คำพูดนี้ไปได้ทั่วถึงหมด
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2546 เวลา 8:55 น. ความยาว 34.48 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๖

คำพูดนี้ไปได้ทั่วถึงหมด

 

ทางภาคใต้เราไม่ได้เที่ยวทั่วถึงเท่าไรนัก คิดดูอย่างคราวที่แล้วยังเสียใจไม่หายเลย เรากะไว้ว่าทางภาคใต้นี้เราจะไปวาระสุดท้าย จะไปให้ทั่วถึงหมดแล้วก็เป็นอันว่าผ่านไปเลย ไปภาคนั้นภาคนี้ตามที่นิมนต์ไปเทศน์ในที่ต่าง ๆ ทางภาคใต้ก็มีจำนวนมากเหมือนกันกับทางภาคอื่น ผู้มานิมนต์นับแต่ผู้ว่า ๆ เรื่อยไปเลย เราก็กำหนดไว้เรียบร้อย ๆ พอผ่านนี้ไปแล้วจะลงภาคใต้ ไปก็ไปให้ทั่วถึงทีเดียวแล้วกลับมาก็เป็นอันว่าเรียบร้อยไปเลย ว่างั้นนะ อันนี้มันมีแต่ความคาดความคิดภายในใจเรา สังขารร่างกายเราไม่ได้ปรึกษาหารือกันล่ะซิ ครั้นไป ๆ พอไป ๆ อ่อนลง ๆ สุดท้ายไปไม่ได้ อ้าว แล้วกันทำไงนี่ เลยต้องขออภัยจากบรรดาพี่น้องทั้งหลายทางภาคใต้เรา

เรามุ่งอยู่แล้วตั้งแต่ต้นเลย  กะโครงการไว้เรียบร้อยหมดทั่วประเทศไทยว่างั้นเถอะ ภาคใต้เราเป็นภาคใหญ่ เราจะไปทีเดียวให้ทั่วถึงหมดเลย กำหนดไว้เรียบร้อย ครั้นไปเรื่อย ๆ เทศน์เรื่อย ไปเรื่อย ๆ สังขารร่างกายอ่อนลง ๆ สุดท้ายไปไม่ได้ เป็นอย่างนั้นนะ เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้ไปทางภาคใต้ แล้วก็ออกกระจายเสียงให้พี่น้องทางภาคใต้เราได้ทราบทั่วถึงกันว่า หลวงตามีความรักความเมตตาสงสารเสมอกันหมดในประเทศไทยเรา ไม่มีที่ไหนว่ายิ่งว่าหย่อนกว่ากัน เราเสมอไปหมดในพี่น้องชาวไทยของเรา เราเองก็เป็นพระของพี่น้องชาวไทย ไปที่ไหนก็เป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้นแหละ

เหมือนอวัยวะเดียวกัน แขนจะอยู่ทางซ้ายทางขวา ก็เป็นแขนของอวัยวะอันเดียวกัน ใครจะอยู่ทางภาคไหน ๆ ก็คนชาติไทย ซึ่งเป็นอวัยวะใหญ่โตได้แก่ชาติไทยอันเดียวกันหมด เราจึงคิดไว้เสมอกันหมดทีเดียว แต่ว่าธาตุขันธ์มันไม่อำนวยซิ เพราะทำประโยชน์บั้นแก่ ไปก็หนักเข้า ๆ อ่อนลง ๆ เวลานี้ทางสหรัฐ ทางออสเตรเลีย เขาก็มานิมนต์ให้เราไปสองสามครั้งแล้ว หลังจากที่ว่าเราไปไม่ได้แล้วทางภาคใต้ พวกนี้ตามเข้ามาอีกก็ยิ่งไปใหญ่เลย เราก็บอกว่าเราไปไม่ได้ แม้แต่อยู่เมืองไทยเราภาคใต้เราติดกันอยู่กับบ้านเมืองเรานี้มันก็ไปไม่ได้ จะให้ไปอะไรที่สหรัฐ ออสเตรเลีย ที่ไหนก็ไปไม่ได้แล้วเราก็บอก เขาก็พยายามจะเอาไปให้ได้

ต้นเหตุเบื้องต้นก็คือว่า เขาก็พูดอย่างตรงไปตรงมาดีเหมือนกัน นี่แหละเรื่องภาษาธรรมเป็นภาษาที่เชื่อถือได้เลย ไม่ได้เหมือนภาษากิเลสที่ปลิ้นปล้อนหลอกลวงต้มตุ๋นเก่งมาก มาตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย ลูกเต้าหลานของกิเลส เป็นสกุลหรือโคตรแซ่ที่ต้มตุ๋นเก่งที่สุด เป็นคู่แข่งของพุทธศาสนาซึ่งเป็นธรรมที่ตรงไปตรงมาจริงที่สุด อันหนึ่งจริงที่สุดอันหนึ่งปลอมที่สุด

เวลาเขาพูด นี่พูดตามเรื่องความจริงนะ เขาบอกเขาทอดอาลัยตายอยากแล้วกับพุทธศาสนาเขาว่าอย่างนั้น คือหมดหวังแล้ว เขาพูดอย่างอ่อนใจเลยเทียว เขาอยู่สหรัฐเขาพูดอย่างอ่อนใจ เขาบอกเขาหมดหวังแล้ว ทีนี้มีเพื่อนมา มันจะบันดลบันดาลอะไรก็ไม่ทราบแหละ เขาพูดถึงเรื่องหมดหวัง อย่าด่วนหมดหวังนะ เขาเลยเอาหนังสือเอาเทปของหลวงตานี้ไปให้ฟัง เอ๊ ชอบกล ๆ ค้นคว้าหนังสือมาอ่าน เอาเทปมาฟัง มีแต่ชอบกลไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีหวัง ๆ สุดท้ายก็มีหวังเต็มหัวใจเขาบอกตรง ๆ อย่างนี้เลย เขาก็พูดแบบอาจหาญเหมือนกัน พอเขามีหวังแล้วก็ เขาก็มาทีเดียวเลยแหละ ดูเหมือน ๔-๕ คนมาด้วยกัน เอาผ้าป่ามาทอด

เขาจะมานิมนต์เราไป เขาเตรียมไว้แล้วทางโน้น พวกนี้เป็นพวกมานิมนต์เรา มาทอดผ้าป่าทางนี้แล้วก็จะนิมนต์เราไปสหรัฐ ทางโน้นเขาเตรียมพร้อมไว้แล้ว เราก็ยอมรับทันทีว่าเราไปไม่ได้เราบอก เขาก็จะเอาให้ได้ทางโน้นก็เตรียมพร้อม เอ้า ทางโน้นเตรียมพร้อมอันนี้มันเตรียมอยู่แล้วเราว่า มันแก่ไปทุกวัน ๆ มันยิ่งหนักยิ่งกว่านั้นอีกไปไม่ได้ เขาก็ยังจะพยายามไป สุดท้ายก็ต้องเอาหีบศพตัดสินกันเราก็ดี ถ้าไปก็ต้องเตรียมหีบศพไปด้วยเราบอก ไปก็เอาหีบศพไปพร้อม เวลาตายถ้าหากว่าเมืองไทยจะมีความเสียดายในศพของครูบาอาจารย์ ก็ให้ใส่ศพนั้นละกลับมา ก็บอกอย่างนั้นเลย เรียกว่าไปนี้ไปไม่ได้ ไปก็ต้องไปประเภทนี้ เอ้า จะเอาแบบไหนพิจารณาซิ หรืออยากให้หลวงตาไปตายแล้วหามศพมาทางนี้เหรอ เขาก็ไม่กล้าจะพูด จะว่ายังไง สุดท้ายก็ยอมรับเราบอกเราไปไม่ได้

อย่างนี้ละ หลังจากเราได้ประกาศพี่น้องทั้งหลายทางโน้นทราบแล้ว ทางภาคใต้ เอ้า ทางสหรัฐยิ่งไกลกว่านี้จะมาเอาเราไปอีก นั่นหนหนึ่งแล้วนะ ทีนี้หนที่ ๒ ก็ติดต่อกันมานี้ ก็ทางสหรัฐอีกแหละ อันนี้ยิ่งกว้างขวางมากมายจะเอาเราไป เราก็บอกเราไปไม่ได้แน่ะ ทางออสเตรเลียก็เหมือนกัน เราก็ไปไม่ได้ด้วยกันทั้งหมด เวลานี้กำลังติดต่อเรื่องราวกันเขาจะติดต่อแบบไหน ถ้าสมมุติว่าไปก็ต้องมีผู้ไปแทน ทางโน้นเขาพอใจในการที่จะมีผู้รับแทนก็ได้ ถ้าเราไปไม่ได้ ลดลงมานั้นก็มีผู้รับแทนอยู่ ยอมรับกันอย่างนี้ก็ไปได้ เวลานี้กำลังพิจารณา ดูว่าเขาพร้อมมาแล้ว ทางโน้นว่าให้คนอื่นรับก็ได้ว่างั้น เราก็เลยมอบให้พระแหละไปแทน การไปก็คิดว่าคงจะเป็นท่านฟัก ให้ไปแทน เราได้สั่งไปเรียบร้อยแล้ว นี่ละไปไม่ได้ ถึงขนาดที่ว่าไปแทน ไกล ๆ เขามุ่งอย่างแรงกล้าเราก็เลยจำเป็นให้ทำอย่างนี้ ลดหย่อนผ่อนไม่ให้ขาดสะบั้นทีเดียว ตกลงก็ให้พระไปแทนเราไปไม่ได้ ประเทศอื่นก็ไปไม่ได้นะ

นี่ละที่เราเสียใจ เราได้ประกาศทางนี้ให้พี่น้องทั้งหลายทราบ พี่น้องทางภาคใต้ก็ทราบทั่วถึงกันแล้วว่าเราเสียใจที่เราไปไม่ได้ ไม่สมความมุ่งหมายที่เราตั้งไว้แล้ว ตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งโครงการไว้เรียบร้อยสมบูรณ์แบบทีเดียว ว่าจะไปให้ทั่วถึงหมด ครั้นไปเข้าไป ๆ อ่อนลง ๆ บรรดาพี่น้องทั้งหลายทางภาคใต้นิมนต์ก็เกือบจะทุกจังหวัดแล้วแหละ ถ้าสมมุติว่าถ้าเราได้ไปอย่างนี้ จังหวัดนั้นจะต้องต่อ ๆ ไป เป็นเหมือนกันกับจังหวัดทั้งหลายนั้นแหละ ภาคทั้งหลายก็เป็นอย่างนั้น ภาคนั้นมานิมนต์แล้วเราไปรับอันนี้แล้วก็ต่อกันไปเรื่อยแล้วทั่วถึงไปหมด ทางภาคใต้เราก็มีจำนวนมากที่นิมนต์มานี้ สมมุติว่าเรารับเราไปแล้ว ทีนี้ก็ต้องต่อกันแบบเดียวกันนี้แหละ ไปแบบเดียวกันนี้หมด แต่นี้เมื่อเราไปไม่ได้เราก็ต้องหดมือด้วยกัน ไปไม่ได้ทั้งหมดนั่นแหละ เป็นอย่างนั้นนะ

จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบตามความมุ่งหมายของหลวงตา ที่ตั้งไว้แล้วต่อพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ หลวงตาไม่ได้ถือไม่ได้หนักไม่ได้เบาในภาคใดภูมิใดคนใดจังหวัดใด หลวงตาถือเป็นไทยด้วยกันเป็นชาวพุทธด้วยกัน ถือเป็นลูกของพระพุทธเจ้าด้วยกัน มีเหตุมีผลยอมรับความผิดถูกชั่วดีด้วยกัน อยู่กันได้ด้วยกันหมด ถ้าเหตุผลไม่ลงรอยกันไม่ยอมรับเหตุรับผล แม้แต่ผัวเมียกันก็ทะเลาะกันแตกกันได้นะ นี่ละเหตุผลหลักธรรมที่เป็นความจริงซึ่งควรจะยอมรับกัน เพื่อความสมัครสมานเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขอบอุ่น ในครอบครัวเพื่อนฝูงตลอดส่วนรวม กระทั่งทั้งประเทศ ถ้าต่างคนต่างยอมรับเหตุผลความสัตย์ความจริงแล้วอยู่ได้ด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีคำว่าใกล้ว่าไกล นี่คือหลักธรรม เป็นเครื่องปกครองโลกให้ได้รับความอบอุ่นทั่วหน้ากัน

ดังพระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านสอนโลก สามแดนโลกธาตุฟังซิน่ะ มากไหมเรานี้เพียงเมืองไทยเมืองเดียวเท่านั้น ถ้าเทียบก็เท่ากำปั้นเรานี้กับโลกทั้งหลายทั่ว ๆ ไป ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนทั่วถึงหมด นี่สอนด้วยอรรถด้วยธรรม บรรดาสัตว์ทั้งหลายที่มีความมุ่งหวังต่ออรรถต่อธรรมแล้วเข้าสนิทกันได้หมด เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม ที่ไหนเข้ากันได้อย่าว่าแต่มนุษย์เลย เพราะธรรมนี้ไม่เคยขัดเคยแย้งต่อผู้ใด ไปที่ไหนชุ่มเย็นที่นั่น ๆ เรียกว่า ผู้ที่ให้รับความสุข ความทุกข์ ทุกสิ่งทุกอย่างของสัตว์ทั้งหลายก็คือธรรม ถ้าลงมีธรรมด้วยกันแล้วอยู่ไหนอยู่ได้ด้วยกันหมด ถ้าไม่มีธรรมผัวกับเมียแตกกันได้ เช่น ผัวชอบเถลไถลไปหาแต่อีหนูนี้ มาก็ทะเลาะกับเมีย เมียตัวแสบชอบเถลไถลไปหาแต่ไอ้หนู กลับมาก็ผัวตีหน้าผากเอา ถ้าเป็นหลวงตานี้ฟาดทั้งหน้าผากฟาดทั้งข้างหลังหงายหมาหงายแมวไปพร้อมกันเลยนะ หงายหมาหงายแบบหนึ่ง หงายแมวหงายแบบหนึ่ง ตีให้มันหงายทั้ง ๒ หงายเลยนะ

นี่ละความไม่ลงกันเข้าใจไหม เมียมีอยู่ไม่รักเมียเจ้าของ ผัวมีอยู่ไม่รักผัวเจ้าของ มันเสือกไปหาอะไรอย่างนั้น นี่ละแตกกันคนเราถ้าจิตใจไม่ลงกัน เพียงผัวเมียเท่านั้นก็แตกกัน ถ้าจิตใจลงกันแล้วอย่าว่าแต่ผัวเมีย ทั่วประเทศไทยเราลงเหตุลงผล ลงตามความสัตย์ความจริง ฟังเหตุฟังผลกันเท่านั้น ไม่ถือคนนั้นไม่ถือคนนี้ไม่ถือเขาถือเราจนเกินเหตุเกินผล ถือก็ถือธรรมดาประเพณี เช่น ครอบครัวของเรา ผัวเมียของเรา นี่ใคร ๆ ก็ถืออย่างเดียวกันหมด ก็ไม่กระทบกระเทือนกัน เพราะเป็นความถือในความรักสงวนรับผิดชอบของแต่ละคู่ ละพรรคละฝ่ายเป็นธรรมดา ไม่เป็นเพื่อนับถือคนนี้ไปเกลียดคนนั้น ไปถีบยันคนนั้นอย่างนี้ไม่มี

ผัวของใครเมียของใครก็ต่างคนต่างอยู่ มีความรักความสงวน ความฝากเป็นฝากตายซึ่งกันและกัน ผัวเมียทั้งโลกเขาก็อยู่ด้วยกันด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อกันอย่างนี้ นี้คนไทยเราทั้งประเทศจะมีกี่ภาค มีสักร้อยภาค ถ้าเป็นผู้มีอรรถมีธรรม มีเหตุมีผลฟังเสียงซึ่งกันและกัน ยอมรับความผิดถูกชั่วดีแล้วมากกว่านั้นก็สงบหมด เพราะธรรมของพระพุทธเจ้าไม่เคยทำใครให้แตกร้าว ไปที่ไหนสมานได้หมด ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น ไม่ได้ทำให้แตกร้าว แต่กิเลสนี้แตก ไปที่ไหนเห็นแก่เราแก่เขา แน่ะ มันเป็นแล้วนะ ไม่เพียงเท่านั้นแล้วยกตัวขึ้นก็เหยียบคนอื่นเข้าไป นี่ละมันกระทบกันเรียกว่าไม่ใช่ธรรม อันนี้เป็นความเสนียดจัญไร เป็นกิเลสตัณหา ไปที่ไหนกระทบกระเทือนที่นั่น

ถ้าธรรมแล้วไปที่ไหนเข้ากันได้หมด ๆ อำนาจเมตตาธรรม อำนาจความเสียสละ อำนาจความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เห็นใจเขาเห็นใจเราเฉลี่ยกันแล้วอยู่ด้วยกันได้หมดคนเรา นี่สำคัญ ธรรมไปที่ไหนสมานไปได้หมดนั่นแหละ

วันนี้ก็ขออนุโมทนาท่านทั้งหลายที่ได้มาจากทางไกล จังหวัดพังงาหลวงตาเคยไปหนหนึ่งแล้ว ไกล พังงา ภูเก็ต นี่ท่านคลาด ก็เป็นพระวัดป่าบ้านตาดนี่นะ อยู่วัดป่าบ้านตาดมาหลายปี จากนี้ก็ไปอยู่ที่พังงาก็ได้เป็นครูเป็นอาจารย์สอน จะสอนแบบไหนก็ไม่รู้แหละ ลูกศิษย์หลวงตาบัวนี่น่ะ เข้าใจไหม สอนเป็นแบบไหนเราก็ไม่รู้แหละ ลูกศิษย์หลวงตาบัวมันมักจะเซ่อ ๆ ซ่า ๆ นะ ลูกศิษย์คนอื่นเราไม่รู้ เรารู้ได้ในลูกศิษย์ของเรามันเซ่อ ๆ ซ่า ๆ มันก็คงอยู่กับอาจารย์แหละ อาจารย์พาเซ่อ ๆ ซ่า ๆ ลูกศิษย์ตกออกมาคนไหนมีแต่เซ่อ ๆ ซ่า ๆ ใช้ไม่ได้เลย ไปหาพี่น้องทั้งหลาย ท่านคลาดนี้ก็เป็นพระวัดป่าบ้านตาด ถ้าไม่เป็นท่าเป็นทางขับไล่มาวัดป่าบ้านตาดนะ แล้วเราจะขับไล่ฟาดลงแม่น้ำโขงต่อไปเลย เราจะไม่มาไว้วัดป่าบ้านตาด ถ้ามันไม่เป็นท่าเข้าใจเหรอ ยังมีอยู่อีกองค์ไหนบ้าง

พระภาคใต้เรามาอยู่นี้ไม่เคยขาดนะ ทุกภาคของวัดของภาคต่าง ๆ มาอยู่วัดป่าบ้านตาดนี้ด้วยกันทั้งนั้นแหละ ไม่มีภาคไหนว่าไม่ได้มาอยู่วัดป่าบ้านตาด เป็นพระวัดป่าบ้านตาดของทุกภาคไปเลย เป็นแต่เพียงว่ามากกับน้อยต่างกัน หากไม่เคยขาดมีอย่างนั้นประจำ เราก็สอนในฐานะเป็นลูกศิษย์ลูกหาพึ่งเป็นพึ่งตาย เชื่อถือกันทุกกระเบียดนั้นแหละด้วยความเชื่อถือ รักในธรรมในวินัยแล้วสนิทกันได้เลย จึงขออนุโมทนากับบรรดาพี่น้องทั้งหลายที่มาที่นี่นะ

หลวงตานี้นับวันแก่แล้วไปไม่ได้ละ มีแต่อ่อนลง ๆ เท่านั้น เวลานี้เทศน์ก็กำลังกระจายนะ เทศน์ที่วัดป่าบ้านตาดนี้เทศน์อยู่นี้นะ เขาฟังทางสหรัฐเวลานี้เขาก็ฟังอยู่ด้วยกันดูด้วยกัน อินเตอร์เน็ตออกทั่วถึงกันหมด แล้วเทศน์นี้เขาได้ยินทั่วโลก เวลานี้เขากระจายออกไปหมด ก็ดูเหมือนมีแต่ธรรมหลวงตาบัวละออกทั่วประเทศและออกทั่วโลกไปหมดเลย ยิ่งกระจายไปเรื่อย ๆ นี่เขาให้เห็นทั้งรูปร่าง สังขารร่างกาย ทั้งซุ่มทั้งเสียง กิริยามรรยาทเขาให้เห็นทางอินเตอร์เน็ตหมดนะเวลานี้ เพราะฉะนั้นถึงกระจายไปทั่วถึง ทั่วถึงอย่างรวดเร็วนะ ก็ออกจากธรรมะหลวงตาองค์เดียวนี้แหละ เทศนาว่าการเราก็ไม่เคยคิดเคยคาดเคยฝันว่า เราจะได้เทศนาว่าการสอนพี่น้องชาวไทยเราทั่วประเทศอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้ ถึงขนาดที่ว่าเวลานี้มันไปไม่ได้แล้ว แต่คำพูดคำจานี้ไปได้ทั่วถึงหมดนี่

เทศน์ออกเวลานี้ก็ออกกระจายลง นู่น ถึงสหรัฐ ถึงที่ไหนในขณะเดี๋ยวนี้นะ เดียวกันนี้ เขาฟังอินเตอร์เน็ต ก่อนหน้านี้เขาก็เอาโทรศัพท์มือถือมาวางที่ไมค์ ทางนั้นพอพูดปั๊บก็ลงสหรัฐฟังเทศน์ในขณะเดียวกันนี้ ฟังกันมานานแล้วนะเขามาติดต่อขอ เราไปกรุงเทพฯ เขาก็ติดทางโน้น แล้วมาที่นี่เขาก็มาติดฟังทางนี้อยู่ตลอดเวลา การเทศน์สอนโลก สอนพี่น้องทั้งหลายนี้หลวงตาเรียกว่า ในชีวิตนี้เป็นชีวิตสุดท้ายพูดตรง ๆ ให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ชีวิตสุดท้ายของเราที่เราปฏิบัติตัวเองมาก็เต็มเม็ดเต็มหน่วยเต็มสติกำลังความสามารถ พิจารณาย้อนหลังที่จะได้ตำหนิติเตียนข้อปฏิบัติศีล เจ้าของทำเจ้าของในแง่ใด ๆ นี้เราภูมิใจมาตลอด เราไม่เคยมีความเสียอกเสียใจว่าเราปฏิบัติย่อหย่อนอ่อนกำลัง ท้อถอยต่อกิเลสทั้งหลายเราไม่เคยปรากฏ

มีแต่ขึ้นอุทานว่า โอ้โห ๆ คือพิจารณาย้อนหลังแต่ก่อนมันชีวิตจิตใจสังขารร่างกายเรามันแข็งแรง แล้วความมุ่งมั่นต่ออรรถต่อธรรม เฉพาะอย่างยิ่งต่อมรรคผลนิพพาน คือมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าสุดหัวใจเลย และสุดชีวิตด้วยว่าในเกิดมาในชาตินี้ หลังจากเราได้ฟังอรรถฟังธรรมเต็มเม็ดเต็มหน่วยจาก หลวงปู่มั่นมาเรียบร้อยแล้ว ขั้นถึงจุดเลย เราขอเป็นพระอรหันต์เท่านั้นในชาตินี้ ขอเกิดในชาตินี้ชาติเดียว เพราะฉะนั้น ความเพียรที่จะให้เหมาะสมกับความเป็นพระอรหันต์นั้นต้องเป็นความเพียรที่แก่กล้าสามารถเต็มที่เลย เราจะรับหมดเลยความเพียรขนาดไหน เอ้า ไม่เลยตายละ ตั้งแต่บัดนั้นมาละความเพียรจึงกล้ามาตลอด ๆ

ทีนี้เวลาพิจารณาย้อนหลังแล้วขึ้นอุทาน น่ากลัวความเพียรของเราแต่เวลายังหนุ่มน้อย มันเอาจริงเอาจัง คือมาระยะหลัง ๆ นี้มันเฒ่าแก่แล้วมองย้อนหลังนี้เราจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ทำอย่างนั้นเราตายเลยว่างั้น นี่ที่ว่าคิดเป็นอุทานขึ้นมา โอ้โห ๆ ภายในใจ คือแต่ก่อนมันทำได้ ทุกวันนี้ทำไม่ได้ กลัวย้อนหลัง อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกายมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีย่อหย่อนเวลาไหน ตั้งแต่วันก้าวขึ้นสู่เวทีคือออกภาคปฏิบัติ ฟัดกันตลอดเวลาถึงจะเป็นจะตายก็ไม่สนใจ มุ่งต่อแดนแห่งอรหันต์เท่านั้น นี้ก็เอาเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ขอสรุปความให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบ ผลแห่งการปฏิบัติตะเกียกตะกายถึงขนาดจะเป็นจะตายก็ยอมหมดนั้น ได้เป็นที่พอใจหายสงสัย ความอยากไปนิพพานก็ดี ความอยากเป็นพระอรหันต์ก็ดี แต่ก่อนเต็มหัวใจ เวลานี้เต็มเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรสงสัยแล้วในศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า จึงได้สอนบรรดาเพื่อนฝูงพระเณรทั้งหลาย ตลอดถึงสอนประชาชน ในธรรมทุกขั้นเราไม่มีสงสัยในการสอนอรรถสอนธรรม ว่าจะมัว ๆ ดำ ๆ ที่ตรงไหนว่าเป็นความสงสัยในการสอนไม่แน่ใจเราไม่มี ไม่ว่าจะธรรมขั้นใดสอนด้วยความแน่ใจ ๆ เหมือนบันไดขั้นต้นถึงขั้นสุดท้ายบนบ้าน เป็นบันไดที่เหยียบย่างได้แม่นยำ ๆ เหมือนกันหมด

อันนี้ธรรมะนี้ก็เป็นธรรมะที่สอนด้วยความแม่นยำ ๆ เสมอกันหมด เราจึงไม่สงสัยในการสอนโลก เพราะเราหายสงสัยในตัวเองแล้ว ว่ามรรคผลนิพพานอยู่ที่ไหน บาปบุญมีหรือไม่มี จ้าอยู่ในหัวใจนี้หมดแล้วไม่ไปทูลถามพระพุทธเจ้า เพราะพระองค์สอนไว้แล้วว่า สนฺทิฏฺฐิโก ผู้ปฏิบัติจะเป็นผู้รู้เองเห็นเองโดยไม่ต้องถามใคร ธรรมข้อนั้นก็มาเต็มหัวใจนี้หมดแล้วเวลานี้ เราจึงไม่สงสัย อดีตเราก็ไม่มีอนาคตเราก็ไม่มี ปัจจุบันก็ผ่านไปหมดแล้ว เพราะอดีต อนาคต ปัจจุบัน เป็นสมมุติทั้งมวล ธรรมชาติที่ผ่านนั้นแล้วไม่ใช่สมมุติ ผ่านไปหมดแล้ว

การสอนพี่น้องทั้งหลายจึงสอนด้วยความเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีหนักในแง่ใดมุมใด บุคคลผู้ใดภาคใดแดนใด เราไม่เคยมีแง่หนักเบาต่อคนนั้นคนนี้ พวกนั้นพรรคนี้ ภาคนั้นภาคนี้เราไม่มี เสมอกันหมด มีแต่เจตนาที่จะให้มีความสุข ความเจริญจากอรรถจากธรรม ที่แนะนำสั่งสอนไปนี้เท่านั้น อย่างอื่นเราไม่มี แม้อย่างไม่ได้ไปภาคใต้อย่างนี้ เรายังเสียใจอยู่ไม่หยุดไม่ถอยจนกระทั่งทุกวันนี้ แต่ธาตุขันธ์มันก็ไม่อำนวยตลอดไป เราก็มีแต่บ่นและพูดให้บรรดาพี่น้องทั้งหลายทราบ เพราะเราต้องการจะไปทั่วถึงหมด สมเจตนาของเราที่มีความเมตตาทั่วถึงกันทั้งประเทศไทยของเรา แต่ธาตุขันธ์มันไม่อำนวยตกลงก็ต้องได้อยู่อย่างนี้ละ จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วหน้ากัน

ไปถึงบ้านถึงเรือนก็ให้พากันสวดมนต์ไหว้พระ นั่งภาวนาบ้างนะ การภาวนาคือการดูจิตใจตัวเอง เราดูตั้งแต่สิ่งภายนอกมันเป็นสิ่งหลอกลวงต้มตุ๋น แล้วล่อลวงเราให้ไปทางโน้นให้ไปทางนี้ อยากรู้อย่างนั้นอยากเห็นอย่างนี้ มีตั้งแต่กิเลสที่มันอยู่ภายในใจมันผลักออกไปเป็นภาพลวงตาของเรา ลวงใจของเรา ให้เราดิ้นไปตามภาพลวงตาลวงใจนั้นไปตลอด ไม่ได้ย้อนกลับมาดูหัวใจที่ผลักดันออกไปให้ดีดให้ดิ้น เพราะฉะนั้น ท่านถึงได้สอนให้ภาวนา เมื่อสอนให้ภาวนาแล้วก็เข้ามาดูใจ ใจตัวนี้แหละเป็นตัวก่อฟืนก่อไฟผลักดันออกไป เมื่อดูใจนี้แล้วเห็นใจนี้แล้วเราก็ดูด้วยธรรม ระงับใจที่เป็นไฟนี้ด้วยการภาวนาของเรา พุทโธก็ได้ ธัมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ ธรรมบทใดก็ได้ อานาปานสติก็ได้ ให้จดจ่อดูใจของตัวเอง

นี่ละตัวเกิดเหตุเกิดที่นี่ มันพุ่งออกจากนี้ แล้วเอาธรรมเข้าไปเป็นน้ำดับไฟ   พุทโธดับไฟ ธัมโมดับไฟ สังโฆดับไฟ ด้วยสติปัญญาควบคุมงานแห่งการภาวนาของตน แล้วจิตจะค่อยสงบเย็น ๆ เข้าไป นี่เรียกว่าน้ำดับไฟ ความฟุ้งซ่านวุ่นวายของใจเรา ที่มันออกแสดงทั่วโลกดินแดนจากความหลอกลวงของมัน เพื่อต้มตุ๋นพวกเรานี้มันจะสงบลงไป ๆ ใจเราจะมีความสะดวกสบาย เมื่อใจไม่ได้ผลักดันฟืนไฟออกไปเผาข้างนอกข้างในทั้งตัวเองและเขาด้วยแล้ว เราก็เย็นสบาย ๆ

การภาวนาเป็นน้ำดับไฟ ดับกิเลสตัวมันฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมนั้นให้สงบลง ๆ เราจะมีความสุขความสบายนะ ขอให้พี่น้องทั้งหลายเอาไปพินิจพิจารณา น้ำดับไฟอยู่ที่ใจไม่อยู่ที่อื่นใดนะ ไฟคือกิเลสตัณหาเกิดขึ้นที่ใจพุ่งขึ้นที่ใจ แล้วก็เผาไปเรื่อย ๆ เราไม่ได้ดูต้นตอของมันดูตั้งแต่กิ่งแขนงมันก็หลอกไปเรื่อย พอถอยย้อนเข้ามาหาดูจิตดวงมันพุ่ง ๆ อยู่นี้ด้วยธรรม ๆ ก็กลายเป็นน้ำดับไฟสงบเย็นลงไปนะ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านั้นละ ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันนะ เอาละพอ

 

อ่านและฟังธรรมะหลวงตา วันต่อวัน ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก