พรุ่งนี้จะทราบชัดเจน
วันที่ 23 ธันวาคม 2546 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

พรุ่งนี้จะทราบชัดเจน

 

         พระวินัยใหญ่กว่าที่มาตั้งนี้ เรามีหลักของเราอย่างงั้น สมมุติว่าเราจะบวชเราบวชได้ ว่ามาซิ ใส่ปั๊วะนี่จะเหยียบหัวพระพุทธเจ้าเหรอ นั่นเห็นไหม นี่มาตั้งทีหลัง ตั้งเป็นอุปัชฌาย์ตั้งเป็นอะไรนี้ พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้แล้วว่า ตั้งแต่สิบพรรษาขึ้นไปเป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัย ปฏิบัติโดยชอบธรรมแล้วเป็นอุปัชฌาย์ได้เลย นั่น นี่พระวินัยเป็นอุปัชฌาย์ได้ตั้งแต่สิบพรรษา แต่เป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัย ท่านไม่ว่าสิบพรรษาเฉยๆ เป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัยด้วย และได้สิบพรรษาผ่านไปแล้วด้วย เป็นอุปัชฌาย์ คือบวชกุลบุตรได้ ว่างั้น

         ทุกวันนี้เพื่อไม่ให้มันก้าวก่าย จุ้นจ้าน ก็ตั้งอย่างนี้ ท่านก็ตั้งด้วยความชอบธรรม เพราะฉะนั้นเราถึงปฏิบัติตามอย่างนี้ หากว่าเป็นเรื่องราวที่เราจะทำเรื่องของเรานี้ก็เราใส่ปึ๋งเลยเป็นอุปัชฌาย์ทันที บวชได้เลย พระวินัยคือองค์ศาสดา นั่น มันก็เรียนมาเหมือนกันทุกอย่าง อันนี้เป็นเรื่องของท่านตั้งมาทีหลัง แต่เห็นเป็นความชอบธรรมแล้วต้องปฏิบัติตามพวกเรา นั่น พวกเรามันจุ้นจ้าน ใครก็จะเป็นอุปัชฌาย์ ใครก็จะเป็นอุปัชฌาย์ทั่วบ้านทั่วเมือง ใช้ไม่ได้ แน่ะ มันมีกฎเกณฑ์อยู่นะ ท่านทำอย่างงี้ถูกต้อง แน่ะ เราก็ไม่ว่าอะไร แต่หากว่าเป็นกรณีที่เราจะควรทำตามพระวินัยข้อนี้ เราก็บวชได้เลย แน่ะอย่างงั้น มันมีข้อนั้นกันอยู่ ในข้ออะไรที่ลักษณะปกครองสงฆ์นั้นก็พูดไว้แล้วว่า จะกฎกติกา ข้อบังคับใด ๆ ก็ตามต้องไม่ให้ขัดธรรมวินัย ท่านก็ยกไว้เหมือนกัน ท่านเคารพพระพุทธเจ้าตลอดนะ

         (โยมส่งเช็คเป็นดอลลาร์จำนวน ๑๑,๘๕๕ เหรียญสหรัฐมาถวายหลวงตา)

         อาจารย์เจี๊ยะเป็นคนตรงไปตรงมา กิริยาภายนอกบ๊งเบ๊งๆ แต่ภายในของท่านดีมาก ละเอียดมากอาจารย์เจี๊ยะ คุ้นกับเรามาตั้งแต่นู้น ตั้งแต่พรรษา ๘ คือเราไปจำพรรษา ๘ ที่จักราช แล้วออกไปสกลนคร ก็พอดีอาจารย์เจี๊ยะท่านอยู่นั้นแล้ว ตั้งแต่นั้นมาตั้งแต่พรรษา ๘ คุ้นกันมาตลอดเลย ในวัดเราท่านก็มาจำพรรษาเหมือนกันอาจารย์เจี๊ยะ ปี ๒๕๐๔ แล้วก็เรื่อยมาจนกระทั่งป่านนี้ จึงได้รู้นิสัยท่านดี รู้เรื่องจริตนิสัยของท่านดี เป็นนิสัยตรงไปตรงมา แต่เวลาให้ท่านทำงานอะไร โหย ละเอียดมาก ทราบว่าท่านเคยทำทองมา เพราะฉะนั้นถึงละเอียด ท่านเคยทำทองมาก่อนบวช

         ท่านมาพูดตรง ๆ มาพูดกับเรา ครูบาอาจารย์ที่มาอยู่บนหัวใจผมได้นี้มีสององค์ ว่างั้นนะ พูดตรง ๆ เลย คือท่านอาจารย์มั่นกับท่านอาจารย์ นอกนั้นผมไม่ค่อยนั่นใคร พูดตรง ๆ เลย มาพูดต่อหน้า บรรดาครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่มานั่งอยู่บนหัวใจผมได้มีสององค์ คือท่านอาจารย์มั่นกับท่านอาจารย์นี่ เพราะฉะนั้นท่านถึงกลัวเราซิ  กลัวนะ เราเคยใส่ท่านเปรี้ยงหาที่กราบไม่ได้ มากราบ จับขาเรากราบเลยนะ เราใส่เปรี้ยงๆ  ท่านผิดอะไรของท่าน เพราะท่านเคยอยู่กับหลวงปู่มั่นมาด้วยกัน ข้อวัตรปฏิบัติรู้ด้วยกัน ทีนี้ท่านไปผิดพลาดตรงไหนๆ เราไปว่า นิ่งเลย ปุ๊บปั๊บนิ่ง

         พอวันพรุ่งนี้เช้ามา เรามากราบพระ นั่นละจำพรรษาด้วยกันที่วัดป่าบ้านตาด ปี ๒๕๐๔  พอเราไปกราบเสร็จแล้วเราก็มานั่งปั๊บ ท่านนั่งรออยู่แล้ว มาขอกราบ ปุ๊บปั๊บคลานเข้ามาขอกราบเท้า จับเท้าเราดึงออกไปกราบ มากราบอะไรเท้านี่มันเหยียบขี้เหยียบอะไร หัวคนไม่ใช่ขี้ เราก็ว่างั้น ขอกราบเสียก่อน จะอะไรก็ขอกราบเสียก่อนเถอะ แหม เวลาท่านอาจารย์พูดนี้มันถูกต้องดีเหลือเกิน คือไปดุท่านน่ะซิ ท่านยอมรับทันที จึงมากราบยอมรับความผิดพลาด นั่นละดึงขาไปจะกราบตีนนี่นะ ท่านอาจารย์เจี๊ยะ

         อย่างงั้นละถ้าท่านลงท่านลงอย่างงั้น ถ้าไม่ลง ไม่ลงนะอาจารย์เจี๊ยะ กับเรานี้ท่านลงมาตลอด ว่าปฏิปทาของท่านอาจารย์กับท่านอาจารย์มั่นนี่ไม่มีอะไรผิดกันเลย เวลาประกาศออกมานะ เพราะคบกันมานานแสนนานแล้วนี่ มาอยู่วัดป่าบ้านตาดเหมือนกัน พอดีท่านไปผิดพลาดในวัดป่าบ้านตาดล่ะซิ ท่านไปทำอะไรที่กุฏิเรา จะปลูกกุฏิหลังอยู่ทุกวันนี้ ท่านเอาไม้อะไรไป ค่ำแล้วนะ ฟังเสียงเป๊ก ๆ ๆ ขึ้น ท่านกำลังเอาตะปูตี เสียงเป๊กๆ ๆ ขึ้น เอ๊ะใครมาทำอะไรนะ พอไปแล้วเราก็ไปยืนที่นั่นเห็นท่านกำลังทำนั่นอยู่ก็ซัดขึ้นเลยทีเดียว

         ท่านเคยอยู่กับท่านอาจารย์มั่นมาแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นผมก็ไม่ว่า นี่จะให้ผมสอนท่านว่ายังไง ท่านอยู่กับท่านอาจารย์มาแล้วนานกว่าผม ท่านพาทำอย่างนี้เหรอ ว่างั้นละ ผมขอศึกษาหน่อย ว่าให้เปรี้ยง ๆ เราก็กลับ นั่นละเป็นต้นเหตุนะ ตอนเช้ามาก็มานั่งรอ พอเราไปกราบพระกลับมานั่งปั๊บ มาใกล้ ๆ นี้จับขอดึงออกขอกราบ แหม ทำไมท่านอาจารย์พูดได้ถูกต้องเอานักหนา เพราะท่านอาจารย์มั่นท่านไม่เคยทำอย่างงี้ มันอุตริแต่ผมคนเดียว ท่านมาตีเข้านี้ แหม ถูกเหลือเกิน ท่านว่าอย่างงั้น ท่านอาจารย์มั่นท่านไม่เคยพาทำอย่างงี้ คือเราถามเสียก่อนว่าท่านอาจารย์มั่นท่านเคยทำอย่างนี้เหรอ ท่านอยู่มาก่อนผมนี่นะ ผมมาอยู่ทีหลังท่าน ท่านพาทำอย่างนี้เหรอ นิ่งเลย

         นั่นละเวลาท่านมาพูดท่านก็บอกว่าท่านอาจารย์มั่นไม่เคยทำอย่างนี้ มันอุตริแต่ผมคนเดียว ผมจึงยอมรับผิด ว่างั้น จับเท้านี่ดึงออกไปกราบ แล้วก็บอกว่าปฏิปทา ท่านก็บอกตรงๆ อย่างนี้ละ ปฏิปทาการดำเนินของท่านอาจารย์มั่นกับท่านอาจารย์เปรี๊ยะกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นผมถึงยอมกราบ ท่านพูดตรง ๆ  เราก็ยอมรับว่ามีส่วน เรียกว่าถูกต้องอยู่ เพราะท่านอาจารย์มั่นท่านก็เป็นพระผู้บริสุทธิ์ ท่านไม่เอนไม่เอียงไปไหน ว่ายังไงตรงเป็นอรรถเป็นธรรมไปเลย  อย่างเราไปว่าให้ท่าน เปรี้ยง ๆ ท่านนิ่งเลย ท่านยอมรับ มาขอสารภาพว่าผมมาอุตริทำคนเดียว ยอมรับ มาตีตะปู ท่านจะไปกวาดกุฏิเรานั้นแหละ คือกำลังถมอยู่ ปี ๒๕๐๔  ๒๕๐๕ ก็ปลูกขึ้นมา

         วันนี้พอฉันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะไปวัดอาจารย์เจี๊ยะ นี่กำลังเร่งทองคำ กำลังเร่งดอลลาร์ ดอลลาร์ขีดเส้นตายไว้แล้ว ยังไงๆ ก็ตาม ขาดเหลือเท่าไรเราก็สั่งชายปั๋มไว้เรียบร้อยแล้ว ให้ไปถอนเงินออกมาซื้อดอลลาร์ เรากำหนดไว้ว่าห้าหมื่น นี่ก็ไม่ได้ตายตัว ถ้าหากว่ายังขาดอีกเอามาเพิ่มอีก เราก็พูดไว้แล้วให้พอห้าแสน นี่ก็สั่งไว้เตรียมมาห้าหมื่น(ดอลล์) เสียก่อน นี่ก็บอกว่ายังไม่ตายตัว หากว่าควรเพิ่ม เพิ่มเข้าอีก แต่ยังไม่ได้เพิ่มนะลูกศิษย์เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ เพิ่มเข้ามาทางนี้เรื่อย ๆ

         ส่วนทองคำยังพูดไม่ได้ว่าได้จำนวนเท่าไรเวลานี้ แต่ที่หนักก็คือว่าได้มาก ว่างั้นนะ ตามต้องการนั่นเองละ ดอลลาร์จึงดึงเข้าหากันให้ได้ห้าแสน ก็เรียกว่าได้มากเหมือนกันคราวนี้ ทองคำตันขึ้นไปเลย เรียกว่าข้าม ๑ ตันกับ ๒๕ คราวที่แล้วนี้ข้ามไปแหละ ทองคำเราเวลานี้ข้ามไป วันพรุ่งนี้ก็คงจะทราบความหมายชัดเจน ทองคำได้เท่านั้น ดอลลาร์ได้เท่านั้น ทีนี้ทองคำก็ไม่เพิ่มอีก สมมุติว่าได้มาใหม่ก็พักไว้ ๆ เพื่อข้างหน้า ส่วนตายตัว เราบอกว่าเท่านั้น ได้เท่านั้นแล้วก็เป็นอันว่าเท่านั้น มาดึงออกก็ไม่ได้ มาเพิ่มก็ไม่ให้เพิ่ม ถ้าได้มามากน้อยเพียงไรเราก็พักไว้ๆ สำหรับข้างหน้านู้น เพราะข้างนี้กะว่าจะมอบประมาณสองครั้ง แต่ครั้งละไม่มากนัก ไม่เหมือนครั้งนี้ ครั้งนี้มาก

         ก็คาดว่าจะให้เสร็จสิ้นภายในกลางปี ๒๕๔๗ นี้ ไม่ให้เลยนั้น เพราะธาตุขันธ์ของเราอ่อนแอ เหนื่อย มันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว เหนื่อยมาก ไปเทศน์ที่ไหนรู้สึกระอาใจแล้วเดี๋ยวนี้ มันเหนื่อย ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ดำเนินการช่วยชาติมาก็มาระยะนี้รู้สึกว่าอ่อน ธาตุขันธ์อ่อน โรคภัยไข้เจ็บก็เบียดเบียนอย่างนี้ละ มันก็เป็นไข้ประเภทหนึ่งอยู่ภายในร่างกาย อ่อน ปวดเข้าไปในนี้ ปวดเข้าไปนี้มันก็บีบ ทอนกำลังวังชาลงได้เหมือนกัน วันนี้ตอนเย็นก็จะไปเทศน์พุทธมณฑล ของเล่นเมื่อไร (หลวงตาให้ลูกศิษย์อ่านกำหนดการแสดงธรรมและรับผ้าป่าช่วยชาติ) โอ้โห ไม่ใช่เล่นๆ มันหนักตอนท้ายมาคราวนี้ เราก็พูดไว้แล้วว่าคราวนี้จะหนักมาก มันก็จริง ๆ เป็นไปตามนั้น หนักมากทีเดียว

        ดอลลาร์เช้านี้ได้ ๓,๕๖๙ ดอลล์ ดอลลาร์ที่มีอยู่เดิม ๔๔๔,๖๐๘ ดอลล์ รวมดอลลาร์ที่มีอยู่ทั้งหมดเป็น ๔๔๘,๑๗๗ ดอลล์ ยังขาดอยู่อีก ๕๑,๘๒๓ ดอลล์ จะครบ๕๐๐,๐๐๐ ดอลล์ ก็เรียกว่ายังขาดอยู่อีกเพียง ๑,๐๐๐ เท่านั้นเอง ทองคำเช้านี้ได้ ๔๐ บาท ๖๐ สตางค์ นี่ละดอลลาร์เราจวนเต็มที่แล้ว ที่ขาดจาก ๕๐,๐๐๐ ที่เรากำหนดไว้นั้น ก็เพียง ๑,๘๒๕ ดอลล์เท่านั้น มันก็ได้มาเรื่อย ๆ

         เอาละคราวนี้เราจะได้เห็นชื่อเสียงของเมืองไทยเราจะดังอีกนะ เพราะทองคำและดอลลาร์เข้ามากกว่าทุกๆ ครั้งเลย ดังเป็นระยะๆ จนกระทั่งจุดสุดท้ายนี้ดังด้วย เป็นประวัติศาสตร์อย่างงดงามด้วย ไม่มีที่ต้องติ เพราะเราคำนวณไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ไม่มีใครจะมาต้องติเราได้ นอกจากเขาจะมาชมเชยเมืองไทยเรา ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ดอลลาร์ ๑๐ ล้านสุดท้าย แต่ตอนนี้ก็จะดัง เพราะทองคำก็จะมาก ดอลลาร์ก็ห้าแสนแล้ว จึงว่าดังนะ ออกทั่วประเทศไทย ออกนอกโลกก็จะออก เพราะเขาจะถ่ายทอดสดนะ ออกทางอินเตอร์เน็ตด้วยอะไรด้วย

         คราวนี้เป็นคราวอันยิ่งใหญ่ของพี่น้องชาวไทยเรา เพราะอำนาจแห่งความรักชาติ ความสามัคคี หนุนชาติไทยเราให้เด่น โลกทั้งหลายเขาก็มองเห็นชัดเจนชาติไทยเรา ว่าเป็นชาติประเภทใด เขาก็จะรู้กัน ทีนี้ให้พรนะ

 

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่

www.luangta.com

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก