เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๗

หอกข้างแคร่

        (โรงพยาบาลเดชอุดม มาขออุปกรณ์การแพทย์) ให้พักไว้ก่อนนะ ดังที่เคยพูดให้ฟังเดี๋ยวนี้ละ ให้พักไว้ก่อน หนักเหลือกำลังแล้ว เมื่อสองสามวันนี้ก็สั่งรถมาให้โรงพยาบาลกุดข้าวปุ้น ก่อนหน้านั้นโรงพยาบาลสิรินธรก็มารับรถจากเราไป ทางนั้นมาขอรถ เรากำลังสั่งให้เวลานี้ มันไม่ทัน อย่างนี้ละมันไม่ทัน ไม่ทราบจะให้ทางไหนๆ บ้างไม่ทัน อย่างที่ว่านี่ดูเอาซิพี่น้องทั้งหลาย หลวงตาบัวจะหาเอาเงินไปซุกซ่อนไว้ที่ไหนพอที่พวกเปรตพวกผีจะมาหาตรวจ ทำตัวเป็นเจ้าหน้าที่ใหญ่โต มีอำนาจวาสนาใหญ่โตครอบประเทศไทย จะมาตรวจเงินหลวงตาบัวหรือลูกหลานหลวงตาบัวว่าทุจริตอะไรต่อประชาชน เขาเป็นคนสุจริตยอดแล้วเขาจะมาตรวจหลวงตาบัว แล้วท่านทั้งหลายฟังเอานะ เขาจะมาตรวจ

เราก็บอกตรง ๆ เลย บอกอย่างเปิดอกเลย ถ้ามาตรวจเราขอเตือนคำหนึ่งนะ บอกตรง ๆ นี้นะ เราขอเตือนเสียก่อนนะก่อนที่จะมาตรวจเรา ข้อหนึ่ง อย่าเอามีดไปฟันหิน ข้อที่สอง อย่าขับรถชนภูเขา นี่เราเตือนไว้ก่อน ให้เอานี้เป็นข้อเทียบเคียง อย่าเอามีดไปฟันหิน หนึ่ง อย่าขับรถชนภูเขา หนึ่ง แล้วความเสียหายขนาดไหนก็ฟังเอาซิ เข้าใจไหม นี่เราเตือนไว้ก่อนก่อนที่จะมาตรวจเรา ถ้าหากว่าเตือนแล้วยังไม่ฟังยังจะมาตรวจอยู่ ทีนี้เราก็เปิดทางให้ ให้มาหมดทั้งโคตรเลยมาตรวจหลวงตาบัว บอกงั้นเลยเข้าใจไหม ให้มาตรวจหลวงตาบัว หลวงตาบัวจะไล่มันไปเที่ยวตรวจให้หมด

         เงินหลวงตาบัวไม่มี มีแต่สิ่งก่อสร้าง ไล่ทั่วประเทศไทยไปเที่ยวหาตรวจ ถ้าเก่งจริงว่างั้นเถอะน่ะ เข้าใจแล้วเหรอ เอาอย่างงั้นละตอบกัน เตือนไปแล้ว ขู่ทางนู้นมา ขู่ทางนี้มา มาหาขู่คนทำความดีล้นโลกล้นสงสาร มันทำอะไรพวกนี้น่ะ หาตั้งแต่เรื่องแต่ราว มันเกิดมากับเรื่องกับราวหรือยังไงนะ มันน่าคิดอยู่มากนะ พวกนี้พวกก่อตัว หาความยุ่งเหยิงวุ่นวายให้แก่ชาติบ้านเมือง และศาสนาแหลกเหลวไปหมด เป็นมาแล้วตั้งแต่นู่นน่ะ เริ่มแต่ ๒๕๔๐ พวกนี้ตั้งหน้าตั้งตาก่อกรรมก่อเวรต่อชาติต่อศาสนาเรื่อยมา ผู้รักษา รักษาแทบเป็นแทบตาย ดังที่เรารักษานี่แหละ

         นี่ก็จะมาตรวจเงินเราหรือลูกหลานของเรา ฟังซิน่ะ แล้วคนอื่นที่เขาทำความชั่วช้าลามกอยู่เต็มประเทศไทยเรานี้ ทำไมไม่ไปหาตรวจหาจับเขามามัดใส่คุกใส่ตะราง เพื่อประชาชนจะได้นอนหลับตาได้บ้าง พวกนี้จะไม่กวนทรัพย์สมบัติเงินทองข้าวของมากนักนะ แล้วทำไมมันจึงไม่ไปตรวจพวกนี้น่ะ มันแสดงตนมาอะไรอย่างนี้ คนไหนที่ว่าทำดิบทำดีที่ไหนต้องเป็นนักโทษใหญ่ๆ ของประเภทมหาโจรนี้ เข้าใจไหม นี่มันกำลังปล้นบ้านปล้นเมือง เวลานี้ปล้นศาสนาไปในตัวเสร็จ เอาพี่น้องทั้งหลายฟังให้ดี พวกนี้ไม่มีชิ้นดีเลยในสายตาของธรรม เราดูคนเราจะไม่ดูเพื่อคนนั้นหรือเห็นแก่ตัว เราจะไม่มีในธรรมทั้งหลาย

         เราพิจารณารู้เรื่องรู้ราวมาตั้งแต่เราเริ่มช่วยชาติบ้านเมือง ต้องตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ วุ่นตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้ เอากันใหญ่โต เราก็เลยกลายเป็นเข้าสู่สนามรบในสงครามเพื่อชาติเพื่อศาสนาจนได้นั่นแหละ ตั้งแต่บัดนั้นมาที่นี่ พอได้ตั้งนายกฯใหม่ขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่นั้นมาทีนี้ทางศาสนาก็ดี ทางชาติก็ดี คนนั้นกวนทางนั้น คนนี้กวนทางนี้ ทีแรกจะเอาให้ได้สมหวัง จะไม่ให้ผู้ใดใหญ่โตยิ่งกว่าพวกนี้ ว่างั้นเลย เราพูดให้มันตรงๆ อย่างนี้เลย พวกนี้แหละ พรรคนี้ พวกนี้ หรืออาจจะลามไปหาภาคนี้ด้วยก็ได้ เป็นตัวสำคัญที่สุดเลยที่จะเอาคนทั้งประเทศมาเหยียบย่ำทำลายให้อยู่ในฝ่าเท้าของตัวให้หมด ตัวจะเป็นผู้ครองบ้านครองเมือง จะทุกข์จนขนาดไหน จนกระทั่งพาบ้านพาเมืองจม ให้เราได้เห็นต่อหน้าต่อตายังไม่ยอมอำนาจอันนี้ที่จะยึด จะครอง จะเหยียบหัวคนลงให้จมยิ่งกว่านั้นไปอีก

         แต่ดวงชาตาชาติไทยเรายังดีก็ได้ตั้งเป็นนายกฯใหม่ขึ้นมา ศาสนาหนุนทางหนึ่ง  ชาติหนุนทางหนึ่งขึ้นมา พอลืมหูลืมตาได้บ้างเวลานี้ บ้านเมืองเราก็รู้สึกลืมหูลืมตาได้บ้าง ไม่จม ที่จะจมลงแล้วก็ค่อยฟื้นขึ้นมา ฟื้นขึ้นมา ถ้าให้พวกเปรตพวกผีนี้มาเหยียบย่ำทำลายซ้ำเข้าไปอีก เมืองไทยนี้ลงใต้ก้นทะเล จมไปแล้ว นี่ละพวกนี้ละพวกที่หาก่อกวน หาทำลาย เหมือนหนึ่งว่าก่อกรรมก่อเวรอยู่งั้น จองล้างจองผลาญมาตลอด เอาคนนั้นกวนทางนั้น เดี๋ยวเรื่องนี้ขึ้นมา ระงับเรื่องนี้ลงไปแล้วเอาเรื่องนั้นขึ้นมา ระงับเรื่องนั้นลงไป เวลานี้เรื่องนี้กำลังขึ้นมาอีก เรื่องจะกินโต๊ะสมเด็จพระสังฆราช

         ในหลักธรรมหลักวินัยของพุทธศาสนาก็มีเต็มสมบูรณ์อยู่แล้ว มันมายุ่งทำไมฆราวาส ฆราวาสไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ที่จะมาบีบบังคับพระเจ้าพระสงฆ์ พระพุทธเจ้าปกครองพระเจ้าพระสงฆ์โดยหลักธรรมหลักวินัยที่พระองค์ทรงสั่งสอน และแทนพระองค์เอง คือศาสดา ได้แก่ธรรมวินัย ทรงปกครองบ้านเมืองให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขมาจนกระทั่งบัดนี้ ไม่เคยเห็นฆราวาสคนใด หรือรัฐบาลใดที่มาเป็นใหญ่เป็นโต มาบีบบังคับพระเจ้าพระสงฆ์ให้อยู่ในเงื้อมมือของตน ถีบ-เหยียบธรรมเหยียบวินัยซึ่งเป็นองค์ศาสดาแทน ให้พี่น้องทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธกราบไหว้บูชานี้ให้จมลงไปจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือ แล้วจะยกตนขึ้นมาเป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวง ขึ้นมาเป็นใหญ่เป็นโตมาปกครองพระเณร โดยทำประจบประแจง อ่อนหวานนิ่มนวลว่าจะมาตั้งเจ้าหน้าที่ หรืออะไรมาเป็นผู้อุปถัมภ์อุปัฏฐากสมเด็จพระสังฆราช

         พระสังฆราชเป็นใคร ก็ลูกศิษย์ตถาคต พระสงฆ์สาวกทั้งหลายเหล่านั้นเป็นลูกศิษย์ตถาคตจนกระทั่งมาถึงปัจจุบันนี้เป็นลูกศิษย์ตถาคต ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของพวกที่เป็นเปรตเป็นผีคอยกินโต๊ะพระอยู่เวลานี้ พูดเอารวม ๆ เลย คอยกินโต๊ะพระ แล้วตั้งหน้าที่การงานขึ้นมา แล้วก็ตั้งอำนาจเข้ามาในนั้นด้วยนะ แผ่พังพานในอำนาจ พระเจ้าพระสงฆ์จะทำอะไรต้องมาอยู่ในอำนาจของพวกนี้ ๆ ที่เป็นกาฝากคอยกินตับกินปอด เหยียบย่ำทำลายพระเจ้าพระสงฆ์จะไม่ให้มีอยู่ในประเทศไทยเลย จะให้มีแต่พวกนี้เป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงเวลานี้ กำลังตั้งขึ้นเห็นไหม เป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อไร ตั้งกันขึ้น ผู้ใหญ่ผู้โตที่ไหนไปกว้านมาเป็นพรรคเป็นพวกของตัวเองทั้งหมดนั่นแหละ กำลังจะเหยียบลงเวลานี้

         เอ้าพี่น้องชาวไทย บ้านมีขื่อมีแป มีหลักมีเกณฑ์ ขอให้พิจารณากันตามหลักตามเกณฑ์ นี้เราพูดตามหลักธรรม เราไม่ออกใครเข้าใคร เวลานี้กำลังก่อตัวอย่างใหญ่หลวงขึ้นเวลานี้ เที่ยวเหยียบย่ำไปหมด ผู้ตรวจราชการเข้าใจไหม พวกมหาโจรมหาภัย พวกกาฝาก กำลังแสดงตนเป็นผู้ใหญ่ผู้โต เป็นผู้เที่ยวตรวจราชการ ด้วยอำนาจวาสนาป่าๆ เถื่อนๆ เที่ยวตรวจหมด แม้ที่สุดพระเจ้าพระสงฆ์ที่ไปประชุมวัดอโศการาม ท่านไปเพื่อชำระสะสางความเลวร้ายทั้งหลายเหล่านี้ โดยเอาหลักธรรมไปกางขึ้นมา ต่างองค์ต่างเห็นพร้อมยอมรับด้วยกันตามหลักธรรมหลักวินัย ประกาศป้างๆ ขึ้นมาในวัดอโศการาม วันที่ ๗ เดือนกุมภานี้ ก็ได้นำอันนี้ออก ออกแล้วก็ส่งไปถึงนายกฯท่าน ให้ท่านรับพินิจพิจารณา จากจำนวนพระ ๑๐,๓๕๙ องค์ ที่เป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัย

         พระเหล่านี้ทรงธรรมทรงวินัยอยู่ในป่าในเขา ที่เขาหาเรื่องหาราวใส่ว่าเป็นพระที่วิกลวิการนั่นแหละ พวกที่ไม่วิกลวิการกำลังก่อกวนบ้านก่อกวนเมือง มันแหลมคมไปทางนั้น พวกวิกลวิการนี้อยู่ในป่าในเขาก็ต้องบืนออกมา มาพินิจพิจารณาชำระสะสางเรื่องเลวร้ายทั้งหลายที่กำลังขึ้นอยู่เวลานี้ เวลานี้กำลังเกาะ หาพรรคหาพวก หาผู้ใหญ่ แม้ที่สุดศาลก็ให้มาอยู่ใต้อำนาจของคนคนเดียว เป็นผู้มีอำนาจเหนือโลก เหนือสงสาร เหนือประเทศไทย เหนือพุทธศาสนา กำลังทำขึ้นเวลานี้ ก่อพรรคก่อพวกแล้วหาตรวจไปหมด

         อย่างที่ว่าพระที่ไปประชุมนี้ก็มาหาไล่เบี้ย มีพระองค์ไหนเป็นหัวหน้าไปประชุมๆ เราก็บอกพระตรงๆ เลย เราไม่ได้บวชมาเพื่อเคารพนบน้อมแก่พวกเปรตพวกนี้ เราบวชมาจากพระพุทธเจ้า กราบพระพุทธเจ้าได้ลงคอ การมาประชุมมาประชุมด้วยเหตุด้วยผล ด้วยอรรถด้วยธรรม ด้วยวินัย ไม่ได้มาด้วยป่าๆ เถื่อนๆ แล้วจะมาตรวจหาอะไร ถ้ามาตรวจไล่หนีเลย อย่างน้อยไล่หนี มากกว่านั้นจับมัดเข้าไปเลย มีอะไรชำระกันตามเรื่องราว หรือจับยัดใส่คุกก็ได้ มีเหตุมีผลอะไรที่จะมาตรวจพระผู้ชำระความชั่วช้าลามกที่มันไม่ดีออกจากศาสนา  แล้วเราวิเศษวิโสอะไรที่ก่อเรื่องก่อราวให้ยุ่งเหยิงวุ่นวายมาอย่างนี้ จึงจะมาตรวจพระผู้ดิบผู้ดี เอามาพิจารณากันซิน่ะ

         นี่ละมันฟังไม่ได้อย่างนี้ละ พวกนี้ไม่มีเหตุมีผล มีแต่จะทำอย่างเดียว ขอให้ได้อย่างใจๆ ก่อพรรคก่อพวก ก่ออะไรก็ไม่ทราบ มันเรียนมาสูงขนาดว่า หัวนักเขาเรียกว่านักกฎหมายๆ เดี๋ยวนี้มันกำลังสร้างนักกฎหมอยขึ้นมาครอบงำชาติไทย กฎหมอยก็คือของจอมปลอม กาฝากนั่นเอง มันกำลังสร้างมากวนบ้านกวนเมืองอยู่เวลานี้ โอ๋ย เราสลดสังเวชนะ เราพูดโดยธรรม หลวงตาพูดอย่างนี้ เอา ผิดตรงไหนเอาไปตัดคอเลยนะ ถ้ามาอ้างเหตุผลให้กัน ให้เท่ากันเสมอกันแล้ว ใครผิดตัดคอ พวกไหนผิดก็ตัดคอเหมือนกัน ขาดสะบั้นไปหมดเลย หลวงตาบัวยอมอย่างนี้เพื่อชาติเพื่อศาสนา เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ละ ฟังซิพี่น้องทั้งหลาย

เวลานี้เลวร้ายมากทีเดียว มหาโจรมาเป็นผู้ใหญ่เที่ยวตรวจราชการงานเมืองทุกแห่งทุกหน แม้พระเจ้าพระสงฆ์อยู่ในป่าในเขา จะไปเที่ยวตรวจราชการกฎหมอยนั่น อู๊ยน่าทุเรศนะ เราไม่เคยเห็นดูเสียนะเมืองไทยเวลานี้ หลวงตาบัวยังไม่ตาย หลวงตาบัวจะเป็นผู้ยืนยันในสนามรบให้ เอ้ามา ๆ ตัดคอหลวงตาบัวเลย หลวงตาบัวจะไม่มีหวั่นเกรงอะไร หรือจะจับเข้าใส่คุกหลวงตาบัวจะเดินยิ้มแต้มเข้าในตะรางในเรือนจำ ไม่มีสะทกสะท้าน เพราะเหตุไร เพราะได้พูดได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องตามหลักธรรมหลักวินัยมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้นที่ได้ออกนำพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย

         ผลประโยชน์ที่ได้เวลานี้ทองคำกำลังจะได้ถึง ๑๐ ตันแล้ว ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันมันน้อยเมื่อไร และดอลลาร์กำลังจะถึง ๑๐ ล้านแล้ว นี่อุตส่าห์พยายามขวนขวายมา ด้วยความเป็นคนดีๆ เทิดทูนชาติศาสนามาเป็นลำดับลำดา พวกนี้มันได้อะไรมาแบกพอจะมาอวดเป็นอำนาจบาตรหลวงใหญ่โต มาเที่ยวตรวจราชการที่นั่นที่นี่เต็มบ้านเต็มเมืองเวลานี้ มันเลวมากไหมพวกนักกฎหมอยนี่น่ะ มันมีกฎหมายที่หัวมันเมื่อไร มีแต่กฎหมอยเต็มหัวมัน นี่ละพูดให้มันตรงไปอย่างนี้ เอ้าถ้าเราผิดพูดผิดตรงไหนมา

         คอเรามียืนยันอยู่แล้ว ให้มาตัด หลวงตาบัวตาย คอนี้ขาดไปสิบคอเรายอมทั้งนั้น แต่ใครอย่ามาตัดคอพระพุทธเจ้าไม่ได้ เราบูชาหมด คอเราทั้งหมดบูชาพระพุทธเจ้า ถ้าพระพุทธเจ้าจะตัดคอเรากี่คอมอบให้ตัดหมด พวกกฎหมอยจะมาตัดคอเรา ดีไม่ดีเราตัดคอมันเสียก่อน นี่ละกิเลสกับธรรม ธรรมตัดคอกิเลสเสียก่อน ไม่ตัดคอคน ตัดคอกิเลส มันเลวขนาดนั้นนะเวลานี้ ไปที่ไหนคนดิบคนดีจะได้หมอบได้คลาน พวกมหาโจรนี้ตั้งตัวเป็นอำนาจบาตรหลวงใหญ่ เที่ยวเพ่นพ่านๆ ทุกแห่งทุกหนไปหมดเวลานี้ ทุกคนให้ฟังนะ

         นี่ก็กำลังจะกินโต๊ะสมเด็จพระสังฆราช จนกระเทือนทั่วประเทศไทย เฉพาะพระฝ่ายกรรมฐานซึ่งรักธรรมรักวินัย ท่านฟังไม่ได้ ท่านอยู่ไม่ได้ ท่านจึงออกมาชำระ นี่กำลังกินโต๊ะกัน นี่ก็ตั้งขึ้นเรื่องหนึ่งแล้ว เข้าใจไหม มีกี่เรื่องได้ชำระกันมาเพราะพวกอันนี้ที่หาก่อกวนตลอดเวลา ไม่มีเวลาอยู่เป็นสุข กวนนั้นกวนนี้ จะเอามาอยู่ในเงื้อมมือของตน ชาติทั้งชาติ ศาสนาทั้งศาสนาจะเอามาเหยียบด้วยฝ่าเท้าของตนเองที่เลวที่สุดนั้นแหละ คนดีจะไม่ให้มีเหลือในเมืองไทย เวลานี้กำลังเพ่นพ่านเที่ยวเหยียบนั้นเหยียบนี้ ให้ดูเอานะ

         เอ้าใครฟัง ฟังเป็นอรรถเป็นธรรมให้ฟังไป ฟังจากหลวงตาบัว ถ้าฟังด้วยความเป็นเปรตเป็นผีแล้วก็ยิ่งจะเป็นใหญ่ไป เป็นเท่าไรก็ช่างเถอะ หลวงตาบัวไม่เสียดายคอถ้าลงได้แสดงออกด้วยความเทิดทูนพระพุทธเจ้าตามหลักธรรมหลักวินัยแล้ว ไม่มีเสียดายคอเลย และพี่น้องชาวไทยมีคุณค่าขนาดไหนทั่วประเทศไทย ๖๒ ล้านคน พระพุทธเจ้าประกาศธรรมสอนโลกมานี้ได้กี่หมื่นกี่แสนๆ ล้าน ๆ คนมีคุณค่าขนาดไหน พวกนี้มันทำประโยชน์อะไรบ้าง เอ้าหามาพูดซิ ถ้าพูดถึงเรื่องการช่วยบ้านช่วยเมืองมันได้เอาทองคำมาให้ ๑ กิโล พอจะมาประกาศตนเป็นเจ้าใหญ่นายโต มาเหยียบย่ำทำลายคนทั้งชาติ ด้วยความเพ่นพ่านๆ อย่างนี้ และดอลลาร์มีสักกี่ดอลลาร์มันเอามาให้ ยื่นใส่มือให้ชาติไทยของเราที่กำลังพยายามอุ้มชูชาติของตน และขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นตลอดเวลา มันเอาอะไรมาช่วยเหลือเรา

         ถ้าว่าเงินบาทก็เหมือนกัน มีเท่าไรๆ ได้ ๕ บาท ๑๐ บาท มันเคยเอามาที่ไหน มันมีตั้งแต่เรื่องหาทำลายละพวกนี้ คนอย่างนี้หรือจะครองชาติไทยของเรา ไม่มีครอง ถ้าชาติไทยยังเป็นคนอยู่แล้ว ครองไม่ได้ว่างั้นเลย ฟาดตกทะเลเลย ถ้าชาติไทยเป็นหมาไปหมดแล้วหมอบให้เขาเหยียบคอไปนะ  ฟังให้ดี

         คนดีดูให้ดี คนชั่วมี คนดีมี ตาเรามีดูได้ทั้งดีทั้งชั่ว ให้ดูให้ดีนะ อย่าปล่อยให้มันมาเพ่นพ่านๆ มันก่อกวนเอามากที่สุดพวกนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ มาที่ได้นายกฯ ใหม่มา หาความสบายไม่ได้ พวกเปรตพวกผีนี่มันจะเอาให้อยู่ในเงื้อมมือ ไม่ได้มันก่อกวน เดี๋ยวนี้ก่อกวนยุ่งขึ้นมา ตีพลิกขึ้นทางศาสนาละซี ยกใหญ่ขึ้นเป็นทางศาสนา เป็นเจ้าอำนาจของศาสนาขึ้นมา ตั้งนั้นตั้งนี้ขึ้นมาเหยียบหัวพระไปเรื่อยๆ จากนั้นพระทั้งหลายก็อยู่ในเงื้อมมือของมัน แล้วตัวพระเองก็เป็นหัวโจกอยู่ในนั้นด้วย มันจะเอาอำนาจของพระนี้ไปเหยียบหัวประชาชนชาวพุทธเรา ไปที่ไหนมันก็เที่ยวออกหน้าออกตาทำท่าทำทางว่าเราเป็นชาวพุทธ เราพูดโดยอรรถโดยธรรม ไปสอนประชาชน

ทีนี้คนทั้งหลายเขาเห็นผ้าเหลืองเขาก็กลัวบาป ก็ไม่อยากตอบอยากโต้ นั่นละเหยียบไปหมดเลยที่นี่นะ มันได้อำนาจจากศาสนาแล้วเหยียบเข้าไปถึงชาติบ้านเมือง เอาอำนาจศาสนานี่แหละที่คนไม่กล้าแตะต้องทำลายหรือคัดค้าน มันจะเอาตรงนี้ แผ่รัศมีของอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ จะทำให้ชาติให้ศาสนาจมเพราะอันนี้เองไม่มีอะไร แผ่ทางพระนี้ก็แผ่ คำว่าทางพระเราหมายถึงเรื่องเพศเหลืองๆ นะ แต่ตัวนั้นมันเป็นพระหรือเป็นผีเราก็ไม่รู้แหละ นี่ก็แผ่ไปทางหนึ่ง จะเอาอำนาจไปประสานกัน ทางบ้านเมืองก็เป็นเสี้ยนเป็นหนามอยู่ในวงราชการต่างๆ เป็นหอกข้างแคร่ๆ อยู่ตามนั้น แล้วเชื่อมมาใส่กันดึงกัน ได้กำลังแล้วตีลงหมด เอาชาติเป็นเขียงเหยียบขึ้น เอาศาสนาเป็นส้วมเป็นถานถ่ายลงนั้นหมด จะเป็นอย่างนี้ไม่เป็นอย่างอื่น

ถ้าไม่เป็นอย่างนี้ต้องมีเหตุมีผล ต้องฟังเสียงกันซิคนเรา นี่มันไม่ยอมฟังเสียงนะเวลานี้ ค้านกันบรรดาชาวพุทธ เรื่องที่มาตั้งกรรมการอย่างนี้ๆ เป็นเรื่องของภายนอกนี่นะ ประชาชนคนภายนอกมายุ่งกับพระทำไม พระพุทธเจ้าท่านให้ใครมายุ่ง เจ็บไข้ได้ป่วยมาตั้งแต่พระพุทธเจ้า การรักษาพยาบาลกัน ใครจะรักษาพระที่เจ็บไข้ได้ป่วยในวัดดียิ่งกว่าพระวะ พระรักษาท่านรักษาตามธรรมวินัย รักษาด้วยความเมตตาล้วนๆ  อันนี้รักษาก็ประกาศป้างๆ ทำเป็นหน้าที่ให้สวยงาม อำนาจอยู่กับมัน มันจะสะแตกพระกินตับพระ อวดอำนาจตัวเองเหยียบหัวพระไปนั้น โดยอาศัยอำนาจที่ตั้งขึ้นมานี้ มันน่าดูไหมพิจารณาซิ

ตั้งขึ้นแล้วก็เป็นแหล่งอำนาจใหญ่นะขึ้นมาที่ตรงนี้ แล้วกระจายออกไปไหนเหยียบดะไปเลย ให้พากันจำเอา หลวงตามันเรียนน้อยเรียนแค่ ป.๓ ใครเรียนสูงกว่านั้นก็เอามาอธิบายให้ฟังหน่อยนะ เราสลดสังเวชนะเวลานี้ นี่ละตั้งขึ้นมาถึงสามพักนี่ละนะ ตั้งแต่พักแรกๆ มา เรื่องราวก็สงบลงไปๆ คราวนี้เอาใหญ่เลยเชียว จะไม่ยอมสงบ จะให้ได้อย่างใจโดยถ่ายเดียว ตั้งผู้ใหญ่ๆ ขึ้นมาเป็นก๊กเป็นเหล่าเป็นเจ้าอำนาจแล้วก็เหยียบหัว แม้ที่สุดศาลก็หมอบอยู่ใต้อำนาจของมันพวกนี้น่ะ เราทราบมาอย่างนั้นเราไม่ได้ไปเห็น แต่น่าจะไม่ผิดจากความจริง กว้านเอาหมด ปิดหมดไม่รับสำนวนทุกสิ่งทุกอย่าง ร้องทุกข์หรือฟ้องร้องประการใด ไม่ยอมรับ ศาลไม่ยอมรับ กำลังเริ่มขึ้นแล้วเวลานี้ เป็นอย่างนั้น อำนาจของป่าเถื่อนปิดจนกระทั่งศาลไม่ยอมรับพินิจพิจารณาการร้องทุกข์ของประชาชนเลย กำลังเริ่มเวลานี้

เอาฟังไป พี่น้องทั้งหลายฟังไปทุกคนนะ แหม เราสลดสังเวชนะสิ่งเหล่านี้ เพราะเราพูดเป็นธรรม การพูดมานี้พูดเป็นธรรมจึงอาจหาญชาญชัยไม่มีสะทกสะท้าน ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก จึงเรียกว่าธรรม จะอ้อมแอ้มๆ ไม่เรียกว่าธรรม เอาละเท่านั้นวันนี้ ว่าจะไม่เทศน์เลยไปใหญ่แล้ว

โยม ภาวนาไปแล้ว พบความว่างเปล่า ๓ ครั้งเจ้าค่ะ

หลวงตา พิจารณายังไงมันถึงว่าง ว่ามาต้นเหตุ

โยม ตอนแรกเลยจิตไม่รวม จิตรวมยากมาก ต้องฝึกสติ มองเห็นกายภายนอกภายใน กระโดดโลดเต้นตามทางจงกรม จนเกิดเวทนาทางกาย วิงเวียน ก็เลยนั่ง แล้วเกิดอาการชาทั้งแขน เท้าและศีรษะ แล้วก็หายไป ก็พยายามพิจารณาเข้ามาในสกลกายว่า กายนี้มีแต่ของสกปรก ตามช่องทวารต่างๆ มีแต่ของสกปรก อวัยวะภายในก็ประกอบไปด้วยของสกปรกเน่าเหม็นทั้งสิ้น พิจารณาไปเรื่อยๆ เลาะหนัง เนื้อ กระดูกออกมาเป็นกอง กองเนื้อ กองหนัง กองกระดูก กองอวัยวะภายในทุกอย่างว่าไม่ใช่ของเรา จากนั้นกำหนดเผามันจนเหลือแต่เถ้าถ่านเหมือนกับดินที่อยู่ข้างทางจงกรม มีแต่ธาตุดินกับน้ำเท่านั้น ส่วนธาตุลมธาตุไฟเรามองไม่เห็น แล้วก็พิจารณานามธรรม

หลวงตา พิจารณาอย่างนั้นแล้วจิตมันว่างเหรอ

โยม ว่างค่ะ

หลวงตา แล้วทุกวันนี้มันก็ว่าง

โยม ไม่ค่ะ ไม่อยู่กับที่ พอว่างแล้วมันทำอะไรไม่ถูก

หลวงตา เวลามันว่างก็ให้มันว่างเสีย

โยม พอว่างมันจะมีอาการแปลกๆ ของมัน พอมันแปลกๆ แล้วมันจะฟุ้ง กิเลสจะเข้า

หลวงตา มันไม่ได้ว่างตลอดไป มันว่างเป็นบางกาลใช่ไหม

โยม ค่ะ

หลวงตา ให้ถือเอาที่พิจารณา แต่เราอย่าไปเป็นสัญญาอารมณ์กับสิ่งที่พิจารณามาแล้วผ่านมาแล้ว เวลานั้นให้เป็นปัจจุบันเหมือนที่เราพิจารณานั้นเป็นปัจจุบัน อารมณ์เหล่านั้นให้ปล่อยทิ้งให้หมด ให้หาใหม่เป็นปัจจุบัน นี้จึงเป็นสมบัติของเราโดยแท้ อันนั้นเป็นสมบัติปล่อยไปแล้ว อย่าไปคว้ามาอีก ถ้ามันจะเกิดอย่างเก่าก็ตามแต่เกิดในปัจจุบัน เรียกว่าถูกต้องด้วยกัน ให้พิจารณาอย่างนั้น วันนี้เป็นอย่างนั้น เมื่อวานนี้เป็นอย่างนั้น วันนี้ทำไมเป็นอย่างนี้อย่าไปต้องติ ให้พิจารณาในปัจจุบัน วันนี้อาการนี้เป็นอย่างนั้นๆ แล้ววันนี้ทำไมเป็นอย่างนี้ อย่าไปท้วงอย่าไปค้านกัน มันเป็นอะไรให้อยู่ในปัจจุบันของมัน เรื่องการพิจารณานี้เราอย่าเอาอดีตมาเป็นบทเดินทางเหมือนแปลนของเขาอย่างนั้นไม่ได้นะ เวลาเป็นแปลนก็เป็น แต่เวลาทำงานเขาไม่ได้ไปดูแปลน เขาดูแปลนมาแล้วเขามาทำงานเป็นปัจจุบัน เข้าใจไหม อันนี้ก็ให้พิจารณาอย่างที่เราพิจารณา ความแยบคายของการพิจารณาบอกใครไม่ถูก เป็นความแยบคายของตัวแต่ละคนๆ  แล้วให้พิจารณาเป็นปัจจุบัน มันจะเกิดขึ้นเหมือนเก่าหรือไม่เหมือนเก่าก็เป็นปัจจุบัน เป็นผลของเราโดยเฉพาะ เข้าใจเหรอ ให้พิจารณาอย่างนี้

โยม เป็นปัญหาที่จิตไม่ยอมเกาะพุทโธ เจ้าค่ะ

หลวงตา ไม่เกาะก็ไม่เป็นไร เพราะเหตุใดเอ้าว่าไป

โยม พยายามเท่าไรมันก็ไม่ยอม พยายามจนกระทั่งเหนื่อยหอบ จึงเข้าพิจารณาสกลกายแยกแยะมันถึงสงบลงเจ้าค่ะ

หลวงตา มันไม่เอาพุทโธ มันอยากพิจารณาสกลกาย เอานั่นละ อะไรถ้ามันอิ่มมันก็ปล่อยของมันไปเรื่อยๆ เข้าใจไหม พุทโธๆ นี่เป็นทางก้าวเดิน เหมือนบันไดแต่ละขั้นๆ ก้าวขั้นนี้ปล่อยขั้นนี้ ขึ้นขั้นนั้น ไม่ใช่จะมาเกาะอยู่ที่บันไดขั้นแรกอย่างเดียว นี่เวลาจิตมันเปลี่ยนความรู้สึก แล้วมันจะเปลี่ยนอาการทุกสิ่งทุกอย่างที่มาเกี่ยวข้องกันไปเรื่อยๆ ของมัน มันเป็นยังไงให้รู้ เข้าใจเหรอ เอาปัจจุบัน มันไม่เอาพุทโธก็ไม่ต้อง ถูกต้องแล้ว หมดแล้วนะ

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th