ได้คู่แล้วอิ่ม
วันที่ 28 กรกฎาคม. 2546 เวลา 8:15 น. ความยาว 28.42 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

ได้คู่แล้วอิ่ม

 

         ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๖,๗๐๐ ได้เพิ่มมาอีก ๓๘๗ เป็น ๗,๐๘๗ กิโล ยังขาด ๕๐๐ กิโลอยู่ ๑๑๒ กิโล จะครบจำนวน ๕๐๐ ดอลลาร์ได้ ๘๔,๗๙๗ ดอลล์ นี่ได้เพิ่มจากที่ให้ไปแล้ว รวมทองคำที่ได้แล้วทั้งหมด ๗,๐๘๗ กิโลครึ่ง ดอลลาร์ได้แล้วทั้งหมด ๘,๐๘๔,๗๙๗ ดอลล์ ที่มอบแล้วนั้น ๘ ล้านนะ ดอลลาร์ที่มอบเสร็จเรียบร้อยที่ผ่านมานี้ได้ ๘ ล้าน ที่นี้ได้เพิ่มมาอีก ๘๔,๗๙๗ ดอลล์ ขยับเรื่อย ๆ ละ วันที่ ๑๒ นี้ก็จะเอาใหญ่ เอาหนัก

         กฐินเราก็กำหนด (วันที่ ๑๑ ตุลาคมครับ) เออ กฐินก็กำหนดแล้ว วัดทั้งหลายรอเราอยู่ บรรดาวัดกรรมฐานทั้งหลายรอวัดนี้วัดเดียว พอทางนี้กำหนดปั๊บทางนั้นก็ออกกระจายเลย เวลานี้ยังพูดอะไรไม่ได้ เราจึงต้องรีบบอกเลย หาวันเวลาที่เหมาะสม ดูว่าเป็นวันที่ ๑๑ (เสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคมครับ) เออวันที่ ๑๑ ตุลาคม ตอนเช้า กฐินวัดนี้ จากนั้นก็กระจายกันในวันนั้น แล้วก็จะรู้กัน ใครไปวัดไหนๆ ออกจากนี้แล้วก็ไปในวันนั้น แต่วันที่ ๑๒ เรียกว่าทั้งวันเลย สำหรับวันที่ ๑๑ ออกจากวัดนี้แล้วถึงจะไป ไปวัดนั้นวัดนี้ ผู้ที่เตรียมพร้อมมาทอดในวันเดียวกันกับกฐินวัดป่าบ้านตาด ก็จะออกจากนี้ไปทอดเลย

         วันหลังพวกที่พร้อมในวันนั้นโดยทั่วกันแล้วก็ออกในวันเดียว สองวันนี่รู้สึกจะเต็มที่ พระวัดกรรมฐานสายต่าง ๆ อยู่ในป่าในเขาอะไร ๆ เดินซอกแซกซิกแซ็กไป วันที่ ๑๑-๑๒ ที่มันเป็นพักอยู่นี้คือ วันที่ ๑๒ สิงหา หนึ่งนะ แล้วก็กฐินหนึ่ง ๑๒ สิงหานี้หนึ่ง แล้ววันกฐินหนึ่ง นี่ละใหญ่มาเลยวันกฐิน สิ้นเดือนธันวาเป็นวันรวบรวมชีวิตจิตใจของคนไทยเราทั้งชาติ จะมายุติกันในวันสิ้นเดือนธันวา ๒๕๔๖ ตัดสินใจกันวันนั้น โดยมีหลวงตาเป็นหัวหน้าเสี่ยงชีวิตจิตใจของชาติไทยเรา ต่อทองคำ ๑๐ ตัน ดอลลาร์ ๑๐ ล้าน ตัดสินกันลงในวันนั้น

         เป็นยังไงชาติไทยเรา เหลวไหลหรือจริงจัง หรือเด็ดเดี่ยว สง่างามทั่วโลกหรือว่าอยู่ใต้ก้นนรก เห็นกันคราวนี้ น้ำใจพี่น้องชาวไทยเราวัดกันตรงนี้ละนะ เอาให้จริงทุกคน ๆ เราค่อนข้างแน่ใจแล้วยังไงต้องได้ ว่างั้นเลย ให้เด็ดถึงคราวเด็ด เมื่อเป็นคราวเด็ดให้รู้น้ำใจของชาติไทยเราคราวนี้ นี่จึงเรียกว่าเด็ดทีเดียว งานคราวนี้เป็นงานที่ประกาศชาติไทยของเราทั้งความได้ความเสียจะออกมาระยะเดียวกัน ถ้าเราไม่ได้อย่างงั้นแล้วเสียอย่างหลุดลุ่ยเลยเทียวนะ หลวงตานี่ตกทะเลไปหาปลาฉลามกิน จะเรียกปลาฉลามมาทั้งหมดมากินหลวงตาบัวคนเดียว ถ้าทองคำไม่ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วดอลลาร์ไม่ได้ ๑๐ ล้าน เราจะเรียกปลาฉลามใหญ่ทั้งหมดมากินเราคนเดียว เพราะผู้นำไม่เป็นท่า ทีนี้ตรงกันข้ามได้แล้วเท่านั้น สง่างามพวกเราทั้งประเทศไปหาค้นคว้าเอาปลาฉลามในทะเลหลวงมากินเลี้ยงกัน เอาตรงนี้แหละ ใครจะเก่งปลาฉลามกับพี่น้องชาวไทยเอากันตรงนี้แหละนะ

         หลวงตาก่อนที่จะประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบได้พิจารณาเต็มกำลัง ความเหมาะสม ความด้อย ความยิ่งความหย่อนอะไรมาพิจารณาหมด แล้วก็ลงในจุดทองคำให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน ให้ดอลลาร์ ๑๐ ล้านแล้วพอใจ กิตติศัพท์กิตติคุณของพี่น้องชาวไทยเราจะแผ่กระจายออกไปอย่างสง่างาม หาที่ต้องติไม่ได้เลย เราเอาตรงนี้นะ ถ้าขาดนี้แล้วไม่เหมาะสมกับเราช่วยชาติกันทั้งประเทศ โดยทั่วโลกทราบกันหมด กำลังวังชาของเราเป็นยังไงที่กำหนดไว้นี้เหมาะสมแล้ว ถ้าไม่ได้อันนี้เรียกว่าขาดสะบั้นไปเลย ต้องให้ได้เท่านั้น หรือยิ่งกว่านั้นยิ่งสง่างามมาก แต่เราคิดว่าจะยิ่งกว่านั้นอีก

         เพราะมันมีอันหนึ่งคือมันแป้วใจอยู่ ดังที่เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายทราบ เพราะอันนี้ยังไม่ใหญ่ ที่ใหญ่ก็คือทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน จึงต้องออกอันนี้ก่อนเลย ที่ว่ามันแหว่ง ๆ คือเราไปดูทองคำในคลังหลวง ถามเขาทุกสิ่งทุกอย่าง เวลาได้ทองคำ ความจริงของทองคำออกมาจากคลังหลวงนั้น มันเป็นทองคำที่ได้มาคี่ ไม่คู่ มีอยู่ในคลังหลวงเวลานี้มันคี่ มันไม่คู่ แต่เราไม่ถือเป็นของจำเป็น ถือจำเป็นตั้งแต่ว่า ทองคำเราในคลังหลวงเวลานี้มีน้อยมาก เพราะฉะนั้นจึงออกมาประกาศตั้งแต่เย็นวันนั้นเลยเชียว ตั้งแต่วันออกจากคลังหลวง คือวันนั้นไปมอบทองคำที่คลังหลวง พอเสร็จแล้วหัวหน้าคลังหลวงก็นิมนต์เราไปดูทองคำ ไปดูทุกซอกทุกมุม ถามละเอียดลออ ได้ความชัดเจนแล้วออกมาก็ประกาศเลยตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งบัดนี้

         จึงได้ทราบว่าทองคำมันแหว่งอยู่ตรงนั้น อันแหว่งนี้เราไม่ทำเหมือนทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันนะ ๑๐ ตันนี้เอาจริงเอาจังทีเดียว เรียกว่าประกาศความสามารถของคนไทยทั้งชาติลงในทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ส่วนที่มันเป็นคี่อันนี้เราเปิดช่องเอาไว้เล็ก ๆ น้อย ๆ เปิดช่องนั้นช่องนี้ไว้ เราจะค่อยพูดออดเอา นี่ยังขาดเท่านั้น ยังคี่นะ คนนั้นให้มา คนนี้ให้มา แล้วมันจะคู่ เข้าใจไหม เราคิดไว้อย่างงี้ อันนี้เรียกว่าพูดออดเลยนะ เขาให้ก็ได้ เขาไม่ให้ก็ได้ว่างั้นเถอะ ที่มันคี่ มันไม่คู่ เช่น ๙ อย่างงี้นะ ๙ ได้มา ๑๐ ก็ ๑๙ ไปเสีย มันมา ๑๐ อีกก็ ๒๙ ไปอย่างงั้น มันไม่คู่ ถ้า ๑๙ แล้ว ๒๐ นั่นเต็มแล้วนะคู่ ๓๐ เต็มแล้วคู่

         เราจะพยายามให้ได้จุดนี้ละที่มันคี่ พออันนี้เต็มแล้วก็พอใจ จึงได้แย็บ ๆ ออกให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายทราบทั่วกันบ้างแล้ว ถึงเรื่องว่าทองคำที่เรายังคี่อยู่ แต่ยังไงต้องพยายามทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน จึงไม่พูดเรื่องทองคำคี่ ไม่พูด ออกสนามแต่ทองคำ ๑๐ ตัน ออกมาตลอด อันนั้นก็ค่อยพิจารณาทีหลัง จะค่อยเป็นค่อยไป แล้วการประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบก็จะประกาศอยู่อย่างงี้ แล้วบัญชีเราก็ไม่ปิด ปิดแต่การรบกวนพี่น้องทั้งหลาย คือประกาศไปเที่ยวรบกวนที่นั่นที่นี่ทั่วประเทศไทย มาเป็นเวลา ๕ ปีกว่านี้แล้ว นี่จะหยุดกึ๊กทันทีเลย พูดให้มีสัตย์มีจริง เรียกว่าไม่ทำอย่างนั้นแล้ว เมื่อได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันนี่แล้ว

         ทีนี้ก็มีแต่พูดประกาศให้ทราบว่า ทองคำที่เรายังคี่อยู่นั้นเราก็เปิดบัญชีเอาไว้ คือบัญชีเราเปิดไว้ตามเดิม ได้ทองคำมามากน้อยก็จะรวมเข้าหลอม เมื่อพอมอบเมื่อไรก็มอบตามเดิม ๆ อย่างนี้ ทั้งดอลลาร์ ทั้งทองคำ เราจะปฏิบัติตามเดิม คือเปิดบัญชีไว้ เป็นแต่เพียงเราไม่ออกรบกวนพี่น้องทั้งหลายเท่านั้นแหละ กรุณาทราบตามนี้ นี่ก็จะพยายามให้ได้คู่ ถ้าได้คู่แล้วหัวใจนี้เต็มตื้นไปด้วยความปีติยินดีในความสามารถของพี่น้องชาวไทยเรามีความรักชาติทั่วหน้ากัน เอาตรงนี้ให้เต็มเหนี่ยว ส่วน ๑๐ ตันนั้นก็เรียกว่าเอาเต็มเหนี่ยวแล้ว เมื่อมันพอเศษพอเหลือไปอีกควรได้อีกขยับอีก ให้ได้คู่ พอได้คู่แล้วอิ่ม กินน้ำไม่กินน้ำก็ได้ ข้าวต้มขนมเต็มท้องแล้วไม่ตาย ไปเลย ถ้าคี่นี้ยังมีช่องต้องกินน้ำอีก กินข้าวอิ่มแล้วยังไม่พอ ต้องกินน้ำอีกที ช่องคี่นะ พอกินน้ำเต็มปุ๊บแล้วพอ เอาตรงนี้ละนะ จำให้ได้ทุกคน

คราวนี้ละคราวชาติไทยของเราจะสง่างาม ด้วยน้ำหนักทองคำ ๑๐ ตันและดอลลาร์ ๑๐ ล้าน โดยมีหัวหน้านำออกประกาศ แล้วได้ตามนั้น ได้ตามนั้นมันก็กระจายถึงน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่รักชาติกันอย่างเต็มที่แล้วได้จำนวนนั้นมา เราจะสง่างาม เมืองนอกเมืองนาเวลานี้เขาจ้องเป็นดาบสองคม ดาบหนึ่งคอยจะตัดคอเรา ดาบหนึ่งเพื่อจะหาฟันแตงโมมาเลี้ยงพวกเรา ว่าได้ทองน้ำหนัก ๑๐ ตัน เข้าใจไหม วันนี้พูดถึงเรื่องทองคำเพราะจวน แล้วก็เร่งทองคำขึ้นเรื่อยๆ สำหรับทางด้านจิตใจ ก็ได้เทศน์แทบทุกวันละมั้งเรื่องทางด้านจิตใจ เรื่องธรรมเข้าสู่ใจโดยเฉพาะๆ ทองคำก็มีแฝงกันไป ทั้งธรรมภายในใจ ทั้งทองคำที่เป็นด้านวัตถุก็ไปด้วยกันทุกวันนั้นแหละไม่มากก็น้อย

เอานะพี่น้องทั้งหลายจะเบาลงในจุดนี้ แต่สำหรับเราหนักกว่าพี่น้องทั้งหลายนะ รวมมาอยู่เราคนเดียว รู้สึกหนักมาก เวลาปลงก็ใส่ตูมเลยเทียว กระจ่างทั่วโลกเลย ได้ยินแล้ว ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันสมบูรณ์แบบแล้ว ดอลลาร์ ๑๐ ล้านเป็นอย่างน้อย ต้องได้ ขึ้นเวทีแล้วถอยไม่ได้ เอาคอขาดเลยเทียว เมื่อวานนี้ทางหินหมากเป้งก็มา คณะประชาชนพระเณรมา ๓ วัด วัดวังน้ำมอก วัดถ้ำฮ้าน วัดหินหมากเป้ง ๓ วัดมา แล้วก็ประชาชนรวมกันมา ได้ทองคำ ๑ กิโลกับ ๑๖ บาท เมื่อวานนี้ แล้ววันนี้ก็ได้เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างนี้ ต่อไปก็ขยับเรื่อยๆ ทั้งหาเงินเข้าบัญชี แล้วรอทองคำ คือหาเงินเตรียมเข้าบัญชีๆ บัญชีไหนมีมากว้านเอาเข้ามาๆ รวมจ่อ พอราคาทองคำลดลงพอฉวยได้ทีไรก็ฉวยมับๆ คือเราจะพยายามเอาจังหวะที่ทองราคาลด เพราะเงินเรามีน้อย เราจะพยายามเอาเวลาราคาทองลดลงบ้าง เวลาขึ้นไม่เอา จะเอาตอนเวลาลดลง จึงต้องได้เตรียมหาเงิน เงินใครโอนมาจากทางไหนๆ เข้าบัญชี เราเตรียมพร้อมไว้ๆ เสร็จแล้วโอนเข้าบัญชี จ่ออยู่ที่โรงหลอม เงินจ่ออยู่นั้น พอลงนี้ปั๊บฉวยมับเลย เวลานี้เป็นอย่างนั้น ใครโอนมาให้มากน้อยนี้เราจะรวมเข้าบัญชีๆ จ่อไว้ปากคอก พอทองคำลดลงบ้างเอาเลยๆ เป็นระยะๆ ไป นี่ก็เอามาเรื่อยๆ อย่างนั้น

วันนี้เทศน์เท่านั้นละไม่พูดอะไรมาก มีมากมีน้อย เพราะเทศน์มามากต่อมากเหนื่อยวันหนึ่งๆ ตั้งแต่เทศน์กรมประชาสัมพันธ์มาแล้วดูไม่ได้เทศน์ที่ไหนอีกนะ โอ๋ ไปบ้านหนองตูม-หนองใหญ่ หนหนึ่งนะ ดูมีเท่านั้นมัง ตั้งแต่เทศน์กรมประชาสัมพันธ์มาแล้วก็มาเทศน์ที่หนองใหญ่-หนองตูม แล้วก็ที่ศาลาใหญ่หน้าวัด เป็นสองกัณฑ์นะ อย่างนั้นแล้วได้หยุดได้ถอยเมื่อไร จะให้พรนะ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก