เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๖
ผู้ตายหวังพึ่งผู้มีชีวิตอยู่
ก่อนจังหัน
เวลาปัดกวาดให้ต่างคนต่างสังเกตพระเรานะ ให้ดูซอกแซกซิกแซ็ก ตรงไหนไม่เหมาะไม่ดีให้จัดให้ทำให้น่าดู นั่นละ คือน่าดูในเจ้าของเอง สังเกตตรงไหน ๆ ความสังเกตออกไปจากใจ ใจรอบคอบสิ่งภายนอกก็เรียบร้อย ถ้าภายในชุ่ย ๆ ภายนอกดูไม่ได้เลย มีแต่ส้วมแต่ถานเต็มวัด เต็มบริเวณวัด มองไปที่ไหนมีแต่ความสกปรกโสมม นี่แสดงออกมาจากใจ ใจสกปรก ใจไม่มีสติไม่มีปัญญาไม่มีความเพียร ไม่มีความพินิจพิจารณา จะทำสิ่งภายนอกให้เป็นเครื่องประกาศตัวเองทั่วทั้งวัดเรา ท่านทั้งหลายสังเกตให้ดี ดูอะไรก็ตามอย่าลืมดูตัวเอง ดูสติดูปัญญาดูความรอบคอบ
การทำที่ไหนอย่าไปคิดว่าคนนั้นทำมากคนนี้ทำน้อย ใครทำน้อยใครทำมาก ความน้อยความมากในผลประโยชน์ หรือความไม่เป็นท่าและความเป็นท่าจะอยู่กับผู้ทำมาก ผู้ทำน้อยนั้นแล นี่เป็นเครื่องประกาศให้เราผู้มุ่งหน้ามุ่งตามาปฏิบัติคือ เพื่อข้อวัตรปฏิบัติเป็นสิ่งประดับพระเณรออกมาจากความเพียร สติปัญญารอบคอบทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เวลาผมไม่อยู่ก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นปัญหา หลักธรรมหลักวินัยคือองค์ศาสดาติดอยู่กับทุกคนผู้มีสติ มีวิริยะ มีปัญญาเป็นที่ระลึก นี่คือความเทิดทูนพระพุทธเจ้าอยู่จุดนี้นะ
ท่านสอนไว้แล้วว่า พระธรรมและพระวินัยนั้นแล จะเป็นศาสดาของเธอทั้งหลายแทนเราตถาคตเมื่อเราตายไปแล้ว นี่คือศาสดาติดกับเราผู้มีสติเทิดทูนหลักธรรมหลักวินัย ไม่ปราศจากพระพุทธเจ้า นี่ละมรรคผลนิพพานจะอยู่จุดนี้นะ ไม่ได้อยู่จุดที่ว่าพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วจืดชืดไปหมด กิเลสรุมเข้ามามีแต่รสแต่ชาติ ทำให้เราล่มจมได้นะ ถ้าพระพุทธเจ้าคือธรรมคือวินัย ธรรมและวินัยนั้นอะไรจะเป็นผู้ยึดผู้เทิดทูนคือ สติธรรม ปัญญาธรรม วิริยธรรมนั้นแหละเป็นผู้เทิดทูน ให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้นะ
การปฏิบัติเราอย่าไปมองกาล สถานที่ เวล่ำเวลา ยิ่งกว่ามองความบกพร่องของเรา บกพร่องตรงไหนให้รีบแก้ไขดัดแปลงทันที ๆ ใครจะทำมากทำน้อยอย่าไปคิด คนอื่นมากยิ่งกว่าตัวเองทำมากทำน้อย รอบคอบหรือไม่รอบคอบ สมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ ทุกคนให้ยึดเข้ามาในจุดนี้ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะสวยงามไปหมด
พระเณรก็มีมาก ผมเห็นใจนะ ที่จะได้ประชุมเทศน์สอนพระเณรนี้ ไม่ค่อยมีเวลานั้นก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง เรื่องธาตุเรื่องขันธ์ที่ทุ่มเทให้โลกมาจนแทบจะไปไม่ไหวแล้ว ก็จะเอาอะไรมาสั่งสอนพระ ขอให้ท่านทั้งหลายได้คิดได้เห็นใจตรงนี้ เวลานี้กำลังช่วยชาติบ้านเมืองของเรา ซึ่งเรียกว่า ยอบแยบมาก เวลานี้กำลังเริ่มฟื้นขึ้นมา เพราะความอุตส่าห์พยายามของพี่น้องชาวไทยทั้งชาติด้วยความตื่นตัว อะไรก็ตามถ้ามีความตื่นตัวตื่นใจแล้ว จะดี ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ ในทางที่ดี ถ้าตื่นไปในทางที่ชั่ว ปลุกไม่ปลุกมันก็ตื่นอยู่แล้วกิเลส ไปปลุกมันหาอะไร ธรรมะนี้ต้องได้ปลุกไม่ปลุกไม่ได้นะ จนกว่าธรรมจะก้าวเดินได้และออกคล่องตัว แล้วธรรมก็ลื่นเหมือนกันกับกิเลสเคยลื่นมาก่อนนั่นแหละ ต่อไปนี้จะให้พร
หลังจังหัน
สรุปทองคำและดอลลาร์เมื่อวันที่ ๒๐ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๖ บาท ๖๐ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๕๘ ดอลล์ รวมทองคำที่ได้แล้วทั้งหมด ๖,๒๖๔ กิโลครึ่ง ทั้งที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบ ดอลลาร์ได้ทั้งหมด ๗,๗๗๘,๘๖๕ ดอลล์ เวลานี้มุ่งหน้าใส่ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน เพื่อประดับประเทศชาติของเราให้สวยงาม ทองคำให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์ให้ได้ ๑๐ ล้านขาดไม่ได้ คราวนี้เป็นคราวที่เด็ดขาดเพื่อชาติไทยของเรา เราก็ได้อุตส่าห์พยายามมาเป็นเวลา ๕ ปีกว่าแล้ว ได้ทองคำน้ำหนัก ๖ ตันกว่า และดอลลาร์ได้ ๗ ล้านกว่า จะพยายามให้ถึงจุดหมายตามความเห็นและเริ่มประกาศออกมาว่า ในปี ๒๕๔๖ นี้ บรรดาพี่น้องชาวไทยเราจะริบรวมกำลังวังชาทั้งหลายมาบริจาค เช่น ทองคำให้ได้ ๑๐ ตัน และดอลลาร์ก็ ๑๐ ล้าน ภายในปี ๒๕๔๖ นี้
คราวนี้เป็นคราวที่จะให้สุดสิ้นในจุดนี้ จึงขอให้พากันพินิจพิจารณารีบด่วน แล้วตั้งหน้าตั้งตาขวนขวายเพื่อชาติไทยของเราให้แน่นหนามั่นคง การช่วยชาติคราวนี้เป็นประวัติศาสตร์อันใหญ่หลวงจากประเทศไทยของเรา ให้โลกภายนอกเขาได้อ่านได้ดู เพราะฉะนั้นเราจะทำอ่อนข้อย่อหย่อนไม่ได้นะ ประวัติศาสตร์นี้จะขายเราเอง แล้วใครอยากขายตัว ด้วยเหตุนี้เองเราจึงต้องเข้มข้นทุกคน อย่าเห็นว่าเป็นของใคร ชาติไทยเป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างบกพร่อง บกพร่องด้วยกันหมด ถ้าสมบูรณ์ก็สมบูรณ์ด้วยกันหมด เวลานี้เราจะให้ได้ตามต้องการที่กำหนดไว้แล้วว่า น้ำหนักทองคำ ๑๐ ตัน ขอให้ได้ และดอลลาร์ให้ได้ ๑๐ ล้าน นี่เป็นจุดมุ่งหมาย ได้นี้แล้วก็เป็นอันว่า หายห่วง ถูกต้องตามจุดมุ่งหมายไม่บกพร่อง
ถ้าทองคำได้บกพร่องไปจากจุดมุ่งหมายนี้แล้ว สำหรับหลวงตานี้ให้คอขาดไปเลย เราจะไม่มีอะไรเสียดายยิ่งกว่าชาติของเราบกพร่อง คอขาดไปเลยยังดีกว่าจะทนดูชาติไทยบกพร่อง ตามจุดที่ต้องการนี้ไม่ได้เรื่อง ซึ่งไม่ได้เหนือกำลังวังชาของเราไปได้เลย ขอให้พี่น้องทั้งหลายคิดอันนี้ให้ดีนะ ปักลงให้ได้ คราวนี้ปักลงให้ได้ ชาติไทยของเราจะล่มจะจมพี่น้องทั้งหลายก็เห็นกันอยู่แล้ว ตั้งแต่เป็นชาติไทยมานานเท่าไรๆ ก็ไม่เคยเห็นเด่นชัดเหมือนคราวที่แล้วๆ นี้ แหมใจหายๆ ทีเดียว แต่คราวนี้รู้สึกว่าฟื้นขึ้นๆ เต็มที่ นี่ก็เพราะพี่น้องชาวไทยตื่นเนื้อตื่นตัว ต่างคนต่างรู้จักมัธยัสถ์ วิ่งเต้นขวนขวาย และต่างคนต่างช่วยกันเต็มกำลังวังชาทุกคนๆ เช่น ทองคำก็หมุนเข้ามา ดอลลาร์หมุนเข้ามา เพื่อคลังหลวงของเรา แล้วค่อยเต็มตื้นขึ้นมาๆ อย่างที่เห็นนี้แหละ
อย่างไรต้องเอาให้ได้ หลวงตาก็ได้อุตส่าห์พยายามมาได้ ๕ ปีกว่าแล้วที่ช่วยพี่น้องทั้งหลาย เวลานี้ธาตุขันธ์ก็อ่อนลงๆ จิตใจก็เข้าไปหาจุดนั้นแหละ จุดน้ำหนักทองคำ ๑๐ ตัน ลงไปจุดนั้น อย่างไรขอให้ได้ตามจุดที่ต้องการนั้น เราจะเป็นที่พอใจ ตายเมื่อไรหลวงตาไม่มีห่วงอะไรนะ เวลานี้ห่วงแต่ทองคำ เพื่อเป็นเครื่องประดับชาติไทยของเรา เป็นเครื่องประกาศก้องออกไปว่า ชาติไทยไม่ใช่ชาติเหลวไหลเหลวแหลกจืดชืด เป็นชาติที่เข้มข้น มีเนื้อมีหนังมีรสมีชาติทุกอย่าง ทองคำก็ได้ตามน้ำหนัก ดอลลาร์ได้ตามน้ำหนักทุกอย่าง จากกำลังแห่งความรักชาติและความเสียสละของพี่น้องชาวไทยทั้งชาติ ประกาศออกมาสมบูรณ์แบบแล้ว นี่ละเราต้องการจุดนี้นะ
ความพร้อมเพรียงสามัคคีเป็นสำคัญมาก ความแตกความแยกทั้งหลายเป็นเรื่องทำลาย มหาภัย อย่าให้มีในเมืองไทยเรา ความแตกความแยก ความคัดความค้าน ความเตะถีบยันกันทำลายกัน สำหรับผู้ที่จะแบกชาติบ้านเมืองแบกแทบล้มแทบตาย ผู้ที่ไม่ทำอะไรมีแต่คอยเอาไฟไปเผาเขาๆ คนไทยประเภทนี้อย่าให้มีในเมืองไทยเรา เวลาไปตกนรกเพราะทำความชั่วต่อชาติของตนแล้ว ก็จะไปทะเลาะกับเขา ก่อกวนเขาอยู่ในเมืองนรกคนประเภทนี้ อย่าให้มี ให้ตั้งอกตั้งใจทุกคน
เราได้พยายามทุกอย่าง ทำเพื่อชาติไทยของเรานี้เราไม่ได้ทำเล่นๆ เอาจริงเอาจังทุกอย่างเลย เอาคอขาดเข้าไปเลยเทียว ไม่ใช่ทำเหยาะๆ แหยะๆ ทั้งจะสู้ทั้งจะถอยเราไม่มี เราพูดจริงๆ ว่าสู้แล้วจะฟัดเลยตลอด เรามีแต่อย่างนั้นภายในจิตใจและความขวนขวายของเราก็มีอย่างนั้น คำว่าอ่อนแอจืดชืดไม่มีในหัวใจของเรา ตลอดกิริยาที่แสดงออกต่อกิจการทั้งหลาย และต่อพี่น้องทั้งหลาย ดูเอานะ
เมื่อมีทองคำ ดอลลาร์ หนุนเข้าคลังหลวงของเราแล้ว คลังหลวงของเราก็แน่นหนาฝาคั่ง การหมุนตัวก็รื่นๆ ราบรื่นๆ เมื่อสมบัติมีอยู่ในคลังหลวงเท่านั้นแหละ ถ้าขาดเสียอย่างเดียว โอ๋ย ไม่เป็นท่านะ ใครมีเงินอยู่ในกระเป๋ากี่ล้านๆ ก็ตามไม่มีความหมายนะ จมได้ทั้งนั้น ถ้าสมบัติมีอยู่เป็นใจกลาง เป็นหัวใจของชาติ เข้าสู่คลังหลวงเต็มแล้วไม่จม ไม่จมเลย ผิดกันกับสมบัติมีอยู่ในกระเป๋าของใครมากน้อย เต็ม แต่คลังหลวงไม่สนใจช่วยเหลือ จมได้เลย เราจึงต้องพยายามให้ได้ทุกคนๆ
ได้มากได้น้อย เราไม่ใช่เศรษฐีนี่วะ ใครๆ เขาก็รู้เมืองไทยเราไม่ใช่เมืองเศรษฐี เรามีเท่าไรเราก็มาบริจาคตามกำลังวังชาของเรา แล้วมันก็มากขึ้นเองๆ สุดท้ายตั้งตัวได้ หมุนตัวได้ แน่นหนามั่นคงได้จากพวกเราพี่น้องชาวไทยซึ่งไม่เป็นเศรษฐีนี้แล รวมกำลังเข้าก็แน่นหนามั่นคงได้ เราอย่าไปคิดแต่ว่า เมืองเราไม่ใช่เมืองเศรษฐีแล้วอ่อนแอท้อแท้จืดชืด จมได้นะ ตรงไหนที่มันบกพร่องเอาเลย
เมื่อสองวันนี้เราไปทำอะไรนะ ไปถูกมดแดงเข้ามันกัดเรา แกะออกมันไม่ยอมออกเลยนะมดแดง จนได้ให้ใครมาช่วยนะ ค่อยแกะๆ มันออก แล้วเอาไปวาง คือมันสู้ไม่ถอย มดแดงสู้ไม่ถอยนะ ถ้าลงได้กัดแล้วดึงออกนี้คอขาดเลยมดแดง ที่จะให้ปล่อยจากมันงับอย่างนี้ไม่มี งับเข้าแล้วถ้าดึงออกคอขาด อันนี้ไม่ยอมปล่อยนะ มันเป็นนักสู้ เท่าที่เราผ่านมาในบรรดามดนะ มีมดแดงเป็นที่หนึ่ง เราเคยทดลองมันหลายครั้งหลายหน เราก็อดหัวเราะอยู่ในใจไม่ได้ บางทีหัวเราะกับมันในรังด้วยความเมตตา แหม สัตว์เหล่านี้มันพร้อมเพรียงสามัคคีกันจริงๆ จังๆ
มันเป็นรังอยู่นี้ เราเอามือไปใส่นี้ โอ๋ย ปุบปับๆ มาเลยต่อตัวกันขึ้นจะสู้เรา ๆ เรายกมือขึ้นเขาต่อตัวขึ้นเขาไม่ถอย นี่ละเป็นอย่างนั้นละ ให้เอามาเป็นคติพี่น้องทั้งหลาย ความกล้าสู้กล้าทำทุกอย่างนี้เป็นธรรมเมื่อเป็นทางที่ดีนะ ถ้าเป็นทางที่ชั่วเหลวไปเลยเลวไปเลย ให้จำเอานะ
วันนี้หลังจากจังหันนี้แล้วหลวงตาก็จะได้ลงไปกรุงเทพ พอไปนี้แล้ววันพรุ่งนี้ก็จะไปเทศน์ที่เมืองกาญจน์ กาญจนบุรีเมืองอะไรพวกทหารอะไร ๆ มาตายกันอยู่ที่นั่น หลวงพ่อสังวาลย์ท่านคิดถูกต้องดีงามมาก ท่านจึงบอกบรรดาลูกศิษย์ลูกหาให้รวมน้ำใจกันช่วยเหลือผู้ที่ตาย เพราะผู้ที่ตายนั้นจะต้องหวังพึ่งผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเราไปทำบุญให้ทาน ท่านเหล่านั้นก็จะได้รับส่วนบุญ ๆ แล้วผ่านพ้นถึงขนาดไปสวรรค์ได้ก็มีเยอะ นี่ละจึงต้องได้ช่วยกัน ในอะไร
โยม สะพานข้ามแม่น้ำแควครับ
หลวงตา สะพานข้ามแม่น้ำแควหรืออะไรนี่ละ ติโรกุฑฑกัณฑสูตร ท่านแสดงไว้ชัดเจนมากนะ ผู้ที่ตายแล้วเข้ามาแอบมาแฝงอยู่ตามบริเวณบ้าน นอกฝาเรือนบ้างที่ไหนบ้าง เวลาญาติรับประทานอาหารมาเฝ้าดู คือมันไม่ใช่ฐานะที่จะมากินร่วมได้พูดง่าย ๆ มันเป็นฐานะอีกอย่างหนึ่งต่างหาก ผู้ที่ญาติของตัวเองใจจืดใจจาง เวลาญาติตายไปแล้วมาอยู่ในบ้านก็มาท้องแห้งอยู่ในบ้าน