เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
วันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
ในราวกลางปี ๔๗ จะให้เรียบร้อยทุกอย่าง
ก่อนจังหัน
เทศน์ไม่ทราบว่ากี่กัณฑ์ เทศน์ตลอด กลับมาจนจะไม่มีลมหายใจ เหนื่อยมากจริง ๆ เมื่อวาน สองวันติดกัน
ดอลลาร์เรามันจะสามแสนกว่าแล้วคราวนี้ คิดว่าจะได้ถึงสามแสนกว่า ถึงวันมอบ เดี๋ยวนี้มันก็สามแสนแล้วนะ มันอาจจะถึงสี่แสนก็ได้ เพราะมันยังอีกหลายวันกว่าจะถึงวันที่ ๒๖ ก็ยัง ๑๕ วัน ดอลลาร์มันก็มาเรื่อย ๆ ๆ คือดอลลาร์เราไม่กำหนด ไม่เหมือนทองคำ ทองคำนี่หนักมาตลอด กำหนดมาตลอด ส่วนดอลลาร์นี่มันจะได้แค่ไหนก็แล้วแต่ นอกจากมันจะมีเหตุจำเป็นปุบปับควรจะโดดใส่ปั๊บเหมือนคราวที่แล้ว เราก็ดื้อไปถามเวลานี้ดอลลาร์มอบเข้าแล้วเท่าไร ว่า ๘ ล้าน ขาดเท่าไร นั่นซิทีนี้ พอขาดเท่านั้น ทีนี้ก็ใส่ตูมตามเลย เอาให้มันได้จำนวนเต็ม ๘ ล้านนะ นั่นล่ะใส่ปุ๊บปั๊บเลย ฟาดซะถึง ๔๓๒,๐๐๐ มันขาดเท่าไรใส่เท่านั้น นี่ล่ะแบบปุบปับ อันนี้ไม่มีปุบปับเราก็เรื่อย ๆ ไปธรรมดา
แต่เรื่องทองคำต้องเด็ดทีเดียว ไม่เด็ดไม่ได้ เพราะเหตุผลกลไกพร้อมแล้ว พอแล้วทุกอย่าง ที่จะได้ตามกฎเกณฑ์ เมืองไทยทั้งประเทศดูซิยกดอลลาร์เราเพียงแค่นี้ ๆ มาเป็นพัก ๆ และแขนนี้ก็ยกทองคำ ตอนนี้ก็สมเหตุสมผลทุกอย่างแล้ว พิจารณาหมดแล้ว ต้องได้อย่างนี้ จึงต้องอย่างน้อย ๑ ตัน ๓๗ กิโล แต่จะขึ้น ให้ลดนั้นไม่ลด ถ้าลงได้ชี้แล้วยังไงขาดเลย เพราะชี้ด้วยเหตุผลอรรถธรรม ไม่ได้ชี้ด้วยแบบกิเลสตัณหา เอาตามชอบใจหรือทิฐิมานะ เราทำไม่ได้นะ เอาตามธรรมเท่านั้นถ้าเหตุผลกลไกลงแล้วเป็นธรรมแล้วพุ่งเลย ถ้าไม่เป็นธรรมไม่ออก
ถ้าลงธรรมแล้วผมเส้นหนึ่งเราไม่ข้ามนะ เราเคารพตลอดมา ไม่เคยบกบางเรื่องเคารพธรรม เอาธรรมดำเนินไปเรื่อยเลย นำธรรมดำเนิน พิจารณาขนาดไหน เรื่องอะไร เป็นยังไง ๆ จะต้องเล็งธรรมเป็นจุดสำคัญ เพราะธรรมนี้ให้ความถูกต้องแม่นยำ และความสงบร่มเย็นแก่โลกมาตั้งกัปตั้งกัลป์แล้ว ส่วนกิเลสมีแต่อย่างงี้ ๆ มันทำลายโลกก็คือกิเลส ส่งเสริมโลกหรือแก้ไขสิ่งที่ชั่วช้าลามกของโลกนี้คือธรรม จึงต้องเอาธรรม คราวนี้ก็จะให้ได้ มันยังอีกหลายวัน เวลานี้ก็บรรดาพี่น้องทั้งหลายก็มาเรื่อย ทองคำไหลเข้ามาเรื่อยทุกทิศทุกทาง อย่างไปเมื่อสองวันนี้ก็ได้ตั้ง ๙ กิโลกว่านะสองวัน นี่ก็เรียกว่าขยับ ๆ คือตามธรรมดามันก็เรื่อย ๆ ของมันไป จะได้เท่าไร ๆ เราก็ไม่ว่า เวลานี้ว่า ว่างั้นเลยนะ ขยับเลยคราวนี้ ต้องให้ได้ตามจุดหมายเมืองไทยเราจะเด่นทุกอย่าง ๆ ถ้าขัดธรรมพุทธเจ้าแล้วไม่ได้
พอสิ้นเดือนธันวานี้แล้วเราก็หยุดเรื่องโครงการ คือหยุดออกเที่ยวเทศนาว่าการในที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นความลำบากมาก เรางดเลย หยุดเลย เป็นแต่เพียงว่าไม่หยุด ขาด ๆ อันนี้แยกให้ลงมาเป็นตามธาตุขันธ์และอัธยาศัยของเราถ้าควรจะไป ไม่ว่าจะนอกโครงการ ในโครงการ จะเอาธาตุขันธ์และอัธยาศัยที่เห็นสมควรยังไงเป็นสำคัญ ยิ่งกว่าโครงการที่เราตั้งขึ้นแล้วก็บีบบังคับเรามาตลอด ทีนี้จะเอานั้นออกให้เป็นตามอัธยาศัยของเราไปเรื่อย ๆ ส่วนบัญชีนั้นเราเปิดตามเดิม ทุกอย่างเปิดตามเดิม เป็นแต่เพียงว่าการออกเทศนาว่าการนั้นเราหยุดเท่านั้นเอง ให้มาเป็นตามอัธยาศัยและธาตุขันธ์ของเรา
ส่วนบัญชีนี้เปิดไว้จนกระทั่งพอเมื่อไรแล้วเราจะประกาศเอง เวลาพอแล้วประกาศให้เข้าขั้นปรกติก็ให้เป็นปรกติไปเลย เวลานี้ยังปิดบัญชีไม่ได้ ขีดเส้นตายก็คือว่า ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๗) แต่ที่เรากำหนดไว้เวลานี้จะให้เสร็จภายในกลางปี ๒๕๔๗ ให้เสร็จในระยะนั้น เพราะมันไม่เหลือมาก ที่มันขาดไม่ได้ขาดมากนะ อย่างมากก็ไม่เลย เรามอบสองหนก็พอ ให้พรแล้วใส่บาตร
หลังจังหัน
ทองคำวันที่ ๑๑ ธันวา ภาคเช้านี้ทองคำได้ ๓๘ บาท ๑๑ สตางค์แล้วนะ เมื่อวานกับวันซืนนั้นได้ ๑๒ กิโล ๔๕ บาท ๕๑ สตางค์ เมื่อวานนี้มานี้ได้ ๑๒ กิโล มาถึงเช้าวันนี้บวกกันแล้วได้ ๑๓ กิโลกว่าแล้วนะ วันนี้เราก็จะต้องไปตระเวนหาทางอีกแหละ เขานิมนต์ไปรับที่ไหน ๆ เราไปเหมือนคนขอทานนะหลวงตา ทำด้วยความเมตตากับพี่น้องทั้งหลาย ตะเกียกตะกาย หนักเบาขนาดไหนไม่สนใจ มองเห็นตั้งแต่พี่น้องชาวไทยเรา นั่นน่ะเราจึงบึกบึนนะ
เพราะงั้นจึงว่าให้เร่งทองคำเรา ให้ได้ยุติในเวลาอันควร เรากะว่า ๔๗ นี้ ในราวกลางปี ๔๗ จะให้เรียบร้อยทุกอย่าง ทองคำก็จะให้ได้ ๑๐ ตัน และดอลลาร์ก็ ๑๐ ล้านเป็นอย่างน้อย แต่คิดว่าดอลลาร์น่าจะมากกว่าทองคำ ก็เราจ่อตลอด พอถึงจุดแล้วเราก็ประกาศเลย พอ ส่วนดอลลาร์มันจะไปไหนช่างหัวมัน เราประกาศแต่ทองคำ เพราะเป็นจุดสำคัญมาก นี่จึงได้รบเร้ากับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย รบกวนไปทุกแง่ทุกมุม เราจะเร่งใส่จุดนี้จุดทองคำซึ่งเป็นจุดที่เด็ดมาก เป็นจุดที่เป็นชื่อเสียงของเมืองไทย และเป็นที่ตำหนิถ้าไม่ได้ทองคำตามกำหนดนี้ ถูกตำหนิ ถ้าได้ทองคำนี้ มา ว่างั้นเลยเข้าใจไหม ถ้าได้ทองคำตามนี้โบกมือว่าให้มา เราสู้คนเดียวพอเท่านั้นเอง
กำลังเร่งทองคำ ในคราวนี้จะต้องให้ได้อย่างน้อยเรียกว่า ๑,๐๓๗ ขึ้นไป เวลานี้เราค่อนข้างแน่เข้าไป ๆ เพราะทองคำไหลเข้ามาเรื่อย ๆ แน่เข้าไปสู่จุดและจะเลยจุด ให้เลยเท่าไรเลยไปเถอะ ได้มากเท่าไรคราวนี้สมเกียรติแห่งชาติไทยของเราที่ช่วยกันในงานกฐินครั้งนี้เป็นกฐินของคนไทยทั้งชาติ ให้เหมาะสมกับกฐินของคนทั้งชาติ ผลได้เท่าไรนี่จะวัดจากทองคำ เพราะงั้นจึงเร่งมาก ได้มากเท่าไรก็สมเหตุสมผลกับคนไทยทั้งชาติช่วยตนเอง
ต่อจากนั้นไปก็ค่อยลดไปล่ะ เพราะเหตุการณ์ที่ว่าได้ทองคำมาก็ไม่ให้เลยความพอดี ให้อยู่ในความพอดี อย่างที่เด็ดคราวนี้ก็เด็ดอยู่ในความพอดีของชาติไทยทั้งชาติ กับกฐินหนึ่งกองเพื่อชาติไทยของเรา ให้ได้ทองคำเท่านั้น กะกันพอดีเลย ครั้นต่อไปก็ค่อยลดลงตามเหตุตามผล แต่เรากะว่าจะพยายามให้สิ้นสุดลงในกลางปีนี้แหละ จะขีดเส้นตายไว้ ๔๗ คิดว่าจะไม่ถึงแหละ ความแน่ใจมันมีอยู่จุดกลางปีนี่แหละ เราเหนื่อยมากแล้วนะ ทบทวนภายนอก ทบทวนภายในบวกกัน เร่งใส่เหตุผลกลไกด้วยกันทั้งธาตุทั้งขันธ์ ทั้งอันนี้ล่ะ เราเร่งใส่นี้นะ เร่งกับพี่น้องทั้งหลาย เร่งทั้งธาตุขันธ์เราก็ต้องทดสอบอยู่ตลอดเวลา ให้ได้สมใจหมายของเราในครั้งที่ศาสนาเป็นผู้นำ
พระพุทธเจ้าไม่เคยอ่อนแอ ไม่เคยแพ้สิ่งใดเลย ลูกศิษย์ตถาคต เราเป็นลูกชาวพุทธจะให้อ่อนแอท้อแท้ไม่ได้นะ ต้องเอาให้เด็ดทีเดียว เพราะคราวนี้ก็เรียกว่าศาสนาล่ะนำด้วย บ้านเมืองก็นำด้านหนึ่ง ศาสนานำด้านหนึ่ง ศาสนาก็นำทั้งด้านวัตถุและด้านจิตใจ ทางบ้านเมืองก็มีจิตใจด้วย มีด้านวัตถุมากทางบ้านเมือง แต่ทางนี้มีด้านวัตถุ ถ้าว่าทอง ๑๐ ตันนี้ก็ว่ามากแต่ไม่มากเท่าศีลธรรมเข้าสู่ใจ อันนี้มาก หนักมาก มีคุณค่ามาก เราจึงเน้นหนักในเรื่องอรรถเรื่องธรรม ธรรมเข้าสู่ใจแล้วจะแน่นหนามั่นคงไปหมดล่ะ อะไรจะแน่นหนามั่นคงสู้ใจแน่นหนามั่นคงด้วยธรรมไม่ได้นะ เพราะงั้นจึงเน้นหนักลงในจิตใจ
ใจเป็นที่บรรจุเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งดีและชั่ว ใจมีธรรมแล้วก็ไปกลั่นกรอง อะไรไม่ดีปัดออก ๆ อะไรดีก็ดำเนินตามนั้น ปัดออก มันไม่อยากปัด ปัด นั่นเรียกว่าธรรม กำจัดกันต้องปัดทีเดียว เราจึงได้หมุนทางด้านธรรมะมาก เมื่อวานนี้ทางแปดริ้วเขาไม่เคยได้ยินโวหารหลวงตาเขาก็อดหัวเราะกันไม่ได้แหละ มันหากมีหากเป็น กำลังเริ่มจะเทศน์ไอ้เรื่องถ่ายภาพวับ ๆ ๆ มาจ้อข้างหน้า นี่กองทัพเทวทัตกำลังมา มากำจัดไปเดี๋ยวนี้ กำลังจะลบธรรม แน่ะขึ้นอย่างงั้นนะ เอาเลยไล่ออกไปเลย กำลังจะเทศน์มาถ่ายภาพ ซึ่งเคยประกาศอยู่เสมอ นี้คือข้าศึกของการแสดงธรรม
เฉพาะในวงธรรมะภายในด้วยแล้ว อะไรมายุ่งไม่ได้เลย ปล่อยให้ธรรมพุ่ง เอ้ามีความต้องการสูงต่ำขนาดไหน ฐานะของภูมิจิตภูมิใจสูงขนาดไหนธรรมนี้พร้อมเสมอที่จะออกรับ ๆ และเมื่อมีอันนี้เข้ามานี้ล้มเหลวไปเลย เพราะงั้นเราถึงดุเอาซิ เพราะมันเป็นภัยอย่างร้ายแรงต่อธรรม การดุกันอย่างงี้เหมาะแล้ว นั่น ไม่ทำให้เลยเทิดทุกอย่าง ให้พอดีทุกอย่าง บอกให้มาเอากองทัพไปนี่กำลังจะทำลายศาสนา คนมาก ๆ ไล่คนนี้ไป อย่างนั้นแหละ
ก็เรามุ่งอรรถมุ่งธรรมต่อคน วัตถุมุ่งเพื่อชาติไทยของเราก็เป็นสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่สำคัญยิ่งกว่าใจ ใจนี้สำคัญ สำคัญทุกหัวใจเลย ถ้าหัวใจใดไม่มีอรรถมีธรรมหัวใจนั้นจะเหลวไหล ๆ ตลอด มีเงินเป็นล้าน ๆ ๆ ก็ตามเถอะ เหลวไหลอยู่ภายใน ตัวนี้ล่ะพาให้จม นั่นเป็นอย่างงั้นนะ ถ้าตัวนี้แน่นหนามั่นคงแล้วอะไรจะขาดตกบกพร่อง อะไรก็ตามเถอะอันนี้ยันอยู่แล้ว เป็นตรงกลางอยู่แล้ว รากแก้วยังดี กิ่ง ก้าน สาขา ดอก ใบ จะยุบยอบไปบ้างไม่เป็นไร ขอให้รากแก้วนี้ทนทาน แล้วผลิตดอกออกผลใหม่ขึ้นมาได้ ถ้ารากแก้วเสียอย่างเดียวแล้วยุบไปหมด ตายเลย
ใจจึงเป็นเหมือนรากแก้วของชีวิตมนุษย์แต่ละคน ๆ ที่จะพยุงตัวเองไปต้องด้วยธรรมทั้งนั้น ด้วยกิเลสนี้มีแต่ตีแหลกลงไปโดยลำดับนะ ขอให้พี่น้องทั้งหลายจำไว้นะ นี่ก็เน้นหนักทางด้านวัตถุด้วย เน้นหนักทางด้านธรรมะด้วย ไปพร้อม ๆ กัน พอวัตถุยุติลงแล้วธรรมะก็จะไม่ค่อยออก ถ้าออกทั่ว ๆ ไปนี้มีน้อยมากต่อไป จะออกตามเหตุการณ์ที่เหมาะสม ๆ เท่านั้นจะออก ธรรมดาที่จะเป็นไปตามโครงการบังคับไม่เป็น อันนี้เราดำเนินด้วยโครงการบังคับ โดยที่เราเป็นผู้ตั้งโครงการเอง เราจะเอามือเขียนตีนลบได้ยังไง ทุกข์ยากลำบากก็บืนไปตามโครงการที่เราเองเป็นผู้ตั้งเอาไว้ ทีนี้เมื่อพอเหมาะพอสมแล้วโครงการก็แยกออก เราก็เดินตามอัธยาศัย ตามธาตุตามขันธ์ของเราไปเท่านั้น
นี่กำลังเร่งทองคำ ยังไงขอให้ได้ตามนี้ ให้ได้มากที่สุดล่ะคราวนี้ สมเกียรติของชาติไทยเรา ว่ากฐินของคนทั้งชาติ เพื่อทองคำได้มากน้อยเพียงไรเราจะได้เห็นชัดเจน ไม่กี่วันล่ะ จะก่อนหน้าวันที่ ๒๖ ท่านทั้งหลายจะทราบประกาศออกมาแล้วก็เข้าตูมเลย ไม่มีเคลื่อน หลวงตาต้องพิจารณาเรียบร้อยก่อน เป็นที่แน่นอนแล้วถึงออกทีเดียว ใช้เลย ๆ ถ้ายังไม่แน่ไม่ออก พิจารณาทบทวนดูเสียก่อน นี่เราก็ค่อนข้างแน่ใจว่าทองคำเรานี้จะได้มากอยู่ล่ะ เพราะต่างคนต่างไหลมาอย่างนี้ คิดดูซิไปเมืองชลเมื่อวานเพียงคืนเดียวกลับมาก็ได้ตั้ง ๑๒ กิโลกว่า ตามธรรมดาไม่ได้นะ ได้ ๑-๒ กิโลก็ว่าดีแต่ก่อน เพราะเป็นธรรมดาๆ แต่คราวนี้เป็นการเร่งตลอด ไปที่ไหนมันต้องเร่งๆ ๆ เรื่อย เพื่อให้ทันจุดมุ่งหมายของเราตามเวลาอันควร
จุดมุ่งหมายครั้งนี้ก็คือว่าทองคำต้องไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ กิโลขึ้นไปล่ะ แล้วจุดอันใหญ่หลวงก็คือน้ำหนัก ๑๐ ตัน ถ้าได้ทองคำน้ำหนักตามที่เรากำหนดไว้นี้แล้ว ข้างหน้าก็ไม่หนักมากนัก คือหนักตอนนี้ก็จะไปเบาข้างหน้า ต่อไปก็ยุติได้เลย เราได้เห็นใจพี่น้องชาวไทยเรา ตั้งแต่เริ่มต้นที่หลวงตาพาพี่น้องทั้งหลายนำออกช่วยชาติบ้านเมือง สำหรับหลวงตาเองนี้แบบพลีชีพเลยเชียว แล้วพี่น้องทั้งหลายก็เดินตาม ๆ ๆ เวลาตั้งแต่เริ่มออกช่วยชาติ ไปที่ไหน ๆ เทศนาว่าการที่ไหนเราไม่เคยเห็นประชาชนพี่น้องชาวไทยเราบกบางเลยเวลามาฟังเทศน์ แน่น ๆ ๆ ตลอด ทุกภาคเลย ไม่มีภาคไหนที่จะพอจะตำหนิได้นะ ทุกภาคแน่นๆ ตลอดมา
ครั้นเวลาธรรมดาการหลั่งไหลมาแห่งสมบัติจากความรักชาติของพี่น้องชาวไทย ก็ไหลมาเรื่อย ๆ ๆ เวลาเร่งก็เหมือนฝนตกฟ้าลง มันก็เร่ง น้ำก็ไหลโจนลงจากภูเขาล่ะซิ เสียงซ่วมซ่าม ๆ แล้ว นั่นเวลานี้กำลังเป็นน้ำไหลลงจากภูเขา โจนลงที่เป็นหลุมเป็นบ่อให้มันเต็มด้วยน้ำขึ้นมาด้วยการเร่งของพวกเรา พี่น้องทั้งหลายนับว่าเป็นกำลังใจของหลวงตาได้ดี ไม่มีที่ต้องตินะ ตั้งแต่ต้นมาจนกระทั่งบัดนี้ ถึงเวลาเด็ดก็เด็ดให้เห็น หัวหน้าเด็ดบริษัทบริวารก็เด็ดไปตาม หัวหน้าเรียบ ๆ บริษัทบริวารเรียบ อย่างนี้มาตลอด
นี่คราวนี้ก็กำลัง เวลานี้เป็นคราวนี้ที่เด็ด เห็นไหมก็หลั่งไหลมาอีกนี่ เมื่อเช้านี้ก็ได้มากอยู่แล้ว ก็นับวันที่จะไหลเข้าไปเรื่อย ๆ เข้าสู่จุดตามความรีบเร่งของเรา ได้ตามจุดหมายเราอบอุ่นนะ หลวงตาเองก็อบอุ่น แน่นหนามั่นคงภายในจิตใจ ที่เราเคยปฏิบัติต่อนิสัยของเรามานมนาน ถ้าลงได้ตำหนิเจ้าของตรงไหนแล้ววันนั้นเหมือนจะนอนไม่หลับนะ มันหากเป็นอยู่ในจิตนี่ ภาวนาวันนี้จิตมันเป็นยังไง มันดีดมันดิ้น ทำไปทำมาสู้มันไม่ได้ ยกเว้นตอนที่นั่งน้ำตาร่วงบนภูเขา อันนั้นสู้ไม่ได้จริง ๆ เราก็บอก เราหมดทางจริง ๆ ตั้งสติพับล้มผล็อย ๆ ตั้งเพื่อล้มเท่านั้น ไม่ได้ตั้งเพื่อสู้กับกิเลสนะ ตั้งพับล้ม มันตั้งเพื่อล้ม จนกระทั่งงงในตัวเอง
นี่ล่ะเวลากิเลสมันเชี่ยวจัดที่สุดเลย คือคราวนั้น เราก็ไม่ลืม ตั้งเท่าไรก็ไม่อยู่ ๆ เอ๊ะนี่มันมาทำความเพียรอะไร งงในเจ้าของอยู่ มันไม่ใช่ความเพียร มีแต่ให้กิเลสตีเอาแหลก ๆ ยังไงกันนี่วะ ความเคียดแค้นก็เกิดขึ้นในเวลานั้น เคียดแค้นให้ตัวเองที่สู้กิเลสไม่ได้ นั่งน้ำตาร่วง ไม่ได้ลืมนะ เจ็บแสบมากทีเดียว จากนั้นก็ถึงขั้นกูมึงนะ นี่พูดถึงเรื่องเจ้าของแพ้ มันไม่สบายอยู่ในใจมันแพ้ อันนี้ก็แพ้มันแบบหลุดลุ่ยเลย สู้ไม่ได้ ก็เอากูมึงฝากมันไว้ มึงเอากูขนาดนี้เชียวนะ นี่เอากูมึงฝากกิเลสไว้ เอาล่ะยังไงมึงต้องพังวันหนึ่ง นี่ที่จะตัดกันตรงนี้นะ ให้กูถอยกูไม่ถอยล่ะ มึงต้องพังวันหนึ่งแน่นอน ไปก็เป็นอย่างนั้น เคียดแค้นให้กิเลส
ไปก็หาครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่นเรา ได้รับการอบรมเต็มที่แล้วมา โอ๋ย ไม่ได้ถึงยก พอยกครูขึ้นแล้วเขาต่อยลงแล้ว ๆ กลับไปอีก เอาอีก เพราะความเคียดแค้นให้กิเลสถึงขั้นกูมึงนี่ไม่ได้ลดละ ขยับเข้าๆ ความเพียรหนักเข้าเรื่อย ต่อไปก็เห็นกิเลสเอียงบ้าง เอียงซ้ายเอียงขวาบ้าง ถูกหมัดเรา แต่ก่อนมีแต่หมัดมันซัดเข้าคางนี่ หงายหมา ๆ คือหงายไม่เป็นท่า เข้าใจไหม เรียกว่าหงายหมา ไม่ใช่เป็นคำหยาบนะ หงายหมาคือหงายไม่เป็นท่า สู้กิเลสไม่ได้หงายหมา ๆ มาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน กลับไปทีแรก เรากลับไปเรื่อย ๆ ต่อไปก็มีหงายแมว หงายแมวมีตบได้ซิ ถึงสู้ไม่ได้ก็พอตบได้ก็เอา จากนั้นก็ซัดกลายเป็นเสือโคร่งเสือดาวขึ้นมาล่ะทีนี้
กิเลสล้มให้เห็น ๆ ก็ยิ่งขยับใหญ่เลย เอาจนเต็มเหนี่ยว จนตั้งหลักได้ด้วยอำนาจแห่งความโกรธแค้นให้กิเลส เป็นความมุมานะอย่างหนักทีเดียว นี่ล่ะเคียดแค้นให้กิเลสเป็นธรรม เคียดแค้นให้ผู้อื่นผู้ใด สัตว์ตัวใดก็ตามเป็นกิเลสทั้งนั้น ท่านเรียกว่าความโกรธเป็นกิเลส แต่ความโกรธสำหรับฆ่ากิเลสด้วยความเคียดแค้นกิเลสนี้เป็นธรรม เราเห็นได้ชัด เพราะเคียดแค้นมากอย่างถึงใจ ความมุมานะที่จะฟัดกิเลสให้หงายลงไปตามอาฆาตกันไว้ มึงต้องพังวันหนึ่งแน่สอน นี่อาฆาตกันไว้แล้วนะ ให้กูถอยกูไม่ถอย มันก็ได้ กลับมาก็ฟัดกันเลย
นี่ล่ะเรื่องความตั้งอกตั้งใจ ความจริงจังในจิตใจ เป็นมาอย่างนี้ ตามนิสัยเราพูดตรง ๆ ภาวนาบางทีมันฟัดกับเรา ยกน้ำตาร่วงขึ้นไปกั้น พอที่จะช่วยได้ฟัดได้เหวี่ยงกันพอได้ ยังไปสู้มันไม่ได้ เอ๊ มันยังไงกัน ทุกวันก็เห็นพอฟัดพอเหวี่ยงกันมา วันนี้ทำไมให้กิเลสตีเอาอ่อนปวกเปียก เป็นยังไง ไม่สบายใจ เตรียมท่าใหม่ เอาใหม่ คราวนี้จะเอาให้ชนะ นี่เราก็เคยพอฟัดพอเหวี่ยงกันมา วันนี้ทำไมถึงอ่อนปวกเปียกให้กิเลสฟัดเอา ๆ มันยังไง นั่นล่ะทีนี้ไม่สบายแล้วนะ จะย้อนกลับแก้กิเลสตัวนี้ล่ะ ตัวสู้มันไม่ได้คราวนี้ คราวนั้นยังพอมีแพ้มีชนะ แต่คราวนี้มันทำไมมันเป็นอย่างงี้ กลับ พลิก ซัดใหม่อีกจนได้ชัยชนะล่ะ เอาล่ะพอใจ
นี่พอใจเป็นพัก ๆ แพ้เป็นพัก ๆ ชนะเป็นพัก ๆ มันก็พอใจของมัน เสียใจของมัน ดีใจของมันไปอย่างงั้นล่ะ จนกระทั่งถึงก้าวเข้าถึงขั้นแพ้ไม่ได้แล้ว ทีนี้แพ้ไม่ได้จริง ๆ พอถึงขั้นแพ้ไม่ได้ มันรู้ในกำลังของตัวเองกับกิเลส กำลังของธรรมกับกำลังของกิเลสเหนือกันอยู่มาก ๆ ทีนี้แพ้ไม่ได้เลย ฟัดกันใหญ่ ๆ จนกระทั่งมันขาดสะบั้นลงไปจากใจ หมด คำว่าแพ้ว่าชนะหมด เพราะมันชนะไปแล้ว นั่น จากนั้นก็ได้มานำพี่น้องทั้งหลาย นิสัยลวดลายอันดั้งเดิมที่ฝังในนิสัยมันหากมีของมันอยู่นั้นแหละ ถึงจะเป็นกองหม้อใหญ่ยกมากก็ตาม มันก็ยังมีลวดลายความเด็ดของมันแทรกอยู่นั้นจนได้ ตามนิสัยนั้นแหละ
นี่ก็ได้พยายามพาพี่น้องทั้งหลายก้าวเดินมาตั้งแต่ต้น ก็รู้สึกว่าสมมักสมหมาย เรื่อยมา ไม่เคยผิดพลาด ที่เราคิดไว้ยังไง ๆ ผิดพลาดไปไม่เคยปรากฏ เพราะก่อนที่จะแสดงอะไรออกมานี้ต้องคิดเสียก่อน พินิจพิจารณาอยู่ภายใน ๆ เรียบร้อยแล้ว ควรจะออกมากออกน้อยจะออกตามพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ทีนี้พุ่งเลย ถ้าออกเต็มสัดเต็มส่วนเป็นธรรมทั้งแท่ง แน่นอนแล้วผางเลยทันที อะไรมาขวางไม่ได้ เป็นอย่างนั้นมา นี่เราก็นับว่าได้บุกเบิกมาจนกระทั่งป่านนี้
ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันใครไปหาได้ที่ไหน เมืองไหนไม่เคยมีที่จะเอามายกทองคำให้เราแม้แต่กิโลหนึ่งไม่เคยมี นี่ก็เป็นน้ำพักน้ำแรง ความอุตส่าห์พยายาม จากความรักชาติของพี่น้องทั้งหลายรวมตัวกันเข้าแล้วทองคำนี่กำลังจะถึง ๑๐ ตัน ฟังซิน่ะ นี่เป็นกำลังของใครถ้าไม่ใช่ของพี่น้องชาวไทยเรา ซึ่งมีความรักชาติ มีความสามัคคีปรองดอง มีความเสียสละ และเดินตามร่องรอยของธรรมที่ครูบาอาจารย์พาดำเนิน ก็ราบรื่นมาโดยลำดับ ๆ นี่จะถึงฝั่งแห่งความดิบพอดีของชาติไทยเราล่ะ คือฝั่งนี้คือ ๑๐ ตัน ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ดอลลาร์อย่างน้อย ๑๐ ล้าน นี้พอ
หลวงตาได้พิจารณาหมดแล้วถึงขั้นนี้แล้วพอ ตามฐานะของเราที่ไม่ใช่เมืองเศรษฐี เราได้ขนาดนี้หาไม่ได้แล้ว ว่างั้นเลย จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ภูมิใจในการบริจาคของตนมากน้อยด้วยความรักชาติ จะได้เป็นกำลังต่อนิสัย-ปัจจัยของเราที่เคยหนุนอย่างนี้ตลอดไปนะ บุญกุศล มหามงคล จะเกิดขึ้นที่เราผู้บริจาคนี้ทั่วหน้ากัน วันนี้พูดเพียงเท่านี้ล่ะนะ ทีนี้จะให้พรนะ
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตา ตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th |