ไม่ได้สอนผิดเสียด้วย
วันที่ 4 เมษายน 2546 เวลา 8:40 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๖

ไม่ได้สอนผิดเสียด้วย

 

ก่อนจังหัน

         พระหนาหน้าหนาตาขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ความสวยงามของพระที่ติดกับพระคือศีลคือธรรมนั้น จะมีมาด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ อันนี้ละเลอะเทอะ พระเราเวลานี้เลอะเทอะมากนะ ใคร ๆ เขาไม่อยากแตะพระ เขากลัวเป็นบาปเป็นกรรม แต่พระกลับหน้าด้าน อันนี้ซิที่มันเข้ากันไม่ได้ ฟังซิ พวกเรานั่งอยู่ด้วยกันนี่พวกหน้าด้าน ไม่รู้จักบาปจักบุญ ไม่รู้จักอาย ศีลเหยียบแหลกหมด มันมีศีลหรือไม่มีก็ไม่รู้ หรือมีแต่หัวโล้น ๆ ผ้าเหลือง อาศัยกินข้าวเขาแล้วก็ทำงานเพื่อกิเลส ๆ เต็มวัดเต็มวาเวลานี้ มันเป็นยังไง ในวัดนี้มีกี่องค์มันถึงพิลึกพิลั่นนักหนา

พระบวชมามากเท่าไรทำลายแหลกลง ๆ ไปดูซิมีแต่ส้วมแต่ถานในวัดวาหนึ่ง ๆ ดูตั้งแต่วัดป่าบ้านตาดนี้ออกไป มันมีศีลมีธรรมติดบ้างหรือเปล่าเวลานี้น่ะ เรานี่ทุเรศจริง ๆ นะ อีตาบัวนี่ก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร ดูเขาดูเราแล้วมันก็อดทุเรศไม่ได้ ผลของมันน่าทุเรศ มีแต่ส้วมแต่ถาน เรื่องศีลเรื่องธรรมจะติดวัดติดวาอาวาส ติดพระติดเณรให้สวยงามตา มีความยิ้มแย้มแจ่มใสรื่นเริงภายในจิตใจ เพราะได้เข้ามาเห็นพระเจ้าพระสงฆ์ มันจะไม่มีนะเวลานี้ มีแต่ความแหลกเหลว ๆ ของพระ

ทำไมพระเราถึงหน้าด้านขึ้นทุกวัน ๆ หือ มันเป็นยังไง พระประเทศไทยเรานี่ ดูตั้งแต่นี้ออกไป จะไม่มีใครพูดนะนี่ เราเป็นลูกศิษย์ตถาคตนำธรรมพระพุทธเจ้ามาสอนพวกเราเอง สอนทั้งผลของท่านทั้งหลายเอง ให้ฟังกันนะ เวลานี้พระเราหน้าด้านมากที่สุดนะเวลานี้น่ะ ไปที่ไหน โห เป็นพระเจ้าชู้ขุนนาง กล้องติดคอ ไปที่ไหนถ่ายแพ็บนั้นแพ็บนี้ โถ พิลึกพิลั่น มันพิลึกจริง ๆ นะ ถ้าเรื่องอย่างนี้ละออกหน้าออกตา เป็นพระเจ้าชู้ พระขุนนาง พระราชการงานเมือง พระขี้เต็มหัวมันไม่เห็นพูดบ้าง ความสกปรกเต็มจิตใจของพระ กิริยาของพระ เต็มอยู่ในพระเรานี้ ดูบ้างซิทำไมจึงไม่ดู ให้ประชาชนเขามาดูยังไง เราเป็นผู้ปฏิบัติ บวชเข้ามาปฏิบัติ มาสอดส่องดูแลตัวของเรา ทำไมจะไม่เห็นเรา แล้วจะให้คนอื่นเขามาดูทำไม

มันเลอะเทอะมากนะเวลานี้พระเรา ไม่มีใครกล้าพูดนะ นี่เราเอาธรรมพระพุทธเจ้ามาพูด พูดได้หมดธรรมพระพุทธเจ้าเพราะเป็นธรรมสอนโลก เรามันเป็นโลกหรือเป็นอะไร ขอให้พากันคิดให้ดีนะพระเรา เวลานี้เลอะเทอะมากที่สุดเลยประเทศไทยเรานี้ ที่อื่นเราไม่รู้ไม่เห็น ประเทศไทยเรานี่ วัดใหญ่วัดเล็กวัดอะไร ๆ มีแต่ส้วมแต่ถาน ความเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไม่เอาไหนของพระนั่นน่ะ อันเป็นเรื่องของกิเลสทั้งหมด จึงเรียกว่าส้วมว่าถาน ไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวนะ ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไม่มีอะไรเกินพระสมัยปัจจุบันนี้  ทุกสิ่ง  เย่อเหยิ่งจองหองไม่มีใครเกินพระปัจจุบันนี้เวลานี้

ว่าบวชเข้ามาสั่งสมอรรถสั่งสมธรรม มันสั่งสมอะไรเดี๋ยวนี้น่ะ มีแต่ส้วมแต่ถาน มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ในวงกันเอง แล้วก็แตกกระจัดกระจายออกไป มันน่าสลดสังเวชนะ จำให้ดีนะพระลูกพระหลานอยู่ที่นี่ เอาละพอ จะให้พร

หลังจังหัน

         วันพรุ่งนี้เช้าไปฉันนอกกำแพง ที่ศาลาใหญ่ ดูว่าจะมารวมประชุมกันอีกเกี่ยวกับเรื่องสมบัติเงินทองเข้าคลังหลวง เราสูบบุหรี่นี่ก็ได้ระลึกถึงพระองค์หนึ่ง อายุเท่ากันกับเรา เคยเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว สนิทสนมกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก ท่านบวชก่อนเรา บวชเป็นเณรปีหนึ่ง แล้วปีที่สองก็เป็นพระ ทีนี้เราไปบวชทีหลังท่านละซี เป็นเพื่อนกันก็จริงแต่เวลาไปบวชเป็นพระแล้วก็มีสูงมีต่ำมีอ่อนมีแก่ละซี เราบวชใหม่เราก็ไป มีเพื่อนสองสามองค์ ขึ้นไปกุฏิท่าน ท่านมีนิสัยตลก ตลกหากไม่หัวเราะ ยิ้ม ๆ

พอขึ้นไปก็สูบบุหรี่ละซี งัดบุหรี่ออกมาสูบ เอ้อ ไอ้พระใหม่นี่น่ะ พูดเฉยเมยนะ น่าเชื่อเสียด้วย พูดขึงขังเหมือนว่าเป็นความผิดจริง ๆ ว่างั้นเถอะ ไอ้พระใหม่นี่รู้ภาษีภาษาอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ สูบบุหรี่นี่ได้พินทุอธิษฐานหรือเปล่าก็ไม่รู้ เราก็ไม่เคย พึ่งมาได้ยินขณะนั้น ว่าสูบบุหรี่แล้วได้พินทุอธิษฐานหรือเปล่า เราก็เลยถาม อ้าว สูบบุหรี่ก็ต้องมีพินทุอธิษฐานหรือ โถ ขนาดนี้ยังไม่รู้เหรอ ขึ้นขนาบอีกนะ บวชมาขนาดนี้ยังไม่รู้พินทุอธิษฐาน ตาย ๆ พระเหล่านี้น่ะ หาบอาบัติ ว่าอย่างนั้นนะ มันหาบอาบัติมาเท่าไรไม่รู้

เราก็ยิ่งร้อนใหญ่ซี นึกว่าเป็นความจริง แล้วพูดเฉยเสียด้วยนะ ทำท่าเหมือนเราผิดจริง ๆ  โห บวชมาได้หลายวันแล้วยังไม่รู้พินทุอธิษฐานบุหรี่ยังไงกัน เราก็ยิ่งร้อนใหญ่ ยอมล่ะเรา เอ้า ผิดก็ผิดละ แล้วบอกด้วยว่าคำพินทุอธิษฐานบุหรี่ว่ายังไง เพียงเท่านี้ก็ไม่ได้ ขู่อีกนะ มันยังไงพระใหม่เหล่านี้น่ะ บทเวลาขึ้นขบขัน แต่มันเป็นภาษาภาคอีสาน อิมัง ควันถมดัง อธิษฐามิ ควันถมจมูก ฮ่วย เราโมโหอยากตี เท่านี้ก็ไม่ได้ บทเวลาบอก อิมัง ควันถมดัง อธิษฐามิ โถ โมโห แกตายแล้วละ ตายเมื่อเร็ว ๆ นี้ พูดตลก แต่ดีนะปฏิบัติเอาจริงเอาจัง เคยไปพบกันที่เชียงใหม่ ท่านไปที่เชียงใหม่ไปภาวนาที่นั่น

เราบวชอยู่นี่ท่านอยู่ที่นั่นท่านก็มาเยี่ยมเรา ท่านมาเยี่ยมตอนบวชแล้ว เพราะเราพรรษาแก่มากแล้วนี่ ท่านสึกออกไปมีครอบครัว แล้วมาบวชเป็นหลวงพ่อ คราวหลังท่านมาหา มาอะไรล่ะ โหย ไม่มีผ้าสบง จีวร ใช้ มาขอสบง จีวร แหละ ว่างั้นนะ เคยชินกันมาแต่ก่อน บอกไม่มีสบง จีวรใช้ ก็มาขอสบง จีวรแหละ ได้ เราก็ให้พระจัด ๆ เราจัดก็ให้มากซิ พอขนออกมาใส่กล่อง ๆ มอบถวายท่านเผื่อจะได้ใช้ในวัดนั้นด้วย เห็นพระอยู่ด้วยกันหลายองค์ เราให้มาก โฮ้ ทำไมถึงให้มากนักล่ะ เอาไปเถอะน่ะ เราว่างั้น ให้มากให้น้อยมันก็ไม่ได้พินทุอธิษฐานแหละ ท่านยิ้ม ท่านยังจำได้อยู่นะ ท่านขู่เราตอนเราบวชใหม่ๆ

เมืองไทยเรายังไงพี่น้องชาวพุทธเราอย่าลืมเนื้อลืมตัว จนเหลิงเจิ้งไปอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้นะ เมืองไทยจะหมดคุณค่าหมดราคาจากความลืมเนื้อลืมตัวของคนไทยเองนะ พุทธศาสนาที่เป็นของเลิศเลอ ซึ่งเป็นเครื่องประดับกาย วาจา ใจ กับหน้าที่การงาน ความประพฤติต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีแล้วไม่นำมาใช้ มีแต่กิเลสออกหน้าออกตาด้วยความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความลืมเนื้อลืมตัวศีลธรรมจะไม่ติดเนื้อตัวเลย มันจึงกลายจนกระทั่งถึงพระเราที่เทศน์เมื่อเช้านี้ ก็มันเห็นจัง ๆ ไม่ได้อุตริ หลักธรรมวินัยเรียนมาด้วยกันทุกคน ผิดถูกตรงไหนมันก็รู้ พูดกันตามหลักธรรมหลักวินัยจะผิดไปไหน ผู้ทำผิดต่างหากเป็นผู้ผิด นั่น ผู้พูดผู้สอนจะผิดที่ตรงไหน ก็ไม่ได้หาอุตริมาสอนในสิ่งที่ไม่มีในคัมภีร์ใบลาน ในธรรมวินัย นี่สอนตามหลักธรรมหลักวินัย

เวลานี้พี่น้องชาวไทยเรารู้สึกว่าเลอะเทอะมากนะ ทั้งพระทั้งประชาชนทั้งเขาทั้งเรามันเลอะเทอะไปตามๆ กันหมด นี่ละความเคยชินของกิเลสที่มันฉุดมันลากจนเป็นเนื้อเป็นหนังอันเดียวกัน พอได้ยินคำว่าธรรมตื่นกันแล้วไม่เคยได้ยิน เพราะมีแต่กิเลสล้อมหน้าล้อมหลังติดเนื้อติดตัว อวัยวะทุกสัดทุกส่วนมีแต่กิเลสเอาเป็นเนื้อเป็นหนังเสียหมดเลย ทีนี้การประพฤติทุกสิ่งทุกอย่าง ก็หาสาระหาประโยชน์ไม่ได้ซิ เพราะกิเลสไม่เคยมีสาระไม่เคยให้ประโยชน์แก่ผู้ใด นอกจากธรรมอย่างเดียวเท่านั้นที่ให้ประโยชน์แก่โลก แต่พวกเราที่เป็นชาวพุทธไม่ค่อยได้สนใจในธรรม และไม่สนใจในธรรม ฟังซิพูดเป็นขั้น ๆ ไม่ค่อยจะสนใจในธรรมและไม่สนใจในธรรม นั่น มันเป็นขั้น ๆ ฟังเอาซิ เวลานี้มันเลอะขนาดนั้นนะ

สารประโยชน์จะอยู่ในศาสนานี้ทั้งหมด ถ้าได้นำออกไปปฏิบัติบ้างไม่มากก็น้อยก็ยังจะพอน่าดูน่าชม พอมีกฎมีเกณฑ์คนเรา อันนี้มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันเลอะเทอะ พอตื่นขึ้นมากิเลสจูงจมูกแล้วโดยไม่รู้ตัวนะว่าถูกกิเลสจูงจมูก ไปด้วยความดีดความดิ้นต่างๆ จนไม่รู้เนื้อรู้ตัวดีดดิ้นเพราะอะไรเป็นต้นเหตุ ธรรมท่านจับได้หมด กิเลสจับเราลากเราไปถูไปทั้งวันทั้งคืนไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวเลย แล้วจะเป็นคนดีมาได้ยังไงเมื่อไม่รู้เนื้อรู้ตัว ต้องฟังเสียงอรรถเสียงธรรมบ้างซิ เช่นอย่างเราที่มาวัดมาวา ไปแล้วควรจะนำไปคิดไปอ่านไตร่ตรองบ้าง เราไม่ปฏิบัติอย่างแบบพระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ก็ตาม เราก็ปฏิบัติแบบประชาชนลูกศิษย์พระ มันก็น่าดูน่าชม นี่เลอะเทอะไปหมด

แม้ที่สุดเข้ามาในวัดนี้การแต่งเนื้อแต่งตัวมันมาอวดพระเสียด้วยนะ โอ๊ย.นุ่งห่มนี่ ผู้หญิงตัวสำคัญมากมันหีเคียว ภาษาภาคอีสานเขาเรียกว่า คนหีเคียว มันดีดมันดิ้น โอ้ พิลึกนะ แต่งเนื้อแต่งตัวเข้ามาจนดูไม่ได้ เรามีแต่ความสลดสังเวช มันด้านขนาดนั้นนะผู้หญิงก็ดี ว่าอย่างนี้เราว่าให้เสียหายที่ตรงไหน ขนบประเพณีอันดีงามของมนุษย์มีอยู่ เฉพาะย่นเข้ามาของชาวพุทธซึ่งดีงามกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีอยู่ ได้ขั้นใดตอนใดนำมาปฏิบัติก็จะไม่แสลงแทงตาเสียจนเกินไป

อันนี้มันกลายเป็นสัตว์ไปหมด หน้าด้านลืมเนื้อลืมตัว แต่งเนื้อแต่งตัวอะไรสะวี้ดสะว้าด ปล่อยหน้าปล่อยหลังเข้ามา การนุ่งซิ่นยังเหลือแต่หีเท่านั้นนะ นอกนั้นปิดไว้เพียงเท่านั้นแหละ เปิดหมดยังเหลือแต่หีเท่านั้น โหย มันทุเรศขนาดนั้นนะ มันมีไหนนี่เราพูดเราหาเรื่องเหรอ เราพูดนี้ผิดไปเหรอ ผู้มันเป็นมีอยู่นั้นนะ สอนให้แก้ไขดัดแปลง นี้มันจะเลยหมาไปแล้วนะ ความหมายก็ว่าอย่างนั้น เราอยากเป็นหมาไหมถ้าไม่อยากเป็นหมาก็ฟังเสียงซิ ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม เสียงความดีงามบ้างซิมันถึงถูก มันเลอะขนาดนั้นนะเวลานี้

ต่างคนต่างแซงหน้าแซงหลังแซงไปด้วยอำนาจของกิเลส แซงไปเพื่อความล่มความจม ถ้าลงได้เป็นอย่างนั้นแล้วมันจะมีขอบเขตเหตุผลที่ไหน มันก็มีแต่เลอะเทอะๆ ตั้งแต่ตื่นนอนจนหลับ วันนี้วันหน้าต่อไปมันก็เป็นนิสัยอย่างนี้ ไม่สนใจแก้ตัวแล้วมันจะหาความดีงามมาจากที่ไหนมนุษย์เราถ้าไม่เสาะแสวงหา ไม่คิดไม่อ่านบ้าง มันเลอะเทอะ ดังที่พูดให้พระพูดเรื่องสอนพระในวัดนี้เมื่อเช้านี้ก็เหมือนกัน ก็สอนตามความมันมีมันเป็นจริง ๆ ไม่ได้หาเรื่องอุตริ เราก็เป็นนักบวช พูดถึงการเที่ยวเราก็เที่ยวทั่วประเทศไทย คัมภีร์เราก็ดูเต็มเหนี่ยวเราของนี้ เราหาเรื่องอุตริมาพูดยังไง อะไรมันขัดกับธรรมขัดวินัยมันก็รู้นี่ เมื่อนำมาพูดมันจะผิดไปไหนวะ ถ้าผู้ที่ต้องการอรรถธรรมอยู่มันก็ควรจะแก้ไขดัดแปลงตามเสียงอรรถเสียงธรรมละซิ

นี่มันไม่สนใจ ยิ่งหน้าด้านทุกวันพระเราก็ดี จนดูไม่ได้นะเวลานี้ บวชเข้ามานี่ แหม บวชชี บวชพราหมณ์บวชอะไร ขึ้นบวชพระบวชเณรทีละเป็นร้อย ๆ แล้วมันได้หน้าได้หลังอะไรก็ไม่ทราบ บวชเห่อกันไปว่าประเพณี ๆ อะไรประเพณีเห่อ มันไม่ใช่ประเพณีของอรรถของธรรมนะ ดูมันก็รู้นี่ เลอะเทอะขึ้นเป็นลำดับลำดานะ แล้วการพูดอย่างนี้ก็ไม่มีใครพูดเสียด้วยนะ ต่างคนต่างเกรงอกเกรงใจกัน กิเลสต่อกิเลสเกรงกันละซิ มันก็นำแต่ความชั่วออกไปทำได้สบาย ๆ ซิ ความดีที่จะมาเตือนเป็นอรรถเป็นธรรมมันไม่มี แน่ะ ถ้าเตือนเป็นความดีก็เกรงใจกัน เหมือนว่าผิดไปแล้วนี่ การเตือนกันเป็นความผิดแล้วทั้ง ๆ ที่เตือนให้ถูกให้ดีมันกลายเป็นผิดแล้ว กิเลสมันหาว่าผิดแล้ว เรื่องของกิเลสที่มอมแมมจมอยู่ในถานเป็นความถูกต้องดีงามทั่วหน้ากันแล้ว ทั่วโลกดินแดนว่างั้นเลยนะ มันเป็นอย่างนั้นนะเวลานี้

มันไม่มีศีลธรรมติดตัว เป็นยังไงชาวพุทธเราควรจะคิดจะอ่านบ้างหรือเปล่า หรืออยู่ไปกินไปอย่างนั้นเหรอ เห่อ เป็นบ้ากับอันนั้นกับอันนี้ไป ยิ่งเป็นของเมืองนอกเมืองนาเข้ามาแล้วเป็นบ้าอยากมี ๑๐ แขน ๒๐ มือ คว้าให้พอทันกับความต้องการ ขามีสัก ๒๐ ขาวิ่งตามเขา ไม่สนใจที่จะพลิกจะแพลงเปลี่ยนแปลงเจ้าของให้มันดีขึ้น ๆ เพื่อจะไม่ต้องอาศัยเขาแบบเป็นบ้าอยู่เวลานี้เลย อะไรที่ควรจะเป็นประโยชน์สำหรับเรา เมื่อศึกษาจากเขามาได้แล้วก็มาปฏิบัติ เป็นเนื้อเป็นหนังของตัวขึ้นมา ไม่มีนะ มีแต่วิ่งตามเขาตลอด อะไรถ้าเป็นของนอกดีหมด ๆ อู๋ย.มันน่าทุเรศจริง ๆ นะ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นเมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธแท้ ๆ

มันทำไมถึงเห่อในของไม่เป็นท่าอย่างนี้ เรื่องอรรถเรื่องธรรมไม่สนใจ นิสัยอะไรนี่ นิสัยกิเลสความลืมตัว แจกกันตลอดเวลามีแต่เรื่องนี้แจกกัน เรื่องศีลเรื่องธรรมจะแจกกันนี้ไม่ค่อยมีนะ นี่อย่างพูดอย่างนี้ก็มันขัดหูพวกกองส้วมกองถานขนาดไหน เราไม่สนใจกับส้วมกับถาน ถ้าเราสนใจหรือเกรงใจนี้เราพูดไม่ได้ ธรรมพูดไม่ได้ ถ้าพูดอย่างนี้ไม่ได้ก็ไม่มีธรรมติดโลกแหละ โลกผู้หวังดีหวังความสุขจะได้กราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจต่อไปละ ถ้าพูดอย่างนี้ไม่ได้แล้ว ไปที่ไหนก็มีแต่ส้วมแต่ถาน เขาเหมือนเรา เราเหมือนเขา เอาของวิเศษมาจากไหน มีแต่เห่อกันทั้งวันทั้งคืน หาที่เห่อมาเป็นสาระอะไรบ้างไม่มี มีแต่ของเหลวไหลโลเล นั่น มันดีแล้วเหรอ เลอะเทอะมากนะ

ควรฟังบ้างซิ เสียงอรรถเสียงธรรม หูนี้ก็กิเลสเอาไปถลุงเสียหมด ตา หู จมูก ลิ้น กาย กิเลสเอาไปถลุงหมด ศีลธรรมเอามาใช้ไม่ได้เลย กิเลสเอาไปถลุงหมด ๆ เวลานี้เป็นอย่างนั้นนะ จนน่าทุเรศนะ โอ้ ศาสนาออกมาจากศาสดาองค์เอก ไม่มีใครเหลียวแลเป็นยังไง ก็มันมีแต่มูตรแต่คูถ จะเข้ากับศาสนากับทองคำทั้งแท่งได้ยังไง มันก็โดดไปตามมูตรตามคูถจมกันตลอดไปนั้นแหละ จมวันนี้ก็จมวันหน้า เดือนนี้เดือนหน้า แล้วก็ต้องตายในชาตินี้ชาติหน้าไปอีกจมกันอยู่อย่างนี้ไม่มีทางออกนะ ถ้าไม่ใช่ธรรม ท่านทั้งหลายอย่าไปหวังนะกับความเพลิดเพลินรื่นเริงเป็นบ้ากันทั่วโลกดินแดน ท่านทั้งหลายอย่าไปหวังว่าจะมีความสุขจากมันนะ มีแต่พาให้พวกเราล่มจม ให้จำเอานะเสียงอรรถเสียงธรรม

ถ้าใครยึดมาปฏิบัติน้อยก็ตาม น้ำเต็มไปหมด ตรงนี้เป็นเกาะ ยังเรียกว่าเป็นเกาะได้อยู่ นี้ก็ปฏิบัติตัวเองให้เป็นเกาะบ้างซิ เขาไม่ทำเราทำเป็นไร เรารับผิดชอบในเราต่างหากนี่นะ ไปไหนก็รับผิดชอบเราเอง โลกนี้โลกหน้าชาตินี้ชาติหน้าเป็นเรารับผิดชอบ ใครมารับกับเรา ถ้าเราไม่รับผิดชอบเราเองตั้งแต่บัดนี้แล้วแก้ไขดัดแปลง ธรรมะประกาศลั่นโลกอยู่นี้มันไม่มีเหรอหูเรา มันมีตั้งแต่หูให้กิเลสเอาไปถลุงวันยังค่ำคืนยังรุ่งนั่นเหรอ ตา หู จมูก ลิ้น กาย จะยึดเอาธรรมมาเป็นคติเครื่องเตือนใจบ้างมันไม่มีบ้างเหรอ หรือมันมีแต่กิเลสเอาไปกินหมดนั้นเหรอ มันน่าทุเรศนะ

เราก็อยู่ในท่ามกลางของเมืองไทยเรานี้มันอดไม่ได้จะว่ายังไง ก็ต้องสอนกันซิ ถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์ สอนนี้ก็ไม่ได้สอนผิดเสียด้วยนะ สอนถูกทั้งนั้นถ้าปฏิบัติตามนี้เอาซิ มันจะผิดไปไหนวะว่างั้นเลย นี้มันไม่มีนี่ แม้แต่เข้ามาในวัดในวาเหมือนกันมันก็ลืมเนื้อลืมตัวไปเรื่อย ว่าไม่ดูหรือดูคน ดูไม่ได้คุ้นกับใครนะ มันดูตลอดเวลานอกจากพูดหรือไม่พูดเพราะไม่หิวโหยนี่ ไปที่ไหน ตา หู จมูก ลิ้น กาย จิต สติปัญญามีใช้ทั้งนั้นแหละ ยิ่งเป็นอัตโนมัติด้วยแล้วไม่ต้องบอก มันเป็นของมันเอง เป็นอย่างนี้แหละ

เห็นพระปั๊บออกแล้ว เรื่องพิจารณาใคร่ครวญบวก ลบ คูณ หาร ไปพร้อม ๆ กันแล้ว ปล่อยปุ๊บจับปุ๊บพิจารณาปุ๊บๆ นั่น อย่างนั้นซิธรรมถ้าเอามาใช้ก็เป็นอย่างนั้น กิเลสเอามาใช้มันก็เร็วเหมือนกันกับธรรม ธรรมถ้าเอามาใช้แก้กิเลสได้เร็วเหมือนกัน กิเลสเอามาใช้ก็ลบล้างธรรมได้เร็วเหมือนกัน เราจะเอาทางไหน เอาไปพิจารณากันนะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละเอาละพอ เหนื่อยแล้ว

สรุป ทองคำ และดอลลาร์เมื่อวันที่ ๓ เมื่อวานนี้ทองคำได้ ๒๕ บาท ๔๐ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑,๒๑๓ ดอลล์ ดอลลาร์เวลานี้เราได้ ๒๔๘,๘๘๐ ดอลล์แล้ว ยังขาดอยู่อีก ๕๑,๑๒๐ ดอลล์ จะครบจำนวน ๓ แสนดอลล์ ซึ่งจะมอบต่อไปนี้ ทองคำที่ได้แล้วทั้งหมด ทั้งที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบเวลานี้ได้ ๖,๐๘๐ กิโลแล้วนะ ๖,๐๘๐ กิโลหรือ ๖ ตันกับ ๘๐ กิโลแล้ว รวมดอลลาร์ที่ได้แล้วทั้งหมด ทั้งที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบเวลานี้ได้ ๗,๔๔๘,๘๘๐ ดอลล์

 

ชมการถ่ายทอดสด ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน  ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก