เปี่ยมด้วยเมตตา
วันที่ 6 พฤษภาคม 2546 เวลา 8:10 น. ความยาว 32.12 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

เปี่ยมด้วยเมตตา

 

         (หลวงตา) นั่นมาแล้ว มากี่คนล่ะ ( ๕ คนค่ะหลวงตา) ดีแล้วหลวงตาไม่ได้ไป อาจารย์ไม่ได้ไป ลูกศิษย์ก็มา อย่างนั้นจึงเรียกว่าลูกศิษย์ มีครูมีอาจารย์มีลูกศิษย์ลูกหา อาจารย์ไม่ไปก็หายเงียบใช้ไม่ได้นะ นี่ก็พึ่งกลับมาจากร้อยเอ็ดเมื่อวาน อย่างนั้นละไม่ได้ว่างนะ ไปร้อยเอ็ดไปเทศน์ที่นั่น ค้างคืน พอเสร็จแล้วก็มา อย่างนั้นละไม่มีเวลาว่างนะ หนักอยู่มากทีเดียว เอา ให้พากันช่วยให้เต็มเหนี่ยวนะ เราขีดเส้นตายลงเดือนธันวา ๔๖ ให้เสร็จสิ้นในกำหนด ที่กำหนดไว้ว่าทองคำให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน ดอลลาร์ให้ได้ ๑๐ ล้าน เวลานี้ทองคำเราได้แล้ว ๖ ตันกับร้อยกว่ากิโล ดอลลาร์ได้ร่วม ๘ ล้านแล้ว ดอลลาร์ไม่ค่อยหนักเท่าไรนัก ไปหนักอยู่ทองคำ เพราะฉะนั้นจึงเร่งตั้งแต่นี้

วันที่ ๑๒ สิงหา ปกติหลวงตาไม่ให้มายุ่งนะวันเกิด ทีนี้พอว่าชาติศาสนาเท่านั้นแล้วอ่อนลงไปรับ แล้วแบกขึ้นเลย ขู่ด้วยนะ วันเกิดหลวงตานะ ต้องเอาให้จริงให้จัง คือเราจะให้หนักในงวดนี้เพื่อจะเบามือข้างหน้าตอนเดือนธันวา แล้วกฐิน ก็ค่อยขยับไป คือเดือนสิงหาผ่านไปแล้วไม่กี่วัน เพราะเดือนสิงหาจะให้มีงานขึ้นที่นั่น บรรดาลูกศิษย์ลูกหาจะมีกันที่ไหนก็ให้มี เมื่อได้มากน้อยก็ริบรวมกันมาเข้าไปหลอม ได้จำนวนเท่าไรนั่นละมอบ คือมอบหลังจากวันที่ ๑๒ คือวันที่ ๑๒ เป็นวันงาน พอหลังจากนั้นแล้วเราได้อะไรมากน้อยมา เราก็มารวมกันแล้วหลอม หลอมได้เท่าไรจะเข้ามอบหลังจากวันที่ ๑๒ สิงหาไม่กี่วัน นี่เป็นพักหนึ่ง แล้วพักหนึ่งก็กฐิน นี่เป็นพักใหญ่ แล้วก็ขีดเส้นตายกันไว้ที่เดือนธันวา ๔๖ ให้เสร็จสิ้นในระยะ ๕ ปีที่ได้ช่วยชาติช่วยศาสนามาเต็มกำลังความสามารถ

เวลานี้อ่อนมากแล้วนะ จึงได้เตือนบรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายทั่วประเทศไทย ให้ต่างคนต่างเร่ง พอได้จุดนี้แล้วเราจะได้เบา ธาตุขันธ์ก็จะเบาลง พักผ่อนสบาย ๆ การเทศนาว่าการก็เบาลง เพราะเวลานี้รับเพียงจำเป็นนะเดี๋ยวนี้ ไม่ได้เหมือนแต่ก่อน จำเป็นจริงๆ แล้วไปให้เท่านั้นแล้วมาเลยหนีเลย ไปอย่างแต่ก่อนไม่ได้แล้ว (ปักษ์ใต้วาสนาน้อย) แล้ววาสนาใหญ่เป็นยังไง วาสนาน้อยเป็นยังไง แบกคนทั้งแผ่นดินนี่เหรอเรียกว่าวาสนาใหญ่น่ะ มันกำลังจะตายอยู่นี้ยังไม่รู้อยู่เหรอ ( แล้วใครจะทำได้ถ้าไม่ใช่หลวงตา) ก็พวกเรานี้แหละทำ คนนั้น คนนี้ ๑๐ รวมกันมันก็ตูมเลย พวกเราไม่ได้เป็นเศรษฐีนะ แต่เศรษฐีน้ำใจ เศรษฐีรักชาติ เศรษฐีความเสียสละ เศรษฐีแห่งความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน นี้เป็นเศรษฐีตูมลงได้เลย ยก เข้าใจแล้วนะ

คิดถึงอยู่ตลอดเวลาคิดถึงบรรดาลูกศิษย์ลูกหา เพราะได้กำหนดไว้แล้วก็เคยบอก ออกทางวิทยุก็ออกแล้วนี่ เราไม่ได้พูดมีเล่ห์มีเหลี่ยมมีสันมีคมอะไร เราพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยความเป็นอรรถเป็นธรรมล้วน เรากำหนดกฎเกณฑ์ไว้หมดเลยทั่วประเทศไทย คือวาระสุดท้ายจะเอาทางภาคใต้ของเรา กำหนดไว้นะ ทางโน้นทางนี้แล้วก็เข้าภาคใต้เรา คือภาคใต้เป็นภาคใหญ่ใช่ไหมล่ะ พอกลับมาทีนี้ก็ทิ้งตูมเลยหงายว่างั้นเถอะนะ ยังไม่ถึงไหน เอ้า มันเริ่มหงายไปแล้ว เอ้า ยังไง สุดท้ายก็เลยต้องยอมรับ ไปไม่ได้แล้ว อย่างนี้แหละ

จึงได้ประกาศให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายทราบ เฉพาะอย่างยิ่งคือทางภาคใต้ของเรา ซึ่งผิดความมุ่งหมายของเราที่ตั้งไว้แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ธาตุขันธ์มันพาให้ล้มไปเลย นี่ละเรื่องราวมันเป็นอย่างนั้น จึงได้ประกาศออกให้พี่น้องทั้งหลายทราบเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคใต้ของเรา อย่าเสียอกเสียใจอย่าน้อยอกน้อยใจ อาจารย์นี้เป็นอาจารย์ของคนทุกคนของคนทุกภาค ของเมืองไทยทุกชีวิตเราบอกนะ เมื่อมันไปไม่ได้มันก็ต้องยอมรับว่าไปไม่ได้ก็บอกอย่างนี้ เอ้า ทีนี้ต่างคนต่างอุตส่าห์พยายามก็แล้วกันก็บอกอย่างนี้

มาเมื่อวานหรือมาวันนี้ (มาถึงเมื่อคืนค่ะหลวงตา) มาเครื่องบินเหรอ (มาเครื่องบินแล้วเดี๋ยวจะกลับแล้วค่ะ จะกลับวันนี้) จะกลับวันนี้เลย พูดมันกวนโมโห ยังไม่พูดจบประโยคเลยจะกลับวันนี้ โมโหขึ้นแล้ว ยังไม่ได้ตอบรับอะไรกันเลย เอะอะกวนโมโหแล้ว มหาจิตเป็นยังไงเดี๋ยวนี้ไม่ได้พบกันนานแล้ว คงจะไปไหนมาไหนลำบากมั้ง อ้วนไหม (ตอนนี้ท่านผอมแล้วค่ะ) ผอมเหรอ แต่ก่อนอ้วน อ้วนนี้ไม่ใช่ให้ดีใจนะ มันอ้วนฉุๆ อ้วนไม่มีกำลัง ระยะนี้ความอ้วนค่อยลดลงบ้างเหรอ เราก็ได้พบกันตั้งแต่ที่ไปพักสถานีควนจงนะ ตั้งแต่นั้นแล้วหลวงตาก็ไม่ได้ลงไปอีกเลยแหละ ไปไหน ก็ไปไม่ได้เลย

(ท่านเพิ่งล้มห้องน้ำ) นี่ละไอ้ห้องน้ำนี่ สำคัญคนแก่คนทุพพลภาพจะไปเสียท่าเป็นการซ้ำเติมในห้องน้ำนะ เป็นอย่างนั้นทั้งนั้น เพราะเข้าไปในห้องน้ำต้องช่วยตัวเอง ล้ม แล้วห้องน้ำก็ชอบทำพิสดารเสียด้วยนะ ทำนี้ขัดเงาเกามันเกาหมัด เวลาเหยียบลื่นปั๊บล้มเลย นี่เสียท่า ได้ระวัง สำหรับห้องน้ำหลวงตาปฏิบัติอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไรจึงไม่เคยได้ระวังอะไรแหละ คือเราสั่งเองห้องน้ำไม่ให้มีลื่นมีอะไร ให้เป็นอะไร เดินไปธรรมดาเหมือนเราเดินไปตามแผ่นดินไม่ลื่นเราก็สบายไป ห้องน้ำเราจึงไม่มีปัญหา นอกจากนั้นไปที่ไหนจนเราไม่กล้าเข้าห้องน้ำนะ คือทำเพื่อความสวยความงามมันไม่ได้คิดเหตุคิดผลน่ะซิ นี่ละเสียท่าตรงนี้

เทศน์ของหลวงตามันก็ออกทั่วโลกแล้วนี่นะ ได้ฟังได้เห็นไหมทางโน้น คือธรรมของเรานี้ทุกขั้นเลยนะ ตั้งแต่เทศน์สอนพระวัดป่าบ้านตาดอยู่บนศาลา คำว่าพระ หมายถึงพระกรรมฐานผู้ออกแนวรบแล้วว่างั้นเถอะนะ ธรรมะนี้จึงเป็นธรรมะที่เด็ดขาด ฆ่ากิเลสขาดสะบั้นไป ธรรมะเหล่านี้ออก คือทั้งเป็นเทปทั้งเป็นหนังสือ ถอดเทปออกก็ดี ถอดจากหนังสือก็มี จากนี้ก็กระจายไป เรียกว่าจนกระทั่งเป็นแกงหม้อใหญ่แล้วทุกวันนี้ ออกหมดเลยทั่วโลก ถ้าใครไม่ได้ยินได้ฟังก็จะให้เราว่ายังไง ก็กรรมของสัตว์ เพราะเราสงเคราะห์ด้วยน้ำใจจริง นะ

เราช่วยพี่น้องชาวไทยเรา คราวนี้เรียกว่าสุดขีดแห่งน้ำใจที่เต็มไปด้วยความเมตตา เราไม่มีอะไรเลย มีแต่ความเมตตาล้วน ตลอดมาเลย ธรรมะก็ทุกขั้นทุกตอน เรียกว่าหมดพุงเรา ออกหมด อย่างนี้แหละที่พูดเวลานี้ นี่ก็ออกทั่วโลกนะเดี๋ยวนี้ คือออกทางอินเตอร์เน็ต พอพูดปั๊บ ออกทั่วโลกเดี๋ยวนี้เลยแหละ ฟังทั่วกันหมด ไปเทศน์ที่ไหนได้ฟังทั่วกันหมดเวลานี้ แล้วจะให้ทำยังไงอีก เราก็เทศน์สุดภูมิแหละ หลวงตาพูดจริง เทศน์ให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาประชาชนฟัง ทั่วประไทยและทั่วโลกเราถอดออกหมดตับหมดปอดเลย ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย เทศน์เต็มเหนี่ยวทุกอย่างด้วยความเมตตาครอบตลอด เพราะฉะนั้นใครจะได้ผลได้ประโยชน์มากน้อยก็ควรจะได้ ถ้ายังไม่ได้อีกแล้วก็เรียกว่า กรรมของสัตว์เท่านั้นเอง เราโยนลงให้กรรมของสัตว์ พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ก็ขนสัตว์โลกไปไม่ได้หมด ไอ้เราตัวเท่าหนูจะอวดเก่งมาจากไหนเท่านั้นพอ มันก็มีเท่านั้น

โอ๊ย.คิดถึงไม่ใช่ธรรมดานะ คิดถึงบรรดาลูกศิษย์ลูกหา แต่ร่างกายมันไม่ฟังเสียงใครน่ะซี นี่ละที่มันจนตรอกจนมุม มันไปไม่ได้จริง ไปไหนมาไหนต้องกำหนดนะ ไปใกล้ อย่างนี้ก็ยังต้องกำหนดดูธาตุขันธ์นะ มันจะไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็บอกเขาว่าไม่ไหว อย่างนั้นนะ อย่าว่าไกลเลยนะ ใกล้ อย่างนี้มันก็ต้องอย่างนั้นเดี๋ยวนี้ คือมันหนักมากลงทุกวัน อ่อนลงทุกวัน แต่เรื่องจิตใจนี้ไม่มีวัยเราบอกตรง เลย เปี่ยมอยู่ด้วยเมตตาทั่วแดนโลกธาตุ ไม่มีอะไรถือสีถือสากับใคร แม้จะตัวเล็นนิดหนึ่งเท่านี้ก็ให้อภัยเสมอ สัตว์ทั่วไปหมดเลย นั่น ความเมตตามันถึงกันหมดเลย ความเมตตาไปไหนมันอ่อนนิ่มไปหมดเลย ไม่เป็นภัยต่อเพื่อน นี่เรียกว่าไม่มีวัย อันนี้มีอยู่เมตตา แต่ธาตุขันธ์มันไม่เอาไหนนั่นซิ มันไปไม่ได้ ไปก็แบบตะเกียกตะกาย ไปไม่ไหวก็มา บางทีไปไม่ไหวกลับแล้วนะ โอ๊ย.ไม่เอาแล้วไม่ไหวแล้ว อย่างนั้นก็มีจะว่ายังไง มันอ่อนลงอย่างนั้นแหละ

เออ เวลานี้วัดสถานีควนจง เราก็มีพระอยู่ประจำไม่ใช่เหรอ ควรจะมีที่นั่นมันเหมาะสมมากนะ คือเหมาะสมแห่งความวิเวกสงัด เพราะหลวงตาไปตระเวนดูหมดนะแถวนั้น ขึ้นบนเขาไหล่เขาไปเที่ยวดูหมด เป็นป่าช้าด้วยนะ สงัดดีมากทีเดียวเรายังติดตาติดใจอยู่ เราคิดแน่ใจว่าเราจะได้ไปอีก เลยแน่เฉย แน่ใจมันไม่ได้แน่ร่างกายไปไม่ไหว (เอาผลไม้มา ไม่สามารถจะปอกมาถวายหลวงตาวันนี้ได้) ผลไม้อะไร บ้าง (แอปเปิ้ล กับ สาลี่ เจ้าค่ะ) เออ เอามาเลย ก็มันฝันสดฝันแห้งถึงกันอยู่แล้วนี่ เออ เอามาเลย ผลไม้ก็มีทางภาคใต้ละ จะกลับวันนี้ แล้วกลับเครื่องบินด้วยเหรอ เที่ยวบ่ายเหรอ มันก็มีเที่ยวบ่าย เที่ยวค่ำ เที่ยวเช้า มีอยู่ เที่ยว (เอาทองมาถวาย) มาอวดแต่ปากเฉย ทองไม่เอามาได้เหรอ เอามาซิ เอามา ฝันสดฝันแห้งถึงทองกับลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศไทยจะว่าไง นี่จะเร่งใหญ่นะ

 

ชมการถ่ายทอดสด ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน  ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก