ขึ้นเวทีแล้วอินทร์พรหมก็มาเถอะ
วันที่ 24 มกราคม 2546 เวลา 8:30 น. ความยาว 45.59 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

ขึ้นเวทีแล้วอินทร์พรหมก็มาเถอะ

 

         ตะกี้นี้เขาเอาต้นอะไรมาให้ตั้งสามพันสี่พันต้น (ต้นกฤษณาครับ) ไม้กฤษณาเอาไปทำอะไรยังไง ( เป็นสมุนไพรครับ เขาไปขายทางอาหรับกิโลละห้าหมื่น เป็นสมุนไพรบำรุงหัวใจ ตั้งใจมาถวายท่านแล้วก็ไปแจกที่วัด ๆ ละร้อยต้น) ต้นกฤษณานี่เป็นร่มดีอยู่นะ ว่าเป็นต้นยาต้นแยอะไร ตั้งหน้าจะมาปลูกยาอยู่ในนี้เต็มไปหมด เราไม่เอา มันจะกลายเป็นอะไรขึ้นมา ต้นมันร่มดี เอาลงที่หน้าวัดที่ไหนที่เหมาะสมก็ได้ แล้วใครจะต้องการแยกกันไปแจกกันไป เท่านั้นละ ใครต้องการจะเอาไปปลูกที่ไหน ๆ เป็นประโยชน์ก็แยกแจกกันไป เอาลงทางหน้าวัด ถนนเราออกไปนี้มีต้นไม้ทางด้านนี้เยอะ เราเอาลงทางด้านนั้นเพื่อกันแดด ไม่ให้แดดส่องจนเกินไป ฟากถนนที่ใส่บาตรทางนี้ ลงฟากถนนข้าง ๆ มีร่มไม้เหมาะสม ที่ราบรื่นพอเหมาะสม เอาลงนั้นแล้วใครต้องการจะไปปลูกที่ไหนก็แยกกันไป เท่านั้นละนะ อยู่จังหวัดอะไร (ระยองครับ) ดีละ เอาลงที่จุดเดียวกันเลย

ต้นกฤษณาเราเคยไปเห็นอยู่ที่ถ้ำสาริกา มองดูใบสดสวยชุ่มชื่นคล้ายกับต้นตะเคียน ที่นั่นต้นตะเคียนทองก็มี ไม้กฤษณาก็มี มองดูไม้นี้ใบสดเขียวดี สดชื่นด้วย พอพูดนี้มันก็เข้ากันได้ ได้ทั้งร่ม ทั้งเป็นหยูกเป็นยาก็ได้ ร่มสำคัญนะ

สรุปทองคำและดอลลาร์ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ถึงวันที่ ๒๓ มกรา ๔๖ ตั้งแต่จันทบุรี ชลบุรี นครนายก ลพบุรี ราชบุรี นครปฐม และกรุงเทพ เรื่อยมา สรุปแล้วทองคำได้ ๕๕ กิโล ๑๔ บาท ๙๕ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๔๐,๑๘๗ ดอลล์ ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๕,๕๕๙ กิโลครึ่ง ดอลลาร์มอบเข้าแล้ว ๗,๒๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์ ทองคำที่ได้หลังจากมอบเข้าคลังหลวงแล้วเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๔๕ นั้น ได้เพิ่มเข้าอีก ๙๕ กิโล ๒๑ บาท ๓๕ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๐๖,๘๒๕ ดอลล์ พวกเพิ่มนี้พอได้ตามความต้องการแล้วก็จะเข้าคลังหลวงตามเดิม ความต้องการเป็นจุด ๆ ไปนั้นคือว่า มอบครั้งละ ๕๐๐ กิโล ส่วนดอลลาร์ได้มากน้อยเพียงไรก็ตามกันเข้าไป ๆ อย่างคราวที่แล้วนี้ทองคำมอบไปแล้ว ๕๐๐ กิโล แล้วดอลลาร์ก็ตามไปด้วยกัน ๓ แสน ต่อไปก็เป็นแบบนี้ คือทองคำยืนตัวไว้เลยว่าถ้าได้ ๕๐๐ กิโลแล้วมอบทีหนึ่ง ดอลลาร์จะได้มากแค่ไหนเราก็ตบเข้าไปหากันนั่นแหละ รวมทองคำทั้งหมดที่มอบและยังไม่ได้มอบ ได้ทองคำ ๕,๖๕๔ กิโลครึ่ง กรุณาทราบตามนี้

(ลูกศิษย์อ่านคำชี้แจงของรองนายกรัฐมนตรี ดร.วิษณุ เครืองาม เกี่ยวกับมติคณะสงฆ์ไทยทั้งสองนิกายที่ว่า ให้ปัดทิ้ง ร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ที่ขัดต่อพระธรรมวินัยสถานเดียว และพร้อมจะสละชีพเพื่อรักษาพระธรรมวินัย) เขาตอบมานี้เราก็ฟังไปอย่างนั้นละ เพราะเรื่องใหญ่เราลงไปหมดแล้ว ประชุมคณะสงฆ์เรียบร้อยแล้ว ถึงเรื่องนี้เข้าไปหารองนายกรัฐมนตรีคนนี้ เขาก็พูดให้ฟังธรรมดา เขาบอกเขาไม่แตะต้อง อะไร ๆ ก็ตามที่ได้ประกาศไปแล้วเขาไม่เข้าไปแตะต้อง เรื่องที่ว่าจะเข้ามาทำลายพุทธศาสนา จะเข้ามาเดือนนั้น ๆ เขาก็ว่าตกอยู่ที่นั่นยังไม่ได้ออกไปไหน ส่วนที่เราประกาศไว้เขาว่าจะไม่แตะต้อง ความหมายว่างั้น

พูดตรง ๆ เราถ้าลงได้ขึ้นเวที บอกงี้เลย อินทร์ พรหม ก็มาเถอะไม่เป็นอย่างอื่น นี่ไม่ได้เหมือนใครนะ โอ๋ย มันยุ่งตลอด เราเลยสกัดไม่ให้นายกท่านหนักมาก มันเอาทางนี้ตีเข้าไปนั้น ๆ มันจะกว้านเข้ามาทุ่มให้แหลก เมื่อเรายังไม่ตายแล้วยังไงก็เถอะ เรียกว่าทางโน้นก็เบาลง วูบลงไปเลยแหละ เพราะเราดึงมาหมดแล้ว เราเอาเข้ามาหมด เราจะเป็นผู้รับเองภาระ คือภาระนี้ไม่มีแต่ศาสนานะ ยังทิ่มเข้าไปโน้นอีกให้ทางโน้นยุ่งด้วย มันกว้านเข้ามาแล้วจะทุ่มลงให้หมด เราดูอยู่รู้อยู่นี่วะ เพราะฉะนั้นเราถึงสรุปลงไปเลยว่า ทางโน้นให้อยู่งั้น เราจะกว้านเข้ามานี้หมด คือเราจะทำหน้าที่คนเดียว ที่ออกประชุมคราวนี้ละ พอเรื่องราวเสร็จจึงยื่นไปทางนายก รองนายกก็ตอบรับมาอย่างนี้แหละ

พระตั้งหมื่นกว่า ไม่ใช่เล่นนะ วัดอโศการามนี้เรียกว่าเป็นประวัติการณ์ รถแน่นหมดเลย วัดกว้างแสนกว้างแน่นหมด รถใหญ่ ๆ เท่าภูเขา ๆ นี้ก็แน่นแบบหนึ่ง รถเล็กกี่ประเภทก็แทรกเข้าไป คนก็เหมือนกันจนจะหาทางไปไม่ได้ ฟังซิน่ะมากขนาดไหน เต็มไปหมด เราไปวันนั้นข้อประชุมทั้งหมดมอบให้สงฆ์เลย เราเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้ว อย่าให้เข้าไปนั่งฟังเถอะ เรื่องราวก็สำเร็จจากทางนี้หมดแล้ว มอบให้ทางพระสงฆ์พิจารณาเรียบร้อยแล้วเราก็พอดีเราขึ้นธรรมาสน์เลย วานซืนนี้ไปพอดีพระสงฆ์ที่มาจำนวนมาก เราก็ไม่เคยเห็นในชีวิตของเรา มากจริง ๆ เต็มไปหมด พอมาเรากราบพระประธานเสร็จแล้วก็ขึ้นธรรมาสน์เลย เทศน์อบรมสอนพระทางด้านกรรมฐานล้วน ๆ เรื่องข้อประชุมอะไรเราไม่เข้ามายุ่งเลย เพราะเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ทีนี้มีแต่เรื่องพระภาคปฏิบัติล้วน ๆ เราก็ขึ้นทางนี้เลยเรื่อย ๆ

เทศน์ถึงจะไม่ละเอียดลออก็ตาม แต่หลักใหญ่ ๆ แนวใหญ่ ๆ เราวางไปให้หมดในเวลาเทศน์ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นเครื่องบินเหินฟ้า ตั้งแต่ ก.ไก่ ก.กา วิธีเริ่มต้นภาวนาทำยังไง ๆ ทีนี้ก็ต่อเรื่อย ๆ ทะลุไปเลยจนกระทั่งจบแล้ว นาฬิกาดูเหมือนได้ ชั่วโมง ๒๕ นาที นั่นละนานขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เราไม่ให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย คือกิ่งแขนงไม่ตาม เอาแต่ส่วนใหญ่ ๆ เป็นหลักเกณฑ์ที่จะแตกกิ่งแขนงออกไปให้วินิจฉัยเอง ๆ ส่วนใหญ่เราให้หลักไว้ ๆ หมดเลย ส่วนกิ่งก้านถ้าจะพรรณนานี้ไม่มีเวลา ธาตุขันธ์ไปไม่ได้แล้ว จึงเอาแต่จุดสำคัญ ๆ เรียกว่าสมบูรณ์นั่นแหละ สมบูรณ์ที่จะต่อกิ่ง ๆ กิ่งใหญ่ที่จะต่อกิ่งเล็กจากผู้พิจารณา ได้หลักใหญ่นี้แล้วก็จะแยกโน้นแยกนี้ไปได้สบาย ๆ เพราะหลักใหญ่ได้มอบไปหมด ตลอด พูดจนกระทั่งถึงมหาสติมหาปัญญาด้วย เรียกว่าสุดไปเลย ตั้งแต่สติปัญญาอัตโนมัติ เชื่อมเข้าไปถึงมหาสติมหาปัญญาทะลุไปเลยจนจบ

พอจบแล้วก็หมดกำลังทุกอย่างพอดี เป็นเวลาชั่วโมง ๒๕ นาที.ไม่ใช่เล่น ๆ นะ เมื่อวานเราก็กลับเท่านั้นละ ก็ไม่มีเรื่องอะไร สำหรับไปคราวนี้หนักมากเรา เทศนาว่าการนี้ไม่ได้หยุดเลย ตลอด ๆ ไปเทศน์ที่ศาลายา พอเทศน์จบลงมาแล้ว เออ เอาละเบาแล้วว่างั้นนะ นี่เป็นกัณฑ์สุดท้ายของเราแบกมาตูมตาม ๆ จนจะตายแล้ว วันนี้ปล่อยเสียที พอวันหลังไปฟาดวัดอโศการามอีก ชั่วโมง ๒๕ นาที เป็นยังไง อยากถามว่าอย่างนั้น ปล่อยสักทีแล้วเหรอ ไม่ใช่เล่น ๆ นะ โถ หนักมาก เฉพาะเทศน์ในงาน ๆ กี่กัณฑ์ ลองนับดูซิ

โยม เทศน์ในงานรวมทั้งวัดอโศการามด้วยนะครับ สภาแมว ๑๕ กัณฑ์ สภาหนูนี่ นับไม่ได้ละครับ เยอะแยะ

หลวงตา นับไม่ได้ต้องเอา ๑๕ คูณ ๑๕ กัณฑ์ไปเลย สภาแมวเป็นอย่างนั้น ยั้วเยี้ย ๆ ยุ่งมาก ไม่ใช่เล่นนะ

โยม พรุ่งนี้ก็ไปร้อยเอ็ดอีกแล้วครับ

หลวงตา เออ ไปร้อยเอ็ดก็ค้างคืนหนึ่ง ไปคราวนี้ได้ ๑๓ วัน วันที่ ๒๓ กลับ เราออกวันที่ ๑๐ วันที่ ๒๓ กลับมันก็ได้ ๑๓ วัน ๑๔ วันเดินทาง แล้วหนักมากด้วยไม่มีเวลา หมุนติ้วตลอดเลย เทศน์ตลอด จันทบุรีก็ตั้ง ๓ กัณฑ์ ๔ กัณฑ์ แล้วมาทางระยอง ทางชลบุรี มาค้างเป็นระยะ ๆ เทศน์เป็นระยะ ๆ จนกระทั่งเข้ากรุงเทพฯ จากกรุงเทพฯแล้วก็ไปทางนครนายก มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒ จากนั้นก็ไปลพบุรี แล้วก็ราชบุรี มีแต่ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น คนนี้แน่นไปหมด ไม่ว่าเทศน์ที่ไหนเหมือนกันหมดเลยนะ คนไม่เบาบางเทศน์ไม่ว่าที่ไหน บางแห่งเป็นอำเภอจนกระทั่งเราได้ยกเป็นจังหวัดขึ้น นี่มันไม่ใช่ฐานะของอำเภอนะ มองดูคนแล้วมันต้องเป็นจังหวัดตั้งผู้ว่าขึ้นเลย ตั้งนายอำเภอขึ้นเป็นผู้ว่า แล้วก็ตั้งเป็นแถว ๆ ขึ้นไปเลย เราก็ว่าอย่างนั้น ก็มันมาก

ไม่ว่าไปเทศน์ที่ไหน ลพบุรี โห.ไม่ย่อยนะ ลพบุรี แหม มากจริง ๆ ลพบุรีเต็มหมดเลย แต่ก็ดีทุกแห่งนั่นแหละ ที่ไม่มีอะไรรบกวน เงียบหมดเหมือนไม่มีคน คนมาก ๆ เวลาเทศน์ เทศน์เข้าเร่งเข้า ๆ ต่อไปเงียบหมดเลยไม่มีเสียง ไม่ว่าเทศน์ที่ไหนเป็นแบบเดียวกัน ก็ดีอย่างหนึ่ง การเทศน์ก็สะดวกตลอด ๆ แล้วผู้ฟังก็ คนเราถ้าเป็นไปด้วยความสนใจ ไอ้เสียงมันก็เงียบเองอย่างว่านะ อันนี้ก็แบบเดียวกัน เงียบไปหมด เทศน์ที่ไหนไม่มีอะไร เงียบ ๆ ไปเลย วันพรุ่งนี้ก็จะไปร้อยเอ็ด แบบเดียวกันนะร้อยเอ็ด ดีไม่ดีร้อยเอ็ดอาจจะตั้งเป็นมณฑลขึ้นก็ได้ มันไม่ใช่น้อย เทศน์ทีไรก็ดีร้อยเอ็ด ก็แบบเดียวกันหมด อันนี้ไปเทศน์อำเภอโพนทอง นี้เขามานิมนต์หนหนึ่งแล้ว ทีนี้ทางฝ่ายจังหวัดนี้ขอเขา เขาไม่ยอมให้ ทางฝ่ายจังหวัดก็ได้มาขอเรา โดยมาชี้แจงเหตุผลให้เราทราบเสียก่อน ที่ไปขอแย่งเขามาเพราะเหตุไร เขาก็ชี้แจงเหตุผลต้นปลายว่า ร้อยเอ็ดนี้ประชาชนตามอำเภอต่าง ๆ มาขอร้องไว้มาก เวลาหลวงตามาเทศน์ที่นี่แล้วอำเภอต่าง ๆ จะได้มารวมทางนี้

เพราะฉะนั้น จึงขอให้อำเภอโพนทองเข้ามาร่วมด้วยกัน เหมือนอำเภอทั้งหลาย ทางฝ่ายจังหวัดพูดนะ เอ้อ ก็มีเหตุผล ถ้าอย่างนั้นเราก็จะติดต่อหรือว่าให้เป็นสักขีพยานให้ พอว่าอย่างนั้นเราก็ชี้แจงเหตุผลนี้ไปทางโพนทอง รวมเหตุผลเรียบร้อยแล้วบอกไป โพนทองเลยยอม คราวนี้โพนทองจะเอาอีก พวกนี้จะไปแย่งเราไม่รับรองนะคราวนี้ เรามีแต่จะหาทางเผ่นแหละคราวนี้ เดี๋ยวโพนทองจะไล่ตีเรา ตกลงเราก็เลยรับ ไปโพนทอง จังหวัดไปยุ่งไม่ได้ละคราวนี้ เพราะเคยยุ่งคราวก่อน เกิดเรื่องแล้วเราต้องเป็นผู้ไปตัดสินให้นี่วะ เขาก็ยอม คราวนี้เขาจะเอาของเขาเอง ทางนี้ไปยุ่งไม่ได้นะ เราต้องหาทางออกละคราวนี้เราไม่สู้เลย ก็ว่าอย่างนั้นละ นี่เขาก็จะเอาเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนกัน คนจะมาก ทางจังหวัดก็จะไปนี่ ไม่ใช่จะมีเฉพาะโพนทอง จังหวัดก็จะไปคราวนี้ อำเภอต่าง ๆ เราก็ไปค้างที่นั้นคืนหนึ่งด้วย เราจึงจำเป็นต้องไปละคราวนี้ มัน ๒ ครั้งแล้ว โพนทองเขาขอมาไม่ได้ ๆ คราวนี้จะเอาให้ได้ เราเลยต้องไป

ก็ไม่มีอะไรละวันนี้ พูดเรื่องราวอะไรก็หมดแล้วก็ไม่ทราบว่าจะเทศน์ว่าอะไร เทศน์ก็เทศน์ไปหมดแล้ว ก็เข้าทางวิทยุประจำวันนะ ๑๒ สถานีนี้เข้าประจำวัน เราไปเทศน์ทางโน้นก็มาเข้าทางนี้อยู่ เข้าอยู่ตลอด วันนี้จึงพูดเพียงเท่านั้น

โยม คุณ..,กราบขอเมตตาชี้ทางดำเนินแนะนำหนทางต่อไปให้ คือ วันที่ ๑๓ มกราคม ขณะทำสมาธิด้วยวิธีหลวงปู่เจี๊ยะ เอกายโน อยํ มคฺโค มีพุทโธ และเอาความรู้จับที่ขวาซ้าย ๆ จากบนลงล่างจากล่างขึ้นบน จากหน้าไปหลังวนอยู่รอบกาย อยู่ในอารมณ์เดียว ๑ ชั่วโมง จิตหดตัว กาย เวทนา จิตต่างอันต่างจริง คำเทศน์อบรมท่านอาจารย์วันชัยก็พูดมาว่าเหมือนสัตว์อยู่ในกรง ทำให้คิดไปถึงตอนไปเที่ยวดูนรก เห็นการถูกจองจำจิตวิญญาณ สงสารเขาจับหัวใจ แต่นี่มาเห็นตัวนี้เองที่ถูกจองจำอยู่ในกรง วัฏสงสาร โดยมีเวทนาสุขทุกข์เป็นตัวล่อให้หลงไว้

หลวงตา ตัวอะไร อะไรเป็นตัวล่อ

โยม มีเวทนาสุข ทุกข์ เป็นตัวล่อให้หลงไว้ น้ำตาไหลพราก ๆ ได้แต่พูดว่า กูเอง ๆ สามแดนโลกธาตุนี้ก็ไม่พ้นสัตว์อยู่ในกรงเช่นเดียวกัน ลูกได้รู้ได้เห็นความเยี่ยมของพระพุทธเจ้า ความยอดของพระธรรม และความเก่งของพ่อแม่ครูบาอาจารย์

หลวงตา ความอะไรของพ่อแม่ครูบาอาจารย์

โยม ความเก่งเจ้าค่ะ

หลวงตา ความเก่ง มันเป็นบ้าเหรอ ว่าอย่างนั้น เข้าใจเหรอ เราอยากสวนหมัดอย่างนั้นนะ เอ้า ว่าไป

โยม ใจนี้หมอบราบคาบแก้ว โถ ถ้าไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พาดำเนิน ลูกจะต้องเดินทางต่อไปอีกกี่กัปกี่กัลป์ วันนี้เป็นวันที่ ๔ แล้ว พอเวลานึกถึงทีไรน้ำตาไหลพรากทุกทีค่ะ กราบเรียนหลวงตาด้วยว่าลูกยังไม่กลับไป จะหาทางสู้ทำลายกรงวัฏฏะสงสารให้ได้ จะใช้ทุกวิถีทางที่สติปัญญาน้อย ๆ นี้ทำได้ กราบขอพระเมตตาชี้ทางดำเนินแนะนำหนทางต่อไปให้ลูกด้วยเจ้าค่ะ แม้ลูกจะคิดถึงหลวงตา คิดถึงลูก ๆ สักเพียงใดก็จะอดทนทำความเพียรต่อไป ให้เป็นลูกโซ่ ไม่คาดหวัง เดินต่อไปถึงแล้วก็จะรู้เองเห็นเอง ไม่ต้องแคลงใจอีก ลูกตัดสินใจไม่ตายให้รู้ ไม่รู้ให้ตายแล้วเจ้าค่ะ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูงสุด เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเจ้าค่ะ

หลวงตา ก็ไม่มีอะไรแหละ มันไม่มีอะไรนี่ เขาก็ก้าวเดินไปถูกต้องแล้ว ก้าวไปตามนี้แหละ ก็ไม่มีอะไรที่จะไปบอกโน้นบอกนี้ อย่างที่ เอกายโน อยํ มคฺโค นั้น ก็เอาเรื่องของท่านอาจารย์เจี๊ยะ ท่านพูดถึงเรื่องภาวนาขั้นใดก็เป็นเรื่องของท่านพูดในขั้นนั้น แต่เราฟังมันก็เข้าใจเอง อยู่ในขั้นใดของการภาวนา นี่เขาก็เล่าไปธรรมดาเฉย ๆ เขาไม่ได้บอกว่า ยอมรับหรือต้านทานกันยังไง ปัดกันยังไง เขาก็เล่าธรรมดา ก็เป็นทางเดินที่เขากำลังก้าวอยู่แล้วนี่ ไม่มีปัญหาอะไร

โยม กราบขอพระเมตตาชี้ทางดำเนินแนะนำหนทางต่อไป

หลวงตา โอ๊ย.ขี้เกียจตอบ ให้บอกเขาท่านตอบมาแล้วว่า ท่านตอบมาเรียบร้อยแล้วให้ว่าอย่างนั้นนะ ตอบมาว่ายังไง ว่า ขี้เกียจตอบ เข้าใจไหม เป็นบ้าเหรอ ว่าอย่างนั้น เข้าใจไหม ขี้เกียจตอบ แล้วก็เป็นบ้าเหรอ ธรรมอันนี้ยังไงมันก็ไปของมันเองแหละ ช้าหรือเร็ว ก้าวไปเรื่อย ดำเนินไปอย่างนั้น มันถูกต้องแล้วก็ไม่อยากจะพูดอีกแหละ เอ้า ก้าวไปว่างั้น เท่านั้นเอง ธรรมะนี้มันแคบพอแล้ว ไปหาโน้นหานี้อะไร มีแต่ตีเข้าไป ๆ ๆ เรื่อย ละเอียดลออเข้าไปเรื่อย

นี่ละทาง มคฺโค ๆ แปลว่าหนทาง จิตฺตมคฺโค ทางของจิต ทางของเท้าอย่างที่เราเห็น อย่างนี้ขลุกขลักเมื่อไร ที่ไหนไปไม่สะดวก ทางมีทางแยกทางไหนทำให้คนผู้เดินทางซึ่งไม่เคยเดินหลงได้ ๆ แบบเดียวกันเลยไม่ผิด ทางของจิต จิตฺตมคฺโค ก็แบบเดียวกัน คือชัดเจนเฉพาะเรื่องของจิต เช่นอย่างตานี้มีสิทธิจะดูได้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นวิสัยของตา อะไรมาค้านไม่ได้ ท่านจึงเรียกว่าอินทรีย์ ๆ อินทรีย์ ๕ อินทรีย์ ๖ อินทรีย์แปลว่า ความเป็นใหญ่ ตาเป็นใหญ่ในทางดู หูเป็นใหญ่ในทางเสียง จมูกเป็นใหญ่ในทางดูมกลิ่น คือเป็นใหญ่คนละทิศละทาง ท่านจึงเรียกว่า อินทรีย์ เข้าใจไหม คือความเป็นใหญ่ ในอายตนะ ๖ อายตนะ แปลว่าเครื่องสืบต่อประสานกัน ได้อธิบายถึงขนาดนั้นวันนี้

อินทรีย์คือความเป็นใหญ่ เป็นใหญ่คนละทาง ๆ จิตฺตมคฺโค นี้ก็เหมือนกัน เป็นใหญ่ในทางจิตล้วน ๆ ที่จะพิจารณา รู้ตามนี้ไปล้วน ๆ จิตฺตมคฺโค เช่น ทางด้วยเท้ามันเป็นทางของเท้า ทางของจิต เรียกว่าทางของด้านวัตถุ ทางของด้านนามธรรม ทางของด้านวัตถุ เช่นทางของกายของเท้าเป็นต้น เราก็เดินไปตามทาง ที่มันมีแยกมีแยะทั้งหลาย ผู้ที่เข้าใจในทางแล้วก็ชี้แนะบอกไปตรงนั้นให้ระวังอันนั้น อย่าปลีกทางนั้นอย่าปลีกทางนี้ ให้เดินไปตามทางนี้ นี่คือผู้ชี้บอกทางเท้า จะไปบ้านนั้นบ้านนี้แล้วมีทางแยกทางไหนเขาก็บอกกันไป ให้ไปทางนั้นเขาก็เดินตรง

อันนี้ทางจิตก็เหมือนกัน พอพิจารณาเข้าไปนี้ ทางจิตนี้ผู้ที่รู้แล้วเรียกว่าโล่งไปหมดเลย ผู้ที่ยังไม่รู้ทางแยกทางแยะตรงไหนนี้ผิดได้ ๆ ที่ได้อาศัยครูบาอาจารย์อยู่ ท่านคอยแนะให้ ๆ เราก็ก้าวเดิน ๆ ก็เท่านั้นเอง นี่เรียกว่าทางของจิตเป็นใหญ่ เรียกว่า อินทรีย์ในทางจิตล้วน ๆ อะไรมาแฝงไม่ได้ มาค้านไม่ได้เลย นี่เขาก็เดินไปเรียบร้อยแล้ว จะว่าถูกหรือผิดนี้ก็จะพูดอะไร ผิดหรือถูกก็เป็นอยู่ในระยะที่ก้าวเดินไป แต่ว่าทางเดินนี้เป็นทางที่เขาก้าวอยู่แล้ว เข้าใจไหมล่ะ ก็มีเท่านั้นละ

 

อ่านและฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่

www.Luangta.or.th or www.Luangta.com

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก