เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
อำนาจแห่งทิฐิมานะ
ทองคำนี้ก็มาเรื่อยๆ ตอนเราไปกรุงเทพก็จะได้อีก เราลงไปวันที่ ๒๕ มีนา กว่าจะถึงวันที่ ๑๒ เมษา ก็ยังอีกหลายวัน ๒๕ มีนา ถึงวันที่ ๑๒ เมษา ก็เป็น ๑๗-๑๘ วัน มันจะมาอีกในระยะนั้น เพราะเราไปบวกลบคูณหารกันไปพร้อม ได้เท่าไรมีเท่าไรๆ แล้วเรื่อยเลย หมุนเรื่อย พอถึงจุดของเราที่ทองคำ ๑๐ ตัน และดอลลาร์ ๑๐ ล้าน ที่ว่านี้ขาดไม่ได้เลย เพราะเป็นเครื่องหมายของศักดิ์ศรีดีงามแห่งชาติไทยของเรา จะขาดไปสตางค์หนึ่งนี้ไม่ได้เลย เราตั้งจุดหมายไว้เพื่อความศักดิ์ศรีดีงามสง่าราศีของชาติไทยเรา ที่ตั้งไว้นี้นะ เพราะเวลามอบมันจะกระเทือนทั่วโลกไม่ใช่ธรรมดานะ
ส่วนเงินสดก็ดังที่เคยประกาศแล้ว กระจายทั่วประเทศไทย แล้วเมืองนอกก็ยังมี เมืองนอกก็ฝั่งลาว ทางพม่า แน่ะ มันก็ไปอย่างนั้นนะ พม่าก็ไป ไม่มากก็ไปว่าไง พม่าไปไม่มากนัก ช่วยโรงพยาบาล ฝั่งลาวก็เหมือนกันโรงพยาบาล ฝั่งลาวรู้สึกจะมากอยู่ พวกรถ เอกซเรย์ ที่ใหญ่ๆ นะ แล้วสร้างตึกถึง ๓ หลัง ส่วนที่พอจำได้นะ นอกจากนั้นเราจำไม่ได้ ของที่เอาไปช่วยพี่น้องทางประเทศลาวเรานี้ สิ่งของอาหารการบริโภคไม่ใช่น้อยๆ นะ ใส่รถสิบล้อๆ เป็นแถวเลย ไปนี้เขาก็เปิดทางให้ ไปนี้ขึ้นเลยกองพะเนิน อย่างนี้ละ ของพวกอาหารพวกข้าวพวกอะไร เครื่องกระป๋งกระป๋องเต็มเลยเทียว เพราะเราเป็นผู้สั่งเอง ข้าวก็เหมือนกัน รถก็หลายคัน รถสิบล้อๆ เป็นแถวเลย ทางนู้นเขาก็เตรียมรอรับทางนู้น พอทางนี้ไปก็ขึ้นเลย ไม่ต้องมีอะไรต่อไปอีกแหละ ส่งต่อส่งอะไรไม่ต้อง เขาเปิดทางให้ขึ้นเลย มันก็สะดวก อย่างนี้แหละช่วยโลก
โรงพยาบาลมากอยู่ ส่วนพม่าก็ได้ล้านกว่าเท่านั้นไม่มาก เขาขอเท่านั้นก็พอดีเราเหมาะกันในระยะนั้น เราก็ให้ตามนั้นเลย สำหรับประเทศไทยนี้เรียกว่าทั่วไปหมด เป็นแต่เพียงว่ามากกับน้อย ทุกภาคที่เงินสดนี้ออกไปช่วย ทุกภาคไม่มีเว้นประเทศไทยเรา เงินทั้งหมดสมบัติทั้งหมดเราก็ภูมิใจของเรา ที่เราได้ช่วยโลกด้วยความบริสุทธิ์สุดส่วน เพราะความเมตตาครอบๆ เลย จะมามีมลทินกับหัวใจนี้เรียกว่าไม่ได้เด็ดขาด ว่างั้นเถอะน่ะ เด็ดขาดเลย เพราะเราช่วยโลกจะมาช่วยอะไรพุงเรา ช่วยกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ในชาตินี้เราก็ภูมิใจที่ได้ช่วยบรรดาพี่น้องทั้งหลาย ช่วยตัวเองเต็มสัดเต็มส่วนแล้วก็ช่วยพี่น้องทั้งหลายเต็มกำลังความสามารถเช่นเดียวกัน พอจากนี้แล้วจะช่วยแบบนี้อีกก็ไม่มีอีกแล้วสำหรับในชีวิตของเรา พอลงจากนี้แล้วก็มีแต่จะปล่อยไปเรื่อยๆ แหละ นี่เราก็เตือน เป็นคำเตือนสำหรับขันธ์กับจิตนี้รู้สึกมันอะไรกันอยู่ เวลาเราหมุนติ้วๆ กับชาติบ้านเมืองเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ปรากฏ เพราะความมุ่งทั้งหลายมันออกทั่วประเทศไทย เรื่องตัวเองจึงไม่มาคิด ทีนี้พอกำหนดวันว่าจะปิดโครงการที่เทศนาว่าการในที่ต่างๆ นั้นปิดลงไปแล้วเท่านั้น มันรู้สึกยิบแย็บๆ คอยเตือนนั่นแหละ มีอาการแปลกๆ อยู่
เพราะเราไม่หวังอะไรแล้วในโลกทั้งสามนี้เราบอกจริงๆ นี่ละธรรมพี่น้องทั้งหลายฟังเอา พูดได้อย่างเปิดเผย ไม่สะทกสะท้าน เพราะเต็มอยู่ในหัวใจ ถอดออกจากนี้มาพูด จึงไม่เคยสะทกสะท้านกับอะไรที่จะมาเห่ามาหอนมาโจมตีท่านั้นท่านี้ มันก็เหมือนหมาเห่าฟ้า เป็นยังไงหมาเห่าฟ้า อันนี้ก็เหมือนกันเราพูดจริงๆ ไม่มีละ ฟ้ามันมีขอบเขตที่ไหน มีที่ไหนบ้างฟ้า แต่เราก็เรียกว่าฟ้า มันก็พอที่จะพูดกันได้ ธรรมธาตุมันไม่ใช่ฟ้าลมๆ แล้งๆ ฟ้านี่มันจ้าจริงๆ นั่น ถอดออกมาจากนี้มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังในเรื่องผลแห่งการปฏิบัติตามศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า เรียกว่าได้เต็มสัดเต็มส่วน เพราะสอนเต็มส่วน พระพุทธเจ้าสอนตั้งแต่พื้นๆ ถึงนิพพานเลย นี้ปฏิบัติผู้สามารถจะเป็นไปได้แค่ไหนก็เป็นไปตามนั้นๆ พุ่งก็ถึงเลย
อย่างสาวกอรหันต์ทั้งหลายมีแต่ผู้ถึงนิพพานแล้วทั้งนั้น ตามความฉุดลากของพระพุทธเจ้า คือพระโอวาทสั่งสอนนั้นแหละ นั่นธรรมพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น ขอให้ตายใจนะ ศาสนธรรมไม่มีแง่งอน เราเอาตัวของเราออกยันเลยทีเดียว เพราะเราไม่สงสัยอะไรพูดออกมานี่ เราพูดออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตามหลักความจริงที่เป็นอยู่นี้ ให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายผู้กำลังคืบคลาน ให้คืบคลานไปอย่าถอย ทุกข์ยากลำบากมันก็มีอยู่ทั่วโลกนั่นแหละ โอกาสที่เราจะสร้างความดีก็มีอยู่ด้วยกันให้ได้ มีมากมีน้อยไม่สำคัญ มีเท่าไรทำลงไปในส่วนเกี่ยวกับการบริจาค การบำเพ็ญตัวให้เป็นคนดีประจำตน ก็ให้เป็นไปอย่างนั้นตลอด
ภาษาธรรมนี่พูดได้อย่างตรงไปตรงมา เราเป็นจุดศูนย์กลางของโลกทั้งดีและชั่ว เราอยู่ในจุดศูนย์กลาง พูดไปตามหลักความจริง ดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่ว เราไปอยู่ในจุดศูนย์กลาง เราไม่มีคำว่าแพ้ว่าชนะ ในหัวใจของเราหมดโดยสิ้นเชิง ความว่าแพ้ว่าชนะเราก็ไม่มี คำว่ากลัวก็ดี คำว่ากล้าก็ดี ในหัวใจของเราหมดโดยสิ้นเชิง ไม่มี ความเอารัดเอาเปรียบผู้ใดเหล่านี้เราไม่มี มีแต่ความสงสารเมตตาครอบเอาไว้ เพราะฉะนั้นจึงสอนทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่วให้รู้เนื้อรู้ตัว ควรจะแก้ไขดัดแปลงอะไรก็ให้รีบแก้ไขเสีย ภาษาที่หลวงตาบัวนำมาพูดนี้เป็นภาษาของธรรมพระพุทธเจ้า
ธรรมพระพุทธเจ้านั้นเราได้ปฏิบัติมาบรรจุเต็มอยู่ในหัวใจของเรา เพราะฉะนั้นการพูดจึงไม่มีเคลื่อนจากธรรม ผิดก็บอกว่าผิด ถูกก็บอกว่าถูก อย่างนี้ตลอดไป ใครจะปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติตาม มันก็เป็นกรรมดีกรรมชั่วของบุคคลและสัตว์ไปเท่านั้นเอง พระพุทธเจ้าก็สอนอย่างนั้น ใครจะเอาก็เอา ไม่เอาก็สุดวิสัย ปล่อยไป นี้ธรรมก็เป็นธรรมอันเดียวกัน มาสอนก็ต้องสอนแบบเดียวกัน สอนอย่างอื่นไปไม่ได้ คือเราไม่มีพรรคนั้นพรรคนี้ ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ เราไม่มี เราอยู่จุดศูนย์กลางคือเหนือทุกอย่าง ธรรมอันนี้เหนือทุกอย่างแล้ว สามารถที่จะสอนได้ทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่วได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะไม่มีหนักทางไหนๆ ไม่มีฝั่งนั้นฝั่งนี้ ไม่มีพวกเขาพวกเรา เราไม่มี
คนดีคนชั่วก็มีเต็มอยู่ในโลก คละเคล้ากันมาอย่างนี้ แม้แต่ร่างกายเรา ส่วนดีส่วนไม่ดีมันก็มีสับปนกันไปอยู่ในร่างกายของเรา เราอย่าว่าแต่ที่อื่นกว้างๆ เลย แม้แต่ร่างกายของเรามันก็ไม่ได้สมบูรณ์สุดส่วนของมัน มันหากมีบกพร่องของมันส่วนนั้นส่วนนี้ อันนั้นดีอันนี้ไม่ดี อยู่อย่างนั้นในร่างกายของเราก็ดี ทีนี้เรื่องของโลกแยกเป็นรายของบุคคลและสัตว์ไป มันก็มีส่วนดีส่วนชั่วอยู่เหมือนกัน ถ้าผู้จะประสงค์ความดีก็ให้พยายามแก้ไขความไม่ดีของตนเสีย แล้วปฏิบัติตนให้เป็นคนดีไป
อย่างเวลานี้ชาติไทยของเราก็เป็นชาติที่สงบร่มเย็นมานาน เวลานี้ก็รู้สึกเป็นเรื่องที่จะระส่ำระสาย นอกจากเหตุการณ์ที่จะทำลาย ให้เป็นการระส่ำระสายแล้ว ยังเป็นความร้าวราน มันปรากฏขึ้นมาๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกไม่ดี ขอให้บรรดาพี่น้องลูกหลานทั้งหลายพากันงดกันเว้นไปเสีย อย่าชิงดีชิงเด่นกัน การชิงแบบนี้ไม่ได้ดีได้เด่น มีแต่เลวลงไปเท่านั้น ทั้งตัวเองและชาติทั้งชาติเสียหายไปหมด ตลอดถึงศาสนาไม่มีชิ้นดีเลย จึงไม่ควรฝืนไปตามทิฐิมานะของตนที่ผิดๆ นั้น เข้าใจว่าตนถูกๆ ทั้งๆ ที่ตนก็รู้ว่าผิดอยู่ ให้รีบแก้ไขเสียดีกว่าที่จะสั่งสมให้มากขึ้น แล้วมันจะเผาไหม้คนทั้งชาติทั้งศาสนาไปตามๆ กัน แล้วไม่มีใครดีในโลกอันนี้นะ ส่วนความชั่ว ผู้ทำชั่วก็โกยเอาไป ผู้ไม่ชั่วก็ดีไป อย่างนั้นแหละ อะไรที่ไม่ดีให้รีบแก้ไขเสีย นี่เป็นภาษาธรรมมาพูดให้ฟัง
เวลานี้ดังที่เป็นอยู่เวลานี้ เรื่องที่เป็นอยู่ ฝ่ายที่เกิดขึ้นมาเป็นขึ้นมานี้ เอาธรรมไปตัดสินว่าไม่ถูก ธรรมเป็นความสงบร่มเย็น เป็นความถูกต้องดีงามมาตลอด ผู้ปฏิบัติตามธรรมเป็นความถูกต้องดีงามมาเรื่อยๆ สิ่งที่เข้าไปขัดไปขวางไปทำลายนั้นคือฟืนคือไฟสิ่งเผาไหม้ เป็นความผิด ขอให้ลดให้แก้ไข หรือให้หยุดไปเสีย บ้านเมืองเราจะร่มเย็น การที่จะเผาไหม้ทั้งชาติทั้งศาสนานี้ไม่ใช่เป็นของดี กระเทือนทั่วประเทศไทย แดนพุทธศาสนากระเทือนไปหมดไม่ใช่ของดี จากเหตุการณ์ที่เลวร้ายซึ่งกำลังเกิดขึ้นเวลานี้ ไม่เป็นของดี ให้พากันพิจารณาเสีย
ที่เราทำลงไปนั้นเราว่าถูก แต่สิ่งที่ตัวทำมันผิดแล้วคนทั้งโลกเขาก็รู้ได้เหมือนกันว่าผิดว่าถูก ขอให้พากันพิจารณาเสีย อย่าเอาทิฐิมานะมากดมาดันมาเผากัน ไม่มีชิ้นดี มีแต่ความฉิบหาย ผู้รับเคราะห์ก็คือชาติและศาสนาอยู่ในเมืองไทยเรานั่นแหละ ไม่มีใครจะรับแหละ ไม่มีใครจะได้เลิศเลออะไรจากการก่อเรื่องฟืนเรื่องไฟเผาอวัยวะตนเอง เอ้า เอาไฟจี้เข้าไปซิอวัยวะของใคร จะปรกติขนาดไหนก็ตาม เอาไฟจี้ลงไปต้องสะดุ้งทันทีเลย อันนี้ก็ความชั่วช้าลามกเข้ามาจ่อในชาติในศาสนาของเมืองไทยเรา มันก็กระเทือนกันทั้งประเทศนั่นแหละ นี่คือความชั่ว ให้งด ถ้าพูดตามสายธรรม ผู้จะฟังธรรมก็ให้ฟังไป
การก้าวมาแห่งเหตุการณ์เหล่านี้ ไม่ถูก เป็นมาโดยลำดับ เราพิจารณาโดยสายของธรรม ก่อมาเรื่อยๆ แล้วก็เกิดเรื่องเรื่อย เกิดเรื่องเมื่อไรก็เป็นความทุกข์เดือดร้อนทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ไม่ดี ยิ่งเกิดมากเท่าไรก็ยิ่งจะเดือดร้อนมากขึ้นไป ให้ระงับดับลงไปเสีย เมืองไทย ชาติและศาสนาของเราจะเจริญรุ่งเรือง เวลานี้ซึ่งกำลังดำเนินอยู่นี้ไม่ถูก เราพูดตรงไปตรงมา ไม่ถูกยังไง เช่นอย่างผู้เป็นต้นเหตุ คือใคร โลกก็นิยมกันว่าเป็นผู้มีความรู้ความฉลาด เรียนกฎหมายบ้านเมืองตลอดศีลธรรมก็เข้าใจว่าจะเรียน ถึงไม่เรียนก็มีเพื่อนมีฝูง มีครูมีอาจารย์คอยแนะนำสั่งสอน รู้จักดีชั่วอยู่แล้ว ก็ควรจะรู้จักดีจักชั่ว ไม่ควรจะกำเริบเสิบสานในทางที่ชั่ว เหยียบหัวความดีไป ไม่สมควรอย่างนี้เอง
นี่สั่งเสียกันจนระนาวไปเวลานี้ เป็นความผิดทั้งมวล นี่เอาธรรมเข้าไปจับตัดสินกัน อำนาจต้องใช้ในทางที่ถูกต้อง ตามกฎหมายบ้านเมืองและศีลธรรม โลกจึงจะร่มเย็น อำนาจที่เอาไปใช้เป็นป่าๆ เถื่อนๆ อย่างนี้ อำนาจนี้มีไว้เพื่อความสงบสุขร่มเย็น คืออำนาจมาจากกฎหมาย กฎหมายท่านวางไปอย่างสม่ำเสมอ เราอาศัยอำนาจแฝงในทางกฎหมาย มันกลายเป็นกฎหมอยไปเสีย แล้วก็กลายเป็นฟืนเป็นไฟ เช่นอย่างสั่งทางโน้นทางนี้ดังที่เห็นอยู่เวลานี้ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าตัวเป็นผู้ใหญ่ สั่งการสั่งงานว่าอยู่เหนือนั้น คำว่าเหนือนั้นเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมือง แต่สิ่งที่สั่งไปนั้นมันไม่ถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมือง จะให้ผู้น้อยรับปฏิบัติตามทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมเป็นไปได้ยากหนึ่ง เป็นไปไม่ได้หนึ่ง เมื่อเป็นไปได้ยากก็ฝืนกัน เมื่อเป็นไปไม่ได้มันก็ต้องต้านทานกัน ดีไม่ดีก็รบกันได้
ระหว่างดีกับชั่ว จะให้คนดีฝืนไปทำความชั่วเหมือนคนชั่วอย่างนั้นไม่ได้ ต้องไปตามกฎเกณฑ์ของกฎหมายบ้านเมือง กฎหมายท่านตั้งไว้ว่ายังไง อันนี้เราเป็นผู้ใหญ่เราจะสั่งดะไป โดยถือว่าตัวเป็นผู้มีอำนาจ อำนาจป่าเถื่อนใครจะเชื่อถือได้ อำนาจของโจรของมารก็มีแต่จะเผาส่วนรวมเท่านั้นเอง จึงต้องได้ระมัดระวังสิ่งเหล่านี้
สั่งเสียไปทุกสิ่งทุกอย่าง บังคับบัญชา เช่นอย่างฆราวาสนี้ก็สั่งไปทุกแห่งทุกหน หน่วยราชการต่างๆ ให้มาอยู่ใต้อำนาจความป่าเถื่อนของตนนี้เสียทั้งหมด แล้วใครจะมาอยู่ได้ ความเป็นป่าเป็นเถื่อนใครก็ไม่อยากเป็น แล้วการสั่งเสียไปทางที่ผิดอย่างนี้ก็เป็นความกระทบกระเทือนต่อจิตใจแล้ว แม้จะปฏิบัติตามก็ไม่สะดวกใจสำหรับคนดีทั้งหลาย ขัดข้องอยู่นั้นละ จากนั้นมาแล้วก็ลุกลามขึ้นไป ลุกลามขึ้นไป ผู้เห็นด้วยก็มี ผู้ไม่เห็นด้วยแต่จำยอมไปก็มี ผู้ไม่เห็นด้วยและจะคัดค้านกันก็มี มันมีหลายพรรคหลายพวกที่จะให้เกิดฟืนเกิดไฟเผาไหม้ชาติไทยของเรา เพราะอำนาจที่เอามาใช้ในทางที่ผิด บังคับบัญชาไปทุกหน่วยงาน ซึ่งถือว่าอยู่ใต้อำนาจของตน
การบังคับบัญชาไปนั้นถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมือง-ศีลธรรมหรือไม่ ถ้าไม่ถูกเราก็ผิดคนเดียวก็ทำคนทั้งประเทศให้ผิดไปตามๆ กันหมด ผิดอันนี้ สายตาของธรรมชี้บอกว่าผิด พิจารณาโดยธรรมแล้วว่าเป็นความผิด การบังคับบัญชานี้ การบังคับบัญชามีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ แต่บังคับบัญชากันอยู่ในอำนาจแห่งความมีกฎมีเกณฑ์ มีศีลมีธรรม มีกฎหมายบ้านเมือง เป็นผู้ใช้อำนาจเพื่อความดีสำหรับหมู่ชนอยู่ร่วมกันเป็นสุข แต่จะใช้อำนาจแบบนี้แล้วเพื่อความเลวร้าย เพื่อความเป็นฟืนเป็นไฟ จะเผากันไปได้ไม่สงสัย ถ้าไม่ระงับไม่ดับนะ
นี่เช่นตั้งฆราวาสอย่างนี้ ยกตัวอย่าง ฆราวาสผู้นี้เป็นผู้ใหญ่ แล้วสั่งไปทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามความผิดของตนเอง แม้ตัวเองก็รู้ว่าผิดอยู่แต่ตั้งหน้าตั้งตาหน้าด้านทำ และบังคับคนอื่นให้ทำตามตัวนี้ ใครจะไปลงใจทำได้ นี่อันหนึ่งที่บังคับบัญชามาทุกแห่งทุกหน ไปที่ไหนๆ มีแต่ถูกเจ้าอำนาจป่าเถื่อนบังคับไว้หมด ด้วยความเป็นป่าเถื่อนของตนๆ ประจานตัวเองให้โลกผู้ดีทั้งหลายได้เห็นทั่วประเทศของเรา อย่างนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง สำหรับคนที่มีความรู้วิชาควรจะเป็นที่เคารพนับถือยำเกรงและปฏิบัติตามของผู้น้อย กลับเป็นเสี้ยนเป็นหนาม เป็นฟืนเป็นไฟเผาผู้น้อยไปแล้ว อย่างนี้ไม่เหมาะสมเลย กับผู้มีความรู้ที่จะให้เป็นความร่มเย็นแก่ผู้อยู่ใต้อำนาจของตน กลายเป็นฟืนเป็นไฟเผากันไปอย่างนี้ไม่เหมาะสม ไม่ถูก
ทางฝ่ายฆราวาส บังคับบัญชาไปเสียทุกแห่งทุกหน ตาสีตาสาอยู่ในท้องนา เขาไม่รู้ภาษีภาษาอะไรก็บังคับให้เขาทำตามความต้องการของตนๆ อย่างนี้เรียกว่าผิดทั้งเพ ไม่มีอะไรถูกเลย เอาอำนาจป่าเถื่อนมาใช้ในประเทศที่มีศีลมีธรรม มีกฎมีเกณฑ์ มีกฎหมายบ้านเมือง อย่างนี้ไม่ถูก นี่ทางฝ่ายฆราวาสทำอย่างนี้ไม่ถูก ผิดทั้งเพ เอ้าทีนี้ทางฝ่ายพระได้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา ใหญ่ขึ้นมา เรียกว่ายกยอกันว่าเป็นผู้มีอำนาจวาสนา สมควรได้เป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เหนือนั้นก็ตั้งลงมาให้เป็นนั้นเป็นนี้ขึ้นมาโดยลำดับ เพื่อจะปกครองศาสนสมบัติและบรรดาพระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑลให้อยู่ในความร่มเย็นเป็นสุข ตามกฎหมายหรือตามกฎกติกาที่ตั้งไว้แล้ว สำหรับผู้ที่มีอำนาจนำมาใช้ ต้องเป็นผู้ใช้ไปในทางที่ถูก
แต่ใช้สั่งดะไปเลย สมมุติว่าเป็นเจ้าคณะนี้คณะนั้น เจ้าคณะใหญ่คณะไหนก็ตาม แล้วหัวหน้าที่ว่าเป็นเจ้าคณะนั้นบังคับบัญชาในทางที่ผิดที่พลาด ให้พระสงฆ์ผู้น้อยทำตามอย่างนี้ก็ไม่ถูก ไม่ถูกโดยสิ้นเชิง เรียกว่าผิดโดยสิ้นเชิง นี่เป็นความผิด เอาอำนาจไปใช้ในทางที่ผิด ไม่ถูกกับหน้าที่ของพระซึ่งเป็นผู้มีเมตตาธรรมอยู่แล้ว แล้วสั่งการสั่งงานด้วยอำนาจแห่งกฎข้อบังคับหนึ่ง ด้วยอำนาจแห่งศีลแห่งธรรมแฝงกันไปนั้นหนึ่ง จะเป็นความสุขความเจริญร่มเย็นแก่ผู้น้อย
นี่เท่าที่ทราบมานี้สั่งดะไปหมด บรรดาพระเจ้าพระสงฆ์ที่อยู่ในอำนาจสั่งดะไปแบบเดียวกัน ผิดแบบเดียวกันไปหมด ไม่มีทางไหนถูก ทางฆราวาสก็สั่งดะไปตามความชอบใจ ความโหดร้ายของตนนั่นแหละ แล้วทางฝ่ายพระกลายเป็นความโหดร้ายไปอีก ถ้าใครไม่ทำตามจะปลดนั้นปลดนี้ ทำโทษอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นความผิดเรื่อยไปสำหรับผู้น้อยที่ถูกต้องอยู่แล้วไม่พอใจ คนทั้งโลกเขาทราบเขาก็รู้ว่าไม่ถูกไม่ดีเขาก็ไม่พอใจ นี่สร้างความร้าวรานต่อกันแล้ว ระหว่างฆราวาสก็สร้างความร้าวรานแก่ประชาชนพลเมืองไปอีกทางหนึ่ง และทางฝ่ายพระก็สร้างความร้าวรานให้แก่บรรดาพระเจ้าพระสงฆ์สังฆมณฑล ให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายทั่วประเทศไทยของเรานี้ไปอีกทางหนึ่ง
ทั้งสองทางนี้เป็นทางที่ไม่ถูกทั้งนั้น มาปฏิบัติกดขี่ข่มเหงสำหรับผู้น้อยซึ่งเป็นคนดี ไม่สมควรอย่างยิ่งในความเป็นผู้ใหญ่ของตนแต่ละฝ่ายๆ ควรจะรู้สึกตนเสียบ้างนะ ถ้าไม่รู้สึกตนไฟจะลุกลามเผาไหม้ทั้งชาติทั้งศาสนาในเมืองไทยของเรา และชาติไทยนี้ผู้ดีมีอยู่เยอะ ไม่ใช่น้อย ๆ นอกจากไม่แสดงออกมาเท่านั้นเอง มีตั้งแต่ตนออกลวดลายอย่างเดียวประหนึ่งว่าตนนี้ใหญ่คับโลก ทั้งๆ ที่ตัวเท่าอึ่งอ่างนี้ และใหญ่คับโลก จะมาครอบโลกด้วยอำนาจของอึ่งอางมันเป็นไปไม่ได้นะ มันหากเป็น เมื่อมันทนไม่ไหวคนเรามันก็ต้องฟัดกันโดยดี
อย่างนี้อย่าให้มีในเมืองไทยของเรา ซึ่งมีทั้งกฎหมาย มีทั้งศีลธรรมประจำใจ และเป็นแดนแห่งพุทธศาสนาด้วย ไม่ควรจะเอาสิ่งป่าๆ เถื่อนๆ มาเผาผู้ดีทั้งหลาย ซึ่งมีจำนวนมากทั่วทั้งประเทศไทย ไม่สมควรอย่างยิ่ง ให้งด สิ่งเหล่านี้ไม่ถูก เท่าที่ดำเนินมานี้ไม่ถูก ถ้าพูดถึงเรื่องการตั้งผู้ทำงานแทนสมเด็จพระสังฆราชอย่างนี้ หลักธรรมหลักวินัยท่านสมบูรณ์แบบแล้ว นี่คือความถูกต้องดีงาม ท่านดำเนินมาก่อนแล้วตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าลงมา
ถ้าพูดถึงเรื่องพระเจ้าพระสงฆ์นี่พระพุทธเจ้าทรงเป็นตัวอย่างพระองค์หนึ่ง แล้วก็เห็นในตำราอีกด้วยว่าพระปูติคัตตะ เป็นผู้ป่วยตัวเน่าหมดทั้งตัว พระสงฆ์ท่านอุปถัมภ์อุปัฏฐากดูแลอยู่แล้ว จนกระทั่งทนไม่ไหว เพราะหมดทั้งตัวเปื่อยเน่าไปหมด พระทนไม่ไหว พระก็ถอยห่างออกไป เพื่อห่างจากจมูกกับกลิ่นที่เหม็นฉุนๆ นั้นเสียบ้าง พระพุทธเจ้าทรงทราบเสด็จมาทรงอุปัฏฐากเอง ฟังซิน่ะ ทรงอุปัฏฐากพระปูติคัตตะองค์นั้น เมื่อเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมาทรงทำหน้าที่เอง พระสงฆ์ทั้งหลายเหล่านั้นก็ทนไม่ได้ วิ่งกันเข้ามาช่วยพระพุทธเจ้าอีก เห็นไหม
นี่หลักธรรมหลักวินัยท่าน ท่านไปเอาใครมาช่วย ใครไปตั้งเอาคนไหน หน่วยงานไหนมาจากวงราชการ จากรัฐบาล ท่านไปเอางานที่ไหนมาตั้ง มาตั้งกันเป็นผู้อุปถัมภ์อุปัฏฐากทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช อย่างนั้นอย่างนี้มีที่ไหน ไม่มี นี้เป็นวงราชการอยู่ภายนอกเป็นฆราวาสต่างหาก ไม่มีสิทธิหน้าที่ที่จะมาก้าวก่ายหรือเหยียบย่ำทำลายบีบบังคับพระเจ้าพระสงฆ์ ซึ่งเป็นผู้ตั้งเนื้อตั้งตัวปฏิบัติตามธรรมวินัย ตามทางของศาสดาตลอดมาอย่างนี้ ที่ทำอย่างนี้ไม่ถูก ไม่มีในหลักธรรมหลักวินัย กฎหมายบ้านเมืองท่านก็ไม่เคยมาบังคับให้มาตั้งหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ แล้วเอาไฟเผาโลกอย่างนี้ มันดีที่ไหนเอาไฟเผาโลก มันดีแล้วเหรอ
ตั้งเจ้าหน้าที่หรือตั้งคณะกรรมการมาเป็นหน้าที่ดูแลพระสังฆราช นี่ก็พระเจ้าพระสงฆ์ล้วนแล้วตั้งแต่ผู้ทรงธรรมทรงวินัยสมบูรณ์แบบแล้ว ที่จะปฏิบัติต่อภิกษุไข้ด้วยกัน อย่าว่าแต่สมเด็จพระสังฆราชเลย ท่านปฏิบัติกันมาอย่างนี้ตั้งแต่พระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทให้จนกระทั่งบัดนี้ ท่านไม่เห็นไปเอาที่ไหน หรือใครที่จะมาก้าวก่าย มาบีบบังคับจะมาปฏิบัติทั้ง ๆ ที่เป็นฆราวาส ไม่มีหน้าที่มาเกี่ยวข้องกับพระเลย แล้วมาเป็นเจ้าอำนาจบีบบังคับทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อตั้งเป็นเจ้าอำนาจแล้วนี้อำนาจใหญ่หลวงจะอยู่ตรงนั้น และจะบีบบังคับทั่วประเทศไทยพระสงฆ์
ฆราวาสนั้นแหละจะมาบีบบังคับพระไม่สมควรอย่างยิ่ง ไม่ถูกต้อง ไม่เคยมีในหลักธรรมหลักวินัย กฎหมายบ้านเมืองก็ไม่มี ถ้าทำก็ทำเอาแบบดื้อๆ นั้นแหละจะไปทำอะไร เพราะเล็งหาหลักธรรมวินัยเป็นเครื่องพาดพิงก็ไม่มี หลักกฎหมายท่านก็ไม่มาบีบบังคับ หลักธรรมวินัยท่านก็ไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับฆราวาสที่อยู่นอกวัดนอกวา นอกพระเจ้าพระสงฆ์ นอกธรรมนอกวินัยของพระ แล้วจะมาบีบบังคับพระให้ทำตามตนอย่างนี้ไม่มีในหลักธรรมวินัย
การทำอันนี้เป็นการที่จะต้องบีบบังคับพระโดยตรง เมื่อได้เป็นผู้ใหญ่ เช่น สำนักพุทธศาสนา สำนักพุทธศาสนาคือองค์ศาสดาเองเป็นพระองค์แรก สำนักพุทธศาสนาตั้งมาแล้วตั้งแต่พระองค์ตรัสรู้ขึ้นมา นี่คือสำนักพุทธศาสนาโดยแท้ ท่านปฏิบัติมาราบรื่นดีงาม สำนักนี้เอามาจากไหนมาตั้งเป็นสำนักพุทธศาสนา แล้วจะใหญ่ยิ่งกว่าพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าโดยตรงมีอย่างเหรอ ไม่มี นี่เราพูดให้ฟังเป็นคำสัตย์คำจริงว่าไม่มี แล้วมาตั้งขึ้นหาอะไร ก็เมื่อเริ่มเพียงจะตั้งเท่านั้นก็เกิดความเดือดร้อนทั่วประเทศไทย ยังจะดันทุรังมาตั้งหาอะไรอีก ถ้าไม่ตั้งใจเป็นข้าศึกต่อชาติของตน ต่อศาสนาของตน ให้คนไทยที่นับถือพุทธศาสนาจมไปทั้งชาติทั้งศาสนาไปโดยถ่ายเดียวเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น
ชิ้นดีที่จะเกิดขึ้นจากการตั้งอย่างนี้ไม่มี นอกจากจะตั้งด้วยทิฐิมานะดันทุรัง จะสร้างอำนาจบาตรหลวงขึ้นในจุดนั้น เรียกว่าสำนักพุทธศาสนาเท่านั้น ไม่เห็นมีอย่างอื่นเลย ที่ความศักดิ์ศรีดีงามจะปรากฏขึ้นมาจากการตั้งนี้ไม่มี เวลานี้เริ่มเดือดร้อนแล้ว เพียงเท่านี้ก็เดือดร้อน เห็นไหมล่ะไอ้พวกที่ใช้อำนาจก็ใช้ไปทุกแห่งทุกหน ฆราวาสที่เป็นหัวหน้าฝูง เป็นเจ้าเป็นนาย เป็นผู้บังคับบัญชาก็ใช้ไปทุกแห่งทุกหนในหน่วยราชการต่างๆ วงราชการ ให้ปฏิบัติกับความรู้ของตัวเองที่เป็นป่าๆ เถื่อนๆ นี้ผิดไปอย่างนี้แล้ว
ทีนี้ทางฝ่ายพระเจ้าคณะนั้นคณะนี้ หรือเป็นผู้ใหญ่ เป็นสมดกสมเด็จฯอะไรก็แล้วแต่ บีบบังคับผู้น้อยมาให้ไปประกาศทั่วสังฆมณฑล ให้ปฏิบัติตามกฎอย่างนี้ๆ กฎอันนี้เอามาจากไหน ถูกต้องดีงามที่ไหน จึงจะต้องให้พระทั้งประเทศมาปฏิบัติต่อกฎจอมปลอมอย่างนี้ไม่มี กฎนี้กฎจอมปลอม กฎที่ถูกต้องดีงามต้องนำมาใช้ในความถูกต้องดีงาม ผู้ปฏิบัติตามจะพออกพอใจปฏิบัติตาม อันนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อทำลายกัน เพื่อทำลายพระสงฆ์ทั่วประเทศ เป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงเหยียบหัวพระทั้งประเทศไม่มีใครยอมรับ ผิดทั้งนั้น ไม่ได้ถูก
พระสงฆ์ทั่วประเทศไทยเรียนมาด้วยกัน รู้ด้วยกัน เห็นด้วยกัน อำนาจก็เอามาใช้ตามที่มีหน้าที่ที่จะปฏิบัติให้เป็นศีลเป็นธรรม ไม่ใช่เอามาใช้ในทางป่าเถื่อนอย่างนี้ ไปที่ไหนบีบบังคับไปหมด พระก็ไม่ว่าธรรมยุต-มหานิกาย ใช้อำนาจบีบบังคับตามภาคนั้นภาคนี้ เจ้าคณะจังหวัด ลงเจ้าคณะตำบล ถึงพระเณรทุกรูปที่เป็นสังฆมณฑลนี้ ให้อยู่ใต้อำนาจของอำนาจป่าเถื่อนนี้ทั้งนั้น ใครอยู่ไม่ได้ ผิดแล้วนี่จะว่าไง ผิดหมด เราพูดจริงๆ เอาคอเราไปตัดเลยก็ได้ เราพูดตามหลักตามเกณฑ์
ผิดทั้งนั้น ที่ใช้อุบายวิธีการมานี้ เดือดร้อนไปแล้วทั่วประเทศไทย ในวงราชการต่างๆ ไม่ทราบจะให้ปฏิบัติยังไง บังคับให้ทำอย่างนั้น ให้ทำอย่างนั้นๆ แม้ที่สุดเวลาไปเทศนาว่าการนี้ก็ไปกีดไปกันหมด มันเคยมีหรือพุทธศาสนานี้ชาวพุทธเราทั้งนั้นอยู่ในประเทศไทย การเทศนาว่าการสั่งสอนคนทั้งโลกทั้งเมืองไทยเราเป็นมาดั้งเดิมตั้งแต่เมื่อไร ทำไมจึงต้องมากีดมาขวางการแสดงอรรถแสดงธรรม ซึ่งเขาทำด้วยอัธยาศัยของเขาที่เป็นชาวพุทธ ไม่ได้บีบบังคับ ไม่ไปก่อกวนตัวเองให้ได้เกิดความเดือดร้อน พอที่จะมากีดมาขวางไม่ให้บริจาคทาน เช่น ผ้าป่าเป็นต้น มีอยู่เวลานี้ ไปเที่ยวกีดเที่ยวขวางอยู่ทุกแห่งทุกหน พวกนี้เป็นยังไงถูกไหม พิจารณาซี
นี่ละข้าศึกของศาสนาขึ้นอยู่จุดนี้อีกจุดหนึ่ง หาสร้างตั้งแต่สิ่งที่จะเป็นภัยต่อชาติต่อศาสนาทั้งนั้น สร้างคุณงามความดีให้ปรากฏบ้างไม่มี กับจำพวกนี้ที่กำลังแสดงฤทธิ์เดชอยู่เวลานี้ในท่ามกลางแห่งเมืองไทย ท่ามกลางแห่งพุทธศาสนาของเรานี้แหละ เป็นแล้วเวลานี้ ฟังซิพี่น้องทั้งหลายผิดทั้งนั้นนี่ ภาษาธรรมบอกว่าผิด พุทธศาสนาเป็นหัวใจของโลก เป็นหัวใจของชาวพุทธเรา เคยปฏิบัติบำเพ็ญศีลธรรมตามพุทธศาสนามานานสักเท่าไร เราได้ความเลิศเลอมาจากไหน มากีดมากัน มาขวางเขาไม่ให้ทำบำเพ็ญอย่างนี้ มันผิดขนาดไหนคนที่มาทำนี้ มันผิดมากขนาดไหนเอาไปพิจารณาซิพวกเรา รู้กันอยู่ทุกคน
เวลานี้กำลังเที่ยวหากีดหาขวาง เทศนาว่าการที่ไหนไม่ได้ หัวหน้าใหญ่สั่งมาๆ หัวหน้าไหน หัวหน้าก็หัวหน้าเทวทัตนั่นแหละ กำลังทำลาย แต่ก่อนทำลายพระพุทธเจ้า บัดนี้มาทำลายศาสนธรรมซึ่งเป็นองค์แทนของศาสนา กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วเวลานี้ บานปลายๆ ไปเรื่อยๆ ด้วยอำนาจแห่งทิฐิมานะ ไม่ยอมลงใคร ตัวเท่าอึ่งอ่างนี้จะครอบคนทั้งประเทศ ฟังซิน่ะ มันเอาความสามารถมาจากไหน พิจารณาดูให้ดี นี่สลดสังเวช นี้เราพูดเป็นเสียงอรรถเสียงธรรม พูดเป็นอรรถเป็นธรรม ผิดทั้งเพ
เริ่มต้นมาตั้งแต่ได้สองครั้งสามครั้งก็เอาแบบนี้ละมาใช้ แบบหาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้นี่แหละ ก็ได้ระงับกันไป ระงับกันไป ก็ไม่ถือสีถือสาอะไรกันนะ ผิดครั้งไหนๆ ก็ไม่ถือสีถือสา ระงับกันลงด้วยเหตุด้วยผลแล้วก็เงียบไป ก็มาตั้งขึ้นมาอีกนี่ ตั้งขึ้นคราวนี้จะเอาให้ชาติศาสนาให้จมไปด้วยตนเองให้ได้ เพราะพยายามมาหลายครั้งแล้วไม่สำเร็จ คราวนี้จะเอาคนทั้งโลก เอาศาสนาพุทธจมไปด้วยกันให้ได้ ด้วยอำนาจแห่งความป่าเถื่อน อำนาจป่าเถื่อนของตนเอง
เวลานี้มันจึงระบาดสาดกระจายไปด้วยความป่าเถื่อนของมัน เหมือนว่าไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนอะไรมาเลย ไม่ฟังเหตุฟังผล ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม กฎหมายบ้านเมืองมีไม่เอามาใช้ เอาตั้งแต่ทิฐิมานะตัวเท่าอึ่งนี้ จะเหยียบหัวคนทั้งประเทศ มันก็ผิดกันทั้งเพๆ นี่เป็นภาษาธรรมเอามาพูดนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาทุกคน คนดีก็มีตามีหู คนชั่วก็มีตามีหูเหมือนกันเอาไปฟัง ถ้าจะเชื่อเสียงอรรถเสียงธรรมแล้วบ้านเมืองนี้จะสงบ ถ้าไม่เชื่อแล้วจะเป็นไฟขึ้นในชาติไทยของเรานี้แหละ ไม่ไปไหนละนะ ฟังดูซิน่ะมันไม่ได้ถูกนี่
เอาอะไรมีแต่ป่าเถื่อนๆ ออก โฆษณาทั่วประเทศไทยมีแต่อำนาจป่าเถื่อน ไปเที่ยวบีบบังคับคน ทางฝ่ายฆราวาสก็บีบไปอีกแบบหนึ่ง ทางฝ่ายพระก็บีบไปอีกแบบหนึ่ง มีแต่ฟืนแต่ไฟด้วยกันทั้งสองบีบสามบีบนั่นแหละ แล้วคนไทยจะมีคนมาจากไหน มีคน ๖๒ ล้านคนก็จะทนบีบได้หรือ ถ้าทนไม่ได้มันก็ฟัดกันละน่ะ มีเท่านั้นละนะบอกให้ชัดเจน ถ้าหากว่ามันทนไม่ไหวที่จะถูกบีบตลอดเวลาแล้ว มันไม่มีทางอื่น ก็มีแต่ทางเดียวต้องฟัดกันเท่านั้นละ ขอให้พากันจำให้ดี อย่าให้ได้ยินไอ้เรื่องหมากัดกัน อย่าให้ได้ยิน ฟัดกันคือหมากัดกัน เราเป็นลูกชาวพุทธ ให้นำพระพุทธเจ้าศาสดาองค์เอกมากางอยู่ที่หัวใจของเรา จะรู้ผิดรู้ถูกระงับดับได้ในสิ่งที่ชั่วทั้งหลาย แล้วปฏิบัติดีต่อกัน ก็จะเป็นผลดีต่อชาติไทยของเราและศาสนาของเราตลอดไป
วันนี้ขอฝากแง่คิดไว้ให้ท่านทั้งหลายฟัง ในนามแห่งศาสนธรรมของพระพุทธเจ้านำมาประกาศให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เราไม่มีคำว่าส่วนได้ส่วนเสียสำหรับเรา ความแพ้ความชนะเราก็ไม่มีในหัวใจเรา ความเอารัดเอาเปรียบเราก็ไม่มี ธรรมนี้เป็นธรรมเหนือโลก เราอาราธนาธรรมพระพุทธเจ้ามาโปรยปรายสอนประชาชนชาวพุทธเรา ให้รู้เนื้อรู้ตัวให้แก้ไขดัดแปลง ถ้าต่างคนต่างแก้ไขดัดแปลงในสิ่งที่ไม่ดีของตนเพื่อเข้าสู่ความดีต่อกันแล้วบ้านเมืองนี้จะสงบร่มเย็น จึงขอฝากอรรถฝากธรรมนี้ไว้กับพี่น้องชาวพุทธเราทั้งสองฝ่าย ฝ่ายดีฝ่ายชั่วฝ่ายทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้ระงับกันด้วยศีลด้วยธรรมด้วยกฎหมายบ้านเมือง ความสงบร่มเย็นจะระงับลงได้ในจุดนี้ จุดอื่นไม่มีทางระงับได้ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน
ให้พร อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํฯฯฯ
ชมการถ่ายทอดสดทั่วโลกทุกวัน ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th |