เอาไว้ทำไมข้าศึกศัตรู
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2547 เวลา 8:30 น. ความยาว 33.55 นาที
สถานที่ : วัดเขาน้อยสามผาน จ.จันทบุรี
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมพระและฆราวาส

ณ วัดพิชัยพัฒนาราม ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๗ [เช้า]

เอาไว้ทำไมข้าศึกศัตรู

 

         ตั้งแต่ออกมาจากอุดรมาถึงที่นี่ ทองได้ ๓๕ กิโลแล้ว

         เมื่อวานนี้ก็มีพระมาเล่าเรื่องภาวนาให้ฟัง อย่างนั้นแล้วพระเรามีอยู่ทั่วๆ ไป ทางจิตตภาวนา อย่างมาเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้ นั่นมีอยู่ เพชรพลอยอยู่ตามป่าตามเขาแทรกอยู่มีอยู่ทั่วๆ ไป เวลามาอย่างนี้ก็รู้เรื่องกันว่าองค์นั้นมาองค์นี้มา สนทนาอะไรๆ ก็รู้เรื่องกัน ไปที่ไหนๆ มักจะมีเสมอ ผู้ที่มาภาวนามาเล่าให้ฟัง เรียกว่าเพชรว่าพลอย ออกมาตามป่าตามเขา มีอยู่ทั่วๆ ไป เพราะพระผู้มุ่งอรรถมุ่งธรรมท่านไม่กระโตกกระตาก อยู่เงียบๆ ตามป่าตามเขา มีอยู่ทั่วไปทุกภาค กรรมฐานมีอยู่ที่ไหนๆ มักมีเพชรมีพลอยแทรกๆๆ อยู่ในนั้นเรื่อยๆ ที่ยังไม่เป็นเพชรเป็นพลอยอย่างแท้จริงก็เริ่มไปด้วยการปฏิบัติทำความพากเพียร

         นี่ละธรรมพระพุทธเจ้ากระจายอยู่ทั่วโลกธาตุ แล้วแต่ใครจะมีความฉลาดแหลมคม อุตส่าห์พยายามเสาะแสวงหาก็เจอทั่วๆ ไป ธรรมมีอยู่ทั่วไป เหมือนอย่างกับกิเลสมีอยู่ทั่วไปครอบโลกธาตุ ธรรมก็ครอบโลกธาตุ เวลาท่านมาเล่าให้ฟังถึงได้รู้ๆ ในวงกรรมฐานท่านปฏิบัติท่านรู้กันอย่างเงียบๆๆ เวลาท่านสนทนาธรรมะธัมโมกันอยู่ในป่าในเขาอย่างงี้ โหย ฟังนี่เพลินเลยเทียว เช่น อย่างเรานานๆ มานี้บรรดาพระเจ้าพระสงฆ์ที่มีความเคารพนับถือก็มาๆ มันก็ทราบเรื่องๆ กันเรื่อยๆ อันไหนที่ยังมีขัดข้องตรงไหนก็แนะให้ๆ เรื่อย เปิดทางๆ ให้

         เวลานี้พระกรรมฐานเรา ซึ่งอยู่ในที่สงบเป็นพื้นเป็นเพมาตั้งแต่ครูบาอาจารย์ รู้สึกว่าท่านได้รับความกระทบกระเทือนมากเวลานี้ นี่ละเรื่องอธรรมข้าศึกของธรรม ไปที่ไหนต้องทำลายธรรม อย่างน้อยให้เกิดความกระทบกระเทือน นี่ก็ฟังซิต่อไปนี้ก็จะเริ่มขึ้นแล้วละ มหาโจรปล้นชาติปล้นศาสนากำลังเริ่มก่อตัวอย่างหนัก อาศัยผู้ใหญ่ๆ มาเป็นประธานหัวหน้ามหาโจร กำลังก่อตั้งขึ้นมาแล้วเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ แล้วออกหน้าออกตา หน้าด้านเสียด้วย พวกนี้พวกหน้าด้านที่สุด ไม่มียางอาย กล้าหาญในสิ่งเลวร้ายทั้งหลายไม่มีใครสู้พวกนี้ โอ๊ย เราฟังแล้วเราสลดสังเวช คือมันฟังไม่ได้ว่างั้นเถอะ

         นี่กำลังเริ่มแล้ว เวลานี้เริ่มจะจับเจ้าของทรัพย์นี่ละไปมัดใส่คุกใส่ตะราง เวลานี้ได้ยินแล้ว เราเริ่มได้ยินแต่ยังไม่ชัด หากเริ่มได้ยินมาแล้ว ผู้ใดเป็นหัวหน้าในคนทั้งชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของของสมบัติทั้งชาติ ผู้นั้นแหละผู้โดนเป็นมหาโจรอันยิ่งใหญ่เวลานี้ จากมหาโจรตั้งตัวเป็นจอมบัณฑิต จอมนักปราชญ์ฉลาดแหลมคมที่จะสังหารทั้งชาติ ทั้งศาสนาไปด้วยกันเวลานี้ มันก่อตัวมาตั้งแต่นู้นแหละ ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมา เอาฟังให้ชัด นี่ภาษาธรรม ถ้าพูดแล้วไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใด เรื่องธรรมแล้วไม่มี พูดตามความสัตย์ความจริง

         เริ่มก่อตัวมาตั้งแต่นู้น ก่อขึ้นนี้ล้มไป สู้ความจริงไม่ได้ แล้วก็ก่อนั้นขึ้นมา ล้มไปก่อนั้นขึ้นมาล้มไปๆ มาเรื่อยๆ อย่างนี้ ทีนี้มันก็เกี่ยวกับพระในวงปฏิบัติอยู่ในป่าในเขา ก็ต้องเกี่ยวโยงกันทั้งประเทศ ก็ต้องได้ออกมาดูเหตุการณ์ ชำระเรื่องราวต่างๆ แล้วก็เข้าไปสู่ที่สงบ หูตาก็ต้องได้ฟังข้างนอกข้างนาอยู่ ไม่ได้จ่อเข้าไปหากิเลสนี้โดยถ่ายเดียว พระก็ขาดผลประโยชน์มากมาย เพราะเรื่องเหล่านี้มันทำลาย เวลานี้ทำลายธรรมอย่างหนัก พี่น้องทั้งหลายให้ฟังเอาทุกคน เราเป็นเจ้าของของชาติให้ฟังเสียงหัวหน้า ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ไม่งั้นเมืองไทยเราทั้งชาติทั้งศาสนาจะจมได้ด้วยมหาโจรเข้าทำลาย

         เวลานี้กำลังบุกรุกอย่างหนัก ตั้งตัวเป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวงครอบประเทศไทย ทั้งชาติทั้งศาสนาไปด้วยกันแล้วเวลานี้นะ หาเรื่องหาราว ไม่มี กุขึ้นมา ตั้งขึ้นมา บุกขึ้นมาเรื่อยนะ นี่ละมันสลดสังเวชนะเรา กำลังจะเริ่มได้ยินแหละเรื่องราว จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ละ ตามหลักพระพุทธศาสนา หลักของพระของเณรทั่วแดนแห่งชาวพุทธเรา ฟังแต่ว่าทั่วแดนแห่งชาวพุทธ พระเจ้าพระสงฆ์อยู่ในพระโอวาทของพระพุทธเจ้า อยู่ในพระโอวาท ได้แก่ พระธรรม พระวินัย ท่านถือพระธรรมพระวินัยเป็นศาสดาแทนพระพุทธเจ้าที่ปรินิพพานไปแล้ว ตามที่พระองค์รับสั่งไว้ว่า “พระธรรมและพระวินัยนั้นแล จะเป็นศาสดาของเธอทั้งหลายแทนเราตถาคต เมื่อเราตายไปแล้ว”

        เพราะฉะนั้นพระสงฆ์ทั้งหมดจึงรวมอยู่ในธรรมในวินัย เป็นศาสดาตลอดมา และปฏิบัติตนตามหลักศาสนธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างนี้เรื่อยไป หลักธรรมหลักวินัยไม่มีคำว่าบกพร่องขาดเขินตรงไหนที่จะเข้ามาแทรกมาแซง มาส่งเสริมด้วยความปากหวาน ว่างั้นเถอะ มาส่งเสริม มาคุ้มครอง มารักษาช่วย ทั้งๆ ที่มาทำลาย แล้วพระสงฆ์ในประเทศไทยนี้แล เป็นผู้รับผิดชอบซึ่งกันและกัน ในป่าพระสงฆ์ก็มีผู้รับผิดชอบกัน สององค์แล้วรับผิดชอบกันเต็มเหนี่ยว มีเท่าไรรับผิดชอบกันในขอบในเขตของตนที่เกี่ยวโยงกัน

         ในวัดรับผิดชอบในวัด ในบ้านรับผิดชอบในบ้าน คืออรัญวาสี หนึ่ง คามวาสี หนึ่ง อรัญวาสี คือผู้อยู่ในป่าเป็นปรกติ ผู้ที่อยู่ใกล้เขตบ้านหรือในบ้าน อย่างวัดบ้านวัดป่าก็มีรับผิดชอบกัน ไม่ว่าในวัดบ้านวัดป่า การเจ็บไข้ได้ป่วย ปวดหัว ตัวร้อน รับผิดชอบ ขาดเขินบกพร่องอะไร พระเณรท่านจะดูแลกันตลอดตามหลักธรรมหลักวินัย นี่ละหลักธรรมหลักวินัยนี้แลเป็นศาสดาปกครองสงฆ์ในองค์ต่างๆ และตลอดถึงวัดวาอาวาส วัดราษฎร์ วัดหลวงอะไรก็แล้วแต่เถอะ วัดใน วัดนอก วัดป่า วัดบ้าน มีศาสดาคือธรรมวินัยประจำอยู่กับพระสงฆ์ เป็นผู้นำมาปฏิบัติคุ้มครองรักษากันและกัน เจ็บไข้ได้ป่วยพระสงฆ์เป็นผู้ดูแลกัน

         นอกจากเวลามีความจำเป็น ก็อยู่ในอำนาจของพระสงฆ์ในวัดนั้นๆ กลุ่มนั้นๆ แล ที่จะควรปฏิบัติยังไงต่อพระองค์ที่เจ็บไข้ได้ป่วยนี้ ควรจะไปหาหมอคนไหนๆ เป็นเรื่องพระสงฆ์ที่จะนำไป ออกความเห็นให้ แนะนำ ใครจะนำไปก็ตาม ออกจากความรู้ความเห็นของพระสงฆ์ผู้เป็นเจ้าของศพ เจ้าของคนไข้ พระไข้ ในวัดในวา อย่างนี้ตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ พระธรรมวินัยในข้อนี้ไม่ได้บกพร่องแต่ประการใด ที่พระสงฆ์จะดูแลกันไม่ได้ และปล่อยให้ฆราวาสญาติโยมมาเป็นใหญ่เป็นโต มาปกครองพระเจ้าพระสงฆ์ มาเป็นผู้คุ้มครองรักษา ตั้งหน้าตั้งตา ตั้งกองนั้นกองนี้ขึ้นมา มารักษา อย่างนี้ไม่มีในธรรมวินัย

         ในธรรมวินัยมีพระสงฆ์เท่านั้นเป็นผู้ดูแลซึ่งกันและกัน ตั้งแต่สององค์ขึ้นไปเรื่อย มีความรับผิดชอบซึ่งกันและกัน ตลอดทั่วถึงในสังฆมณฑลแห่งพระพุทธศาสนา นี้คือธรรมวินัยปกครองพระสงฆ์ ฆราวาสญาติโยมที่ไหนไม่มีเข้ามาปกครอง ไม่มีอำนาจที่จะมาบีบบังคับปกครองพระเจ้าพระสงฆ์แบบนั้นแบบนี้ อย่างนี้ไม่มี นี่หลักธรรมวินัย ยืนตัวมาอย่างนี้ แล้วเวลานี้เกิดเรื่องขึ้นมาจะตั้งกองนั้นกองนี้ขึ้นมาดูแลพระเจ้าพระสงฆ์ เช่น สมเด็จพระสังฆราชเป็นต้น

         เวลานี้กำลังเกิดเรื่องใหญ่โต นี้คือความแทรกเข้ามา เป็นความรู้ความเห็น เป็นอำนาจกาฝากแทรกเข้ามาในพุทธศาสนา กำลังจะมาเหยียบพระพุทธเจ้า คือธรรมวินัยของพระของเณร และเหยียบพระเหยียบเณรไปด้วย เวลานี้กำลังก้าวขึ้นมา เอา นำไปพิจารณาพี่น้องทั้งหลาย พระสงฆ์นั้นแลเป็นเจ้าของของคนไข้ในเพื่อนเดียวกัน ในวัดในวา ไม่ว่าวัดป่าวัดบ้าน ไม่มีผู้ใดมาเป็นใหญ่เป็นโตยิ่งกว่าพระเจ้าพระสงฆ์ ที่จะดูแลรักษากันจนถึงขั้นเป็นขั้นตาย

         เฉพาะอย่างยิ่ง เช่น พระปูติคัตตะ ท่านป่วย ป่วยเอาอย่างเรียกว่าร่างกายเน่าเฟะไปหมดทั้งร่างเลย พระเจ้าพระสงฆ์ที่ดูแลรักษาทนไม่ไหว นี่ละตำราฟังเอา คือท่านดูแลของท่าน แต่ก่อนก็ไม่ได้เกี่ยวถึงพระพุทธเจ้าเราแหละ มีพระเจ้าพระสงฆ์ดูแล รักษาพระองค์นี้ ชื่อพระปูติคัตตะ แปลว่า เป็นผู้มีร่างกายอันเปื่อยเน่า ทีนี้เวลามันเปื่อยมากๆ เข้ามานี้ จนกระทั่งดูไม่ได้ พระผู้ดูแลรักษาก็ต้องแตกกระสานซ่านเซ็นกัน เกี่ยวกับเรื่องการดูแล คือมันทนไม่ไหว ผู้ทนไหวก็ทนไป ผู้ทนไม่ไหวก็แยกตัวออก  เพราะมันเหม็นคลุ้งไปหมด เหมือนคนตายแล้วทั้งๆ ที่ยังไม่ตาย

         พระสงฆ์ก็แตกแยก โกลาหลอลหม่านกันทั้งนั้น เรื่องไปถึงพระพุทธเจ้า พระองค์เสด็จมาเองเชียว นี่ละเรื่องน่ะ ใครเป็นใหญ่เป็นโตมาจากที่ไหน นอกจากพระสงฆ์แล้วก็เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์เสด็จมาเลย มาดูแลอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระองค์นี้ ต้มน้ำร้อนน้ำอุ่น เช็ดถูร่างกายเหมือนกับบ๋อยกลางบ้าน นี่ศาสดาปฏิบัติต่อบรรดาลูกศิษย์ตถาคตท่านปฏิบัติอย่างนี้ พระองค์ไม่สนใจกับใครที่ไหนเลย ทำหน้าที่เป็นผู้อุปัฏฐากคนไข้

         ทีนี้พระสงฆ์ทั้งหลายก็ทนไม่ได้อีกเหมือนกัน เมื่อเห็นพระพุทธเจ้ามาทรงทำหน้าที่อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็รุมเข้ามาอีก ช่วยกันเข้ามาอีก ผู้ที่แตกแยกไปเพราะทนไม่ไหว เรียกว่าเหม็นคลุ้งไปหมด ว่างั้นเถอะ ออกไปอยู่ตามนี้ ผู้เข้ามารักษาก็รักษา เรื่องราวถึงพระพุทธเจ้า จะถึงด้วยวิธีใดก็ตาม อันนี้ท่านไม่ได้บอกว่ามีผู้ไปกราบทูล เราทราบตามตำรับตำราว่าพระพุทธเจ้าทรงทราบแล้วเสด็จมา มาดูแลพระเจ็บไข้ได้ป่วยองค์นี้ ทุกอย่างพระพุทธเจ้าทำ ทรงเป็นอุปัฏฐากทั้งหมดเลย เป็นบ๋อยทีเดียวถ้าพูดว่าบ๋อย บ๋อยของคนไข้ ล้างทุกอย่าง เช็ดทุกอย่าง ล้างทุกอย่าง ปฏิบัติเต็มเม็ดเต็มหน่วยของศาสดาองค์เอกที่เป็นอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระภิกษุไข้ ซึ่งหาที่พึ่งไม่ได้องค์นั้น บรรดาพระสงฆ์ลงเห็นศาสดามาทำอย่างงั้นแล้วอยู่ได้ยังไง เป็นยังไงก็เป็น จมูกขาดก็ขาดไป นั่น วิ่งเข้ามาดูแลช่วยกัน

         พอเสร็จจากนั้นแล้ว พระองค์ก็ทรงประทานโอวาทแก่พระทั้งหลายด้วย เรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นความจำเป็นด้วยกันทุกคน ที่เราทั้งหลายเป็นลูกศิษย์ตถาคตจะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้สมบูรณ์ตามแบบฉบับของพระ แบบแห่งความเมตตาที่อยู่ร่วมกัน เอาครูบาอาจารย์ เอาพระพุทธเจ้า พุทฺธํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ เป็นศาสดา เป็นพ่อเป็นแม่ พึ่งเป็นพึ่งตายกันด้วยอรรถด้วยธรรม ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพ่อเรื่องแม่ พวกเดียวกันเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นญาติ เป็นมิตร เป็นพ่อ เป็นแม่กันอย่างสนิทยิ่งกว่าประชาชนทั้งหลายเสียอีก แนะนำสั่งสอนพระสงฆ์แล้ว พระองค์นั้นก็เลยได้สำเร็จพระอรหันต์ เท่าที่ได้อ่านมาแล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขึ้นมา แล้วก็ดูว่านิพพานไป

         นี่ตัวอย่างเห็นไหม มีท่านตั้งใครๆ มา ตั้งข้าราชการคนไหน ใหญ่โตมากน้อยเพียงไร มาเป็นกลุ่มเป็นก้อนที่เข้ามารุม เป็นใหญ่เป็นโตยิ่งกว่าพระที่เป็นเจ้าของชีวิต ความเจ็บไข้ได้ป่วยของพระในวัดๆ แต่ละวัดๆ นั่น มีที่ไหนแต่ก่อน ไม่เคยมี พึ่งมามีในปัจจุบันนี้ ในเมืองไทยเรานี้แหละ ตั้งเป็นกลุ่มเป็นก้อนขึ้นมา จะมีทุกแบบ ท่านทั้งหลายฟังเอาก็แล้วกัน มาอุปถัมภ์อุปัฏฐาก พระพุทธเจ้าไม่มีกองไหนที่ประชาชนจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพระกับเณรเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่มี ในธรรมวินัยไม่มี พึ่งจะมาเห็นอยู่เวลานี้

         เราจึงได้เทศนาว่าการนี่กำลังจะกินโต๊ะกินเลี้ยงสมเด็จพระสังฆราช ที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ คนนั้นก็จะมาตั้งตัวเป็นอุปถัมภ์อุปัฏฐากป่าๆ เถื่อนๆ เข้ามา ด้วยอำนาจบาตรหลวงของตนนั้นแหละ เข้ามาเป็นอำนาจป่าเถื่อน แล้วเกิดความเดือดร้อนขึ้นมา เวลานี้กำลังยุ่งเหยิงวุ่นวาย สมเด็จสังฆราชก็เลยจะเป็นจะตายเท่าที่ทราบมา จริงไม่จริงก็พูดตามที่ทราบมา จะมาจับมือเซ็นลายปลอมลายจริงอะไรก็แล้วแต่เถอะทุกอย่าง  แล้วจะเอานี้เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาครอบพระเณรทั้งประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าของธรรมวินัยที่ปฏิบัติพระเจ้าพระสงฆ์ด้วยกันอยู่ ให้แตกละลายหายสูญไปหมด จะมีแต่พวกนี้แหละ พวกไหนถ้าพูดตามหลักธรรมวินัย พวกนี้ไม่ใช่เป็นของจริงก็เรียกว่าพวกกาฝาก

         ของจริงคือธรรมวินัย เป็นผู้ปฏิบัติรักษากันโดยอรรถโดยธรรมมาตลอด นี่เรียกว่าของจริง ของปลอมที่แทรกเข้ามาจะเรียกว่ากาฝาก ก็คือตั้งขึ้นมาใหม่ แล้วก็ตั้งออกมาจากฆราวาสญาติโยม ไม่ได้เป็นเรื่องของพระ ตั้งขึ้นมาครอบเข้ามานี่ จะไม่เรียกว่าครอบอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ จะพูดว่ายังไง ก็ต้องพูดอย่างนี้ เพราะฉะนั้นพระสงฆ์ไทยเราจึงเป็นเจ้าของศพ เจ้าของเมรุ การเจ็บไข้ได้ป่วยของกันและกันตลอดมาตามที่พระพุทธเจ้าประทานให้เรียบร้อยแล้ว จะเป็นอื่นไปไม่ได้ ใครจะมาเป็นใหญ่ยิ่งกว่านี้ขัดกับหลักธรรมหลักวินัย รับไม่ได้ตัดออกทันที เอาไว้ทำไมข้าศึกศัตรู พวกกาฝาก เข้ามาจะเหยียบย่ำทำลาย มันเป็นของดีแล้วเหรอ

         พระสงฆ์ต้องเป็นใหญ่ในการปฏิบัติอุปัฏฐากรักษากัน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยหากมันสุดวิสัย พระเรานั้นแหละจะคิดกันเอง จะส่งหาหมอคนไหนๆ หรือโรงพยาบาลใด ก็เป็นเรื่องของพระสงฆ์ท่านจะทำหน้าที่ของท่านเอง โดยคนอื่นคนใดจะมาอาจเอื้อมทะลึ่งเข้ามาด้วยอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ไม่ได้ ไม่ถูกกับหลักธรรมหลักวินัย พระสงฆ์ต้องเป็นใหญ่ในเรื่องเหล่านี้ อย่างสมเด็จพระสังฆราชเราก็เหมือนกัน ท่านเป็นผู้ใหญ่ในสังฆมณฑล พระสงฆ์กราบท่านทั้งประเทศ ใครรังเกียจท่าน ใครปล่อยทิ้งท่าน พอที่จะหลวมตัวเข้ามาเป็น กาฝากกาแฝก กาแดกกากินกัน เข้ามายุ่งอะไร เลี้ยงกันสดๆ ร้อนๆ มันน่าอุจาดบาดตาไหม

         นี่ละเรื่องราวมันกำลังเกิดขึ้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่รัฐบาลใหม่ขึ้นมา ก่อเรื่องนั้นขึ้นมา ก่อเรื่องนี้ขึ้นมา ทางนี้ก็ไม่ถือสีถือสา ก่อเรื่องใดขึ้นมาก็แก้ไขดัดแปลงแล้วก็ปล่อยกันไป ไม่ถือโทษถือกรรมกัน ก็ยิ่งมีแก่ใจทะนงใหญ่ ทีนี้ก่อขึ้นมาใหญ่เลย เลยจะเอาเมืองไทยทั้งชาติทั้งศาสนานี้เป็นบ๋อย แล้วเหยียบหัวเมืองไทยทั้งชาติทั้งศาสนา ใครมาค้านไม่ได้พวกนี้ จะจับมัดใส่คุกใส่ตะราง เวลานี้เริ่มได้ยินแล้วนะ ให้ท่านทั้งหลายฟังทุกคน หัวใจมีทุกคน หลักธรรมหลักวินัยมี กฎหมายบ้านเมืองมี มันผิดจากกฎหมาย หรือผิดจากธรรมวินัยอย่างไรบ้าง ให้นำไปพิจารณา

         อย่าถือว่าคนนั้นเขาใหญ่ คนนี้เขาใหญ่ อย่าเอามาใหญ่ ไม่มีอะไรใหญ่กว่าหลักธรรมหลักวินัย ไม่มีอะไรใหญ่กว่ากฎหมายบ้านเมือง เมื่อรองลงมาแล้วกฎหมายบ้านเมืองยังน้อยกว่าหลักธรรมหลักวินัยของพระ การปฏิบัติตรงไหน จะตั้งกฎหมายขึ้นมาอย่างงี้ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อธรรมต่อวินัยของพระ ถ้ากฎหมายข้อใดไปทำลายธรรมวินัยของพระนั้นปัดออกทันที ก็มีอยู่อย่างนั้นจะให้ว่าไง แล้วเอากฎหมอย มาจากไหนที่จะมาโปะหัวพระ โปะหัวพระพุทธเจ้า ครอบอยู่ในหัวอกของตัวเองที่เป็นอำนาจป่าเถื่อนนั่น เอาไปพิจารณาทุกคน

         เวลานี้เริ่มขึ้นมา คราวนี้หนักมาก มหาโจรกำลังตั้งตัวเป็นใหญ่เป็นโตจะปกครองบ้านเมืองแบบนี้ จะปกครองบ้านเมืองแบบก่อนก็ประชาชนเขาไม่เห็นด้วย ก็ล้มละลายไป และตั้งผู้ใหม่ขึ้นมา นี่ก็พลิกขึ้นมาใหม่ จะไม่ให้หลุดมือไปเรื่องความพยายามจะเหยียบชาติเหยียบศาสนาให้แหลกเหลว ไม่ปล่อยวาง ขึ้นท่านั้นขึ้นท่านี้ เดี๋ยวนี้กำลังขึ้นท่านี้ ท่านทั้งหลายพิจารณาเอาซิ นี่ละตัวใหญ่ตัวโต จะโตไปแบบไหน ถ้าปล่อยให้คนนี้ใหญ่โตขึ้นมากๆ เมืองไทยจมไปหมดไม่มีอะไรเหลือ ศาสนาไม่มี ชาติไม่มี

         นี่เราเปิดออกโดยอรรถโดยธรรม เราไม่เข้ากับใครออกกับใครนะ ธรรมวินัยไม่เข้าใคร ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก เรื่องเป็นมาอย่างนี้ เคยได้ยินไหม ก่อตั้งมากี่ครั้งกี่หนแล้ว ตั้งแต่ พ.ร.บ. พ.ร แบ อะไรมานี่ พ.ร ไหนมันจะเก่งกว่า พ.ร.บ.ของศาสดา นี่ก็ล้มไปๆ ทีนี้ตั้งขึ้นมาอีกแล้วที่นี่ ขึ้นมาแบบนี้อีก ให้ฟังทุกคน เวลานี้หาประจบประแจง หาเข้านั้นออกนี้ เพื่อจะเอาหมู่เอาพวกได้มากๆ แล้วจะได้เหยียบชาติศาสนาลงได้อย่างสะดวกสบาย กำลังลุกลาม ทางนี้ก็เป็นเจ้าของของสมบัติ ทั้งศาสนาอยู่ในเมืองไทยเราก็ฟัง มีหู มีตา มีใจ ด้วยกันมันก็ต้องฟังกันคนเราเป็นยังไง ผิด ถูก ชั่ว ดี ที่จะต้องแก้ไขดัดแปลง หรือจะคัดค้านต้านทานกันอย่างไร มันก็จะขึ้นแน่ๆ ละ ให้เป็นอื่นไปไม่ได้

ลงมหาโจรกลับเข้ามาปล้นบ้านปล้นเมือง จะให้เจ้าของบ้านเจ้าของเมือง ซึ่งมีกำลังวังชาพอที่จะฟัดเหวี่ยงกันอยู่ได้แล้ว หมอบให้เขาเหยียบมันเป็นไปไม่ได้ เมืองไทยเรามีบรรพบุรุษพาเป็นเมืองไทยมาสักเท่าไร นานสักเท่าไรแล้ว พระเจ้าพระสงฆ์ติดแนบมา เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรมาตลอดจนกระทั่งบัดนี้ มีแต่ความสงบร่มเย็นเรื่อยมา

         เวลานี้กำลังเหตุการณ์อันร้ายแรงที่เกิดขึ้น ก็เกิดตั้งแต่เบื้องต้นรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี่แหละ แล้วเลยกลายเป็นคู่กรรมคู่เวร คู่ต่อสู้ จองกรรมจองเวร หาเรื่องนั้นขึ้นมา หาเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อจะทำลายตรงนี้ให้จมลงไป และพวกของตัวเองจะได้ขึ้นเหยียบย่ำทำลายคนให้สนุกเท้า สนุกฝ่าเท้าว่างั้นเถอะ แล้วพวกเรามีหัวใจไหม พิจารณาซิ เราพูดโดยอรรถโดยธรรม ไม่เข้าข้างนั้นออกข้างนี้ จะควรเชื่อทางไหน เชื่อพระพุทธเจ้าก็ต้องเชื่อธรรม ถ้าจะเชื่อกาฝากก็ต้องเชื่อเทวทัต แต่เทวทัตยังยอมตัวนะ ยังมีการยอมตัว อันนี้จะยอมหรือไม่ยอมไม่มีใครทราบได้แหละ ก็ต้องพิจารณาไปตามเหตุผลกลไกนั้นเอง

         นี่เราสลดสังเวชเหลือเกินนะ นี่ก็อุตส่าห์พยายามช่วยบ้านช่วยเมืองมาเป็นเวลา ๖ ปี เราไม่ได้เอาอะไรเลย หวังต่อพี่น้องชาวไทยทั้งชาติทั้งศาสนาเทิดทูนไว้บนหัวใจ และบนชีวิตของเรา ถึงกาลเวลาที่ควรจะเด็ด เด็ด คอขาด ขาดเลยหลวงตาไม่มีเสียดาย เพื่อชาติและศาสนาของเราอยู่คงเส้นคงวาหนาแน่น ได้เป็นมรดกตกทอดไปหาลูกหาหลานได้มีความสงบร่มเย็นเราเป็นที่พอใจ คอของเราขาด ขาดไปเถอะ เราไม่เสียดายอะไรเลย

         ใครก็ตามที่จะมาท้าทายกับเรา คือเรื่องของธรรมแล้วเราไม่เคยถอย ถ้าเป็นธรรมแล้วเราหมอบทันที ถ้าไม่ใช่ธรรมเอากันวันยังค่ำ คอขาด ยังมีแต่หัวก็จะเอาหัวพูดต่อสู้กันเลย ให้ถอยไม่มีถอยแหละ นี่เราอุตส่าห์พยายามมาได้ ๖ ปีเต็มนี้แล้ว แต่ก่อนเราไม่เคยคาดเคยคิดว่าจะได้มาทำตัวเป็นอย่างนี้ ถึงกับเป็นผู้นำของพี่น้องทั้งหลายมาเป็นเวลา ๖ ปี เทศน์นี้ทั่วประเทศไทย มิหนำซ้ำเวลานี้ออกทางอินเตอร์เน็ต เมืองนอกเมืองนาไปหมด จากหลวงตา อีตาบัวคนเดียวนี่แหละเทศน์ ทุกข์ยากลำบากไหมพี่น้องทั้งหลายพิจารณาซิ

         ถ้าลำพังเรา เราอยู่ไหนอยู่ได้สบาย วันหนึ่งบิณฑบาตกับเขามาได้ทัพพีหนึ่งสองทัพพีก็กินเท่านั้นพอแล้ว เราไม่ยุ่งกับอะไร โลกนี้เราพอหมดทุกอย่างแล้ว ไม่วุ่นวาย  แต่ที่ได้มาขยี้ขยำนี้ มันก็เกี่ยวโยงกับพี่น้องชาวไทยเรา ซึ่งเกี่ยวพันกันอย่างแนบสนิท แยกกันไม่ออก เราอยู่ในท่ามกลาง เราก็ต้องช่วยเหลือเต็มกำลัง พ่อแม่ของเราก็เกิดในเมืองไทย ปู่ ย่า ตา ยาย ของเราเกิดในเมืองไทย เราก็เป็นลูกหลานไทย แล้วเราจะปล่อยให้ไทยนี้ถูกเขาเหยียบย่ำทำลายไปทั้งศาสนาต่อหน้าต่อตานี้มันเป็นไปไม่ได้

         นี้ละที่หลวงตาได้ออกช่วยชาติบ้านเมือง เราไม่อยากพบอยากเห็นบ้านเมืองจะล่มจมไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆ ที่ลูกหลานคนไทยมีตั้ง ๖๒ ล้านคน จมลงแบบไม่เป็นท่า อย่างนี้เราไม่อยากเห็น จึงได้อุตส่าห์พยายามช่วยพี่น้องทั้งหลาย ถึงร้องโก้กเชียวนะ เอ้าจะออกช่วย ยังเหลืออยู่คำเดียวว่า หากบ้านเมืองนี้จะล่มจม ถ้าหลวงตาบัวยังไม่ตายบ้านเมืองยังจมไม่ได้ ยังเหลือคำเดียวนี้เท่านั้น มีตั้งแต่คำที่ว่าบอกเอาจะช่วย ถึงไหนถึงกัน คอขาดขาดไปเลย นี่พูดแล้วนี่ คำนี้เราพูดตลอดมา

         แล้วหน้าที่การงานที่เราปฏิบัติต่อพี่น้องทั้งหลายทุกอย่าง ท่านทั้งหลายเคยเห็นความอ่อนแอของหลวงตาบัวไหม เช่นอยู่ในโทรทัศน์ เทวทัตอะไรก็แล้วแต่ อยู่ในทีวี ในที่ไหน เคยเห็นความอ่อนแอท้อแท้ พาลูกน้องทั้งหลายบริษัทบริวารวิ่งลงทะเลให้เขามาเหยียบหัวซ้ำลงในทะเลอีกเคยเห็นไหม กิริยาท่าทางของหลวงตาบัวที่ปฏิบัติต่อพี่น้องทั้งหลายด้วยความเมตตาเป็นห่วงเป็นใยกันทั้งประเทศ ทั้งศาสนานี่ เราทำถึงขนาดนั้นนะ

         เราหวังเอาอะไร เราไม่เอาอะไร เราพอหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว สามแดนโลกธาตุไม่เอา จะตั้งมาให้เราเป็นใหญ่หมดสามแดนโลกธาตุนี้เราก็ไม่เอา โลกธาตุ  กามโลก รูปโลก อรูปโลก ให้หลวงตาเป็นสังฆราช เป็นพระเจ้าแผ่นดินครอบทั้งสามโลกธาตุนี้เราก็ไม่เอา เพราะเราพอทุกอย่างแล้ว ไม่เอา นั่น แล้วเหตุใดจึงต้องมาดีดมาดิ้นกับพี่น้องทั้งหลายอยู่นี้ ก็เพราะอำนาจแห่งความเกี่ยวโยงและความเมตตาซึ่งกันและกัน พึ่งเป็นพึ่งตายกันต้องพึ่งให้ได้มนุษย์เราอยู่ด้วยกัน พึ่งจนวาระสุดท้าย นั่นซิ จะเอาตัวรอดอย่างงั้นไม่เอา ต้องช่วย

         นี้ละที่ได้ขยี้ขยำของสกปรกเลวร้ายอยู่เวลานี้ ก็คือความสกปรก เราไม่มีอะไร ก็จำเป็นจะต้องได้มาพูด ดังพูดเวลานี้ก็พูดเกี่ยวกับเรื่องสิ่งเลวร้าย สิ่งสกปรกที่จะเป็นภัยต่อชาติต่อศาสนาของเรานั้นแล จึงได้มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วหน้ากัน สำหรับเราแล้วเราพอทุกอย่าง รอแต่ลมหายใจเท่านั้นเอง ไปที่ไหนเราหมดทุกอย่าง  จะหวังอะไรๆ ในสามแดนโลกธาตุแม้เม็ดหินเม็ดทรายเราไม่เคยมี เราอาศัยอยู่ในโลกนี้ ธาตุขันธ์นี้ก็อาศัยกันไปวันหนึ่งๆ อยู่ไป กินไป หลับไปนอนไป มันก็กวนของมัน ใจก็ไม่มีอะไร ก็รับทราบกันอยู่อย่างงั้นเท่านั้นเอง พอสิ้นลมหายใจเท่านั้นก็ไปเลย

         แต่เวลายังไม่สิ้นนี้ความห่วงใยเกี่ยวโยงกันอยู่ทั้งแผ่นดินไทย เราจะอยู่ได้ยังไง เราจึงต้องได้อุตส่าห์พยายาม ออกจากนี้ไปที่นั่น ออกนั้นไปที่นั่น สมบัติเงินทองข้าวของได้มามากน้อยนี้ทุ่มลงในส่วนรวมทั้งหมด บาทหนึ่งหลวงตาไม่เคยแตะ ขอให้ท่านทั้งหลายได้ฟังให้ชัดเจน เราปฏิบัติต่อพี่น้องทั้งหลายสมกับความเมตตาของเราถึงขนาดร้องโก้ก เราจะมาสนใจอะไรกับเงินหนึ่งบาทสองบาท ให้เป็นมลทินมาเป็นบาปเป็นกรรม มาเผาหัวใจเรา เราไม่มี เราบริสุทธิ์เต็มส่วนแล้วทุกอย่าง ไม่มีอะไรเหลือติดตัว แม้แต่เงินที่เขาถวายตัวเราเองเป็นจำนวนกี่พันกี่หมื่นล้าน ลงในอันเดียวกันหมด ช่วยชาติทั้งนั้นเลย เสมอกันกับที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคผ่านเราแล้วนำไปช่วยชาติ กับที่เขามาบริจาคต่อเราโดยเฉพาะลงไปด้วยกัน เพื่อชาติทั้งนั้น

         เราไม่เคยไปหายุ่งนั้นยุ่งนี้ จะมาสงวนเงินบาทเงินสตางค์ว่าเป็นของตนนี้เราไม่มี จนกระทั่งติดหนี้ ท่านทั้งหลายก็ได้ทราบแล้วนี่ คนมีจะมาติดหนี้กันได้ยังไง ต้องคนจน นี่ให้ไปเสียจนไม่มี ผู้มาขอก็ขอไม่หยุด พอได้อะไรก็ได้ พอติดหนี้เอ้าติด มันจึงเป็นมาอย่างนี้ นี่ละเราทำหน้าที่ต่อพี่น้องทั้งหลาย ขอให้พากันพินิจพิจารณา บ้านเมืองเป็นบ้านเมืองของเรา สมบัติทั้งชาติเป็นสมบัติของพี่น้องชาวไทยทุกคน ขอให้ต่างคนต่างสอดต่างส่อง ต่างคนต่างรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้หมูหมา ให้ยักษ์ ให้ผี เข้ามาเหยียบย่ำทำลายชาติและศาสนาของบรรพบุรุษของเราที่เทิดทูนมานาน ให้จมไปให้เห็นต่อหน้าต่อตาคนไทยทั้งประเทศ ๖๒ ล้านคน ดูไม่ได้นะ

        เอาให้จริงให้จัง ถึงคราวเด็ดต้องเด็ด คอขาด ขาดไปเลย ความผิด ถูก ชั่ว ดี อยู่กับทุกคน เราดูหลักดูเกณฑ์ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เช่น อย่างเวลาที่จะถูกปล้นถูกจี้อยู่เวลานี้ ด้วยเรื่องราวต่างๆ นี้เราเป็นเจ้าของของชาติไทยจะปฏิบัติต่อมหาโจรมหามาร ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจะเผาชาติเผาศาสนาได้อย่างไรบ้าง ขอให้พากันพินิจพิจารณานะ วันนี้พูดอย่างนี้ให้ถึงใจทุกคน เป็นภาษาธรรม เราไม่ได้หาเรื่องหาราวมา เรื่องเหล่านี้เรานำมาจากความจริงที่เขาปฏิบัติ เขาทำต่อกันมาแล้วโดยลำดับลำดา เราไม่ได้ไปหาเรื่องนะ ให้พากันจำ เอาละเท่านี้ละ พอ

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก