เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
ขีดเส้นตายกันที
(มีผู้ถวายทองคำ ๑ กิโล แต่เขาไม่ยอมออกนามครับ) บุญนี่ก็ถึงตัวผู้ไม่ออกนามเหมือนกัน บุญก็ถึงตัวผู้บริจาคผู้ไม่ออกนามเหมือนกัน เข้ากันได้สนิท ผู้ออกนามก็ถึง ผู้ไม่ออกนามก็ถึงเหมือนกันหมด นี่วันนี้ได้กิโลหนึ่งแล้ว ขยับเข้าเรื่อยนะพวกเราชาวไทยถอยไม่ได้ ขยับเรื่อยเลย เริ่มเร่งเครื่องไปเรื่อยๆ ที่จะให้อ่อนไม่อ่อน ต่อไปเรื่อยๆ เลยจนถึงจุดที่ต้องการ คือต้องให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วดอลลาร์ ๑๐ ล้านดอลล์ เรียกว่าจุดก้าวอยู่จุดนี้ ขึ้นไม่เป็นไรแต่ลงไม่ได้ว่างั้นเลย มีแต่ขึ้นท่าเดียว จาก ๑๐ ตันขึ้นท่าเดียว จาก ๑๐ ล้านขึ้นท่าเดียวลงไม่ได้ มีแต่จะเร่งเรื่อย
ความอบอุ่น ความแน่นหนามั่นคงและเกียรติ โลกนี้ต้องการกันทั่วโลก เมืองไทยเราไม่ใช่เมืองจืดเมืองจาง ก็เหมือนเมืองโลกทั่วๆ ไป เขาต้องการฉันใดเมืองไทยเราก็ต้องการฉันนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงต้องให้ได้ตามจุดนี้ ทองคำ ๑ กิโลเป็นของเล่นเมื่อไร มันกี่แสน ๑ กิโล ไม่ใช่เล่นทองคำ (ประมาณ ๔ แสน ๙ หมื่นเจ้าค่ะ ขึ้นมาสี่ห้าวันนี้เจ้าค่ะ) นั่นซิทำไมขึ้นเรื่อยๆ (ดอลลาร์ลง เงินบาทแข็ง เขาก็เทดอลลาร์ออกมาขายแล้วซื้อทองคำ เขาวิเคราะห์กันอย่างนี้) นั่นซี เดี๋ยวทองคำเอะอะขึ้นแล้วๆ มันร่วม ๕ แสนนะกิโลหนึ่ง ถ้าเป็นสองกิโลมันก็ฟาดล้านขึ้นไปแหละ
เมื่อวานนี้เราก็ให้ทางอำเภอศรีเชียงใหม่ ๓ ล้าน เป็นทองคำ ๖ กิโลกระมัง (เจ้าค่ะ) นั่น เมื่อวานนี้เราไปครู่เดียวออก ๓ ล้านเลย ไปก็เข้าโรงพยาบาลเลย เพราะโรงพยาบาลติดกับถนน บางคนสำหรับเห็นกันสดๆ ร้อนๆ คงไม่เห็นกันแหละ แต่เรื่องโทรทัศน์นี่ไม่ต้องบอก เห็นทั่วหน้ากันหมด พอเราไปปั๊บลงรถ เขาก็เอารถเข็นไสเข้ามาหารถของเรา เขานึกว่าคนป่วยมาที่นั่น เขาก็เอารถเข็นปุ๊บปั๊บเข้ามามาหารถของเรา ดีแล้วรถเข็นมาก็ดีแล้ว เอ้า เปิดตู้นี้ขนของออกจากตู้นี้ พอว่างั้นเราก็ปั๊บออกเลย เขาก็มองเราไม่ทันเพราะเราไม่เคยเข้าด้วยโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ ทางโน้นมาติดต่อขอนั้นขอนี้เสมอ แต่เรายังไม่เคยเข้า เมื่อวานตั้งหน้าปักใจไปเลยเทียว ออกจากนี้ปั๊บปุ๊บเข้าเลย
พอลงรถแล้วก็บอกเขาให้เอาของอยู่ในตู้นั้นออกมาขึ้นรถเข็น พอว่าอย่างนั้นแล้วก็ไปเลย เข้าตึกเข้าห้องนั้นห้องนี้เรื่อย เขาวิ่งตาม บางคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็มี มองดูหน้า หลวงตาองค์นี้มาจากไหน คงว่าอย่างนั้นก็มี เวลาจะทำเป็นอย่างนั้นละเรา เหมือนบ้าคนหนึ่ง เหมือนคนดีคนหนึ่ง เหมือนทุกอย่าง มันทำได้ทุกแบบ ไปก็เข้าห้องนั้นเข้าห้องนี้ สักเดี๋ยวหมอเขาทราบ มาก็วิ่งตาม เราเข้าห้องนั้นห้องนี้เข้าไปหมดเลยนะ พอทราบมากเข้าๆ ทีนี้ไหลตามเลย ไปที่ไหนแห่กันเลยเทียว ไปสุดเขตโรงพยาบาล เนื้อที่มันกว้างเท่าไรโรงพยาบาลนี้ ว่า ๙ไร่ โฮ้ อำเภอเรานี้ไม่ใช่อำเภอเล็กน้อย อำเภอสมมาพอควรทุกอย่างในอำเภอนี้ แต่โรงพยาบาลความกว้าง ๙ ไร่ รู้สึกว่าคับแคบไป เราก็ว่าอย่างนั้น
เราก็เดินออกไปสุดเขตแล้วมองที่โล่งบ้างอะไรบ้าง มีความหมายว่ามันพอได้ตรงไหนจะเอา ติดต่อกัน ออกไปสุดเขตแล้วก็ดูนั้นดูนี้แล้วกลับเข้ามา ทางนั้นมันก็เป็นถนนนี่ไม่มีทางออกไป มีทางเดียว เพราะฉะนั้นเราถึงรถแล้วไปทางนี้ พอมองดูนั้นดูนี้แล้วก็กลับมา มีหมอติดแนบกับเรามาเลย เลยได้คุยกันมาตามนั้น ที่มันว่างอยู่นี้เป็นที่เขาจะขายหรือที่ยังไงต่อยังไงพูดมา จากนั้นก็เอากันใหญ่ละที่นี่ ที่เขาจะขายอยู่ ว่างั้น เออ ถ้าเขาจะขายก็พอมีหวัง ถ้าไม่ขายก็ปิดตาย ราคาเท่าไรก็ไม่มีความหมายใช่ไหมเพราะไม่ขาย อันนี้ขายยังพอจะลดหย่อนผ่อนผันกันได้ไม่มากก็น้อย เราคิด แล้วเจ้าของอยู่ที่ไหนล่ะ อยู่ทางโน้น เจ้าของชื่อว่ายังไง
ดีแล้วให้ไปติดต่อเจ้าของ ให้เชิญเจ้าของที่นี้มาหาเรา ว่าหลวงตามาที่โรงพยาบาลที่นี่แล้วอยากพบ ขอความกรุณาให้ไปพบกันที่โรงพยาบาล เราบอกอย่างนั้นเลย พูดถึงเรื่องใหญ่ เราก็เป็นพระนี่ เราใหญ่กว่าอยู่แล้วใช่ไหม ไม่มีอะไรที่จะเป็นการดูถูกเหยียดหยามกัน เราพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ให้มาพบ มาทันทีเลย ทางรถพยาบาลไปเอาเขาเลยนะ ทางรถไปรับเขามา พอโผล่หน้ามา มันก็แปลกเหมือนกัน ทำไมมันรับกันตั้งแต่นี้ถึงศรีเชียงใหม่จนกระทั่งถึงเจ้าของ ไม่พูดพล่ามทำเพลงเมื่อวานนี้ ออกจากนี้ปุ๊บเตรียมของเลย ให้ใส่ของให้เต็มรถ ดังที่เคยเอาไปโรงพยาบาลต่างๆ ให้เต็มรถ เราจะไปศรีเชียงใหม่ เราว่างั้น ออกจากนั้นก็บึ่ง ไปก็เข้าปุ๊บเลย
เข้าก็เข้าซอกแซกๆ เห็นหมดทุกห้องเลย ออกมาก็มาคุยกัน ทีนี้ก็ให้รถเขาไปรับเอาเจ้าของที่มา พอเจ้าของที่โผล่เข้ามา มันยังไงกันนี่ก็ลูกศิษย์ มหามงคลทำไมถึงเจอกันอย่างจังๆ ไม่คาดไม่ฝันอย่างนี้นี่นะ แกก็ปุ๊บปั๊บเข้ามากราบที่นี่เลย เราเคยไปบ้านแกหนหนึ่งที่ศรีเชียงใหม่ ก็ลูกศิษย์ แกก็ดีใจสุดขีดของแกแหละดูก็รู้ว่างั้นเถอะ แกดีใจสุดขีดเลย เพราะต่างคนต่างไม่คาดไม่ฝันว่าจะได้พบกันในเวลานั้นนะ ทั้งๆ ที่เป็นลูกศิษย์กับอาจารย์กัน เราก็ไม่เคยคิดเกี่ยวข้องกับแก เพราะเราจะไปหน้าที่ของเราต่างหาก ถ้าพูดถึงลูกศิษย์มันก็มีอยู่ทั่วไป พอโผล่เข้ามาทางนี้ก็ร้องโก้กทางนั้นก็ร้องโก้ก แล้วเข้ามานี่เลย แกพออกพอใจ เอาละที่นี่มหามงคลเราเกิดแล้ว ยังไม่พูดคำไหนขึ้นแล้วมหามงคล บอกงั้นเลย นี่ลูกศิษย์กับอาจารย์มาพบกันโดยไม่คาดไม่ฝันมีอย่างเหรอ มาเจอเอาแล้ววันนี้ เราบอกงี้เลย
เอา ทีนี้ไม่พูดกันมากแหละ เราในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์ หลวงตามานี่จะมารบกวน นี่เป็นที่ของลูกศิษย์ใช่ไหม แกก็บอกว่าใช่ เหมาะแล้ว ขึ้นเลยทันที เอากันปุบปับๆ ทีนี้เราก็สืบทราบแล้วว่าเขาจะขายอยู่ แล้วจะขายประมาณไร่ละเท่าไรบริเวณนี้ เพราะมันอยู่ติดกับตลาด ชานตลาดออกมานั้นเลย เรียกว่าอยู่ในเขตของอำเภอ ตัวตลาดในเขตนั้นเลยติดกัน เนื้อที่มันก็แพงพอสมควร ดูแล้วเรียกว่าเนื้อที่ต้องเป็นที่หนึ่งละ แพง แถวนั้นนะ ถามเขาว่าจะขายไร่ละ ๑ ล้าน มันมีอยู่สักกี่ไร่ล่ะ เขาก็พูดตามเรื่องของเขา เพราะเขาไม่ทราบว่าจะขอซื้อซิ ว่ามีประมาณสักหกเจ็ดไร่ แต่เรายังไม่ทราบว่ามันเกี่ยวโยงกับอะไร ทีนี้พอมาพูดกันแล้ว ทีนี้ก็เอาที่นี้เลยละนะ มานี่จะให้เป็นมหามงคลทั้งเจ้าของอำเภอศรีเชียงใหม่ ทั้งหลวงตาที่เป็นอาจารย์ของตลาดศรีเชียงใหม่ทั้งหมด เราก็ว่างั้นแหละ วันนี้เราจะมามอบมงคลต่อกันนะ
ทีนี้มีประมาณสักกี่ไร่ แล้วเป็นที่ของเราใช่ไหม เขาก็บอกว่าใช่ เออ วันนี้หลวงตาจะรบกวนนะ คือหลวงตามานี้มุ่งหมายมาโรงพยาบาลเรา อำเภอเรา ตั้งหน้าเข้ามาเลย แล้วพอดีก็สมหวัง เจอทีแรกก็เป็นมหามงคลแล้ว ทีนี้หลวงตาอยากจะได้ที่นี้ เวลานี้ที่ที่มันเต็มที่ที่ไม่เกี่ยวปนกับเรื่องอะไรเลยที่ติดกันกับโรงพยาบาลนี้ มีประมาณสักกี่ไร่ เขาบอกว่าประมาณ ๓ ไร่กว่า ทีนี้หลวงตาจะขอพูด หรือว่าซื้อหรือว่าขอก็แล้วแต่ ในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์ ที่ ๓ ไร่นี้หลวงตาขอซื้อ ทั้งขอทั้งซื้อเลย เอาหมดเลยเราว่างั้น หลวงตาจะไม่ให้ทางนู้นอะไรละ ทีแรกถามที่ธรรมดาเขาคิดกันราคาสักเท่าไร เขาไม่พูดเลย เขาจะไม่เอาเงินหลวงตาท่าเดียว เขาจะให้เลย โอ๋ย อย่างนั้นไม่ได้ เราบอก เราไม่ได้มาแบบนั้น เรามาแบบแบ่งครึ่งกันนี่นะ ให้เป็นมงคลด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้ามาหนักทางใดทางหนึ่งไม่เป็นมงคล เรายังไม่รับ เอาให้เป็นมงคลด้วยกัน
หลวงตาจะให้ ๓ ล้านเลย เขาจะไม่เอา ฟังซิว่าเขาจะไม่เอาเงิน เราบอกเราให้ ๓ ล้านเลย เอาไม่เอาก็ตาม นี่เป็นหลวงตาเป็นอาจารย์จะเป็นผู้ให้ เราบอก เอ้า ให้ ๓ ล้านเลย เราว่าอย่างนั้น พูดกันปุบปับๆ แบบลูกศิษย์กับอาจารย์เลยแหละ ปุบปับๆ เสร็จเรียบร้อย เหมือนว่าเรานี้ปิดปากเขาเลย พูดอะไรมีแต่ปิดปากเขาเรื่อย ตกลงก็เอากันเลย ทีนี้ที่ของเราทั้งหมดมันกว้างเท่าไร ถามย้ำเข้าไปนะ มันประมาณสักหกเจ็ดไร่แต่มันติดหลักเสาไฟฟ้าอะไร เขามีสัญญากันจริงๆ ๙ ปี ต่อจาก ๓ ไร่นี้ไปนะ ที่ตรงนั้นเราไม่เอาละ เพราะชีวิตจิตใจของเราเป็นของไม่เที่ยงใช่ไหม เมื่อมันยั้วเยี้ยไปถึงปีนั้นปีนี้สัญญานั้น เราตายเสียก่อนว่าไง เราเอาให้เสร็จในปัจจุบันนี้เลย ก็เลยตกลงเอา ๓ ไร่นี้ มันเศษเหลือเท่าไรแกพร้อมเสมอที่จะให้ เราจะเอาเฉพาะจำเป็นเราบอกงั้นเลย
พอตกลงกันเรียบร้อยแล้วแกก็ชี้เลยกับทางโรงพยาบาล เอาตรงแน่วไปเลยนะ แนวนี้ไม่ให้คด แกบอกว่าแนวของโรงพยาบาลยังไงให้ตรงแน่วไปเลย คือตัดขาดสะบั้นไปเลย ที่ของแกทั้งหมดเรียกว่าแกสละ ว่างั้นเถอะน่ะ ตกลงแกบอกว่าให้ตัดแน่วไปเลยถึงเขตแดน ตกลงเราก็เรียกว่าได้ตามนี้ไปเลย แล้วก็ให้แกเขียนเกี่ยวกับเรื่องบัญชีเงินธนาคาร เราจะจัดการเองเราบอก ตกลงเราสรุปเอาเลย ที่นั้นให้ต่ำกว่า ๓ ไร่ไม่ต่ำแหละ คิดว่าจะมากกว่านั้นหน่อย คือแกสละไปหมด ทะลุ แกว่าตัดแนวนี้ทะลุถึงโน้นเลย ตรงแน่ว แกว่างั้น ทางด้านโรงพยาบาลตรงแน่วพุ่งถึงนู้นเลย ให้ถึงที่สุดเลย เรียกว่าทางนั้นอะไรมาขวางไม่ได้ แกจะตัดขาดสะบั้นเพราะเป็นที่ของแกทั้งหมด แกจะตัดขาดไปหมดเลย ตกลงเป็นอันว่าได้เรื่องกันละ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๓ ไร่แหละ เราก็ให้แก ๓ ล้าน แกไม่ว่าอะไรเพราะแกจะไม่เอาอยู่แล้ว เราบังคับเอาเลยนะจะให้ ๓ ล้านเลย จะไม่ให้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรๆ มาเข้าเจือปน ให้เป็นแต่ความเป็นมงคลต่อกันที่ได้มาพบกันในคราวนี้ ทางนู้นจะให้เฉยๆ ก็ไม่เอา ต้องต่างคนต่างแบ่งจึงเป็นมงคลต่อกัน เราก็ให้เท่านั้นเลย
ตกลงเมื่อวานนี้ก็ไปซื้อที่ให้โรงพยาบาล ส่วนรถเขาขอเราก็เลยไม่ตอบเลย คือเขาขอก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เรายังไม่ให้เขา เพราะรถเราให้ทางโน้นทางนี้ไม่หยุดไม่ถอย มันไม่พอเราก็ต้องพักเฉยไว้ยังไม่ตอบ ตอบอันนี้ก่อน ที่ ๓ ไร่นั้นก่อน เรื่องรถพิจารณาเมื่อไรก็ได้ไม่เห็นยากอะไร นี่ละที่ไปเมื่อวานนี้ เรื่องเครื่องไม้เครื่องมือเราก็ไปดูแต่ไม่ได้ถามอะไรมากนัก ถามแต่เครื่องใหญ่พวกเอกซเรย์ ว่าดีอยู่ คือเครื่องใหญ่ๆ เราไปถาม เครื่องเล็กเครื่องอะไรเราไม่ถาม ไปทุกห้องเลยนะ เขาตามเราไม่ทันแหละ พอไปเราเข้าห้องนั้นห้องนี้ๆ ไปหมด ห้องไหนสำคัญๆ เข้าก่อน ห้องเอกซเรย์เข้าเป็นอันดับหนึ่ง เขาเขียนป้ายไว้ห้องเอกซเรย์เข้าเลย จากนั้นก็ห้องผ่าตัด ห้องคลอดห้องอะไรเข้าเป็นลำดับลำดาไป
ก็เป็นอันว่าเรียบร้อยละ ที่ก็ขยายออกไป ๙ ก็เป็น ๑๒ ไร่ เอาแหละพอ จำเป็นจะทำยังไงมันหมดที่แล้วนี่ ถ้ามันพอขยับขยายได้กว่านั้น เราจะเอากว่านั้น แต่นี้มันอย่างว่า ที่สัญญากับเขา ต้นเสาต้นอะไร ไฟฟ้งไฟฟ้าอยู่นั่น ฟังว่าสัญญากันไปถึง ๙ ปี ที่มันจะเกี่ยวโยงยั้วเยี้ย ไม่เอา เราตายเมื่อไรก็ได้นี่นะ เราตายแล้วเรื่องเหล่านี้มันก็เกี่ยวโยงกันอยู่ทำไง ไม่เอา เอาเฉพาะที่เรียบร้อยไปเลยทีเดียว เลยเอาแค่นั้น น่าจะ ๓ ไร่กว่า ไม่นานละ ทางโรงพยาบาลเขาคงจะมาอีก เขาจะติดต่อกับเจ้าของที่ เป็นยังไง ๆ แล้วเขาจะมาอีกทีหนึ่ง คิดว่าจะมาแน่ ๆ พอเสร็จแล้วก็จ่ายเงินไม่มีปัญหาอะไร เรื่องจ่ายเงินไม่มีปัญหาละ
นี่ละเราช่วยบ้านช่วยเมืองไม่ทราบจะช่วยทางไหนบ้าง ๆ กรุณาพี่น้องทั้งหลายพิจารณา ต่างคนต่างพิจารณาในชาติไทยของเรา เวลานี้เราก็กำลังจะหมุนสมบัติที่มีคุณค่ามหาศาล และเป็นหัวใจของชาติไทยเรา คือ ทองคำเข้าสู่คลังหลวง หลวงตาจึงได้รบกวนพี่น้องทั้งหลาย ด้วยการพิจารณาเต็มหัวอกแล้วจึงได้ออกประกาศนะ ไม่ใช่จะพูดแบบชุ่ย ๆ อะไรต่ออะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เราไม่ทำอย่างนั้น คนไทยทั้งประเทศประมวลมาไว้นี้หมด แล้วเหตุการณ์อยู่ในภายในนี้เป็นความรับผิดชอบ ความเดือดร้อนความอบอุ่น ความแน่นหนามั่นคง ความโยก ๆ คลอน ๆ จะอยู่ในเมืองไทยนี้หมด
เราเอามาพิจารณาบวก ลบ คูณ หาร เรียบร้อยแล้ว เราจึงได้ออกประกาศออกมาเลยว่า ที่เหมาะสมกันในคราวนี้ก็คือ ให้ได้อย่างนี้แหละ อย่างที่ว่านี้ ไม่ควรจะให้ลดกว่านี้ ถ้าลดกว่านี้เสีย หลวงตาไม่ยอมให้ลดเลย ฟังซิพี่น้องทั้งหลายหลวงตาซึ่งเป็นหัวหน้าเองจะเอาทองคำให้ได้ ๑๐ ตัน ดอลลาร์อย่างน้อยต้อง ๑๐ ล้าน ต่ำกว่านี้ไม่ได้ ได้พิจารณาเต็มเหนี่ยวแล้วจึงได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยเราทุกคน เราเป็นคนไทยต้องเอาให้สมน้ำสมเนื้อทุกคนทีเดียว คราวนี้เป็นคราวที่จะประกาศก้องในศักดิ์ศรีดีงามแห่งชาติไทยของเรา ให้โลกภายนอกได้รู้กันอย่างทั่วถึงว่าเมืองไทยเป็นยังไง ทั้ง ๆ ที่มีพระเป็นผู้นำอยู่ด้วย นี่มีน้ำหนักอันนี่อีกนะ ถ้าถูกดูถูกก็แหลกเลย ถ้าดีก็ควรชมเพราะพระเป็นผู้นำ ถ้าเลวก็เลวสุดยอดเข้าใจไหม ความเลวนี้สุดยอดเลยนะ ความดีไม่ค่อยเด่นนักละ เรื่องดีนั้นดี เพราะพระก็ดีอยู่แล้ว ศาสนาดีอยู่แล้วนำไปก็ดีอยู่เรื่อย ๆ แต่ถ้ามาลดลงนี้ฮวบทีเดียวจมเลยนะ
เพราะฉะนั้นขออย่าให้ลดเป็นอันขาด ทองคำเราน้ำหนัก ๑๐ ตัน ขอให้ได้เต็มสัดเต็มส่วน ดอลลาร์นั้นเราแน่ใจอยู่แล้วตั้งแต่บัดนี้แหละ เวลานี้มันก็ได้ร่วมจะ ๘ ล้านแล้วแหละ ยังเหลืออยู่ ๒ ล้านกว่ายังไงก็ได้ ทองคำนี้ ๓ ตันกว่า นี่เราก็แน่ใจไปโดยลำดับแล้วว่าจะได้ ถ้าลงได้ประกาศขนาดนี้คอหลวงตาบัวขาดไปพร้อมเลย ไม่ได้ทำเล่น ๆ นะ ทำกับพี่น้องทั้งหลาย ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าออกได้ขึ้นเวทีแล้วเป็นถอยไม่ได้เลย ขาดไปเลยทีเดียว อันนี้ก็เหมือนกัน ๑๐ ตันนี้ขาดไม่ได้เลย เรียกว่า คอของคนไทยทั้งชาติ มีคอหลวงตาบัวเป็นประกันอันดับหนึ่งขาดไปก่อน คอพี่น้องทั้งหลายถึงจะขาด ถ้าลงทองคำขาด ๑๐ ตันไป ขาดไม่ได้เลยคราวนี้
เมื่อเหตุการณ์ยังเป็นปรกติดีงามอยู่อย่างนี้จะขาดไปไม่ได้ ต้องเอาให้ได้ทีเดียว เป็นศักดิ์ศรีดีงามขนาดไหน เมืองไทยเราจะล่มจะจมเดือดร้อนกันทั้งประเทศเราก็ทราบมาไม่กี่วันกี่คืนนี้ไม่ใช่เหรอ ทราบทั่วหน้ากัน ถึงขนาดหลวงตาได้ร้องโก้กเลยทีเดียว บวชเข้ามาไม่เคยสนใจกับโลกกับสงสารเขา มีแต่เรื่องศีลเรื่องธรรม แนะนำสั่งสอนก็เป็นไปด้วยศีลด้วยธรรมล้วน ๆ แต่ครั้นแล้วก็มากระเทือนใจเสียอย่างแรงทีเดียว ถึงขนาดร้องโก้กเลย ให้คนไปติดตามมาดู การติดหนี้ติดสินเขา ภายในหัวใจอันใหญ่หลวงในเมืองไทยเรา จนกระทั่งเขาได้มายิ่งร้องโก้กใหญ่เลย คราวนี้มันจะตายจริง ๆ แล้ว จะไม่มีทางออก โอ้ อุ้งเหยี่ยวอยู่กำทีเดียวหมด ติดหนี้เขา หัวเมืองไทยเรา ๖๒ ล้านคนนี้ ไม่พอกำเลยเพราะหนี้มันหนักมากกว่า
จึงได้พา เอ้า ดีด ๆ บอกอย่างนั้นเลย เวลานี้เรายังไม่ตายถึงจะอยู่ใต้อุ้งเล็บเขาก็ยังไม่กำ เรายังมีช่องออก ออกช่องนี้นะ เอาเลย นั่นแหละ ตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้จึงอ่อนไม่ได้เลยนะ ไม่มีคำว่าอ่อน เพราะขึ้นเวทีแล้วจะต่อสู้กับความจน เอาเมืองไทยขึ้นให้ได้ว่างั้น นี่ละถึงได้อุตส่าห์พยายาม ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นใจ หลวงตาได้สละช่วยพี่น้องทั้งหลายในคราวนี้ ออกจากนี้แล้วหลวงตาหายห่วงหมด หลวงตาไม่มีอะไร นั่น ทำเมรุไว้นั้น จะเผาที่เมรุก็ได้ เผาที่ไหนเผาหลวงตาเผาได้ทั้งนั้น เขาเผากบเผาเขียดอยู่ตามครัวไฟเขา เขาไม่เห็นยุ่งวุ่นวายอะไร เผาหลวงตาบัวยุ่งหาอะไร เผาปั๊วะเข้าไปทันทีเลย
แต่เงินทั้งหมดนี้เราได้เขียนพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว พี่น้องทั้งหลาย ทราบทั่วกันว่าไม่เป็นอื่น คือพินัยกรรมนี้เวลาหลวงตาบัวตาย บรรดาพี่น้องทั้งหลายได้นำสมบัติเงินทองเข้ามาบริจาค เพื่อเผาศพหลวงตาบัวในงานนี้ บรรดาเงินนั้นทั้งหมดจะให้ตั้งคณะกรรมการขึ้น รับผิดชอบทุกบาททุกสตางค์ไปเลย ได้มารวบรวมเสร็จเรียบร้อยแล้วเงินจำนวนนี้จะเข้าซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงทุกบาททุกสตางค์ จะไม่มาเผาหลวงตาบัว เพราะเงินเหล่านี้สมบัติเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อชาติของเราอยู่ จะทำให้เป็นประโยชน์ต่อชาติไป ส่วนไฟเป็นประโยชน์สำหรับเผาหลวงตาบัว ให้เอาไฟมาเผาเท่านั้นเอง
นี่ก็เขียนไว้แล้วในพินัยกรรม ไม่เป็นอื่น พออ่านพินัยกรรมก็เท่ากับหลวงตาบัวอ่านให้พี่น้องทั้งหลายฟังเอง บอกทุกอย่างแล้วพินัยกรรมเอาไว้ในตู้นั้น ๆ บอกหมดนะ เราถ้าเอาอะไรจริงจังทุกอย่างบอกแล้ว นี่ละเราสละถึงขนาดนั้นเชียว ไม่เอาอะไรเลย ทุกอย่างจะมอบไว้ให้เป็นสมบัติของพี่น้องชาวไทย ลูกเต้าหลานเหลนทั้งหลายต่อไปข้างหน้าเพื่อจะได้สืบทอดกันไป เหมือนอย่างปู่ ย่า ตา ยาย ของเราพาลูกพาหลานไทยทั้งหลายนี้สืบทอดมาถึงกระทั่งบัดนี้ เราก็ต้องสืบทอดกันไปแบบเดียวกัน อย่าให้มีความล่มจมต่อชาติไทยของเรา ต้องมีความแน่นหนามั่นคงไปเรื่อย ๆ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเราจะหลับหูหลับตาได้อย่างสะดวกสบายตายอย่างหายห่วงนะ อย่าให้ตายอย่างแบบมีห่วง ๆ พันหน้าพันหลังนะ เวลานี้คือให้ช่วยกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย
นี่ก็ฟังว่า รัฐมนตรีคลังก็จะรวบรวมทองคำให้ได้เท่าไร ดูว่า ๕๐๐ กิโล (๕๐๐ กิโลครับ) เออ งานที่เราจะลงไปกรุงเทพคราวนี้ก็เป็นงานใหญ่โตติดกันเลยนะ ดูว่า ๕๐๐ กิโล ทางกระทรวงการคลังจะรวบรวมกันให้มีขึ้นในงานนี้ เสร็จแล้วก็ว่าจะมอบทองคำนี้ในงานนั้นทีเดียวเลย ปรึกษาหารือมาหาเรา เราบอกว่าได้เลย บอกเอามาพันตันก็เอามาเถอะ เราให้เลยเราบอกเข้าใจไหม เพราะหาอยู่แล้วนี่ มีผู้มาให้มันก็คว้าเลยละซิ พูดตรง ๆ อย่างนี้ละ เอ้า ได้เลย ไอ้ส่วนที่เราจะต่อไปนั้นวันที่ ๑๒ อันนั้นเป็นเรื่องของเรากำหนดเอง กำหนดยังไงก็ได้ ส่วนที่ควรจะได้ในระยะนี้เหมาะสมเป็นมหามงคลแก่เราอย่างทันหูทันตาทันใจเรานี้เอาเลยเข้าใจไหมล่ะ อันนั้นเราเอาเมื่อไรก็ได้ ขอให้อันมหามงคลนี้มาก่อนเถอะ กระทรวงการคลังมหามงคล ก็หัวใจของประเทศอยู่ที่นั่นหมดจะว่ายังไง เมื่อทางนั้นตูมเข้ามาทางนี้รับปุ๊บเลยเทียว เอาเลย จากนั้นเราค่อยพิจารณาอีกเรื่อย ๆ ไป
คิดว่าจะให้พอในระยะนี้ละ ในปี ๒๕๔๖ ขีดเส้นตายเดือนธันวา เอาให้ได้คราวนี้ ไม่ได้ชาติไทยเราต้องตายหมดทั้งชาติ อย่าให้เหลือหมู หมา เป็ด ไก่ ถ้ายังเสียดายไอ้ปุ๊กกี้อยู่ ให้รีบเอามันหนีหลบซ่อนภัยนะ ถ้าลงหลวงตาบัวตาย เจ้าอาวาสวัดนี้ตาย ลูกศิษย์ลูกหาตาย ไอ้ปุ๊กกี้จะยังเหลืออยู่ไม่ได้ไอ้ปุ๊กกี้ต้องตาย ถ้าไม่อยากให้ไอ้ปุ๊กกี้ตายต้องเอาปุ๊กกี้ไปหาหลบซ่อนไว้ก่อน ถ้าลงคอเราขาดเราช่วยชาติไม่ได้เราตายทั้งวัด หลวงตาบัวตายปุ๊กกี้ต้องตายไปด้วย เอาให้มันเด็ดอย่างนั้นซิ ไม่เด็ดไม่ได้ ถึงคราวเด็ดต้องเด็ด ถึงคราวอ่อน ๆ ธรรมดา ถึงเวลาที่จะเอาจริงเอาจังต้องจริงจังให้เห็นเหตุเห็นผลกัน
นี่ก็เริ่มละตั้งแต่บัดนี้จะอ่อนข้อไม่ได้ละ เร่งไปเรื่อย ๆ ละ เราหายใจไม่ได้เต็มปอดมาตลอดตั้งแต่เราเข้าไปดูทองคำมาแล้ว พอออกมาวันนั้นเดี๋ยวนั้น ประกาศในวันนั้นเลยจนกระทั่งป่านนี้ไม่เคยจืดจางนะ ทองคำประกาศเรื่อยมาจนป่านนี้แหละ จนกระทั่งถึงระบุออกมาเลยให้ได้ ๑๐ ตัน พิจารณาเรียบร้อยหมดแล้วลงในจุด ๑๐ ตันเหมาะสม เอาตรงนั้น แล้วคู่เคียงกันคือ ดอลลาร์ ๑๐ ล้าน นี่เป็นคู่เคียง เอาละที่นี่อบอุ่นทั่วประเทศ ไม่มีใครกล้ามาตอแยเราได้ละ หลวงตาบัวอยู่หน้าเวทีใครมาตอแยไม่ได้ หลวงตาปัดพี่น้องทั้งหลายออกข้างหลังเวทีหมด หลวงตาบัวขึ้นเวทีคนเดียว มีแต่โบกมือ มาใครเก่งให้มา บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายปัดไว้ข้างหลังหมด ไม่ให้มีอะไรไปกระทบกระเทือนให้เจ็บปวดแสบร้อน เราจะสู้คนเดียวเข้าใจไหม นั่นเอาขนาดนั้นนะ
หลังจากนี้เราก็จะโล่งละในปีนี้ ขีดเส้นตายกันทีระหว่างความจมกับความฟื้นตัวของชาติไทยเราซึ่งกำลังต่อสู้กันจนกระทั่งบัดนี้ แล้วเส้นตายจะมีขึ้นในเดือนธันวา จะสิ้นเดือนเส้นตาย ความจมตายหรือความฟื้นฟูจะตาย แต่ความฟื้นฟูนี้จะตายไปไม่ได้เมื่อหลวงตายังมีชีวิตอยู่ ต้องความจนตรอกจนมุมเท่านั้นมันจะจมลงเข้าใจไหม ต้องเอาให้ได้อย่างนั้น มีเท่านั้นละวันนี้
เมื่อวานนี้ได้ทองคำ ๑๔ บาท เอ๊ ๑๔ บาทมายังไง
โยม มาจากภูสังโฆเจ้าค่ะ
หลวงตา เราได้เมื่อวานซืนนะ มาเป็นเมื่อวานนี้เป็น ๑๔ บาท นี้เป็นทองคำ ๑๔ บาท ๕๕ สตางค์ ทองคำมาจากภูสังโฆ ๑๓ บาท ๓๐ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๗๖ นะ
ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๖,๐๘๔ กิโลครึ่ง ดอลลาร์ที่มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๗,๖๐๐,๐๐๐ ดอลล์ ทองคำและดอลลาร์ที่ได้หลังจากมอบแล้วนั้นเวลานี้ ทองคำได้ ๗๖ กิโล ๕๒ บาท ๗๗ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๔๗,๘๔๑ ดอลล์ รวมทองคำที่ได้แล้วทั้งหมด ทั้งที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบ เป็นจำนวนทองคำ ๖,๑๖๐ กิโล นะเวลานี้ รวมดอลลาร์ที่ได้แล้วทั้งหมด เป็น ๗,๗๔๗,๘๔๑ ดอลล์ ส่วนเงินสดนั้นได้ซื้อทองคำเพียง ๑,๑๑๒ ล้านบาทเท่านั้นแหละ กรุณาทราบตามนี้ วันนี้ก็ได้แล้ว ๑ กิโล ไม่ใช่เล่น ๆ นะ มันจะขึ้นไปไหนทองคำ เดี๋ยวขึ้นโน้นเดี๋ยวขึ้นนี้อยู่เรื่อย
ชมการถ่ายทอดสด ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
|