เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

คนดีไม่ชมได้เหรอ

         ใครมายุ่งอยู่เรื่อยนี่มันเป็นยังไง เรื่องถ่ายรูปนี่เขียนประกาศไว้ไม่ได้ดูหรือ หลับตามาหรือยังไง เดี๋ยวหยุดเสียก่อนให้ฟาดหัวคนเสียก่อน มันเป็นยังไงไม่ดูหน้าดูหลังอะไรเลย ว่าพระดูคนไม่เป็นเหรอ คนชั่วดูไม่ได้มีเหรอ นี่ชั่วนี่ ชั่วตรงนี้ บอกอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง ไม่มีกิริยามารยาทอะไรเลยมันยังไงกัน เลอะเทอะมากนะโลกทุกวันนี้ นี่ตรงลงไปตรงนี้ น้ำสะอาดชะล้างลงไปผิดเหรอนี่ พิจารณาซิ มันเลอะเทอะขนาดนั้นนะมนุษย์เราเวลานี้ ไม่ฟังหน้าฟังหลังอะไรเลย เอ้า ว่าไป

(เจ้าคณะจังหวัดน่านขอนิมนต์ไปรับผ้าป่าช่วยชาติที่จังหวัดน่าน ราวเดือนพฤษภา) ขอบคุณมากที่พวกเราทั้งหลายต่างท่านต่างคน ตั้งหน้าตั้งตาช่วยชาติบ้านเมืองของเรา เพราะบ้านเมืองเป็นของเรา เรารักเราสงวนสมบัติของเรา ต่างท่านต่างนิมนต์ ๆ มาช่วยกันหนุนขึ้นเพื่อชาติไทยของเรา หลวงตาในนามหัวหน้าที่นำพี่น้องทั้งหลาย จึงขอขอบคุณทุก ๆ ท่านเป็นอย่างมาก

เมื่อสองสามวันนี้ก็ให้คุณชายไปถอนเงินออกจากธนาคารกรุงเทพ เพราะโน้นก็เราเป็นผู้เซ็นถอน ๆ ให้ เราก็เซ็นถอนไปแล้ว ถอนเงินจากธนาคาร ๔๗,๐๕๙,๖๐๐ บาท ไปซื้อทองคำได้ ๙๘ กิโลกรัม รวมทองคำทั้งหมดได้ ๒๔๕ กิโลกรัม นี่หมายถึงรวมทั้งหมดที่เราได้เพิ่ม กับ ๙๘ กิโลนี้ รวมกันแล้วเป็นจำนวนทองคำ ๒๔๕ กิโลกรัม เราถอนเงินจากทางอุดรและโอนแล้วเมื่อวานนี้ จากธนาคารไทยพาณิชย์ ๘๑,๖๔๒,๒๗๒ บาท ๗๖ สตางค์ ธนาคารกสิกรไทย ๓๕,๔๗๗,๒๓๑ บาท ๕ สตางค์ รวมทั้งสองบัญชีเป็น ๑๑๗,๑๑๙,๕๐๓ บาท ๘๑ สตางค์ รวมทั้งหมด ๑๒๔,๐๐๐,๖๔๒ บาท รวมทั้งหมดของชายป๋ำอีก ๑๗๑,๐๖๐,๒๔๒ ล้าน ที่ถอนไปซื้อทองคำคราวนี้ ๑๗๑,๐๖๐,๒๔๒ บาท รวมเงินของเราที่ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงคราวนี้เป็นเงิน แต่ก่อน ๙๓๑ ล้านบาท

ทีนี้มาบวกกับ ๑๗๑ ล้านนี่เข้าไป จึงเป็นเงิน ๑,๑๐๒,๐๖๒,๒๔๐ บาท ส่วนดอลลาร์ที่เราซื้อคราวก่อนนั้น ๑๐ ล้านมันยังไม่นับเข้านี่นะ ถ้านับเข้ามันก็เป็น ๑,๑๑๒ ล้าน ที่อ่านนี้บรรดาพี่น้องทั้งหลายเข้าใจหรือเปล่าไม่รู้นะ (เข้าใจครับ) เข้าใจแล้วเหรอ ที่ไปถอนเงินออกจากอุดรธนาคารต่าง ๆ รวมหรือส่งหรือโอนไปทางกรุงเทพเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ยังอยู่อีกเพียงธนาคารกรุงเทพมันหมดเวลาเสียก่อน เขาบอก ๖ ล้าน วันนี้จะไปโอนแล้ว ก็เป็นอันว่าบวกกันตามจำนวนที่ว่า เป็น ๑๒๔,๐๐๐,๖๔๒ บาท บวกกับชายป๋ำ ๔๗ ล้านเข้าไป จึงเป็น ๑๗๑ ล้าน ที่เราซื้อทองคำคราวนี้ เป็นเงิน ๑๗๑,๐๖๐,๒๔๒ บาท กรุณาทราบตามนี้ วันนี้เราคัดออกมาเลยเพื่อจะอ่านให้พี่น้องทั้งหลายฟัง คือเขาเอามามอบเขาคัดเรียบร้อย ๆ แล้ว ออกมาเป็นความจริงเรียบร้อยแล้วจึงเอามาอ่านวันนี้ ส่วนเงินในบัญชีฝากประจำถอนหมดเลย ยังเหลือแต่ออมทรัพย์ เพราะมีผู้โอนเข้ามาติดต่อกันอยู่เรื่อย ๆ เหลือไว้ก็เรียกว่าหัวร้อย ไม่ได้หัวพันหัวหมื่นนะ เศษไว้เป็นร้อย ๆ

คือวันที่ ๑๒ เมษานี้เป็นวันครบรอบที่จะนำพี่น้องชาวไทยเรา เกี่ยวกับเรื่องช่วยชาติบ้านเมืองนั้น วันที่ ๑๒ เมษาเป็นวันครบรอบจึงได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากันว่า ยังไงขอให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๕๐๐ กิโล ที่พูดกันอยู่เดี๋ยวนี้ก็พอดีได้ ๕๐๐ กิโล ส่วนจุดใหญ่ก็อยู่ที่ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ถ้าได้ ๕๐๐ กิโลนี้เข้าไปแล้วก็จะเป็น ๖ ตัน ที่เราได้แล้วนะ ๖ ตันกว่าเล็กน้อย ขาดอีก ๔ ตัน ต่อไปก็จบกันตรง ๑๐ ตัน ดอลลาร์นี้ยังไงก็คงไม่น้อยกว่า ๑๐ ล้านแหละ เวลานี้เราได้ดอลลาร์ ๗ ล้าน ๓ แสนกว่าแล้ว เมื่อทองคำถึง ๑๐ ตัน ดอลลาร์ก็จะต้องเข้าถึง ๑๐ ล้านเหมือนกัน

ถ้าไม่ถึง ๑๐ ล้าน เราก็จะเที่ยวออดตามลูกศิษย์เราให้ได้ เพราะไม่หนักมาก ดอลลาร์ไม่หนักมากเหมือนทองคำ ทองคำหนักมาก เพราะฉะนั้นเมื่อทองคำซึ่งเป็นของหนักมากก้าวขึ้นสู่ ๑๐ ตันได้ ทำไมดอลลาร์เบากว่าทองคำจะขึ้นไม่ได้วะ ดีไม่ดีเหยียบหัวทองคำขึ้นไปอีก กรุณาทราบตามนี้นะ เราก็ได้พยายามเต็มกำลังความสามารถนะ คราวนี้ก็จะลุตามจุดหมายปลายทาง คือเมื่อได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันนี้แล้วก็เป็นอันว่าหายห่วงสำหรับเราเอง ปล่อยเลย เพราะเราไม่ค่อยเหมือนใครนะ ว่าอะไรเป็นอันนั้น ว่าดุดุ ว่าดีดี ว่าเด็ดเด็ด ทุกอย่างนะ นี่ว่าเอาๆ เอาจนกระทั่งพอ ถึงจุดนี้แล้วว่าเลิกเลย เลิกเลย ไม่กวนพี่น้องทั้งหลายต่อไปอีก

นอกจากจะมีศรัทธามาบริจาคธรรมดา เราก็รับไปธรรมดา แต่จะให้รบกวนดังที่เป็นมานี้แล้วไม่ เราก็อบอุ่น ทองคำเรามีน้ำหนัก ๑๐ ตัน เพิ่มเข้าสู่คลังหลวงของเรา ซึ่งมีทองคำไม่ได้มากเลยนะ ที่เราถ้าพูดภาษาโลกเรียกว่าเราเดือดร้อนมากกว่าพี่น้องทั้งหลายนะ หลังจากไปดูทองคำในคลังหลวงมาแล้วใจหายวูบเลย ตั้งแต่บัดนั้นประกาศลั่นมาจนกระทั่งบัดนี้ จึงยันอยู่ที่ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ๑๐ ตันอยู่ตลอด เพื่อจะเข้าไปหนุนนั้น พอได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันหนุนแล้วก็เรียกว่าหายใจโล่งปอด ว่างั้นเถอะนะ ถึงไม่เต็มปอดก็โล่งปอด

เราจึงได้พยายามตะเกียกตะกายตลอดเวลา และรบกวนพี่น้องทั้งหลายด้วยทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ให้ได้หายใจเต็มปอดทั่วประเทศไทยเรา นี่แหละเรื่องราว เมื่อถึงจุดนี้แล้วก็หายใจโล่ง ไม่เป็นไรว่างั้นเลยถ้าได้ถึงทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วนะ เพิ่มกับอันเก่าเป็นจำนวนเท่านั้น เราไม่บอกทองคำในคลังหลวงมีจำนวนเท่าไรไม่บอก บอกได้แต่ว่ามีน้อยมาก จึงต้องเอา ๑๐ ตันนี้เข้าไปเพิ่ม ให้เป็นที่อบอุ่นใจเรา เราเป็นผู้เข้าไปดูทองคำเอง อบอุ่นกว่าบรรดาพี่น้องทั้งหลายด้วย ถ้าว่าเดือดร้อนก็เดือดร้อนตั้งแต่วันไปดูมา เดือดร้อนที่สุดเลย

เงินสดเราเท่าที่ทราบได้และแน่นอนในเวลานี้ เราได้นำเงินที่ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงเป็นจำนวนเงิน ๑,๑๑๒,๐๖๐,๒๔๒ บาท สำหรับดอลลาร์เราได้ซื้อ ๑๐ ล้าน อันนี้เข้าคลังหลวงเหมือนกัน ถ้ารวมแล้วก็เรียกว่า ทั้งดอลลาร์ ๑๐ ล้านนี้ด้วย ก็เท่ากับว่าได้ ๑,๑๑๒,๐๖๐,๒๔๒ บาท นี่สำหรับเงินสดที่ได้เข้าคลังหลวง คือซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงมีจำนวนเท่านี้ นอกจากนี้ก็ไหลไปทั่วดินแดน ดังไปเมื่อวานนี้ก็เขาสั่งซื้อเครื่องมือตา ราคาแพง ๆ ๒ ล้าน ๓ ล้าน ติด ๆ กันมา เมื่อวานนี้พอดีตอนบ่ายนิดหน่อยเรามีเวลาว่างเลยเข้าไปดูเครื่องไม้เครื่องมือที่เขาสั่งซื้อมาใหม่ ราคาแพง ๆ ไปดู ๆ พร้อมทั้งเขาซ่อม เพียงซ่อมเฉย ๆ ตั้ง ๔ แสน ไม่ใช่เล่นนะเครื่องมือตานะ เขาไปซ่อมเฉย ๆ เครื่องใหญ่มันเสีย

พอไปก็รุมมาเลย เป็นอย่างงั้นนะ มาขอนั้นขอนี้ยุ่งไปหมด เมื่อวานนี้เราบอกเราไม่มีให้มากนะ เราจะตายแล้วเราบอกตรง ๆ เครื่องอบเด็กมีเจ็ดแปดเครื่อง เด็กในที่ต่าง ๆ ไหลเข้ามา เครื่องอบเด็กมี ๘ เครื่อง พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็บอกเราให้อีกเครื่องหนึ่งเท่านั้น เราหนักมาก แล้วก็เครื่องเกี่ยวกับเข้าไปอะไรเข้าไปถึงตาด้วยนะ อันนี้เราก็ให้อีกเครื่องหนึ่ง คงประมาณล้านกว่า เฉพาะเครื่องอบเด็กนี้มันก็ ๘ แสนแล้ว แล้วเครื่องอันนั้นอีกก็คงประมาณล้านกว่า เมื่อวานเห็นไหมไปครู่เดียวเท่านั้น มันออกอยู่อย่างนี้จะให้ว่าไง หมุนติ้ว ๆ

ที่เป็นเงินสดเข้าคลังหลวงได้เพียงเท่านั้น เรียกว่าพันกว่าล้านนะ นอกนั้นมากยิ่งกว่านี้อีกเป็นไหน ๆ นะ ที่กระจายทั่วประเทศไทยเรา มากจริง ๆ หนึ่งพันอย่าว่ามากนะ ที่กระจายออกไปนี้มากกว่านั้นอีก ลาดยาวนี้ก็กำหนดไว้แล้วอย่างน้อย ๓๐ ล้าน เพราะแต่ละหลัง ๆ ๑๕ ล้านแล้ว แล้วยังปลีกยังย่อยอีก เรียกว่าอย่างน้อย ๓๐ ล้าน ยังมียิบ ๆ แย็บ ๆ ออกไปอุดรครู่เดียวปาเข้าไปเป็นล้านกว่าเห็นไหม ไปไหนเป็นอย่างงั้นเราช่วย ช่วยบรรดาพี่น้องทั้งหลายที่มีความยากจน

อันนี้ทางอุบลลูกศิษย์ลูกหาเราเขาไปอะไรต้นผ้าป่าหรืออะไร ไปถูกรถชนหรือไง (ครับไปแจกต้นผ้าป่าแล้วถูกรถชนครับผม) ก็รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดอุบล เขาส่งข่าวมาหาเรา เราก็รับเป็นคนไข้ของเราเลย เราสั่งเข้าไปทันทีบอกคนไข้คนนี้เป็นคนไข้ของหลวงตา ให้ปฏิบัติเต็มกำลังความสามารถ หมอเขาก็พอใจ ทุกอย่างก็พอใจ คนไข้ก็ดูเหมือนมีหวังว่างั้นนะ พ้นเขตอันตรายแล้ว สำหรับคนไข้เราพูดจริง ๆ เราไม่เคยปรากฏว่าเราได้ปัดคนไข้ออก ที่เขามาขอร้องความช่วยเหลือจากเรานะ ไม่ว่ารายใดมาก็แบบเดียวกันนี้หมด อันนี้ก็เป็นเงินพี่น้องทั้งหลายนั่นแหละจะเป็นของใคร

คนไข้อยู่ทั่ว ๆ ไปนะ ที่เขาขอร้องมาอย่างนี้ เรารับปุ๊บ ๆ ทุกราย ไม่เคยปรากฏว่าเราได้ปัดไปแม้แต่รายเดียวไม่เคยมี เรารับหมดเป็นคนไข้ของเราร้อยเปอร์เซ็นต์ๆ เมื่อเสร็จแล้วการจ่ายเงินไม่มีปัญหา หมอว่าเท่าไร ถาม เท่านั้น จ่ายปึ๋ง ๆ ๆ ตามนั้นเลย มือเขียนต้องเอามือลบซิ สั่งให้รักษาร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อรายจ่ายเขาเท่านั้น ค่ารักษาเท่านั้น นี่เขาก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็ร้อยเปอร์เซ็นต์จ่ายปึ๋งเลย มันจึงรับกัน จะไปต่อไปรอง โอ๊ย ไม่ได้เราไม่เอา ทีนี้ก็เบาใจละ ยังไงก็ตามทางลูกศิษย์ลูกหาทางกรุงเทพก็รออยู่แล้วว่า วันที่ ๕ นี้ก็จะมาสบทบกันเข้านี้ ขาดเหลือเท่าไรก็จะเพิ่ม

ถ้ามาถึงศาลาเราแล้ว พอมาถึงนี้ปั๊บเราจะไปสั่งคนให้ไปปิดประตู ไล่เบี้ยเอาเงินหมดแล้วทีนี้เปิดประตูไล่ออก ต้องเอาสมทบ เราต้องได้สมทบ ว่างั้นเถอะ มาเฉย ๆ ไม่ได้ ทางนั้นก็ไม่มาเฉย ๆ มาตั้งหน้าจะให้ เราก็ตั้งหน้าจะเอา ต่างคนต่างสู้กันล่ะซิ ก็จะเพิ่มเข้าไปอีกนะ ที่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์จากชายป๋ำ วันนี้เขาก็จะโอน ๖ ล้าน นี้ไป คือเขาบอกว่าโอนยังไม่เสร็จหมดเวลาเสียก่อน ความจำเป็นบีบบังคับเลยต้องรอ วันนี้ไปอีก ๖ ล้าน ส่วนนอกจากนั้นโอนแล้วตั้งแต่เมื่อวานเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปจะได้ทราบจากคุณชายป๋ำ เป็นที่แน่นอนล่ะ ว่าเงินเราเข้าเท่าไร แล้วซื้อทองคำมาได้เท่าไร เราก็จะทราบชัดว่าเรามีเงินมีทองแล้วเท่านั้น

เราก็เบาใจมากมาเป็นลำดับ เห็นไหมที่หลวงตาพูด ลูกศิษย์เราไม่ใช่เล่นนะ เราบอกแล้ว ทั่วประเทศไทย พอหัวหน้านอนหลับครอก ๆ ลูกศิษย์ก็ครอกแครกๆ พอหัวหน้าตื่นนอน กระแอมไอ ลูกศิษย์ก็คึกคักตื่นนอน พอหัวหน้าว่าเอานะผึงเลย ได้ทุกเปลาะ เราไม่เคยพลาดนะ มันหากมีจุดอย่างนี้ละ เช่นอย่าง ๕๐๐ กิโลคราวนี้ นี่เรียกว่าจุดสำคัญก็เอาแล้วมาเป็นลำดับ ๆ ไม่เคยคลาดเคลื่อนนะ เป็นลำดับมาตลอด จากนี้ก็จะใส่จุดใหญ่ คือน้ำหนัก ๑๐ ตัน คำพูดอันหนึ่งที่เราไม่เคยพูด มันไม่สะดวกในจิต เราจึงไม่เคยพูดเลย ถ้าหากพูดจะมีแย็บวันนี้เท่านั้นละ คือทองคำเราที่มีอยู่ในคลังหลวง มันคี่มันไม่ได้คู่ เช่น ๙ อย่างนี้ สมมุติว่า ๑๐ อย่างนี้มันก็เป็น ๙ ตันเสีย เป็น ๑๙ ตัน แล้วเป็น ๒๙ ไปเสีย เมื่อเราเพิ่มเข้า ๑๐ ตัน ๆ นะ ไอ้ ๙ นี้มันก็ติดไปเรื่อย ๆ ติดช่างหัวมันเถอะ เราไม่พูด เราได้เต็ม ๑๐ ตันนี้ก็เอาแล้วแหละ นี่พึ่งมาแย็บ ที่มันขาดอยู่นี้ไม่เต็มหัวสิบ ช่างมันเถอะ พึ่งมาแย็บวันนี้นะ

เราไปดูละเอียดลออ นับละเอียดลออ ทองคำนี้เอาไปไว้ที่ประเทศไหน ๆ เพื่อเป็นการประกันชาติของเราในการติดต่อซื้อขาย ติดหนี้ติดสิน เอาทองคำเป็นเครื่องประกันเอาไว้ ๆ ในประเทศใหญ่ ๆ ที่มีการซื้อขายติดต่อกันอยู่ ถามตรงไหนถูกตรงนั้น ถามจุดไหนไม่เคยพลาดเย เมืองนั้นเท่านั้น เมืองนั้นเท่านั้น ๆ  ๆ เมืองไทยเท่านั้น เราจำได้แล้ว ที่จำได้ไม่ลืมเลยก็คือว่า เมืองไทยเรารู้สึกว่าทองคำมีน้อยมาก จิตใจมัน โอ้ ถ้าเป็นภาษาของโลกก็ว่าลดฮวบทันทีเลยนะ ออกมาจึงประกาศในเย็นวันนั้นเลย ตั้งแต่บัดนั้นมาไม่เคยอ่อนข้อนะ จะให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน หนุนตรงนี้ ๆ

พี่น้องทั้งหลายทราบที่หลวงตาพูดนี้ เป็นการรบกวนพี่น้องทั้งหลายตลอดมาก็เพื่อจุดนี้เอง พอได้อันนี้เต็มแล้วเราหายใจโล่ง หลวงตาก็สบาย พี่น้องทั้งหลายก็สบาย ดอลลาร์เราก็ได้ ๑๐ ล้าน ไม่เป็นไรแหละ ยังไงต้องให้ได้ ๑๐ ล้าน อันนี้เป็นจุดหนึ่ง จุดนี้ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ไม่ค่อยเข้มข้นนัก คือเราจะไปเที่ยวหาออดเอาตามลูกศิษย์ มันขาด ๑๐ ล้าน เวลานี้ได้ ๗ ล้าน ๓ แสน เผื่อว่าทองคำน้ำหนักมากกว่าดอลลาร์ มันปึ๋งปั๋ง ไปถึง ๑๐ ตันก่อน ดอลลาร์ยังงุ่มง่ามอยู่นี้ ลุกซิเราก็จะว่าอย่างงั้น เราก็จะไปออดเอาตามลูกศิษย์ให้ได้ ๑๐ ล้าน คงแน่นอนล่ะ ๑๐ ล้านไม่สงสัย เบาใจละเราที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา จะรวมหัวกันให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตันนี้ ถ้ามันได้เลย ๑๐ ตันไปยิ่งดี อันนี้เป็นเรื่องพิเศษ

(สาธารณสุขอำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม ขอความอนุเคราะห์อาหารจัดเลี้ยงผู้อบรมติดยาเสพย์ติด) อันนี้ให้รอไว้เสียก่อน ยังช่วยไม่ได้เวลานี้นะ กำลังหนักมาก คิดดูซิเดินหย็อก ๆ เข้าไปโรงพยาบาลศูนย์ตะกี้นี้ ออกมาล้านกว่าแล้ว อย่างนั้นแล้วจะให้ว่าไง เดินไปไหนไม่ได้นะ ติดไปเลย จึงให้รอไว้ก่อน ดูเรื่องราวก็ไม่หนักหน่วงอะไรมากนัก คือเราจะดูน้ำหนักความจำเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสอง อันดับสาม จะดูให้ละเอียดลออ เวลาจะแก้ไขหรือจะปฏิบัติตามสิ่งเหล่านั้น จะปฏิบัติตามความจำเป็นเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสอง อันดับสามอย่างนั้น ให้รอไว้ก่อนนะ เพียงจัดอบรมอะไร ๆ เมื่ออบรมก็อบรมกันไปเถอะ ผู้ใหญ่ของเราก็ได้อุตส่าห์พยายามเต็มกำลังความสามารถ เราพูดจริง ๆ นะ

มีนายกคนไหนตั้งมานี้กี่นายกแล้ว แต่ก่อนก็ไม่มียาเสพย์ติดก็เบา ๆ ไป มาระยะหลัง ๆ นี้ยาเสพย์ติดระบาดทั่วประเทศไทย จะเอาคนชาติไทยทั้งชาติให้เป็นหมาขี้เรื้อนกันไปหมดเลย ไม่มีใครสามารถที่จะทำได้ ที่ไหน ๆ ก็ไม่เคยได้ยิน เมื่อได้ยินขึ้นมาว่า ถ้าจะทำมันก็รุนแรงไป ปล่อยให้คนจมทั้งชาตินี้ เป็นความนิ่มนวลไม่รุนแรง อย่างนั้นหรือไงไม่รู้นะ เราก็สงสัยตรงนี้ เมื่อเรื่องมันประดังเข้ามา ๆ ถึงขนาดที่จะให้คนไทยจมทั้งประเทศนี้ ผู้รักษาชาติไทยมีอยู่ ผู้รักษาประเทศมีอยู่ เวลานี้คือใคร ประชาชนราษฎรมอบความไว้วางใจให้ผู้ใดเป็นผู้นำ ก็คือนายก แล้วนายกจะมานอนอยู่เฉย ๆ ได้หรือ เรื่องราวมันเผาเข้ามา ๆ ทุกแง่ทุกมุม เอ้า ผู้กำกับพูดเรื่องนี้

( เด็กที่ติดยาเสพย์ติดประมาณ ๓ ล้านคนทั่วประเทศ เด็กที่มารับการรักษาได้สารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า เดิมเขาไม่ได้ติดยาเสพย์ติด ก็มีผู้ใหญ่มาบีบบังคับ เขาพยายามหลบหลีกแต่ไม่พ้น เพราะเขาใช้มีดคัดเตอร์มากรีดที่หัวเป็นแผล แล้วขู่ต่าง ๆ นานา แล้วบังคับให้เสพยาเสพย์ติด พอเสพยาก็เท่ากับเป็นลูกค้า แล้วเสพจนเงินทองหมดก็กลายเป็นเอเยนต์ของเขาเอายาบ้าไปขาย เป็นแบบนี้หลาย ๆ โรงเรียน มันก็มากขึ้น ๆ นี้ประเด็นหนึ่ง อีกประเด็นหนึ่งติดตามเพื่อนฝูงไปทดลองของใหม่ ๆ แปลก ๆ ซึ่งตัวเองไม่เคย ทีนี้ก็ติด รวมแล้วประมาณ ๓ ล้านคนทั่วประเทศ)

นี่เด็ก ๆ ตั้ง ๓ ล้านคนทั่วประเทศ มันกดขี่บังคับด้วยวิธีการต่าง ๆ เอามีดคัดเตอร์ไปกรีดหัวเด็ก ถ้าเด็กไม่กินยามันก็จะฆ่า มีดมันอยู่กับมือมันบังคับ อันนี้โหดร้ายหรือไม่โหดร้าย พิจารณาซิ พวกที่บังคับให้คนเสียคนทั้งประเทศ ต่างคนต่างถือมีดคัดเตอร์ไปกรีดหัวเด็กให้เลือดสาดออกมา แล้วบังคับให้เด็กนี้ต้องกินยา ถ้าไม่กินจะฆ่าเดี๋ยวนี้ เด็กก็ต้องเสียดายชีวิตใช่ไหม ต้องยอมกิน กินแล้วติด เป็นอย่างนี้วิธีการของพวกมนุษยชนของเรา มันทำอย่างนี้ เป็นยังไงฟังซิน่ะ เป็นมนุษยชนได้ไหมคนประเภทนี้ แล้วคนจมทั้งประเทศ เป็นมนุษยชนทำให้คนทั้งประเทศจมหรือนายกเราเป็นผู้ทำให้จม นายกเราฟื้นขึ้นมาแทบเป็นแทบตาย ควรจะต้องเด็ด ไม่เด็ดไม่ได้ เราเป็นเจ้าของสมบัติ จะมาอ่อนข้อต่อข้าศึกศัตรูได้เหรอ ไม่อย่างนั้นไม่จัดว่าเป็นผู้นำ

ผู้นำต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่าง อันนี้ประเทศชาติอยู่กับผู้นำเป็นผู้จะต้องคอยดำเนินงาน แล้วข้าศึกศัตรูมันเข้ามาสู่ชาติไทยของเรา ถึงขนาดเอามีดมากรีดหัวเด็ก บังคับเด็กให้กินยาเสพย์ติด จากมหาภัย แล้วเสียหายมามากมาย ระบาดจนกระทั่งทุกวันนี้ จะไม่ให้แก้ไขหรือปราบปรามกันได้ยังไง พิจารณาซิ นี่เราสลดสังเวชนะ มันโหดร้ายทารุณถึงขนาดนั้น คนจะเสียหมดทั้งประเทศนะ ถ้าหากว่าไม่ เอาไม่ทันคราวนี้จะเสียหมด เพราะฉะนั้นจึงว่าเราชมนายกด้วยความเป็นธรรม

ควรเด็ดต้องเด็ด ไม่เด็ดไม่ได้เราเป็นเจ้าของสมบัติ สมบัติในประเทศนี้มีคุณค่าขนาดไหน เราเด็ดเพื่อสมบัติทั้งประเทศเสียหายตรงไหน พิจารณาซิ โอ๊ น่าทุเรศนะเอามีดไปกรีดหัวเด็กจ่ออยู่นี้ ถ้าไม่กินยาเสพย์ติดจะแทง นั่นมันขู่ขนาดนั้น น่าทุเรศจริง ๆ เด็กจึงได้เสีย นี่เพียงเด็กเสียก่อน ต่อจากนั้นระบาดไปหมด เด็กทั่วประเทศไทย ผู้ใหญ่ทั่วประเทศไทย มันจะไปเที่ยวกรีดหัวหมด เอาให้หมดทั้งประเทศไทย กรีดหัวคนทั้งประเทศ อยากให้มันกรีดไหม (ไม่เอาเจ้าค่ะ) แน่ะไม่เอา แล้วถามคนทั่วศาลานี้รายใดไม่มีใครยอมรับใช่ไหม มีแต่ไม่เอา ๆ ทั้งนั้น ฟังซิมันโหดร้ายหรือไม่โหดร้าย อู๊ย เราฟังแล้วเราสลดสังเวชนะ

(หนังสือพิมพ์เขาลงข่าว พ่อค้ายาบ้าเอาลูกอายุ ๙ ขวบติดรถไปด้วย พอเกิดจับยาบ้ากันมีการต่อสู้กัน ลูกอยู่ในรถถูกกระสุนไม่ทราบว่าของฝ่ายตำรวจหรือมือปืนคุ้มกันของพ่อค้ายาบ้าครับ แล้วมีหมอไทยคนหนึ่งไปฟ้องสหประชาชาติว่ารัฐบาลไทยทำเกินกว่าเหตุ ทีนี้คุณทักษิณก็เลยบอกว่า สหประชาชาติไม่ใช่พ่อผม สหรัฐถ้าจะตัดความช่วยเหลือก็ช่างเถอะ เพราะว่าเราเป็นมิตรประเทศที่ไม่ใช่มาเพื่อขอรับบริจาคจากใคร เราพึ่งตัวเองได้)

อันนี้หลวงตาบัวก็อยากเป็นนายกอีกคนหนึ่ง เราจะได้ช่วยนายกเรา พวกนี้อยากเป็นนายกไหม มันถึงใจเข้าใจไหม เป็นนายกให้หมดพวกเรา ฟาดพวกนี้ให้มันหงายหมาไปเลย มันต้องอย่างนั้นซี ไอ้พวกที่คอยจะทำลายนี้มันอยู่ฉากหลัง ๆ นะ ค้านนั่นค้านนี่ไม่ได้ค้านอะไร ค้านเพื่อทำลาย ๆ ไม่ได้ค้านเพื่อแนะนำอุบายวิธีการให้ทำที่จะเป็นผลเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ถ้าจะทำอะไรดีแล้วค้าน ๆ พวกนี้คือพวกทำลาย ตามทำลาย

(ประชาชนชมนายกว่าฉลาด ในกรณีจะนำเงินของสหกรณ์ที่ฝากเอาดอกเบี้ยในต่างประเทศจำนวน ๕ แสนล้าน มาเพื่อให้คนไทยกู้ในการประกอบอาชีพ) เอ้าพวกเราก็ประชาชน เอ้า ชมนายก (สาธุ) อ้าว คนดีไม่ชมได้เหรอ ตั้งแต่คนชั่วยังตำหนิมัน ดีที่ยังให้อภัยมันไม่ตามฆ่ามัน ทีนี้สมควรที่จะชมนายกเราในแง่ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก เอ้า พากันเป็นนายกแล้วชมนายกเรา ก็รักษาประเทศ อะไรจะเป็นมงคลแก่ประเทศของเรา เช่นนายกพาเป็นมงคลอยู่นี้ ทำไมจะไม่ชมนายกวะ

(เอแบคเขาสำรวจ เขาอยากให้นายกอยู่อีก ๔ ปี หลวงตาจะว่ายังไงครับ) ว่าให้อยู่อย่างน้อย ๘ ปี อ้าว จริง ๆ เราไปหานายกที่ไหนหาไม่เจอ เมื่อเจอเราก็บอกว่าเจอ เพราะฉะนั้นเขาว่าให้อยู่อีก ๔ ปี เราว่าอย่างน้อยให้อยู่ ๘ ปี มันจะสมใจเรา เราดูนายกมานานตั้งแต่เราเป็นเด็ก คนนั้นคนนี้เป็นนายก ๆ ตลอดมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ดูนายกมาตลอด เราก็เคยพูดแล้วไม่ใช่เหรอ เราเป็นพระ เป็นอะไรเรารู้มาโดยลำดับแต่เราไม่ไปสนใจ ก็มาสนใจตอนหัวเลี้ยวหัวต่อที่นายกเราจะได้ขึ้นเป็นนายกนี้ มันก็เกี่ยวกับเรื่องของเราเข้าไปอยู่ในท่ามกลาง มันถึงได้รู้เรื่องชัดเจน

ทีนี้เวลามาพิจารณาตามลำดับลำดาแล้ว เราพูดด้วยความเป็นธรรม เพราะภาษาพระ ภาษาธรรมต้องตรงไปตรงมา ว่าเรายังไม่เห็นใครที่จะทำประโยชน์ให้โลกอย่างเด่นชัด ๆ ถ้าว่ามีความต้องติอย่างนี้ ก็มีแต่พวกที่จะคอยให้ร้ายเท่านั้น นอกนั้นยังไม่ปรากฏอุบายวิธีการที่นายกดำเนินไป เราจึงว่ายังไม่เห็นใครที่แซงนายกเราคนนี้ไปได้เลย เราพูดตามภาษาธรรมนะ ถ้ามีผิดตรงไหนเราก็ต้องว่า แต่นี้ไม่ผิดจะให้เราว่ายังไงว่าคนไม่ผิด จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบ เราหาคนดีเพื่อรักษาชาติไทยของเรา เราต้องหาผู้สำคัญ ๆ ที่เป็นคนดี เอา อยู่ที่ไหนอยู่เถอะน่ะ ชาติไทยไม่มีคำว่าภาคนั้นภาคนี้ ที่จะไปหนักในภาคนั้นภาคนี้ไม่มี ภาคไหนก็ตามขอให้เป็นคนดีเอาขึ้นมา ภาคนี้ก็ตาม ภาคนั้นก็ตาม อยู่ใกล้อยู่ไกลในวงของชาติไทย ดูไปใครเป็นผู้สามารถที่จะนำชาติบ้านเมืองได้เอาขึ้นมาเลย

จะมายกชาตินี้ก็เหมือนกัน เราหาคนดี เราจึงว่าพูดเป็นอรรถเป็นธรรมตรงไปตรงมาอย่างนี้ นี่พวกที่มาพูดเป็นส่วนมากหรือส่วนน้อยก็ไม่ทราบแหละ มาขอให้นายกเราอยู่สัก ๔ ปี นี้มันขอน้อยคนเกินไป มีคนมาเห็นด้วยเราไหม (เห็นด้วยเจ้าค่ะ) นั่นละ หาคนดีต้องหาอย่างนั้นซี (ลูกศิษย์เขาว่าขอให้นายกอยู่ถึง ๘ ปี) เอ้า เพิ่มเข้าอีก ๆ เป็น ๑๖ ปี(แล้วให้หลวงตาอยู่ถึง ๑๒๐ ปี ) อันนี้ให้หลวงตาปรึกษากับลมหายใจดูเสียก่อนนะ เอาละพอ

อ่านและฟัง ธรรมะหลวงตาวันต่อวัน  ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th