เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม
วันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๖ [เช้า]
ถือธรรมเป็นที่ตั้ง
คลังหลวงของเรากำลังบกพร่อง นี่เราจะได้เห็นน้ำใจของพี่น้องชาวไทยเรา ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์อันที่ไม่น่าไว้ใจเหล่านี้ ให้ต่างท่านต่างอุตส่าห์พยายาม แสดงน้ำใจของตัวออกเต็มที่เต็มฐาน เวลานี้เราก็ได้แสดงมาตลอด ทองคำก็ได้น้ำหนักถึง ๖ ตัน ๘๐ กว่ากิโล สำหรับที่มอบเข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ยังเหลืออีกยังไม่มอบ เพราะยังไม่ได้หลอม ก็ยังอีกตั้งหลายสิบกิโล นี่เราก็จะได้เริ่มตั้งต้นตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษา เรื่อยมา ซึ่งเป็นวันที่เราได้มอบทองคำเข้าสู่คลังหลวง บัดนี้เราตั้งต้นใหม่เป็นระยะ ๔ เดือน ๔ เดือนจะมอบอีกทีหนึ่ง
ในระยะต่อไปนี้จะเป็นวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๖ นั่นละเป็นวันหนึ่งที่เราจะได้ประกาศความรักชาติ ความเสียสละด้วยความพร้อมเพรียงแห่งพี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศ แสดงขึ้นในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ซึ่งวันนั้นเป็นวันเกิดของหลวงตาบัวด้วยนะ ตามธรรมดาหลวงตาบัวจะไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ แต่นี้เมื่อเกี่ยวข้องกับชาติ แล้วเลยยกเรื่องวันเกิดขึ้นไปเป็นเครื่องหนุนชาติศาสนา หนุนชาติไทยของเราด้วยการแสดงน้ำใจของพี่น้องทั้งหลายในวันนั้น เราจะได้มอบทองคำ ดอลลาร์ และเงินสด ในวันนั้นอีกวาระหนึ่ง จึงให้เตรียมพร้อมตั้งแต่บัดนี้นะ
วันนั้นแหละเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง แล้วหนักแน่นขึ้นเรื่อยนะ การประกอบหน้าที่การงานที่เป็นเนื้อเป็นหนังของชาติไทยเราทั่วหน้ากันนี้จะต้องให้หนัก หนักมากขึ้นไปเรื่อย ๆ กำลังวังชาหนุนขึ้นเรื่อย อย่าให้เห็นคำว่าอ่อนลง ๆ อย่าให้ได้ยินนะ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา จะทำชาติบ้านเมืองและตัวของเราให้ล่มจมได้ด้วยความอ่อนแอในสิ่งดีงามทั้งหลาย เราต้องมีความหนักแน่นมั่นคง เพื่อความดีงาม และความแน่นหนามั่นคงแก่ตัวและชาติของเราขึ้นโดยลำดับลำดา ถึงจะถูกต้องตามประเพณีของบุคคลและสัตว์ที่รักชาติของตน ต้องรักษาบำรุง
นี่เรากำลังอยู่ในการรักษาด้วยบำรุงด้วย จึงเอาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างไรทองคำเราต้องเป็นน้ำหนัก ๑๐ ตัน ลดลงไม่ได้เลย นี่เป็นคำประกาศของหัวหน้าพี่น้องทั้งหลายที่ได้นำมาเป็นเวลา ๕ ปีนี้แล้ว จะเด็ดเข้าในจุดนี้นะ ทองคำเราต้องให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน เป็นอย่างน้อย ว่างั้นเลย แล้วดอลลาร์อย่างน้อยก็ต้อง ๑๐ ล้าน ส่วนเงินสดนั้นก็ให้ได้ตาม ๆ กันไป แล้วก็เฉลี่ยออกทั่วประเทศไทย โดยการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาล ที่ราชการต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยของเรา ล้วนแล้วตั้งแต่ออกจากเงินสดของพี่น้องชาวไทยเราทั้งนั้นแหละ ไปเป็นความอบอุ่นแก่ลูกเต้าหลานเหลนของเรา เช่น โรงเรียนก็ขาด ที่ร่ำที่เรียนไม่สะดวกสบาย ที่ราชการก็เหมือนกัน เมื่อขาดตรงไหนก็เรียกว่าบกพร่อง ไม่สะดวก เราจึงต้องได้หนุนในฐานะเราเป็นเจ้าของของชาติไทยเรา และเป็นเจ้าของของสมบัติเหล่านี้ มีบกพร่องตรงไหน หนุนกันขึ้นโดยลำดับนะ
นี่ละอันหนึ่งที่เราจะได้พยายามด้วยกัน สำหรับเงินสดก็ดังที่เรียนพี่น้องทั้งหลายทราบแล้ว ไม่ได้เข้าเป็นกฎเกณฑ์มากนักเพื่อจะเข้าซื้อทองคำ เพราะความจำเป็นรอบด้าน มีอยู่ทุกทิศทุกทางทั่วประเทศไทยเรา ทางนู้นขาดเขินนั้น คนนี้บกพร่องอันนี้ เข้ามาก็มาหาหลวงตานี้แหละ หลวงตาก็เป็นจุดรวมของน้ำใจพี่น้องทั้งหลายที่ได้นำมาบริจาคเป็นเงินเป็นทอง เราก็นำน้ำใจพี่น้องทั้งหลายนี้ออกแสดง เพื่อรักษาบำรุงให้พี่น้องทั้งหลายได้มีความสงบร่มเย็นทั่วหน้ากันด้วยน้ำใจของตนเอง
วาระสิ้นสุดสงกรานต์ลงมาเรียบร้อยแล้ว ให้ต่างคนต่างทำหน้าที่การงาน ให้มีเขต มีกำหนดกฎเกณฑ์การประกอบหน้าที่การงาน อย่าทำแบบสุกเอาเผากินจะเสียไปเรื่อย ๆ ทั้งเราและกุลบุตรสุดท้ายภายหลัง จะเสียไปตามผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำนั้นแหละ ให้มีหลักเกณฑ์ด้วยกัน การประกอบหน้าที่การงานประกอบเพื่ออะไร ได้มาแล้วเพื่ออะไรบ้าง ให้มีกำหนดกฎเกณฑ์ มีเหตุมีผล ควรเก็บมากน้อยเพียงไร แล้วควรจับจ่ายไปเพียงไรก็ให้พินิจพิจารณา
อย่าใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย อันนี้ไม่มีหลักเกณฑ์จะทำเราให้เสีย สมบัติเงินทองหามาเท่าไรก็ไม่พอกับการจับจ่าย แล้วก็เสียนิสัยไปด้วย เป็นนิสัยใจรั่ว มีอะไรมาไม่มีตกค้างอยู่ได้เลย ไหลออกหมด ๆ ด้วยจริตนิสัยที่ชั่วภายในจิตใจ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างรั่วไหลไปตาม อันนี้ให้พากันระวังนะพี่น้องทั้งหลาย หลักพุทธศาสนาเป็นหลักที่เป็นตัวอย่างอันดีเลิศทั้งทางด้านวัตถุ และนามธรรม ไม่มีอะไรที่ต้องติในหลักธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นคติตัวอย่างแก่โลกได้เป็นอย่างดี ทั้งด้านวัตถุความเป็นอยู่ปูวายของบริษัทบริวารทั้งหลาย ของสัตว์โลก และทางนามธรรมได้แก่จิตใจ ให้มีหลักใจเป็นหลักเป็นเกณฑ์โดยถือธรรมเป็นที่ตั้ง
ธรรมท่านสอนเป็นความถูกต้องดีงามทุกประการ ให้ยึดธรรมมาเป็นหลักเกณฑ์ เพื่อเป็นแนวทางดำเนิน การทำมาหาเลี้ยงชีพก็ดี การประพฤติตัวเพื่อความดีงามสำหรับเราก็ดี การอบรมจิตใจของเราให้มีหลักเกณฑ์กับศีลกับธรรมเกี่ยวข้องกันไปโดยลำดับก็ดี ทั้งสามอย่างนี้อยู่ในตัวของเราด้วยกันทั้งนั้นแหละ ต้องนำธรรมะเข้ามาเป็นเครื่องประกอบดำเนิน ไม่เช่นนั้นมีแต่ตัวของเราเองหาหลักเกณฑ์ไม่ได้ มีกี่คน เช่นอย่างนั่งอยู่บนศาลานี้มีแต่คนตาบอด เดินไปไหนชนนั้นชนนี้ หาหลักเกณฑ์ไม่ได้ก็ต้องชนละซิ คนมีหลักเกณฑ์จะต้องมองดูทิศทางที่ก้าวเดินไป มีขวากมีหนาม เป็นหลุมเป็นบ่อ ทางราบรื่นดีงามอย่างไรบ้างก็ดูไป เดินไปตามนั้น หลบหลีกไปตามนั้น นี่ชื่อว่าคนตาดี
หน้าที่การงานที่เราจะปฏิบัติทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่รอบตัวของเรา เราจะก้าวเดินไปทางไหนถึงจะไม่เจอขวากเจอหนาม เจอฟืนเจอไฟ และเจอทางราบรื่นดีงาม เราต้องได้คิดเสมอ นี่แหละเรียกว่าธรรมเป็นเครื่องพาดำเนิน อย่าพากันทำสุ่มสี่สุ่มห้า ซึ่งเคยเป็นมานานแล้ว ยังจะเสียไปถึงลูกถึงหลาน ซึ่งเวลานี้ก็ยิ่งคละเคล้าไปด้วยโลกกว้างขวาง การไปมาหาสู่ทั้งฟ้า ทั้งดิน บนบก ใต้น้ำ ที่ไหนไปมาหาสู่กันได้หมดแล้ว ความสะดวกของมนุษย์ที่เข้าหากันแล้วต้องนำสิ่งต่าง ๆ เข้ามาประจำตน ๆ ประจำประเทศชาติของตนเข้ามาคละเคล้ากัน เราต้องมีธรรมเป็นเครื่องกลั่นกรองพินิจพิจารณา สิ่งใดที่ควรรับ หรือสิ่งใดที่ควรซื้อแล้วให้ซื้อ สิ่งใดไม่ควรอย่าซื้อ อย่าหา ให้พินิจพิจารณา
ทุกสิ่งทุกอย่างผู้ที่มาหาเราเขาก็หวังรายได้ สิ่งที่เราเอาก็หวังประโยชน์ อะไรจะเป็นประโยชน์แก่เรา หรือจะเป็นความเสียหายแก่เรา เมื่อซื้อหามาแล้วจะเป็นยังไงบ้าง ขอให้พิจารณาด้วยดี อย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้า จะไม่มีหลักเกณฑ์ตลอดไป ลูกเต้าหลานเหลนจะเสียคนไปโดยลำดับ ยิ่งโลกเวลานี้โลกคละเคล้า จึงต้องให้เลือกเฟ้นด้วยดีนะ ทุกอย่างเอาธรรมละเข้ากลั่นกรอง ธรรมนี้ไม่มีทางว่าผิดนะ คำว่าผิดไม่มี ขอให้ยึดไปเป็นหลักปฏิบัติเถิดจะเป็นความดีงามสงบร่มเย็นในตัวเอง ตลอดครอบครัว วงงานต่าง ๆ จนกระทั่งถึงประเทศชาติ ต่างคนต่างมีกฎมีเกณฑ์ มีระเบียบอันเป็นธรรมเพื่อความสงบร่มเย็นมาปกครองตนเองแล้วดำเนินตามนั้น บ้านเมืองก็จะมีความสงบร่มเย็นตั้งแต่ส่วนย่อยถึงส่วนใหญ่ จะหนีจากธรรมนี้ไปไม่ได้
ทางบ้านเมืองเขาก็มีกฎมีระเบียบเพื่อความสวยงามดีงาม มีกฎหมายบังคับความเสื่อมเสียต่างๆ ทางด้านศีลธรรมก็มีพระวินัยมีธรรม ธรรมเพื่อความดีงามสำหรับผู้ปฏิบัติ วินัยเป็นข้อบังคับ อันใดจะเสียหาย วินัยเท่ากับกฎหมายบีบบังคับไว้ อย่าฝ่าฝืน ถ้าฝ่าฝืนไปก็เท่ากับออกนอกลู่นอกทาง ตกเหวตกบ่อโดยไม่อาจสงสัย แล้วก็เป็นอันตรายแก่ตัวเราผู้พลาดไปนั้นแหละ อันนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง ความเคลื่อนไหวของเราขอให้มีธรรมเป็นเครื่องยึดนะ
พี่น้องทั้งหลายจะทำอะไรขอให้คิดเสียก่อนว่าอันนี้ผิดหรือถูก ดีหรือชั่ว ถ้าไม่ดีแล้วอยากทำก็อย่าทำ ไม่ถูกอยากทำก็ไม่ทำ ปัดออกๆ วันนี้ก็ปัด วันหน้าก็ปัด อะไรเข้ามาเกี่ยวข้องถ้าไม่ดีปัด แล้วก็เคยชินต่อนิสัยอันดีงามขึ้นมา ก็กลายเป็นผู้รักษาตนได้ดีตามนิสัยที่เคยชินดีงามมาแล้ว นี่ละถ้าหากว่าต่างคนต่างปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปเรื่อย ๆ อะไรมาคว้ามับ ๆ จะเสียไปเรื่อย ๆ จะไม่มีชิ้นดีเลยนะ ทั้งประเทศมีแต่ความเลว ๆ ของความประพฤติของคนไทยทั้งชาติ ชาติไทยเรานี้มีสาระอะไร ไม่มี มีอยู่กับบุคคลผู้มีขอบเขตเหตุผล มีหลักเกณฑ์ปฏิบัติรักษาชาติของตนต่างหาก ให้พากันนำอันนี้ไปปฏิบัติรักษา
สงกรานต์ก็ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว การเล่นสงกรานต์ก็เคยได้ประกาศให้ทราบแล้ว คือการเสียสละทิฐิมานะ ลดลงทุกสิ่งทุกอย่างทิฐิมานะในการเล่นกัน ดังที่เขาว่าเล่นสงกรานต์ คือเป็นความสนิทสนม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยศถาบรรดาศักดิ์ สูงต่ำความรู้วิชา อำนาจบาตรใหญ่ที่มีมามากน้อยตัดออกให้หมด เวลาจะเข้าสมาคม การเล่นซึ่งกันและกันถือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลยทีเดียว มีคุณค่ามีราคา เป็นอันเดียวกัน ไม่ให้สูงกว่าใคร ถ้าใครยังมีความเย่อหยิ่งอยู่อย่าเข้าไปในวงสนุกสนานรื่นเริง เป็น สมานัตตตา มีตนสม่ำเสมอ ไม่ถือเนื้อถือตัว ถือความสนุกสนานเพื่อความรื่นเริง แห่งประเพณีชาติไทยของตนเท่านั้น นี้ถูกต้อง นี่เรียกว่าเล่นสงกรานต์ ไม่ถือกัน
การเล่นสงกรานต์จะถือกันไม่ได้นะ ให้ต่างคนต่างรู้ตัวเองด้วยกันทุกคน เวลานี้ต่างคนต่างเสียสละ อันใดเป็นความพอเหมาะพอดีกับการละเล่นต่าง ๆ ก็ให้ดำเนินตามนั้น อันใดจะล่วงล้ำเข้าไปถึงขนบประเพณีอันดีงามที่จะทำให้เสียด้วย อย่าไปแตะไปต้อง ให้อยู่ในวงแห่งการเล่นกันธรรมดา แล้วก็ไม่ถือเนื้อถือตัว ต่างคนต่างไม่ถือ ไม่ถือสีถือสา ผู้ใหญ่ผู้น้อยเป็นอันเดียวกันหมด นี่ท่านเรียกว่าสมานความสามัคคี สมานความสนิทสนม สมานทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความสนิทสนมกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แห่งชาติทั้งชาติ เช่น อย่างชาติไทยเรานี้มีประเพณีสงกรานต์มาตั้งแต่ดั้งเดิม ก็ให้พากันรักษา และปฏิบัติอย่างนี้ไว้ อย่าให้ก้าวก่ายจากนี้ไป
วันนี้ก็พูดธรรมะเพียงเท่านั้น ไม่พูดอะไรมากมายนัก และขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลาย และไปประกอบหน้าที่การงานให้เป็นเนื้อเป็นหนังต่อไป และขอความสุขจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ
วันนี้ก็เป็นวันมงคลอย่างยิ่งของพี่น้องชาวสวนแสงธรรมเรา ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงท่านมากับพระสวามีท่าน ท่านอุตส่าห์มาบำเพ็ญการกุศล ทรงทำพระกระยาหารนั่นแหละ เมื่อเข้ามาถึงนี่แล้วท่านทรงทำอาหารมาถวายพระ พระก็คือหลวงตาบัวนี้แหละ ด้วยการบุญการกุศลของท่าน ท่านตื่นนอนตั้งแต่ดึก ๆ พวกเรายังหลับครอก ๆ แครก ๆ ท่านทำอาหารจนจะเสร็จแล้วถึงตื่นนอน บางคนวิ่งปุบปับมายังไม่ได้ล้างหน้าก็มี พวกนี้ล้างหน้าหรือไม่ล้างหน้า เอาหน้ามาดูก่อนนะ ตื่นสาย ๆ เอาละพูดสนุกนิดหน่อย
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาทุกวัน
ได้ที่ www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th |