ญาติที่ไม่ใจจืดใจจางทำบุญอุทิศให้ แล้วพวกเปรตทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้มารับส่วนบุญส่วนกุศล และอนุโมทนาสาธุการแล้วไปสวรรค์เลย เพราะอำนาจแห่งการช่วยเหลือกันด้วยการอุทิศ นี่ใน ติโรกุฑฑกัณฑสูตร มีชัดเจนมาก พวกที่โศกเศร้าเหงาหงอยไปก็มี พวกที่ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลไปก็มาก นี่พวกเปรตทั้งหลายท่านแสดงไว้
เพราะฉะนั้นจึงขออย่าได้ประมาท คนผู้ตายนั่นน่ะ ร่างกายนี่มันตาย คือตายจากส่วนผสม แต่ธาตุ ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ไม่ตาย แตกกระจายลงไปสู่ธาตุเดิมของตนจากส่วนผสมอันนี้ ส่วนจิตนี้ออก จิตนี้ไม่เคยตายมาแต่กาลไหน ๆ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงแสดงเต็มเม็ดเต็มหน่วยตลอดมา ว่าได้ไปเกิดที่นั่นแล้วเกิดที่นี่ สัตว์โลกทั้งหลายเกิด คำว่าตายสูญไม่มีในพระพุทธเจ้าพระองค์ใดสอนไว้เลย เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่สูญ ท่านแสดงแบบเดียวกันหมด ตัวนี้ละตัวสำคัญ เวลาตายไปแล้วไม่มีการทำไร่ทำนาการซื้อการขาย นี่ท่านก็แสดงไว้ในสูตรอีกเหมือนกัน ต้องอาศัยบุญกรรมของตัวเอง ถ้าอยู่ในฐานะที่ญาติจะช่วยได้ ญาติช่วยก็พ้นไปได้ นี่ท่านก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน
ที่ตายแล้ว คนนี้ตายไปแล้วสูญเลย ๆ หาเรื่องทุกข์ยากลำบากไม่มี อย่างนี้ไม่เคยมี ตายไปเท่าไรก็จิตดวงนี้ละที่มันพกเอาความทุกข์ความลำบากเอาไว้ ไปภพใดมันก็เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นควรจะแก้มันในปัจจุบันให้รีบแก้เสีย มันไม่ดีตรงไหนเวลาเรามีชีวิตอยู่ มีครูบาอาจารย์หรือเพื่อนฝูงแนะนำสั่งสอนนี้ ต้องติตรงไหนว่าไม่ดีให้รีบแก้ไขดัดแปลงตนเอง ในเวลามีชีวิตอยู่ซึ่งเป็นฐานะทำได้ด้วยกัน และเป็นผลด้วยกัน เรารีบแก้รีบไขเสียในสิ่งที่โลกตำหนิติเตียน หรือเพื่อนฝูงติเตียนว่าไม่ดี เราพยายามแก้ไขเราเสียตั้งแต่บัดนี้ เวลาแก้บัดนี้แล้วตายแล้วก็หายห่วงมีแต่ความดีไปเลย
ความชั่วนี่ไม่ไป มันจะมาเป็นภัยต่อเจ้าของนั่นแหละ ไม่เป็นภัยต่อผู้ใด ไปเคียดแค้นให้ผู้ใดไปฆ่าใครก็ตาม ผลแห่งการฆ่าเขาก็มาเต็มตัวอยู่ในตัวของเรานี้แหละ จึงระวังให้มาก จิตนี้ไม่ตาย กรรมมันก็ติดกับจิต กรรมดีกรรมชั่วติดแนบอยู่กับใจนี้ นี่ละที่พาให้เกิดข้างหน้าจึงต้องได้ทำบุญอุทิศ ดังที่ท่านจะทำกาญจนบุรีวันพรุ่งนี้ซึ่งเราจะไปเทศน์ ท่านก็ทำตามแบบฉบับของพระพุทธเจ้า เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านั้น
ชมการถ่ายทอดสด ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
|