เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๗
จ้างโฆษณา
ก่อนจังหัน
พระเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ นะ พระแปลกหน้าแปลกตาเข้ามาเรื่อยๆ อย่าให้แปลกการปฏิบัติต่อธรรมต่อวินัยนะ ถ้าแปลกจากนี้ใช้ไม่ได้เลย แปลกหน้าแปลกตาเป็นธรรมดาทั่วโลกดินแดนเป็นอย่างนั้น แต่การปฏิบัติแยกจากธรรมจากวินัยนี้ เรียกว่าแปลกธรรมแปลกวินัย พระเข้ามาเท่าไรแปลกธรรมแปลกวินัย การประพฤติปฏิบัติเข้ากันไม่ได้ อย่างนี้อย่าทำกันนะ เข้ามาคละเคล้ากันแล้วมันเลอะเทอะนะ จะเสริมกันขึ้นไม่ค่อยมี มีแต่เรื่องเลอะเทอะๆ สุดท้ายผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติเป็นพื้นเป็นฐานนี่ละบอบช้ำ ทั้งจะดูคนนั้น ช่วยคนนี้ อะไรเลอะเทอะไปหมด เอาเท่านั้นละจะให้พร วันนี้พระตั้ง ๔๐ กว่า
หลังจังหัน
กุดข้าวปุ้นบอกให้เขาสั่งรถเสีย ผ่านมาได้ ๓ วัน คือลืมมาได้ ๓ วัน พึ่งระลึกได้วันนี้ให้สั่งได้เลย สงสารกุดข้าวปุ้น สิรินธรมารับไปเมื่อวานนี้รถพยาบาล แล้วว่าจะสั่งแต่เมื่อวานลืมอีกแล้ว วันนี้ให้สั่งเสียนะ โอ๊ย สงสารจะทำไง พอได้ทราบว่าคนหนึ่งได้ไป คนนี้ก็มา เมื่อวานนี้สิรินธร โอ๋ย ไกล สิรินธร อุบล เหล่านี้เราเคยไปเทศน์หมดแล้ว เขื่อนสิรินธร เราเคยไปเทศน์หมดแล้ว ว่าที่ไหนมันก็รู้ๆ โขงเจียมไปหมดเทศน์ก็ดี
กุดข้าวปุ้นนี้ไม่ทราบว่าอยู่ทิศไหนของอุบลนะ อ.กุดข้าวปุ้นนี่ ข้าวปุ้นนี่หมายถึงขนมจีน ขนมเส้น สามไวพจน์นี้ใช้แทนกันได้ กุดขนมจีน กุดขนมเส้น กุดข้าวปุ้น เป็นไวพจน์ใช้แทนกันได้ เราก็หมุนไม่ทันจะทำไง หมุนเต็มเหนี่ยวเหมือนกันนะ หมุนไม่ทัน มีแต่ให้รอไว้ๆ คือมาหนาเข้าเรื่อยๆ โรงพยาบาลนี่ แล้วเป็นจุดสำคัญเสียด้วยนะ โรงพยาบาลเป็นจุดจนตรอกจนมุม ตั้งแต่มหาเศรษฐีลงมาถึงคนจน ถ้าลงเจ็บไข้ได้ป่วยต้องเข้าหาหมอทั้งนั้นแหละ หายา ถ้าไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือจะทำไง หมอก็ก้าวไม่ออก คนไข้ก็หมดหวัง นี่ที่เราได้บึกบึน ถึงขนาดติดหนี้เราก็ยอมติด เพราะเราเล็งเห็นความสำคัญของคนไข้ ด้วยเหตุนี้เองจะมาที่ไหนๆ มาเอาสิ่งของ มามากมาน้อยเราพอใจๆ ด้วยความเมตตา เพราะเห็นความจำเป็นจริงๆ
ท่านเหล่านี้ถ้าหากพอถูไถช่วยตัวเองได้แล้วจะไม่มา เหตุใดจึงต้องมา ก็เพราะไม่ไหว ต้องขอให้ผู้อื่นช่วย จึงต้องมาๆ เมื่อวานนี้ก็ ๔ โรง โรงพยาบาล ที่ไกลกว่าเพื่อนก็สิรินธร อันนี้ให้พิเศษ จังหวัดอุบลนี้จะเป็นโรงพยาบาลอำเภอใดก็ตามให้พิเศษทั้งหมด อุตรดิตถ์เหมือนกัน อำเภอใดก็ตามในเขตจังหวัดนั้นมาให้พิเศษทั้งหมด โคราชเหมือนกัน ให้พิเศษทั้งจังหวัดเลย นอกนั้นเราก็แยกให้ ถ้าไม่ไกลนัก ธรรมดาก็ให้ธรรมดา
แล้วที่ไหนยังมีอีก เอกซเรย์ ร่องคำหรือไง (ร่องคำครับ) เออ โรงพยาบาลร่องคำ ที่จะมาขอเอกซเรย์เมื่อวานนี้ เราก็บอกให้รอ เพราะมันหนักมากจะทำไง วันนี้ก็จะสั่งรถพยาบาลแหละ ต่อไปก็อาจจะไปทางเอกซเรย์ เอกซเรย์นี้ก็มีความสำคัญภายใน ฉายถ้าไม่รู้จุดนี้ทำสุ่มสี่สุ่มห้าเสีย ถ้ารู้จุดรู้อะไรก็สะดวก เอกซเรย์นี้มากนะ เอกซเรย์ อุลตราซาวด์นี้มากจริงๆ เพราะเราเห็นเป็นความสำคัญๆ ให้ๆ เลย ร่องคำนี้เรามาจาก อ.โพนทอง หรือไง ไปเทศน์ที่นั่นผ่านมา เราเห็นโรงพยาบาลอยู่ข้างๆ ถนน โอ๋ โรงพยาบาลอยู่นี้ คือเขามาวัดนี้เสมอ เขาว่าอยู่โรงพยาบาลร่องคำ แต่เราไม่เคยเห็นโรงพยาบาลนี้ ผ่านมาวันนั้นเห็น เลยจ้องดูจริงๆ แหละ อ๋อ อยู่ตรงนี้ ระยะทางใกล้ไกลเราก็คิดพร้อมเลย
สำหรับกาฬสินธุ์นี้รู้สึกว่าจะขาดแคลนมากกว่าเพื่อน เราเห็นใจ โรงพยาบาลทางจังหวัดกาฬสินธุ์มามากกว่าเพื่อน เราพอใจๆ แรกๆ เราไปเราเข้าไปดูจนกระทั่งครัวคนไข้นั่นนะ ครัวคนไข้เราไปดูๆ ไม่ใช่ดูธรรมดานะ ดูขนาดนั้น ซอกแซกซิกแซ็ก ทีนี้การสงเคราะห์ก็ถูกต้องดีมากกว่าทำแบบสุ่มๆ ไปอย่างนั้น
นี่กำลังเร่งทองคำเรา เร่งดอลลาร์ เร่งทองคำ ให้ถึงจุดนั้นแหละ เราเชื่อ แน่นอนได้ครบ ทองคำอย่างน้อยเรียกว่าให้ถึง ๑๐ ตันเลยเทียว ขาดกิโลหนึ่งไม่ได้เลย นี่ก็ขาดอยู่ประมาณสัก ๔๐๐ กิโลละมัง ให้เลยนั้นไม่เลย มันขยับเข้าเรื่อยๆ จวนเท่าไรทางนี้ยิ่งเร่งเข้าเรื่อยๆ พอจวนถึงวันก็เอาให้ได้เลย ดอลลาร์เวลานี้ดูเหมือนยัง ๑ ล้าน ก็ไม่เป็นไร หากว่าจำเป็นจริงๆ เราก็เอาเงินในบัญชีโครงการถอนออกมาปุ๊บซื้อดอลลาร์เข้าไป อย่างนั้นนะ เราทำไม่อยากให้บอบช้ำพี่น้องทั้งหลาย เพราะเงินในโครงการนั้นก็คือเงินของพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคมา เวลาจำเป็นเราไม่อยากให้บอบช้ำมาก เราก็ไปคว้าเอานั้นออกมาช่วยกัน
นี่เราช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย ช่วยด้วยความเมตตาล้วนๆ ตลอดมานี้ เราก็พอใจสำหรับการช่วยเหลือของเรา เราไม่ได้มีอะไรสงสัยในตัวของเราเลยว่า มีมลทินต่อพี่น้องทั้งหลาย ขนาดนั้นนะเราทำ สละเป็นสละตายเพื่อพี่น้องทั้งหลายจริงๆ สมกับว่า เอา จะช่วย ออกแล้วทีนี้ก็เรียกว่าตัดสินใจขึ้นเวที เพราะนิสัยเราพูดจริงๆ จริงจริงๆ นิสัยเราไม่ได้เหลาะแหละนะ ว่าอะไรเป็นอันนั้น ถ้าไม่ว่าไม่เป็น ถ้าลงว่าแล้วเป็นเลยแหละ อันนี้เราก็ลงถึงประกาศแล้วไม่เป็นได้ยังไง ต้องเอาให้เต็มเหนี่ยวๆ เราจึงภาคภูมิใจในกำลังของเราที่ช่วยเหลือพี่น้องทั้งหลาย เรียกว่าเราช่วยเหลือเต็มกำลัง ตลอดชีวิตจิตใจสละหมด เมื่อถึงคราวเป็นคราวตายเราไม่ได้เสียดายชีวิต เราเป็นจริงๆ นะ เราจึงประกาศป้างว่าเราไม่มีกลัวไม่มีกล้า มีแต่ธรรมที่จะพาก้าวเดิน
เพราะฉะนั้นใครจะมาขู่เข็ญแบบไหนๆ อย่ามาขู่เข็ญเลย ถ้าอยากทำก็ทำ ให้เรากล้าเรากลัวเราไม่มีเราบอกจริงๆ ผ่านหมดแล้วว่างั้นเลย เพราะความกล้าความกลัวมันก็เป็นสมมุติอยู่ในธาตุในขันธ์ สมมุติว่าเขามาฆ่า ก็ฆ่าได้แต่กองกระดูกเท่านั้น หัวใจเราฆ่าได้เมื่อไร อันนั้นละอันไม่มีคำว่ากล้าว่ากลัว อันนี้พร้อมที่จะสละมันอยู่แล้ว ใช้ไม่ได้แล้วหรือทิ้งปั๊วะเลย แน่ะ ไม่เห็นมีอะไร ใครจะฆ่าไม่ฆ่ามันก็เป็นของมันทุกคนนั่นแหละ เราได้ช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วยช่วยพี่น้องชาวไทยคราวนี้นะ
หากเป็นบุญเป็นกรรมอันหนึ่งอยู่นั้น มันมีอยู่ทั่วไป มีมาตั้งดึกดำบรรพ์ เรื่องดีเรื่องชั่วนี้มันมีสับปนกันมา พอพูดอย่างนี้ก็ทำให้เราระลึกได้ ระลึกเดี๋ยวนี้แหละนะ เพราะเราไม่ผูกกรรมผูกเวรกับผู้ใด เราทำด้วยความเป็นธรรมล้วนๆ ต่อโลก เมื่ออะไรแฝงเข้ามาผิดเราก็รู้ว่าผิด ถูกรู้ว่าถูก เมื่อเวลาจะพูดก็ต้องพูดไปตามความที่ว่าผิดกับถูก ผิดก็บอกว่าผิด ถูกก็บอกว่าถูก ดังเวลานี้ที่เขาโฆษณา เวลานี้กลายเป็นเรื่องมหาภัยต่อชาติเราแล้ว การโฆษณานี้เราได้พิจารณาตามคำโฆษณาโจมตีของพวกที่ทำดีทั้งหลายเวลานี้ กำลังอุ้มชูชาติไทยและพุทธศาสนาของไทยให้ขึ้น เพื่อเทิดทูนชาติของตนและศาสนาของตน
แต่เรื่องโฆษณารู้สึกว่าออกทุกหย่อมหญ้าเวลานี้ แล้วเราสังเกตดูคำโฆษณา มันไม่ได้เข้ากับความจริง นี่ละทำให้เราได้พูดเวลานี้ เราจึงขอบิณฑบาตกับผู้ที่โฆษณาทั้งหลาย อย่าโฆษณาสุ่มสี่สุ่มห้า ชวนให้เขาเชื่อๆ ทั้งๆ ที่หาความจริงไม่ได้ ฟังแล้วคำโฆษณามันไม่ได้เข้าหาความจริงเลยนะ เช่น มีเงินมีทองมีข้าวมีของมีอะไร ตลอดลูกๆ หลานๆ อะไรเหล่านี้ขึ้นไป ทีนี้ไปจุดใหญ่ก็คือคุณทองก้อน ฟังซิน่ะ คุณทองก้อนนี้ เขาประกาศจะจับคุณทองก้อน คำว่าประกาศจะจับคุณทองก้อนก็คือโฆษณานั่นเอง ให้เขาดูถูกเหยียดหยาม จดจ่อคุณทองก้อน และผู้ที่มาโฆษณานั้นถือว่าเป็นผู้ดิบผู้ดี เป็นผู้บริสุทธิ์พุทโธ เป็นผู้เลิศเลอ ถือว่าคุณทองก้อนนี้เป็นนักโทษทีเดียว เป็นผู้ทำความผิดจึงต้องได้ถูกเขาประกาศจะจับคุณทองก้อนเวลานี้ เพราะคุณทองก้อนยักยอกเอาเงินหลวงตาบัว นี่ฟังซิ
เกี่ยวกับเรื่องการเงินการทอง คุณทองก้อนยักยอกเงิน เราพูดเฉพาะเราจำได้นะ ถ้าอันไหนไม่ชัดเราไม่พูด เพราะเราเอาธรรมล้วนๆ นี่นะ เราไม่ได้ใส่ร้ายต่อผู้ใด นี่เขาก็ออกโฆษณาไม่ใช่หรือทางหนังสือพิมพ์ เขาว่าไงว่าคุณทองก้อน โฆษณาประกาศจับคุณทองก้อนว่างั้นใช่ไหม (เขาว่าจะไปแจ้งความที่กองปราบจับคุณทองก้อน โดยหาว่าเป็นผู้ยักยอกเงินผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตา แล้วยังพาดพิงถึงลูกศิษย์ลูกหาอีกสองสามคน เขาก็ว่ายักยอกเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ผู้แจ้งก็ไม่มีหลักฐาน หลักเกณฑ์อะไร พูดเลื่อนๆ ลอยๆ แล้วมาลงหนังสือพิมพ์ก็ทำให้เขาเสียหายละครับ)
นี่ฟังซิน่ะ เรื่องโฆษณานี้มันหาความจริงไม่ได้ ถ้าหากว่าเป็นความจริงแล้วไม่ต้องยากแหละ มาบอกหลวงตาบัว จะเข้าคุกเลยเฉพาะหลวงตาบัวเอง จะเดินอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส บวชมาในศาสนานี้เราไม่เคยทำโทษอะไร แต่มีโทษถึงขนาดเข้าคุก เราจะได้เดินให้เป็นตัวอย่างของพี่น้องชาวไทยเรา อันนี้ที่โฆษณาอย่างที่ว่านี่นะ มันไม่มีความจริงเลยจะให้ทำไง แล้วมันก็ส่อไปอีกให้เราคิดอีกนะ นี้เราคิดเฉยๆ เราไม่ได้เห็นด้วยตาเราก็บอกเราไม่ได้เห็นด้วยตา การโฆษณาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ว่าโฆษณาที่ไหนทั่วประเทศไทย เอาแต่เรื่องจอมปลอมมาโฆษณาๆ ทั้งนั้นไม่ได้มีความจริง
เรายกตัวอย่างอย่างนี้ละ เช่นอย่างคุณทองก้อนกับพวกของคุณทองก้อนที่จะถูกจับ หาว่ามายักยอกเงินดังที่พูดตะกี้นี้นะ คุณทองก้อนไม่เคยมาเกี่ยวข้องกับเงินแม้สตางค์หนึ่งเลย(สาธุ) ในคณะกรรมการที่นับเงินนี้ก็เป็นลูกศิษย์ของเราที่เป็นหัวใจเราทั้งนั้น ที่มานับเงินนับทอง สำหรับคุณทองก้อนไม่เคยมาเกี่ยวข้องเลย แม้สตางค์หนึ่งแกก็ไม่เคยมายุ่งเลย แล้วเหตุใดจึงพูดได้ลงคอว่า แกยักยอกเอาเงินผ้าป่าหลวงตาบัวไป นี่ซีมันน่าคิดเอามากนะ เป็นยังไงพี่น้องทั้งหลายให้คิดดูนะ เรื่องโฆษณาเหล่านี้ตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำลายทั้งชาติทั้งศาสนาให้ล่มจมลงไปจากคนไทยเหล่านี้แหละ แล้วมันเป็นยังไง เราจึงขอบิณฑบาต อย่าโฆษณาสุ่มสี่สุ่มห้า เท่าที่โฆษณามานั้นมันหาความจริงไม่ได้เลย เราเป็นคนกลาง เราเป็นคนมีอรรถมีธรรม เราไม่ได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้า
อย่างพูดอยู่เวลานี้เราเอาความจริงออกมาพูดทั้งนั้น ขอให้พี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยทราบความเท็จความจริงด้วยดีนะ เราเป็นผู้รักษาชาติด้วยกันขออย่ามาทำลายกันคนไทยด้วยกัน มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยละ ตัดแข้งตัดขาของตัวเองให้ขาดทั้งแข้งทั้งขา แล้วประกาศว่ามีดตัวนี้แหลมคม เป็นยังไงคนที่เอามีดเอาดาบมาตัดแข้งตัดขาเจ้าของ แล้วประกาศความดีของมีดของตัวว่าแหลมคมมากอย่างนี้ ใครจะพิจารณาว่ายังไง อันนี้ก็เหมือนกัน การโฆษณาเพื่อทำลายชาติของตัวเอง ซึ่งเป็นเหมือนอวัยวะของตัวเองนี้ จะอวดตัวเองว่ามีฝีปากที่แหลมคม มีความเฉลียวฉลาด ใครจะไปเชื่อได้
โฆษณามาคำไหนเราทราบทุกอย่างๆ ที่โฆษณามา ไม่มีความจริงเลย ตั้งหน้าตั้งตาโฆษณามานี้ จึงทำให้เราคิด นี่ฟังนะทำให้คิดนะ เราไม่ได้เห็นด้วยตาจึงทำให้เราคิดว่า พวกนี้มันน่าจะไปเที่ยวหาจ้างเขามาโฆษณาให้ คนที่มาโฆษณาเขาก็หาเช้ากินเย็น พอได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องเขาวันหนึ่งเขาก็ไปโฆษณาให้ เพราะฉะนั้นจึงทำผิดๆ ถูกๆ เจือปนกันไป ไม่ใช่คนหาเหตุผลจริงๆ เป็นคนที่รับจ้างโฆษณา รับจ้างเขามาโฆษณาแล้วได้กินวันหนึ่ง เช้าชามเย็นชามก็แล้วแต่เถอะ พอได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันหนึ่งๆ จากค่าโฆษณาที่เขามาจ้างโฆษณา นี่เราอดคิดไม่ได้ เพราะคำโฆษณานี้ไม่ได้มีอะไรความจริง สะเปะสะปะ เรียกว่าทำไปพอได้ค่าจ้าง ว่างั้นเถอะน่ะ โฆษณาไปเรื่อยๆ ไปที่ไหนฟังที่ไหนไม่มีความจริงเลย มีแต่เรื่องโฆษณาๆ จอมปลอมๆ ไปทั้งหมดๆ
ยกตัวอย่างอย่างที่ว่านี่ อย่างที่คุณทองก้อนกับคนสองสามคน เราจำชื่อไม่ได้ที่ถูกโฆษณาโจมตีอยู่เวลานี้ว่ามาเกี่ยวข้องกับเงินๆ พวกนี้ไม่เคยมาเกี่ยวข้องเลย นี่เห็นไหม ผิดกันร้อยเปอร์เซ็นต์เลยไม่ใช่ธรรมดานะ คำโฆษณาเขาว่าอย่างนั้น แต่มันผิดไปถึงร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ถ้าหากว่าตั้งหน้าตั้งตามาหาเหตุหาผล แล้วโฆษณาออกตามคำสัตย์คำจริง จะโจมตีหรือจะชมเชยก็ให้เป็นตามความจริง นั้นเราพอใจที่จะฟัง เพราะบ้านเมืองของเรามีทั้งพุทธศาสนา มีทั้งกฎหมายบ้านเมือง มีระเบียบ มีธรรมเนียมอันดีงามประจำมนุษย์เรา ไม่ใช่จะสุ่มสี่สุ่มห้ามาหาว่า หรืออยากว่ายังไงก็ว่ากันไปอย่างนี้ มันใช้ไม่ได้นะ มันเลวนะผู้โฆษณา
ที่ได้รับจ้างมาก็รับจ้างมาจากพวกนั้น เป็นผู้เลวอีกเหมือนกัน จึงขอบิณฑบาต อย่าทำอย่างนี้เลย เราเป็นชาติไทยชาติเดียวกัน ถือพุทธศาสนาเดียวกัน อย่ามาทำลายชาติศาสนาของตนเลย ซึ่งเป็นเหมือนกับเอาดาบมาฟันหัวเจ้าของ ตัดหัวเจ้าของ แล้วเอาไปอวดโลกเขาว่าดาบนี้คมกล้าฟันคอก็ขาด แต่คอนั้นคือคอใคร มันก็คอเจ้าของเอง นี้ก็คมกล้าเรื่องการโฆษณา ดาบนี้คมกล้า แล้วฟันใคร มันก็ฟันทั้งตัว ฟันทั้งชาติทั้งศาสนาทั้งประเทศให้แหลกเหลวไปตามๆ กัน มันดีไหมพวกโฆษณา
เวลานี้ออกทุกหย่อมหญ้านะ ตั้งหน้าตั้งตาโฆษณาไปทุกแห่งทุกหน หาความจริงไม่ได้ มันจึงอดไม่ได้ว่าพวกนี้ต้องถูกจ้างมาโฆษณา มันจึงโฆษณาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าพอได้ค่าจ้างรางวัลจากโฆษณาวันหนึ่งๆ ไปก็พอ มันอดคิดไม่ได้ เพราะไม่ได้โฆษณาตามความสัตย์ความจริงอะไรเลย เลอะเทอะมากขนาดนั้นนะ ตั้งหน้าตั้งตาจะทำลายผู้อื่นเพื่อจะยกตน จะทำลายใคร เพื่อจะยกใคร มันก็ทำลายชาติของเจ้าของ เนื้อหนังของเจ้าของ อวัยวะของเจ้าของให้ล่มจมลงไปนั่นเองจะเป็นอะไรที่ไหนไป วันนี้ขอบิณฑบาตผู้โฆษณา ขอให้พินิจพิจารณาด้วยดีอย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้า
ไม่ว่าพระไม่ว่าโยมก็ตาม โฆษณานี้แหลกๆ เหลวๆ ไปหาความจริงไม่ได้นะ อย่างโฆษณาว่าพระป่านี้เป็นพระวิกลจริต ฟังซิน่ะ มันย้อนเข้าไปถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญอยู่ในป่า ตรัสรู้อยู่ในป่า เป็นศาสดาเอกอยู่ในป่า แล้วมาสอนสัตว์ทั้งหลายมี สาวก เป็นต้น สำเร็จมรรคผลนิพพานมาเป็นลำดับจนเป็น พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา แล้วพระท่านก็ปฏิบัติตามนั้นเรื่อยมา สืบทอดมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย คือองค์ศาสดาของเรา มาถึงลูกเต้าหลานเหลนที่ปฏิบัติธรรม ด้วยความมุ่งหวังต่ออรรถต่อธรรมต่อมรรคผลนิพพาน อยู่ในป่าในเขาเรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้ แล้วทำไมจึงว่าพระเหล่านี้เป็นพระวิกลจริต พิจารณาซิ
มันทำลายน้อยเมื่อไรคำโฆษณานี้นะ แม้แต่ออกทางโฆษณาเท่านั้นเขาก็มองเห็นแล้วว่า คนคนนี้ หรือพระองค์นี้คือใคร มันเลวขนาดไหนฟังซิ ว่าเป็นลูกศิษย์ตถาคตทำไมจึงทำลายพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นจอมศาสดาที่อยู่ในป่ามาได้ลงคอ พิจารณาซิ นี่ละคำโฆษณาอย่างนี้พิจารณาเอาซิ ท่านทั้งหลายว่าเป็นมงคลไหม เอากันตรงนี้เองนะ เป็นมงคลไหมคำพูดเช่นนี้น่ะ
ทำลายองค์ศาสดาลงมา พระพุทธเจ้าอยู่ในป่าบำเพ็ญอยู่ในป่า อยู่ในตำรับตำราก็เห็นทุกคน ผู้มันโฆษณามันก็เห็น นอกจากมันหน้าด้านตั้งหน้าตั้งตาทำลายเท่านั้นเอง มันถึงว่าเอาอย่างหน้าด้านไปเลยทีเดียว พระพุทธเจ้าอยู่ในป่า สาวกทั้งหลายอยู่ในป่า เวลาบวชแล้วฟังซิ รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย นี่พระองค์ประทานพระโอวาทให้นี้ พระทุกองค์ใครเว้นไม่ได้พระโอวาทข้อนี้ ว่าอนุศาสน์ ๘ นิสสัย ๔ อกรณียกิจ ๔ นั่นท่านแสดงไว้ อกรณียกิจ ๔ คือกิจไม่ควรทำ ๔ อย่าง เราไม่บรรยายไปละ กิจที่ควรทำ ๔ อย่าง นิสสัย ๔ ขึ้น รุกฺขมูลเสนาสนํ มาเลย บรรพชาอุปสมบทแล้วให้ท่านทั้งหลายไปอยู่ตามรุกขมูล ร่มไม้ ในป่าในเขา ตามถ้ำ เงื้อมผา ป่าช้าป่ารกชัฏ ที่ไหนซึ่งเป็นที่สะดวกสบายในการบำเพ็ญสมณธรรมแล้ว ให้ท่านทั้งหลายจงทำความอุตส่าห์พยายามอย่างนี้ตลอดชีวิตเถิด
ฟังซิพระโอวาทข้อนี้ พระพุทธเจ้าประทานแก่พระสงฆ์ทุกองค์เลยไม่มีเว้น แม้แต่อุปัชฌาย์ไม่สอนอันนี้อุปัชฌาย์ก็ผิด ปลดจากอุปัชฌาย์ทันที ทำหน้าที่อุปัชฌาย์ไม่ถูกต้องตามพระโอวาทที่ทรงสั่งสอนไว้แล้ว นี่ไล่เข้าไปอยู่ในป่า แล้วเป็นยังไงพวกพระป่าจึงกลายเป็นวิกลจริตไปหมด เอามาพิจารณากันซิน่ะ พระพุทธเจ้าเป็นผู้สอนก็เป็นวิกลจริตมาแล้วตั้งแต่ต้นศาสดามาแล้ว
มันทำลายจนกระทั่งพระพุทธเจ้า ก็หมายถึงศาสนาให้แหลกไปหมดเลย จากนั้นก็มาทำลายชาติบ้านเมือง ลุกลามเข้าไปๆ คำโฆษณานี้เป็นคำโฆษณาที่เป็นมหาภัยต่อชาติต่อศาสนาเป็นอย่างยิ่งทีเดียว แล้วจากนี้ไปโฆษณาที่ไหนทุกหย่อมหญ้า ไปที่ไหนหาแต่โฆษณาหลอกลวงเขาไปๆ จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่า นี้มันต้องจ้างเขาไป เอาเงินไปเที่ยวจ้างเขาเที่ยวโฆษณา เขาก็หาอยู่หากิน หาเช้ากินเย็น พอได้รางวัลค่าจ้างมาบ้างพอประมาณแล้วเขาก็ไปโฆษณาให้ โฆษณาเขาก็โฆษณาสะเปะสะปะ พอได้เงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้การโฆษณาจึงหาความถูกต้องไม่ได้เลย โฆษณาไปที่ไหนๆ มีแต่ความหลอกลวงต้มตุ๋นไปทั่วทุกทิศทุกทางนั่นแหละเวลานี้ เอ้าฟังให้ดี นี่ละภาษาธรรมออก ไม่ได้เป็นภาษาหลอกลวง ภาษาต้มตุ๋น ภาษาทำลายทั้งชาติทั้งศาสนา ดังที่โฆษณาอยู่เวลานี้ นี้เป็นภาษาที่ทำลายทั้งชาติทำลายทั้งศาสนา เพื่อจะยกตนขึ้นไปครองบ้านครองเมืองไหน พิจารณาซิ คนเลว ๆ อย่างนี้ใครจะเอาไปครองบ้านครองเมืองได้ พระเลวใครจะไปปกครองพระสงฆ์ได้ คนเลวจะเป็นผู้ใหญ่ไปปกครองใครได้ มันเลวทั้งนั้นนี่นะ
เอาให้ไปหาเลือกเอา พี่น้องทั้งหลายไปหาเลือกเอา คนที่เป็นหลักเป็นเกณฑ์ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งร่มเงาชุ่มเย็น เอาไปหาเอา ทั้งฝ่ายพระก็หาเอา พระที่โฆษณาแบบนี้หรือเป็นพระให้ความร่มเย็นแก่ประชาชนทั้งหลาย ไปสอนโลกเขาก็สอนอย่างนี้หรือ สอนให้เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปอย่างนี้หรือ พิจารณาซิ ถ้าพูดถึงเรื่องทางธรรม พูดถึงเรื่องทางโลกปลิ้นปล้อนหลอกลวง หาโจมตีนั้นโจมตีนี้ ตรงไหนไม่มีความสัตย์ความจริงให้เขาได้เชื่อ เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่ทราบได้โฆษณาก็เอา เงินมีเท่าไรไหลขนกันออกมา จ้างเขาไปโฆษณา เราเชื่อแน่ว่าเป็นอย่างงั้น แต่จริงหรือไม่จริงเราไม่เห็น แต่สันนิษฐานดูตามเหตุการณ์ที่เขามาโฆษณา มันหาความจริงไม่ได้ โฆษณาแบบสะเปะสะปะ ๆ ไปอย่างงั้นนะ แล้วโฆษณาที่ไหน ๆ เอาไปหมดนั่นแหละ
ทางฝ่ายพระนี้ก็อีกเหมือนกัน ฝ่ายพระก็ใครเป็นอำนาจใหญ่ อำนาจเป็นมหาภัย เป็นเจ้าอำนาจแล้วก็จะไปหาบีบบังคับพระเณรผู้มีความสุจริตยุติธรรม ให้มาปฏิบัติตามภัยของมหาโจรนี้อีก ใครจะไปทำได้ลงคอ มาบังคับซิมาบังคับอย่างหลวงตาบัว เอาให้มา ยกโคตรมาเลยพระประเภทนี้น่ะ หลวงตาบัวจะกลัวไหม เอาฟังซิพี่น้องทั้งหลาย โฆษณาแบบนี้มาเอาอำนาจป่าเถื่อนมาบีบบังคับอย่างนี้ มาบีบบังคับอย่างหลวงตาบัวนี้ เอามา ให้ยกมาทั้งโคตรก็มา หลวงตาบัวจะกลัวไหม ให้ได้เห็นสักที หลวงตาบัวขึ้นเวที เอ้าวิ่งหนีจากผู้ข้าศึกหัวซุกหัวซุนเข้าป่าให้เห็นสักทีน่ะ หลวงตาบัวได้วิ่งอย่างนั้นให้เห็นสักทีนะ
ถ้าลงไม่มีหลักมีเกณฑ์ ไม่เข้าความจริงแล้วมาก็มาเถอะ ยกโคตรมาก็มาว่างั้น ถ้าเป็นความจริงแล้วหมอบทันทีเรา คือธรรม เราไม่ฝืน ถ้าไม่ใช่ธรรมนี้คือข้าศึกก็ต้องต่อสู้กัน มันเป็นยังไง เราจึงขอบิณฑบาต ขออย่าทำเลยนะ ที่ทำมาแล้วนี้เลวที่สุดแล้ว หากล่อมทางนั้น หากล่อมทางนี้ มิหนำซ้ำยังจะเอาอำนาจบาตรหลวงจากความเป็นผู้ใหญ่ ตั้งมาจากที่ไหนก็ไม่รู้แหละ ตั้งมาเป็นใหญ่ๆ เท่าไร มีอำนาจมากก็จะบีบบังคับพระเจ้าพระสงฆ์ที่ปฏิบัติในศีลในธรรมเป็นความดีงามนี้ ให้ท่านปฏิบัติตามกฎมหาภัยอันนี้ ใครจะปฏิบัติตาม หรือพระองค์ไหนที่ปฏิบัติตาม
คณะทั้งสองคณะเรานี้ ประเทศไทยมีอยู่สองคณะ คณะธรรมยุต-มหานิกายให้พากันพิจารณาซิ เราเป็นพระแท้ๆ เราไม่พิจารณาจะพิจารณายังไง จะเอาตามเจ้าอำนาจ อำนาจป่าเถื่อนเอามันมาก็เป็นป่าเถื่อนไปหมดซิ หาหลักหาธรรมไม่ได้ แล้วจะเอาอะไรมาปกครองโลก เมื่อหาอรรถหาธรรมปกครองที่ถูกต้องไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นหลวงตาบัวแล้วเอาจะใหญ่ขนาดไหนก็ให้มา เมื่อไม่ถูกแล้วฟัดกันเลย บอกตรง ๆ อย่างงี้แหละ คือฟัดกันเลย โต้ตอบกันทันทีเลย ผิดบอกว่าผิดว่างี้เลย
ใครไม่ใช่พระ เป็นพระเต่าพอจะซุกหัวเข้ากระดองนี่นะ ให้เขาตีกระดองโป้งๆๆ อย่างนั้นเหรอ พระพวกนี้เป็นพระพวกกระดองหรือจึงหัวซุกอยู่ในกระดอง เราอยากถามว่างั้นนะ มันเป็นยังไงเขาก็คน เราก็คน ธรรมเราก็เรียน เขาจะเรียนหรือไม่เรียนไม่ทราบ ธรรมเราก็เรียน ความผิด ถูก ชั่ว ดี เรารู้ ยังจะไปหัวหดในกระดอง กลัวอำนาจเขาหรือ หรือกลัวยศตกเหรอ กลัวสมณศักดิ์ตกหรือ สมณศักดิ์ตกกับชาติไทยและศาสนาของประเทศไทยตกจมลงไปนั้น อันไหนมีความเสียหายต่างกันยังไงบ้าง เราจะมาเห็นแก่ยศแก่ลาภของเรา กลัวยศ กลัวสมณศักดิ์จะตกนั่นเหรอ ยิ่งกว่าการที่เมืองไทยจะตกจะจมทั้งศาสนาจมไปด้วยกันนั่นเหรอ เอามาชั่งซิ
นี่ละนักเหตุนักผลต้องพิจารณากันอย่างงั้นซิ ผิดต้องบอกว่าผิด ถูกต้องบอกว่าถูก หลวงตานี่เป็นอย่างงั้น คอขาด ขาดไปเลย ที่จะให้กลัวใครไม่มีคำว่ากลัว กล้ากับใครก็ไม่มี มีแต่เรื่องธรรมล้วน ๆ ทั้งนั้น ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก วันนี้จึงขอสรุปความลงไป ขออย่าพาทำกันอย่างนี้ ศาสนาเป็นศาสนาขององค์ศาสดานะ ศาสนาของศาสดานี้เลิศเลอที่สุด สะอาดที่สุด เรามาเป็นลูกศิษย์ตถาคต เป็นบริษัทบริวารของตถาคต อย่าเอามูตรเอาคูถ เอาฟืนเอาไฟไปเผาพระพุทธเจ้า เผาชาติเผาศาสนา ไม่สมควรแก่เราเป็นลูกชาวพุทธเลย เสียหายอย่างยิ่ง ดังที่โฆษณามาเวลานี้ เสียหายอย่างยิ่ง
แล้วมีอุบายที่จะบังคับบัญชาให้อยู่ใต้อำนาจของตน ให้ทำตามตน ทั้งที่เป็นความคิดความเห็น การแสดงออกเป็นภัยเป็นมหาภัยต่อชาติต่อศาสนา อย่างนี้อย่าทำ ถึงทำลงไปผู้ฟังผู้น้อยอย่าเชื่ออย่าถือ อย่าทำตาม ของจริงมีอยู่ไปทำตามอะไร ตั้งขึ้นใครจะตั้งก็ได้ ใหญ่แค่ไหนก็ใหญ่ได้ แต่ไม่เหนือธรรมคือความจริง นี่หลักธรรมอยู่ตรงนี้ เราปฏิบัติตามความจริงซิ ชาติไทยเป็นชาติของเรา เป็นสมบัติของเราทุกคน สังฆมณฑลนี่ก็เราเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า อย่าเป็นสมบัติกาฝาก คอยกัดตับกัดปอดพระพุทธเจ้า คอยเหยียบหัวพระพุทธเจ้า
ให้พากันพิจารณานะ เราขอบิณฑบาต นี้เราพูดเป็นธรรม เราปฏิบัติต่อโลกเราปฏิบัติเป็นธรรมล้วนๆ เราไม่เคยมีความมัวหมองในการช่วยโลกสงสารนี้เลย เพราะฉะนั้นเราจึงเอาธรรมนี้ประกาศ สิ่งใดที่มันแสลง มันแทงจิตใจของคนทั้งประเทศและศาสนาแล้วอย่าเอามาทำ เราเป็นลูกชาวพุทธ เราเป็นคนไทย อย่ามาเป็นเสนียดจัญไร เป็นมหาภัยทำลายทั้งชาติทั้งศาสนา เป็นคนที่จมแต่ยังไม่ตาย เอาละพอ
(กราบเรียนเพิ่มเติม) เอาฟัง ๆ (กราบเรียนให้ทราบทั่วกัน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ขึ้นหัวว่าพระป่า แล้วสรุปตอนท้าย เขาหาว่าพระป่านี่ไปอยู่หน้าทำเนียบด้วย ไม่เห็นมีสักองค์หนึ่ง ปรกติคนที่รู้เรื่องหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์นี่จะเขียนออกไปก่อน ส่งต้นฉบับก่อนล่วงหน้า อันนี้มันคาดเดาเอาเฉย ๆ ไม่เห็นอะไร เรียกว่ามดเท็จ สงสัยจะรับจ้างเหมือนกัน) มันตั้งหน้าโกหก ต้องรับจ้างกันมาอย่างจังๆ ว่างั้นเลยนะ ไอ้พวกที่รับจ้างนี้จึงมากขึ้นทุกวันๆ เพราะมันได้เงิน พวกนี้ไปหาจ้างมาโฆษณา ดังในครั้งพุทธกาล นางมาคัณฑีย์จ้างคนไปด่าพระพุทธเจ้าว่าพระพุทธเจ้า มันมีมาแล้วตั้งแต่นู้นนะ แล้วผลมันมาหาใครไม่รู้ละ ตำรามีทุกคนเราไม่บอก ผู้อ่านจะรู้ด้วยกันใช่ไหม อันนี้มันไปทางเดียวกัน แต่เรื่องผลมันจะไปทางเดียวกันทางไหน เราไม่ใช่ผู้พิพากษา เข้าใจไหม กรรมต่างหากเป็นผู้พิพากษาที่จะตัดสินให้ เข้าใจไหม เท่านั้นพอ สกปรกมากทีเดียว
(ธรรมะที่เขียนมานี่ไม่ค่อยรู้เรื่อง) นั่นแล้ว ที่เขียนมานี่ นี่มันจะมาสอนสังฆราชเสียด้วย ไม่ใช่ธรรมดา นวโกวาทเราเรียนมาเสียพอแล้วนี่ เขาว่าลักษณะตัดสินธรรมวินัยมีอยู่ ๘ ประการ เราเลยไม่พูดไปมาก (อันนี้ที่เขาเขียน แต่ที่ดี ๆ มันไม่อ่านไม่เอามาลงบ้าง) อันไหนดีมันไม่อ่าน อยู่ในฉากเดียวกัน ลักษณะตัดสินธรรมวินัยมีอยู่ ๘ คืออันหนึ่งเป็นคำสอนของศาสดา อันหนึ่งไม่ใช่ มันจะเอาแต่ความเลวร้ายมาป้ายสีคนอื่น ว่าอันไม่ใช่นี้เอามา อันนั้นไม่ได้เอามา โคตรพ่อโคตรแม่มันหาไม่เจอหรือหนังสืออันนี้น่ะ มันหาได้แต่มันมันก็ไม่พอ ต้องเอาโคตรพ่อโคตรแม่มันไปหาอีกหนังสืออันนี้น่ะ หนังสือลักษณะตัดสินธรรมวินัยนี้น่ะ (ของดี ๆ ที่พระป่าท่านปฏิบัติ คนเขียนไม่ค่อยรู้เรื่อง) มันไม่ค่อยรู้เรื่องซิถึงมันรับจ้างเขามาโฆษณา ก็ยังบอกแล้ว เอาละให้อภัยเขา เขารับจ้างนะ เอาละพอให้พร
(วันนี้ผ้าป่าหน้าศาลา ๑,๑๙๘ บาท) เออ พอใจ
ปัญหาธรรมะจากอินเตอร์เน็ต
ข้อ๑ ถาม กระผมได้มีโอกาสฟังเทศน์ของหลวงตาทางอินเตอร์เน็ต กระผมภาวนาพุทโธ ผลที่ได้คือมีความกลัวบาปมากขึ้น การทำบุญมีความละเอียดมากขึ้น เมื่อผมพิจารณาทางปัญญาว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ไม่ใช่ตัวตน ก็เริ่มเห็นว่าจิตเป็นผู้หมายออกสร้างเรื่องต่างๆ ทั้งนั้น ผลที่ได้คือจิตสงบขึ้น และยังเริ่มรู้ว่ามีสิ่งหนึ่งคือตัวเราที่เริ่มติดกับความสงบ จะต้องถูกพิจารณาด้วยกฎไตรลักษณ์ในกาลต่อไป
ข้อ ๑.๑ คิดเช่นนี้ถูกต้องไหมครับ ? และควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ
หลวงตา ถูกต้อง ถ้าคิดอย่างนี้ถูกต้องตั้งแต่ยังไม่คิด ว่าไป
ข้อ ๑.๒ ปัจจุบันผมยังไม่เข้าใจวิธีการพิจารณาวิญญาณ ให้เป็น อนิจจัง ทุกขังอนัตตา กระผมขอความเมตตาพ่อแม่ครูอาจารย์อธิบายวิธีการพิจารณาวิญญาณ ให้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาด้วยครับ
หลวงตา ขี้เกียจตอบ เอาละ เอาอย่างอื่นขอให้มันได้มากๆ เถอะ วิญญาณมันจะไปหมอบหลบซ่อนอยู่ในภูเขาลูกไหน ธรรมที่เราพิจารณาแล้วจะไล่เข้าไปให้รู้มันหมดนั่นแหละ ว่าไป ขี้เกียจตอบ
โยม เขาบอกสุดท้ายนี้ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ดลบันดาลให้หลวงตามีธาตุขันธ์แข็งแรงดี ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
หลวงตา เอ้อ นี่ก็สนองตอบให้คุณภาวนาอย่างภาวนามาเบื้องต้นนั้นถูกต้องแล้ว ให้ภาวนามากๆ เข้าไปนะ ยกไว้แต่วิญญาณให้มันหลบซ่อนอยู่ในหีบในหุบเขาลูกไหน ก็ให้มันหลบเถอะ ถ้าคุณพิจารณาธรรมนี้มากๆ แล้วจะเข้าไปเผามันได้ เข้าใจไหม เอาแค่นั้นแหละ
โยม คนที่ ๒ เขาใช้ชื่อว่าโยมนะครับ
หลวงตา เอาว่ามาเลยโยม
ถาม โยมเข้ามาในอินเตอร์เน็ตของหลวงตา แล้วก็มีโอกาสได้อ่านที่หลวงตาสอนฝึกสมาธิ ที่ว่าให้ท่องพุทโธไปเรื่อยๆ จะไม่กำหนดลมหายใจก็ได้ โยมลองกลับไปทำดู โดยท่องแต่พุทโธอย่างเดียวเลย ไม่ได้สนใจลมหายใจเข้าออกแต่อย่างใด แล้วพบว่าจิตมันจะค่อยๆ สงบรู้สึกเบาสบาย แล้วคำภาวนาก็จะหายไปเอง จิตมันว่างอยู่แบบนั้น แล้วก็ค่อยๆ ถอนออก เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ขอกราบเรียนถามถึงการปฏิบัติขั้นต่อไปค่ะ จากคนเริ่มฝึกนั่งสมาธิ
หลวงตา แต่ก่อนเขานั่งภาวนาอานาปานสติหรือ
โยม เขาไม่ได้บอกว่าเขาทำอะไร แต่ตอนหลังเขาทำตามคำสอนหลวงตา ท่องพุทโธ
หลวงตา เขาไม่กำหนดอานาปานสติ ลมหายใจ (โยม เขาไม่ต้องกำหนดลมหายใจก็ได้ ท่องพุทโธอย่างเดียว) ได้ๆ จะกำหนดแต่ลมหายใจก็ได้ ตามแต่จะถูกจริตนิสัยก็ยังบอกแล้ว ลางเนื้อชอบลางยา มันเป็นยาทั้งนั้นแหละ ลางเนื้อชอบลางยา ใครถูกกับโรคภัยด้วยยาอะไร ให้เอานั้นมาๆ อันนี้ก็แบบเดียวกัน เอาว่าไป
คนที่ ๓ ครับ อันนี้เรียกตัวเองว่าลูกครับ
หลวงตา ลูกเหรอ เอาๆ พ่อให้พูดแล้วเอาพูดได้
ถาม เมื่อลูกต้องการไม่จองเวรกับบุคคลที่ลูกมีเรื่องทะเลาะด้วยหรือโกรธให้กันนั้น ลูกอยากอโหสิกรรม ไม่ก่อเวรให้แก่กันอีก ทำอย่างไรจึงจะอโหสิกรรมออกมาจากจิตอย่างแท้จริง เพราะลูกไม่อยากมีการผูกเวรอีกต่อๆ ไป แต่การที่จิตจะปล่อยจากอารมณ์นี้อย่างแท้จริง มักจะไม่เป็นไปโดยง่าย จิตมักจะกระเพื่อมเมื่อเจอกันอีก ลูกอยากที่จะอโหสิกรรมกันจริงๆ โดยเมื่อเจอกันเหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนเลย ซึ่งการที่จะทำได้นั้นจะเกิดจากการพิจารณาทางปัญญาเท่านั้นใช่ไหมคะ
หลวงตา อันนี้ก็ใช่ ยังไม่ได้มากอะไรให้เก็บความรู้สึกไว้และกิริยาอย่าให้แสดงออกไปตามที่เป็นการก่อเวร ให้พยายามระงับความคิดเช่นนี้เสมอ ความคิดที่จะก่อกรรมก่อเวรให้ระงับทันที เข้าใจเหรอ ก็มีเท่านั้นแหละ เราไม่ก่ออารมณ์เหล่านั้นไม่เป็นภัย ถ้าเราคิดก่อกรรมก่อเวรกับเขา ก็เป็นก่อกรรมก่อเวรต่อเราอยู่ตลอด เป็นอารมณ์ตลอด เข้าใจไหมล่ะ อารมณ์นี่แหละมันเผาเราเป็นก่อกรรมก่อเวรต่อเรา ถ้าเราไม่ไปคิดถึงเรื่องเขา เราก็ระงับการก่อเวรกับเขา ของเราไม่มีก่อนแล้ว เข้าใจไหม มันก็ไม่มีกรรมเวรกับใคร เอาว่าไป
โยม อ่านให้จบนะครับ ซึ่งการที่จะทำได้นั้น จะเกิดจากการพิจารณาทางด้านปัญญาเท่านั้นใช่ไหมคะ จึงจะถอดความรู้สึกนี้ออกจากจิตได้ กราบนมัสการขอความเมตตาช่วยแนะนำให้ลูกด้วย หลวงตาแนะนำไปแล้วครับ
หลวงตา แนะนำไปแล้วก็ถูกต้องแล้ว ให้ถึงขั้นที่มันจะมาตัดกันแล้ว มันเป็นขั้นเป็นตอนของธรรม ธรรมละเอียดเท่าไรๆ เรื่องเหล่านี้มันจะตัดของมันไปด้วยกันๆ ตอนแรกให้เขาทำอย่างนั้นถูกต้องแล้ว ที่เราสอนถูกต้องแล้ว
โยม อันนี้จบแล้วครับ ทีนี้มีข่าวส่งมาบอกว่าในช่วงนี้ นายสถานีวิทยุหลายจังหวัดเขารายงานมาว่า มีคำสั่งให้ทุกสถานีวิทยุงดออกรายการเทศน์ของหลวงตาซึ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช แต่ก็มีวิทยุอีกส่วนหนึ่งไม่โดนถูกงด ออกมาโจมตีเกี่ยวกับเทศน์ของหลวงตาแล้วก็เกี่ยวกับลูกศิษย์หลวงตา แล้วก็ถ่ายทอดไปในโรงเรียนในสถานที่ราชการต่าง ๆ แสดงว่าต้องมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
หลวงตา ต้องมีผู้บงการ เข้าใจแล้วมิใช่เหรอนี่
เมืองไทยเขามีกฎข้อบังคับหรือกฎหมายบ้านเมืองอยู่เหมือนกันมิใช่เหรอ มันก็คนทางนี้มันก็คนเข้าใจไหมละ มันห้ามมายังไง ออกไปซิอยากจะออกก็ออกไปซิ เรามีสิทธิที่จะออกนี่นะ อำนาจมาจากไหนตามหาเจ้าอำนาจมาให้ได้
โยม ตัวเจ้าคนสั่งมีอำนาจคุมประชาสัมพันธ์อยู่
หลวงตา อำนาจเหนือคนสั่งนี้ยังมีอีกนะ ตามไปหาให้มันถึงซิ เข้าใจเหรอ คนนี้มันสั่งมาๆ ใครมีอำนาจเหนือผู้นี้ยังมีอยู่นี่ เข้าใจเหรอ ทำป่า ๆ รก ๆ อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้แหละมันบังคับมาแต่ต้น ตั้งแต่ต้นรัฐบาลที่จะตั้งใหม่แบบเดียวกันนี้ ไปเที่ยวหาบังคับ ๆ เอาหมดๆ ไม่ให้เขาโฆษณาทางดีเพื่อชาติเพื่อศาสนา ต้องเปิดทางให้เขา อย่างตั้งอะไรตะกี้นี่ สังฆราชนี่
โยม ครับ ตั้งคณะทำหน้าที่แทนพระสังฆราช
หลวงตา ตั้งคณะสังฆราชนี้ มันตั้งมาจากไหนก็กำลังเอากันอยู่เดี๋ยวนี้ได้ประชุมกัน สำนวนการประชุมได้ออกไปแล้วเวลานี้ กำลังส่งไปทางรัฐบาลทางนายกฯแล้ว นี่มันตั้งขึ้นมาอย่างนี้แหละ เข้าใจไหม แล้วมันจะเอาอันนี้เป็นใหญ่ จะให้มันตั้งต่อไปอีกเข้าใจไหม ได้ ๓ สังฆราช ๔ สังฆราชยิ่งดีความหมายว่าอย่างนั้น มองหน้าไหนให้มีแต่สังฆราชไปหมดยิ่งดีของพวกนี้ เข้าใจไหม ก็มีเท่านั้นละการตอบกัน นี่ให้เปิดตั้งแต่เรื่องสังฆราชนี้อย่างเดียว เรื่องเขาตั้งสังฆราชเป็นสิทธิ์ของเขา เขายังจะตั้งสังฆราชอีก ๑๐ องค์เราก็ไม่รู้ด้วยนะ เข้าใจไหม เขาว่าให้เปิดทางให้เขาความหมายว่าอย่างนั้น เขาจึงปิดไว้หมด เทศนาว่าการเป็นคำสอนสอนโลกทั่วๆ ไป มีอำนาจมาจากไหนจึงต้องมาปิดเขา หูเขามีตาเขามีใจเขามีเขาอยากฟัง ทำไมไม่ให้ฟัง ผู้ใดที่อยู่เหนือผู้ที่มาบังคับยังมี ติดตามดูให้ได้มาบังคับกันซิ คนประเทศไทยมีตั้งแต่หมาเท่านั้นไม่ใช่คนเหรอ มีคนแต่เขาเท่านั้นเหรอ เข้าใจเหรอ เราพูดเพียงเท่านี้แหละ อย่ามากวนโมโหเดี๋ยวมันฆ่าคนละเรา พอเท่านั้นละ
โยม พวกนี้ไม่ค่อยกลัวครับ ต้องเอาแบบวัดสุทธจินดา แบบฟ้าผ่าลงมาครับ ต้องเอาอย่างนั้นละครับวิ่งจีวรปลิวเลย
หลวงตา เราก็ไม่อยากบอกฟ้าผ่า เดี๋ยวพวกนี้มันจะตายอีกละ แต่เรายังกลัวตายเขาก็กลัวตายเหมือนกัน เข้าใจไหม อย่าไปผ่า เอาละพอ อุ๊ย ขี้เกียจยุ่ง นี่มันก็ออกทางนี้(อินเตอร์เน็ต)แล้วใช่ไหม เออ ออกนี้ก็กระจายไปหมด
นี่เห็นไหมมันโฆษณาอย่างนี้ มันบังคับไม่เป็นอรรถเป็นธรรมอย่างนี้เห็นไหม บังคับสถานีต่าง ๆ ไม่ให้พูดถึงเรื่องอรรถเรื่องธรรม เรื่องเทศน์หลวงตาบัว แล้วว่าอะไรอีก
โยม ก็ทุกสถานีครับ ห้ามแต่ฝ่ายพวกลูกศิษย์หลวงตา คำเทศน์หลวงตา แต่ของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ห้าม อย่างนี้เป็นธรรมได้ยังไงครับ
หลวงตา ก็อย่างนั้นแหละ ฟังเอาซิพี่น้องทั้งหลายฟังเอาซิ พวกนี้ฟังเอา นี่ก็ได้ยินทั่วโลก
โยม ได้ยินครับ ๆ ได้ยินทั่วโลกละครับ
หลวงตา เออ เอ้า ให้มันเอาจัง ๆ สักหน่อย พูดแล้วคันฟัน
ชมการถ่ายทอดสดทั่วโลกทุกวัน ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th |