|
/body onLoad="MM_preloadImages('../images/link_2_6_a.gif')">
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
ส้วมถานกับทองคำธรรมชาติ |
|
วันที่ 4 มิถุนายน 2545 เวลา 7:30 น. ความยาว 30.07 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด |
| | |
ค้นหา :
ส้วมถานกับทองคำธรรมชาติ
ของที่เขาถวายทานนี่เราแยกไปตามวัดต่าง ๆ แต่ต้องสงวนโรงพยาบาลไว้เป็นหลักเลยนะ อันไหนพออ่อนลงแล้ว งด งดไว้สำหรับโรงพยาบาลเพราะโรงพยาบาลนี้เป็นพื้นฐาน ไม่มีต้องหามา ส่วนที่เราแจกแบ่งไปนั้นคือว่า เมื่อพอสมควรก็แยกไปวัดนั้นวัดนี้ พออ่อนลงก็งดสำหรับโรงพยาบาลทั้งนั้น เพราะโรงพยาบาลไม่ขาดแต่ละวัน แม้ที่สุดวันเสาร์อาทิตย์ก็ยังมาอยู่นะ เดี๋ยวนี้ก็ต้องทาง ผ.อ.โรงพยาบาลมีจดหมายแนบมาด้วย คือโลกมันสกปรก แอบมาทำทุจริตโดยอาศัยโรงพยาบาล ทางนี้ก็คิดว่าโรงพยาบาลให้ เถลไถลเสีย เพราะฉะนั้นจึงบอกไปทางโรงพยาบาล โรงพยาบาลทุกโรงที่มาต้องมีจดหมายแนบมา เป็นความยอมรับหรือทราบเรื่องราวจาก ผ.อ.แล้ว แล้วเราก็จัดให้ ๆ
เรายังไม่ลืมที่สร้างเรือนพักเรือนนอนให้เรือนจำลาดยาว ตึกหลังนี้ ๒ ชั้น ๖ ล้าน สร้างมาปีพ.ศ.เท่าไร ๓๗ หรือว่าไง ( ๓๗ ครับ) เออนั่นแหละ ถึงปี ๔๕ มัน ๖ ปีเท่านั้น แล้วพังแล้วนะ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้อำนวยการกับเจ้าหน้าที่มากันเยอะนะ มาก็มาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขายังไม่ได้ขอนะ แต่ความหมายก็คือเขาจะมาขอนั้นเอง เรื่องความจริงเป็นอย่างนั้น แต่เขายังไม่ขอ เขาเอาความจริงอย่างหนึ่งออกมาให้เราทราบก่อน มาบอกให้ทราบว่าตึกที่หลวงตาสร้างให้ปีนั้น ๆ เขาบอกเลย เวลานี้จะพังแล้ว พวกผู้ต้องขังหญิงที่เต็มอยู่นั้น ต้องรีบขนย้ายกันออก จะพังแล้ว เราก็ย้ำอีกที ตึกหลังสร้างให้นั้นเหรอ หลังนั้นแหละ งงเลยเรา ก็เราไม่เคยมี ให้คนอื่นเขามาทำแทนเราทีไรเป็นได้เรื่องทุกทีนะ มันเป็นอย่างงี้เรื่องความสกปรกมันแทรกเข้าไป ๆ
อย่างทางโรงพยาบาลหล่มสักนั้นก็ไม่มีอะไรละ เป็นแต่ความจำเป็นเขาเปลี่ยนบริษัท ก็ทำให้ยุ่งยากวุ่นวาย เงินเพิ่มขึ้น นี่ไม่ใช่เราสั่งให้ไปทำ มันก็มีอย่างนี้ก็ให้รู้ แต่อันนี้ไม่มีเจตนา มันเป็นความจำเป็นของเขาเราก็ทราบ แล้วก็เปลี่ยนบริษัทมาสร้างใหม่ บริษัทนี้ผ่านไปบริษัทนั้นเข้ามาแทนเพราะยังไม่เสร็จ เขามีความจำเป็นอะไร ๆ แยกออก เมื่อแยกออกไปแล้วอะไร ๆ ก็เพิ่มขึ้น การเงินการทองทุกอย่างเพิ่มขึ้น คนใหม่นี้มาว่าอย่างนั้น ๆ อันนี้ก็เป็นความกังวลใจ ไอ้เรื่องเงินเราไม่เสียดายแหละ เรื่องความสัตย์ความจริงความถูกต้องดีงามที่มีต่อกันนี้มีคุณค่ามาก เราเอานี้นะ นี่หมายถึงว่า นายช่างทั้งสองบริษัทที่มาสร้างตึกนี้ตั้ง ๑๕ ล้านนะ ตึกโรงพยาบาลหล่มสัก ทางโรงพยาบาลติดต่อกันมาเองก็เลยยุ่ง เพียงเท่านั้นเราก็ยังไม่มีปัญหาอะไร
ไอ้นี่ซิที่เข้าไปทางลาดยาวนี่ซี ทำให้เราย้อนไปคิดถึงเรื่องตึกที่สร้างให้สุนัขพิการที่ปากเกร็ด อันนั้น ๖ ล้าน ๓ ชั้น ทำให้เราย้อนไปหาหลังนั้น หลังนั้นเขายังไม่มาบอกว่างั้นเถอะนะ มันเหมือนกับว่ามันจะได้มาบอกแบบเดียวกันนี้เพราะมันกินมากกลืนมาก พูดง่าย ๆ ว่างั้นนะ ตึกอย่างนี้เพียง ๖ ปีจะพังเป็นไปไม่ได้ว่างั้นเถอะ เข้าใจไหมล่ะ นี่มันก็เป็นให้เห็นต่อหน้า เขามาพูดให้เราฟัง เรางงแล้วถามย้ำอีกเพื่อความแน่ใจ เขาก็ชี้แจงตามเหตุผล อ๋อ แล้วกัน นี่เขายังไม่ขอนะ ความมุ่งหมายก็คือจะสร้างใหม่นั่นแหละ แต่เขาไม่มีเงิน เขามาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เราสะดุ้งทันทีเลยเพราะมันไม่เคยมีมาตั้งแต่เราสร้างตึกต่าง ๆ มาตลอด ไม่เคยมี อันนี้เพียง ๖ ปีจะพังแล้ว พวกอยู่ในห้องขังอยู่ในตึกนั้นได้รีบแยกย้ายกันไป ไม่งั้นมันจะพังใส่หัวคนตาย
พอทราบชัดแล้ว เอ้า ทำให้ใหม่ ไม่ต้องขอ เขาอยากได้ ๓ ชั้น ๓ ชั้นก็ให้ เราสงสารพวกนั้นนะเขาตายใจกับเรา จนกระทั่งเรามาพูดหยอกเล่นกับลูกศิษย์ลูกหาในศาลาเราลืมเมื่อไหร่ ศาลาหลังนี้นะ เขาทำประดับประดาตกแต่งภายนอกนี้สวยงามมากทุกอย่างเรียบไปหมด เวลาเราไปดูครั้งสุดท้ายก็ไม่มีที่ต้องติ นี่มันประดับไว้ข้างนอก ข้างในมีแต่ส้วมแต่ถาน เพียง ๖ ปีเท่านั้นจะพังแล้ว เราก็เลยรับทันทีทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ขอ ความจำเป็นก็เห็นกันอยู่ใช่ไหมล่ะ เราก็บอกเราจะสร้างให้ใหม่ ว่างั้น
เขาว่าคราวนี้อยากได้ ๓ ชั้น คราวก่อน ๒ ชั้น เอ้า ๓ ชั้นก็ให้ ตกลงกันเลยว่าให้ นี่ให้โทรไปทางนู้นบอก คือเขาก็เล่าเรื่องมาตั้งแต่ทางคุณชายป๋ำเรานั้นน่ะเป็นผู้ติดต่อเรื่องราวมาทำ ให้ย้อนไปหานู้นให้โทรไปบอกทางนู้นให้ทราบชัดเจน แล้วทางวัดจะโทรไปอีกทีหนึ่ง เราว่างั้น นี่คุณชายอาจจะมาวันใดวันหนึ่งก็ได้มาหาเรา เราควรจะพิจารณายังไง เช่น รื้อตึกนี้ ถ้ารื้อหลังนี้ขึ้นมาจะสร้างให้คนงานพักเป็นอีกหลังหนึ่งก็ได้ ส่วนหลังนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์เอาใหม่ทั้งนั้น เรียกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนตึกเก่านั้นเวลารื้อออกไปแล้วเอาไปทำใหม่ ก็เราทำประโยชน์แล้วนี่จะเอาไปไหน เมื่อพอสร้างได้อีกเราก็สร้างให้เขาพักเป็นหลังหนึ่งขึ้นมา ถ้าที่อำนวยและทางเจ้าหน้าที่เขาเห็นด้วยแล้ว เหมาะสมที่เราจะทำให้แล้ว เราจะทำให้เลยทั้งสองหลัง สงสารนะ สะดุดใจกึ๊กเลยเทียว
ทีนี้เราก็ย้อนไปถึงเรื่องผู้มาสร้าง แล้วใครเป็นนายช่างมาสร้าง ต้องสืบถามทางคุณชายป๋ำเสียก่อนให้รู้เรื่องรู้ราว นี่ละช่างไหนที่มาทำเราไม่ได้เกี่ยวข้อง ๒ แห่งนี้เป็นด้วยกัน เห็นไหมล่ะ ชัดเจนไหม อย่างที่หล่มสักนั้นพอธรรมดา เป็นความจำเป็นของเขาจริง ๆ เราก็ทราบ แต่อันนี้มันเรื่องเป็นตั้งกินตั้งกลืนจริง ๆ นี่นะ พวกอิฐพวกปูนพวกอะไร ๆ มันจะกินในนั้นหมดเลย เหล็กนี้เราก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ขนาดหรือไม่ได้ ปูนนี้ไม่สงสัย ปูนผสม กินกันแหลกเลย มันถึง ๖ ปีพัง เราไม่เคย ทำที่ไหนมาตึกไม่ทราบกี่ตึก โรงพยาบาล นี่คือหมายความว่าเราเป็นคนสั่งคนงานมาเอง สั่งแล้วหัวขาดหลายปีแล้วนะมาเคลื่อนกับเราไม่ได้ ทีนี้พอปล่อยแล้วเราก็ปล่อยเลยมีแต่ไปดู ๆ เฉย ๆ ดูทุกอย่างก็ไม่มีผิดเพี้ยนไปเลย เรียบมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ตึกไหนก็ไม่เคยพัง
แม้ที่สุดตึกโรงพยาบาลศูนย์ ๒ ชั้น ๖๐ เตียง อันนั้นก็เรียบอยู่กระทั่งทุกวัน อันนี้ก็เสี่ยตงมาทำให้ อันนั้นก็ลูกหลานจะว่าไง สั่งให้มาทำ เขาทำเรียบเลย ตึกหลังนี้เราปวารณาไว้ตลอดเลยจนกระทั่งเราตาย ถ้ามีการเสื่อมโทรมที่ตรงไหน ไม่ดีตรงไหนควรจะซ่อมหรือเพิ่มเติมตรงไหนให้ทำเลย เพราะเขามาขออีกชั้นหนึ่งเป็น ๓ ชั้น เว้นปีเดียวนะ ทีแรกเขามาขอ แต่มาตรฐานของมันทานน้ำหนักเท่านี้ เราก็ไม่ได้ถาม เขาว่า ๒ ชั้นก็ทำตามนั้น ครั้นเวลาเขามาขอเรา เราก็เลยมาติดตรงที่น้ำหนัก ให้ไปถามช่างเขาดูซี สถาปนิกหรืออะไร ถ้าเขาว่า ๓ ชั้นต่อได้เราต่อให้ทันที ให้ไปถามเขาเสียก่อน ถามเขาบอกว่าได้เพียง ๒ ชั้นเท่านั้น ตกลงก็เลยไม่ได้ ๓ ชั้นที่เขาขออีก
เราก็เลยเพิ่มเติมให้ เอ้า ในบริเวณนี้จะสร้างอะไรขึ้นมา เอา สร้าง เราจะให้หมด เราบอก ให้หมดเลย แม้ที่สุดอะไรทรุดโทรมหรือเพิ่มเติมในตึกหลังนี้อีก ให้อีก เราจะสร้างต่อเติมให้ ให้หมด นั่นเห็นไหมล่ะ สำหรับเครื่องอุปกรณ์ในตึกนั้นหมดทุกชิ้นเลยเราให้หมด เรียบมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ไม่เห็นมีอะไร ช่างก็เราสั่งมาเอง แล้วเหล่านี้เหมือนกัน ตึกไหนๆ โรงพยาบาลใดเรียบร้อยไปทั้งนั้นเพราะเราทำด้วยความตายใจว่าเราได้สิ่งที่เราต้องการเรียบร้อยแล้ว หนึ่ง แล้วเราไม่กังวลที่จะต้องไปดู กำชับกำชา สั่งเขาคำเดียวพอเลย นี่ที่เราทำมาเรียบมาหมดนะ ไม่ว่าโรงร่ำโรงเรียน ถ้าเราได้สั่งคนงานแล้วก็เรียบไปหมด
อันนี้เป็นให้เราเห็นเราสะเทือนใจมากนะ ต่อไปนี้จะต้องได้ควบคุมทุกอย่าง ไม่ควบคุมไม่ได้นะ แหม ไอ้ส้วมไอ้ถานกับทองคำธรรมชาติมันผิดกันมากนะ ทองคำธรรมชาติก็คือธรรมตายใจได้เลย ส้วมถานก็อย่างนี้แล้ว ทั้งกินทั้งกลืนจนไม่มีอะไรเหลือเป็นซากขึ้นมาเป็นตึกเป็นอะไร มันกินกันเสียจนหมดแล้ว ทุเรศนะเรา อย่างนี้ละเรื่องโลกกับธรรม ท่านทั้งหลายพิจารณากัน เป็นยังไงศาสนาเหลวไหลไหม ที่พูดเดี๋ยวนี้เรื่องศาสนาเหลวไหลหรือส้วมถานมันเหลวไหล พวกที่มาทำมันกลายเป็นส้วมเป็นถานไปหมดแล้ว ผู้ได้สั่งนี้เอาธรรมมาสั่ง เป็นทองทั้งแท่ง จ่ายไม่อัดไม่อั้น ไม่เคยอิดเอื้อน ว่าเท่าไรจ่ายตามนั้นเลย ตามกฎเกณฑ์ที่เขามาบอกเรื่องราว แล้วจ่ายตูม ๆ เลยไม่มีอิดเอื้อนเรื่องการเงินการทอง แต่อันนี้ทำไมมันเป็นอย่างนั้น แหม เสียใจเหมือนกันนะเราก็ดี
ยิ่งได้เข้มงวดกวดขันเรื่องของโลกสกปรกเข้าอีกนะ ไปเกี่ยวข้องที่ไหนเป็นทั้งนั้นนะ ครั้นเวลาเราพูดขึ้นมาหาว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไปนี้ พวกเปรตน่ะ เข้าใจไหม มันไม่ยอมรับความจริงนะ ถ้าถูกตำหนิเข้าบ้างตามความจริง มันไม่ยอมรับสิ่งที่ถูกตำหนิ มันมาหาเรื่องทางนี้ไปเสีย นี่เห็นไหมกิเลสมันยอมใครเมื่อไร ท่านทั้งหลายฟังเอานะ กิเลสกับธรรมต่างกันยังไงบ้าง ถ้าเป็นธรรมล้วน ๆ แล้วไม่มีอะไรทั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่น วัด หัวหน้าวัดเป็นธรรม ผู้เข้ามาเป็นธรรมด้วยกันแล้วอยู่ด้วยกันเหมือนอวัยวะเดียวกัน ลูกพ่อเดียวแม่เดียวยังทะเลาะเบาะแว้งกันนะ พระไม่มีอย่างนั้น หากเป็นเรื่องสุดวิสัยมันก็มี แม้แต่ครั้งพระพุทธเจ้าก็มี แต่ธรรมดาก็ไม่มีเพราะต่างคนต่างมุ่งอรรถมุ่งธรรม คอยฟังเหตุผลกลไกดีชั่วผิดถูกแล้วปฏิบัติตามนั้น ผู้สอนก็สอนตามความถูกต้องแม่นยำ แล้วผู้ยึดไปปฏิบัติก็ปฏิบัติตามนั้นจะมีเรื่องอะไรกัน มันก็อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก
อะไร ๆ ก็ตามเข้ามาในกลุ่มนี้แล้วเป็นอวัยะเดียวกัน เหมือนพ่อแม่ลูกในครอบครัว เลี้ยงกันแบบครอบครัว เฉพาะอย่างวัดป่าบ้านตาดเลี้ยงแบบครอบครัวเลย ย่นเข้าไปจนประหนึ่งว่าเป็นอวัยวะเดียวกัน ใครมาจากที่ไหนอำเภอจังหวัดไหนนี้ไม่ค่อยถามนะเรา เพราะหลักใหญ่ก็ทราบแล้วว่าเป็นคนไทยด้วยกัน เป็นคนต่างชาติก็ถามบ้างเป็นธรรมดา คนไทยไม่ค่อยถาม มีแต่เอาข้อยืนยันออกมาในความเป็นพระ บวชอุปัชฌาย์ใด นี่ละอุปัชฌาย์เป็นเครื่องยืนยันสำหรับพระ บวชอุปัชฌาย์ครูบาอาจารย์องค์ใด พอทางนู้นบอกมาตามเหตุผลกลไกแล้วรับ ถ้าควรรับก็รับ ถ้าไม่ควรรับ มันมากเกินไปนั้นก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ก็แยกเป็นธรรมดา แต่ที่จะไปหาไล่เบี้ยอย่างงั้นไม่มี
นี่แหละอยู่ด้วยกันด้วยความตายใจนะ ไม่จำเป็นจะต้องไปถามบ้านเรือนอำเภอจังหวัดที่ไหนกัน พระไทยเท่านั้นพอ หรือพระมาจากเมืองไหนก็เข้าได้แบบของพระ แล้วก็สมบูรณ์แบบอย่างเดียวกันหมด ก็อย่างนี้ยั้วเยี้ยอยู่นี่ ทั้งฝรั่งมังค่ามังแค่ หมูหมาเป็ดไก่อยู่ด้วยกันได้หมด เมื่อคืนนี้ก็ยั้วเยี้ย ๆ กับเรา พวกนี้มันปล่อยกระต่ายมายังไงนักหนา พอเลี้ยงโตแล้วมันปล่อยมามายุ่งเรา กลางคืนเราเดินจงกรมมันไปเล่นกับเรา มันไม่ได้กลัวเรานี่นะ พวกนั้นเลี้ยงมัน มันจะกลัวอะไร เห็นเรามันมาหยอกเล่น เอาตีนเขี่ยมันก็หลบมาทางนี้ ๆ อยู่งั้น มันไม่ได้กลัว กระต่ายเต็มในป่า กลางคืนมืด ๆ เดินมาบางทีมืด ๆ มันก็มองเห็น เพราะเราเดินจงกรมเราไม่จุดไฟ มันปุ๊บปั๊บมาเลย มันก็อยู่ด้วยกันอย่างนี้ นั่นแหละธรรมปกครอง สัตว์ก็เย็น อะไรเย็นไปหมด
หมาในวัดนี้รู้สึกจะไม่รู้จักกลัวใครนะ มันไม่ค่อยโดนไม้เรียว ถ้ามีบ้างก็ไอ้หมี ไอ้หมีมีบ้าง มันชอบขู่เขาแต่ไม่เคยกัดตัวไหน มันขู่เขา ไม้เรียวใส่เปรี๊ยะ สอนมันอย่ารังแกกัน นั่นความหมาย นอกนั้นไม่มีถูกเฆี่ยนถูกตี ยิ่งไอ้กี้ไอ้หยอง เออไอ้หยองถูกหนหนึ่ง มันเห่าจะกัดเรา เราคว้าได้ไม้ตีเอาทีหนึ่ง เปิดเลย มีไอ้หยองตัวเดียว นอกนั้นไม่มี ไอ้กี้ไม่รู้จักกลัว
นี่เราพูดถึงเรื่องโลกกับธรรม มันเป็นยังไงพี่น้องทั้งหลายเห็นศาสนาเป็นของเล่นไปแล้วเหรอ เห็นแต่เรื่องคดกันโกงกัน กินกันแหลกไปนี้หรือเป็นของดิบของดี เมืองไทยจะเป็นเมืองหมากัดกันแล้วนะ ถ้าไม่มีศาสนาเป็นหมากัดกันได้ หมามันไม่ค่อยมีเหตุมีผล มันเอาอำนาจเข้าว่า ใครมีอำนาจมาก ไม่คำนึงว่าอำนาจเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม ว่าตัวมีอำนาจแล้วก็เบ่งเท่านั้นเอง แล้วกัดแหลกไปเลย กินแหลก ตับไตไส้พุงของผู้น้อยจะไม่มีเหลือ ตัวอำนาจป่าเถื่อนมันเอาไปกินหมด เป็นอย่างนั้นนะเวลานี้ นี่ความไม่มีธรรม แล้วผู้น้อยเดือดร้อนหรือชุ่มเย็นกับอำนาจป่าเถื่อนประเภทนั้น ร้อนทั้งนั้น เขาไม่อยากมองหน้าเลย ถ้าธรรมแล้วไปที่ไหนเย็นไปหมด
แล้วยังไม่เห็นธรรมเป็นของแปลกประหลาดสำคัญอะไรอีกเลยนะ ยังจะกัดกินกันฉีกกันแหลกไปอีกอย่างนี้นะ เมื่อเห็นส้วมเห็นถานกิเลสตัณหาดีกว่าอรรถกว่าธรรมแล้ว นี่ละมันจะสร้างคนให้เป็นหมา ความไม่มีเหตุมีผลมีอรรถมีธรรมรับผิดถูกชั่วดีต่อจากกันแล้วยังไงก็เป็นหมา เลวกว่าหมาอีกนะ หมาตัวไหนมันผิดถูกเฆี่ยนถูกตี มันยังหลบยังหลีก ทีหลังมันระวังตัว อันนี้ไม่ระวังอะไร มันเลวขนาดนั้น หนาขึ้นทุกวัน ๆ นะ เมืองไทยเรานี้เป็นเมืองพุทธ มันหนาจริง ๆ นะเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ธรรมดา มีแต่ชื่อเฉย ๆ ว่าเมืองพุทธ ๆ ไม่ว่าพระไม่ว่าฆราวาส ไม่ว่าเขาว่าเราเป็นแบบเดียวกันแล้วเดี๋ยวนี้จะตำหนิใคร มันเลวร้ายไปหมด
ศาสนาซึ่งเป็นเครื่องประดับชาวพุทธเราที่นับถือพุทธศาสนา กราบไห้วบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์อยู่เรื่อยมานั้น เวลานี้ไม่มีความหมายในหัวใจของสัตว์โลกนะ นอกจากกิเลสตัณหาพวกส้วมพวกถานเท่านั้น เอาออกมาแบกกระจายทั่วตลาด ตลาดไหนมีแต่ตลาดสกปรกหาความเชื่อถือกันไม่ได้ นี่ละเลวอย่างนี้ละ กิเลสตัณหามันไปตรงไหน ท่านทั้งหลายยังเห็นว่ามันดีอยู่เหรอ ทำไมไม่เสาะแสวงหาอรรถหาธรรมมาอยู่ด้วยความร่มเย็นร่วมกันในนามเราเป็นชาวพุทธด้วยกัน ทำไมจึงปล่อยให้มันกินกลืนเอาเสียจนแหลกเหลว ยกตัวอย่างอย่างนี้ มาทำกับพระเสียด้วยนะ พระก็เป็นพระแบบเราอีกด้วย แน่ะ มันก็จัง ๆ มันเห็นชัด
๖ ปีพังแล้วนะ ตึกหลังนี้ตั้ง ๖ ล้าน ๖ ปีพังแล้ว เป็นอย่างนี้ละของสกปรกไปที่ไหนเลอะที่นั่น เราต้องได้เดือดร้อนด้วย พวกที่เขาอยู่อาศัยเราที่สร้างให้เขาก็เดือดร้อนต้องวิ่งมาหาเรา เราต้องแก้ความเดือดร้อนนั้นจะสร้างให้ใหม่ แน่ะก็เป็นอย่างนั้นแหละ คราวนี้ไม่น้อยละ สร้างคราวนี้จะไม่น้อย คือเราจะเอาความจำเป็นเป็นประมาณ เช่น รื้ออย่างนี้แล้วควรจะปลูกสร้างให้เขานอนไปก่อนหรือนอนไปตลอดก็ได้ จะทำให้ลดอันนี้ลงไปตามวัตถุเครื่องก่อสร้างที่มันชำรุดแล้ว รื้อถอนออกไปเก็บอันนี้ไปปลูกสร้างอีก นั่นอันหนึ่งนะ อันสำคัญก็คือว่าอันนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่เราจะสร้างให้ ให้ใหม่ ๓ ชั้น ทั้งสองนี้ อันดับแรกคือว่าที่เราจะสร้างให้หลังนี้เป็นอันดับหนึ่ง อันนั้นเราพิจารณาเหตุผลเสียก่อน หากว่าควรจะสร้างให้เขาเราก็จะสร้าง ให้เราดูเหตุการณ์เรียบร้อยก่อน ถ้าไม่ควรจะสร้าง เพราะเหตุผลกลไกมันก็จะรู้กันเอง
นี่ละการทำหาความไว้วางใจกันไม่ได้ มันอยู่กันไม่สนิทนะ จะสนิทยังไง เช่น นายช่างนี้กับเราถึงวันตายก็ไม่มีสนิทกันนะ พูดจริง ๆ นี่มันเคยไปสร้างที่ไหนมาแล้ว นั่นอยากถามว่าอย่างงั้นนะ สร้างที่ไหนมันกินที่นั่นเรื่อย คนประเภทนี้นะ เป็นอื่นไปไม่ได้ มันจะไว้ใจกันได้ยังไงเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว นี่ก็ทราบว่าไปปลูกกุฏิอะไรที่สวนแสงธรรม อันนั้นก็ต้องให้คนไปทำใหม่อีก คนในบ้านเรานี้ไปทำเลย นี้ก็ทราบว่าเป็นคนคนนี้นะ ไปที่ไหนกินที่นั่น ๆ แหม เลวเอามากทีเดียว มนุษย์เปรตว่างั้นเลย เราไม่ว่ามนุษย์ธรรมดามนุษย์เปรต อาหารไม่พอ เปรตนี้หากินตามเศษตามเดน เป็นอย่างนั้นนะ
โอ๊ย.ทุเรศจริง ๆ แล้วยิ่งหนาแน่นขึ้นนะเวลานี้ กิเลสยิ่งนับวันหนาแน่น ๆ ธรรมแทบจะไม่มีเหลือแล้วนะเวลานี้ ผู้ตั้งใจปฏิบัติธรรมจริง ๆ มีมากที่ไหน ไม่ได้มีมากนะ มีเพียงเล็กน้อย ดีไม่ดีหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไป เพราะพวกนี้มันชี้หน้าเอา มันมีอำนาจมาก ต่อไปไปวัดไปวานี้ก็หลบ ๆ ซ่อน ๆ ไป ไปเปิดไปเผยไม่ได้นะ พวกเปรตพวกผีมันมากต่อมาก มันรุมชี้หน้าเอา นี่ ๆ เขาจะไปสวรรค์นิพพานกันแล้วนะ พวกเราดูไหมพวกเราดูซิ เขากำลังจะไปวัด เขาจะไปสวรรค์นิพพานกัน พวกนี้ไปหมดแล้วก็สบายละพวกเรา ไม่มีใครมาแย่งปลาในหนองในบึงเรา พวกเราจะสนุกหากินปลากันไป มันได้กินแต่ปลา เข้าใจไหม ปลามันวิเศษวิโสกว่าบุญกว่ากุศลกว่ามรรคผลนิพพาน กว่าอรรถกว่าธรรมไปหมดแล้วเวลานี้ สิ่งเลวร้ายทั้งหลายเป็นของวิเศษขึ้นมาแล้วเพราะจิตใจมันเลว ถ้าจิตใจดีเสียอย่างเดียวอะไรมันจะมาพลิกขึ้นเป็นของดีด้วยกันหมด ถ้าจิตใจเลวเสียอย่างเดียวถึงอะไรจะดีขนาดไหน มันจะลากลงมาเป็นส้วมเป็นถานเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ด้วยกันหมดนั้นแหละ จำให้ดีนะคำนี้
เวลานี้กำลังมากทีเดียวเรื่องเลอะ ๆ เทอะ ๆ นี้ เราออกมาช่วยบ้านช่วยเมืองจึงได้เห็นชัดเจน ไม่เช่นนั้นคำพูดเช่นนี้พี่น้องทั้งหลายจะไม่ได้ยินได้ฟังนะ ทั้ง ๆ ที่เคยรู้เคยเห็นมาแต่ก่อนก็ดูไปอย่างงั้นละ เขาก็เป็นเขา เราก็เป็นหน้าที่ของเราปล่อยไป จนกระทั่งเรื่องมันมาคละเคล้ากันกับเรา ที่จำเป็นจะต้องออกแสดงชี้แจงตามเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับเรา เราจำต้องได้แสดงอย่างที่เห็นมานี้แหละ เห็นไหมล่ะ ทีนี้มันก็ได้พูดมาเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละ มันเกี่ยวโยงกันไปหมดนี่ มันเลอะเทอะมากนะ พระเลอะเทอะมาสมัยปัจจุบันนี้เลอะเทอะมากที่สุด พูดจริง ๆ เราก็เป็นพระเรียนหลักธรรมวินัยมาด้วยกัน ผิดถูกจากหลักธรรมวินัยมากน้อยเพียงไรทำไมจะไม่รู้ แล้วทำไมจะพูดไม่ได้ ผู้ทำทำได้ ผู้พูดตามความจริงนั้นทำไมจะพูดไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องคำสอนไม่ว่าทางโลกทางธรรมมันก็พูดกันไม่ได้เรียนมาเปล่า ๆ เป็นกระดาษเศษ เรียนมาจากประเทศใดก็ตามเอามาพูดมาจาแนะนำสั่งสอนกันไม่ได้ผิดหมด พวกนี้ให้อยู่แบบหน้าด้าน อยู่ได้
ทีนี้ธรรมคือความดีงามที่จะมาสอนเพื่อเป็นคนดี ก็กลายเป็นของเลวไปเสีย พวกที่เลวส้วม ๆ ถาน ๆ ก็กลายเป็นทองทั้งแท่งขึ้นมาเสีย นี้ละเลวมากที่สุดจุดนี้นะ ถ้าไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมจะเลวมากที่สุด พี่น้องชาวไทยเราเป็นชาวพุทธ ให้พากันฟังกันนะ ถ้าไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมแล้วจะแหลกไปตาม ๆ กันหมด แล้วนับวันจะทวีรุนแรงขึ้นไป จะไม่มีอะไรเป็นชิ้นดีแล้ว อย่างวัดวาอาวาสเป็นสถานที่หลบที่ซ่อนที่หาอยู่หากินของส้วมของถานไปแล้ว เพราะใจไม่มีธรรม แต่อาศัยธรรมนั้นแหละมา วัดก็ออกมาจากธรรม สร้างวัดสร้างวาให้เป็นที่บำเพ็ญธรรม ผู้ที่ไม่ต้องการบำเพ็ญธรรมมันก็มาอาศัยสถานที่บำเพ็ญธรรมนั้นละ มาสร้างความชั่วช้าลามกในวัดในวา
พระเณรก็สร้างได้สร้างความชั่วช้าลามก มีเต็มไปหมดในเมืองไทยเรา เมืองนอกเมืองอื่นเราไม่ต้องพูด มันสร้างได้ทั้งนั้น เพราะกิเลสมีอยู่กับทุกคน พระเณรเราก็มีกิเลส ประชาชนมีกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นทำไมจะไม่สร้างความชั่วในที่ทั้งปวง เพราะกิเลสไปได้ทุกแห่ง ทำได้ทุกแง่ทุกมุม ตามโอกาสที่จะทำได้แง่ไหนมันทำได้ ถ้าไม่มีธรรมเป็นเครื่องสกัดลัดกั้นไว้แล้ว ยังไงมันก็ลุกลามเป็นไฟไหม้โลกไปได้ในแดนชาวพุทธเรานี่แหละ ไม่มีที่ไหนละ ดูที่ไหนมันก็ดูไม่ได้ ถ้าดูประชาชนก็เหมือนเปรตเหมือนผี ดูพระก็เหมือนยักษ์เหมือนมารเหมือนเปรตเหมือนผี มันดูกันไม่ได้จะให้ว่ายังไง พูดอย่างนี้มันผิดแล้วเหรอ
ไปดูซิตามวัดตามวา ไม่ใช่คนหูหนวกไปดู เรียนธรรมเรียนวินัยมาด้วยกัน ทำไมจะไม่รู้ผิดรู้ถูก แล้วทำไมจะพูดไม่ได้ ผู้ทำมันทำแบบหน้าด้านทำไมทำได้ ผู้พูดไม่ได้พูดแบบหน้าด้าน พูดตามหลักความจริง ทำไมจึงพูดไม่ได้วะ นั่น เอาอันนี้มายันกันซิ ถ้าจะหาความจริงจริง ๆ มันก็ยึดได้ทันที ที่พูดออกไปนี้มีแต่ธรรมล้วน ๆ ไม่ได้ไปอิจฉาบังเบียดกระทบกระเทือนหรือดูถูกเหยียดหยามใครนะ เอาหลักความจริงมาพูด กางออกมาเหมือนแบบแปลนแผนผัง ให้ปฏิบัติตัวตามนี้ เท่ากับเราสร้างบ้านสร้างเรือนตามแปลน มันก็สำเร็จผลประโยชน์ขึ้นมา อันนี้มันไม่สนใจจะสร้างนี่นะ เรียนมาเท่าไร ๆ ก็มาโอ่อ่าฟู่ฟ่า ว่าตัวรู้ตัวฉลาดนักปราชญ์นักแปดอะไรก็ไม่รู้กับหัวมันแหละ นี่มันน่าสลดสังเวชนะเวลานี้
ศาสนาพุทธเราในเมืองไทยของเรากำลังเลอะเทอะมากที่สุด บอกให้เลยว่าผู้นำคือใคร ก็พระนั่นแหละเป็นผู้นำ พระพาเลอะเทอะมันก็เลอะเทอะ ถ้าพระตั้งใจปฏิบัติดีอยู่ ญาติโยมไม่หน้าด้านจะเลอะเทอะต่อหน้าต่อตาในวัดในวานอกวัดนอกวานักละนะ จะมียางอายบ้าง อันนี้พระไม่มียางอาย แล้วจะให้โยมเขามียางอายยังไง ทำได้ทุกแบบพระ พระตัวเลว ๆ นั้นแหละ ผู้ที่ดีไม่ว่าท่าน จะว่าท่านทำไมท่านดีอยู่แล้ว ก็ว่าที่มันเลวตำหนิที่มันเลวนั้นแหละ ใครเลวก็ตาม เราเลวก็ต้องบอกว่าเราเลวซิ เขาเลวก็บอกว่าเลว เราดีก็บอกว่าดีผิดไปไหน เขาดีก็บอกว่าดี สิ่งที่มีอยู่พูดตามหลักความมีอยู่ ทำไมจะผิดไปทั้งดีทั้งชั่วไม่ผิด นั่น นี่ให้พากันพิจารณาบ้างนะ มันเลวลงไปทุกวัน ๆ เวลานี้จนจะดูไม่ได้ เข้ามาเกี่ยวข้องกับโลกมันถึงได้เห็นเรื่องเห็นราวแบบหน้าด้าน ต่อหน้าต่อตาศาสนาต่อหน้าต่อตาพระ มีมากเวลานี้ มันไม่ได้อายกันบ้างพระนี่นะ ดีไม่ดีมันเห็นพระเป็นอาหารกินหวานอร่อย เพราะพระนี่เซ่อมากเข้าใจไหม พระท่านเซ่อมากไม่เหมือนพวกเปรต พวกเปรตนี้ฉลาดมากทั้งกินทั้งกลืนทั้งรีดทั้งไถไปได้ทุกแบบ พวกนี้ฉลาดมากเข้าใจไหม พระท่านกินไม่เป็นท่านโง่ เป็นพักหนึ่ง
แล้วทีนี้หมุนมาเรื่องทองคำ วันนี้ทองคำเราไม่ได้บ้างเหรอวันนี้น่ะ เหอ ได้เท่าไรแล้วทองคำ ( ๖ บาทแล้วครับ) เอ่อ ๖ บาทแล้ววันนี้ ให้ได้เป็นเครื่องหมายนะทองคำเรา ทองคำประดับชาติเรา พูดแล้วเข้มข้น ระยะนี้ขึ้นเวทีแล้วนะ ยังไงก็ถอยไม่ได้แล้ว ทองคำ ๑๐ ตัน เวลานี้ได้ ๕ ตันกว่าแล้ว ที่ขาดอยู่เวลานี้ไม่ถึง ๕ ตัน พากันรีบเร่งขวนขวายนะ ชาติไทยเราจะได้เจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง ลบล้างมลทินมัวหมองแล้วดำมืดตื้อนั้นออกเสีย ที่มันจะจม ๆ ยกความสง่างามขึ้นมาด้วยความรักชาติความพร้อมเพรียงสามัคคี ความเสียสละพร้อมหน้าพร้อมตากัน เพื่อยกฐานะชาติไทยของเราขึ้น ลบล้างสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่จะพาเราจมเมื่อกี่ปีมานี้ ให้มันหมดมลทินเหล่านี้ไป
วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้ละนะ เอาละ ทีนี้จะให้พร (ลูกศิษย์ : ถวาย ๑๕ บาท) วันนี้ได้ ๒๑ บาทแล้ว เราพอใจ
อ่านธรรมะหลวงตา วันต่อวัน ทางอินเตอร์เน็ต www.luangta.com |
** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก
ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์
และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์
|
|
|
|