เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
เห็นสมณศักดิ์ดียิ่งกว่าชาติศาสนา
เมื่อวานนี้ที่ไปเทศน์ศรีไทยใหม่ได้ทองคำ ๑๓ กิโล ๖ บาท ๙๑ สตางค์ ขึ้นเรื่อยๆ แหละ กำลังเร่งทองคำ เร่งเรื่อยๆ ดอลลาร์เลยไม่ค่อยได้พูดถึง เพราะไปหนักที่ทองคำๆ วันที่ ๑๒ เมษา วันนั้นจะมอบทั้งทองคำและดอลลาร์ให้ได้เต็มตามจำนวนนั้นเลย เพื่อประกาศชื่อเสียงของชาติไทยเราขึ้นในวันนั้นด้วยวิธีการต่างๆ หลายแบบหลายฉบับ แน่ใจว่าสมเด็จพระนางเจ้าจะเสด็จด้วย ฟ้าหญิงเล็กก็จะเสด็จ เสด็จมาทั้งสองพระองค์ในงานนี้ ทองคำจำนวนครบตันนั้นแล้วก็ควรจะมีเศษมีเดนสักกิโลสองกิโลบ้างนะ ได้เท่านั้นมันก็เกินไป ทั้งสองพระองค์ท่านเสด็จเคยมีที่ไหนล่ะ คราวนี้เสด็จทั้งสองพระองค์แน่นอนแล้ว สมเด็จพระนางเจ้ากับทูลกระหม่อมเล็ก
เราคิดว่าจะเลย ๑๐ ตันอยู่นะ เลยกิโลหนึ่งก็เอา แต่ขาดนั้นนิดหนึ่งก็ไม่ได้ ถ้าเลยแล้วกิโลหนึ่งก็ได้ สองกิโลก็ได้ หรือร้อยพันกิโลก็ไม่ว่า ถ้าขาดนี้ไม่ได้เลย เอากันตรงนี้นะ ความเด็ดอยู่ที่จุดนี้ ถึงคราวเด็ดต้องเด็ดซิชาติไทยเรา ทุกสิ่งทุกอย่างจะมาอ่อนแออืดอาดเนือยนายตลอดไปไม่ดี ถึงคราวอ่อนก็อ่อน ถึงคราวแข็งก็แข็ง ถึงคราวเด็ด-เด็ด เป็นระยะๆ ตามความจำเป็นในเหตุผลที่จะควรอ่อนควรแข็ง ควรเด็ด ต้องเป็นไปอย่างนั้น เช่นเวลานี้เป็นเวลาที่ต้องเด็ดทีเดียว อ่อนไม่ได้ เราจึงต้องขู่อยู่ตลอด หัวหน้านี้ขู่ หันหน้าไปไหนขู่ทางนั้นๆ กลัวจะไม่สมมักสมหมาย จะไม่เด็ด เข้าใจไหมล่ะ ให้เด็ดซิ ระยะนี้เป็นระยะที่เราจะเด็ดมากทีเดียว จึงอ่อนไม่ได้
หัวหน้าคือผู้นำพี่น้องทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเคยเห็นไหม มีลักษณะอืดอาดเนือยนายไหม ไม่มีจะว่างั้นนะ มีแต่จะเด็ดตลอด ถึงขั้นจะเด็ด อ่อนไม่ได้เลย เราจะเทิดและประดับชาติไทยของเราให้สง่างาม ทั้งแน่นหนามั่นคง ทั้งความสง่างามให้กระจายไปทั่วโลก นี่จะทราบทั่วโลกแหละ ในวันมอบจะกระจายออกหมดเลย แล้วสมเด็จพระนางเจ้าและทูลกระหม่อมเล็กก็จะเสด็จทั้งสองพระองค์ด้วยนี่นะไม่ใช่ธรรมดา จึงต้องเด็ด ไม่งั้นไม่เหมาะ ต้องเอาให้เด็ดคราวนี้ พอไปถึงนี้ก็หมุนติ้วนะเราไม่ได้รอ ทั้งจะหมุนออกข้างนอก ทั้งจะหมุนเข้ามาข้างใน บวกลบคูณหารอยู่ในเราหมดนี่นะอะไรก็ดี รวมเข้ามาอยู่ที่นี่เป็นผู้ชี้ๆ เลย เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์และเหมาะสมทุกอย่าง สมบูรณ์ทุกอย่างตามที่กำหนดไว้ ไม่ให้ลดแหละ เรื่องที่กำหนดไว้แล้วยังไงก็ขาดไม่ได้เลย ต้องเด็ดถึงขนาดนั้น
ความเด็ด ผลแห่งความเด็ดเป็นความดีทั้งนั้น สง่าราศีครอบเมืองไทยเรา กระจายไปถึงเมืองนอกเมืองนา คราวนี้ออกแน่นอนทั่วโลกแหละ จึงควรให้เด็ด เวลาเราทุกข์เรายากลำบากก็ทราบไปแล้ว เวลาเราช่วยชาติของเราก็เริ่มทราบมาโดยลำดับ ตั้งแต่เริ่มออกช่วยชาติ ทราบมาโดยลำดับๆ ว่าทองคำได้เท่านั้น ดอลลาร์ได้เท่านั้นเรื่อยๆ คราวนี้จึงเป็นคราวที่จะเด็ดในครั้งสุดท้ายของเราในการช่วยชาติคราวนี้ สำหรับเราเองจะไม่มีอีกเป็นสองแหละ คิดว่าจะเป็นหนเดียวนี้ เพราะได้ทุ่มเต็มกำลังแล้ว จากนั้นก็ปล่อยละที่นี่ เด็ดให้ถึงขีด
ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันนี้สง่างามมากนะ ก็พี่น้องทั้งประเทศนั่นแหละช่วยกัน กระทั่งเมืองนอกเมืองนาก็มาช่วย เมืองนอกเมืองนาก็ไปจากเมืองไทย ก็คนไทยของเราไปอยู่แล้วส่งเข้ามา ดอลลาร์นั่นแหละมาก เงินเข้ามาเป็นดอลลาร์ๆ เสียมาก ส่งมาเป็นเช็คดอลลาร์ แม้ตามปรกติที่เขาเคยส่งมาเป็นเช็คดอลลาร์ๆ มาหาเราตั้งแต่ไหนแต่ไรมานี้ เวลาเช่นนี้เราก็หมุนเข้านี้หมดเลย เราไม่ได้สนใจ เพราะมายังไงมันก็เข้านั้นทั้งนั้น ไม่ได้มาเข้าเรา ถ้าเป็นดอลลาร์มาเลยอย่างนี้เข้าตามดอลลาร์นี่เลย แต่ก่อนก็ใช้ตามอัธยาศัย แต่เวลาช่วยชาติ ดอลลาร์ที่เขาถวายมาเป็นปรกติก็เลยหมุนเข้าหาดอลลาร์ๆ เสียทั้งหมด เพื่อจะให้ทันกับเหตุการณ์
ผ้าป่าศรีไทยใหม่เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑๓ กิโล ๖ บาท ๙๑ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๕,๘๙๑ ดอลล์ เงินสดได้ ๙๔๑,๙๘๘ บาท ไปถึงโน้น(กรุงเทพ) แล้วทีนี้ก็บวก ดอลลาร์ก็มาพร้อมกัน ทองคำมาพร้อมกันมาบวก ขาดเหลือเท่าไรก็พิจารณากันไปเรื่อย ดอลลาร์หากขาดเหลือเท่าไรเราก็ไม่อยากรบกวนพี่น้องชาวไทยของเรามากนัก ก็จะถอนเงินในโครงการออกไปซื้อเพิ่มเข้าไปเท่านั้น สำหรับถอนไปซื้อทองคำไม่ได้คิดนะ เพราะคิดว่ายังไงจะต้องได้อยู่แล้ว ส่วนดอลลาร์นั้นอาจทำอย่างนี้ก็ได้ ขาดเหลือเท่าไรดอลลาร์ พอจวนวันๆ เข้ามา คำนวณแล้วยังขาดเท่านั้นๆ เราอาจจะได้ถอนปุ๊บออกมา เพราะเงินทางนู้นยังมีอยู่บ้างไม่มากนัก ทางนี้มันมีไม่ได้ดังที่พี่น้องทั้งหลายเห็นนี่ละ โอ้โหย มันทุกแง่ทุกมุม มาทุกด้านทุกทาง เลยออกทางทองคำไม่ได้ ออกเพื่อชาติรอบไปหมดทั่วประเทศไทย สำหรับเงินสดนะ เหลือมากเหลือน้อยไม่มีปัญหาเลย มีแต่จะออกทั้งนั้น เพราะมันไม่พอ ผู้ที่มาขอมากต่อมาก เราแยกโน้นแยกนี้ๆ มันก็ยังไม่พอ
นี่มันก็อดไม่ได้ที่เราจะพูดบ้างวันนี้ ให้พี่น้องทั้งหลายทราบตามหลักความจริง ความเป็นธรรมและไม่เป็นธรรม ให้ได้พากันทราบเสียบ้าง คือความเป็นธรรมจะสม่ำเสมอ ไม่เอนไม่เอียง เรียกว่าธรรม ความไม่เป็นธรรมนี้ปลิ้นปล้อนหลอกลวง ร้อยสันพันคม หาประมาณไม่ได้ ในทางที่จะทำผู้อื่นผู้ใดให้เสียหายมากน้อย จนกระทั่งเสียอย่างล่มจมไปเลยก็ได้ นี่อำนาจของอธรรม คือสิ่งที่เป็นภัยต่อสัตว์ทั้งหลาย ได้แก่กิเลสซึ่งอยู่ในหัวใจของสัตว์นั้นแหละ นี่ท่านเรียกว่าอธรรม อยู่ที่ไหนไปที่ไหนถ้าตัวนี้ออกแสดงเมื่อไรแล้วต้องเป็นความเสียหาย ความกระทบกระเทือนมากน้อยไปตามลำดับลำดา ไม่เหมือนธรรมออกแสดง
ธรรมออกแสดงมากน้อยนี้เป็นบุญเป็นคุณ เป็นประโยชน์ เป็นความชุ่มเย็นแก่ผู้เกี่ยวข้องมากน้อยไม่มีประมาณ นี่เรียกว่าธรรมออกแสดง การหมุนไปทางไหนนี้ธรรมจะหมุนไปด้วยความสม่ำเสมอ หมุนไปด้วยความไม่เอนไม่เอียง ตรงไปตรงมา เรียกว่าธรรม ถ้าหมุนพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงหลายสันพันคม คว่ำกินหงายกิน นี่เรียกว่ากิเลส ไม่มองดูหน้าใคร ขอให้ได้ตามใจหวังแล้วพอๆ เป็นที่พอใจ ผิดกับถูกไม่คำนึง ขอให้ได้อย่างเดียว สำหรับตนเพียงเท่านั้นพอใจแล้ว โลกจะเกิดความเดือดร้อน ได้รับความกระทบกระเทือน เพราะความเลวร้ายของเรามากน้อยเพียงไรนั้นกิเลสจะไม่คำนึง มีแต่จะเอาให้ได้ๆ อย่างนี้ นี่เรียกว่ากิเลส เรียกว่าฝ่ายที่เป็นข้าศึกต่อโลก เพราะมันมีอยู่ในหัวใจโลกก็ได้ นี่ท่านเรียกว่ากิเลส
ไปที่ไหนไว้ใจกันไม่ได้ แม้แต่ผัวกับเมียอยู่ด้วยกันนี้ ลองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดเป็นทางกิเลสเข้ามา มีลี้มีลับ มีลับลมคมในอยู่ภายในตัวแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งจะรอรับความกระทบกระเทือนบอบช้ำตลอดไป ไม่ว่าฝ่ายสามี ไม่ว่าฝ่ายภรรยา ถ้าฝ่ายใดมีความคดทรยศอันเป็นเรื่องของกิเลส คือเรื่องฟืนเรื่องไฟแสดงขึ้นแล้ว ก็คอยที่จะเผาอีกฝ่ายหนึ่งให้เดือดร้อน ให้กระทบกระเทือนถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับ และแตกจากกันได้ นี่อำนาจของกิเลส
ถ้าอำนาจของธรรมอยู่ด้วยกันด้วยความเป็นธรรม รักกัน เขาก็รักเราก็รักกัน มีความเห็นร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้ว เวลามาตกลงปลงใจ ตัดสินใจรักเป็นคู่พึ่งเป็นพึ่งตายกันแล้ว ทั้งสามีทั้งภรรยาไม่มีคำที่ว่าจะเป็นน้ำไหลซึม หรือนอกใจ ปันใจให้ผู้อื่น พูดย่อมๆ นะว่านอกใจ ปันใจ ก็คือเอาไฟเผากันนั่นละ ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งมีการแสดงอย่างนั้นแล้วก็เท่ากับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฟืนเป็นไฟไปแล้ว แม้จะยังไม่รู้ก็จะรู้ ปิดกันไม่อยู่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย มีด้วยกันทุกคน เมื่อทราบแล้วเป็นยังไง ไฟนี้เผาเลยเชียว สมบัติเงินทองข้าวของมีมากมีน้อย ไม่มีอะไรเป็นคุณค่าเป็นราคามาแก้ความชั่วช้าลามกอันนี้ จากหัวใจฝ่ายที่ถูกนั้นได้เลย จะเป็นไฟเผาไหม้กันตลอดไป นี่เรียกว่าอธรรม
ถ้าต่างคนต่างเป็นอวัยวะเดียวกัน มีน้ำหนึ่งใจเดียว ซื่อสัตย์สุจริตต่อกันแล้ว เราอย่าเอาเงินหมื่นเงินแสนเงินล้านมาอวดนะ ว่าใครมีเงินมากคนนั้นมีความสุข ต้องเอาอันนี้ออกอวดได้เลย ความอยู่เย็นเป็นสุข ความพึ่งเป็นพึ่งตายเป็นเหมือนอวัยวะเดียวกัน ได้มามากน้อยเป็นความสุขๆ ความชุ่มเย็น เคลื่อนไหวออกจากบ้านจากเรือน ไม่ว่าฝ่ายสามีภรรยามีแต่ความสุจริต พึ่งเป็นพึ่งตายกันติดตัวไปตลอดแล้ว กลับมาก็ติดตัวมา ทุกอากัปกิริยา ยืน เดิน นั่ง นอน ความเคลื่อนไหวไปมา เป็นทองแท่งเดียวกันแล้ว นี้ละคือบ่อแห่งความสุข ถึงจะมีจะจนบ้างเป็นธรรมดา แต่ไม่กระทบกระเทือนหนักเหมือนคู่ครองทำลายกันเอง ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้
นี่เราเริ่มต้นเรื่องความเป็นธรรมและไม่เป็นธรรม เรายกตัวอย่างเพียงเท่านี้ก็พอทราบได้ ทีนี้เวลานี้โลกกำลังทั้งความเป็นธรรมและไม่เป็นธรรม กำลังตามจองล้างจ้องผลาญกันเวลานี้ เริ่มต้นตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมาทีแรก เรื่องราวทั้งหลายก็ค่อยแสดงขึ้นมาเรื่อยๆ นี้คือเรื่องอธรรม เรื่องของกิเลส เรื่องจองล้างจองผลาญ จองกรรมจองเวรซึ่งกันและกัน หาเรื่องหาราวตลอด อยู่เป็นสุขไม่ได้ เรื่องของกิเลสจะต้องหาเรื่องฟืนเรื่องไฟเผาไหม้คนอื่นให้สมใจตัวเองเท่านั้นแหละ เรื่องราวจึงเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ในเมืองไทยของเรา ตั้งแต่ ๒๕๔๑ มาเรื่อยๆ ก็มาหนักเอาตอนตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมา
พอตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมานี้เรื่องราวก็หนักขึ้นทุกแง่ทุกมุม หาวิธีการจองล้างจองผลาญ ฟังเสียงระเบิดวางในเครื่องบินก็มี ยาพิษฟาดเข้ามาในวัดก็มี เห็นไหม นี่ละเรื่องของความชั่วช้าลามก เรื่องของกิเลสตัณหาแสดง จากนั้นก็ตั้งเรื่องนี้ขึ้นมา ตั้งเรื่องนั้นขึ้นมาที่จะให้เป็นฟืนเป็นไฟเผาฝ่ายตรงกันข้ามที่ตนไม่พอใจ เรื่องราวจึงได้เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เดี๋ยวเรื่องนั้นเดี๋ยวเรื่องนี้ เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องพุทธศาสนา แสดงออกมาตั้งแต่ต้นทาง อยากเป็นใหญ่เป็นโต ตั้งกฎนั้นขึ้นมา บัญญัติข้อนี้ขึ้นมา
ทีนี้เมื่อขึ้นมาแล้วอันหนึ่งเป็นธรรม อันหนึ่งไม่เป็นธรรม อะไรผิดถูกมันก็ต้องได้วิพากษ์วิจารณ์ เพราะคนไทยอยู่ร่วมกัน กฎหมายใช้ร่วมกัน ผิดถูกจะต้องรับผิดชอบด้วยกัน มีผู้ตัดสินเป็นผู้ให้ความกระจ่างขึ้นมา ลงใจกันตรงนั้น กฎหมายเป็นอำนาจเหนือโลก เช่นเมืองไทย กฎหมายเหนือเมืองไทย คนไทยทุกคนต้องยอมรับกฎหมาย เทิดทูนกฎหมายไว้บนศีรษะด้วยกันทุกคน ใครฝ่าฝืนไม่ได้ นี่ความเกี่ยวโยงกันมีอย่างนี้
ทีนี้เรื่องราวก็เกิดขึ้นมา เมื่อพิจารณาเห็นว่าไม่เป็นธรรมแล้ว ระงับกันด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความถูกต้องเป็นธรรม อันนั้นสงบลงไป เอ้าเรื่องนี้ก่อขึ้นมาอีก เพราะผู้ที่จะก่อก็คือเรื่องของกิเลส เรื่องของความไม่เป็นธรรม ก่อเรื่องก่อราวอยู่เรื่อยๆ ขึ้นมา เกิดความยุ่งเหยิงวุ่นวายมาตลอด เฉพาะเรื่องศาสนานี้รู้สึกว่าเด่นมากมาตั้งแต่ต้นจนกระทั่งบัดนี้ มาบัดนี้ดูจะเป็นครั้งที่สองหรือที่สามแล้วมัง สร้างแต่เรื่องฟืนเรื่องไฟ เผาที่นั่นลงไปแล้วดับได้ เอาเผาที่นี่ขึ้นมาดับได้ แล้วเผาที่นั่นขึ้นมาๆ จนกระทั่งบัดนี้ พี่น้องทั้งหลายให้ทราบ ความเคลื่อนไหวของสิ่งเหล่านี้
กลอุบายวิธีการที่แสดงอยู่เวลานี้ มีต้นเหตุอันใหญ่หลวงที่เป็นที่มุ่งหมายของพวกอธรรม หรือของกิเลสนี้ เช่นอย่างจะตั้งผู้อุปถัมภ์อุปัฏฐากทำหน้าที่แทน ปฏิบัติอุปถัมภ์อุปัฏฐากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า นี่ละจุดใหญ่ที่จะเอาให้ได้จุดนี้ ต้องเอาให้ได้จุดนี้ จุดนั้นล้มเหลวไป จุดนี้ล้มเหลวไป จุดนี้จะเหยียบหัวคนทั้งชาติทั้งศาสนา จะไม่ยอมล้มเหลวไปง่ายๆ เพราะมันหลายจุดเข้าไป ฟืนไฟมันยิ่งเผาขึ้นๆ หาอุบายหนักเข้าไปๆ เวลานี้ก็มาอยู่ที่จุดนี้ ตั้งเป็นคณะกรรมการทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช
นี่ละฟังซิฟังให้ดี วันนี้เราจะพูดตามความเป็นจริงของธรรม เรานำธรรมซึ่งเป็นธรรมเหนือโลกแล้ว มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังเพื่อจะได้พินิจพิจารณา ตามความผิดถูกชั่วดีอย่างไรบ้างของธรรมและของอธรรม เรื่องมาตั้งอยู่ในจุดนี้ พอตั้งจุดนี้แล้ว ก็วางอำนาจขึ้นที่จุดนี้ทันทีทันใด ทางฝ่ายฆราวาสก็มีหัวหน้า เอ้าทีนี้วางอำนาจแผนใหญ่โตรโหฐาน ไปเที่ยวกุมอำนาจบีบบังคับบัญชาไปหมดทุกแห่งทุกหน จากตนที่ถือว่าเป็นอำนาจใหญ่โตผึ่งผายนั้นแหละ และเป็นเจ้าตัวการตัวงานที่จะก้าวเดินเพื่อเผาชาติเผาศาสนาในระยะเดียวกันนั้น
พวกเป็นเจ้าเป็นนาย หน่วยราชการต่างๆ พวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานใดๆ จนกระทั่งถึงศาล ศาลนี้เป็นความใหญ่โตมากสำหรับคนทั้งประเทศ ต้องอยู่ใต้อำนจของศาล นี่ก็บีบบังคับไปเลย ศาลให้มาอยู่ใต้อำนาจของตัวคนเดียว โลกทั้งโลก เมืองไทยทั้งประเทศอยู่ใต้อำนาจของศาล ของกฎหมาย ที่ศาลประกาศออกมา ตัดสินยังไงออกมาก็เป็นอำนาจเต็มตัวๆ ไม่มีใครจะคัดค้านไปได้ ถ้าหากว่ายังไม่ลงกันก็ไปศาลนั้น ไม่ลงใจไปศาลนั้น พอถึงศาลตัดขาดสะบั้นแล้วใครจะค้านไม่ได้ แน่ะ ก็อยู่ในศาลที่เป็นเจ้าอำนาจเท่านั้น
แต่นี้เราทราบมา เขาไม่ได้มาพูดต่อปากเรา แต่เป็นความจริงที่บรรดาประชาชนทั้งหลายเขามาพูดให้ฟังว่า หัวหน้าหน่วยใหญ่การทำลายชาติและศาสนาไปด้วยกันนี้ เป็นผู้วางอำนาจอย่างผึ่งผายลายตา หรือว่าตาบอดไปก็ได้ ไปเที่ยวบังคับบัญชาหมด ตั้งแต่หน่วยราชการต่างๆ จนกระทั่งถึงศาล เอาให้อยู่ใต้อำนาจ คือบังคับให้เป็นไปตามใจเจ้าของทุกอย่าง ผิดถูกไม่คำนึง เพราะถือว่าเรานี้เหนือใครทั้งนั้น แล้วเที่ยวบีบบังคับ ให้เกิดความเดือดร้อนไปหมด ประชาชนวงราชการจนกระทั่งถึงศาล จะปฏิบัติยังไงได้ บีบบังคับลงมา ถือว่าเราเป็นเจ้าอำนาจใหญ่โตรโหฐาน เหนือโลกเหนือสงสารไปแล้ว บีบบังคับมา นี่กลอุบายนี้อันหนึ่ง ท่านทั้งหลายจำเอาไว้
เป็นมาตั้งแต่ต้น หาตั้งแต่เรื่องแต่ราวก่อกวนมาเรื่อย ผิดตรงนั้นพลาดตรงนี้ สงบลงไปแล้ว แล้วขึ้นอันนี้ คราวนี้ขึ้นแบบนี้ ตั้งหน้าโกหกพกลมประชาชนมาตั้งแต่ตั้งต้นมาเลย คราวนี้ยิ่งตั้งใหญ่ทีเดียว การงานของท่านผู้ดีที่บำรุงรักษาชาติไทยของตน เช่น การบริจาคทานเพื่อชาติไทยของเรา ดังที่เห็นอยู่เวลานี้ นี่ก็เที่ยวกีดเที่ยวกันไปหมด แม้ที่สุดไปเทศนาว่าการ ศรัทธาทั้งหลายเขาจะมาทำบุญทอดผ้าป่า เพื่อช่วยชาติก็ไปกีดไปกัน ไปบีบบังคับเขา ไม่ให้เขาทำ เราฟังซี กิริยาอันนี้กับกิริยาของคนรักชาติ คนรักสงวนชาติเขาหนุนชาติของเขา
อันนี้เป็นยังไง ไปกีดไปขวาง นี้เรียกว่าไปทำลายชาติ หรือไปเผาชาติเผาศาสนา หรือจะเรียกว่ายังไง ให้พิจารณาซิ แม้ที่สุดไปเทศน์ก็เป็นอย่างงั้น แล้วข่าวคราวสื่อสารต่างๆ ที่ออกทางวิทยุ หรือหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิดีโอ หรืออะไรช่องนั้นช่องนี้ เหล่านี้ไปปิดไปกั้นไม่ให้เขาออกข่าวกุศลที่จะช่วยชาติบ้านเมืองของตน ปิดหมด เอาตั้งแต่ข่าวโฆษณาหาความจริงไม่ได้ ข้อโกหกมดเท็จมาประกาศโจมตีคนนั้น โจมตีคนนี้ โจมตีหน่วยนั้น โจมตีหน่วยนี้ โจมตีไปด้วยความหาเหตุหาผลไม่ได้ ด้วยความเป็นอันธพาล เป็นนักเลงโต ประกาศทั่วไปหมด เราได้ยินกันไหมทั่วเมืองไทยนี้
มีตั้งแต่เรื่องหลอกลวงต้มตุ๋นไปทั้งนั้น ความจริงไม่มีกับคนจำพวกนี้ มีแต่ความหลอกลวงต้มตุ๋น ขู่เข็ญทุกแบบทุกฉบับให้เป็นไปตามอำนาจมหาโจร มหาภัย อำนาจป่าเถื่อนของตนนั้นแหละ นี่ละอธรรม ฟังซิน่ะท่านทั้งหลายได้ยินไหม ก้าวขึ้นมาก้าวไหน ๆ มีตั้งแต่ก้าวด้วยความโกหกมดเท็จ ต้มตุ๋น ขู่เข็ญต่างๆ เพื่อจะให้คนทั้งชาติอยู่ในอำนาจของตัว ซึ่งตัวเท่าอึ่งนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น นี่ก็ก้าวขึ้นมา นี่ฝ่ายฆราวาสนะ ไปเที่ยวบังคับขู่เข็ญในหน่วยราชการต่างๆ ให้มาปฏิบัติตามตัวเองที่ว่ามีอำนาจมาก เหนือกว่าพวกเหล่านี้ เป็นความสำคัญต่างหาก
ความเหนือกว่าอะไรกฎหมายท่านตั้งไว้แล้ว เป็นกฎเกณฑ์ที่ตายตัว เป็นธรรมอย่างนี้อยู่แล้ว ให้เหนือกฎหมาย เหยียบกฎหมายไปอีก ศาลอยู่เหนือกฎหมาย แต่คนทั้งโลกเขาอยู่ใต้กฎหมาย แต่ตัวเจ้าอึ่งตัวนี้ไปอยู่เหนือกฎหมาย เหยียบหัวคนทั้งโลก นั่นฟังซิ มันเป็นยังไงน่าฟังไหม แล้วก่อขึ้นมาอย่างนี้ๆ นี่เราพูดเอาย่อๆ นะ เรื่องฝ่ายประชาชน เรื่องฝ่ายฆราวาส ก็มีหัวหน้าโจรฝ่ายฆราวาสที่จะคอยทำลายชาติศาสนาของตนไปในตัวๆ นั้นอย่างเปิดเผยไม่สะทกสะท้าน ไม่ระลึกถึงความผิดความถูก ชั่วดีอะไร เอาตั้งแต่ทิฐิมานะ ความเก่งกล้าสามารถที่ตนสำคัญว่าเก่งนั้นแหละ ออกมาวาดลวดลาย ออกมาขู่เข็ญประชาชนคนทั้งแผ่นดิน นี่เป็นฝ่ายฆราวาสที่แสดงมาแล้ว ท่านทั้งหลายได้เห็นยิ่งกว่าหลวงตาเสียอีก
นี่หลวงตาฟังมาจากที่ต่างๆ ตามความจริงได้ฟังมาอย่างนี้ก็พูดอย่างนี้ เราไม่ตั้งหน้าตั้งตามาปลุกปั่น หรือมาก่อขึ้น แล้วมาประจบประแจง หรือมาปรุงแต่งโกหกพี่น้องทั้งหลาย เราเอาความจริงมาพูด นี้เป็นฝ่ายฆราวาสเป็นผู้นำ จะเรียกว่าเป็นผู้นำเพื่อจะสังหารทั้งชาติทั้งศาสนาในคราวนี้ก็ได้ แล้วทีนี้ทางฝ่ายพระก็กุมอำนาจเถื่อนเหมือนกัน แบบเดียวกันไม่ผิด พระไม่ต้องคำนึง หัวโล้นผ้าเหลือง โกนผมโกนคิ้ว ไม่ต้องคำนึงว่าอรรถว่าธรรมไม่มี ไม่ต้องคำนึง อันใดที่จะให้ได้อย่างใจเจ้าของ ซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟ เป็นเรื่องเผาไหม้โลกสงสารแล้วจะนำอันนั้นออกมาให้สมใจตัวเอง แล้วสั่งการไปตามที่ต่างๆ เป็นผู้ใหญ่ เอ้า สั่งการลงมาตั้งแต่เจ้าคณะภาคลงมา
ภาคไม่ว่าภาคธรรมยุต ภาคมหานิกาย บีบบังคับให้ปฏิบัติตามที่ตนนี้เป็นผู้สั่ง เป็นผู้มีอำนาจมาก ตั้งแต่เจ้าคณะภาค เจ้าคณะภาคสั่งมาเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะจังหวัดสั่งไปเจ้าคณะอำเภอ คณะตำบลเรื่อย ทีนี้ก็เอาอีก พอทางนั้นหมอบราบ เหยียบหัวพระทั้งหลายหมอบราบไปตามแล้ว ทีนี้สั่งพวกนี้ให้ไปประกาศบอกประชาชน เรียกว่าให้ไปบีบคอประชาชนก็ไม่ผิดนะ ให้พระเหล่านี้ที่ยอมรับแล้ว ถูกจูงจมูก หรือถูกมัดคอเรียบร้อยแล้ว แล้วไสพวกนี้ไปให้บอกประชาชนทุกแห่งหนตำบล-หมู่บ้าน ในสถานที่ขอบเขตที่พระวัดนั้นๆ อาศัยอยู่ จะสั่งพระวัดนั้นๆ ให้ไปบอกประชาชน ว่านี่เรื่องของศาสนาออกมา นี่นะเวลาออก
เอานามของศาสนาที่คนไทยนับถือพุทธศาสนากันค่อนประเทศนั้น ออกไปประกาศสอนคนในนามของพระ ในนามของศาสนาที่ประชาชนเคารพนับถืออยู่แล้ว ว่านี้พระผู้ใหญ่ท่านสั่งมาอย่างนั้นๆ เป็นเรื่องพระทั้งนั้นนะออกมานี่ ลวดลายสวยงามมาก ออกมาเป็นเจ้าหน้าเจ้าตา เป็นพระเจ้าพระสงฆ์ออกมา ท่านสั่งมาว่าให้ทำอย่างนั้นๆ นั่นคือบังคับมาแล้วนะนั่น พอพระลงใจแล้วก็ให้พระไปสอนประชาชนให้ทำตาม นี่ละเรื่องความอุบาทว์ทั้งหลายเหล่านี้ แต่เขาไม่ได้ว่าอุบาทว์ เป็นสิริมงคล เพราะพระเป็นผู้มาสั่งสอนเอง เขาบอกว่ามาสั่งสอนเอง แต่พระมาบีบบังคับยิ่งกว่ายักษ์ไม่ได้พูด
นั่นละมหาภัยมันมากับพระ ไปกับพระ เอาพระนี้ออกเป็นโล่บังหน้า มหาภัยติดตามกันไป ทีนี้ก็เผาทั้งพระแล้วก็มาเผาประชาชนทั่วประเทศเขตแดน ใครอยู่ที่ไหนใกล้กับวัดใดให้พระวัดนั้นไปเสี้ยมไปสอน ไปบังคับบัญชาอย่างนั้น ในนามของพระ ในนามของศาสนาที่ถือว่าเป็นมงคล ทีนี้คนไทยเรามีความนับถือพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ถ้าจะคัดค้านต้านทานอะไรก็กลัวเป็นบาปเป็นกรรม นี่ละศาสนาเป็นโล่บังหน้าพากล่อมจิตใจของคนให้ยุบให้ยอบลงไป ไม่กล้าคัดค้านต้านทาน
พวกนี้ก็เหยียบหัวไปเลย เอาทั้งหมดนะ ตั้งแต่เจ้าคณะใหญ่ๆ ลงมา จะสมเด็จสมแด็ดอะไรเราก็ไม่รู้ละ มาหาเจ้าคณะภาคแล้วก็เป็นเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะตำบล นี่เป็นเหยื่อของเขาแล้ว เขาใช้เหยื่อเหล่านี้ พวกนั้นประชาชนทั้งประเทศ เรียกว่าเป็นเหยื่อของมหาโจรมหาภัยนี้ทั้งนั้น นี่อุบายกลวิธีที่แสดงมาเหล่านี้เป็นความทุจริต เป็นความเลวร้ายที่จะทำลายชาติและศาสนาของเมืองไทยเราให้ล่มจมลงไป โดยวิธีการต่างๆ ดังที่เขาเคยปฏิบัติมา จะมีตั้งแต่เรื่องโกหกพกลม ไปโฆษณาตรงไหนมีแต่เรื่องโจมตีคนอื่น โจมตีคนนั้น โจมตีคนนี้ และปั้นขึ้นมาให้เป็นเรื่องความจริง ทั้งๆ ที่มันปลอมๆ นี่ละพวกนี้นำมาใช้อยู่ทั่วประเทศเวลานี้
ภาษาของโลกเรียกว่าเที่ยวกุมอำนาจไว้หมด มหาภัยมหาโจรเที่ยวกุมอำนาจไว้ทั้งหมด เมื่อได้อำนาจมากๆ แล้วจะถืออำนาจนี้เข้าเหยียบย่ำบรรดาผู้มีความสุจริตยุติธรรม มีพระเจ้าพระสงฆ์เป็นต้น ที่ท่านตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติเคารพบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อย่างถึงใจตลอดมา แล้วก็จะไปเหยียบพวกนี้ เข้าใจไหมล่ะ ในข้อนี้จะมาตั้งอันนี้ ทีนี้เมื่อถูกคัดค้านต้านทานก็ถือว่าพวกนี้ทำลายความสามัคคี ยกตัวอย่างเช่น วัดอโศการาม พระท่านทนไม่ไหวเมื่อเห็นฟืนเห็นไฟเข้ามาเผาไหม้พระพุทธเจ้าทั้งองค์ต่อหน้าต่อตาท่าน
ท่านจึงได้ออกมาด้วยความพร้อมเพรียงกัน สมัครใจกัน ไปประชุมที่วัดอโศการาม เป็นจำนวนพระ ๑๐,๓๕๙ องค์ เพื่อชำระสะสางความสกปรกโสมม ที่เลวร้ายที่สุดนี้ เอาความจริงเข้าไปชะล้างด้วยความเป็นเสียงเดียวกัน โดยหลักธรรมหลักวินัยอันเดียวกัน และประกาศให้ทราบทั่วกันในท่ามกลางแห่งสงฆ์นั้นเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งเข้าไปจุดใหญ่เวลานี้ ไปที่นั้นเสียก่อน นี่เป็นความตายตัวสำหรับธรรม ออกก้าวเดินมาจากป่าจากเขาละมากที่สุดเวลานี้ ออกมาชำระสะสางความเลวร้ายทั้งหลายเหล่านี้
ครั้นเมื่อไปประชุมชำระสะสาง เขาก็หาว่าพวกนี้มาทำลายความสามัคคี เขาสามัคคีกันเต็มที่ที่จะเผาบ้านเผาเมืองเขาไม่ได้บอก เขาว่าพวกนี้ทำลายความสามัคคี แล้วผู้ใดที่ไปประชุมนั้นไปหาตรวจดูเหมือนเป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงนั้นแหละ ไปตรวจดู วัดไหนใครเป็นหัวหน้าไปประชุมคราวนี้ๆ คือองค์ไหน ๆ แล้วให้ไปถามดูตามวัด ว่าอย่างงั้น นี่ละดูซิอำนาจป่าเถื่อนเห็นไหม ผู้สะอาดกลับเป็นผู้สกปรก ผู้สกปรกที่สุดกลายเป็นผู้สะอาด ตั้งตัวเป็นผู้สะอาดขึ้นมา เป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงอันใหญ่หลวงทีเดียว กำลังครอบเมืองไทยเราเวลานี้
แต่เวลานี้ครอบแต่ฝีปากต่างหากนะ ยังไม่ได้ถึงขั้นตัวจริงที่จะซัดจะเหวี่ยงกันแบบไหน ทราบไม่ได้นะ เพราะคนทั้งประเทศนี้ไม่ใช่หมา มันเป็นคนด้วยกัน ถ้าลงกันไม่ได้ตามหลักความจริงแล้ว อาจจะฟัดกันแบบไหนมันก็เป็นไปได้ ดังเขารบกัน ใครจะอยากรบ แต่เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องทำอย่างงั้น มันก็อยู่ไม่ได้มันก็ต้องทำ อันนี้ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน เวลานี้กำลัง ประหนึ่งว่าท้าทายกันอยู่ พวกนี้กำลังเที่ยวหาเหยียบหาย่ำไปด้วยความจอมปลอม ความหลอกลวง ไปที่ไหนต้มตุ๋นไปตลอดๆ หาความจริงออกมาประกาศประชาชนให้ทราบไม่มีเลย
ผู้ใดทำความดิบความดี เรียกว่าคนทั่วประเทศเขารักชาติของเขา รักศาสนาของเขา เขาก็ปฏิบัติบำรุงรักษาเต็มกำลังความสามารถ เฉพาะอย่างยิ่ง เช่นการบริจาคทาน เพื่อช่วยชาติศาสนาของตนเองทั่วแผ่นดินไทยนี้ ถูกทำลายถูกโจมตีทุกแบบทุกฉบับ ถูกกลั่นถูกแกล้งไปหมดจากคนประเภทนี้ จากชุมนุมชนมหาโจร ซึ่งกำลังปล้นชาติศาสนา อยู่ด้วยความจอมปลอมหน้าด้าน เวลานี้กำลังแสดงเต็มเหนี่ยว ขอให้ท่านทั้งหลายฟังนะ
หลวงตาบัวนำธรรมของพระพุทธเจ้ามาพูด ไม่โกหกพกลม ไม่เอียงนู้นไม่เอียงนี้ เราพูดตามหลักความจริง เวลานี้เป็นมาอย่างนี้ด้วยความปลิ้นปล้อนหลอกลวงหาความจริงไม่ได้ ใครทำความดีที่ไหน ต้องเป็นข้าศึกต่อพวกนี้ ไปหาจดหาจ้อง หาบีบบังคับบัญชา ดังที่จะมาหาไล่เบี้ยพระกรรมฐานที่ท่านไปประชุม เราคอยฟังเสียงอยู่จะไล่เบี้ยแบบไหน อันนี้เราไม่พูดแหละ เราเป็นแต่เพียงว่าคอยฟังอยู่เท่านั้นเอง เราไม่พูด ไม่เคลื่อนอันนี้ จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้และสอดส่องฟังเสียงเหตุการณ์ต่างๆ ดังที่เคยปฏิบัติมาแล้วอยู่โดยสม่ำเสมอ นี่ละเรื่องฤทธิ์มันแสดงอย่างนี้ ให้ท่านทั้งหลายได้เห็นได้ดู
คนผู้ดีทั้งหลายต้องเป็นข้าศึกของพวกนี้ พวกนี้ต้องไปหาทำลายคนดี คนชั่วเต็มบ้านเต็มเมืองจะไปเสาะแสวงหาจับมัดเข้าคุกเข้าตะราง เพื่อให้คนดีได้นอนตาหลับบ้างนี้ไม่มี แต่มาหาทำลายคนดี คนดีทำความดีมากน้อยเท่าไรยิ่งเด่น เรื่องความชั่วของคนดีคนนั้นในสายตาของพวกนี้ ในความรู้สึกของพวกนี้ จึงต้องโจมตีอย่างหนัก ใครเป็นผู้ทำหน้าที่แทนชาติบ้านเมือง มีหน้าที่ทำอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือเต็มกำลังความสามารถ ผู้นั้นแลเป็นผู้ที่ถูกโจมตีสับยำมากที่สุด อย่างหลวงตาบัวนี้ไม่ว่าละ มันจะเอาอะไรมายำ มาทั้งโคตรมันเราก็ไม่เคยสนใจ ความกล้าเราไม่เคยมี ความกลัวเราก็ไม่มี เรามีแต่ธรรมล้วนๆ พูดตามหลักความจริงที่เป็นมา เวลานี้กำลังหาทำลายคนดีจากความดีของเขานั่นแหละ คือความชั่วความเลวร้ายที่สุดนั้นแหละ ความดีไม่สนใจ ใครเป็นคนดีต้องไปทำลายคนดีให้หมด ให้เหลือแต่เรา
พวกนี้หรือที่จะมาครองบ้านครองเมือง พวกที่แสดงตัวลวดลายอยู่อย่างไม่อายบาปอายกรรม ไม่มีบาปมีบุญอะไรในหัวใจเลย มีแต่กิริยาของเปรตของผี อย่างน้อยของสัตว์เดรัจฉานเท่านั้นเต็มเนื้อเต็มตัว เต็มกิริยาอาการ การแสดงทุกอย่างเป็นเรื่องของสัตว์ของเปรตของผี ไม่ใช่เรื่องของมนุษย์ที่มีน้ำใจเป็นธรรมติดตัวอยู่บ้างเลย เหล่านี้หรือจะปกครองบ้านเมืองในกาลต่อไป ท่านทั้งหลายจะยอมรับไหม พวกนี้จะมาเหยียบย่ำทำลาย พระของเราก็เป็นหมาหมด หมาหัวโล้น ประชาชนก็หมาหัวขน ให้พวกเปรตพวกผีนี้ขึ้นเหยียบย่ำทำลาย วางอำนาจเหยียบหัวคนทั่วแผ่นดินไทย เราอยากฟังเหรอ แล้วเราจะยอมฟังไหม พิจารณาซิ
เวลานี้กำลังวางลวดลายอวดก้ามอย่างเต็มที่ ให้ฟังทั่วหน้ากัน นี้เป็นธรรมที่เรานำมาแสดงให้ทราบ ขอให้ท่านทั้งหลายฟังทั่วถึงกัน ทีนี้เมื่อก้าวเข้าไปหานี้เมื่อไรแล้ว นั่นละที่จะไปตั้งตัวเป็นสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมา กินสมเด็จพระสังฆราชพอแล้วก็จะตั้งตัวเป็นสมเด็จพระสังฆราช เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นแทน แล้วเหยียบหัวสมเด็จพระสังฆราชลงไป ซึ่งเวลานี้สมเด็จพระสังฆราชของเรากำลังถูกกินโต๊ะกินเลี้ยงทั้งๆ ที่ยังไม่ตาย เถือหนังออกไปกินกัน เถือหนังเถือเนื้อ อันไหนพอเฉือนได้เฉือนเอาไปกินกันๆ ทั้งๆ ที่สมเด็จพระสังฆราชเราก็ยังไม่ตาย
แล้วทีนี้ได้ทราบอีกว่า เครื่องทรงของสมเด็จพระสังฆราช เครื่องประดับพระเกียรติท่าน นับตั้งแต่รถพระประเทียบ รถยนต์ประจำตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช เครื่องบริขาร ภาษาพระเรียกว่าบริขาร แต่เป็นเครื่องทรงของสมเด็จพระสังฆราช มีอะไรๆ บ้างเราก็ไม่ทราบนะ เครื่องทรงของสมเด็จพระสังฆราชที่ประจำองค์มาทุกพระองค์ ไม่มีใครไปแตะต้องเลย เป็นมาอย่างนั้นด้วยความดีงาม แต่พอมาถึงสมเด็จพระสังฆราชเรานี้ กินทั้งเนื้อ กินทั้งหนัง กินไปหมด สมเด็จพระสังฆราชเรากำลังถูกเฉือนกันกินอึกทึก แล้วเครื่องทรงของพระองค์ เช่น รถพระประเทียบ หรือเครื่องบริขารประจำสมเด็จพระสังฆราช บริขารเป็นชื่อเหมาะสมกับศัพท์ของศาสนา ศัพท์ของโลกเขาพูดไปภาษาอะไร เราไม่ใช่โลก เราเป็นธรรมเราเป็นพระเราก็พูดตามเรื่อง เรียกว่าเครื่องบริขารสมเด็จพระสังฆราช เวลานี้เขายึดไปครองหมดแล้ว เขาเป็นสังฆราชแทนแล้วเดี๋ยวนี้ เอาเครื่องเหล่านี้ไปหมด
เอาไปเพราะเหตุผลกลไกอะไรเราก็ไม่ทราบ ถ้าใครอยากทราบให้ไปสืบไปถามดูว่า รถก็ดี เครื่องทรงทั้งหลายที่ประจำองค์สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันนี้ถูกยึดไปหมดแล้ว ไปอยู่ในสังฆราชองค์ไหนไปเที่ยวติดตามดูนะ เอาไปเพราะเหตุผลกลไกอะไรให้ไปถามกันดู ถ้าให้ถูกต้องตามธรรม เอาไปหาอะไร ให้เอาคืนมา เราไม่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช ถึงเอาไปแล้วก็ไม่ได้เป็นอยู่นั้นแหละ ไม่ว่าแต่จะเอารถเทวดามา เอารถเทวดาไม่พอจะไปเอารถนรกอเวจีขึ้นมาก็ไม่ได้เป็นสังฆราช เพราะหลักธรรมชาติไม่อำนวย การทำอย่างนี้เป็นการยึดอำนาจ เป็นความตะกละตะกลาม ความโลภเกินเหตุเกินผล เกินความเป็นพระไป เลวร้ายยิ่งกว่าประชาชนเขาอีก อันนี้เด็กเขาก็รู้ เครื่องทรงของสมเด็จพระสังฆราชเอาไปหาอะไร ก็เมื่อเราได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช สิ่งเหล่านี้จะมาเอง
อย่างสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน ท่านไปหารบกวนใครเมื่อไร เหล่านี้ก็มาให้ท่านทรงเองๆ ประดับพระเกียรติท่านก็เป็นมาเอง เราถ้ามีวาสนาก็อย่าไปหาแย่งคนอื่นมาครอง เอามาเหยียบย่ำทำลายเล่นเปล่าๆ ให้เด็กหัวเราะนะ เอาไปทำไม เอาคืนมาถึงถูกต้อง แล้วเอาไป-เอาไปเพราะเหตุผลกลไกอะไร อันนี้เป็นเครื่องประจำสมเด็จพระสังฆราช เราเป็นสมเด็จพระสังฆราชแล้วหรือ ว่าแทน แทนก็เราปั้นเองนี่นะ เราเป็นโจรเอง เราปั้นเอง เราไปยึดของท่านมาเอง เราไม่ได้เป็นคนดิบคนดี เราเป็นโจรเป็นมาร ถ้าเป็นพระก็หัวโล้นโจรมารนั่นเองจะเป็นอะไรไป ผิดจากหลักประเพณี ผิดจากหลักธรรมทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อถึงขนาดผิดแล้วพระวินัยจะพ้นไปได้ยังไง เป็นแต่เพียงไม่ระบุออกมาเท่านั้นเอง เลวไหม พิจารณาซิ
เวลานี้กำลังกินโต๊ะกินเลี้ยงกัน แล้วจะตั้งขึ้นหน้าที่นี้ เอาละแค่นี้นะ โลกจะแตก ตั้งปุ๊บนี้สังฆเภทจะขึ้นทันที สังฆเภทคือพระสงฆ์แตกจากกัน จะไม่ลงรอยกัน นี่เรียกว่างานอันนี้เป็นงานเพื่อสังฆเภท ตั้งขึ้นเมื่อไรก็ต้องเป็นสังฆเภทโดยไม่สงสัย สังฆเภทฝ่ายพระแล้วก็สังฆเภทฝ่ายประชาชน ร้าวรานกันไปหมด ผู้เห็นด้วยไม่เห็นด้วยนั้นต่อยกัน ทางพระก็ผู้เห็นด้วยไม่เห็นด้วยกัดกัน สุดท้ายทั้งพระทั้งโยมเป็นหมาด้วยกันทั้งหมด กัดไปหมด พวกนี้เป็นหัวหน้าหมา ยั่วหมาที่โง่เขลาให้กัดกัน นี่ออกจากตั้งตำแหน่งผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช นี้ละตัวมหาภัยอยู่จุดนี้ แล้วเรายังจะพอใจรับมันไว้อยู่เหรอ เมื่อจะทำลายทั้งชาติทั้งศาสนาให้ล่มจมเพราะจุดนี้ พิจารณานะพี่น้องทั้งหลาย
ถ้าตามธรรมดาแล้วปัดออกทันที ตั้งแต่มดมากัดเรา ยุงกัดเราเรายังปัดออก นี้ไม่ใช่ยุง มันเลยยักษ์ไปแล้ว กินคนทั้งชาติทั้งศาสนาหมดประเทศไทยเป็นของดีแล้วเหรอ ให้พากันพิจารณา ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งนิวเคลียร์นิวตรอน เครื่องสังหารทั้งชาติทั้งศาสนา ให้พระทั้งประเทศทั่วสังฆมณฑลแตกกัน ให้ประชาชนที่เป็นชาวพุทธด้วยกันแตกกัน แตกกันไปหมดเพราะอันนี้เป็นตัวเหตุ ตั้งแต่ก่อนเรื่องนี้ไม่มี พระก็ดี ประชาชนก็ดี อยู่ด้วยความสงบสุขร่มเย็นพอดิบพอดีตามทางของศาสดาที่ทรงสั่งสอนไว้แล้ว และเราปฏิบัติตามนั้นมีความสงบร่มเย็น อันนี้มาจากไหน วิเศษวิโสมาจากไหนที่มาตั้งเด่นอยู่เวลานี้ อวดก้ามของตัวเองว่าใหญ่ว่าโต จะตั้งอันนี้ขึ้นให้ได้ ฟังซิพิจารณาซิ ตั้งขึ้นได้ก็คือทำลายศาสนาและชาติให้จมไปด้วยนั่นละจะเป็นอะไรไป แล้วใครลงใจให้ตั้งไหม พิจารณาซิ ทั้งพระทั้งฆราวาสนั่นแหละ
พระก็อย่านั่งหลับหูหลับตา เรื่องราวมีอยู่อย่างนี้ หูมีตามีด้วยกัน การศึกษาเล่าเรียนไม่ใช่ชั้นต่ำๆ ผู้ที่มาเป็นพระ หัวหน้าพระ มีตั้งแต่คนมีความรู้วิชา ความรู้อันนั้นที่เป็นอรรถเป็นธรรมเอาไปไว้ที่ไหน เอาตั้งแต่ความรู้ที่จะเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ทั้งชาติทั้งศาสนานี้หรือมาใช้ แล้ววิ่งตามกันไปด้วยพวกสังฆเภทนี่หรือ หัวหน้าสังฆเภทก็เป็นอยู่แล้วทั้งฆราวาส ทั้งพระ แล้วพวกบริษัทบริวารสังฆเภทก็คือพวกพระหัวโล้นๆ ที่โง่ๆ เป็นใหญ่เป็นโตขนาดไหนก็จะเห็นตั้งแต่ดินเหนียวติดหัว มันไม่ได้เห็นชาติเห็นศาสนา ว่าเป็นของมีคุณค่ามีราคาแต่อย่างใดเลย เห็นตั้งแต่ดินเหนียวติดหัว
ถ้าไม่ทำตามเขา-เขาจะปลด จะถอดยศๆ ฟังซิน่ะ เกิดมาแต่พ่อแต่แม่หลวงตาบัวก็ไม่เคยเกิดมากับยศ เกิดมากับแม่เราเท่านั้น ยศนี้เขาเอามาให้ทีหลังก็เอาไม่ว่าใคร มันเป็นของภายนอก ส่วนที่เกิดมาทีแรกไม่มียศนะ เป็นหลักธรรมชาติมา อันนี้มียศไม่เป็นยศก็ตาม ขอให้ทำตัวให้ดีเถอะน่ะ ถ้าทำดีแล้วยศอยู่ในนั้นเสร็จ ไม่ต้องไปหาใครมาตั้งมาถอดแหละ ความดีมีอยู่ในตัวแล้วใครมาตั้งไม่ได้ มาถอดก็ไม่ได้ อย่างนี้ตั้งได้ ดินเหนียวติดหัวนี่ ถอดลงเมื่อไรก็ตั้งได้ ดินเหนียวเอามาสักกี่กอง เอามาตั้งจนไม่เห็นหัวมันก็ได้ไม่เห็นยากอะไร นี่หรือที่มีราคา
เห็นตั้งแต่ยศ เห็นตั้งแต่พัดยศ เห็นตั้งแต่สมณศักดิ์นั้นหรือว่าเป็นของดิบของดี ยิ่งกว่าชาติซึ่งมีคุณค่ามากขนาดไหน ยิ่งกว่าศาสนาที่มีคุณค่าล้นโลกล้นสงสารขนาดไหน อันนี้ไม่สำคัญบ้างเหรอ สู้ดินเหนียวติดหัวไม่ได้เหรอจึงพากันหลงเอานักหนาพระเรา เป็นยังไง บังคับมาแบบไหนก็บังคับมาซิ สิ่งที่ขัดกับหลักธรรมหลักวินัยขนบประเพณีมีอยู่ รู้กันอยู่ เห็นกันอยู่ ปฏิบัติตามหาอะไร การเป็นผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยอำนาจที่เป็นอรรถเป็นธรรมต่างหาก ไม่ใช่เป็นผู้ใหญ่ด้วยความเป็นป่าเป็นเถื่อน เที่ยวหาบีบบังคับ แล้วผู้น้อยก็จะหมอบไปตามๆ ไม่หมอบ หมอบไปหาอะไร สั่งมาผิดปฏิบัติตามหาอะไร ชี้หน้าผู้สั่งผิดซีมันถึงถูก นี้ยังจะหมอบไปตามๆ อยู่เหรอ
วันนี้ประกาศเรื่องความจริงให้พี่น้องทั้งหลายทราบ เราเป็นจุดศูนย์กลาง เอาธรรมพระพุทธเจ้ามาประกาศ เรื่องราวมันเป็นอย่างเปิดเผย พูดอย่างเปิดเผยไม่ได้มีเหรอ ต้องพูดตามหลักความจริงที่มันเป็นมายังไง เราไม่ได้หาอุตริ เราเอาความจริงออกมาพูดตามสิ่งที่มันเป็นขึ้นมาแล้วจริงแล้ว ว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้ว เรานำมาพูดให้ท่านทั้งหลายเลือกเฟ้นเสีย
พระเราก็เหมือนกันอย่านั่งหลับหูหลับตา เห็นเขาชมว่าเป็นเจ้าฟ้าเจ้าคุณเป็นสมเด็จเคลิ้มหลับตาลืมเนื้อลืมตัว ชาติจะจมศาสนาจะจมทำไมไม่คิดบ้าง เราเกิดมากับพ่อกับแม่ พ่อแม่เราเป็นคนชาติใด พุทโธ ธัมโม สังโฆมาจากใคร มาจากพ่อแม่ที่แนะนำสั่งสอน เราเห็นเทวทัตเหล่านี้ดีกว่าพ่อกว่าแม่เราหรือ ดินเหนียวติดหัวดีกว่าพ่อกว่าแม่หรือ พระเราถ้าจะรีบแก้ตัวก็ให้แก้เสียนะ อย่าโง่จนเกินไปเราเป็นพระถึงขนาดเจ้าฟ้าเจ้าคุณเป็นเจ้าคณะนั้นคณะนี้โง่อะไรนักหนา วิ่งตามพวกบัดซบพวกสังหารทำลายชาติทำลายศาสนาเป็นของดีแล้วหรือ เราวิ่งตามเราก็เป็นเพชฌฆาตคนหนึ่งสังหารทั้งชาติทั้งศาสนา แล้วก็เป็นเทวทัตคนหนึ่ง ลูกน้องเทวทัตไปอีก
นี่แหละเรื่องราว ถ้ามาลงจุดนี้แล้วชาติศาสนาแตก เพราะเวลานี้มันยังไม่ขึ้น เรายังจะยอมเสริมให้มันขึ้นอยู่หรือ หือ ไอ้เรื่องนิวตรอนนิวเคลียร์นี่ ที่กำลังจะตั้งนี่ มันวิเศษวิโสอะไรตั้งอันนี้ขึ้นมา ได้ความดิบความดีอะไร เพียงแต่มันเริ่มไหวตัวเท่านั้น ชาติไทยทั้งชาติทั้งฆราวาสทั้งประชาชนแตกฮือๆ เป็นสังฆราชีร้าวรานกันหมดแล้วเวลานี้ จากนั้นก็เป็นสังฆเภทแตกกระจัดกระจาย ถ้าเป็นหม้อก็ร้าวแล้ว เวลานี้กำลังร้าว พอตีเป๊าะเข้าไปเท่านั้นแตกหมดเลย นี่พอตั้งปุ๊บแตกกระจัดกระจายเลย ยังจะพอใจตั้งกันอยู่เหรอ ยังจะพอใจรับกันอยู่หรือมหาภัย พิจารณาซิ
ศาสนาของพระพุทธเจ้ามีที่ไหนในเรื่องเหล่านี้ มาตั้งเป็นนั้นเป็นนี้ไม่มีฆราวาสเข้ามายุ่มย่ามกับพระ มาถืออำนาจเหยียบย่ำทำลายพระตามอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ของตนไม่มีในหลักธรรมวินัย พระพุทธเจ้าสอนโลกมาได้ ๒๕๐๐ กว่าปี แม้จะมาเป็นสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระสังฆราชองค์ไหนก็มีประเพณีอันดีงามมา ไม่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่ถูกแย่งกินตับกินปอดทั้งๆ ที่ยังไม่ตายดังที่เห็นอยู่เวลานี้ จากคนที่ตะกละตะกลาม พวกตะกละตะกลาม กินไม่เลือกๆ มันดูไม่ได้นะเวลานี้ แล้วฆราวาสมายุ่งทำไมพระ ศาสนาพระพุทธเจ้าปกครองมาแล้วด้วยความสมบูรณ์พูนผล บกพร่องตรงไหนจึงต้องมายุ่ง
แล้วความมายุ่งมันดีที่ไหนเวลานี้ กำลังจะแตกกันนะประเทศทั้งประเทศ มันดีแล้วหรือด้วยวิธีการอย่างนี้ ได้อุบายแยบยลมาจากไหนมาทำคนให้แตกทั้งประเทศทั้งพระทั้งประชาชน อุบายนี้ดีเลิศแล้วหรือ ใครจะชมอุบายนี้ เอ้า ถามกันไปซิ อุบายที่จะทำลายชาติทำลายศาสนาเป็นของดีแล้วหรือ ถ้าไม่เป็นของดี เอ้า ปัด ให้ทุกคนปัดซิ ตั้งแต่ยุงกัดเรายังปัด ขี้หมูราขี้หมาแห้งกระเด็นมาถูกเราเรายังปัดออก อันนี้มันขี้หมูขี้หมาอะไร มันทั้งฟืนทั้งไฟเลยขี้หมูขี้หมาไปแล้ว จะสังหารคนทั้งชาติทำไมจะไม่ปัด ถ้าหากเราเป็นลูกชาวพุทธเราเป็นลูกชาวไทยต้องปัดซิ เราเป็นคนทั้งคนเป็นคนแต่เขาหรือ เราก็เป็นคนเต็มตัวเหมือนกัน ต้องให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ
นี่ละกลหลอกลวงโลกที่จะกลืนโลกที่จะเอาไฟเผาโลก เป็นมาตั้งแต่ต้นดังที่ว่า ไม่ได้เอาของจริงไปพูดแหละนะ เอาตั้งแต่หลอกลวงต้มตุ๋นไปเรื่อยๆ เขาทำความดีเต็มโลกเต็มสงสารในเมืองไทยของเรานี้ ทองกิโลฯหนึ่ง พวกนี้ก็ไม่เคยเห็นมันเอาทองกิโลฯหนึ่งมาให้ พอจะประกาศความดีของตนแล้วมาคัดค้านใครต่อใครได้บ้างนะ ทองกิโลฯหนึ่งก็ไม่เห็น ดอลลาร์หนึ่งเราก็ไม่เคยเห็นจากพวกนี้ ดอลลาร์หนึ่งดอลล์ก็ไม่เห็น เงินบาทก็ไม่เคยเห็น แต่เรื่องการทำลายผู้อื่นที่เขาทำดีนี้ ไม่มีใครเกินพวกนี้ หาช่องหาทางทำลายตลอดเวลา ให้พากันจำเอาไปคิดชั่งตวงให้ดีนะ
พระเราก็อย่านั่งหลับหูหลับตาอยู่ เราเป็นลูกศิษย์ตถาคต ตถาคตไม่ได้เป็นคนหลับหูหลับตาวิ่งตามเหยื่อล่ออย่างนี้เหมือนพวกพระเรานี้นะ พวกเราวิ่งตามเหยื่อล่อ แล้วเวลาเบ็ดติดปากลงไปเลือดใครล่ะ เลือดปากเรามันสาดออกเอง เลือดของคนทั้งประเทศตายไปด้วยกันอีกนะ เอาละวันนี้พูดเท่านี้เสียก่อน
นี่ได้เปิดเรื่องราวให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วหน้ากันว่ามันเป็นอย่างนี้ หลวงตาพูดตามหลักความจริง เอาธรรมมาแสดง ไม่มีคำว่าคลาดเคลื่อน ตายคอขาดไปเลย หลวงตาไม่ได้พูดคลาดเคลื่อนจากหลักความจริง ต้องการให้โลกนี้มีความสงบร่มเย็น การร้าวรานการแตกกันเป็นของดีแล้วหรือ เราพูดให้คัดให้เลือก อะไรไม่ดีให้คัดออกๆ แล้วเอาแต่ของดีมาใช้ทั่วหน้ากันในเมืองไทยเรา แล้วศาสนาก็จะทำโลกให้ร่มเย็นเต็มที่จากความสนใจของเรา ประชาชนสนใจในอรรถในธรรมก็มีความสงบร่มเย็นทั่วหน้ากัน เอาละเอาแค่นี้ก่อนนะวันนี้
ชมการถ่ายทอดสดทั่วโลกทุกวัน ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th |