นกกระจาบ
วันที่ 28 กันยายน 2546 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม

เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๖ [เช้า]

นกกระจาบ

 

         คราวนี้เราเอาจริงเอาจัง ประกาศให้กิตติศัพท์กิตติคุณของชาติไทยเรา เรียกว่าเด่นดวงในคราวนี้นะ คราวนี้มีทั้งชาติ ทั้งศาสนา บวกเข้ากันอุ้มชาติไทยของเรา คำว่าชาตินี่ก็หมายถึงว่าทางรัฐบาลท่าน ทางศาสนาก็คือพุทธศาสนาเราเป็นชาวพุทธทุกคน ที่นำออกก็คือหลวงตาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย ทางบ้านเมืองก็มีนายกฯเป็นผู้ใหญ่นำชาติของเรา ทั้งด้านวัตถุและศีลธรรม และทางนี้ก็ทั้งด้านวัตถุและศีลธรรมไปด้วยกัน นำชาติไทยของเรา

         คราวนี้ต้องเอาให้เด่นดวงทีเดียว กฐินคราวนี้เป็นกฐินที่ว่าหนัก ก็ยังไม่หนักเท่าชาติไทยของเราซึ่งมีน้ำหนักมากกว่ากฐินนี้อีก เพราะฉะนั้นจึงยกกฐินขึ้นให้พอ ๆ กัน แล้วจะยกชาติไทยของเราขึ้นให้เด่นดวงนะ เอาให้จริงจังคราวนี้นะ หลวงตาได้สละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพี่น้องทั้งหลายตลอดมาเป็นเวลา ๕ ปีกว่าแล้ว นี่เรียกว่าสละจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น ๆ เราเอาจริงเอาจังทุกอย่าง ไม่ว่าอะไรจริงทั้งหมดถ้าลงได้ตัดสินใจลงด้วยเหตุผลเรียบร้อยแล้ว อะไรมาผ่านไม่ได้เลยขาดสะบั้นไปเลย ถ้าสิ่งเหล่านั้นไม่ขาดคอเราก็ขาด เพราะเหตุผลพร้อมแล้วที่จะให้ขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือขาดทั้งสองฝ่าย นั่นละคือจริงจังมากทีเดียว

ชาติไทยของเราไม่ใช่ชาติที่เป็นชาติสัตว์เดรัจฉานนี่นะ ชาติไทยเป็นมนุษย์ทั้งคน ๖๒ ล้านคน เป็นมนุษย์ด้วยกัน เป็นมนุษย์ชาติไทย เพราะฉะนั้นจึงต่างคนต่างอุ้มชูชาติไทยของเราด้วยความรักชาติ ด้วยความเสียสละ ด้วยความพร้อมเพรียงกันทุกผู้ทุกคน เอาให้เด่นดวงในคราวนี้นะทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ได้กำหนดไว้แล้วเวลานี้ก็คือทองคำในการช่วยชาติคราวนี้ให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วดอลลาร์ก็ให้ได้ไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้าน นี้เป็นจุดมุ่งหมายที่หลวงตาเองเป็นผู้พิจารณาเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง เห็นว่าเหมาะสมกับศักดิ์ศรีดีงามกำลังวังชาของชาติไทยเรา ขนาดนี้พอยกกันได้แหละ เราจึงได้ประกาศออกมา

         การประกาศนี้ได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว หากว่าการประกาศนี้ได้ผิดพลาดไป หลวงตาบัวต้องจมลงทะเลเลย อย่าเหลือให้พี่น้องทั้งหลายได้มองเห็นหน้าอีกต่อไป เพราะพูดอะไรพูดด้วยการพิจารณาเห็นเป็นความเหมาะสมแล้ว กับกำลังวังชาแห่งชาติไทยของเรา กลับกลายเป็นชาติไทยของเรายกไม่ขึ้น น้ำหนักทองคำเพียง ๑๐ ตัน ทั้ง ๆ ที่ชาติไทยของเราน้ำหนัก ๖๕ ล้านตัน เข้าใจไหมล่ะ แล้วยังยกไม่ขึ้น แล้วหลวงตาบัวให้ตายเสียก่อน อย่าให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นอีกต่อไป ผู้นำประเภทนี้เหลาะแหละ พูดอย่างหนึ่งเป็นอย่างหนึ่ง พิจารณาออกมาว่าดีว่าชอบแล้วกลับเป็นอย่างหนึ่งอย่างนี้ อย่าให้เหลือเลยนะ

         เอ้าเพื่อจะยกทั้งชาติไทยของเรา ยกทั้งหัวหน้าทั้งสองฝ่าย ทางการบ้านเมืองและศาสนาขึ้น ขอให้ยกขึ้นด้วยความรักชาติ ด้วยความเสียสละ ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยกันทุกคน มีมากมีน้อยเราไม่ได้เป็นเมืองเศรษฐี มีเท่าไรเอามาเถอะเพื่อชาติไทยของเรา เอามาเลย ฝนตกทีละหยดละหยาดไม่ได้มากนัก ตกไม่หยุดไม่ถอย เต็มไปตามท้องฟ้ามหาสมุทร ห้วย หนอง คลอง บึง เต็มไปหมด ด้วยฟ้าฝนที่ตกทีละหยดละหยาดแบบไม่หยุดไม่ถอยนั้นแหละ นี่พี่น้องทั้งหลายบริจาคเรื่อยมาเป็นเวลา ๕ ปีกว่าแล้ว

         วันนี้ก็เห็นกันอย่างชัดเจน หนาหน้าหนาตาเป็นที่ภูมิใจเป็นอย่างมาก ยกสมบัติขึ้น อุ้มชาติไทยของเราให้ขึ้น เอาให้เต็มเหนี่ยวนะคราวนี้ กำหนดกฐินแห่งชาติไทยของเราได้ตั้งขึ้นไว้แล้วว่าวันที่ ๑๑ ตุลาคม ตั้งแต่ ๗ โมงเช้าไปแหละในวัดป่าบ้านตาด พี่น้องทั้งหลายถ้าหากว่าท่านผู้ใดไม่มีโอกาสไป จะโอนเงินไปทางบัญชีซึ่งได้เปิดไว้เรียบร้อยแล้วก็ได้ จะไปบริจาคด้วยตนเองที่นู่นก็ได้ หรือบริจาคที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ เพื่อกฐินแห่งชาติไทยของเรา เอาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

         ขอให้ได้ยินชื่อเสียงประเทศไทยของเราดังขึ้นด้วยทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน หรือเลยนั้นไป ดอลลาร์มีจำนวน ๑๐ ล้าน หรือมากกว่านั้นไป อย่าให้ได้ยินคำว่าต่ำกว่านั้นนะ ถ้าต่ำกว่านั้นถือว่าต่ำสุดเลยเชียว หลวงตานี้หัวมุดดินไปเลยนะ เอาจำให้ดีนะคำนี้นะ หลวงตาได้อุตส่าห์พยายามช่วยพี่น้องทั้งหลายโดยไม่เสียดายชีวิตจิตใจเลยทุกอย่าง ช่วยจริง ๆ พิจารณาโดยอรรถโดยธรรมทุกอย่าง ๆ แล้วค่อยนำพี่น้องทั้งหลาย ไม่ได้นำออกแบบผลี ๆ ผลาม ๆ แบบความพอใจยังไงเอาตามความพอใจ ๆ เราไม่ให้เหนือธรรมของพระพุทธเจ้า พอใจขนาดไหนก็ตามถ้าธรรมขัดข้องแล้ว เราจะไม่ข้ามธรรม

         ถ้าว่าธรรมเอาละ ว่างั้น เป็นอันว่าเอาเลย นี่เราพาพี่น้องทั้งหลายดำเนินอย่างนี้ ๆ ตลอดมา ทุกอย่างๆ เราไม่ให้นอกเหนือไปจากอรรถจากธรรม เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่มากีดขวางชาติไทยของเราซึ่งมีน้ำหนักมากจึงกีดขวางไม่ได้เลย เอาขาดสะบั้นไปเลย สิ่งที่มากีดขวางนั้นคือมหาภัยต่อชาติไทยของเรา อย่าฟังเสียงมัน ให้ถือว่านั้นคือมหาภัยต่อชาติไทยของเรา เราผู้รักชาติ ผู้เสียสละเต็มเม็ดเต็มหน่วย เต็มกำลังความสามารถของเรา นี้เองเป็นผู้จะยกชาติไทยของเรา ตรงที่ข้าศึกเหล่านั้นจะมาทำลาย มาเผา มาจุดให้แหลกเหลวไปหมด อย่าฟังเสียงนะ ให้เอาจริงเอาจัง

         ฟังเสียงหัวหน้านี่สำคัญมาก ดังที่เคยพูดไว้แล้ว ในพระไตรปิฎกท่านก็มี  ก็ได้ยกมาพูดถึงสองสามครั้งแล้ว นกกระจาบ ฟังซิ นกกระจาบเป็นบริษัทบริวารของเทวทัต ๕๐๐ ตัว และเป็นบริษัทบริวารของโพธิสัตว์เราซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าปัจจุบันนี้เองก็ ๕๐๐ ตัวเหมือนกัน บริษัทบริวารของเทวทัตงอแงไม่ฟังเสียงหัวหน้า หัวหน้าบอกอย่างหนึ่ง บริษัทบริวารไปทำอย่างหนึ่ง พอดีไปกินข้าวในนาเขา พวกนกระจาบตั้ง ๕๐๐ ตัว ครั้นไปกินแล้วเขาเอาข่ายดักเอาละซี ติดข่ายเขา หัวหน้าบอกอย่างหนึ่งไปทำอย่างหนึ่ง หัวหน้าบอกอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง ตัวหนึ่งดิ้นไปทางหนึ่ง ตัวหนึ่งดิ้นไปทางหนึ่ง สุดท้ายตายหมดทั้ง ๕๐๐ ตัว นั่นละเป็นอย่างงั้น

         นี่ไม่มีความพร้อมเพรียงกัน โทษแห่งความไม่พร้อมเพรียงทำให้ชีวิตจิตใจของสัตว์จำนวนตั้ง ๕๐๐ ตัว ตายเกลี้ยงเลย นี่คือโทษแห่งความไม่ฟังเสียงหัวหน้า โทษแห่งความแตกร้าวสามัคคีกันทำให้ล่มจมได้ ในนกก็ทั้งฝูง ถ้าเป็นคนไทยเราก็ ๖๒ ล้านคนจะจมแบบนกกระจาบที่ว่านั้น อย่าให้มีเป็นอันขาด ขอให้เป็นแบบนกกระจาบของโพธิสัตว์ นกกระจาบของโพธิสัตว์นี่ฟังเสียงหัวหน้าทีเดียว หัวหน้าสั่งยังไงปฏิบัติตามนั้น ๆ แล้วหัวหน้าพาบริษัทบริวารไปกินข้าวในนาเขา ครั้นไปกินแล้วเขาเอาตาข่าย ครอบอีกเหมือนกัน

         พอเขาเอาตาข่ายครอบเท่านั้นแหละ หัวหน้าประกาศขึ้นมาว่าให้ตายคนละแบบ ๆ ฟังซิน่ะ อย่ากระดุกกระดิก ตัวไหนอยู่แบบไหนให้ตายแบบนั้น ตายตะแคง ตายหงาย ตายอะไรก็แล้วแต่ ให้ตายพร้อมกันในท่าต่าง ๆ นี่บอกอย่างงั้น เวลานายพรานเขามาแล้วให้ทำท่าตายให้หมด ว่างั้น พอสั่งแล้วก็เงียบ แล้วนายพรานเขาก็มา เพราะตาข่ายครอบแล้ว พอนายพรานมาดู เอ๊ นี่มันยังไงสัตว์เหล่านี้น่ะ ตะกี้นี้สด ๆ ร้อน ๆ พากันมากินข้าวในนาเขา พอข่ายครอบหัวทำไมจึงตาย ข่ายก็ไม่ได้หนักได้หนาอะไรนักหนา พอจะตีหัวนก หัวสัตว์เหล่านี้ตายเกลื่อนกันอยู่อย่างนี้ ทำไมเป็นอย่างนี้ จับตาข่ายเลิกขึ้นเลย เพราะเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว สัตว์เหล่านี้ตายแล้วไม่มีท่าต่อสู้ ไม่มีท่าจะหลบหลีกปลีกตัวหนีไปไหนเลย ก็ยกข่ายขึ้นเรียบร้อย

         พอยกข่ายขึ้นแล้วหัวหน้าคอยดูอยู่ โพธิสัตว์พอดูเห็นว่าปลอดภัยเรียบร้อย ก็เพี้ยบทีเดียวเท่านั้น หัวหน้าบอกไปได้เท่านั้น พรึบเลย นกทั้งหลายที่ตายอยู่ในท่าต่าง ๆ บินด้วยกันไปหมด ปลอดภัยด้วยกันทั้งหมด นี่จำเอานะพี่น้องทั้งหลาย นี่คือการฟังหัวหน้าพระโพธิสัตว์ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า จนได้เป็นพระพุทธเจ้าของเรามาทุกวันนี้ ทีนี้เรามาเป็นหัวหน้าพี่น้องทั้งหลายนี้ก็เป็นลูกศิษย์ตถาคต เราไม่มีคำที่ว่ามาคดโกงรีดไถด้วยเล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ กับพี่น้องทั้งหลาย แม้เม็ดหินเม็ดทรายเราไม่มี ขอให้ฟัง

         แล้วการที่มาแนะนำสั่งสอนพี่น้องทั้งหลายนี้ นำธรรมทั้งนั้น นำธรรมพระพุทธเจ้าที่สืบเนื่องมาจากพระโพธิสัตว์ นกกระจาบ ๕๐๐ ตัวนั้นแหละ มาเป็นพระพุทธเจ้าสั่งสอนโลกเป็นโลกวิทู รู้แจ้งจริงสำหรับโลก ขนสัตว์โลกให้พ้นจากทุกข์จากภัยเป็นลำดับลำดา มากยิ่งกว่านกกระจาบ ๕๐๐ ตัวเสียอีก สัตว์โลกจำนวนเท่าไรสามโลกธาตุ พระพุทธเจ้าเมื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้วมาประกาศธรรมสอนโลก ให้โลกทั้งหลายได้หลุดพ้นจากทุกข์เป็นจำนวนมาก  นี้เราเอาแค่นี้ก่อนนะ เราเป็นลูกชาวพุทธขอให้หลุดพ้นจากความทุกข์จนข้นแค้นที่กำลังเป็นเรื่อยมาอยู่เวลานี้ ให้ดีดให้ดิ้นขึ้นไปด้วยความรักชาติ ความสามัคคี ความเสียสละของเรา โดยฟังเสียงอรรถเสียงธรรม เสียงหัวหน้าแล้วเราจะแคล้วคลาดปลอดภัย ทั้งความสง่าราศีจะเต็มในประเทศไทยของเรา

         ทองคำที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมากน้อยนี้นั้น จะเป็นเครื่องประดับชาติของเราอย่างสง่างามทั่วโลกไปเลย อย่าว่าแต่เมืองไทยนะ ยังจะออกสง่างามทั่วโลกอีก ทั้งดอลลาร์ ทั้งทองคำ นอกจากนั้นเงินสดที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคนี้ หลวงตาได้แยกไปซื้อทองคำ แต่ไม่ได้มากก็ยอมรับว่าไม่ได้มาก ได้เอาไปซื้อทองคำได้เพียง ๒ ล้านกว่าบาท นี่ซื้อทองคำเข้าคลังหลวง นอกจากนั้นกระจายทั่วประเทศไทย โดยการสงเคราะห์สงหาคนทุกข์คนจนซึ่งมีหลายประเภท แล้วสร้างสถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียน ที่ราชการต่าง ๆ ตลอดถึงโรงพยาบาล นี่ทั่วประเทศไทย

         หลวงตาได้นำเงินพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคมานี้แล ได้นำไปทำประโยชน์ให้แก่ชาติไทยของเราได้รู้ทั่วถึงกันทั่วประเทศไทยนั่นแหละ กรุณาทราบตามนี้ ส่วนเงินที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคจะเข้ามาแบบงุบงิบ ๆ จะกินห้ากินสิบ แบบสกปรกรกรุงรัง กินตับกินปอดคนอย่างนั้น หลวงตาเปิดอกเลยบอกว่าแม้สตางค์หนึ่งขึ้นไปไม่มี เราไม่เคยมีจริง  ๆ เพราะอำนาจแห่งความเมตตา ความเสียสละ จากความสะเทือนใจที่เมืองไทยเราทั้งชาติจะล่มจมให้เห็นต่อหน้าต่อตา นี้มีกำลังมากเกินกว่าที่เราจะไปหาหยิบเอาเงินของพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคมาสตางค์หรือหนึ่งบาทไม่มี ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากัน

         นี่ก็คือหัวหน้าพี่น้องทั้งหลายมาโกหกได้เหรอ เป็นหัวหน้าแท้ ๆ มาโกหกท่านทั้งหลายได้หรือ พูดด้วยความบริสุทธิ์ใจของเราที่มีต่อพี่น้องทั้งหลาย ได้สละถึงขนาดนั้นเต็มที่เรื่อยมา จนกระทั่งถึงบัดนี้ จึงขอให้พากันมีความพร้อมเพรียงสามัคคี  รักชาติไทยของเรา รักใครก็ตามสู้รักชาติไทยของเราไม่ได้ นี่น้ำหนักหากเป็นธรรมชาติเอง รักลูกของตัวมันมีน้ำหนักมากกว่าลูกของคนอื่น รักผัวรักเมียของตัวมีน้ำหนักมากกว่ารักผัวรักเมียของคนอื่น ซึ่งเป็นภัย ๆ แทรกมาด้วย ๆ แต่การรักลูกตัวเอง รักผัวรักเมียตัวเองมีตั้งแต่คุณล้วน ๆ ฝากเป็นฝากตาย มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นอวัยวะอันหนึ่งอันเดียวต่อกัน เป็นความชุ่มเย็นตลอดวันตาย

         นี่การรักที่ถูกต้องดีงาม กับอรรถกับธรรมของพระพุทธเจ้า คือรักลูกของตัว รักผัวของตัว รักเมียของตัว อย่าไปหารักลูกคนอื่น รักผัวคนอื่น รักเมียคนอื่น ซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟจะมาเผาไหม้ตนเอง ให้จำเอานะ นี่ก็เป็นคำสอน นี่ก็รักชาติของเรา เป็นยังไง ชาติไหนที่จะมารับผิดชอบยิ่งกว่าชาติไทยเรารักชาติไทยเรา รับผิดชอบชาติตัวเอง จึงต้องได้อุดได้หนุน ได้อุ้มได้ชูกันขึ้น เมื่อได้เห็นว่าอาการจะมีการโยก ๆ คลอน ๆ ที่จะทำชาติล่มจมต้องยกขึ้น เพราะเราคนทั้งชาติเป็นผู้รักชาติไทยด้วย ชาติไทยนี้เป็นสมบัติของเราทุกคน ๆ ที่จะต้องรับผิดชอบด้วยกัน จึงต้องตั้งใจเสียสละ

         เอ้า มีบาทหนึ่งก็ตาม สองสตางค์ก็ตาม ห้าบาทก็ตาม ไม่ว่าเงินสด ทองคำ ดอลลาร์ เอาบริจาคมาของเล็ก ๆ น้อยๆ นั่นละบริจาคไม่หยุดไม่ถอย จะกองใหญ่ขึ้น ๆ ดีไม่ดีภูเขาสู้ไม่ได้นะ เพราะกำลังแห่งความบริจาคของเราเอง ให้พากันจำ เอานะ วันนี้พูดเพียงเท่านั้นละ เอาละต่อไปนี้จะให้ศีลให้พร

        

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาทุกวัน ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก