วันวิสาขบูชา
วันที่ 15 พฤษภาคม 2546 เวลา 8:45 น. ความยาว 30.59 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

วันวิสาขบูชา

         สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ทองคำได้ ๑ บาท ๑๓ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๐ ดอลล์ วันนี้เป็นวันตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ตามแก้แค้นทองคำและดอลลาร์ให้ได้นะ วันนี้จะได้สักเท่าไรไม่รู้นะ

หลวงตาพอใจกับบรรดาพี่น้องทั้งหลายทั่วแดนโลกธาตุนะ วันนี้เป็นวันพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมา วันที่ ๑๕ พฤษภา แล้วเครื่องอนุโมทนาสาธุการพวกทวยเทพทั้งหลาย วันนี้จะพูดถึงเรื่องธรรมจักรให้พี่น้องทั้งหลายฟัง วันพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วมาแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแก่เบญจวัคคีย์ทั้งห้านั้น เป็นธรรมที่อัศจรรย์กระเทือนโลกธาตุ เราจะนำมาย่อๆ มาพูดให้ฟัง คือตั้งแต่ชั้นจาตุมฯ ขึ้นไปเรื่อย เทวดาทั้งหลายขึ้นไปเรื่อย ส่งเสียงกันขณะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว เพียงครู่เดียวยามเดียวเท่านั้น ส่งเสียงตั้งแต่ชั้นภุมมเทวดาขึ้นไป ถึงอากาสาเทวดา แล้วพวกเทวดาชั้นสวรรค์ตั้งแต่จาตุมขึ้นไปถึงปรินิมมิตวสวัตดี จนกระทั่งถึงพรหมโลก ส่งเสียงต่อกันไปในขณะเดียวกันนั้น ปึ๋งๆ ๆ เลย วันพระพุทธเจ้าตรัสรู้

บรรดาเทวดาทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมว่า เอตมฺภควตา พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ, อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมินฺติ. พวกทวยเทพทั้งหลายทั้งหมด พวกพราหมณ์ พวกสมณะ รวมเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม มาในจุดนี้ แสดงธรรมให้ท่านเหล่านี้ฟัง ทีนี้ขึ้นอันดับที่สองว่า  อิติห  เตน  ขเณน  เตน  มุหุตฺเตน, ยาว  พฺรหฺมโลกา สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิ.อยญฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ, สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ. อปฺปมาโณ จะ โอฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุรโหสิ, อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ.อถโข ภควา อุทานํ อุทาเนสิ, อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ, อญฺญาสิ วต  โภ  โกณฺฑญฺโญติ, อิติหิทํ อายสฺมโต โกณฺฑญฺญสฺส, อญฺญาโกณฺฑญฺโญเตฺวว นามํ อโหสีติ.

นี้แปลออกไปว่า ตั้งแต่เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม ส่งเสียงขึ้นไปสะเทือนสะท้านไปหมด ในเวลาพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมเรียบร้อยแล้ว แล้วในขณะเดียวกันพวกทวยเทพ ยาว พฺรหฺมโลกา คือตั้งแต่พรหมโลกทุกชั้นลงมา ทสสหสฺสีโลกธาตุ หมื่นโลกธาตุฟังซิ ไม่ใช่สามแดนโลกธาตุ ทสสหสฺสีโลกธาตุ ถึงหมื่นโลกธาตุ สะเทือนสะท้านหวั่นไหวไปด้วยกันหมดในขณะนั้น

เรื่องโอภาสความสว่างไสวแห่งธรรมของพระพุทธเจ้านั้น ข้ามพวกเทวานุภาพของเทวบุตรเทวดาทั้งหลายไปโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นสิ่งที่อัศจรรย์มาก โอภาโส โลเก ปาตุรโหสิ โอภาสคือความสว่างไสวธรรมของพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ขึ้นมานั้น ข้ามพวกอานุภาพแห่งเทวดาทั้งหลายโดยสิ้นเชิง นี่ละ พระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ในวันตรัสรู้คือวันเช่นนี้เอง ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอัศจรรย์แก่โลก

พวกเราทั้งหลายเกิดมาถ้าไม่มีวาสนาแล้ว จะไม่ได้ยินได้ฟัง ไม่ได้พบไม่เห็นอรรถธรรมของพระพุทธเจ้าเลยนะ จะตายทิ้งเปล่า ไม่เกิดประโยชน์อะไร นี้พวกเราทั้งหลายได้ยินได้ฟัง อรรถธรรมของพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสรู้แล้วมาสั่งสอนสัตว์โลก ฟังเสียงที่ว่า หมื่นโลกธาตุ ที่แสดงไว้นี้เพียงว่า โลกธาตุนะ อันนั้นท่านแสดงถึงหมื่นโลกธาตุ ทสสหสฺสีโลกธาตุ หมื่นโลกธาตุสะเทือนสะท้านหวั่นไหวไปด้วยกันหมดเลย

เป็นยังไงธรรมพระพุทธเจ้าสามารถทำถึงหมื่นโลกธาตุให้สะเทือนไปหมด พวกเรามีอะไรบ้างที่พอให้กระเทือน นอกจากหมอนรำคาญ เอะอะก็กระเทือนแต่หมอน เอะอะ กระเทือนแต่เสื่อแต่สาด เสื่อขาดหมอนขาด กระเทือนแต่เสื่อแต่หมอน จะกระเทือนต่อมรรคผลนิพพานความพ้นทุกข์ แล้วก็เตือนบรรดาเทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหมทั้งหลาย ทั้งสามหมื่นโลกธาตุนั้นไม่เห็นมี นี่มันต่างกันอย่างนั้นละ คนเราต่างกัน นี่ละพระพุทธเจ้ากับเราต่างกันมากไหม

วันนี้เป็นวันมหามงคลแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายที่มาได้ยินได้ฟัง ให้พากันตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตัว ตามเสด็จตามฝ่าพระบาทของพระพุทธเจ้าไปโดยลำดับด้วยความอุตส่าห์พยายาม อย่าลดละท้อถอย เรื่องกิเลสจะกระซิบกระซาบติดแนบอยู่กับตัวของเรา อ่อนเมื่อไรกิเลสฉุดลงทันที รุนแรงมากนะกิเลส ในเวลากำลังของธรรมยังไม่มีมากนี้ กิเลสฉุดได้อย่างรวดเร็ว ขณะต่อมานั้นเราอบรมอยู่ตลอดไม่หยุดไม่ถอย ธรรมมีกำลังมากขึ้น ทีนี้ฉุดลากกิเลสออกจากหัวใจๆ จนกระทั่งได้ตรัสรู้ขึ้นมา ดังพระพุทธเจ้านี้เรียกว่ากิเลสหมดโดยสิ้นเชิงในพระทัยของพระพุทธเจ้า นี่ละอำนาจแห่งความอุตส่าห์พยายาม ให้พากันตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ

เราเท่านั้นที่จะทำตัวของเราให้หลุดพ้นจากทุกข์ เราจะไปหวังพึ่งสิ่งอื่นสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุหรือ ๑๐ โลกธาตุ ดังพระพุทธเจ้าประกาศตะกี้นี้นะ เราอย่าหวังเลย ต้องตัวใครตัวเรา อุตส่าห์พยายามบึกบึน หนักเบามากน้อยเป็นเราทั้งนั้น ให้พยายามแก้ไขดัดแปลงถอดถอนสิ่งที่เป็นภัยต่อจิตใจของตนออกไปโดยลำดับ เรื่องนิพพานเป็นธรรมจุดศูนย์กลางเรียกว่า ธรรมธาตุ เหมือนกับน้ำมหาสมุทรทะเลหลวงนั้นแหละ ฝนจะตกมาจากฟากฟ้าแดนดินที่ไหน ไม่เหนือแม่น้ำมหาสมุทรทะเลหลวงไปได้เลย ตกลงจุดนั้นหมด

อันนี้เรื่องธรรมธาตุ มหาวิมุตติมหานิพพาน ไม่พ้นอำนาจแห่งวาสนาบารมีของพี่น้องทั้งหลาย ซึ่งเทียบกับเม็ดฝนทีละหยดละหยาดซึมซาบมาเต็มกำลังความสามารถแล้วก็ตกลง เข้าถึงจุดธรรมธาตุแล้วเป็นอันเดียวกันหมด เหมือนเม็ดฝนที่ตกมาจากแดนฟ้าอากาศที่ไหนก็ตาม เวลาเข้าถึงมหาสมุทรแล้ว จะไม่มีเม็ดฝนเม็ดใดว่าตกมาก่อนตกมาทีหลัง เม็ดใดอยู่ในสกลุใด มาจากที่ไหนไม่มี พอถึงน้ำมหาสมุทรปั๊บเท่านั้นเป็นมหาสมุทรอันเดียวกันหมดโดยสิ้นเชิง

อันนี้ธรรมธาตุของเราที่เกิดขึ้นจากสร้างบารมีของเราก็เหมือนกัน ตกมา ถึงที่สุดวิมุตติหลุดพ้นได้แก่ ธรรมธาตุเป็นอันเดียวกันหมด ไม่มีคำว่า ใครมาก่อนใครมาหลัง พอถึงธรรมธาตุแล้วเช่นเดียวกับน้ำถึงมหาสมุทร ตกมาจากแดนฟ้าที่ไหนก็มา พอเข้าถึงตกลงถึงมหาสมุทรเป็นน้ำมหาสมุทรอันเดียวกันหมด นี้พอตกเข้าถึงวิมุตติพระนิพพาน หรือธรรมธาตุแล้วเป็นอันเดียวกันหมด ไม่มีคำว่าก่อนว่าหลัง นี่ละธรรมที่เลิศเลอ ท่านแสดงไว้แก่พวกเราทั้งหลาย

สัตว์ทั้งหลายมีเกลื่อนโลกธาตุนี้ ท่านไม่ได้วางศาสนาลงนะ ลงที่มนุษย์เรา ศาสนาพุทธนี้ลงมนุษย์เราล้วนๆ ไม่ลงที่อื่นเลย พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้ก็เพื่อสอนแดนมนุษย์ เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม อยู่ในวงแดนโลกธาตุนี้ มนุษย์เป็นที่หนึ่ง ผู้รับพุทธศาสนาได้อย่างเปิดเผยคือมนุษย์เรา ท่านจึงแสดงและวางไว้ซึ่งศาสนากับมนุษย์เรา นอกนั้นเป็นปลีกเป็นย่อยออกไป แต่ผู้รับมรดกโดยแท้ได้แก่มนุษย์เรา รับพุทธศาสนาไว้ปฏิบัติเทิดทูนตลอดมา นับว่าเราเป็นผู้มีวาสนา พากันจดกันจำเอานะ

ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นี้มีใครที่จะรื้อฟื้นศาสนาขึ้นมา พระองค์แรกก็คือพระพุทธเจ้าเท่านั้น คนอื่นรื้อไม่ได้ฟื้นไม่ได้ รู้อรรถรู้ธรรมหรือถึงแดนความอัศจรรย์ไม่ได้ ต้องพระพุทธเจ้าถึงก่อน ธรรมอัศจรรย์ก็พระพุทธเจ้าถึงก่อน ตรัสรู้ก่อนมาสั่งสอนสัตว์โลกให้ตามเสด็จเป็นลำดับลำดากันไปจนกระทั่งปัจจุบันนี้ แล้วตลอดต่อไปข้างหน้าก็จะมีพระพุทธเจ้าตรัสมาอย่างนี้แหละ

เรื่องสายทางของพระพุทธเจ้ามานี้มันติดกันเหมือนกับบ้านตาดมานี้ เราเอาย่อ นะ ทางจากบ้านตาดมาวัดป่าบ้านตาดนี้ ติดกันเป็นพืดมาอย่างนี้ จนมาถึงวัดป่าบ้านตาด นี้ทางสายพระพุทธเจ้าตรัสรู้มาโดยลำดับลำดากัน เป็นทางสายเดียวกันมาอย่างนี้ ไม่มีแยกมีแยะ มาสายเดียวกันถึงจุดเดียวกันวัดป่าบ้านตาด คือถึงแดนแห่งความเป็นพระพุทธเจ้าด้วยกัน ต้นแห่งความปรารถนา เช่น บ้านตาด และตามสายทางคือปรารถนาแล้วก็ปฏิบัติตน บำเพ็ญตนเรื่อยมาตามสายทางเรียกว่า สายแห่งการบำเพ็ญบารมี

อันนี้บารมีของเราก็เดินตามเราเรื่อยมา จุดสุดท้ายก็วัดป่าบ้านตาด นี้จุดสุดท้ายคือแดนแห่งวิมุตติหลุดพ้น ได้แก่ธรรมธาตุเหมือนกันหมด พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสรู้ก็มาทางสายเดียวกันอย่างนี้ ไม่มีแยกมีแยะ มีพุทธศาสนาเท่านั้นที่ตรงแน่วต่ออรรถต่อธรรมต่อแดนพ้นทุกข์ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่คลาดเคลื่อน ท่านเรียกว่า สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบทุกอย่างแล้ว คือพระพุทธเจ้าทุก พระองค์ ตรัสธรรมไว้ชอบด้วยกันหมด เพราะตรัสรู้ก็ตรัสรู้โดยชอบธรรม มาสอนโลกก็สอนด้วยความชอบธรรม เป็นสายเดียวกันหมด ไม่มีแยกมีแยะว่าศาสนาพระพุทธเจ้าองค์นี้ไปทางโน้น องค์นี้ไปทางนั้น องค์นั้นไปทางทิศเหนือ องค์นี้ไปทางทิศใต้ ทางทิศตะวันตกตะวันออก ไม่มี ไปทางสายสัจธรรมอันเดียวกัน ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นแบบเดียวกันหมด นี่สายทางพระพุทธเจ้า

เวลาตรัสรู้แล้วก็มองก็แน่วแบบเดียวกันเลย เช่น เรามาถึงวัดป่าบ้านตาดมองย้อนหลังไปถึงอุดรฯ เราก็เป็นทางแน่วมาแบบเดียวกัน นี้ทางที่เราบำเพ็ญมาก็แน่วมา บรรดาพระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงบำเพ็ญบารมี ก็เป็นสายทางที่แน่วมาอันเดียวกันเลย ไม่มีทางปลีกทางแวะ ทางแยกไปไหนเลย จึงเป็นศาสนาเดียวเท่านั้นที่สามแดนโลกธาตุนี้ยอมรับกราบไหว้บูชาตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ และยังจะเป็นไปอีกข้างหน้าไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งออกจากพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว ที่ตรัสไว้ชอบแล้วนี้ทั้งนั้น

เราได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้วนับว่าเรามีวาสนาบารมี เอาให้เต็มเหนี่ยวนะพวกเรา อย่าลดละท้อถอย ความทุกข์ความยากให้ถือว่าเป็นภัยต่อธรรมทั้งหลาย คอยที่จะตีจะต้อนจะทำลายตลอด ถ้าเราจะสร้างคุณงามความดีอะไรเหล่านี้ พวกภัยมหาภัยเหล่านี้มันจะติดอยู่กับหัวใจของเรา แสดงออกมากีดมาขวางไม่ให้เราก้าวเดินไปได้แหละ นั้นคือกิเลสมันเกิดอยู่ที่ใจ มันขวางใจที่จะก้าวเดินบำเพ็ญธรรม ไม่ให้บำเพ็ญธรรมได้ นี่เรียกว่ากิเลส ท่านแก้อันนี้แล้วไม่มีอะไรที่จะมากีดขวางอีกเลย บรรดาพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ตั้งแต่ตรัสรู้ธรรมขึ้นมาผางเท่านั้น ไม่มีกิเลสตัวใดเข้ามากีดมาขวางภายในจิตใจ ท่านจึงให้นามว่า บรมสุข ได้แก่ พระนิพพาน สิ้นสุดสมมุติโดยประการทั้งปวง ไปยุติขาดสะบั้นลงในขณะตรัสรู้ธรรมนั้นแหละ พอตรัสรู้ธรรมคือฟันกิเลสขาดสะบั้นลงไป ธรรมดีดขึ้นเพื่อวิมุตติพระนิพพาน กิเลสจมลงไปเลย ที่เรียกว่าตรัสรู้

ขณะนั้นละขณะที่กิเลสขาดสะบั้นลงไป ทีนี้หมดภัย ไม่ว่าจะในหัวใจดวงใด ถ้าลงกิเลสตัวเป็นเสี้ยนเป็นหนาม ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งใหญ่สุด หรือตั้งแต่ใหญ่สุดถึงละเอียดสุด ขาดสะบั้นลงจากหัวใจแล้วไม่มีอะไรเป็นภัยต่อใจของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์เลย เป็นใจที่เลิศเลอตลอด และตลอดอนันตกาล ท่านเรียกว่า นิพพานเที่ยง สมเหตุสมผลไหมที่พวกเราทั้งหลายตะเกียกตะกาย อุตส่าห์พยายามบำเพ็ญคุณงามความดีมาตลอดเวลา แล้วผลค่อยตักเตือนมาเรื่อย พอถึงขั้นเต็มที่แล้วก็เรียกว่า ถึงนิพพานเที่ยง ตั้งแต่นั้นต่อไปแล้วไม่มีเรื่องทุกข์ใดที่จะเข้ามาเคลือบมาแฝงอีกได้เลย ท่านเรียกว่า นิพพานเที่ยง เที่ยงตลอดไป

นี่คุ้มค่ากับที่เราได้อุตส่าห์พยายามบำเพ็ญมาทุกผู้ทุกคนนะ ทุกข์ก็ทุกข์ ทุกข์เพื่อบรมสุขไม่เป็นไร ทุกข์เพื่อมหันตทุกข์คือกิเลสพาสัตว์โลกให้สร้างทุกข์ ทุกข์ขนาดไหนก็เป็นมหันตทุกข์เรื่อยไป ไม่มีความสุขตอบแทนเลย แต่ทุกข์ด้วยการประกอบคุณงามความดี เอ้า ทุกข์ยอมทุกข์ เช่น พระพุทธเจ้าสลบไสล หน เอ้า ยอมทุกข์ แต่พ้นจากนั้นแล้วกิเลสตายพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมาคุ้มค่ากัน เรายึดเอานี้เป็นหลักเป็นเกณฑ์นะ ถ้าเราจะปล่อยตามใจ ใจกิเลสอย่าไปเชื่อมันนะ เชื่อมันไม่ได้ เผลอเมื่อไรเป็นเสียท่า ทั้งนั้น ต้องต่อสู้กันอยู่เสมอ ลูกศิษย์มีครูต้องเป็นอย่างนั้น

พระพุทธเจ้าไม่เคยท้อถอยอ่อนแอ พวกเราก็ให้พยายาม เอ้า มันเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จำเป็นจริง เอ้า หิว กินข้าวก่อน มันจะตายจริง หลับนอนก่อน คนเราไม่ใช่คนตาย นอนมันตื่นได้นี่วะ ตื่นได้ฟัดกันเลยเข้าใจไหม ถ้าคนตายเป็นอีกอย่างหนึ่ง อันนี้เราไม่ใช่คนตาย มันหิวโหยโรยแรงได้ ก็พักผ่อนนอนหลับตื่นขึ้นมาเอาอีก ไม่หยุดไม่ถอยก็หลุดพ้นจากกองทุกข์ไปได้

พากันตั้งอกตั้งใจนะ วันนี้เป็นวันเจิดจ้าแห่งศาสดาองค์เอกเราได้ตรัสรู้ธรรม นี่ก็พูดถึงเรื่องพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ก็เป็นอันว่าสุดยอดแห่งธรรมเพียงเท่านั้นแหละ ให้ต่างคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง แล้วเวลานี้ที่เป็นภาระของพี่น้องชาวไทยเราอยู่ ก็คือการช่วยชาติบ้านเมืองของเรา เอาให้เต็มที่เต็มฐานเช่นเดียว เพราะอันนี้ก็เพื่อชาติบ้านเมืองคือส่วนรวมด้วย เพื่อเราแต่ละราย ด้วย หมุนเข้ามาแล้วก็เพื่อเรานั้นแหละ ให้อยู่เย็นเป็นสุขนะ วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้ก่อน พูดไปพูดมารู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน เอาละเพียงแค่นี้

คณะศิษย์วัดภูสังโฆ ท่านอาจารย์วันชัย ขอกราบถวายเนื่องจากวันวิสาขบูชา วันบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นทองคำน้ำหนัก ๓๐ บาท ๕๐ สตางค์ ดอลลาร์ ๓๐๐ ดอลล์ เงินไทย ๓ หมื่นบาท อนุโมทนาทั่วหน้ากัน

 

ชมการถ่ายทอดสด ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน  ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก