|
/body onLoad="MM_preloadImages('../images/link_2_6_a.gif')">
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
ฝ่ายปฏิบัติเทศน์สะดวก |
|
วันที่ 1 สิงหาคม 2545 เวลา 7:45 น. ความยาว 17.4 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด |
| | |
ค้นหา :
ฝ่ายปฏิบัติเทศน์สะดวก
วันนี้ตอนบ่ายโมงท่านเจ้าคุณธรรมบัณฑิต วัดโพธิฯ เดี๋ยวนี้ท่านเลื่อนขึ้นเป็นรองสมเด็จแล้ว เป็นเจ้าคุณอะไรไม่รู้นะ จะพาคณะบรรดาลูกศิษย์ลูกหาฝ่ายปริยัติมาวันนี้ เราก็จัดที่ต้อนรับที่ศาลาใหญ่เลย พระเณรจะมามากอยู่นะ จะไม่ด้อยกว่าวันที่ ๒๗ ที่พระกรรมฐานมานะ อันนี้เป็นฝ่ายปริยัติ ประชาชนก็คิดว่าจะมากเหมือนกัน เพราะทุกปีก็มามากเต็มไปหมดในป่า ใต้ถุนศาลานี้พระแน่นหมด ประชาชนจะอยู่ในป่า ทีนี้เลยจัดใหม่ให้ออกไปข้างนอกให้อยู่ที่ศาลา เมื่อเวลาไม่พอก็ให้แตกกระจายออกไปตามทุ่งนาดีกว่าจะไปหลบซ่อนอยู่ในป่า เพราะคนมากเหมือนกัน นี่ฝ่ายปริยัติ เป็นพระมาก็ไม่พ้นที่จะเทศน์แถวแนวของพระของการปฏิบัติของพระ จะไปอย่างนั้นนะ ถ้าฆราวาสเทศน์ไปแบบหนึ่ง ถ้าเทศน์สอนพระ พระมีแนวทางเดินยังไง ๆ ต้องก้าวอย่าให้ผิดทาง ทางที่ผิดอะไร ๆ บ้างก็บอกไป
อย่างที่เทศน์วัดภูริทัตตะ ปทุมธานีนั้นก็ แทนที่จะเทศน์คนจำนวนมากไม่นะ ตัดปุ๊บขึ้นพระเลย เพราะพระจำนวน โหย น่าเป็นพันกระมัง อันนี้เราเห็นความมุ่งหมายของท่านที่ไปที่นั่น มุ่งหน้าจะไปฟังเทศน์เรา ส่วนประชาชนเขาก็ฟังกันอยู่เรื่อย ๆ ส่วนพระนี้นาน ๆ จะได้มาทีหนึ่งมาฟัง ท่านไปที่ปทุมธานีมากมาย เราพอตั้งปุ๊บก็ขึ้นเอนไปทางพระเลย อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๖๐% นะ แล้วค่อยเอียงไปทางประชาชน จากนั้นไปแล้วก็เทศน์เกี่ยวกับประชาชนทั่ว ๆ ไป เป็นธรรมะภาคทั่วไป วันนั้นแยกเป็นสองภาค
เราพูดจริง ๆ เราอยากให้มีผู้ปฏิบัติให้เห็นผลจากการปฏิบัติของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่ยืนยันเรื่องมรรคผลนิพพาน ให้ได้ปฏิบัติให้ได้รู้ธรรมเหล่านี้เป็นขั้น ๆ ไป เราพูดจริง ๆ นะมันเป็นอยู่ในใจ จะว่าหาญมันก็เลยหาญ ว่ากล้าก็เลยกล้า เพราะความจริงปั๊บเท่านี้ไม่ต้องหาใครมาเป็นพยาน ผางนี้ออกเลย นี่เราอยากได้เห็นผู้ปฏิบัติตามอรรถธรรมตั้งแต่พื้น ๆ ขึ้นไป พวกประชาชนก็มีผู้รักใคร่ใฝ่ธรรม ยินดีในทานในศีล ภาวนา ตามขั้นตามภูมิของตน เอาละที่นี่ผู้ปฏิบัติธรรมที่มุ่งหน้าต่อการปฏิบัติโดยถ่ายเดียว ฟังแต่ว่าโดยถ่ายเดียว ไม่ต้องเอางานการของฆราวาสญาติโยม ของโลกของสงสารมายุ่ง เพราะงานก่อนั้นสร้างนี้เป็นเรื่องของโลกเรื่องของกิเลส ไม่ใช่เรื่องของพระ ไม่ใช่เรื่องของธรรม ให้มีแต่ผู้ปฏิบัติอย่างนี้
ออกมาจากป่าโน้น เขาลูกนี้ เพราะนั้นละเป็นที่จะตักตวงเอาอรรถเอาธรรมให้ประจักษ์กับใจ ออกมาประกาศให้โลกเห็น เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าที่เสด็จออกมาจากป่ามาสอนโลก ทีนี้คณะนั้น องค์นั้น ๆ ออกมาจากป่านั้น เขาลูกนั้น ที่นั่นที่นี่ ล้วนแล้วตั้งแต่บำเพ็ญเต็มหัวใจ ๆ มาตามขั้นภูมิของตัวเองที่ปฏิบัติได้นะ การปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่ท่านทรงแสดงไว้แล้วว่า สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้วนี้ คือทางนี้แน่วเลยนะ แต่พวกปฏิบัตินี่มันเขว ๆ ออกนอกลู่นอกทาง แล้วก็เอาความนอกลู่นอกทางซึ่งเป็นเรื่องของกิเลสมาโจมตีธรรม ว่าปฏิบัติไม่มีมรรคมีผล ไม่มีบาปมีบุญ ไม่มีมรรคผลนิพพาน มันเอาขวากหนามเอาถังขยะอยู่นอกสายทางที่เพื่อมรรคผลนิพพานออกมาโจมตีธรรม
ใครก็เป็นอย่างนั้นชาวพุทธเรา พวกอื่น ๆ เขาไม่ค่อยพูด พวกชาวพุทธเรานี่มันเป็นชาวผีโจมตีพุทธเสียเอง ตัวไม่ปฏิบัติแล้วไปให้คะแนนไปตัดคะแนนพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสดาองค์เอกแล้วปฏิบัติมาถึงขั้นสลบไสล มันฟังได้ไหมพิจารณาซิ คนหนึ่งเอาแทบล้มแทบตาย ผลจึงประจักษ์เต็มพระทัยขององค์ศาสดามาประกาศธรรมสอนโลก เต็มด้วยมรรคด้วยผล มรรคผลนิพพานสมบูรณ์แบบ
พุทธศาสนาคือตลาดแห่งมรรคผลนิพพานร้อยเปอร์เซ็นต์ เสมอต้นเสมอปลายตลอดมา ขอให้มีผู้ปฏิบัติไปตามเถอะน่ะ ดีไม่ดีพระพุทธเจ้านิพพานแล้วจะมาประกาศองค์ให้เห็น เอ้า ปฏิบัติตามธรรมที่ตถาคตสอนไว้ ถ้าผิดแล้วให้มาตีหน้าผากตถาคตเลย ถึงขนาดนั้นนะ ความท้าทายแห่งความจริงของพระพุทธเจ้าที่ทรงประจักษ์ในพระทัยมาสอนโลก ทีนี้มันไม่มีผู้ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติก็มีแต่ความขี้เกียจขี้คร้าน ก็ทับถมโจมตีไปด้วยความขี้เกียจของตนว่าปฏิบัติไปก็ไม่ได้ ดีไม่ดีทำบุญไม่ได้บุญไปอีกนะ แล้วทำบาปไม่ได้บาป แล้วก็หมุนใส่บาปเข้าอีกจมลงไปอีก ทำบุญไม่ได้บุญไม่สนใจที่จะทำบุญทำกุศลที่จะขึ้นสู่มรรคผลนิพพาน ต่อจากนั้นมรรคผลนิพพานไม่มี มีแต่โจมตีธรรมของศาสดาองค์เอก
นี่พวกที่ออกอยู่ตามส้วมตามถาน นอกทางของศาสดาที่สอนไว้เพื่อมรรคผลนิพพาน มันอยู่ข้าง ๆ แล้วมันเข้ามาโจมตีศาสนา ทางเดินของพระพุทธเจ้าที่สอนโลกให้พ้นทุกข์ๆ มันเป็นอย่างนั้นนะ ทีนี้ไม่ปฏิบัติก็จะได้เห็นอะไร เช่นอย่างทางไปนี้ไปเมืองอุดรฯ ไม่มีใครไปมันก็ไม่ถึง ใครไม่ไปก็ไม่ถึงอุดรฯ ถ้าไปตามทางอุดรฯมันจะไปไหน ทางปลีกทางแวะท่านก็บอกไว้หมดแล้ว กรุยหมายป้ายทางเขาเขียนไว้ เรียกว่าเป็นป้ายด้วยความปลอดภัยถึงจุดหมายปลายทาง เขียนป้ายไว้สองข้างทางๆ แยกนั้นไปนั้นๆ ทำลูกศรแยกไว้ ไปอันนั้นไปตรงนั้น ลูกศรตรงแน่ว นี่คือสายทางที่จะไปสู่จุดหมายปลายทาง ถ้าเราเดินตามทางที่เขาติดไว้สองฟากทางนั่นแล้วจะถึงจุดที่หมาย ธรรมของพระพุทธเจ้าก็ฉันนั้นเหมือนกัน ทางโล่ง บอกทางปลีกทางแวะ อย่าออกทางนั้นอย่าออกทางนี้ ถ้าจะไปสวรรค์ปฏิบัติแบบนั้น ๆ ไปนิพพานก็มีแบบนั้น ๆ ถึงไม่มีลูกศรมันก็เป็นเครือเกี่ยวโยงกันไปอย่างนี้ พุ่งต่อมรรคผลนิพพานเป็นทางหลวงใหญ่ตรง
เราอยากเห็นผู้ปฏิบัติ มีแต่ผู้มาเหยียบย่ำทำลายพระพุทธเจ้านะ มากยิ่งกว่าที่จะส่งเสริมพระพุทธเจ้า ยอมรับบาปรับกรรมทั้งหลายตามทางของศาสดา แล้วมันมาลบบาปลบกรรม ลบอะไรทั้งหลายที่เป็นมงคลเสียหมด เอาตั้งแต่มูตรแต่คูถโปะหัวมัน แล้วไปที่ไหนมันก็มีแต่ความเดือดร้อน ความเดือดร้อนมันก็ไม่ตำหนิกิเลสว่าตัวหากหลงไปตามกิเลสมันก็ต้องจมล่ะซิ มันต้องเดือดร้อนซิ มันไม่ไปโทษนะ มันกลับมาโทษธรรมอีกแหละ กิเลสมันหาแต่เรื่องโจมตีธรรม
เอ้าทีนี้สรุปเข้ามา เราอยากเห็นผู้ปฏิบัติ นี่ที่ว่าพระออกมาจากที่ต่าง ๆ เราเทศน์สอนโลกเราก็เทศน์พอแล้ว เข้า ๕ ปีแล้วนะ ตั้งแต่ก่อนจะเทศน์มาตั้งแต่ พูดให้มันเต็มยศ ๒๔๙๓ เริ่มพระเณรเข้าเกาะ หลบหลีกเข้าในป่าในเขาที่ไหนก็ติดตามจนกระทั่งได้เกาะกันมาติดมา แล้วก็มาเอาโยมแม่บวช ก็เหมือนวัวนั่นแหละ ผูกแม่ไว้แล้วลูกไม่ต้องผูกมันก็ติดอยู่นั้นเอง ลูกกับแม่ เอาแม่มาบวชมันก็พัน ทีนี้ก็ตั้งแต่นั้นมา เริ่มเทศน์มาตั้งแต่ ๒๔๙๓ หมู่เพื่อนติดตามตลอด ตั้งแต่กำลังเร่งความเพียร หมู่เพื่อนก็ติดตาม สลัด ๆ ๆ ไม่ยอมให้ใครติดตาม ไปคนเดียว ๆ พุ่ง ๆ ตลอดเวลา ท่านทั้งหลายฟังซิ นี่ละการปฏิบัติของเราเอาเป็นเอาตายจริง ๆ มาสอนโลกจึงสอนด้วยความอาจหาญชาญชัย สอนอย่างไม่สะทกสะท้าน
เมื่อก้าวเดินตามธรรมแล้วก็เห็นตามนั้น ๆ สงสัยที่ไหน ป้ายบอกไว้หมด เอ้าแยกไปที่ไหนมันก็เห็น ทีนี้เวลามีการเทศนาว่าการเกี่ยวกับพระนี่ เราอยากให้พระมามาก ๆ ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติเป็นพื้น ๆ พระเรา แล้วเริ่มต้นตั้งแต่ประชาชนญาติโยมขึ้นไปมันจะเป็นเครื่องดึงดูดจิตใจอันนี้ ธรรมะอันนี้ออก ไม่ต้องบอกนะ เป็นขั้น ๆ ผู้นี้ปฏิบัติอยู่ในขั้นสมถะ ขั้นนี้ขั้นสมาธิ ขั้นนี้ขั้นวิปัสสนา วิปัสสนาเป็นชั้น ๆ ๆ จนกระทั่งถึงวิมุตติหลุดพ้น ให้มีเป็นขั้น ๆ ในหัวใจของพระมา คราวนี้จะออกเองพูดจริง ๆ นะ ก็มันรอจะออกอยู่แล้ว แล้วธรรมะนี้มันจะไหลไปเลยทีเดียว ไม่คุยนะ
ท่านทั้งหลายให้ดูหน้าหลวงตาเสีย หลวงตามาโกหกท่านทั้งหลายเหรอ มันไม่ไปไหนมันก็มองไปเห็น กางแหไปนี้ มองลงไปนี้ อันนี้ก็ขี้หมูอันนี้ก็ขี้หมาแล้วมันจะทอดแหลงไปได้ยังไง กางไปก็เหนื่อยแขนเปล่า ๆ ก็ทิ้งแหแล้วนอนสบายเสีย ช่างโคตรมันเถอะว่าอย่างนั้น ถ้าลงตรงนี้ปลานั้นตรงนั้นปลานั้น ดีดน้ำขึ้นมาเป็นเหมือนจรเข้นี้ผึงเลย แหที่กางไว้แล้วพันกันเลยๆ ธรรมนี่เหมือนกับแหกางเอาไว้ ที่ว่าปลานั้นหมายถึงผู้ปฏิบัติทั้งหลาย เป็นชั้น ๆ มาแล้วอันนี้จะวิ่งถึงกันออกกันผึง ๆ เปิดโล่ง ๆ มรรคผลนิพพานมีหรือไม่มีๆ ประกาศไปในตัวเลย พระพุทธเจ้าสอนมาอย่างนี้ นี่ปฏิบัติมาอย่างนี้ เห็นอย่างนี้รู้อย่างนี้ ออกรับกันปึ๋ง ๆ เลย
นี่ธรรมพระพุทธเจ้าอัดอั้นตันใจที่ไหน ครอบโลกธาตุนั่น เมื่อไม่มีก็เหมือนน้ำเต็มถัง สะอาดสุดยอดแล้วน้ำเหล่านั้นไม่สมควรที่จะชะล้างสิ่งสกปรกที่ไม่เหมาะสมกันกับน้ำ น้ำก็ต้องเก็บไว้อย่างนั้น เมื่อถึงกาลอันควรน้ำกับสิ่งที่จะชะล้างกันมันจะออกหากันทันทีๆ ดีไม่ดีคว่ำถังเลย อันนี้ก็เหมือนกัน ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่คว่ำพระไตรปิฎกเลย ออกมาสงเคราะห์สัตว์โลก ไหลเข้าสู่หัวใจสัตว์โลก สัตว์โลกมองเห็นบุญเห็นบาปเห็นอรรถเห็นธรรมตามทางศาสดาแล้วก็ยิ่งมีกำลังใจซิคนเรา เมื่อมองไปไหนก็มีแต่ความมืดความบอด ฟังอะไรก็มีแต่เรื่องฟืนเรื่องไฟมาเผาไหม้กัน ไม่ได้มีความรื่นเริงบันเทิงที่เกิดจากกิเลสตัวที่โลกเป็นบ้ากับมันนั้นแม้นิดหนึ่งเลย เกิดจากธรรมแต่ไม่สนใจกับธรรม ธรรมก็ไม่มีซี
เอ้าทีนี้สรุปลงไป ผู้ครองอรรถครองธรรมผู้มีความสงบเย็น เวลานี้อยู่ในแดนพุทธศาสนาของเรา ขอชี้เลยว่าอยู่ในวงปฏิบัติ ท่านอยู่ในป่าในเขาตรงไหนเงียบ ๆ นั่นละท่านครองอรรถครองธรรม ท่านปฏิบัติรักษาใจตัวดีดตัวดิ้นตามอำนาจของกิเลสไสไป ๆ ท่านตีต้อนๆ ท่านสงบร่มเย็น อยู่ในป่าในเขาเงียบ ๆ เหมือนผ้าขี้ริ้วแต่เป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองของผู้ปฏิบัติเพื่ออรรถเพื่อธรรม มีอยู่ทุกแห่งในวงปฏิบัติ เฉพาะอย่างยิ่งสายหลวงปู่มั่นเรา นี้ละผู้ตักตวงมรรคผลนิพพานท่านเงียบ ๆ นะ นู่นเวลาไปถึงครูบาอาจารย์ออกมาถึงรู้ องค์นั้นปฏิบัติอย่างนั้น ๆ องค์นั้นเป็นอย่างนั้นๆ นี่เป็นผลออกมาแล้ว ทางนี้ก็ออกรับกันปุ๊บ ๆ ๆ พอจบนั้นก็เงียบ ออกไปหาประชาชนญาติโยมก็หลับหูหลับตาไปเสีย เขาบอดเราก็บอด เขาหนวกเราก็หนวกเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ พอถึงที่จะเปิดเปิดออกเลย
นี่ละธรรมของพระพุทธเจ้าคงเส้นคงวาหนาแน่น เปิดอ้าอยู่ตลอด ท้าทาย ว่าธรรมนี้ผิดหรือถูกปฏิบัติไปซิ ถ้าตถาคตซึ่งปรารถนามาตั้งกี่อสงไขยผิดไปแล้วให้เอาพระพุทธเจ้าทั้งหลายมาฆ่าจมลงทะเลให้หมดเสีย แต่นี้องค์ไหนก็แบบเดียวกันหมด รู้อย่างเดียวกันเห็นอย่างเดียวกัน จ้ากันไปหมดแล้วจะเอาองค์ไหนมาลงทะเล นอกจากเอาพวกเราที่หูหนวกตาบอดนี้ลงให้หมด หมูหมาเป็ดไก่มันเลี้ยงไว้ที่บ้านที่เรือนเอาลงจมทะเล มันโง่เหมือนเจ้าของมัน เอาลงทะเลให้หมด เหาอยู่บนหัวเอาลงไป ให้มันไปด้วยกันกับผมเจ้าของ เท่านั้นเองถึงจะเหมาะ
ที่จะเอาพระพุทธเจ้ามาลงทะเลหลวง ว่า สอนไม่ถูกต้องตามอรรถธรรมนี้ไม่มี เราตัวเท่าหนูนี้รับปุ๊บหมดเลยทีเดียวนะยอมกราบพระพุทธเจ้า กี่พระองค์ตรัสรู้มานี้ พอจ้าขึ้นไปนี้มันเป็นทะเลหลวงไปหมดเลย พระพุทธเจ้าองค์ไหนๆ เหมือนเราดูน้ำในมหาสมุทร มือจ่อลงไปปั๊บนี่มันกระเทือนถึงมหาสมุทรทั้งหมดเลย จ่อลงไปก็หมายถึงว่าตรัสรู้ธรรมปึ๋งเท่านี้ กระเทือนพระพุทธเจ้าทั้งหลายซึ่งเป็นเหมือนกับน้ำมหาสมุทร แล้วจะไปถามพระพุทธเจ้าหาอะไร มือเราจ่อลงไปมหาสมุทรถามหามหาสมุทรทำไม ก็แบบเดียวกันนั่นแหละ
นี่ละธรรมพระพุทธเจ้าสด ๆ ร้อนอยู่อย่างนี้ มันหูหนวกตาบอดพวกเรา มันจะพากันจมด้วยอำนาจของกิเลส มันไม่ยอมเข็ดยอมหลาบนะไอ้เรื่องกิเลสทรมานคนนี่ ธรรมะดึงขึ้นเท่าไรมันก็ไม่ยอมฟังเสียง แล้วจมไปๆ ดีไม่ดีเก่งกว่าศาสดาเสียอีก มาขัดขวางศาสดา มาตัดทอนศาสดา มาตัดคะแนน ที่ให้คะแนนไม่ค่อยมีนะกิเลส มีแต่ตัดคะแนนๆ เหยียบจมลงไปเท่านั้น ธรรมท่านเป็นของบริสุทธิ์สุดส่วน คำว่า สวากขาตธรรม แปลว่าอะไร แปลว่าตรัสไว้ชอบแล้ว ทุกแง่ทุกมุมไม่ว่าธรรมขั้นใดภูมิใด ตลอดถึงนรกอเวจีขึ้นมาถึงแดนนิพพาน ไม่มีบกพร่องเลยในธรรมพระพุทธเจ้า ทรงรู้ทรงเห็นหมด สอนตามนั้นเลย เป็นขนาดนั้น แล้วจะไม่เรียกว่าสวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบได้ยังไง ไม่มีผิดมีพลาด
พากันตั้งใจประพฤติปฏิบัตินะ นี่พระท่านมานี้มาทางฝ่ายปริยัติก็จะเทศน์สอนธรรมดา ทางฝ่ายปฏิบัติเราอยากพบอยากเห็นฝ่ายปฏิบัติ ปฏิบัติมามีอรรถมีธรรมเข้ามาการเทศน์สะดวก คือเทศน์ตามหลักความจริงพุ่ง ๆ เลย เทศน์ทั่ว ๆ ไปสะเปะสะปะเป็นอย่างหนึ่งนะ ตีทางนี้บ้างตีทางนั้นบ้าง ครั้นตีแรงไปจะถูกหัวเด็ก ตีแรงไปอีกจะถูกหัวคนแก่ ทีนี้ตัวมหาโจรมันแอบอยู่หัวเด็กมันก็ตีไม่ถูกมันล่ะซิ มันก็สนุกพองตัว ถ้าตีผู้ที่ต้องการอรรถธรรมอย่างจริงจังแล้วใส่ผาง ๆ กิเลสตัวไหนพังเลย ๆ ต่างกันนะ
นี่เราก็เทศน์สอนโลกมากำลังจะถึง ๕ ปี แกงหม้อใหญ่สอนมากที่สุด แกงหม้อเล็กคือสอนพระเจ้าพระสงฆ์มีจำนวนน้อย ตามสถานที่มีพระตั้งใจปฏิบัติ ธรรมะเหล่านี้จะออกเอง ๆ ถ้ามีแต่พระปฏิบัติล้วน ๆ นี่พุ่งเลยทีเดียว นี่มีหรือไม่มีธรรมอยากว่าอย่างนั้นนะ พากันจำเอานะ
สรุปทองคำเมื่อวานนี้ได้ ๑ บาท ๔๖ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๕ ดอลล์ วันนี้ตั้งเค้าแล้ว ๕ บาทแล้วนี่นะ ขึ้น ๕ บาท ๖ บาทแล้วนะ เข้าใจเหรอ ๕ -๖ บาท พวกนี้มันไม่มีวาสนาไม่ได้ยินนิทาน ๕-๖ บาท ได้ยินไหมพวกแถวศาลา เราจะเล่านิทาน แม้แต่ผู้ว่าฯ ก็ไม่ได้ยิน อย่าว่าแต่พวกลูก ๆ หลาน ๆ เลย ผู้ว่าฯก็ไม่ได้ยิน นิทานอันนี้นะ นิทานนี้ขบขันดี ฟังนะ เอ้าเริ่ม นี่ บ้านหนองกะปาด บ้านทุกวันนี้ก็ยังอยู่นั้นนะ เรียกว่านิทานสด บ้านหนองกะปาด เขาเลี้ยงวัวฝูงไว้เต็ม ทีนี้พวกพ่อค้าเขาก็ไปซื้อวัว บ้านของภาคอีสานส่วนมากมันสูง พวกวัวพวกควายอยู่ใต้ถุน ข้างบนคนอยู่ ไม่เหมือนทุกวันนี้ ทีนี้เลี้ยงวัวฝูงไว้เต็ม พวกพ่อค้าเขาก็มาซื้อวัวฝูงละซิ เขามาต่อรองกัน
ทางเจ้าของบ้านจะเอา ๔ บาท ทางผู้ต่อเขาให้ ๓ บาท ตัวหนึ่ง ๆ ให้ ๓ บาท ตัวขนาดไหนเขาก็ให้ตามนั้น พ่อค้าเขาให้ตัวหนึ่ง ๓ บาท ทีนี้เจ้าของวัวก็จะเอา ๔ บาท ๆ นั่ง ๆ แบบนี้ ให้ดูตัวอย่างนะ นั่งแบบนี้แล้วปล่อยหำด้วย นั่งอยู่บนชาน ชานนี้เข้าในบ้านในเรือน พอเมียขึ้นมาแล้วทางนี้ก็ซัดกันอยู่ คนนั้นจะให้ ๓ บาท คนนี้จะเอา ๔ บาท เมียมันขึ้นมาละซิที่นี่ พอขึ้นมาเห็นหำผัว อายชาวบ้านเขาเลยขยิบตาใส่ผัว ผัวยังไม่รู้ตัวยัง ๔ บาท ๆ อยู่ ผัวพอเห็นเมียขยิบตาใส่ นึกว่าเมียให้ขึ้นราคา พอเมียขยิบตาแล้วเมียก็เข้าในเรือน ทางนี้ก็ว่า ๔ บาททีแรกนะ พอเห็นเมียขยิบตาก็ ๕ บาท ๆ ขึ้นเลย ๕ บาท ๆ
โอ๊ย.มันพูดยังไงตั้งแต่ ๔ บาท ก็ยังลงกันไม่ได้ มันยังไงกันนี่ มาขึ้น ๕ บาท ๖ บาทยังไง ไปละพวกเรา เขาก็เลยลงไป พอเขาลงไปแล้วเมียก็ออกมา ที่เขาให้ ๓ บาทมันก็ควรขายแล้วทำไมไม่ขายให้เขาเสีย ก็แกขยิบตาใส่ฉันก็นึกว่าให้ขึ้นราคา ฉันก็ขึ้นราคาละซิ ขยิบตาซิก็ปล่อยหำให้เขาเห็น มันอายเขา โอ๊ย.เสียดาย ๆ เขาไปแล้ว ตกลง ๕ บาทก็ไม่ได้ ๖ บาทก็ไม่ได้ เอาละจบแล้ว นี่ได้ทองมานี้ ๕ บาท ๖ บาท เท่านิทานแล้วนะ เอาละพอ
อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ทางอินเตอร์เน็ต www.luangta.com |
** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก
ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์
และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์
|
|
|
|