ปลงทุกข์ด้วยจิตตภาวนา
วันที่ 2 สิงหาคม 2546 เวลา 8:20 น. ความยาว 37.01 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

ปลงทุกข์ด้วยจิตตภาวนา

 

         (วันนี้บ่ายสองโมงครึ่งคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ศรี มหาวีโร เจ้าอาวาสวัดป่ากุง จังหวัดร้อยเอ็ด ประมาณ ๑๕๐ วัด จะมากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงตา และมาทอดผ้าป่า เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง) อ๋อ มาบ่ายสองโมงครึ่งเหรอ ศาลาหลังนี้ก็ได้มั้ง ประมาณเท่าไร (๑๕๐ วัดครับ) ได้ ๆ

         ทองคำเมื่อวานนี้ได้ ๕ บาท ดอลลาร์ ๑๑๕ ดอลล์ ทองคำได้แล้วทั้งหมด ๗,๐๘๙ กิโล ดอลลาร์ที่ได้แล้วทั้งหมด ๘,๑๓๖,๒๑๔ ดอลล์ ใกล้เข้าไป ๆ ทุกทีละ ใกล้เข้าไปถึงเส้นตัดสินกันเลย ยกธงชัยชนะขึ้น ประดับด้วยทองคำเหลืองอร่ามบนจรวดดาวเทียมเป็นยังไงวะ ต้องได้อย่างงั้นแน่นอนทีเดียว คราวนี้ต้องเอาให้ได้เลย ยกศักดิ์ศรีเมืองไทยของเราขึ้นให้คุ้มค่ากับที่มันจะล่มจม ไม่เอาขนาดนี้ไม่ทันกัน เราคิดหมดแล้วนะก่อนที่จะมาประกาศพี่น้องทั้งหลายทราบเป็นข้อตายตัวเด็ดขาด ก็ได้พิจารณาเต็มกำลังแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างพอเหมาะพอดีหมดเลย ถ้าได้ตามจำนวนนี้แล้ว ถ้าขาดนี้ไม่เหมาะเลย เพราะฉะนั้นจึงไม่ไปตอบไอ้เรื่องว่าขาดนะ มีแต่เท่านั้นเลย กับขยับขึ้นเท่านั้น ได้พิจารณาแล้ว

         ความเสียหาย ความจะล่มจมเมืองไทยนี้กระเทือนทั่วโลก ทีนี้ความดีเด่นของเมืองไทยที่พี่น้องชาวไทยเรารักชาติช่วยกันอุ้มขึ้นมานี้ก็ต้องให้เด่นเหมือนกัน ไม่เด่นอย่างงั้นไม่คุ้มค่ากัน นี่ละที่สำคัญ เราจึงได้เน้นอยู่จุดนี้มากทีเดียว เพราะเรื่องของเราทั้งฝ่ายลบมันก็กระเทือนทั่วโลกมาแล้ว ทีนี้ฝ่ายบวกก็ให้กระเทือนซิบวกแบบไหน ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นใจก็แล้วกันนะ การพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่ออกมานี้ได้พิจารณาเต็มกำลัง ๆ แล้วออก ๆ เพราะฉะนั้นเวลาออกจึงอะไรมาผ่านไม่ได้เลย พิจารณาแล้ว ๆ เห็นว่าถูกต้องแล้ว โล่งแล้วพุ่งเลย อะไรผ่านไม่ได้ขาดสะบั้นเลย ถ้าลงได้พิจารณาแล้วนะ ถ้ายังไม่พิจารณาไม่ออก

         เรื่องธรรมจะเอนนู้นเอียงนี้ไม่ได้ ต้องให้ตรงแน่วเลย เป็นอย่างนั้น เพราะธรรมนี้เป็นที่ตายใจของโลก แม้แต่สัตว์เขายังตายใจ นอกจากกิเลสเข้าไปแทรกธรรม ปลอมตัวเป็นธรรมขึ้นไปนี้ ทำให้สัตว์เสียเส้นใจได้นี้มีนะในชาดก พวกโขลงช้างหัวหน้าเป็นโพธิสัตว์ด้วย พาโขลงช้างไปเที่ยวหากิน ทีนี้ก็ฟังแต่ว่าโพธิสัตว์ซิ นักสังเกตก็ต้องอยู่ที่หัวหน้าทุกอย่าง ๆ เวลาไปนั้นน่ะ พวกนั้นเขาเอาเพศนักบวชเข้ามา พวกมหาภัยต่อโขลงช้างทั้งหลาย แต่งเพศเป็นนักบวชเข้ามา มานั่งภาวนาอยู่ข้าง ๆ แล้วลูกศรที่อาบด้วยยาพิษอยู่ข้าง ๆ นั้น พอช้างตัวสุดท้ายไปนี้มันก็เอาลูกศรที่อาบด้วยยาพิษทิ่มเข้าไปเลยไปถูก ช้างก็ป่วยวันป่วยคืนแล้วตายๆ เอ๊ ทำไมช้างถึงเป็นอย่างนี้นะ ผิดสังเกต

         หัวหน้าช้างมาก็คือโพธิสัตว์ ทีนี้เดินข้างหลังเลยให้เพื่อนฝูงไปก่อน ค่อยด้อมมาตามหลัง คอยสังเกตดู พอถึงช้างตัวสุดท้ายฤาษีนี้ก็ทิ่มศรใส่เลยละ ใส่ช้างตัวโพธิสัตว์เอง ซึ่งเดินมาตามหลัง มาด้วยความสังเกตทุกสิ่งทุกอย่างนะ มาก็คอยสังเกตดู พอดีศรทิ่มมา ช้างโพธิสัตว์หลบ จับเลยนะ ถามเหตุถามผล แล้วก็ได้ความว่าแอบมาทำนี้หลายตัวแล้ว ว่างั้น แน่ะเห็นไหมล่ะ นี่เรื่องศาสนา มันเอาศาสนา เอานักบวชเข้ามาแทรกทำให้เสียได้ แต่เรื่องศาสนาแล้ว พวกโขลงช้างนี้เป็นอุปถัมภ์อุปัฏฐากไปเลยตลอด ตายใจ เป็นอย่างงั้นนะ นี่ธรรมจึงเป็นของตายใจอย่างนี้ นอกจากอธรรมคือข้าศึกมันแฝงธรรม ทำให้ทางด้านธรรมะนี้บอบช้ำจิตใจได้

         นี่เราพูดถึงเรื่องความเป็นธรรม ต้องตรงไปตรงมา เอนไม่ได้ ขัดนิดหนึ่งรู้ทันทีธรรม จะฝืนไปไม่ได้ คือฝืนธรรมก็เรียกว่าทำลายตัวเอง ทำลายธรรมไปในตัว ถ้าเป็นธรรมแล้วก็พุ่งเลย ๆ นี่ก็ได้พิจารณาเต็มกำลังที่พาพี่น้องทั้งหลายดำเนินมา ด้วยการคิดอ่านไตร่ตรองทุกแง่ทุกมุม เท่าที่ผ่านมานี้ก็รู้สึกว่าโล่งใจมาตลอด ไม่เห็นแป้วใจที่ตรงไหน ก็ค่อยราบรื่นมาเรื่อยๆ เพราะก่อนที่จะแสดงออกตรงไหนๆ พิจารณาเรียบร้อยแล้วค่อยออก ๆ นี่ก็รู้สึกว่าก้าวขึ้นมากต่อมากแล้วเมืองไทยเรา ฟื้นขึ้นมามากมาย จนถึงขั้นเด่นแล้วเวลานี้ เด่นดวงขึ้นมามาก ทุกสิ่งทุกอย่างเด่นขึ้นมา ทางโลกก็เด่นขึ้นมามากทีเดียว ทางธรรมก็เริ่มเด่น ทางเมืองนอกเมืองนาที่ได้ยินได้ฟังอรรถธรรมจากอินเตอร์เน็ตนี้ก็รู้สึกว่าฟื้นฟูจิตใจ ตื่นเต้นขึ้นมามากมาย เท่าที่ทราบข่าวเข้ามาๆ เรื่อยๆ

ก็เรียกว่าทั้งสอง คือทางโลกก็ฟื้นขึ้นมา ทางธรรมก็ค่อยปลุกจิตปลุกใจประชาชนไปตามๆ กัน ทางเมืองนอกรู้สึกว่าตื่นเต้นมากอยู่ อินเตอร์เน็ตเราที่เขาได้ยินได้ฟัง ค่อยตื่นเนื้อตื่นตัวขึ้นมา จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ตื่นตัวทางด้านอรรถด้านธรรม ความทุกข์ทั้งหลายที่โกลาหลอลหม่านอยู่ทั่วโลก เกาะไหนดอนใดที่มีธรรม เกาะนั้นดอนนั้นจะมีที่หลบซ่อนได้นะ ถ้าไม่มีก็เป็นทะเลไฟไปตาม ๆ กันหมด เพราะกิเลสไม่ไว้หน้าใครเลย เผาได้ตลอด เรื่องของกิเลสเป็นฟืนเป็นไฟทั้งนั้น เรื่องธรรมนี้เป็นน้ำดับไฟ ถ้าเรามีธรรมอยู่เกาะใดดอนใด เกาะนั้นดอนนั้นเป็นที่ชุ่มเย็น เป็นที่หลบซ่อนผ่อนคลายได้นะ ถ้าไม่มีธรรมไม่มีทาง เพราะฉะนั้นธรรมจึงมีประจำโลกมานาน ไม่มากก็มี มีอยู่เรื่อย ๆ อย่างงั้น

         ย่นเข้ามาหาพวกเรา ในวันหนึ่งคืนหนึ่งอย่าปล่อยให้กิเลสฉุดลากเอาไปกินต่อหน้าต่อตาจนเกินไป ให้มีการหักห้าม มีการยับยั้งพักผ่อนจิตใจของเราบ้างนะ ใจนั้นเป็นตัวกงจักรอันใหญ่หลวงทำงานจากกิเลสบังคับบัญชาให้หมุนติ้วทั้งวันทั้งคืน นี่คือกิเลสทำงาน ผลักดันออกมาจากจิตใจ ให้คิด ให้อ่าน ปรุงแต่งเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็ลากกายวาจาไปให้ทำตามมัน พูดตามมันไปเรื่อย เสียหายไปเรื่อย ทางใจนั้นมันบังคับให้คิดตลอด ทีนี้เวลาเราพักเครื่องก็คือให้พิจารณาสังเกตดูความคิดเจ้าของ แล้วการพูด การกระทำของเจ้าของ สิ่งใดที่เป็นที่แสลงธรรม แล้วก็แสลงหูแสลงตาแสลงใจคนอื่น ให้ระงับดับลง

แล้วก็มาประมวลความคิดของตัวเอง ความคิดการกระทำของตัวเอง ตั้งแต่เช้าตื่นนอนถึงหลับนี่ วันนี้ไปก่อความเสียหายที่ไหนบ้าง แล้วไปทำความดีงามที่ไหนบ้าง เอามาทดสอบกัน แล้วก็ค่อยคัดเลือก เลือกเฟ้นไปเรื่อย ๆ แล้วจะค่อยดีขึ้นนะ ถ้าปล่อยเลยตามเลยกิเลสจะไม่มีวันพอ กินตลอด กลืนตลอด สัตว์โลกทั้งหลายนี้เป็นเหยื่อของมันไปตลอด ถ้ามีธรรมเป็นเครื่องคัดค้านต้านทานก็หลุดปากกิเลสออกมาบ้าง จึงให้พากันอบรม ด้านจิตตภาวนาเป็นด้านที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว ในพุทธศาสนายกด้านจิตตภาวนาขึ้นสุดยอดเลยทีเดียว พระพุทธเจ้า พระสาวก เลิศเลอด้วยจิตตภาวนา นี่ละเป็นที่ระงับทุกข์ ระงับที่ใจ ด้วยจิตตภาวนา ระงับเฉยๆ ไม่อยู่ ต้องเอาธรรมเข้าระงับด้วยภาวนา

ภาวนานั่นละคือธรรมเป็นน้ำดับไฟ มันคิดจะปรุงแต่งอะไร เวลานั้นเป็นเวลาที่เราจะระงับด้วยธรรม เอาธรรมคือความคิดปรุงทางด้านธรรม เช่น พุทโธ หรือธัมโม เป็นต้น เข้าไประงับใจ ให้ใจนั้นทำงานอยู่กับพุทโธ คำบริกรรมมี พุทโธ เป็นต้น ตามจริตนิสัยชอบ แล้วเอาสติจับนั้น ทีนี้ความผลักดันของกิเลสมันจะดึงออก หนักมากนะทีแรก มันบังคับจะให้คิดท่าเดียวให้คิดออก เอา พุทโธ ใส่นี่ตีตกไปทวีปไหนไม่รู้ มันรุนแรงมาก แต่เราก็ต่างคนต่างรุนแรงด้วยกัน ไม่นานเรื่องความคิดที่มันรุนแรง ปัดธรรมของเราที่อยู่ในหัวใจ คือพุทโธ เป็นต้นนั้นออก ทีนี้ต่อไปมันจะเกาะติดนะ บังคับไว้ เกาะติด เกาะติดหนักเข้าๆ พุทโธ นี้จะซึมซาบเข้ากับใจ ใจจะมีกำลังหนาแน่นมั่นคง เป็นความสงบเย็นขึ้นมา แล้วความคิดความปรุงที่มันเป็นกระแสอันใหญ่หลวงนั้นจะเบาลงๆ สุดท้ายมีแต่ความสงบแน่ว นี้เป็นที่ปลงทุกข์ ปลงลงที่นี่

กิเลสก่อทุกข์ คือให้คิดให้ปรุงให้ยุ่งให้เหยิงวุ่นวายตลอด นี่คือกิเลสมันเกิดขึ้นจากใจ อารมณ์ของกิเลสทำงานเป็นอย่างนี้ ก่อฟืนก่อไฟเผาเรา อารมณ์ของธรรมเกิดมีความร่มเย็น เช่น พุทโธ ๆ นี้เรียกว่าน้ำดับไฟ มี พุทโธ เป็นต้น ระงับดับไฟ บังคับไว้ไม่ให้หลุดจากใจเลยพุทโธ อันนั้นจะรุนแรงขนาดไหนจะค่อยอ่อนตัวลงๆ บังคับ หนักเข้าทางนี้ก็หนาแน่นขึ้น ทางนั้นเบาลงๆ ทางนี้หนาแน่นขึ้น จิตใจสงบเย็นแล้วปลงได้ นี่เป็นที่ปลงทุกข์ ปลงลงด้วยจิตตภาวนา ที่อื่นที่ใดปลงไม่ลง สามโลกธาตุไม่มีที่ใดเป็นที่ปลงทุกข์ลงได้ นอกจากจิตตภาวนาตามทางพุทธศาสนานี่เท่านั้น ปลงลงได้ไม่สงสัย ให้พากันไปอบรม

เรื่องความรุนแรงของกิเลส ทุกหัวใจมันรุนแรงด้วยกัน แต่เรื่องของธรรมเมื่อนำมาแล้วก็รุนแรงได้เช่นเดียวกัน บังคับเอาจนอยู่ได้เลย จิตสงบเย็น ให้จำเอานะ นี่สถานที่ดับทุกข์คือใจ สถานที่ส่งเสริมทุกข์ก็ดี เกิดทุกข์ก็ดี เกิดที่ใจ ส่งเสริมที่ใจ ทีนี้สถานที่จะระงับดับทุกข์ทั้งหลายลงเป็นลำดับก็อยู่ที่ใจด้วยจิตตภาวนา ให้พากันทำ พูดก็ไม่พ้นที่จะได้ยกหลวงตาขึ้น เพราะหลวงตาผ่านมาหมดแล้ว เอาสิ่งที่ผ่านมาแล้วซึ่งเป็นครูของเรา ทั้งถูกก็เป็นครู ผิดก็เป็นครูเป็นอาจารย์เรา นำมาปฏิบัติจนได้ผลเป็นที่พอใจแล้วก็สอนบรรดาลูกศิษย์ลูกหาว่าไม่ผิด

มันจะรุนแรงขนาดไหน เราอย่าไปเสียอกเสียใจกับความรุนแรงของกิเลส เราจะฟาดกิเลส เอาความรุนแรงของธรรมเข้า ตั้งสติให้ดี เป็นยังไงวะ ซัดกัน เดี๋ยวอันนั้นสงบให้เห็นต่อหน้าต่อตานะ พอนั้นสงบลง จิตใจของเรากับพุทโธนี้แน่นเข้าๆ แล้วแน่นหนามั่นคงปึ๋งขึ้นมา เย็นสบาย นี่ปล่อยทุกข์แล้ว ทุกข์ระงับลงไปๆ ทางนี้หนาแน่นขึ้น สุขหนาแน่นขึ้น อารมณ์ของกิเลสระงับ ทุกข์ก็ระงับไปพร้อมกันๆ ให้พากันจำเอานะ อันนี้สำคัญมากทีเดียว แล้วก็ชี้นิ้วได้เลย พุทธศาสนาเท่านั้นระงับดับทุกข์ได้โดยถูกต้องแม่นยำ ไม่มีผิดพลาดเลย จึงขอให้พากันนำไปดับด้วยวิธีการดังที่กล่าวมาแล้วนี้ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญมาแล้ว มีอานาปานสติ ยึดลมหายใจเป็นที่ตั้ง ใครจะยึดอะไรก็ตามให้เป็นที่ตั้งก็เป็นธรรมด้วยกัน ระงับทุกข์ได้ด้วยกันนั้นแหละ

โห เรื่องกองทุกข์ไม่มีวันมีคืนมีปีมีไม่มีกัปมีกัลป์นะ เพราะกิเลสไม่มีต้นมีปลาย มีแต่ขยายกองทุกข์ไปเรื่อย ๆ ไม่ดูต้นของมันเกิดมาจากอะไร ก็ได้จากใจเท่านั้น แต่ไม่มีใครดูใจ มันก็ไม่รู้ต้นของกิเลส ถ้าดูใจกันก็รู้ต้นของกิเลส ดูใจก็ดูด้วยธรรม มันก็รู้ขึ้นมาที่นี่ค่อยระงับดับไป ๆ เวลาทุกข์มาก ๆ นี้ แหม อะไรหมดนะ ในโลกอันนี้ไม่มีอะไรมีคุณค่าเลย เพราะมันบีบเอาจริง ๆ ถึงขนาดที่ว่าตายเสียดีกว่ามันยังแหวกแนวไปอีกนะ มันหมดคุณค่าเต็มที่แล้วหาทางออกทางไหนก็ไม่ได้แล้วตายเสียดีกว่า มันเลยเอาความตายฆ่าตัวเองตายเป็นของดีกว่า ดีกว่าทุกข์ทั้งหลายที่มันเลวอยู่แล้ว อันนี้จะฆ่าตัวเองเข้าไปอีกก็ยิ่งเลวเข้าไปอีก นั่น เป็นอย่างนั้น นี่ละกิเลสมันซ้ำเติมเข้าไปเรื่อย ๆ นะ ความทุกข์นี้ตายหาอะไรสัตว์เขาก็กลัวตายนะ เราเป็นมนุษย์ทำไมถึงจะกล้าต่อการตายและฆ่าตัวเองตาย เลวกว่าสัตว์ นั่นซิเข้าใจไหมละ ตีเข้ามานี้ซิ มันขัดข้องตรงไหนแก้มันตรงนั้นซิ นั่น เอาลงนี้ก็แก้มันได้ จำให้ดีนะ แล้วที่ปลงวางของทุกข์ทั้งหลายปลงลงที่ใจ ที่สั่งสมทุกข์ก็สั่งสมที่ใจด้วยกิเลสพาสั่งสม ที่ดับทุกข์ก็ดับที่ใจด้วยอำนาจของธรรมพาดับ สองอย่างนี้เป็นคู่ปราบกันจำให้ดีนะ เอาอันนี้ให้ไปปฏิบัตินะ

ชาวพุทธเราจะเด่นขึ้นบ้านเมืองทั้งหลาย ครอบครัวเหย้าเรือนวงงานต่าง ๆ เราจะค่อยมีความเรียบร้อยสวยงามน่าดูน่าชมไปตาม ๆ กัน ถ้ามีธรรมแทรกเข้าตรงไหน ในครอบครัวเหย้าเรือน พ่อแม่กับลูกกับพ่อบ้านแม่บ้านไม่ค่อยทะเลาะกัน เพราะต่างคนต่างฟังเสียงกัน ใครผิดใครถูกรู้กันอยู่ทุกคน เอาความถูกเป็นใหญ่ จะเอาว่าผัวเป็นใหญ่เมียเป็นใหญ่ไม่ได้นะ ต้องเอาความถูกต้องเป็นใหญ่ เดินเข้าไปหาความถูกต้อง ยอมรับกันที่นั่น ๆ ใครพูดถูกยอมรับ นั่น เป็นธรรม ธรรมใหญ่แล้ว แต่พระพุทธเจ้ายังกราบธรรมเราจะฝืนธรรมได้ยังไง นั่น มันก็ยอมรับ เมื่อยอมรับตามธรรมแล้วไม่ทะเลาะกันนี่คือความมีธรรม เป็นเด็กเล็กเด็กน้อยใครทะเลาะใครผิดใครถูกว่ากันไปตามเรื่อง เด็กก็รู้โทษของตัวเองต่อไปก็สงบเรียบ เป็นอย่างนั้นจำให้ดี วันนี้เทศน์เพียงเท่านั้นละ ไม่เทศน์ละนะ เอาจิตตภาวนาไม่เอามาก ให้ไประงับกันที่จิตนะ จิตที่ปลงทุกข์ด้วยภาวนา เอาละพอ

 

 

ชมการถ่ายทอดสดทุกวัน   ได้ที่

 www luangta com หรือ www.luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก