เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๗
มียิบแย็บเหมือนว่าจะไป
เขาจะแข่งเรือกันที่หนองคายใช่ไหม (เจ้าค่ะ) เขาตั้งอะไรกันเป็นแถว เราเห็นเขามาตั้งอะไรนี้ เขาจะมาทำอะไรที่นี่ เขาจะมาเล่นน้ำ ว่างั้น อึ่งอ่างเล่นน้ำ รถจะไปก็ไปไม่ได้ รถของเขาก็เต็มอยู่นั้น เราก็เลยแอบไป ตอนกลับมาเห็นเล่นน้ำ เรืออะไรปุบปับๆ อยู่ในน้ำ อ๋อ อย่างนี้เอง เขาก็สนุกเขาตามขั้นตามภูมิของวัยและจิตใจ เป็นอย่างนั้นโลก ไม่มีอย่างนี้ก็ไม่เหมาะกับโลกที่ต้องการเช่นนี้
โห เราสงสารมากจริงๆ นะโรงพยาบาล เราจึงได้ตะเกียกตะกายนะ ถึงขนาดนั้นก็ไม่พอกับความต้องการของผู้บกพร่องยากจนที่เข้ามาหวังพึ่งเรา เราก็ไม่มีกำลังจะให้พึ่ง อย่างเมื่อวานนี้เดชอุดมหรืออะไรมาขอ สร้างตึกแล้วไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือก็มาขอ เป็นอย่างนั้นแหละ ที่เรากำลังแบกอยู่เวลานี้ก็ ๘ หลังใหญ่ๆ แล้วฟังซิน่ะ ๒ หลังยังต้องพักไว้ก่อน พักไว้คือว่าพอเสร็จนี้แล้วก็จะก้าวเข้าไป รับคำแล้วต้องทำ ความหมายว่างั้นนะ ยังอีกสองหลัง มันหนักขนาดนั้นแหละเรา หนักจริงๆ นะ
ผู้น้อยที่ใกล้ชิดเราก็เห็น ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเราใช่ไหมล่ะ ที่อยู่ห่างไกลเขาก็ไปอีกแบบหนึ่ง หาว่าหลวงตาเอาเงินไปไว้ที่ไหนๆ เขาหลับตาพูดออกมา แต่เราทำเราลืมตาทำนี่นะมันก็ขัดกัน เขาหลับตาเขาไม่เห็นก็ช่างเขาเถอะ เราลืมตาเราเห็นอยู่ก็เป็นเรื่องของเราไปเรื่อยๆ อย่างนั้นแหละ ไม่สนใจ สนใจอะไรกับมูตรกับคูถมันแปดมันเปื้อน อะไรที่สะอาดสะอ้านทำลงไป ชะล้างลงไปอะไรสกปรก อย่างนั้นถูกต้อง เพราะโลกมันมีทั้งดีทั้งชั่วสับปนกันไป การพูดมีหนักมีเบา พูดเพื่อพี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วถึงกันต่างหากนะ สำหรับเราเราพูดจริงๆ เราไม่มีอะไรกับโลก สามโลกธาตุนี่ไม่มีอะไรในหัวใจเราเลย แม้เส้นผมหนึ่งก็ไม่ปรากฏ แล้วเราจะไปมีอะไรกับสิ่งเหล่านี้ พิจารณาสิ่งเหล่านี้จนปล่อยมันหมดโดยสิ้นเชิง แล้วจะไปขยี้ขยำมันอะไรภายในจิตใจ แต่กิริยาที่ทำก็ทำเพื่อส่วนรวม ให้รู้จักดีจักชั่ว ผิดถูกประการใด เพื่อชี้แจงให้ผู้มีความรักสงวนในตนและสมบัติของตนได้พินิจพิจารณา ควรจะแก้ไขยังไงก็ให้แก้ไขดัดแปลงกันไปอย่างนั้น เปิดทางให้ เข้าใจเหรอ
สำหรับเราเองเราก็บอกชัดๆ อย่างนี้ เอาไปตัดคอก็ตัดเฉยๆ ให้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ บอกว่าเราไม่มีอะไรในโลกนี้ เปิดเผยตามธรรมพระพุทธเจ้าที่ทรงรู้ทรงเห็นมาแล้ว สาวกรู้เห็น เราก็ปฏิบัติแบบเดียวกัน เดินทางสายเดียวกัน มันเป็นด้วยกัน เห็นด้วยกันแล้วจะไปค้านพระพุทธเจ้าได้ยังไง ก็เป็นข้อยืนยันในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องหาใครมาเป็นสักขีพยาน ดังพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วพระองค์เดียวเท่านั้น ประกาศธรรมสอนโลกได้ทั้งสามโลกทันทีเลย นั่นเห็นไหมล่ะ แล้วเวลาตรัสรู้ ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตรท่านก็แสดงแล้วว่า ในขณะเดียว คือพวกภุมมเทวดา พอทราบว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ผางเท่านั้น ก็บอกไปหาพวกจาตุมเทวโลก สวรรค์ ๖ ชั้นทันที ขึ้นพรหมโลก อิติห เตน ขเณน เตน มุหุตฺเตน เพียงครู่เดียวเท่านั้นกระเทือนไปทั้งสามโลกธาตุ นั่นใครมาเป็นพยาน พวกเทวดาเป็นขึ้นมาก่อนแล้วใช่ไหม นั่นพวกหูดีตาดีรู้ก่อน พวกเราลากออกไปขาขาดมันยังไม่ยอมตื่น
นี่พวกเทพเห็นไหม ผู้เบาผู้บาง ผู้แจ้งผู้ขาว มันต่างกัน พวกเทพทั้งหลายตั้งแต่ภุมมเทพเหล่านี้รู้ทันที ออกประกาศทั่วถึงกันหมด ชั้นนี้บอกชั้นนั้น ชั้นนั้นบอกชั้นนั้น บอกตลอดไปเลย สวรรค์ ๖ ชั้นถึงพรหมโลก รู้ในขณะเดียวกันเลย พวกมนุษย์เราไม่รู้ มันต่างกันอย่างนั้นธรรมพระพุทธเจ้า พระองค์รู้ขึ้นมาแล้วไม่จำเป็นต้องไปหาใครมาเป็นพยาน นี้ก็พูดอย่างชัดเจน เพราะเราช่วยโลกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เต็มสติกำลังความสามารถของเรา มียังไงเราก็ช่วยเต็มกำลังความสามารถของเรา ใครจะเอาก็เอา ใครไม่เอาก็เป็นกรรมของสัตว์ ก็มีเท่านั้น ส่วนเราจะไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับโลกทั้งสามนี่เราไม่มี เราบอกตรงๆ ไม่มี สอนด้วยความเมตตาล้วนๆ เพราะฉะนั้นใครจะว่าอะไรเราจึงไม่สนใจ
ความดี ความชั่ว ผิดถูกอะไรอยู่กับเรา เราเป็นผู้รับรู้รับเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในนี้แล้ว ไม่จำเป็นใครจะต้องมารับรู้ยิ่งกว่าเราไปที่เรารู้เรา นั่น ก็เท่านั้นเอง จึงขอให้พากันสนใจกับศีลกับธรรมให้มากนะ โลกนี้จะร่มเย็นด้วยธรรมเท่านั้น ไม่ได้ร่มเย็นด้วยกิเลสตัณหาวุ่นวายก่อกวนกันอยู่ตลอดเวลา นี้คือโลกสกปรก มันส่งเสริมขึ้นทางสกปรก ธรรมะก็ส่งเสริมขึ้นในทางความสะอาด ชะล้างกันไป เขาสกปรกเราสะอาดก็ยังดี นั่นเอาตรงนี้นะ เมื่อมากไม่ได้ได้น้อยเข้ามา สุดท้ายมาได้แต่เราคนเดียวก็ยังดี นั่นละความดีอยู่กับใครเป็นมงคลทั้งนั้น
ถ้าผู้ไม่ทำมันก็ไม่มีนะมงคล มีแต่ความผิดหวังๆ ผิดหวังตลอดไป ทั้งๆ ที่ปรารถนายุ่งอยู่นี้จะให้สมหวัง มันไม่สม สิ่งที่สมหวังก็คือความดีนั่นละ นี่สมหวังเป็นลำดับไป อันนั้นผิดหวังตลอดไปเลย ยุ่งเท่าไรยิ่งผิดหวังทั้งผู้ตัวยุ่ง แตกกระจายออกไป ผิดหวังไปตามๆ กันหมด ผู้ที่ประกอบความดีงามมีแต่ความสมหวัง เขาว่าผิดเราก็ไม่ผิดเสีย แน่ะ จะว่าอะไรเราไม่ได้เป็นกับเขา ก็เราทำดีทำถูกมันจะผิดไปไหน ก็เท่านั้นเอง
เมื่อวานนี้ออกจากนี้ไปก็จามเสียก่อนถึง ๖ ครั้ง อ้าว นี่ถ้ามันจามขนาดนี้แล้วมันจะอาเจียนนะ มันเป็นสายเกี่ยวโยงกันอยู่นะ พอจามไปถึง ๙ ครั้งขึ้นมาเลย มันมวนท้องอะไรไม่รู้ละ ขึ้นมาแล้วอาเจียนออกหมดเลยเมื่อวานนี้ ที่ฉันไปออกหมดได้สักกระโถนหนึ่ง อาเจียนอยู่บนรถเลยเมื่อวานนี้ เพลียทั้งวันเลย มาตลอดวันตลอดคืน วันนี้เบื่ออาหารไม่อยากฉันอะไรเลย ทั้งๆ ที่ไม่มีอาหารอยู่ในท้องเลยเมื่อวานนี้ อาเจียนออกหมดโดยสิ้นเชิง เต็มกระโถนเลยเทียว มีแต่น้ำ เพราะฉะนั้นมันถึงเพลีย ไม่อยากพูดอะไรมาก
มันกวนทั้งนั้นแหละ มันกวนเรื่องจะไป ไม่ใช่กวนเรื่องจะอยู่นะ อ้าว มันกวนก็บอกมันกวน เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ไป มันกวนเฉยๆ อะไรมีแต่ว่าจะกำเริบๆ ทั้งนั้น ยังได้พูดให้ลูกศิษย์ฟัง เอ้อ แปลกๆ นะ เวลาช่วยบ้านช่วยเมืองก็ลงเต็มเหนี่ยวของความเมตตาสงสาร พอจวนเข้ามาๆ พอถึงวาระที่จะกำหนดแล้ว เช่น วันที่ ๑๒ เมษา จะปิดโครงการ จะมอบทองคำทั้งหมด เพียงเท่านั้นละนะ แต่ก่อนมันไม่เคยมี มันมียิบแย็บๆ ในภายในนี้พูดไม่ถูก แต่ไม่สงสัย ลักษณะเป็นยิบแย็บๆ เหมือนเด็กจะตื่นนอน อ้าวทำไมเป็นอย่างนี้ ก็เคยอยู่มานี่เท่าไรปีแล้ว มาอะไรนี่น่ะ ไปเมื่อไรก็ได้ยากอะไรคนเรานี่นะ เราว่างั้น ลักษณะยิบแย็บๆ เหมือนเด็กตื่นนอน เป็นลักษณะอย่างนั้น พูดเพียงเท่านี้ไม่พูดมาก
เลยกระตุกกัน อ้าว ก็เคยอยู่มานานแล้วนี่นะ มาเป็นอะไรนี่น่ะ เราว่างั้น อันนั้นก็สงบไป มีลักษณะเหมือนว่าจะไป พอเรื่องราวจะเสร็จ เสร็จแล้วหรือ เหมือนว่าจะไปอย่างนั้นแหละ ทางนี้ก็กระตุกเอาไว้ วันนี้อย่าให้พูดอะไรมากนักนะ พูดเท่านั้นละ เหนื่อย ต่อไปนี้จะให้พร
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th |