เพราะบุพเพนิวาสชาติปางก่อน
วันที่ 24 พฤษภาคม 2546 เวลา 8:10 น. ความยาว 51.24 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

เพราะบุพเพนิวาสชาติปางก่อน

 

         ทองคำจากวัดป่าภูสังโฆ ท่านวันชัยกับบรรดาลูกศิษย์ถวายมาเช้าวันนี้ได้ทองคำ ๑ กิโล ๑๓ บาท ๑๑ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๕๐๐ ดอลล์ เงินไทยได้สองหมื่นบาท กรุณาอนุโมทนาทั่วหน้ากัน (สาธุ) นี่เราจะเอาไปสง่างามอยู่ที่หัวใจของชาติคือคลังหลวงของเรา งามอันดับหนึ่งทองคำ อันดับสองคู่เคียงกันไป ดอลลาร์ อันดับกระจายทั่วประเทศไทยเราคือเงินไทยเราสองหมื่นบาท สวยงามทั่วไปหมดนั่นแหละ หนึ่งกิโลมันของง่ายหรือ ทองคำทุกวันนี้ดูเหมือนขึ้นราคา ร่วมห้าแสนละมัง (๔ แสน ๙ หมื่นบาทเจ้าค่ะ) โถ มันขึ้นเรื่อยๆ นะทองคำ เอ้า ขึ้นๆ ไปเถอะ เข้าคลังหลวงเราแล้วไม่มีคำว่าขึ้นว่าลง อยู่คงเส้นคงวา เอ้า ใครอยากได้ความคงเส้นคงวาหนาแน่นในประเทศไทยของเรา ให้เอาทองคำมามากๆ มันจะขึ้นที่ไหนขึ้นไปเถอะ พอเข้าคลังหลวงเราแล้วไม่ขึ้นไม่ลง ตรงแน่วเลย อันนี้แน่นอนไม่ขึ้นไม่ลง นอกนั้นวอกแวกคลอนแคลนเชื่อไม่ได้ เข้าคลังหลวงแล้วเชื่อได้ นี่ก็มา ๑ กิโลแล้ว

สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๒๓ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑๓ บาทกับ ๓๐ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๑๐ ดอลล์ ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๖,๐๘๔ กิโลครึ่ง ดอลลาร์ที่มอบเข้าแล้ว ๗ ล้าน ๖ แสนดอลล์ ทองคำที่ได้หลังจากมอบแล้วเวลานี้ได้ ๗๗ กิโล ๒๙ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๔๘,๐๕๗ ดอลล์ รวมทองคำที่ได้ทั้งหมด ที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบ เป็นจำนวนทองคำ ๖,๑๖๑ กิโลครึ่ง รวมดอลลาร์ที่ได้แล้วทั้งหมดได้ ๗,๗๔๘,๐๕๗ ดอลล์ แต่เงินสดที่ได้นำเข้าซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงเพียงจำนวน ๑,๑๑๒ ล้านเท่านั้น เพราะจำเป็นทั่วประเทศไทยเรา ซึ่งเงินสดจะต้องออกกระจายให้ทั่วถึงกัน โดยการช่วยเหลือคนทุกข์คนจน แล้วก้าวเข้าสู่สถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาลนี้มากที่สุด เวลานี้สองร้อยกว่าโรงแล้ว ที่อยู่ในความดูแลของเงินนี้ ของพี่น้องชาวไทยเราทั่วหน้ากันนั่นแหละ

เฉพาะโรงพยาบาลนี้สองร้อยกว่าโรง ไม่ใช่เล่นๆ แล้วก็ที่ราชการ ที่จำเป็นๆ ในวงราชการตรงไหนก็อันนี้ละออกช่วย ออกหนุนไปเรื่อยๆ  ทางโรงพยาบาลนี้มากกว่าเพื่อนนะ เรียกว่าหนักมากมาตลอด เมื่อสองวันมานี้ก็ไปขยายที่ให้เขา โรงพยาบาลคับแคบเกินไปเลยขยาย เมื่อวานนี้เขาบอกมาอีกแล้วว่า ขยายออกได้ถึง ๔ ไร่ เขาว่างั้นนะ เราก็คอยฟัง เขากำลังปักอยู่ ดูว่าจะขยายออกไปได้ถึง ๔ ไร่ ก็รู้สึกว่าได้มากพอควร เพราะที่นั่นคับแคบมาก เนื้อที่ทั้งหมดมันเพียง ๙ ไร่ในโรงพยาบาล ทั้งๆ ที่อำเภอก็เป็นอำเภอที่สมบูรณ์แบบเหมือนอำเภอทั้งหลาย แต่เขตโรงพยาบาลนี้แคบนิดเดียว เพียง ๙ ไร่ เราจึงได้ซื้อขยายให้อีก เมื่อวานเขาบอกมากำลังปักเขตอยู่เวลานี้ อาจจะถึง ๔ ไร่ว่างั้น เขาจะให้หมด เราก็คอยฟัง

อย่างนี้ละเงินไทยเราที่ช่วย ช่วยไปทุกแห่งทุกหน ไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ เพราะฉะนั้นจึงได้เข้าซื้อทองคำเพียง ๑,๑๑๒ ล้านบาทเท่านั้น นอกนั้นกระจายออกหมด ส่วนที่เป็นร้อยเปอร์เซ็นต์เลยก็คือทองคำและดอลลาร์ นี่เรียกว่าเข้าร้อยเปอร์เซ็นต์ๆ ส่วนเงินสดแล้วแต่จะเข้า ได้มากน้อยตามความพิจารณาของหัวหน้าคือเราเอง ที่ไหนมีความจำเป็นยังไงๆ  ควรจะแยกไปทางไหน เราจะพิจารณาแยกๆ อย่างนี้ตลอดมา จึงกรุณาพี่น้องทั้งหลายทราบตามนี้

เวลานี้เรากำลังพยายามเจียดเงินบาทนี้เข้าบัญชีที่จะซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงโดยถ่ายเดียว กำลังเจียดเงินไทยนี้เข้าในบัญชีนี้ คือบัญชีนี้บัญชีชี้ขาดเข้าซื้อทองคำเข้าคลังหลวงโดยถ่ายเดียว บัญชีนอกนั้นช่วยชาติ แน่ะมันไม่แน่ แต่บัญชีนี้เข้าซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวง นี่กำลังเจียดเงินเข้า เราเชื่อพี่น้องทั้งหลายเราว่า คราวนี้จะเป็นคราวที่เด่นดวงมากที่สุดในการช่วยชาติของตน ความที่จะล่มจะจมเราก็เห็นทั่วหน้ากันทั้งประเทศ ทีนี้การช่วยเหลืออุ้มชูแบกชาติไทยของเราเราก็ทราบกันทั่วประเทศ เวลานี้กำลังหนักแน่นเร่งเครื่องของเรา คือทองคำจะให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตันขาดไปไม่ได้เลย

นี่เราประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากันแล้ว ว่าหลวงตาได้ขึ้นเวทีเป็นผู้นำของพี่น้องทั้งหลายเพื่ออุ้มชาติของตน ให้ได้ทองคำเป็นเครื่องประกันน้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์ให้ได้ ๑๐ ล้านเป็นอย่างน้อย นี่ยันออกแล้ว เวลานี้ออกประกาศแล้ว เรียกว่าคอขาดไปเลย ถ้าลงได้ขึ้นสนามแล้วถอยไม่ได้นะ นี่ไม่ใช่ขึ้นสนาม ขึ้นเวที ได้ประกาศให้ทราบทั่วถึงกันแล้ว ว่าทองคำในการช่วยชาติคราวนี้ขอให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตันเป็นอย่างน้อยขาดไม่ได้เลย แล้วดอลลาร์ให้ได้ ๑๐ ล้าน

         อันนี้ละเป็นเครื่องประดับชาติไทยของเรา อุ้มชาติของตนขึ้นมา เป็นเครื่องหมายความดีงาม ความอุตส่าห์พยายาม ซึ่งเกิดมาจากความรักชาติของเรารวมสามัคคีกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้วได้ทองคำซึ่งเป็นหัวใจของชาติขึ้นโชว์ ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าน้ำหนักทองคำนี่ตั้ง ๑๐ ตัน ใครเก่งไปหามาแข่ง ไม่มี นอกจากคนไทยของเราทั้งประเทศของเราเท่านั้นหามา แข่งไม่แข่งก็รู้กัน ทองคำยังไงจะต้องได้ ๑๐ ตันในคราวนี้แน่นอน ว่างั้นเลย คนไทยเราช่วยตัวเอง ยกชาติของตัวเองขึ้น ชาติของเราเป็นสมบัติของเรา คือต่างคนต่างก็ยกกันเต็มเหนี่ยวเต็มกำลังความสามารถ

         อย่าเห็นว่าไปหนักทางนั้นไปเบาทางนี้ เห็นว่าคนนั้นจำเป็นคนนี้ไม่จำเป็น เรามันคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยกันทั้งหมด ไม่ได้ขาดบาทขาดตาเต็ง ทำไมเวลาจะเสียสละเพื่อเพิ่มพูนน้ำหนักแห่งชาติไทยของเราให้มีคุณค่าสูงยิ่งขึ้น ทำไมจะถือเป็นเรื่องเฉื่อยชา คนนั้นจะทำคนนี้จะทำอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ เมืองไทยอย่างน้อยขาดความศักดิ์ศรีดีงาม มากกว่านั้นจมได้เลย ต้องถือเป็นความจำเป็นเสมอกันหมด เพราะเมืองไทยเรานี้เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยกัน แม้แต่หมู หมา เป็ด ไก่ เรามันก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ ๆ ไอ้ปุ๊กกี้เราที่อยู่ทุกวันนี้ใครมามันต้องไปทักทายๆ มันก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ ร้อยเปอร์เซ็นต์ยังไง ร้อยเปอร์เซ็นต์ของไอ้ปุ๊กกี้ล่ะซิ ร้อยเปอร์เซ็นต์ไอ้ปุ๊กกี้ก็มี ไอ้หยองก็มี ไอ้หมีก็มี ไอ้ดาวกระจายก็มี มีแต่พวกร้อยเปอร์เซ็นต์ คือหมาเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เข้าใจไหม

         ทีนี้เราเป็นคน เราเป็นเจ้าของหมาเราต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เราจะอ่อนกว่านั้นไม่ได้ เรียกว่าลดคุณค่าลง สู้หมาไม่ได้ เราอยากแพ้หมาไหม ถ้าไม่อยากแพ้เอาขึ้นซิ โธ่ ใครจะอยากแพ้หมาวะ เราต้องเอาชัยชนะ ไม่ได้ยังไง ให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเรื่องราวแห่งชาติไทยของเราในคราวนี้นะ ธรรมดา ๆ ก็มาเรียบ ๆ มา แต่คราวนี้เป็นคราวที่เราจะได้ยกอุ้มชาติของเราขึ้นอย่างเด่นดวงด้วยทองคำที่กล่าวนี้แหละ และดอลลาร์ ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีมาจากความรักชาติของเรา จะได้เด่นดวงคราวนี้

         ถ้าเลยคราวนี้แล้วจะไม่ได้นะ การประกาศก้องความดีงามทั้งหลายของชาติไทยเราก็จะไม่มีอย่างเวลาที่กำลังอุ้มกันอยู่เวลานี้ด้วยความรักชาตินะ เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสม ควรจะให้ได้ตามกาลเวลาอันเหมาะสมที่เรากำลังอุ้มชาติไทยของเราทั้งประเทศ อย่างน้อยให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วดอลลาร์อย่างน้อยก็เหมือนกันให้ได้ ๑๐ ล้าน สำหรับดอลลาร์นั้นน่ะเราไม่ค่อยอะไร เพราะเบากว่าทองคำ ทองคำนี้น้ำหนักหนักมาก ยกมาก ต้องได้ใช้ความอุตส่าห์พยายามเต็มเม็ดเต็มหน่วย เต็มสติกำลังความสามารถของคนไทยเราทั้งชาติและอุ้มขึ้นมาให้ได้ ๑๐ ตัน นี่ละเราจะได้ในเวลานี้เท่านั้น

         นอกจากนี้เราอยู่ธรรมดาก็ไม่เห็นใครเอาทองคำมาให้คลังหลวงของเรา แม้แต่กิโลหนึ่งยังไม่เคยได้ยิน นานมาสักเท่าไร ๆ แล้วไม่ปรากฏนะ นี่เป็นเวลาที่เราช่วยชาติของเรานี้ทองคำเราขึ้นถึง ๖,๐๐๐ กว่ากิโล หรือ ๖ ตันกว่าแล้ว นี่ก็เป็นกาลอันเหมาะสม อะไร ๆ ก็ไหลเข้ามา ๆ ดอลลาร์ก็ไม่เคยไหลเข้ามา นี่ก็เข้าร่วม ๑๐ ล้านแล้วนะ นี่ก็มาตามกาลเวลาอันควร อันเหมาะสม เหตุการณ์เหมาะสมมากคราวนี้ เพราะฉะนั้นจึงขอให้ต่างคนต่างทุ่มลงไป ทุ่มลงไป เงินในกระเป๋าของเราไม่ได้สำคัญยิ่งกว่าหัวใจของชาติ คือสมบัติในคลังหลวงนะ ขอให้มีสมบัติในคลังหลวงแล้ว เราอยู่ที่ไหนนอนอยู่ที่ไหนสบาย ๆ เบาใจ ๆ มีหลักประกันชาติของเรา

         ถ้าเราไม่มีอันนั้นแล้วไม่มีอะไรเหลือ ใครจะมีเงินเต็มกระเป๋าก็ตามเถอะน่ะ ไม่มีความหมายอะไรเลยแหละ ถ้าลงหัวใจของชาติได้ขาดสะบั้นลงไป คือคลังหลวงไม่มีสมบัติติดคลังเลยเหล่านี้ คนไทยเราเอาความดีงาม มีความสง่าราศีมาจากไหน ไม่มีว่างั้นเลย เงินในกระเป๋าใครๆ ก็มี มีได้ทั้งนั้นแหละแต่ไม่มีความหมายเหมือนสมบัติในคลังหลวงนะ อันนี้มีคุณค่ามาก แล้วเวลาเป็นกาลอันเหมาะสมอย่างยิ่งของพี่น้องชาวไทยเราจะได้ร่วมมือร่วมใจกันให้คนเมืองนอกเมืองนาจ้องเข้ามา ซึ่งเขาจ้องเข้ามาอยู่แล้ว ไม่ได้มีความชมเชยสรรเสริญ ให้ได้เห็นฤทธิ์เดชของชาติไทยบ้างว่าเป็นยังไง รักชาติรักยังไง แสดงความรักชาติออกมาเป็นสักขีพยานดังที่กล่าวนี้ ให้ได้เห็นในคราวนี้นะ

         แล้วก็เป็นศาสนาพุทธเราด้วย พุทธศาสนาเป็นผู้นำอยู่ด้วย สมชื่อสมนามว่าเราเป็นลูกชาวพุทธ ลูกชาวพุทธมีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เอกนำพี่น้องทั้งหลาย ต้องนำด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคี ด้วยความรักชาติ ด้วยความเสียสละ นี้ถูกต้อง อย่าให้เสียเกียรติพระพุทธเจ้านะ พวกเราเป็นลูกชาวพุทธ ลงเสียเกียรติพระพุทธเจ้าคนไทยเราซึ่งเป็นลูกตถาคตนี้ไม่มีความหมายเลยนะ เอ้า สร้างความหมายขึ้นในลูก และพ่อก็ขึ้นเอง พระพุทธเจ้าของเราเอกอยู่แล้ว เอ้าขึ้น เสริมขึ้นไป คราวนี้เป็นคราวที่เราจะได้สมบัติเข้าสู่คลังหลวงของเรา ถ้าเลยจากนี้แล้วจะไม่ได้นะ

         นี่หลวงตาได้พิจารณาเต็มสัดเต็มส่วนแล้ว ก่อนที่จะกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างออกมานี้ได้พิจารณาทบทวน ให้พอเหมาะพอดีกับชาติไทยของเราทุกสัดทุกส่วนแล้ว จึงได้ประกาศออกมา เพราะฉะนั้นจึงจะให้ลดลงไปจากนี้ไม่ได้ ว่างั้นเลย ถ้าลดลงไปจากนี้คอหลวงตาบัวต้องขาด เพราะได้พิจารณาเต็มสัดเต็มส่วนว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแม่นยำแล้ว ทำไมมันถึงผิดพลาดไปได้ อะไรเป็นเครื่องประกัน ประกันก็เรียกว่าตัดคอหลวงตาบัวไปเสียเลย หลวงตาบัวหมดคุณค่าไม่มีราคาอะไรเลยแล้ว ประกาศออกพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ ให้ท่านผู้ได้ฟังก็ไม่เห็นมีความหมายอะไรในคอนี้ พอจะช่วยกันเสียดายคอหลวงตาบัวไว้ ตัดขาดออกเสียดีกว่า เรียกว่าหลวงตาบัวนี้อาภัพมากที่สุด

         ท่านทั้งหลายต้องการความอาภัพหลวงตาบัว หรือต้องการความเป็นสิริมงคลแก่พี่น้องชาวไทยด้วยกัน ก็ให้เอาตามนี้แหละนะ เอาเป็นเครื่องตัดสิน เอาทองคำเราเป็นเครื่องตัดสิน ดอลลาร์เป็นเครื่องตัดสิน ความรักชาติความเสียสละเป็นเครื่องตัดสิน จะสง่างามไปหมด เมืองนอกเมืองนาเขามีหูมีตาจ้องเข้ามา ให้เขาเห็นแต่ความสง่างามแห่งชาติไทยของเรา ไปที่ไหนยิ้มแย้มแจ่มใส มีหน้ามีตามีศักดิ์ศรีดีงาม ไม่ใช่ไปที่ไหนแบบหมอบไป ๆ คนไม่มีศักดิ์ศรีดีงามไปที่ไหนไม่สง่างาม ต้องมีความสง่างามด้วยความรักชาติของตัวเอง แล้วความพร้อมเพรียงสามัคคีดีงามทุกสิ่งทุกอย่าง

         ความพร้อมเพรียงสามัคคีนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ท่านทั้งหลายอย่าได้มองข้ามไปนะ ในอวัยวะของเรานี่ทุกสัดทุกส่วนมันพร้อมเพรียงสามัคคีกัน ทุกสัดทุกส่วนดีทุกอย่าง นำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สร้างบ้านสร้างเมือง สร้างโลกสร้างสงสาร สร้างศาสนา สร้างอรรถสร้างธรรมเข้าสู่ใจได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เมื่ออวัยวะของเรามีความพร้อมเพรียงสามัคคี ไม่มีวิกลวิการส่วนใดส่วนหนึ่งพอจะให้งานทั้งหลายบกพร่องไป แล้วก็ต้องสมบูรณ์เต็มแบบ ๆ ไปเลย อันนี้ความพร้อมเพรียงแห่งคนทั้งชาติ ต่างคนต่างมีความสามัคคีดีงามยิ่งมีน้ำหนักมากกว่านั้น มีคุณค่ามากกว่านั้น

         จึงขอให้พากันรักความสามัคคี อย่าไปยกนั้นยกนี้แยกนั้นแยกนี้ นั่นยกทัพข้าศึกมาตีกัน ยกฐานะสูงต่ำอย่างนั้นอย่างนี้เข้ามาแล้วไปเหยียบย่ำคนอื่น เด็กมันก็เป็นคนเต็มตัว ผู้ใหญ่เป็นคนเต็มตัว เด็กนี้เกิดมาจากผู้ใหญ่ ไม่ได้เกิดมาจากไหน ถ้าตำหนิเด็กต้องตำหนิพ่อแม่ด้วย พ่อแม่ของเด็กนี่ทำไมจึงต้องไปตำหนิลูก ต้องตำหนิพ่อกับแม่ เมื่อตำหนิพ่อกับแม่ไม่ลง ลูกก็คือลูกของพ่อของแม่ นี่เราเป็นลูกของชาติไทยทุกคนตำหนิใครที่ไหนได้วะ มีพ่อมีแม่มาด้วยกันทุกคน ตำหนิกันไม่ได้นะ ต่างคนต่างมีพ่อมีแม่ด้วยกัน ถ้าตำหนิพ่อต้องตำหนิลูกด้วย หมู หมา เป็ด ไก่ ตำหนิไปหมดเลย

         ก็นี่เรายอมรับกันแล้วมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์กาลไหน ๆ มาตลอด ปู่ ย่า ตา ยาย พาถ่อพาพายมานี้สงบร่มเย็น ด้วยความนับถือเต็มสัดเต็มส่วน ลูกเป็นลูก พ่อเป็นพ่อ แม่เป็นแม่ พี่เป็นพี่ น้องเป็นน้อง น้าเป็นน้า อาเป็นอา ปู่ย่าตายายเป็นปู่ย่าตายาย ยกเทิดทูนกันมาโดยลำดับ บ้านเมืองของเรามีความผาสุกร่มเย็นมา นับถือกันด้วยความสนิทสนม เหมือนอวัยวะของเราชิ้นเล็กชิ้นใหญ่เป็นของเราทั้งนั้น ตำหนิตรงไหนได้ลงคอ เอาซิ ถ้าตำหนินิ้วมือนิ้วนี้มันสั้นกว่าเขาตัดมันออกแล้วเป็นยังไง ดีไหม หรือนิ้วนี้มันยาวเอาตัดลงให้เสมอเขา ดีไหม ก็ธรรมชาติมันมีอย่างงั้น

         นี่ธรรมชาติก็เกิดมาด้วยบุญด้วยกรรมของเราทั้งหลายเอง เราจึงได้มารวมเป็นชาติ แล้วก็นับถือศาสนาด้วยกัน แล้วมีพี่มีน้อง สิ่งเหล่านี้เราปฏิเสธไม่ได้ เรื่องอำนาจแห่งบุญแห่งกรรมบุพเพนิวาสชาติปางก่อนหนหลังของเรานี้ ถ้าไม่เคยเกี่ยวโยงกันมาแล้วยังไงก็เข้ากันไม่ติด สั่งสอนหรือบังคับกันไม่ลง ไม่มีใครเชื่อถือใคร จมไปได้ หัวหน้าเป็นผู้เช่นไร เมื่อผู้น้อยเคารพนับถือแล้วย่อมเชื่อฟัง เชื่อฟังจะสั่งอะไรเป็นไปด้วยความเป็นสิริมงคลด้วยกัน ๆ นี่ก็เหมือนกัน พวกเราทั้งหลายเรียกว่าบุพเพนิวาสชาติปางก่อน ที่เคยได้สั่งสมอบรมคุณงามความดีมาด้วยกัน ทั้งทางชาติทางศาสนา เราก็ได้สร้างบุญสร้างกรรมมาด้วยกัน มาเกี่ยวโยงกันเป็นพี่เป็นน้อง เป็นคนทั้งชาติ และมีครูมีอาจารย์ มีเจ้ามีนาย มีผู้ใหญ่ผู้น้อย ล้วนแล้วตั้งแต่คุณภาพคุณสมบัติเต็มสัดเต็มส่วนมาด้วยกันทุกคน รวมกันเข้าแล้วเป็นคนไทยทั้งชาติ นับถือศาสนาด้วยความถึงใจ

         แล้วอย่ามีการแยกแยะอย่างงั้น ดูถูกคนนั้นดูถูกคนนี้ ซึ่งเป็นการตำหนิติเตียนฟันมือตัวเอง อวัยวะนี้เป็นของตัวฟันส่วนไหนเสียหมด อันนี้ชาติไทยเป็นชาติของเรา ไปตำหนิตรงไหนเสียหมด ตัดตรงไหนเสียหมด ทำไมจะไม่เสีย เอ้า ส่งเสริมเข้าซิ.ตรงไหนไม่ดีให้ตักเตือนบอกกันด้วยความดิบความดี ด้วยเจตนาอันดี คนนั้นก็มีแก่ใจที่จะส่งเสริมและเชื่อฟัง เมื่อเชื่อฟังแล้วก้าวเดินไปได้ ดังเวลานี้ที่หลวงตาได้มานำพี่น้องทั้งหลายเวลานี้ เราก็ไม่เคยได้เคยคิดเคยอ่านว่าจะได้มานำพี่น้องทั้งหลาย ก็มีแต่สนใจทางพุทธศาสนา ปฏิบัติตนด้วยศีลด้วยธรรมไม่มีที่ต้องติตลอดมา

         ครั้นเวลากาลนานเข้ามาเหตุการณ์ต่างๆ มันก็เกี่ยวโยงเข้ามาๆ แล้วเรื่องเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนี้ สุดท้ายเราก็ต้องเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายด้วยความ ไม่ได้มีความสมัครตั้งใจมาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์หากบังคับเอง ให้เราทั้งหลายได้เกี่ยวโยง จับมือกันเข้า เอ้าหนุน ได้ช่วยชาติกันทั้งประเทศ หลวงตานี้เป็นต้นเหตุก็ถูก เพราะได้ยินต้นเหตุมาจากหัวใจของชาติเรา นั่นละมากระเทือนจิตใจถึงขนาดร้องโก้ก ๆ เลยเทียว เอ้าๆ เลยเทียว ตั้งแต่บัดนั้นมาก็เสกสรรว่าตนเป็นผู้นำก็ได้ ไม่เสกสรรแต่เป็นไปด้วยเจตนาต่อชาติบ้านเมือง นี่ถูกร้อยเปอร์เซ็นต์เลย แล้วบรรดาพี่น้องทั้งหลายเราก็ไม่ได้ไปบังคับบัญชา เพราะต่างท่านต่างมีความเคารพนับถือเชื่อฟัง แล้วว่าอะไร ๆ ก็เป็นนั้น

         นี่ทองคำเราได้ตั้ง ๖,๐๐๐ กว่ากิโลแล้ว ได้มายังไง คนเราไม่มีความเคารพนับถือสตางค์เดียวก็ไม่ออกนะ อย่าว่าเลยเงินบาทหนึ่งก็ตาม ดอลลาร์หนึ่งก็ตามจะไม่ออก นี่ต้องออกด้วยความพออกพอใจ มีความเสียสละด้วยความสามัคคีกัน นี่ก็บุพเพนิวาสชาติปางก่อนเคยเชื่อถือเป็นครูเป็นอาจารย์ เป็นเจ้าเป็นนายของตนมาแล้วยอมรับกัน ๆ ดังที่เราเคยพูดให้ฟังแล้ว

ดังที่พระพุทธเจ้าพระองค์ก็ไม่เห็นยกพระองค์นี่วะ พระองค์ยกให้เรื่องกรรมบุพเพนิวาสชาติปางก่อน คือพระกัสสปะกับบรรดาบริษัทบริวารทั้งหลายนี้เคยเป็นลูกศิษย์ลูกหากันมาตั้งแต่สร้างบารมีมาด้วยกัน ถึงขนาดที่พระพุทธเจ้ามาเป็นศาสดาองค์เอกแล้ว พระกัสสปะก็มาเป็นสาวก ท่านเหล่านั้นก็เป็นลูกศิษย์ของพระกัสสปะ ก็เป็นลูกศิษย์ของท่านมาตลอด ทีนี้เวลานั้นพระพุทธเจ้าเสด็จไป พระกัสสปะตามหลังมา เดินมาตามหลังตามเสด็จพระพุทธเจ้า พอไปถึงย่านกลางทาง ก็มีพวกแม่ค้าทั้งหลายหาบสินค้ามาเต็มทีเดียว หลั่งไหลมานี่ พระองค์ทรงมองดูแล้ว เขาเฉยนะเขาเห็นพระพุทธเจ้า จะไปตำหนิเขาไม่ได้นะ นี่เห็นไหมบุพเพนิวาส ไปตำหนิเขาไม่ได้นะ

พระพุทธเจ้ามองเห็น พระพุทธเจ้ารู้หมด แต่เขาไม่รู้เขาก็เดินเฉยผ่านไป พอเขาผ่านไปแล้วพระพุทธเจ้าก็บอกว่า เออ นี่ละหยุดที่นี่นะอานนท์ นั่นฟังซิ หยุดร่มไม้นี่ละอานนท์ว่างั้น เอ้า หยุดที่นี่ เราคอย พระกัสสปะ พวกแม้ค้าทั้งหลายเหล่านี้นะ นั่นฟังซิ นี่เขาเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะนะ เขาไม่ได้เป็นลูกศิษย์ตถาคต แน่ะ พระองค์ไม่ได้เหยียบย่ำ ไม่ยกยอพระองค์นะ นี่เขาเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ เขาไปนี้ไปเจอพระกัสสปะแล้วเขาจะเข้ากราบไหว้บูชา เพราะเขาเป็นลูกศิษย์เก่า แล้วพระกัสสปะจะพาเขามาหาเรานี้แหละ ว่างั้นนะ พระกัสสปะจะพาเข้ามาหาเรา แล้วสิ่งของที่เขาหาบไปทั้งหมดจะมาที่นี่หมด เราอยู่นี้ละ ไม่นานสักเดี๋ยวพระกัสสปะก็พาพี่น้องลูกหลานทั้งหลาย ลูกศิษย์ของท่านนั่นละหลั่งไหลมา เต็มไปหมดในแถวนั้น

นี่เห็นไหมนิสัยวาสนา นี่บอกว่าเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ ไม่ใช่เป็นลูกศิษย์ตถาคต เราคอยกินกับพระกัสสปะว่างั้นเถอะน่ะ เราเป็นพระพุทธเจ้าก็ตามคราวนี้ต้องคอยกินกับพระกัสสปะ พระกัสสปะเอามาเลี้ยงพระพุทธเจ้าเห็นไหมล่ะ นี่ละตัวเล็กตัวใหญ่ตัวโตมันมีคุณค่าด้วยกันหมดใช่ไหมล่ะ ให้พากันจดจำ

นี่ความลงใจเสียอย่างเดียวเท่านั้นลงได้หมดนะ ถ้าไม่ลงใจนี้ไม่ลง สตางค์หนึ่งไม่ออก ถ้าลงใจแล้ว เอ้า ถึงไหนถึงกันเลย ใจเป็นของสำคัญมากจึงขอให้อบรมจิตใจไปทางที่ถูกที่ดี แล้วจะเป็นมหามงคลแก่พี่น้องทั้งหลายทั่วหน้ากันนะ นี่เราก็นับว่าเป็นบุพเพนิวาสชาติปางก่อนของเรา ได้อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกาย ชาติไทยของเราขึ้นมาถึงขนาดนี้ก็นับว่าเต็มกำลังความสามารถของเรา ซึ่งเป็นที่น่าภูมิใจเป็นอย่างมากนะ ต่อแต่นี้ไปเราก็จะพยายามขอให้ได้น้ำหนักทองคำ ๑๐ ตัน และดอลลาร์อย่างน้อย ๑๐ ล้าน แล้วหลวงตาก็พอใจ แล้วการที่รบกวนพี่น้องทั้งหลายดังที่เป็นมานี้ ว่าที่นั่นที่นี่ เจอหน้ากันที่ไหน ไหนล่ะทองคำ ไหนล่ะดอลลาร์ดังนี้ จะไม่มีเข้าใจไหม จะงดหมดโดยประการทั้งปวง

ทีนี้จะเหลือออกอีกช่องหนึ่งนะ เวลานี้ทองคำเรายังขาดเหลืออยู่ที่มันคี่ เข้าใจไหมล่ะ เวลานี้ทองคำเราขาดอยู่คลังหลวงยังคี่อยู่นะ แต่คี่ก็ตามเพราะน้ำหนักอันนี้มันมากกว่าเราจึงไม่พูดถึงอันนั้นเลย แล้วเวลานี้อันนี้น้ำหนักขึ้นมากพอสมควรแล้ว ต่อไปนี้ก็จะไม่รบกวนพี่น้องทั้งหลายจะออกแย็บออกนี้แหละ ถ้าสมมุติว่าทองคำเราได้น้ำหนัก ๑๐ ตันแล้ว เวลานี้ยังมีคี่อยู่นิดหนึ่งนะ ถ้าท่านผู้ใดบริจาคทานมาเพื่อคี่นี้ให้เป็นคู่แล้วหลวงตาบัวจะพอใจ จะพูดเป็นแบบออดอ้อน จะให้พูดตีกระเป๋าอย่างแต่เสียก่อนไม่เอาเข้าใจไหม จะเที่ยวออดอ้อนกระเป๋ากระเป๋านี้เอามาจนคู่นั้นแหละ เข้าใจไหมล่ะ นี่ละเวลานี้เป็นเวลาเที่ยวหาตีกระเป๋านะ พอได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันแล้วจะไม่ตี กิริยาท่าทางที่แสดงอย่างนี้จะงดหมดเลย จะมีเหลือตั้งแต่ความออดความอ้อน เอามาเท่านั้นนะเท่านี้นะ ยังคี่อยู่เท่านั้น ให้คู่นะ อันนี้จะออกละนะ ออกแทนเข้าใจไหม ให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบ

วันนี้ก็เป็นวันมหามงคลแก่พี่น้องทั้งหลายชาวไทยเรา คือ ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณอัครราชกุมารี ท่านอุตส่าห์เสด็จมา ท่านอยู่กรุงเทพฯ มีความผาสุกสำราญบานพระทัยขนาดไหน ภาวนาก็เก่ง ท่านยังอุตส่าห์มา วันนี้ก็มานอนอยู่นี้ฟังเสียงไก่ขัน ฟังเสียงไอ้ปุ๊กกี้มันเห่ามันหอน มันไปปีนท่านนะ เออ ไอ้ปุกกี้มันของเล่นเมื่อไรไอ้ปุกกี้เรา มันนึกว่าเจ้าของเดิมของมันคือ พรสวรรค์เป็นเจ้าของเดิม พอดีท่านเสด็จขึ้นมาก็มากุฏิหลังนั้น ไอ้ปุ๊กกี้เห็นกระโดดขึ้นไปมองนั้นมองนี้สุดท้ายก็ปีนท่านนะ หากปีนไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยปีนทั้งระวัง คือไม่แน่ใจนัก นี่เห็นไหมท่านยังอุตส่าห์มานี่ ท่านมาบำเพ็ญภาวนา

วันนี้ก็ทราบว่าท่านจะประทับค้างที่นี่ก่อน แล้วตอนบ่ายก็อาจจะเข้าไปสนทนาธรรมะกัน นี่พี่น้องทั้งหลายนับว่ามีวาสนาบารมี แล้วท่านเสด็จมาก็มาส่งเสริมวาสนาบารมีของพี่น้องทั้งหลายให้มีกำลังใจบำเพ็ญคุณงามความดี ปฏิบัติต่อตนเองและส่วนรวมให้เป็นมหามงคลแก่ชาติของเรา วันนี้การเทศนาว่าการก็ไม่ได้เทศน์มากอะไรละ ให้พากันกลับบ้านกลับเรือนเสาะแสวงหาคุณงามความดี มีเหตุมีผลรักษาตัว อย่าเอาแต่ความคิดความเห็นของตัวเองออกไป วู่วาม ทางโน้นทางนี้ใช้ไม่ได้นะ ให้มีเหตุมีผลเป็นเครื่องรักษาตัว คนเราจะงามด้วยเหตุด้วยผลด้วยกิริยามารยาทที่แสดงออกโดยอรรถโดยธรรม เป็นความดีงาม ไม่ออกด้วยความชอบใจตนเองแต่ผิดใจกระเทือนใจคนอื่น อย่างนี้ไม่เป็นมงคล ให้นำไปประพฤติปฏิบัติ เอาละ การเทศนาว่าการก็ขอยุติเพียงเท่านี้ ต่อไปนี้จะให้พร

เมื่อวานนี้เราก็ไปถ้ำผากง โอ๊ย.หลงลืมหมดเลยนะ มันเป็นคนละโลกไปเลย เราเที่ยวภูเขาลูกนี้ตั้งแต่ภูเหล็กท่านวันไปจนกระทั่งถึงภูจ้อก้อ แหลกขนาดนั้นนะ เที่ยวขึ้นลง - ปี ถึงโน้นเลย นี่ก็ห่างไม่ได้ไป ๕๐ กว่าปีนะ แต่ก่อนเที่ยวซอกแซกอยู่ในป่าในเขา อยู่อย่างนั้นละคนเดียว ไปที่ไหนมีแต่ดงแต่ป่าทั้งนั้น แต่ก่อนไม่มีบ้านคน ถ้ามีก็เพียง - หลังคาเรือน เราก็เคยไปพักอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ไปพักภาวนาอยู่กับเขา มีตั้งแต่ดงแต่ป่าไม่มีบ้านผู้บ้านคน เที่ยวขึ้นลง จนกระทั่งถึงภูจ้อก้อ ตั้งแต่นั้นมาเมื่อหลวงปู่มั่นมรณภาพแล้วนี้ หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้ไปเที่ยว พึ่งไปเมื่อวานนี้ โอ๊ย.หลงหมดเลย คือป่าเขาทั้งหมดเป็นธรรมชาติแต่ก่อนมันกลายเป็นที่ปลูกสร้างไปหมด บ้านเรือนคนมีอยู่ทุกแห่งทุกหนไปเลย ไปเมื่อวานนี้

เราจำเอาแต่เพียงเขาบอกว่า หมู่บ้านนั้น เท่านั้นละนะ คือบ้านแต่ละบ้านนั้นแต่ก่อนมี - หลังคาเรือน - หลังคาเรือนเป็นประจำ เดี๋ยวนี้มีแต่บ้านหลังใหญ่ หมู่บ้านใหญ่ ทั้งนั้นเต็มไปหมดในภูเขาลูกนั้นเมื่อวานนี้ โอ้โห เปลี่ยนแปลงไปขนาดนั้น เปลี่ยนไปหมดเลย จะขึ้นไปบนถ้ำก็ขึ้นไม่ได้ เพราะทางจากนั้นขึ้นสูง เราเลยไม่ขึ้นไปถึงแค่ศาลา ก็เดินฉากนั้นฉากนี้ แล้วก็ออกมาเท่านั้นละกลับมา ได้เห็นเท่านั้น มันเปลี่ยนสภาพไปหมดแล้ว ที่ว่าป่าแต่ก่อนไม่มีเลย

นี่มาอีก นี่ก็ไม่ใช่เล่น ทองก็ตั้ง ๑๐ บาท มาจากไหนล่ะ

โยม โรงพยาบาลชัยเกษม อุดรฯนี่ครับ

หลวงตา อ๋อ ชัยเกษมอุดรฯ เออ พอใจ

 

 

ชมการถ่ายทอดสด ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน  ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก