แล้วเราก็จะสั่งให้เจ้าหน้าที่คอยควบคุมวางสมบัติทั้งหลายเหล่านี้ วางให้เป็นวรรคเป็นตอนหรือเป็นที่เป็นฐาน มีคนคอยดูแล ไม่ใช่จะไปวางเกลื่อนอยู่ตามทุกแห่งทุกหนดังที่เราเคยทำมา วางให้มีระเบียบ คือต้นผ้าป่านี้ก็ให้ผิดจากผ้าป่าทั้งหลาย เพราะผ้าป่านี้จะเข้าสู่หัวใจของชาติ ให้เป็นผ้าป่าพิสดารอยู่บ้าง จะประดิดประดอยอะไรก็แล้วแต่ตามความชอบใจของเรา รวมหัวกันมาก็ได้แต่ละต้นๆ แล้วเราจะเขียนเป็นอักษรบอกคณะใดๆ ก็ได้ลงในนั้น แล้วก็มาวางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย
คราวนี้ให้ท่านทอดพระเนตรเสียบ้าง ผ้าป่ามาตั้ง ๖ ปี ที่อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกายมาในจำนวนคนไทยทั้งประเทศ วันนี้ผลแห่งการทอดผ้าป่ามาจะมารวมตัวให้เห็นที่เวทีใหม่สวนอัมพร นี่ละผ้าป่ารวมมาลงจุดนี้ ให้ท่านได้ทอดพระเนตรวันนั้น เป็นผ้าป่าพิสดารอยู่มากละ ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอา ใครจะมาว่ายังไงก็ตาม เช่นว่าไม่ให้มีผ้าป่าอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ต้องเป็นความสวยงาม งานของเราที่ขึ้นเวทีวันที่ ๑๒ นี้ก็คืองานผ้าป่า เพราะฉะนั้นผ้าป่าจึงต้องออกหน้าเสมอๆ จะไปแยกไม่ได้ว่าผ้าป่าวันนี้ไม่ให้มีไม่ได้ หลวงตาเป็นผู้สั่งเอง ใครเขาว่ายังไงให้โยนมาหาหลวงตาเลย เข้าใจเหรอ หลวงตาจะให้ไปหาถามดูใครเป็นคนว่า จะพาไปตีปากมันเข้าใจไหม ใครมาว่าไม่ได้วันนั้น มีแต่ให้ได้มากที่สุด
แล้วแต่ละต้นๆ ล้วนแล้วตั้งแต่ศรัทธาทั้งหลายที่จะรวมกัน และประดิดประดอยตามกำลังของตน แล้วก็เอามาที่นั่น ได้มากเท่าไรยิ่งดี ให้ได้เห็นที่รวมของผ้าป่านั่นเป็นยังไง คือสนามหลวงนี่ละ รวมมาได้ ๖ ปีที่รวมมาอยู่จุดนี้ ให้ทุกคนได้เข้าใจตามนี้นะ เรื่องผ้าป่าให้มีได้มากเท่าไรยิ่งดีหลวงตาพอใจมาก ผ้าป่าประดับชาติของเราไปรวมอยู่ที่จุดส่วนกลาง ได้แก่เวทีใหม่สวนอัมพร วันนั้นรวมทั้งหมดเลย อันนี้ให้ตกลงกันเองนะ หลวงตาก็เพียงเผดียงหรือสั่งเสียไปอย่างงั้นแหละ การที่จะพิจารณาทำยังไงๆ ให้เป็นเรื่องของพี่น้องทั้งหลายที่เคยทำมาแล้ว ยิ่งกว่าหลวงตาที่พูดว้อกๆ ไม่เคยทำผ้าป่าแม้แต่ต้นเดียว แต่สอนคนทั้งโลกให้ทำผ้าป่า ให้ท่านทั้งหลายพิจารณาเองก็แล้วกัน
นี่ละผ้าป่าเป็นสำคัญในงานคราวนี้ ให้ดาดาษด้วยผ้าป่า นี้คือเครื่องหมายของการช่วยชาติไทยของเราด้วยผ้าป่า แล้วก็ชี้ลงนี่ๆ มารวมตัวอยู่ที่นี่ ไม่มีที่นี่ ว่าแต่ผ้าป่าๆ ใครเขาไม่อยากเชื่อนะ ถ้าว่านี่ๆ เชื่อหมดเลย ให้พากันเข้าใจ คราวนี้ไม่ควรจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในงานของเรา เพราะเป็นงานของชาติโดยตรง อะไรๆ ก็ให้ยิ่งใหญ่ๆ ด้วยกัน ทองคำเรียกว่าขีดเส้นตายตั้งแต่ ๑๐ ตันขึ้นไป ดอลลาร์ก็ ๑๐ ล้านขึ้นไป จะให้ต่ำกว่านั้นไม่ได้เลย
จากนั้นก็ประดับประดาด้วยนี่ละต้นผ้าป่าของเรา ที่ออกมาจากหัวใจของพี่น้องชาวไทยทั้งหลายที่รักชาติมารวมเป็นกำลังขึ้นเป็นต้นผ้าป่า ตามแต่จริตนิสัยของท่านผู้ใดจะชอบประดิดประดอยด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ อย่างหนึ่งก็เขียนชื่อหรือเขียนคณะติดไว้ๆ ก็ได้ หากว่าไม่ได้เรียนอีกก็เรียนเท่านี้ก็พอเข้าใจกันละมัง
วันที่ ๒๘ มีนาคม คือวันนี้ ทองคำเช้านี้ได้ ๒ กิโล ๒๐ บาท ๓๒ สตางค์ เช้าวันนี้ เอ้าสาธุพร้อมกัน (สาธุ)
คราวนี้ยังไงเราต้องเอาให้เต็มเหนี่ยวนะ พี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยเรากรุณาทราบตามข้อประกาศนี้ ว่างานนี้เราจะไม่อยู่ในเมืองไทยอย่างเดียว งานนี้จะออกทั่วโลกเลย จะกระจายให้คนทั่วโลกได้เห็นงานของเรา คือจะออกทางทีวีออกทั่วไปหมด นี่นายกฯท่านก็จะสั่งให้เขาประกาศออก นายกฯท่านสั่ง คือจะออกทางทีวีช่องไหนก็แล้วแต่ท่านจะสั่ง วันนั้นเป็นวันยิ่งใหญ่ของเราออกให้โลกได้เห็นทั่วหน้ากัน
วันนี้ไม่มีอะไรพูดมากนะ เอาเพียงแค่นี้ ส่วนที่มากก็คือต้นผ้าป่าของเรา ได้เรียนให้ทราบแล้วต้นผ้าทำยังไงๆ ในคราวอันยิ่งใหญ่นี้เราจะทำยังไง ให้พี่น้องทั้งหลายเอาไปคิดอ่านกัน จะทำวิธีไหนๆ ในต้นผ้าป่าแต่ละกลุ่มของศรัทธาทั้งหลาย รวมกันแล้วต้นผ้าป่ามีลักษณะยังไงมอบให้ท่านทั้งหลายคิดเองนะ
วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละ
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
|