|
/body onLoad="MM_preloadImages('../images/link_2_6_a.gif')">
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
ระลึกถึงความตายมากเท่าไรยิ่งดี |
|
วันที่ 26 กรกฎาคม. 2545 เวลา 7:45 น. ความยาว 18.46 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด |
| | |
ค้นหา :
ระลึกถึงความตายมากเท่าไรยิ่งดี
วัดป่าภูสังโฆได้ทองคำมาถวายตั้ง ๕ กิโล ดอลลาร์ได้ ๘๙๕ ดอลล์ เงินไทย ๒ หมื่น อนุโมทนาทั่วหน้ากันให้กระเทือนทั่วประเทศไทยซี นี่สมบัติของประเทศไทย กำลังเร่งทองคำระยะนี้เร่งเรื่อยๆ เราจะให้เข้าถึงจุดที่ต้องการซึ่งได้ออกประกาศทั่วไปหมดแล้วในเมืองไทยของเรา ให้ได้ ๑๐ ตัน เวลานี้ออกแล้วน่ะ ๑๐ ตันนี้ออกสนามแล้ว ต้องให้ได้ ๑๐ ตัน ส่วนดอลลาร์เราไม่กำหนด แต่ยังไงดอลลาร์จะไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้าน เวลานี้ก็เข้าเจ็ดล้านแล้ว ส่วนทองคำจะเต็มอัตราที่เรากำหนดไว้ ๑๐ ตันนั้นแหละ ทองคำจะต้องได้ ๑๐ ตัน เพราะดอลลาร์จะต้องได้ถึง ๑๐ ล้าน แน่ คิดว่าแน่ เราพึ่งกลับมาวันที่ ๒๓ วันที่ ๓ นี้ก็จะต้องกลับไปกรุงเทพฯอีกนะ เขานิมนต์ทีแรกเราไม่รับ พอออกพรรษาเราก็วุ่น จนพอแล้วจะเป็นจะตายแล้ว เขามานิมนต์เราก็ไม่รับ เขาก็มีเหตุผลอ้างหลายอย่าง มันจำเป็นเราก็เลยต้องรับ ต้องกลับไปกรุงเทพฯอีก ๗ วัน ไปวันที่ ๓ วันที่ ๙ กลับ แน่ะ ๗ วัน ก็อย่างนั้นแหละ
พอไปถึงวันที่ ๓ วันที่ ๔ ก็เทศน์ วันที่ ๕ ก็เทศน์ แล้ววันที่ ๖ มีว่างอยู่ แล้ววันที่ ๗ เป็นวันงาน วันที่ ๘ ดูเหมือนว่าง ไปคราวนี้ว่าง ๒ วัน วันที่ ๙ ก็กลับอุดรฯ ที่เทศน์กรมประชาสัมพันธ์คราวนี้เขาจะถ่ายทอดสดออกทั่วประเทศไทย เวลาบ่าย ๒ โมง วันที่ ๗ ตอนบ่าย ๒ โมง เราจะเทศน์ที่กรมประชาสัมพันธ์ แล้วเขาจะถ่ายทอดสดออกทั่วประเทศไทย ที่ไปเทศน์วัดภูริทัตฯ ปทุมธานี เขาก็ออกถ่ายทอดสดเหมือนกัน วันที่ ๒๑ เวลาบ่าย ๔ โมง เขาก็ถ่ายทอดสด กรมประชาสัมพันธ์ถ่ายทอดสดเหมือนกัน เขาเริ่มประกาศทั่วหน้าแล้ว ทั้งกรมทหารเขาถ่ายทอดสด แต่บริเวณมันกว้างแค่ร้อยกิโลฯ สำหรับกรมทหารอยู่ในกรุงเทพฯน่ะ ส่วนปทุมธานีกับกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศเลย
ก็ดีนะ การที่พวกเราช่วยชาติบ้านเมืองคราวนี้รู้สึกว่า ศีลธรรมจะค่อยกระจายออกให้พี่น้องทั้งหลายซึ่งเป็นชาวพุทธเราได้ทราบบ้าง ฟังแต่ว่าบ้าง แต่ก่อนอยากจะพูดว่าจืดชืดเลย ศาสนาเลยมีแต่ในคัมภีร์อยู่ตามตู้ตามหีบ ตามวัดวาอาวาส มิหนำซ้ำตามบ้านตามเรือนของคน แต่ที่จะนำมาเป็นประโยชน์สมชื่อสมนามว่าชาวพุทธแทบจะไม่มีใครสนใจ สิ่งที่โลกสนใจมากก็คือส้วมคือถาน เรื่องกิเลสตัณหา ไปที่ไหนมองดูคนแทบไม่เห็นตัวคน อย่าว่าเราประมาทโลกนะ ธรรมต้องเป็นธรรม โลกต้องเป็นโลก สูงต้องบอกว่าสูง ต่ำต้องบอกว่าต่ำ นี้ธรรมท่านดูแล้วแทบจะมองไม่เห็นคน มีแต่กิเลสครอบหัวไปหมดทั้งคน กิริยาที่แสดงยิบแย็บ ๆ เป็นศีลธรรมที่จะลากเจ้าของขึ้นนี้แทบไม่มีนะ มีแต่กดลง ๆ ตลอดเวลา แล้วทุกวันยิ่งหนาแน่นขึ้นเรื่อย
นี่พอดีได้ออกมาช่วยชาติคราวนี้ธรรมะก็เริ่มออกไปตาม ๆ กัน ตั้งแต่เริ่มแรกเทศนาว่าการ ก็ค่อยกระจายออก ๆ เรื่อย ๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ ออก แล้วก็เป็นประโยชน์กว้างขวางพอประมาณ คือเทศน์ก็ออก วิทยุก็ออก พวกเทปก็เอาไปตามที่ต่าง ๆ ที่สำคัญก็คือ อินเตอร์เน็ต ออกทั่วโลกเลยเวลานี้ เทศน์ของเราคนเดียว ที่เทศน์ของเราคนเดียวพูดอย่างนี้น่ะ คนเดียวในนามเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายช่วยชาติบ้านเมืองคราวนี้ ช่วยทั้งชาติช่วยทั้งศาสนาไปด้วยกันเลย วัตถุก็ให้ได้ จิตใจก็ให้เจริญรุ่งเรืองรู้จักศีลจักธรรมไปด้วยกัน เราก็รู้สึกว่าพอได้พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ตลอดมานะเรื่องสังขารร่างกายนี้อ่อน แต่จิตใจยิ่งแข็งขึ้นนะ ด้วยความเมตตาเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องทั้งหลาย จะตายไปเสียเราก็ตายกองกันอีกพวกนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เราตายเราไม่มีปัญหาอะไรเราบอกแล้ว เพราะฉะนั้นจึงเป็นความห่วงใยมาก เราไม่อยากพบเห็นบรรดาพี่น้องชาวไทยเราซึ่งเป็นชาวพุทธมาตายกองกันให้กิเลสเหยียบหัวอยู่ตลอดเวลา โผล่หน้าขึ้นมาไม่ได้ แม้แต่หน้าเดียวเลยนี้ เราไม่อยากเห็นไม่อยากดูนะ
เพราะฉะนั้นจึงได้เทศนาว่าการด้วยความเมตตาล้วน ๆ เรื่อยมา แล้วธรรมะนี้จะออกไปเรื่อยนะ จะออกเรื่อยๆ พูดให้ยันเลยนะ อย่ามาเข้าใจนะว่าท่านเทศน์มาหลายปีหลายเดือนแล้วธรรมะจะอ่อนเปียก อย่ามาเข้าใจนะให้ว่าอย่างนั้นเลย ขอแต่เหตุการณ์ผ่านเข้ามา มันควรยกถังเราก็ทุ่มเลย ถ้าไม่ควรก็ปิดไว้อย่างนั้นแหละจะว่ายังไง พอพูดอย่างนี้ก็ระลึกถึงหลวงปู่แหวน ท่านเก็บของท่านไว้เท่าไร ผ้าขี้ริ้วเข้าไปพังถังท่าน ถังน้ำสะอาดท่านเปรี้ยงออกมาเลย นั่นแหละเอาไว้ในถังมันก็อยู่ในถัง กระจายออกไปชะล้างอะไรมันก็เป็นประโยชน์ ตามลำดับลำดาของสิ่งที่ควรจะชะล้างได้ ถ้าไม่ควรก็เก็บอยู่อย่างนั้นละ น้ำสะอาด ธรรมก็เป็นธรรมมาตั้งแต่กาลไหนกาลใด โลกไม่สนใจที่จะปฏิบัติก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับโลก ธรรมท่านไม่เสียหาย ความเสียหายคือโลก และความเจริญรุ่งเรืองก็คือโลกเมื่อสนใจกับธรรม ถ้าไม่สนใจไม่ได้เรื่อง
เรายิ่งจวนเท่าไรเรายิ่งเร่งนะ อำนาจแห่งความเมตตามันถึงขนาดนั้นนะ มองไปไหนมันเป็นอย่างนั้นทั้งนั้นนี่ อำนาจของกิเลสมันครอบขนาดนั้นนะ ท่านทั้งหลายรู้แล้วยัง เราเป็นลูกชาวพุทธ ใหญ่เท่าไรยิ่งใหญ่ด้วยอำนาจของกิเลสตัณหาครอบ ๆ เท่าภูเขา ๆ อย่างนั้นละกิเลสมันยอขึ้น คนนี้เขามั่งเขามีเขาเป็นเศรษฐีกุฎุมพี คนนี้เขายศถาบรรดาศักดิ์สูงชั้นนั้นชั้นนี้ ดอกเตอร์ ดอกแต้ อะไร กิเลสหลอก แล้วทีนี้ก็ทะนงตัวขึ้น แล้วหัวใจดิ่งลงเข้าใจไหม ความทะนงนี้คือความทะนงของกิเลส กดหัวใจลงรู้ไหม ไม่รู้ศีลรู้ธรรม ไม่รู้สึกตัว นี่แหละมันเสียตรงนี้นะ ใหญ่เท่าไรมันยิ่งใหญ่อยู่กับกองมูตรกองคูถ มันไม่ได้ใหญ่ด้วยกองศีลกองธรรม ที่จะนำให้เป็นความสุขความสมหวังได้นะ นี้แหละที่เป็นห่วง
คำพูดเหล่านี้เราก็ไม่เคยพูดมาแต่ก่อน ปฏิบัติมาเราก็ไม่เคยคาดเคยคิด เวลามันจ้าขึ้นที่หัวใจมันเห็นจะให้ว่ายังไง มาหลอกกันเหรอ แล้วมันเป็นภัยมาเท่าไรแล้วกิเลส หลอกสัตว์โลกให้ล่มจมมานี้ ตายกองกัน ๆ บอกมาแล้วนี่ ขึ้นสวรรค์-ลงนรก เหมือนเขาขึ้นบันไดลงบันได คน ๆ เดียวมันขึ้นมันลงน้อยเมื่อไร ขึ้นนี้น้อยมากนะ แต่ลงนี้มากที่สุดเลย ถ้าเป็นอย่างโลกเรานี้ก็จะต้องได้สร้างเรือนจำใหม่อีกแหละ มันไม่พอ แต่เรื่องของนรกไม่ต้องพูด มีเท่าไรพอดิบพอดีกับกรรมของสัตว์ ขนาดไหนก็กรรมของสัตว์เป็นความทรมานไปตลอดจนกระทั่งสิ้นกรรม นี้อำนาจของกรรมใครอย่าประมาท
เมื่อวานเราพูดถึงเรื่องกรรม เน้นหนักมากกรรมนี้มันจ้าอยู่ที่หัวใจ กรรมปฏิบัติมายังไงดูเอาเจ้าของนี่เลย เป็นเครื่องวัดนะ เราปฏิบัติมาเท่าไร แต่ก่อนไม่เคยปฏิบัติ มันก็เหมือนโลกทั่ว ๆ ไป เขาเหมือนเราเราเหมือนเขา มาคิดถึงเรื่องความตายมันเดือดร้อนนะ เรายังจำได้เราเป็นเด็ก เริ่มมาเป็นหนุ่มแตกหนุ่มบ้างอะไรอย่างนี้ พอคิดถึงเรื่องความตายมันเดือดร้อนวุ่นวาย อยากหาคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้มากลบมัน พอได้สบายบ้าง ไม่อยากคิดถึงเรื่องความตาย นี่พิจารณาซิ ไม่อยากตาย แล้วตายแล้วจะไปเกิดที่ไหนก็ไม่ได้คิดนะ หากไม่อยากตาย ว่างั้นเถอะ คิดดิ้นหนีทางอื่น เอาเรื่องตื่นเต้น เรื่องเพลิดเรื่องเพลินเรื่องโน้นเรื่องนี้มากลบเอาไว้ อันนี้กิเลสมันก็มากลบเอาไว้ มันไม่ให้มองเห็นความตาย คนเราถ้ามองเห็นความตายจะรู้สึกตัว
เพราะฉะนั้นท่านจึงให้เจริญ มรณัสสติ นะ มรณสติคือความตาย พอความตายปั๊บเข้ามาสติจะมี พอสติมีความระลึกดีชั่วก็จะมี ระลึกดีชั่วกระจายออกไป ระลึกถึงบุญถึงบาป รู้สึกตัวเข้าเรื่อย ๆ ปรับตัวได้คนนี้ ทีนี้ระลึกถึงตายวันยังค่ำยิ่งดี นั่นระลึกเท่าไรยิ่งเตือนเจ้าของเข้า ยิ่งดีดขึ้น ระลึกถึงความตายมากเท่าไร ยิ่งเตือนเจ้าของให้รู้เนื้อรู้ตัวแล้วดีดขึ้น ๆ ต่อไปความตายกับใจเข้าถึงกันแล้ว อริยสัจ นั่นแหละแก้กิเลสถอนตรงนั้นเลยเทียว ทีนี้เมื่อเวลาระลึกถึงความตายจนพอ คือ มรณมฺปิ ทุกฺขํ นี่ก็อริยสัจ นี้เป็นเครื่องแก้กิเลส ให้คนรู้สึกตัวเรื่องความตาย ท่านจึงสอนมรณัสสติ
กำหนดลมหายใจก็เหมือนกัน ถ้าลมหายใจขาดปั๊บ ตายเลย นั่นอันหนึ่ง จ่อเข้าไปถ้าลมหายใจขาดปั๊บตายเลย ทีนี้เวลากำหนดลมอย่างนั้นจิตก็มีที่พึ่ง เกาะอยู่กับลม ๆ จิตสงบตัวเข้าไป รวมตัวเข้าไป เรียกว่าเป็นจุดแห่งความรู้เด่นขึ้น ๆ จากการกำหนดภาวนาแต่ละบทละบาทนะ นี่แหละประมวลกำลังแห่งความดีทั้งหลายเข้ามาสู่จิตตภาวนาซึ่งเป็นทำนบใหญ่ ทำนบใหญ่นี้คือบุญกุศลที่เราสร้างมามากน้อยนี้จะมากี่กัปกี่กัลป์ก็ตาม แฝงมาในจิต ไม่มีกำลังก็อยู่ในนั้นละ ไม่สูญหายไปไหนทั้งบาปทั้งบุญ
ทีนี้เวลามีคำภาวนาทุกสิ่งทุกอย่างสมบัติอะไรก็พร้อม ทางภายนอกก็พร้อม ๆ ไหลเข้ามา ๆ รวมลงในจิตตภาวนาเป็นทำนบใหญ่ ทีนี้จะจ้าขึ้นที่นั่นนะ บุญกุศลทั้งหลายที่เราสร้างมามากน้อยมารวมอยู่นี้หมดเลย เห็นประจักษ์อยู่นี้มันกระจายไปหมดเลย นั่น เห็นไหมล่ะ จิตดวงนี้แหละ มันเป็นขึ้นมาอย่างนั้นด้วยการอบรมทางที่ถูก ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะเป็นคำถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าพุทธศาสนา ชี้นิ้วเลย อย่างนั้นเราไม่ได้ตำหนิ คนมีกิเลสเสกสรรปั้นยอว่า กี่ร้อยกี่พันกี่หมื่นกี่แสนศาสนาก็มีแต่ลมปาก หาความจริงไม่ได้ แต่พุทธศาสนานี้ปั๊บถูกเลย สวากขาตธรรม ๆ ตลอดสาย ไม่ว่าบุญว่าบาป ว่านรกสวรรค์ ว่าสัตว์ประเภทใดๆ จ้าหมดเลย แล้วนำมาสอนตามที่มีที่เป็นจะผิดไปไหน ท่านจึงเรียกว่า สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้ว นั่น
เวลานี้เป็นเวลาฟื้นฟูทั้งด้านวัตถุ ทั้งด้านจิตใจเข้าสู่ธรรม ในประเทศไทยของเรา ก็รู้สึกว่าเป็นประวัติศาสตร์อันหนึ่งเหมือนกัน ทางด้านวัตถุก็ฟื้นขึ้นมาดังที่เราเห็น เห็นไหมเหลืองอร่ามอยู่นี่ จะฟื้นเข้ามาสู่หัวใจชาติไทยของเราให้มีความแน่นหนามั่นคง นี่ละหัวใจคนทั้งชาติอยู่ในนี้นะ เหลืองอร่ามอยู่นี่ อยู่ที่ไหน จุดใหญ่อยู่ที่นี่ เมื่ออันนี้เข้าสู่คลังหลวงแล้วก็แน่นหนามั่นคง เอ้า การติดต่อซื้อขายทางไหน จะติดหนี้ เอ้า ติด อันนี้เครื่องประกันดีนั่น คนเราก็ไปมาหาสู่กว้างขวางได้สะดวกสบายหายใจโล่ง เป็นอย่างนั้นนะ ถ้าไม่มีเสียอย่างเดียวไม่มีใครมาติดต่อนะ จะไปซื้อไปขายอะไร ถ้าไม่มีเครื่องยืนยันเขาไม่รับซื้อ ติดเขาไม่ยอมให้ติด ติดหนี้ นี่ละจนตรอกใช่ไหมล่ะ พอได้อันนี้ขึ้นมาหนุนชาติไทยของเรา ชาติไทยก็เหลืองอร่ามขึ้นมา ๆ เหมือนทองนี้ดูเอาซิ แล้วก็แน่นหนามั่นคงภายในจิตใจอบอุ่นภายในจิตใจ
ทางด้านศีลธรรมก็มีผู้แนะนำสั่งสอน เวลานี้ก็คือหลวงตาบัวนั้นแหละ เป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย หลวงตาบัวนำพี่น้องทั้งหลายนี้ก็นำแบบไม่สงสัยเสียด้วยนะ บอกว่าไม่สงสัยก็ไม่สงสัย ธรรมพระพุทธเจ้าบรรจุเต็มเอี๊ยด ตามนิสัยวาสนานี้แล้ว เราไม่สงสัย เพราะฉะนั้น การเทศนาว่าการไม่ว่าจะธรรมะขั้นใด ก็พูดได้อย่างองอาจกล้าหาญถอดออกมาจากความจริง ๆ เหมือนว่านี่น่ะ ๆ เห็นไหมตาบอดหรืออยากว่าอย่างนั้น มันขนาดนั้นนะ แน่หรือไม่แน่ธรรมภายในใจ ไม่ต้องไปหาพยานมาจากไหน พระพุทธเจ้าตรัสรู้ปึ๋งไม่หาพยานสอนโลกทันที ถึงสามแดนโลกธาตุ นี้ธรรมะประเภทเดียวกัน จิตเป็นนักรู้ด้วยกันเข้าถึงกันแล้วก็รู้เต็มภูมิของตัวเองเหมือนกันหมด ไม่มีอะไรผิดแปลกจากกัน เต็มภูมิของศาสดาของสาวก นั่น
แล้วไม่สงสัยทั้งนั้น สนฺทิฏฐิโก สุดท้ายประกาศป้างขึ้นมาเท่านั้นไม่ต้องไปทูลถามพระพุทธเจ้า เพราะสนฺทิฏฐิโก พระองค์ประกาศไว้แล้ว นั่น มันสด ๆ ร้อน ๆ ทั้งบาปทั้งบุญนะ ท่านทั้งหลายอย่าให้กิเลสหลอกนะ ว่าบุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี สิ่งเหล่านี้มีแต่กิเลสหลอกให้จมนะ ว่าบาปไม่มีมันก็ไม่กลัวบาป นั่นเห็นไหมล่ะ จะให้สร้างบาป นรกไม่มีไม่กลัวนรกจะทำอะไรก็ทำไป สวรรค์ไม่มีไม่อยากไปสวรรค์ ไม่อยากไปสวรรค์มันก็อยากไปนรกอย่างเดียว นั่น มีตั้งแต่เรื่องที่จะเอาให้จม ๆ รู้ไหมว่านี้ละคำสอนของกิเลส ท่านจึงไม่ตั้งว่าเป็นศาสนาเพราะสอนคนให้จม ลากคนให้จม ไม่เรียกคำสอน ลากคนขึ้นจากความล่มจมและความทุกข์ทั้งหลาย ท่านเรียกว่าคำสอน ธรรมของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์แม่นยำเหมือนกันหมดไม่มีผิดกัน แล้วพวกเราได้ครองไว้แล้วเวลานี้ พุทธศาสนาอยู่ที่บ้านที่เรือนตามตำรับตำราอยู่ที่หัวใจเราทุกคน
ให้ประคองให้ดีนะ ใจดวงนี้ดวงจะพาไป จะพาจมก็ใจดวงนี้แหละ ให้จำให้ดีนะ คำสอนพระพุทธเจ้าสด ๆ ร้อน ๆ นะ บาป สด ๆ ร้อน ๆ บุญสด ๆ ร้อน ๆ กิเลสสด ๆ ร้อน ๆ ธรรมะสด ๆ ร้อน ๆ เสมอกันหมด ขอให้เอื้อมทางไหนที่จะเป็นประโยชน์แก่ตน ให้เอื้อมให้มากนะ ถ้าอันไหนที่ไม่เป็นประโยชน์ให้ปัดออก ๆ จึงเรียกว่าคนรับผิดชอบตัวเอง เรารับผิดชอบเราเวลานี้เป็นยังไง วันหนึ่งไม่ได้กินอยู่ได้เหรอมันจะตาย นี่ก็รับผิดชอบตัวเอง ต้องกิน ต้องนอน ต้องขับต้องถ่าย มีแต่ความรับผิดชอบในธาตุในขันธ์ แล้วจิตใจนี้มีอะไรเป็นเครื่องรับผิดชอบล่ะ ถ้าไม่มีธรรมแล้วใจจมนะ อะไรจะเหลือเฟือขนาดไหนล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ใจแห้งผากจากความดีเสียอย่างเดียว จมได้ไม่สงสัย
ถ้าใจมีความเต็มตื้นด้วยอรรถด้วยธรรมแล้ว อะไรจะขาดเขินก็ตาม เกิดมาจากพ่อจากแม่เรา เราไม่ได้ขนสิ่งเหล่านี้มาเป็นบริษัทบริวาร เป็นเครื่องประดับเรานะ เกิดมาล่อนจ้อน แต่งตัวมาเกิดด้วยกันทั้งหญิงทั้งชาย แล้วเราก็มาอยู่ตามโลกตามสงสารที่เขามียังไงก็มีไปตามกันเฉย ๆ นะ ความจริงแล้วมาล่อนจ้อนไปล่อนจ้อน นั่น เห็นไหมล่ะ ถ้าไม่มีความดีแล้วยังไงก็ต้องไปแบบหมดเนื้อหมดตัวไป มาก็มาสร้างความหมดเนื้อหมดตัวใส่ตัวเอง เต็มที่แล้วก็จมไปเลยหมดตัว นั่น ผู้ที่มาพยายามขวนขวาย ท่านว่า ตโมโชติปรายโน เบื้องต้นจนตรอกจนมุมพยายามขวนขวายไปก็ค่อยมีความเจริญรุ่งเรือง ๆ ต่อไป ๆ ก็ โชติโชติปรายโน เลย ทั้งเบื้องต้นทั้งท่ามกลางสว่างไปด้วยกัน นั่น ให้พากันตั้งใจปฏิบัตินะ
เรานี้ทุกข์มากเรายอมทนนะ พี่น้องทั้งหลายจะเข้าใจว่าหลวงตาบัวไม่ทุกข์เหรอ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมารวมอยู่นี้หมดนะ ธรรมดาถ้าหากว่าเป็นท่อนไม้ท่อนซุงนี้หลวงตาบัวแบนไปนานแล้วนะ แต่นี้มันไม่ใช่ท่อนไม้ท่อนซุงเป็นความเมตตาสงสาร ทุกข์ก็ทราบว่าทุกข์ แต่ความเมตตาเหนือทุกข์อีกก็บืนไปอีกอย่างนั้นแหละ จึงได้อุตส่าห์พยายาม เราอย่าได้ตื่นโลกตื่นกิเลสจนเกินไปนะ มองหาคนทั้งคนจะไม่เห็น มีแต่กิเลสเต็มเนื้อเต็มตัว มองดูนอกวัดนอกวาไปก็เป็นอย่างหนึ่ง แล้วนึกว่าในวัดในวามันจะมีอะไรบ้าง ครั้นมองในวัดในวามีแต่เสื่อแต่หมอนเต็มทางจงกรม เต็มที่ภาวนา มันอะไรกันอีกอยากว่าอย่างนั้นเรา ไปที่ไหนเห็นตั้งแต่เรื่องกิเลสหลอก โอ๊ย มันยังไงกัน ครั้นเข้ามาหากุฏิเรา กุฏิเราก็มีเสื่อมีหมอนอีก เลยจะไม่มีที่ปลงวาง เอ้า นอนลงหมอนนี้เลย แน่ะ เข้าใจไหมล่ะ
มันเป็นอย่างนั้นนะ โฮ้ กิเลสแหลมคมมากนะ ใครไม่ได้ผ่านเสียก่อนไม่รู้ พวกเรานอนอยู่ในท่ามกลางงูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม หลับครอกแครก ๆ งูจงอาง งูสามเหลี่ยมล้อมรอบตัวไม่รู้ ยังขับลำทำเพลง เหมือนคนไปนอนอยู่หน้าถ้ำ เสือมันกระหึ่ม ๆ อยู่ในถ้ำ หือ ในถ้ำนี้ก็ยังมีพวกนักร้องเพลงมาร้องเพลงอยู่เหรอ นึกว่าเขามาร้องเพลงให้ฟัง เสือจะงับหัวมันไม่รู้ เข้าใจไหม อันนี้ก็หลับครอก ๆ ไม่รู้เลยว่าคืออะไรอยู่ในนั้น พวกงูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม ไม่รู้ ในป่านี้ยังมีหมอเพลงเขามาร้องอยู่เหรอ ยังเพลินฟังเสียงเสือคำราม ทั้งคำรามทั้งหั่นหอมหั่นกระเทียม เสือก็ดี เข้าใจไหม ไม่ทราบว่าเสียงหั่นหอมหั่นกระเทียม เสียงยำยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ทางนี้ยังครอก ๆ มันไม่รู้ตัวนะ เห็นไหมกิเลสกล่อมคน เราเทียบถึงเรื่องความแหลมคมของกิเลสแหลมคมมากจริง ๆ นะ ไม่ได้ผ่านเสียก่อนไม่รู้
พระพุทธเจ้าผ่านมาแล้วจึงได้ประกาศป้างขึ้นมา โก นุ หาโส กิมานนฺโท นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ อนฺธกาเรน โอนทฺธา ปทีปํ นคเวสถ. ก็เมื่อโลกสันนิวาสที่มืดบอดอยู่ทั้งวันทั้งคืนครอบหัวใจสัตว์โลกอยู่นี้ ท่านทั้งหลายยังมาเพลิดเพลินรื่นเริงบันเทิงหาอะไร ทำไมจึงไม่เสาะแสวงหาที่พึ่ง ภาษิตนี้แปลว่าอย่างนั้น ท่านกระตุกเอา เพราะมันเพลินไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั่นซิ ความมืดบอดท่านก็บอก มันมืดบอดทั้งวันทั้งคืน แล้วความมืดบอดนี้แหละกล่อมสัตว์ให้จม ให้เดือดร้อนวุ่นวาย ยังมีหน้ามาหัวเราะรื่นเริงบันเทิงอยู่เหรอ ทำไมไม่เสาะแสวงหาที่พึ่ง นั่น ท่านกระตุกเอาแล้ว จะว่ายังไง พวกเราได้รู้ตัวหรือยัง ท่านกระตุกไว้อย่างนี้
นี่ก็เป็นโอกาสอันดีของเราทุกคนแล้ว เวลานี้ธรรมกำลังกระจาย เราออกเรื่อยแหละธรรม ขอให้มีผู้รับจะออกเอง ๆ ถ้าไม่มีผู้รับไปยังไงก็อย่างนั้นละ เหมือนเราทอดแหกางแหไปอย่างนี้จะทอดลงที่ตรงไหน อันนี้ขี้หมูอันนี้ขี้หมา อันนั้นมูตรอันนี้คูถ เต็มไปหมด แล้วจะทอดแหลงเหรอ อันนี้กางแหก็คือธรรม ไปที่ไหนมองดูมีแต่มูตรแต่คูถ คนทั้งคนมีแต่กองส้วมกองถาน กิเลสตัณหา ความโลภ ความโกรธ ความหลง คือกองมูตรกองคูถเต็มหัวใจ ลากเข็นสัตว์ทั้งหลายลงสู่ความทุกข์มหันตทุกข์ตลอดเวลา แล้วจะทอดแหลงได้ยังไง ธรรมทอดไม่ได้ เพราะมันไม่สนใจ มันเพลินตั้งแต่เรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ไปอย่างนั้นแหละ ทีนี้ก็จมไป ๆ
เราจะเป็นฝ่ายจมไปหรือจะเป็นฝ่ายฟื้นฟู ถามตัวเองนะ อย่าไปถามใคร ถามใครไม่ดี ให้ถามตัวเองจึงได้สติสตัง ดูตัวเองได้สติสตังกว่าดูคนอื่นนะ เตือนตัวเองนี่ละสำคัญมาก เอาให้ถึงพริกถึงขิง ถึงเป็นถึงตายไม่เป็นไร เจ้าของฝึกเจ้าของ แต่คนอื่นมาทำไม่ได้ เกิดข้าศึกกันทันที แน่ะมันต่างกันน่ะ พากันจำเอา พูดเพียงเท่านี้ละ แค่นั้นก่อนวันนี้
อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.Luangta.com |
** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก
ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์
และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์
|
|
|
|