บางส่วนของพระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เนื่องในโอกาสที่ ส.ว.บุญเลิศ ไพรินทร์ และ ผู้แทนประชาชนผู้หวังดีต่อพระพุทธศาสนา
เข้ากราบนมัสการหลวงตามหาบัวฯ ณ กุฏิกลางน้ำ สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสาย 3
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2546 เวลาประมาณ 17.10 น.
-----------------------------------
สว. บุญเลิศ: อยากจะมากราบนมัสการพระคุณเจ้า ถ้าหากว่า กระผมจะละเมิดล่วงเกินท่านด้วยกาย วาจา ใจ ก็ขออภัย ขอให้ท่านได้กรุณาโปรดเมตตากระผมด้วย กระผมขอความเมตตาจากพระคุณเจ้า
หลวงตา: เออ.. ก็ดี ถูกต้อง เป็นเจตนาที่ดีแล้ว สมกับเราเป็นลูกพระพุทธเจ้าด้วยกัน มีผิดถูกประการใด มันมีได้คนเรา
คนมีกิเลส มันก็มีผิดมีพลาด ไม่ว่าใคร แม้แต่หลวงตาเองก็เหมือนกัน มันอยู่ในโลกสมมุตินี้ มันก็มีกิริยาผิดพลาด .......
กิริยาที่ออกมาใช้ในวงสมมุตินี่มันก็มีผิดมีพลาดด้วยกันจนได้ล่ะ เราเข้าใจกันแล้ว มันก็ไม่มีปัญหาอะไรแหล่ะ
สว. บุญเลิศ: กระผมขอกราบเรียนหลวงตานะครับว่า กระผมไม่มีเจตนา ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ กระผมก็เคารพนับถือหลวงตาครับ แต่ว่าอาจจะไม่ได้ไปคัดค้านความเห็นของบุคคลอื่นที่ปฏิเสธหลวงตาก็ได้ แต่ว่า กระผมเองไม่ว่า กาย
วาจา ใจ ไม่มีทางที่จะไปละเมิดท่านได้ กระผมเคารพนับถือท่านมาตลอด ด้วยเหตุผล 3 ประการอย่างที่กระผมได้เขียนจดหมายถึงหลวงตานะครับว่า ผมถือว่าผมเป็นศิษย์ของท่านด้วย เพราะผมมาตักบาตรท่านปี 34-35 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับผม แต่กระผมก็ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดท่านมากนัก ประการที่ 2 ก็คือว่า หลวงตามีพระคุณต่อแผ่นดิน มีจริยวัตรที่งดงามน่าเคารพบูชา เพราะฉะนั้นไม่น่าจะต้องละเมิดต่อหลวงตา กระผมจึงมีความมั่นใจว่ากระผมจะไม่ละเมิด
หลวงตา ไม่ว่ากรณีใด ๆ ไม่ว่ากาย วาจา ใจ แต่ถ้าเพื่อให้หลวงตาและลูกศิษย์ทั้งหลายเข้าใจแล้วก็สบายใจ กระผมก็ดีใจ
ได้มีโอกาสมากราบนมัสการพระคุณเจ้าหลวงตาที่ผมเคารพนับถือนะครับ
หลวงตา: เออ..พอแล้ว เข้าใจในเจตนาดีด้วยกันแล้ว มันก็ไม่มีอะไรล่ะนะ เท่านั้นล่ะ ต่างคนต่างปฏิบัติตัวเพื่อชาติ ศาสนาต่อไป.. นี่ก็ไปโน้นเพิ่งมา ไปขึ้นเขาใหญ่ เอาของเต็มรถไปเลย ซื้อเอาของที่นครนายก เอารถไป 2 คันเต็ม 2-3 คันเต็มเอี๊ยด คือไปผ่านด่านเขาแล้ว เอาของไปให้แจกพวกด่าน เพราะพวกนี้เขาทำงานเพื่อแผ่นดิน เขารักษาด่าน นี่หลวงตานี้ปฏิบัติมาอย่างนี้เป็นประจำ ที่ไหนถ้าเป็นประโยชน์ส่วนรวมแล้ว หลวงตาปักใจเข้าไปช่วยเหลือทันที .....
เออ! เอาล่ะ ไม่มีอะไรล่ะ เรียบร้อยไปแล้วทุกอย่าง ๆ แล้ว ก็สมเจตนาของหลวงตาที่ทำประโยชน์เพื่อชาติ
ที่บวชมานี้ไม่น่ามีการที่จะได้มาทำอย่างนี้ เหตุผลกลไกมันก็เกี่ยวโยงมา มันก็ต้องได้ทำ.. ทำก็เพื่อประโยชน์ล้วน ๆ
มีความเมตตารอบตลอด เราไม่มีที่จะหวังไปเอาโทษเอาทัณฑ์จากผู้ใด โดยที่เขาไม่มีโทษ มีเหตุผลกลไกผิดถูกประการใดก็ต้องพูดกันไปในฐานะที่มนุษย์ที่อยู่ร่วมกัน ถ้าขัดแย้งกัน มันก็แตกแยก สร้างความทุกข์ขึ้นมา เมื่อไม่ขัดแย้ง ยอมรับเหตุผลกันแล้วก็อยู่ด้วยกันได้เป็นสุข มีอีกกี่หมื่นกี่แสนกี่ล้านก็ได้ ก็เป็นสุขด้วยกัน เรามีความมุ่งหมายอย่างนั้นมาตลอด ที่ช่วยชาติบ้านเมืองและศาสนามาจนกระทั่งบัดนี้ ก็มีความมุ่งหมายอย่างนี้ตลอดไป เท่านั้นล่ะ กรุณาท่านทั้งหลาย ได้ทราบทั่วหน้ากันในเจตนาของหลวงตา ไม่มีอะไรๆ กับโลกจริง ๆ บอกไม่มีเลย ถึงใครจะมาตำหนิติเตียนหรือก่อกรรมทำเข็ญอะไรกับเรา เราก็ไม่มีกับใคร เราว่าอย่างนั้นเลย (หัวเราะ) ก็มีเท่านั้นล่ะ
สว. บุญเลิศ: ก็ขอกราบขอบพระคุณหลวงตา ที่ท่านมีเมตตากระผมและครอบครัว รวมทั้งพุทธบริษัททั้งหลาย ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงยิ่งนะครับ.........กระผมขอปวารณาตัวว่า ขอเป็นลูกศิษย์หลวงตาด้วยนะครับ
หลวงตา: เอาล่ะ ก็ถือเป็นลูกศิษย์ลูกหาทั่วหน้ากันอยู่แล้ว ...ให้มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยอรรถด้วยธรรม ทุกสิ่งทุกอย่าง
ธรรมมีอยู่ที่ไหนจะเย็นไปล่ะ เท่านั้นล่ะนะ |