อย่าเย่อหยิ่งจองหองต่อชาติ
วันที่ 26 มิถุนายน 2546 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม

เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๖

อย่าเย่อหยิ่งจองหองต่อชาติ

 

ตัวไหนน่ะมันกัดกันแล้ว (เขาขังไว้ในกรงครับ) ก็นั่นซี ใครเอาหมามาปล่อยเรื่อยๆ  วัดนี้จะกลายเป็นวัดหมานะ แต่ยังไม่ได้ประกาศใช้ภาษาในทางการ โดยติดประกาศไว้ที่หน้าวัดว่า นี้คือวัดหมา เสียงลั่น เอามาปล่อยเรื่อยๆ ไม่ได้นะ ทำสุ่มสี่สุ่มห้า พวกญาติโยมไม่ค่อยมีขอบมีเขตมีเหตุผลอะไรเลย ทำสุ่มสี่สุ่มห้า ในวัดก็ไปทำให้เสียเรื่อยๆ เพราะอยู่ในบ้านก็ทำตัวเสีย อยู่ในบ้านในเรือนโดยลำพังตัวเอง ก็มีแต่ทำตัวให้เสียเรื่อยๆ ครั้นเวลาเข้าไปในวัดซึ่งเป็นสถานที่ท่านบำรุงรักษา ก็ไปทำลายจนได้นั่นแหละไม่ว่าวัดไหน เฉพาะวัดที่ไม่ได้เข้มงวดกวดขันอะไรนักนี้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง วัดที่ท่านมีการบำรุงรักษาเข้มงวดกวดขันอย่างนี้ ไปเลอะเทอะใส่ท่านมากอยู่นะ

สำหรับวัดนี้สถานที่นี่ จะว่าเข้มงวดหรือไม่เข้มงวดก็รู้ คนเข้ามาในวัดก็รู้ หมาเข้ามาในวัดก็รู้ แม้ที่สุดหมาสีใดก็รู้ มีจำนวนมากก็รู้ จำนวนน้อยก็รู้ เวลานี้กำลังคนเอาหมามาปล่อยในวัดนี้ ประกาศขึ้นมานี้มันได้สักกี่ตัวแล้ว (๕ ตัวครับ) ถ้าเอาสองคูณเข้าไปมันก็เป็น ๑๐ ตัวใช่ไหม เป็นอย่างนั้นนะเดี๋ยวนี้ มันเลอะเทอะไปแล้วนะ ไปที่ไหนส่วนมากมักประชาชนแหละไปทำให้วัดเลอะเทอะ ไม่พูดที่ไหนแม้แต่วัดป่าบ้านตาดเรา เราเคยปฏิบัติมาอย่างไร เดี๋ยวนี้จนดูไม่ได้นะ เราทนดูเอา หลับหูหลับตาดู เพราะเคยเข้มงวดกวดขัน เคยปฏิบัติรักษามาอย่างมีระเบียบเรียบร้อย คือหลักธรรมหลักวินัยตั้งเป็นเกณฑ์ไว้เลย ให้ก้าวเดินตามนั้นๆ ครั้นแล้วก็มาเลอะเทอะไปหมด

มาที่นี่กำลังหมาสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกในวัดนี้ เป็นแต่เพียงว่าเรายังไม่ได้ติดประกาศออกใช้เป็นทางการว่า นี้คือวัดหมา เวลานี้มี ๕ ตัวแล้ว ถ้าคูณด้วยสองก็จะเป็น ๑๐ ตัว กำลังเริ่มขึ้นแล้วเวลานี้ เห่าว้อก ๆ แว้กๆ อยู่ทุกแห่งทุกหน นี่พูดถึงเรื่องมีขอบมีเขต อะไรก็ตามถ้าไม่มีขอบเขตหลักเกณฑ์ใช้ไม่ได้นะ ต้องให้มีขอบเขตมีหลักมีเกณฑ์มันถึงจะน่าดู

นี่เราก็กำลังช่วยพี่น้องชาวไทย มีขอบมีเขตมีหลักมีเกณฑ์อย่างไรบ้างหรือไม่ คน ๖๒ ล้านคน รวมแล้วอย่างน้อย ๖๒ ล้านคน มีความสุขความทุกข์กระเทือนกันทั่วไปหมด ถึง ๖๒ ล้านคน เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน รับผิดชอบด้วยกัน ถ้าว่าบำรุงรักษาก็บำรุงรักษาด้วยกัน หรือจะว่าทำลายก็ทำลายด้วยกัน หากเวลาจะจมก็จะจมกันทั้งชาติ เวลาจะฟื้นฟูก็คนทั้งชาติไม่มาช่วยกันบำรุงรักษาอุ้มชู ใครจะเป็นผู้อุ้มชู ก็ต้องชาติไทยของเรา ด้วยเหตุนี้พี่น้องชาวไทยควรจะคิดให้ละเอียดลออบ้างนะ อย่าสักแต่ว่าพูดออกมาอย่างหลุดปาก ๆ ไม่ได้คิด ว่าหลวงตาบัวกำลังช่วยชาติ บางคนก็ว่าเฒ่าแก่จะตายแล้วยังมาตะเกียกตะกายช่วยชาติ อย่างนี้ก็อาจมีหรือมีแล้วก็ไม่ทราบ เราอยากจะตอบสวนหมัด โคตรพ่อโคตรแม่มึงเคยเอาคนตายแล้วมาช่วยชาติเหรอ กูยังไม่ตายกูแก่ขนาดไหนกูช่วยได้กูก็ช่วยไป เวลาสวนก็ต้องสวนอย่างนั้น เข้าใจไหม มันต้องสวนอย่างนั้นซิสวนหมัด เข้าใจไหม

อย่ามาเล่นนะ เวลาสวนมันเอาจริงนะ ปั๊บเลยใส่นี้เลย ให้พากันพิจารณา ช่วยชาติบ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดเท่านั้น ต้องเป็นคนไทยทั้งชาติ ๖๒ ล้านคน เป็นไทยล้วนๆ มีความรับผิดชอบด้วยกัน การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันก็ให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยในหัวใจของทุกคน เวลานี้เรากำลังช่วยชาติ ขอให้คิดเข้าในหัวอกเต็มหัวอกด้วยกันทุกคน ตั้งแต่หมูหมามันอยู่ในบ้านเรามันก็ทนไม่ได้ ว่าเจ้าของไปช่วยชาติหรือไปปู้ยี่ปู้ยำอะไรไม่รู้ หมาในบ้านเราก็ดี ทีนี้คนทั้งคนทั่วประเทศไทยเรา จะมาคิดตั้งแต่ว่าหลวงตาบัวช่วยชาติๆ พี่น้องทั้งหลายเป็นอะไร เป็นชาติอะไร ก็เราไม่ใช่ชาติหมา เราชาติคน หลวงตาบัวช่วยชาติ หลวงตาบัวก็เป็นคนไทย พี่น้องทั้งหลายเป็นอะไร ก็เป็นคนไทย หลวงตาบัวช่วยชาติเราก็ต้องช่วยชาติ เป็นก็เป็น ตายก็ตาย ทุกข์จนด้วยกัน เอา จมๆ ไปด้วยกัน เมื่อสุดกำลังแล้วมันจมได้ เอ้า จม

เวลานี้เป็นเวลาที่เราทั้งหลายจะช่วยชาติบ้านเมืองของเรา เอาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยกัน นับตั้งแต่ตาสีตาสาขึ้นมาในท้องไร่ท้องนา ก้าวเข้าสู่วงราชการงานเมือง จนกระทั่งถึงสูงสุดในบ้านเมือง เป็นผู้รับผิดชอบแห่งชาติไทยทั้งนั้น เวลาความล่มความจมจะจมกันหมดตั้งแต่ผู้ใหญ่ลงมาจนกระทั่งถึงตาสีตาสา ทีนี้เวลาเราจะอุ้มจะชูชาติไทยของเรา ก็ควรที่จะเป็นอย่างนั้น คือตั้งแต่ตาสีตาสาขึ้นมาจนกระทั่งถึงผู้ใหญ่สูงสุดในเมืองไทยเรา ออกมาด้วยน้ำใจของตนๆ ทุกคนๆ ซึ่งมีความรู้สึกว่าเราเป็นชาติไทย แสดงออกมาด้วยน้ำใจแห่งความรักชาติของคนไทย ด้วยความเสียสละ ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน

อย่าให้ได้ไปเที่ยวดุเที่ยวด่าเที่ยวโฆษณาว่าการทั้งๆ ที่เรารู้แล้วนะ ถ้าไม่รู้โฆษณาก็เป็นอันหนึ่ง เมื่อรู้แล้วก็ไม่ควรจะให้ไปร่ำรี้ร่ำไรซ้ำๆ ซาก ๆ ต่างคนต่างช่วยกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตั้งแต่ตาสีตาสาถึงวงราชการงานเมืองทุกหน่วยไม่มีเว้น ให้แสดงน้ำใจออกมาจากความเป็นผู้รักชาติ จากความเป็นนักปกครอง นักปกครองก็คือเป็นผู้รับผิดชอบ จะต้องได้พินิจพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่าง ตาสีตาสาดีไม่ดีเดินตามหลัง ไม่ใช่ตาสีตาสาจะเดินออกหน้าเจ้าออกหน้านาย ออกหน้าผู้ปกครองบ้านเมือง ไปเที่ยวเรี่ยไรซึ่งกันและกันเอาเงินมาช่วยชาติ แล้วชาติบ้านเมืองนอนตายเฉยใช้ไม่ได้นะ จืดจางมาก ท่านทั้งหลายเอาไปคิด นี้เป็นเรื่องของธรรม ไม่ใช่เรื่องจะไปบีบบังคับ หรือจะพูดเพื่อความกระแทกแดกดันแก่ท่านผู้หนึ่งผู้ใด พูดตามเหตุตามผลซึ่งควรจะเป็นอย่างนั้น สำหรับชาติไทยเราเป็นคนไทยทั่วหน้ากันหมด ให้มีความสมัครรักใคร่ชอบพอ สมัครใจที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่ต้องมีการบีบการบังคับบัญชากันแต่อย่างใด นี้จะมีคุณค่ามากที่สุดในเมืองไทยของเรา

เมืองนอกเขาก็ได้ยิน เช่น เมืองไทยไม่ได้ไปเที่ยวบีบบี้สีไฟกันมาช่วยชาติเขาก็รู้ เมืองไทยทำด้วยความสมัครใจ ด้วยความรับผิดชอบในชาติบ้านเมืองของตน เช่นเดียวกับเรารับผิดชอบในอวัยวะของเรา ต่างคนต่างช่วยกันรับผิดชอบ ต่างคนต่างอุดต่างหนุน เมืองนอกเมืองนาเขาก็รู้ ตั้งแต่เราผู้ทำยังรู้ คนในบ้านในเรือนเราก็รู้ ชาติไทยเราก็รู้ คนอื่นเขามีหูมีตาทำไมเขาจะไม่รู้ เขาต้องรู้ เพราะฉะนั้นขอให้แสดงน้ำใจออกมาอย่างนี้จะเป็นสิ่งที่นุ่มนวลมากทีเดียว ดีกว่าที่จะไปมีลักษณะบีบบังคับหรือบังคับ อย่างนี้ไม่เหมาะ เพราะชาติเป็นของทุกคน ความล่มจมเสียหายเป็นของทุกคน ต่างคนต่างที่จะอุ้มชูนี้ก็ต้องเป็นของทุกคนช่วยกัน ขอให้พี่น้องทั้งหลายนำคำนี้ไปคิดให้ดีนะ ให้เป็นความสมัครใจ

การปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาติของเรานั้น ปรึกษาหารือได้ไม่ขัดข้อง แต่การที่จะไปเที่ยวบีบเที่ยวบังคับเอามาช่วยบ้านช่วยเมืองของเราอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ไม่มีเหตุผลที่ควรจะทำอย่างนั้น จึงไม่ควรทำ ให้เป็นน้ำใจของแต่ละท่านๆ แสดงออกมา ตั้งแต่ตาสีตาสาถึงผู้ใหญ่ เป็นความพร้อมเพรียงสามัคคี สมกับเหตุกับผลว่าเราเป็นผู้รับผิดชอบเป็นขั้นเป็นภูมิในบ้านเมืองของเราด้วยกันทุกคน แล้วการแสดงออกมา ผลที่แสดงออกมานี้จะเป็นความชุ่มเย็น ในเมืองไทยเราก็ชุ่มเย็นด้วยกัน ต่างคนต่างสมัครใจ เมืองนอกเมืองนาเขามีหูมีตา เขาก็จะได้อนุโมทนาสาธุการว่า เมืองไทยของเราไม่ต้องบีบต้องบังคับอะไร ต่างคนต่างช่วยเหลือกันด้วยน้ำใจแห่งความรักชาติทั่วหน้ากัน เขาพอใจ

ดีกว่าที่เราไปเที่ยวหาบีบหาบังคับ ได้มาเงินจำนวนเท่ากันก็ตาม แต่คุณสมบัติและคุณธรรมมีความแข็งอ่อนต่างกัน ถ้าเป็นความสมัครใจด้วยกันทุกคนแล้ว นุ่มนวลมากทีเดียว ถ้าเป็นความบีบบังคับ ได้มาเท่ากันก็ไม่เหมาะสม มีความไม่สะดวกสบายในใจ อย่างน้อยไม่สะดวกสบาย มากกว่านั้นเคียดแค้นให้กัน อย่างนี้ไม่ควรให้มีในเมืองไทยของเราซึ่งเป็นเมืองรับผิดชอบตัวเองทั่วหน้ากัน ให้ต่างคนต่างสมัคร ต่างคนต่างพร้อมเพรียงสามัคคี ขาดเท่าไร เอ้า หนุนกันเข้ามาๆ เมื่อสมบัติเงินทองมีอยู่ หากไม่มีแล้วจำเป็น ก็เห็นใจกันคนเรา ถ้ามีอยู่แต่ทำเมินเฉย ทำเย่อหยิ่งจองหองต่อชาติของตน นี้เรียกว่าพวกนี้ขึ้นขี้บนหัวชาติไทยของเรา ไม่ดี อย่าไปเย่อหยิ่งจองหองต่อชาติซึ่งเป็นเรื่องใหญ่โต ชาติไทยเป็นพ่อแม่ของไทย อย่าขึ้นไปเหยียบอยู่บนชาติไทยด้วยความเย่อหยิ่งจองหอง อย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ ให้มีน้ำใจทุกคนๆ

หลวงตาที่นำตัวเพื่อเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายนี้ หลวงตาก็ออกมานำด้วยความสมัครใจ ด้วยความเห็นโทษแห่งความล่มจมของชาติไทย และเห็นคุณค่าแห่งความช่วยเหลือ และพร้อมด้วยความสามัคคีซึ่งกันและกัน จึงได้ออกมาประกาศและนำพี่น้องทั้งหลายตลอดมาอย่างนี้ ผลประโยชน์ที่ได้มามากน้อยหลวงตาไม่สนใจ แม้บาทหนึ่งหลวงตาไม่เคยมีในใจ ว่าได้หยิบเอาสิ่งของของท่านทั้งหลายมาเป็นสมบัติของตัว ด้วยความเป็นมลทินมืดมัว เราไม่มี เราบริสุทธิ์เต็มเหนี่ยว สมกับเราช่วยชาติด้วยความเมตตาล้วนๆ เราพอใจทุกอย่างในสิ่งที่เรารับจากบรรดาพี่น้องทั้งหลาย มาจับมาจ่ายมาเก็บมารักษา ด้วยความมีเหตุมีผลทุกอย่าง เราไม่ได้ทำสุ่มสี่สุ่มห้า นี่ละขอให้พี่น้องทั้งหลายตายใจ เพราะเราช่วยชาติด้วยความเมตตาจริงๆ จึงกล้าประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ด้วยเจตนาที่ออกมาจากเมตตาจริงๆ เอ้า ให้ช่วยกัน ๆ ใครมีมากมีน้อย เราไม่ได้เป็นเศรษฐีทั่วหน้ากัน ผู้มีก็มี ผู้จนก็จน ใครมีมากมีน้อยเฉลี่ยออกมาด้วยน้ำใจ นั้นละเป็นที่พอใจมากทีเดียว

วันนี้พูดถึงเรื่องการช่วยชาติบ้านเมือง เวลานี้ก็กำลังเร่งรัดเข้าไป เราพยายามที่จะให้สมบัติคือทองคำให้ได้ ๑๐ ตัน คราวนี้เป็นคราวเด็ดของชาติไทยเรา ท่านทั้งหลายให้ดูจุดนี้ให้ดีนะ ถ้าจุดนี้อ่อน สมมุติว่าทองคำไม่ครบ ๑๐ ตัน แสดงความเหลวแหลกแหวกแนวไม่เอาไหน จืดชืดของชาติไทยทั้งชาติ ไปที่ไหนไม่มีใครอยากคบค้าสมาคม ตั้งแต่ชาติของตัวเพียงเท่านี้ยกกันไม่ได้ คนถึง ๖๒ ล้านคน ทองคำเวลานี้ซึ่งขาดอยู่เพียง ๓ ตันกว่าเท่านั้นก็ยังยกไม่ได้นี้เราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไปที่ไหนเขาก็ชี้หน้าๆ  เพราะฉะนั้นหน้าใครก็มีค่ามีราคาด้วยกัน เราจึงต้องรักษาหน้ารักษาตา รักความศักดิ์ศรีดีงามของเรา เอา หนุนเข้าไปเลย มีเท่าไรหนุนมา มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก เอาให้มันถึงเขตถึงแดน คือให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน

นี่หลวงตาซึ่งเป็นหัวหน้าพี่น้องทั้งหลาย ได้ประกาศแล้วด้วยความพินิจพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่าง ว่าทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันนี้เหมาะสมกับชาติไทยเรา ซึ่งมีจำนวนพลเมือง ๖๒ ล้านคน กับทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์ ๑๐ ล้านนี้ เห็นว่าเหมาะสมแล้ว เราไม่คืบคลานหรือกระดืบกระเถิบขึ้นไปยิ่งกว่านี้ ซึ่งจะเกินฐานะของชาติไทยเรา ทำให้เป็นระยะๆ เป็นพักๆ ไปในคราวนี้ ก็เพราะชาติไทยของเรานี้จะล่มจมเห็นกันทั้งประเทศ เราจะเอานี้มากลบมาถมมันให้มันราบรื่นดีงาม ด้วยทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันและดอลลาร์ ๑๐ ล้าน ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากัน

เอ้า ช่วย ฟาดตั้งแต่เด็กเล็กเด็กน้อย พ่อให้บาทหนึ่ง แม่ให้บาทหนึ่ง ลูกให้คนละสองสลึง เข้าใจเหรอ เพิ่มเข้าไป พ่อบาท แม่บาท ลูกคนหนึ่งสองสลึง ถ้ามีลูกสองคนก็เป็นสี่สลึง เป็นหนึ่งบาท ถ้าหกคนก็เป็นหกสลึง หลายกว่านั้นก็แปดสลึง สิบสลึง ต่อไปก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากเล็กจากน้อยขึ้นถึงสูงสุดได้นะ เอาละ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ ให้พากันทราบทั่วหน้ากัน ตั้งแต่ตาสีตาสาขึ้นไปถึงสูงสุดแห่งชาติไทยของเรา ให้พร้อมหน้าพร้อมตา ประกาศความเป็นผู้รักชาติ ศักดิ์ศรีดีงามแห่งชาติไทยของเรา ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีลงในความเสียสละ เอาละเพียงเท่านี้แหละนะ

 

ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาทุกวัน ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก