เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๖
เจดีย์ที่น่ากราบไหว้
พวกเราช่วยกัน พระกรรมฐานเรารู้สึกว่าเด่นมากการช่วยชาติคราวนี้ ลืมแล้วท่านชื่อว่าอะไร (สุรศักดิ์ ครับ วัดมเหยงคณ์) ดูว่าไปเทศน์ที่วัดมเหยงคณ์นี่น่าจะไม่ต่ำกว่า ๔ ครั้งนะ วัดมเหยงคณ์ ( ๕ หนครับ) โน่น ๕ หน แล้วในตัวเมือง (ในตัวจังหวัด ๒ ครั้งครับ) เออ ในตัวจังหวัด ๒ ครั้ง อันนี้ ๕ ครั้ง อยุธยาเทศน์มากกว่าเพื่อน สระบุรีในตัวจังหวัดสองหน อยุธยาในตัวจังหวัดสองหน ที่วัดมเหยงคณ์นี่ไม่ใช่จังหวัด แต่ชานเมืองติดกัน อันนี้ห้าหนที่เทศน์ ดูอยุธยาจะมากกว่าเพื่อนที่ไปเทศน์ที่วัดมเหยงคณ์ ท่านสุรศักดิ์ห้าหน ในตัวเมืองสองหน รวมเจ็ดหน สระบุรีในจังหวัดสองหน นอกจังหวัดไปมีหรือเปล่า มันจำไม่ได้คือมันเทศน์มากต่อมาก ทั่วประเทศไทย จำไม่ได้นะ มากต่อมาก สำหรับตัวเมืองอุดรสองหน เทศน์ทุ่งศรีเมืองสองหน เทศน์มาได้ ๔๘ ปี นานหรือไม่นาน มากหรือไม่มาก นับจำนวนหนึ่ง สอง สาม แล้วก็เป็นเดือนเป็นปี เทศน์นี่ได้ ๔๘ ปี ตั้งแต่สร้างวัด ๒๔๙๘ ปลายปีนะ ๒๔๙๘-๒๔๙๙-๒๕๐๐ นานขนาดนั้น เทศน์อยู่ที่นี่เป็นประจำ
เทศน์มากจริง ๆ นะ นอกจากเทศน์อย่างนี้แล้ว เวลานี้ยังออกทั่วโลก ออกทางอินเตอร์เน็ตทั่วโลกเลย เวลานี้พูดอย่างนี้ออกแล้วนะเทศน์เวลานี้ เขาจะเห็นเหมือนเราพบเห็นกัน ได้ยินกัน ดูกิริยาท่าทางของหลวงตานี้เหมือนกันหมดเลย รับแล้วออกทั่วโลกในขณะเดียวกัน เห็นด้วยกัน ได้ยินชัดเจนด้วยกัน เราก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เทศน์อย่างนี้ ได้เทศน์อย่างนี้ มันก็เป็นมาแล้ว อันนี้รู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากด้วย
(วันที่ ๒๘ ท่านอาจารย์ฟักเป็นตัวแทนหลวงตาไปรับผ้าป่า ที่สหรัฐอเมริกา หลวงตาเทศน์อยู่ที่สวนแสงธรรมครับ) นั่นแล้ว วันนั้นเขาจะทอดผ้าป่าที่สหรัฐ วันที่ ๒๘ ใช่ไหม (ครับผม) เวลานั้นไม่ตรงกันแต่เขาก็เห็นใช่ไหมล่ะ (ครับ) เวลาเราเทศน์ตอนเช้า เช่นเวลานี้ ๘ โมง ทางนู้นก็ ๒ ทุ่ม (เขาบอก ๖ โมงเย็น) เออนั่นแล้ว มันผิดกัน ๑๒ ชั่วโมง วันนั้นเราจะไปรับผ้าป่าทางสหรัฐเขาถวาย ก็จัดให้พระไปแทน ท่านฟักไปแทน แล้วพระจะมีกี่องค์ติดตามไปก็ไม่รู้ (ท่านชินกราบเรียนเมื่อวานนี้ห้าองค์ครับ) เออ พระไปห้าองค์แทนเรา เขามานิมนต์เราให้ไป เราไปไม่ได้ จะมาเอาสด ๆ ร้อน ๆ เลยไปสหรัฐ เราก็ไปไม่ได้ ย้ำแล้วย้ำเล่าจะเอาไปให้ได้ แต่มันก็สุดวิสัย เขาเลยแก้ไขใหม่นะ จึงเอาตัวแทนไปรับ เราไปไม่ได้ เขาก็จัดขึ้นตามนี้
มาจากทางไหน (ท่านพลตำรวจตรี อำนวย มหาผล ผู้บังคับการจังหวัดบุรีรัมย์ครับผม) (คณะกรรมการวัดป่าเขาน้อย บุรีรัมย์ จะมากราบนิมนต์หลวงตาเป็นประธานวางศิลาฤกษ์เจดีย์ อนุสรณ์สถานพระธาตุหลวงปู่สุวัจน์ครับผม) วัดอะไร (วัดเขาน้อย หลวงปู่สุวัจน์) (หนังสือวัดป่าเขาน้อย ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๖ เรื่องขอนิมนต์เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ นมัสการพระธรรมวิสุทธิมงคล (พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน) สิ่งที่ส่งมาด้วย รูปแบบเจดีย์อนุสรณ์ของหลวงปู่สุวัจน์ สุวัจโจ จำนวนหนึ่งแผ่น ด้วยคณะกรรมดำเนินการก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถานหลวงปู่สุวัจน์ สุวัจโจ จะดำเนินการก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถานสำหรับบรรจุอัฐิพระโพธิธรรมาจารย์เถระ (หลวงปู่สุวัจน์ สุวัจโจ) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเขาน้อย ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถาน ณ บริเวณสถานที่พระราชทานเพลิงศพในวัดป่าเขาน้อย และมีรูปแบบเจดีย์ปรากฏตามภาพที่แนบมาพร้อมนี้
คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า พระคุณท่านเป็นที่เคารพของหลวงปู่สุวัจน์ สุวัจโจ และศิษยานุศิษย์ทั้งปวง คณะกรรมการจึงได้พร้อมใจกันขอกราบนิมนต์พระคุณท่านเป็นประธานวางศิลาฤกษ์เจดีย์อนุสรณ์สถานดังกล่าวข้างต้น ในวันศุกร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๖ หรือวันและเวลาใด สุดแต่พระคุณท่านจะพิจารณาเห็นสมควร ขอนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง ลงชื่อพลตำรวจตรี อำนวย มหาผล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดบุรีรัมย์ ประธานกรรมการก่อสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถานหลวงปู่สุวัจน์ สุวัจโจ มีรูปแบบเจดีย์ครับผม) อ๋อรูปแบบเจดีย์
(พระท่านบอกว่า ๒๙ วางศิลาฤกษ์ วันที่ ๓๐ เขานิมนต์เทศนารับผ้าป่าช่วยชาติที่บุรีรัมย์เหมือนกันครับ ไปช่วงนี้ก็มีบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ สามจังหวัดเป็นอย่างน้อย) แล้วต่อเนื่องกันพอดีไหมล่ะ (พระท่านบอกต่อกันพอดีครับ) ก็มีแต่ท่านปิ๋วเป็นผู้วางลำดับลำดาให้พอดี อันนี้พอดีแล้วเหรอ ถ้าพอดีแล้วก็รับตามนั้นเลย ถ้าตรงไหนมันขัดกันก็พูดให้เป็นที่เข้าใจกันเสียตั้งแต่บัดนี้ ท่านสุวัจน์เป็นพระที่สมควรอย่างยิ่งที่ก่อเจดีย์ ที่บรรดาลูกศิษย์ ผู้ศรัทธาทั้งหลายก่อขึ้นเพื่อสักการบูชาท่านต่อไปจนกระทั่งถึงลูกเต้าหลานเหลน เพราะนี้จะเรียกว่าถูกต้องตามตำรา ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็ไม่ผิด เพราะเอาตำรามากาง
ตำราคือองค์ศาสดามากาง ก็คือองค์ศาสดาแสดงไว้ ว่าบุคคลที่ควรจะก่อเจดีย์ไว้กราบไหว้บูชานั้นมีอยู่ ๔ ประเภท ๑) พระพุทธเจ้า ๒) พระปัจเจกพุทธเจ้า ๓ พระอรหันต์ ๔.พระเจ้าจักรพรรดิ นี่เป็นผู้สมควรแก่การก่อสร้างเจดีย์ไว้กราบไหว้บูชา ในสถานที่เหมาะสมหรือสมควร เช่น ที่ชุมนุมชนคนหมู่มาก ควรที่ตรงไหนให้ก่อที่ตรงนั้นๆ ไว้ ตำราคือองค์ศาสดาแสดงไว้ เพราะฉะนั้นการที่จะก่อเจดีย์หรืออะไรๆ นี้ บรรดาพี่น้องทั้งหลายไม่ค่อยจะคิดกัน ดูจะไม่ได้เห็นในตำราคือองค์ศาสดาประกาศเอาไว้ อย่างนั้นก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นการก่อเจดีย์จึงมักจะก่อสุ่มสี่สุ่มห้าไปเลย
เวลามองเห็นเจดีย์ คนก็ต้องระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอันดับแรก รองลำดับลงมาก็พระอรหันต์ พระปัจเจก เวลากราบเข้าไปมับฟาดถูกหมา เช่น ไอ้ปุ๊กกี้ตายแล้ว รักไอ้ปุ๊กกี้ สงสารไอ้ปุ๊กกี้ แล้วก่อเจดีย์ให้มัน ไม่ได้หมายถึงว่าจะก่อเจดีย์ไว้กราบไหว้หมาไอ้ปุ๊กกี้เรานะ แต่คนพอเห็นเจดีย์ก็นึกว่าพระพุทธเจ้า ไอ้ปุ๊กกี้ก็เลยกลายเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาในเวลานั้น กราบหมาทั้งตัว เอ้า พูดให้มันยันให้มันเห็นชัดเจนซิ ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นแบบเป็นฉบับที่ถูกต้องดีงาม จึงควรนำมาปฏิบัติตามแถวแนวที่ทรงแสดงไว้ จะไม่สุ่มสี่สุ่มห้า แล้วไปกราบหมาทั้งตัว คือก่อเจดีย์ให้หมาไว้ด้วยความรักอะไรนั่น เจ้าของก่อเจดีย์ให้ด้วยความรัก แต่เขามากราบ เขานึกว่าไอ้ปุ๊กกี้เรานี้เป็นพระพุทธเจ้า เขาก็กราบถนัดเลย เข้าใจไหม
เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรจะให้พลาดไป เดี๋ยวจะไปกราบไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง ไอ้จ้ำหลอดเราเข้ามันจะผิดพลาดไป นึกถึงพระพุทธเจ้านั้นถูก แต่จุดนี้มันผิดไป เข้าใจไหม มันผิดจากความมุ่งหมาย เพราะฉะนั้นการที่จะก่อเจดีย์แต่ละแห่งๆ ที่เป็นไปตามแบบนี้เหมาะสมมากตามที่เราเป็นลูกชาวพุทธ อย่าได้ทำกันสุ่มสี่สุ่มห้า ทำอย่างนั้นมันผิดพลาดได้อย่างว่านั่นแหละ กบตัวหนึ่งตายก็ก่อเจดีย์ให้ หมาตายก็ก่อเจดีย์ให้ ไก่ตาย กระจ้อน กระแตในวัดนี้ก่อไม่ไหวนะ เจดีย์ในวัดนี้ก่อตายเลยนะ เพราะกระรอกนี้มีเป็นร้อยๆ กระแตก็เหมือนกัน นกในนี้มีเต็มไปหมด จะก่อเจดีย์ให้ทุกแห่งทุกหนสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว ในวัดนี้จะไม่มีที่ก่อเจดีย์เลยนะ เต็มไปหมดตั้งแต่เจดีย์ของพระพุทธเจ้าที่จอมปลอม ด้วยความผิดพลาดเพราะความไม่เอาไหน ชุ่ยๆ ทำสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่ถูก
ศาสนาพระพุทธเจ้าเป็นแบบฉบับทั้งทางโลกและทางธรรม ไม่มีที่ติเตียนตรงไหนได้เลย ทางโลกก็ความประพฤติ หน้าที่การงาน ให้เป็นไปตามแบบฉบับแล้วโลกจะร่มเย็น เป็นเจ้าเป็นนาย ก็ให้เป็นเจ้าเป็นนายในคุณธรรมด้วย หลักวิชาที่จะมาปกครองโลกก็ให้มีคุณธรรม มีธรรมแทรกเข้าในนั้นด้วย ทุกแห่งทุกหน ทุกหน่วยราชการเรามีธรรมเข้าแทรก ๆ เสมอ สมเราเป็นชาวพุทธ วงราชการตั้งแต่นายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงกราบ ไม่มีใครกราบสนิทได้ยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานะ รองลงมาก็นายกและวงราชการต่าง ๆ ควรจะมีอรรถมีธรรมเข้าแทรกเสมอ อย่าไปหาสอนตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ ตาใสแจ๋วเหมือนตาแมว เหมือนตาแมวมันก็เท่ากับแมว อย่าไปสอนแมว ให้สอนคน
เป็นผู้ใหญ่แต่ละคน ๆ นี้เขายกยอขึ้นแล้ว การตั้งขึ้นให้เป็นผู้ใหญ่แต่ละแห่งๆ นี้กระเทือนมาจากนู่นนะ มาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกระเทือนมาจากคนทั้งแผ่นดิน ผู้ที่จะเป็นนายกฯนี้กระเทือนกันทั่วประเทศไทยจึงมาเป็น ยกยอขึ้นแล้วว่าผู้นี้เป็นนายกฯ ต้องรู้ตัวว่าเราเป็นนายกฯแล้ว ไม่เป็นนาย ก. นาย ข. เหมือนแต่ก่อนแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได้คิดได้อ่านทุกอย่าง เข้ากับความเป็นนายกฯ ความคิดความอ่านต้องใช้แบบแผนของนายกฯ กิริยาแสดงออกทุกอย่างไม่ว่าหน้าที่การงาน หรือการปกครอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของนายกฯ นายกฯต้องได้คิดเต็มสัดเต็มส่วนแล้วแสดงออกไป
ทีนี้รองลงมาก็คิดแบบเดียวกัน วงราชการงานเมืองต่าง ๆ ต่างคนต่างคิดอย่างนี้เพื่อชาติบ้านเมือง สมกับพี่น้องชาวไทยเรา ยกชาวไทยเรา ยกยอขึ้นเป็นผู้ใหญ่เป็นลำดับลำดา เราต้องให้สมศักดิ์ศรีกับพี่น้องชาวไทยเราที่ยกยอขึ้นให้เราเป็นผู้ใหญ่ ต้องปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี เป็นตัวอย่าง อันใดที่จะเป็นความเสียหาย ผู้ใหญ่อย่าทำ อยากขนาดไหนก็ให้ตายไปเฉย ๆ จะไม่ให้เหนือธรรม คือความถูกต้องดีงาม อยากสิ่งนี้ผิด เช่น ยาเสพย์ติด พวกเหล้า พวกสุราปลาแป้ง ที่กินแล้วเจ้านายก็เป็นบ้าไปตาม ๆ กันหมด อย่าให้เห็นเจ้านายเป็นบ้านะ เอาตัวอย่างไม่ดีมาให้เด็กดู น่าหัวเราะนะ คิดให้มากนะเราเป็นผู้ใหญ่
นี่ละเรื่องศาสนาเข้าที่ไหนจะงามตางามใจ เย็นใจทั่วหน้ากันไปหมด ศาสนา คือธรรมเข้าแทรกที่ไหนเป็นอย่างงั้น เรื่องของโลกก็คือเรื่องของกิเลส คอยจะทำลายธรรมคือความดีงามอยู่เสมอ เราจึงต้องได้ปัดได้ป้องมันตลอด เพื่อรักษาความดี แล้วต่อไปก็เพื่อประชาชนคนจำนวนมากได้รับผลประโยชน์ อันความประพฤติเหลวแหลกแหวกแนวตามนิสัยใจคอของเราตั้งแต่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ เราอย่านำมาใช้ในความเป็นผู้ใหญ่ จะขัดจะแย้ง จะเป็นข้าศึก สำหรับเราคนเดียวไม่มีหน้าที่การงาน ไม่เป็นผู้มีอำนาจวาสนาปกครองบ้านเมืองนั้น เรากินเหล้าก็ได้ กินยาก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ไปที่ไหนก็ได้ ไม่มีใครถือสีถือสาเรานะ แต่พอเป็นผู้ใหญ่แล้วหูตาอันเก่านั่นแหละคน มองกันผิดปกตินะ
เขามองเราเวลาเป็นนาย ก.เป็นอย่างหนึ่ง เวลาเป็นนายนั้นนายนี้ เป็นนายพัน นายพลขึ้นไปแล้วเป็นอีกอย่างหนึ่งนะเขามองเรา อย่าให้เขาผิดสายตาที่เขามอง ให้เขายิ้มแย้มแจ่มใสต่อการมองเรา นี้เป็นความถูกต้องดีงาม นี่คือธรรม เป็นเครื่องแทรกแซงในวงชาวพุทธเรา ตั้งแต่ผู้ใหญ่ลงมาถึงผู้น้อยต้องปฏิบัติตัวให้เป็นอย่างนั้น อันไหนที่ขัดกับส่วนรวม นี่สำคัญ เรื่องส่วนตัวเราไม่ขัด แต่ก่อนไม่ขัด แต่เวลามาเป็นผู้ใหญ่แล้วตัวของเราก็ต้องมาขัดอีกทีหนึ่ง คือต้องแก้ไขดัดแปลงเจ้าของให้เหมาะสมกับสังคมที่มีจำนวนมาก ให้เป็นความดีงาม นี่เป็นอย่างนั้น
เราจะทำตามใจเราชอบไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นพระนี่ อย่างหลวงตาบัวนี่แหละ ยกให้เป็นตัวอย่างเลย แต่ก่อนอีตาบัวมันไปที่ไหนมันไปได้หมด ลงน้ำลงท่า ตกปู ตกปลา ถ้ามีหมูมีหมาก็ตกไปด้วยกันเลยนะ ไม่มีอะไรเป็นข้อผิดพลาด ทีนี้พอหลวงตาบัวมาบวชแล้วไปทำอย่างนั้นไม่ได้ เข้าใจไหมล่ะ ยิ่งบวชเข้าเป็นพระ ภูมิของพระนี้เต็มภูมิ คือศีลเต็มภูมิของพระแล้ว ต้องปฏิบัติให้เต็มภูมิของตนตลอด จากนั้นเป็นผู้ใหญ่เท่าไรคุณธรรมก็เพิ่มขึ้น เพิ่มจากศีลเข้าเป็นคุณธรรม ความคิดความอ่านไตร่ตรอง ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง จะออกไปจากธรรม วินัยเป็นส่วนหยาบแล้วที่นี่ ส่วนธรรมเป็นส่วนละเอียด จะแทรกไปทุกแห่งทุกหน ใครมองเห็นที่ไหนๆ ก็เป็นที่งามตางามใจ เจ้าของก็ชุ่มเย็นด้วยการระมัดระวังรักษาเจ้าของด้วยศีลด้วยธรรมไปด้วยดี ทีนี้จะเป็นอีตาบัวอย่างนั้นไม่ได้ ต้องเป็นหลวงตาบัวหรืออาจารย์มหาบัว ไปที่ไหนต้องเป็นหลวงตาบัวไปเรื่อยๆ จะเป็นอีตาบัวถือเบ็ด แล้วสะพายข้องถือแหไปอย่างงั้นไม่ได้ แล้วขวดเหล้าเต็มถุงไปอย่างนี้ไม่ได้ ผิดไหมล่ะพิจารณาซิ คนคนเก่านั้นแหละ เมื่อแยกออกเป็นส่วนหนึ่งแล้ว ต้องเป็นส่วนหนึ่งขึ้นมา จะให้เป็นอย่างเก่าไม่ได้
นี่เราทั้งหลายก็ให้รู้สึกตัว ตั้งแต่เราเป็นเด็กเป็นอย่างหนึ่ง เป็นผู้ใหญ่เป็นอย่างหนึ่ง เป็นพ่อคนแม่คนเป็นอย่างหนึ่ง จากนั้นก็เป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ขึ้นถึงผู้ว่าฯ ตลอดถึงนายกรัฐมนตรี ยิ่งเป็นอีกอย่างหนึ่ง ๆ ซึ่งเราจะได้ดัดแปลงตัวของเราให้เหมาะสมกับหน้าที่อำนาจการปกครอง เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากเท่าไร เรายิ่งได้ปรับปรุงตัวของเราให้ดีขึ้น ๆ อย่างนี้เหมาะสมกับเราเป็นชาวพุทธ ขอให้บรรดาลูกหลานทั้งหลายนำไปคิดไปอ่าน ไปปฏิบัติ
อย่าให้มีตั้งแต่เรื่องของกิเลส ซึ่งมันคอยออกหน้าออกตาตลอดเวลา ไปแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ ต่อหน้าต่อเรา ต่อหน้าต่อตาประชาชนคนจำนวนมากด้วยความเสียหาย ไม่นำมารยาทอันดีงามออกแสดง มีแต่นิสัยใจคอเก่าก่อนที่เคยปฏิบัติมาก็เลอะเทอะไปหมด ทีนี้ผู้ใหญ่กับผู้น้อยก็ไม่ผิดกันกับหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง ยิ่งผู้ใหญ่ประพฤติตัวเหลวแหลกแหวกแนว ประพฤติตัวไม่ดีแล้วเลวยิ่งกว่าหมาขี้เรื้อนอีก ถ้าประพฤติตัวให้ดีแล้วประดับตัวให้สวยงามขึ้น ด้วยความประพฤติ อัธยาศัยใจคอ มีธรรมเข้าแทรก หน้าที่การงานเป็นไปตามกฎตามเกณฑ์ตามหลักตามฐาน ไม่มีคำว่าลี้ว่าลับ นี่เรียกว่าเป็นหน้าที่การงานของธรรมแทรก ๆ
ถ้ากิเลสแทรกมันกินได้ทุกแบบ ยิ่งเป็นเจ้าเป็นนาย ผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งกินลึกกินลับ กลืนลึกกลืนลับ กินทุกแบบทุกฉบับ นี่คือกิเลสพากินพากลืน ถ้าธรรมแล้วกลืนไม่ลง มีเท่าไรกลืนไม่ลง เหมือนเราได้อาหาร หยิบอาหารมาจะใส่ปาก ลูกคนนี้ก็นั่งดู ลูกคนนี้ก็นั่งดู ลูกนั่งดูรอบข้าง อ้าปากคอยจะกินกับพ่อกับแม่ แล้วพ่อแม่จะกินได้ลงคอไหม เอากันตรงนี้แหละนะ ลูกนั่งห้อมล้อมเต็มอยู่นี้ หน้าไหนตาใด ปากใดอ้าเข้ามาเพื่อจะเอาจากพ่อ เพราะพ่อเลี้ยงมา ว่าไง จ้ออยู่กับพ่อ แล้วทีนี้พ่อจะกินลงคอไหม โดยลูกอ้าปากอยู่อย่างงั้น ตาจ้องอยู่อย่างงี้ หิวโหยจะตายลูก ความหวังที่จะกินกับพ่อนี้เต็มหัวใจของลูก แล้วพ่อหรือแม่ของลูกเหล่านั้นจะกินได้ลงคอไหม เอ้าพิจารณา เอาอันนี้พิจารณานะ กินไม่ได้ต้องยื่นให้ หยิบอันนี้ เอาอันนี้ ๆ ๆ สุดท้ายเจ้าของไม่ได้กินก็อิ่มแล้ว เข้าใจไหม อิ่มด้วยจิตใจที่รักลูก เมตตาลูกสงสารลูก
อันนี้ก็เหมือนกัน เราเทียบกับวงราชการงานเมือง ซึ่งเป็นเหมือนพ่อแม่ของพี่น้อง หรือส่วนรวมทั้งหมด ต่างคนต่างจ้อเข้ามาเพื่ออาศัยเราทุกอย่างๆ คอยฟังเราจะชี้บอกยังไง ๆ จะได้ดำเนินตาม คอยเรา ได้มามากน้อยเสียภาษีอากรเข้าสู่จุดรวม เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มีเท่าไรก็ต้องเจียด หามาจนได้ ทีนี้เวลาเข้ามาแล้ว อย่ามากินตั้งแต่คนเดียว ต้องมองดูประชาชนซึ่งเป็นเหมือนกับลูก และอ้าปากแล้วมองเราแต่ละคน ๆ ซึ่งเป็นเจ้าเป็นนาย เทียบกับพ่อกับแม่ของเขา แล้วกินแล้วกลืนใต้โต๊ะเหนือโต๊ะ กินได้ทุกแบบทุกฉบับ อย่างนี้ให้ประชาชนให้เขารู้เขาเห็นอย่างนี้ เป็นยังไงน่าสลดไหม เอาวาดภาพพจน์ขึ้นมา เป็นอย่างนี้แล้วดูไม่ได้นะ จึงขอเตือนท่านทั้งหลายให้นำไปปฏิบัติ เอาธรรมของพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติในหน้าที่การงาน วงราชการให้มีธรรมแทรกในหลักวิชาการของเราที่ปกครองบ้านเมือง แล้วบ้านเมืองนี้จะมีความสงบร่มเย็นเป็นสุขทั่วหน้ากัน
วันนี้เทศน์ธรรมะเริ่มต้นตั้งแต่ก่อเจดีย์ขึ้นมา สมควรกับอะไรบ้างเจดีย์ก็อธิบายให้ฟัง ไม่สมควรอย่างไรก็อธิบายให้ฟัง ทีนี้อธิบายให้วงราชการงานเมือง ซึ่งเป็นพ่อเป็นแม่ประหนึ่งว่าเป็นเจดีย์ที่กราบไหว้บูชาของคนทั้งชาติ ก็ให้ทำตัวเป็นเจดีย์ที่ทรงไว้ซึ่งธรรมธาตุ หรืออัฐิธาตุ หรือสิ่งวิเศษอยู่ภายในนั้น อย่าให้มีไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง เข้าไปอยู่ในนั้น มันจะเสียน้ำใจ ถ้ากราบเข้าไปก็ถูกพระพุทธเจ้า หรือพระสงฆ์สาวก พระอรหัตอรหันต์แล้วภูมิใจ โลกทั้งหลายกราบวงราชการงานเมืองเรา ก็ขอให้เขาระลึกหรือกราบด้วยความพออกพอใจ มีมากมีน้อยแบ่งสันปันส่วนกันกิน เพราะเรานี้เป็นลูกของพ่อ มีพ่อเหมือนกัน ตั้งแต่วงศ์มหากษัตริย์ลงมา ถึงนายกรัฐมนตรี แล้วก็พี่เบิ้มของเราก็เป็นมาโดยลำดับลำดา นี่ล้วนแล้วตั้งแต่เป็นผู้ที่จะแบ่งสันปันส่วนให้ลูกเล็กเด็กแดงทั่วแผ่นดินไทยเรา ได้รับด้วยกันโดยความสม่ำเสมอ แล้วก็ผาสุกเย็นใจทั่วหน้ากัน นี้คือมหามงคลแก่ชาติไทยของเราที่มีพระพุทธศาสนาเป็นผู้ชี้แนะแนวทาง
ขอให้ท่านทั้งหลายได้ยึดหลักนี้ไปปฏิบัติตนเอง ความเป็นสิริมงคลทั้งเราเองและส่วนรวมจะมีขึ้นในวงของเราผู้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามสายธรรมพระพุทธเจ้านี้โดยไม่อาจสงสัย ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายลูกหลานทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ ทีนี้จะให้พร
ชมการถ่ายทอดสด ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
|