หน้านี้เมืองไทยเรากลางวันมากกว่ากลางคืน ๒ ชั่วโมง กลางวันมี ๑๔ ชั่วโมง กลางคืนมีเพียง ๑๐ ระยะนี้ ตี ๕ สว่างแล้ว ๑ ทุ่มเริ่มมืด ไป ๑๔ ชั่วโมง กลางคืนมี ๑๐ แต่ทำไมที่อังกฤษมันแตกต่างกันมากมาย อังกฤษกลางคืนมี ๕ ชั่วโมง ฤดูนี้ละ มิถุนาฯเราไปนะ อังกฤษกลางคืนมี ๕ ชั่วโมง กลางวันมีถึง ๑๙ ชั่วโมง กลางคืนมีเพียง ๕ ชั่วโมง มันก็เป็นฤดูอย่างนี้ละ เวลาตะวันเอียงก็อย่างนี้ เวลานี้ตะวันตรง กลางคืนเพียง ๑๐ ชั่วโมง กลางวัน ๑๔ ชั่วโมง เราไปนู้นก็เดือนมิถุนาฯเหมือนกัน กลางวันตั้ง ๑๙ ชั่วโมง ตี ๓ สว่างแล้ว ๓ ทุ่มเพิ่งเริ่มมืด พอได้เรื่องได้ราวมาพูด อยู่ในโลกนี้ด้วยกันมันก็ต่างกันตามซีกของโลกอย่างว่านะ ๑๙ ชั่วโมงกลางวัน กลางคืนมีเพียง ๕ ชั่วโมง

เมื่อวานนี้ ๗ บาท อันนี้ ๑ บาทก็เป็น ๘ บาท ทองคำเมื่อวันที่ ๓๑ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๘ บาท ๕๐ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๓๑๖ ดอลล์ ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๕,๐๕๙ กิโลครึ่ง นี่มอบเรียบร้อยแล้ว ทองคำที่ได้หลังจากมอบวันที่ ๑๑ เมษายนที่ผ่านมานี้ได้ ๗๒ กิโล ๑๒ บาท ๖๗ สตางค์ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษาฯมานี้นับว่าได้เร็วอยู่ รวมทองคำทั้งหมดเวลานี้ทั้งเข้าคลังหลวงและยังไม่เข้าเป็นทองคำ ๕,๑๓๑ กิโลครึ่งหรือเท่ากับ ๕ ตัน ๑๓๑ กิโลครึ่ง ได้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เร็วหลวงตาต้องตายนะ เอาจริง ๆ

เวลานี้ได้ออกสนามแล้ว จิตปักปุ๊บเข้า ๑๐ ตันแล้วนะ ได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วกันแล้ว นี่เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นสิริมงคลของประเทศไทยเราในเวลาฟื้นชาติบ้านเมืองของเราคราวนี้ ยังไงต้องให้ได้ทองคำ ๑๐ ตัน จะสง่างามมาก ลบได้ที่เมืองไทยเราจะจม ก่อนหน้านี้จะจม ทีนี้ฟื้นขึ้น ได้ทองคำถึง ๑๐ ตันแล้วเรียกว่าลบกันได้เลย เราถึงได้พยายามที่จะลบอันนี้ ลบรอยร้าวรอยจะจมของชาติไทยเราขึ้นด้วยความสง่างามด้วยทองคำ ๑๐ ตัน แล้วดอลลาร์ยังไงก็จะต้องถึงล้านแน่ ๆ เวลานี้ก็ได้เกือบ ๗ ล้านแล้ว มันก็ได้มาเรื่อย ๆ อย่างนี้ดอลลาร์ แล้วก็เคียงข้างกันไป กว่าทองคำจะถึง ๑๐ ตัน ดอลลาร์เราแน่ใจว่าต้องล้านกว่า ว่างั้นนะ เราแน่ใจไว้เลยเพราะเชื่อพี่น้องชาวไทยเรา เราแน่ใจ ที่ตรงไหน ๆ ก็ได้มาเป็นลำดับลำดาไม่ผิดพลาด ได้มาเป็นลำดับ

ตั้งแต่เริ่มต้นออกช่วยชาติก็บอกแล้วว่า ทองคำยังไงต้องให้ได้ ๔,๐๐๐ กิโลมันก็ผ่านมาแล้วใช่ไหมล่ะ นี่ก็ถึง ๕,๐๐๐ กว่าแล้ว ทีนี้จุดสำคัญคือจุดนี้เป็นจุดตาย ๑๐ ตัน หลวงตาได้ออกสนามแล้ว ประกาศก้องแล้วว่ายังไงทองคำต้องให้ได้ ๑๐ ตัน ไม่ได้ ๑๐ ตันคอหลวงตาบัวก็ขาดไปเลยเทียว เพราะตั้งหน้าตั้งตาที่จะช่วยชาติบ้านเมือง ถึงขนาดเอาคอเข้าประกันเลยคราวนี้นะ อันนี้ประกันใน ๑๐ ตันนี้อีกทองคำ พี่น้องทั้งหลายมาไถ่ถอนคอหลวงตาบัวไว้นะ ถ้าไม่ได้ ๑๐ ตันมันน่าจะคอขาดจริง ๆ ยังไงต้องเอาให้ได้

ถ้าได้คราวนี้เราจะรู้สึกอบอุ่นภายในใจของเรา เพราะเราไปตรวจตราพาชีดูทองคำในท้องคลังหลวงของเรา เราถามซอกแซกซิกแซ็กไปหมด เพราะถามตามจุดที่จำเป็น ๆ ประเทศใหญ่โตที่เกี่ยวข้องกันทางการซื้อการขายติดหนี้ติดสิน ประเทศใดที่เกี่ยวข้องอย่างนี้ ซึ่งเป็นความแน่ใจของเราว่าต้องเป็นอย่างนี้ มีแน่นอน พอถามปั๊บถูกเลย ประเทศนั้น ทองคำของเรานี้เอาไว้ประกันเท่านั้น ประเทศนั้นเท่านั้น แล้วก็เรื่อยมา จนกระทั่งถึงมาเมืองไทยเรา ประกันตัว ทองคำที่ไว้ประกันชาติไทยของเราโดยเฉพาะมีจำนวนเท่าไหร่ ทางเจ้าหน้าที่ก็บอก ก็รู้สึกว่าเรานี้ยังสะดุดใจเลย เรียกว่าไม่พอ ทองคำที่มีอยู่ในท้องพระคลังหลวงของเรานี้ ไม่พอที่จะประกันชาติไทยของเราไว้ได้ด้วยความปลอดภัย

เพราะฉะนั้น จึงต้องหาความปลอดภัยมาประกันเราด้วยทอง การเสาะแสวงหาทองจนกระทั่งถึงขั้น ๑๐ ตัน ถ้าถึง ๑๐ ตันแล้วพอใจเรา เวลานี้ไม่พอใจเลย มีอยู่ในใจตลอดมา ถ้าได้ ๑๐ ตัน ปุ๊บเข้าไปแล้ว เออ พอ หายใจถึงจะไม่เต็มปอดก็สบาย หายใจค่อนปอด สบาย ๆ จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายช่วย คราวนี้เป็นคราวที่เราจะประกาศก้องถึงเรื่องความรักชาติของเรา ความเสียสละด้วยความรักชาติของตน และความพร้อมเพรียงสามัคคีแห่งชาติไทยของเรา จะมาลงที่จุดทองคำต้องได้ ๑๐ ตันในคราวช่วยชาติคราวนี้ เอาตรงนี้นะ พี่น้องทั้งหลายให้ทราบทั่วหน้ากัน

เมืองไทยเราไม่ใช่เมืองจืดเมืองจางนะ เมืองจืดเมืองชืด ไม่มีในเมืองไทยของเรา เมืองสงบเสงี่ยมเจียมตัว เมืองเกรงอกเกรงใจกัน เห็นแก่กันมาตลอดชาติไทยของเรา ไม่ผาดโผนโจนทะยาน มาเรียบ ๆ อยู่อย่างงั้น อันนี้ก็เรียบ ๆ มาตั้งแต่ต้น เวลานี้ก็ได้ถึง ๕ ตันกว่าแล้วทองคำของเรา เราจึงแน่ใจว่ายังไงต้องได้ ๑๐ ตันเพราะหลวงตาเชื่อพี่น้องทั้งหลาย เราก็ปักใจในความมั่นใจของเราด้วยนะ ส่วนจะเชื่อเราไม่เชื่อ ก็หลวงตาบัวมีแต่ไปขอที่อื่นมา ถ้าหลวงตาบัวมีนี้ผางเดียวหมดเลย เอารถแทรกเตอร์มาไถเลย นี่กองทองคำหลวงตาบัว เอาให้เรียบเลย แต่นี้มันไม่มี อาศัยเพียงความเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายเท่านั้น จึงขอให้เป็นกำลังวังชาน้ำใจเพื่อความรักชาติของเราให้สมบูรณ์ขึ้นมาตามจุดที่ต้องการนี้ คือทองคำ ๑๐ ตัน เอาตรงนี้นะ

หลับก็หลับไปเลยหลวงตาบัว เพราะได้พิจารณาทุกอย่างแล้ว เป็นที่แน่ใจ ถ้า ๑๐ ตันแล้วหลับก็หลับไปเลย เมืองไทยเราไม่เป็นไร รักษาตัวได้ด้วยทองคำจำนวนนี้ในคลังหลวง ซึ่งบวกกับทองคำ ๑๐ ตันนี้เรียบร้อยแล้ว รักษาตัวได้ เอาตรงนี้แหละนะ เมืองใหญ่เมืองของเขาที่ติดต่อซื้อขาย ติดหนี้ติดสินกันนี้ ทองคำเราอยู่ในเมืองไทยเราไม่ได้มากกว่าอยู่เมืองนอกนะ เมืองนอกเรามากกว่านี้ ด้วยความจำเป็นเป็นเครื่องยืนยันเอาไว้ ติดหนี้ติดสินอันนี้ต้องเป็นเครื่องประกันไว้ การซื้อการขาย คนจะไว้ใจกันได้เพราะมีเครื่องประกัน ชาติเรากับชาติเขาที่ประสานกันอยู่ด้วยการซื้อการขายติดหนี้ติดสินนี้ คือมีสิ่งประกันตัวอยู่แล้ว เช่น ทองคำ เป็นต้น ประกันไว้แล้ว มีการซื้อการขาย ติดหนี้ติดสิน เอ้า ติดไป อยู่ในวงสมบัติที่ประกันตัวนั้นเรียบร้อยแล้ว ประเทศนี้ประเทศใหญ่การค้าการขายการติดหนี้ติดสินมีมาก ทองคำต้องเอาไว้ประกันตัวอีก ประกันชาติไทยของเราเท่านั้นให้พอเหมาะกัน ประเทศนั้นเท่านั้น ๆ

พอหันเข้ามาถึงเมืองไทยของเรา ทองคำประกันชาติของเราโดยเฉพาะแล้วมีเท่าไหร่ จิตใจมันพูดไม่ถูกนะ เพราะฉะนั้นเราถึงออกมาวันนั้น ส่วนมากจะดุพวกนักข่าว เขาไปยุ่งอยู่สวนแสงธรรม มายุ่งเรื่องนั้นเรื่องนี้เราดุเขาเรื่อยแหละ แต่วันนั้นพอออกจากธนาคารชาติมาแล้ว ยังไม่มืดนะ พอมาก็ประกาศก้องไปหมดเลย ทุกวันพวกนักข่าวยุ่งตลอดเวลาได้ดุแทบทุกวัน แล้ววันนี้นักข่าวไปไหนหมด เราจะออกข่าววันนี้ ก็บันดลบันดาลยังไง นักข่าวจะอยู่ที่นั่นหรือไง ประมาณสัก ๑๐ นาที เขาบอกนักข่าวมาแล้ว เออ เข้ามาเดี๋ยวนี้ ว่างั้นเลย มีนักข่าวมาจริง ๆ ประกาศตั้งแต่บัดนั้นเลยทองคำเรา รู้สึกว่ามีน้อยมาก เราสะดุดใจตั้งแต่นี้ต่อไปเอาให้ได้ ตั้งแต่บัดนั้นนะ วันนั้นวันที่เราไปมอบทองคำและดอลลาร์ แล้วก็ไปดูสมบัติในคลังหลวงมีทองคำเป็นต้น ไปดู แล้วออกมาประกาศในเย็นวันนั้นเลย

นี่เราก็ได้ถึง ๕ ตันแล้ว พอเยียวยากันไป ถ้าได้ ๑๐ ตันแล้ว ถ้าว่าโรคนี้ หาย หายเป็นปกติคนเรา ถ้าจะมีบ้างก็เป็นหวัดเป็นไอเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มากนัก ต้องขอให้ได้ ๑๐ ตันนะ หลวงตาปักแล้ว ถ้าเป็นเวทียังไงก็ต่อยเลยเทียว แพ้ชนะไม่สนใจ ฟัดเลย นี่ขึ้นแล้วประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบแล้วว่า ทองคำเราให้ได้ ๑๐ ตันเป็นเครื่อง ประกันชาติไทยของเราได้เกือบจะพูดว่าสมบูรณ์ เอาตรงนี้

การเทศนาว่าการทุกวันนี้ หลวงตาก็ได้พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังแล้ว การเทศน์นี้ถ้าพูดตามธรรมดาเราหยุดไปแล้วนะ อันนี้เรามุ่งต่อทองคำ ทองคำเป็นแนวหน้า การเทศนาว่าการบ้างเป็นบางครั้งบางคราวนั้น เป็นสายเกี่ยวโยงกันกับทองคำในนามเราเป็นผู้นำของพี่น้องทั้งหลาย เพราะฉะนั้นการเทศนาว่าการจึงมีบ้างเท่าที่จำเป็น เราก็บอกแล้ว คือเราจะไม่ไปเทศน์ในที่ต่าง ๆ ทั่ว ๆ ไปเหมือนดังที่เคยปฏิบัติมาแล้วนะ เราจะเทศน์ให้ที่จำเป็น ๆ นี่ก็ให้เป็นสายเกี่ยวโยงกับทองคำ ทีนี้พอทองคำได้เต็มความมุ่งหมายแล้วการเทศน์นี้มันคอยจะล้มอยู่แล้ว มันล้มไปเองเลยแหละ นี่ถูไถกันไปเฉย ๆ นะ

เพราะฉะนั้นจึงว่าหยุดเทศน์ทีเดียวก็ไม่ได้ ว่าไม่หยุดหรือก็ไม่ถูก มันก็อยู่ตรงนั้น เอาทองคำเป็นจุดไว้ คือเราเกี่ยวโยงไปกับทองคำ พาพี่น้องทั้งหลายก้าวเดินไป ไปเทศนาว่าการตามกาลเวลาอันควรสถานที่ควร เอ้า เราก็เทศน์ให้เสียเป็นครั้งเป็นคราว จะมุ่งเพื่อทองคำ สายเกี่ยวโยงกับทองคำ กรุณาพี่น้องทั้งหลายทราบนะ ถ้าจะพูดว่าหลวงตาบัวหยุดเทศน์แล้วมันก็ไม่น่าจะผิดละ เพราะมันจะหยุดอยู่แล้ว กำลังวังชาอะไรก็หมดไป ๆ แล้ว เทศน์หลงหน้าหลงหลังเดี๋ยวนี้น่ะ แต่ที่มุ่งต่อทองคำ ๑๐ ตันนี้ไม่ได้หลงนะ มันปักลึก นี่ละที่พาลากเข็นเราไปเทศน์ที่นั่นบ้างที่นี่บ้างก็คือทองคำดึงเรา ก็ขอให้พี่น้องทั้งหลายทุก ๆ ท่านทั่วประเทศไทยของเรา

วันนี้ก็ประกาศอยู่ที่ใต้ถุนศาลาวัดป่าบ้านตาด เพื่อออกให้พี่น้องชาวไทยเราซึ่งเป็นเจ้าของของชาติและเป็นผู้รักชาติให้ได้ทราบทั่วถึงกันว่า เวลานี้ทองคำเรามีความมุ่งหมายจากหัวหน้าคือหลวงตาบัวเองว่า ยังไงขอให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตันในการช่วยชาติคราวนี้ จะเป็นการส่งเสริมกิตติศัพท์กิตติคุณของชาติไทยเราขึ้น ลบรอยล่มรอยจมที่มันกำลังจะลงนั้นให้เป็นความราบรื่นดีงามต่อไป เพราะเรื่องนี้โลกก็ทราบ เมืองไทยจะจมโลกก็ทราบ ภายนอกทราบหมด ทีนี้เมืองไทยกำลังฟื้นตัวคืนโลกเขาก็ทราบอยู่แล้วเวลานี้ และกำลังปักใจและประกาศออกว่า พี่น้องชาวไทยทั้งหมดมีหลวงตาบัวเป็นหัวหน้าต้องการทองคำให้ได้ ๑๐ ตัน นี่อันหนึ่งเวลานี้ออกแล้ว อย่าให้เสียเล่ห์เสียเหลี่ยมเรานะ ให้ได้ ๑๐ ตัน ทุกคนที่บริจาคมากน้อยรวมกันเข้า ๆ มันจะถังขนาดไหนก็เถอะน่ะ ลองฝนตกไม่หยุดไม่ถอยมันเต็มได้ละถัง อันนี้ก็เหมือนกัน ถังคลังหลวงของเราก็จำนวนที่ว่านี่แหละ เต็มเป็นระยะ ๆ ไป

เราห่วงจริง ๆ นะ ห่วงชาติบ้านเมือง ไม่ใช่ห่วงธรรมดา เพราะฉะนั้นทำอะไรลงไปจึงปักขาดเลย ๆ ไม่มีคำว่าอุทธรณ์ ไม่มีคำว่าย่อหย่อน ไม่มีคำว่าถอยหน้าถอยหลัง ถ้าลงได้พิจารณาเต็มกำลังนี่แล้ว ออกแล้วพุ่งเลย อะไรมาผ่านขาดสะบั้นเลย ก่อนที่จะออกได้พิจารณาเต็มเหนี่ยว ๆ ทุกด้านทุกทางก่อนนะ ไม่ใช่พรวดพราด ๆ สุ่มสี่สุ่มห้าเราไม่ทำอย่างนั้น แม้แต่การปฏิบัติตัวเองก็แบบเดียวกัน ถ้าลงได้ปักใจตรงไหนด้วยการพิจารณาเรียบร้อยแล้วพุ่งเลย ๆ อย่างนั้นนะ

นี่เราก็ได้พิจารณาแล้ว รวมลงแล้วก็คือว่าเชื่อพี่น้องชาวไทยเรา ที่จะเป็นผู้อุดผู้หนุนสิ่งที่บกพร่องทั้งหลายคือทองคำเวลานี้ให้เต็มตื้นขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นเราถึงได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบเรื่อย ๆ ไปตั้งแต่บัดนี้ เท่าที่เราทราบทองคำตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษาฯที่ไปมอบคราวที่แล้วนี้ ทองคำได้เพิ่มขึ้นอีก ๗๒ กิโล ๑๒ บาท นับว่าเร็วอยู่นะ ตั้งแต่ ๑๑ เมษาฯ ๑๑ พฤษภาฯ เดือนกว่าเท่านั้น ได้ทองคำตั้ง ๗๒ กิโล นับว่าเร็ว เร็วขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับดอลลาร์นั้นที่เข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๖,๘๖๗,๐๐๐ ดอลล์ แล้วก็เข้าเรื่อย เวลานี้เข้าทางบัญชีทั้งสองบัญชี บัญชีทางอุดรฯก็มีดอลลาร์ ทางกรุงเทพฯก็มี ให้เสมอกันหมดเหมือนกัน เราเป็นคนสั่งเอง เช่นได้ทางนี้มากแบ่งไปทางนู้น ได้ทางนู้นมากแบ่งมาทางบัญชีทางนี้ให้เสมอกันไป ดอลลาร์รวมแล้วเวลานี้ที่เข้าเรียบร้อยแล้ว ๖,๘๖๗,๐๐๐ แล้วจะเข้าเรื่อย ๆ ดอลลาร์กับทองคำไม่มีไปไหนเลยนะ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ๆ เข้าทั้งสองสมบูรณ์ตลอดเลย

แต่ส่วนเงินสดก็ดังที่ได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ทางบ้านเมืองทั่วประเทศก็มาแย่งเอาไป ครั้นจะเอาเข้าคลังหลวงก็แย่งอันนั้นแย่งอันนี้ไปเรื่อย ต้องแบ่งให้ทางนู้นแบ่งให้ทางนี้ แล้วแบ่งให้คลังหลวงบ้าง เงินสดจึงไม่แน่ดังที่เรียนแล้ว พูดยังไงเป็นอย่างงั้นนะหลวงตา ไม่ได้แบบชุ่ย ๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ ตรงเป๋ง ๆ เลย ทำอะไรทุกอย่างมีเหตุมีผลทุกอย่าง มารุ่มร่ามชุ่ย ๆ กับเราไม่ได้ เพราะฉะนั้น การเก็บรักษาบัญชีเงินทั้งหลายจึงอยู่กับเราคนเดียว เป็นผู้สั่งเก็บสั่งจ่ายแต่ผู้เดียวเท่านั้น

เมื่อเราเป็นผู้ทำเองแล้วหายสงสัยทุกอย่าง ดังที่เขาประกาศโจมตีหลวงตาบัว จึงได้เห็นความเลวร้ายของพระเหล่านี้ เราอยากจะพูดว่ามันมีพระที่ตรงไหน อยากว่างั้น คือมันมากระเทือนใจเราอยู่เรื่อย ๆ นะ การพูดไม่ได้มีการจองเวรกับใครนะ จองกรรมจองเวรเราไม่มี เราพูดตามหลักความจริงที่ความเลวร้ายมันมาทำลายความดีงามทั้งหลายที่เราสร้างมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เงินทองที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมานี้มันประกาศโจมตีเรา ฟังซิ มันฟังได้ไหม แล้วเราเป็นผู้ฟังเองเสียด้วย และเราเป็นผู้ปฏิบัติงานนี้ด้วย แล้วถูกโจมตีในงานที่เราปฏิบัตินี้ด้วย หาว่าเงินทองที่พี่น้องทั้งหลายบริจาครวมเข้ามาหาหลวงตาบัวทั่วประเทศไทยที่รวมมาหาหลวงตาบัว หลวงตาบัวเอาเข้าพุงหลวงหมด นี่คำนี้นะหนักมากไหม

ทีนี้มันสวนทางกัน เราพูดชี้นิ้วเลย แม้สตางค์หนึ่งเราไม่มีเจตนาที่จะเอาสมบัติของพี่น้องทั้งหลายออกมาเป็นของส่วนตัวหรือใช้แบบยุบยิบ ๆ อย่างนี้ไม่มีเลย ฟังซิ ตั้งแต่สตางค์หนึ่งขึ้นไป เราพิถีพิถันมากที่สุด จะจ่ายมากจ่ายน้อยอยู่ในความพิจารณาของเราด้วยความพิถีพิถัน เพราะฉะนั้นมันจึงสวนทางกัน เราบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนี้ทำเราให้เลอะเทอะไปถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่ไหมล่ะ นี้เราจึงได้เห็นเรื่องความเลวร้ายของพระ พระนะออกประกาศ เราถึงกำเข้าไปหาพระ พระด้วยกันเรียนมาด้วยกัน คัมภีร์วินัย ภาษาของพระเป็นยังไง ภาษาของพระต้องมีศีลมีธรรม มีความสัตย์ความจริงประจำองค์พระ กิริยาที่แสดงออกมา แม้แต่จิตที่จะอิจฉาใคร ๆ ต้องตีกันทันทีเลยอยู่ภายในซึ่งเป็นของละเอียด อย่ามาพูดแต่เรื่องวาจาเรื่องกิริยาที่มาแสดงออกเปิด ๆ เผย ๆ หยาบ ๆ โลน ๆ อย่างนี้เลยนะ อันนี้เกินเลยแล้วนะ มาหาว่าเรา

ถ้าจะพูดถึงเหตุผลนะ ทะเบียนบัญชีของเราที่เก็บรักษาสมบัติมาตั้งแต่รับการบริจาคพี่น้องทั้งหลาย ตั้งแต่หนึ่งสตางค์ขึ้นมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ เขาได้มาเห็นบัญชีของเราไหม ๆ ฟังซิน่ะ เขาไม่ได้มาตรวจตราบัญชีของเรา ที่การเก็บการจ่ายของเรา เราทำยังไงบ้างก็ไม่เห็น แล้วเขาเอาความรู้มาจากไหน หรือโคตรพ่อโคตรแม่เขามีความรู้ยิ่งกว่าเขาเหรอ แล้วเอามาโจมตีเราว่าเงินที่ท่านทั้งหลายได้บริจาครวมมาสู่หลวงตาบัวนี้ หลวงตาบัวเอาเข้าพุงหมด มันฟังได้ไหม นี่ภาษาของพระ มันฟังได้หรืออย่างนี้ มันไม่มีอย่างนั้น บอกว่าร้อยทั้งร้อยบอกว่าเราไม่มี เราจึงได้อ่านชัดเจนของพวกนี้

เราเป็นผู้ทำหน้าที่เอง มันถึงได้ชัดเจนมากทีเดียว ว่านี่ตั้งหน้าตั้งตาทำลายทั้งชาติทั้งศาสนาทั่วประเทศไทยให้จมลงไป เพื่อพวกนี้จะขึ้นครองแล้วขี้รดชาติไทยของเราลงด้วยเจตนาที่เลวร้ายที่สุด หาความจริงไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ผู้หนึ่งสร้างความเป็นสิริมงคลแก่พี่น้องทั้งหลาย หลวงตาบัวนี่แทบเป็นแทบตายมาตลอด พี่น้องทั้งหลายก็เห็นไม่ใช่เหรอ เราไปเอาตรงไหนสตางค์ไหนพอที่จะมาเป็นมลทินต่อเราว่าเราได้ทุจริต เราบอกเราไม่มีเลย ขนาดนั้น เรื่องพิถีพิถัน พิถีพิถันเอามาก จึงไม่ยอมให้ใครถือบัญชีเลย เราถือเอง หมดไปมากน้อยเราแน่ใจ จะจ่ายไปฉบับละเป็นแสน ๆ ล้าน ๆ เรามีเหตุผลเรียบร้อยแล้ว ควรแล้ว ๆ จัด ๆ ๆ อย่างนี้เลยนะ นอกจากนั้นมายุ่งไม่ได้

เราทำอย่างจริงอย่างจังมากกับเรื่องที่ว่าเราเอาเข้าพุงหมด มันเข้ากันไม่ได้เลยนะ ภาษาของพระทำไมเป็นอย่างนี้ พระที่ไหนมี ในประเทศไทยเราไม่มี ถ้ามีก็มีแต่พระ เปรตพระผี พระเทวทัต พระกำลังทำลายชาติและศาสนาอยู่เวลานี้เท่านั้น ได้พยายามสุดขีดพวกเปรตพวกผีนี้จะทำลายชาติ ทำลายศาสนามาตลอด ตั้งแต่ชาติบ้านเมืองมาถึงเวลานี้เข้าถึงยุคศาสนาพุทธของเรา ก็เข้าตีกำแพงอันหนาแน่นของพระพุทธเจ้า หลักธรรมวินัยทรงบัญญัติไว้จะถีบยันออกให้หมด เหลือแต่อำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ ครองบ้านครองเมือง ด้วยความเห็นแก่ลาภแก่ยศ เห็นแก่อำนาจบาตรหลวง ที่จะครองบ้านครองเมืองด้วยความหน้าด้านของมันเท่านั้น

มันถึงเกิดเรื่องขึ้นมาเวลานี้ เกิดขึ้นมาเร็ว ๆ นี้ เกิดเพราะอะไร ก็เกิดเพราะจะเข้ามาเหยียบหัวพระพุทธเจ้าล่ะซิ ลูกศิษย์ตถาคตมีกี่องค์จะยอมให้เหยียบง่าย ๆ เหรอ อย่างหลวงตาบัวนี้เหยียบก็เหยียบเถอะน่ะ ถ้าหลวงตาบัวคอยังไม่ขาดแล้วอย่ามาเลย เดี๋ยวจะตายหมดทั้งโคตรมันนะ บอกอย่างนี้เลย เอาจริง ๆ เราไม่เหมือนใคร ขาดเลยถ้าลงได้ชี้ตรงไหนแล้วไม่มีถอยเลย นี่แหละที่นำพี่น้องทั้งหลายนำด้วยแบบนี้นะ ด้วยเหตุนี้เองเวลาเด็ดเราก็เด็ดใส่ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน เอาให้ได้นะ สมหวังสมใจเรา แล้วสมใจหลวงตาบัวที่ตัดคอเพื่อชาติและศาสนาของชาติไทยเราอย่างยิ่ง ถ้าในจุดนี้แล้วนะ สมใจทีเดียว พี่น้องทั้งหลายก็เป็นบิรษัทบริวารตามผู้นำก็เอาให้เต็มเหนี่ยวเหมือนกัน ลูกศิษย์มีครู ครูพาเดินยังไงลูกศิษย์เดินอย่างงั้น พากันจำไว้

แล้วจำได้ไหมที่ว่าเรื่องความสกปรกเลวร้ายกับเรื่องความสะอาดสุดยอด มันสวนทางกัน ท่านทั้งหลายฟังเอานะ มันฟังไม่ได้นะ ภาษาของพระแท้ ๆ เป็นผู้มาโจมตีกัน มีเจตนาอะไร เลวร้ายยิ่งกว่าประชาชนทั้งหลายไปเสียอีก คือพระประเภทเปรตนี้เอง จะเป็นอะไรที่ไหนไป พูดอย่างนี้เราไม่สะทกสะท้าน เรื่องมันประกาศมาอย่างนั้นจะให้ว่ายังไง เราไม่เห็น เราได้ยินเราก็พูดตามที่ได้ยิน ก็อย่างที่พูดนี้มันออกเป็นเสี้ยนเป็นหนาม หลวงตาบัวนี้อยู่ในท่ามกลางแห่งหอกแห่งหลาว เราก็ออกพูดป้าง ๆ เลย เพราะลูกศิษย์ลูกหาเราเต็มบ้านเต็มเมือง มากระซิบกระซาบมาบอกมากล่าวทุกแง่ทุกมุมเกี่ยวกับเรื่องภัยมหาภัยที่จะมาทำลายเรา เขาเห็นว่าเรานี้เป็นหัวใจของชาติไทยเรา

ถ้าฆ่าหลวงตาบัวนี้ได้แล้วเขาจะทำยังไงก็ได้ ความหมายก็ว่าอย่างงั้นเอง เพราะฉะนั้นจึงอย่าให้มันอยู่อีตาบัว ว่างั้น ฟาดมันหมดทั้งโคตรเลย แต่เขาลืมโคตรของเขาได้ หลวงตาบัวมีโคตรทางนู้นก็มีโคตร ถ้ามีโคตรยกโคตรมาจะฟัดกัน โคตรต่อโคตรใส่กันกับหลวงตาบัว ให้หลวงตาบัวถอยนี้เป็นไม่ถอย มันหมดจริง ๆ หรือเรียกไอ้หยองไอ้ปุ๊กกี้มาช่วยกัน มีทั้งหมัดทั้งกำปั้นฟาดเลย หมามีทั้งหมัดบนหลังมัน พวกนี้เผ่นเลย เอาละพอ คือพูดไม่มีอะไร มันสนุกพูด คือเราไม่มีอะไรเลยในหัวใจในสมมุติสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรผ่านหัวใจ มีแต่โล่งจ้าอยู่ตลอดเวลา พูดด้วยความจ้า กิริยาอย่างนี้กิริยาแห่งความจ้าของธรรม ไม่ได้เป็นกิริยาของกิเลสที่เป็นฟืนเป็นไฟเผาโลก ให้ท่านทั้งหลายฟังเอา ทีนี้จะให้พร

อ่านธรรมะหลวงตา วันต่อวัน ทางอินเตอร์เน็ต www.luangta.com