ความพอแห่งธรรม
วันที่ 25 ธันวาคม 2545 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม

เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ [เช้า]

“ความพอแห่งธรรม”

 

[ก่อนฉัน]

            เวลานี้เท่ากับว่าดีดผึงเลยเมืองไทยเรา พี่น้องทั้งหลายผาสุกเย็นใจ หลวงตาก็ปึ๋งเลยเชียว เวลานี้รออันนี้นะ ที่เทศน์เมื่อคืนนี้อยู่ที่นี่ เขาก็จะส่งไปทางสหรัฐละมัง เราไม่ได้ถามดู เขาเคยส่งเป็นประจำ ส่งแบบไหนเราก็ไม่รู้ เทศน์เมื่อคืนนี้มีเคล็ดลับสำคัญ ๆ ของธรรม เมื่อคืนนี้ไม่ได้ต่อ เขาไม่ได้ฟัง (แต่เขาออกอินเตอร์เน็ตเจ้าค่ะ) อ๋อ ออกอินเตอร์เน็ต ออกชัดเจนเหมือนเทศน์อยู่ไหม (เป็นเสียงของหลวงตาออกเลยเจ้าค่ะ) ก็ดี

            เราพูดจริง ๆ นะ บอกตรง ๆ เลย ชี้นิ้วเลยไม่เป็นอื่นนะ บอกพี่น้องทั้งหลายในธรรมทุกขั้น ไม่มีสงสัย เปิดโล่งในหัวใจนี้หมด พูดตรง ๆ อย่างนี้นะ นี่ศาสดามีหรือไม่มี พระพุทธศาสนาเลิศหรือไม่เลิศ มันบอกอยู่ในนี้หมดเลยจะให้ว่าไง การพูดนี้ใครอย่ามาคิดนะ ว่าหลวงตาพูดโอ้พูดอวด อย่าเอาไฟเผาหัวอกเจ้าของนะ จะไปจมในนรก เราเทศน์นี้เราดึงคนขึ้นสวรรค์นิพพานต่างหาก อย่ามาลากเจ้าของลงนะ ไอ้ลากเราเราไม่เคยคิดแหละ ไอ้ผู้ที่ตำหนิไม่รู้อีโหน่อีเหน่ดีไม่ดีติดร่างแหเขาไป คนหนึ่งลากขึ้นจะเป็นจะตาย คนหนึ่งลากลง ฟังแล้วมันลากลง ตำหนิติเตียนว่าธรรมหลวงตานี้พูดเรื่องโอ้เรื่องอวด เรื่องนั้นเรื่องนี้ นี่คือเปรตคือผีที่พวกมูตรพวกคูถมันลากลงนะ ทางนี้ลากขึ้นจากมูตรจากคูถ ให้พี่น้องทั้งหลายฟังเสียนะ

            หลวงตาบัวตายไปนี้จะไม่มีใครเทศน์อย่างนี้ พูดตรง ๆ เลย ท่านทั้งหลายจะฟังก็ฟัง นี้ไม่เคยมีอะไรกับโลกสงสาร ถังขยะว่างั้นเลยนะ เราเทศน์ด้วยความเมตตาล้วน ๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างช่วยพี่น้องชาวไทยนี่เหมือนกัน เราช่วยสุดเมตตาของเรา เตือนตลอด ๆ นะ เร่งตลอด พิจารณาเรียบร้อยแล้วออก ๆ ๆ ทุกอย่าง ไม่ใช่พูดสุ่มสี่สุ่มห้า ธรรมทุกขั้นเป็นธรรมที่เกิดมาจากการขวนขวายของเจ้าของ เต็มกำลังความสามารถ เอาเป็นเอาตายเข้าว่าเลย เราเคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังแล้ว ในชีวิตของพระนี้คือการฆ่ากิเลสหนักที่สุดเราบอก บางครั้งเหมือนจะตายเลย แต่ไม่มีคำว่าถอย มันก็อาจจะมีนิสัยอันหนึ่งนั้นแหละ ไม่งั้นมันไปไม่รอดแหละ  มันต้องถอยกรูด ๆ นี่ไม่มีเลยไปไม่ได้ เอา สมมุติว่าคลานได้คลานไป ไม่ถอย

            นี่กลัวพี่น้องทั้งหลายจะนอนใจนะ ศาสนาพระพุทธเจ้าของเรา ประกาศขนสัตว์โลก เรายังจะลากตัวของเราลงนรกอเวจีด้วยธรรมอันเลิศเลอนี้ ไม่ควรให้มีในชีวิตจิตใจของชาวพุทธเรานะ หยาบโลนที่สุดเลย ลงคัดค้านธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว เรียกว่า หยาบสุดหยาบ ถ้าหากว่าสัตว์ก็เลยสัตว์ไปแล้วนะ นี่เราสอนด้วยความเมตตาสุดส่วนทีเดียวคราวนี้น่ะ การปฏิบัติมาก็สุดส่วนของเรา ไม่มีอะไรเหลือเลยชีวิตนี้ เรียกว่ากิเลสกับเราจะเป็นคู่ต่อสู้กันต่อไปอีกไม่ได้เลย ถ้ากิเลสเก่งเอาเราให้จมไปเลยบนเวที ตกเวทีไปเลย ถ้าธรรมะเก่งก็ฟาดกิเลสให้ขาดสะบั้นไปเลย มีสองอย่างเท่านั้น ที่จะถอยกันไม่มีเลย

นี่ละชีวิตจิตใจที่ต่อสู้กับกิเลส แล้วก็สมมักสมหมาย ดังที่ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบ นี่ธรรมพระพุทธเจ้ามีไหม มรรค ผล นิพพานมีไหม ศาสนาของพระพุทธเจ้าจริงไหม ไอ้พวกมูตรพวกคูถมันจริงยังไง อันไหนที่มันมาเป็นศาสดาสอนโลกขนโลกขนโลกสงสารให้พ้นจากทุกข์ไป มีรายไหนที่เห่าฟ่อ ๆ แฟ่ ๆ อยู่ทุกแห่งทุกหนในหัวใจของเจ้าของนั่นแหละ มันคิดมันดำริ มันชอบคิดนะกิเลส อะไรที่เป็นของดิบของดี กิเลสหลอกไปว่าเป็นภัยแก่คนที่มันตำหนิ ขนเข้ามาๆ เห็นไหมกิเลสหลอกคน ให้พี่น้องทั้งหลายจำให้ดี

เราพูดจริง ๆ พูดอย่างเด็ดขาด ยากอยู่นะผู้ที่จะมาเทศน์อย่างนี้ สาเหตุที่จะเทศน์อย่างนี้ไม่ได้ มันทำไม่ได้ พูดง่าย ๆ เอาพูดให้ตรงเป๋ง ทำไม่ได้ รู้ไม่ได้ แล้วเอาอะไรมาพูดว่ะ ถ้าลงได้ปฏิบัติได้ธรรม ได้รู้เห็นตามพระพุทธเจ้าแล้ว ใครก็เหมือนกัน ปิดไม่อยู่ปาก ผางออกเลยเชียว พระพุทธเจ้าพระองค์เดียว โลกนี้มืดมิดปิดตา ทำไมโผล่ขึ้นมาตรัสรู้ธรรมแล้วสอนโลกได้สามแดนโลกธาตุ เป็นยังไงอำนาจแห่งธรรม หนักขนาดไหน นั่นฟังซิ ให้พากันตั้งอกตั้งใจนะ อย่านอนใจ อย่ายอกแยกคลอนแคลน หยิบนั้นหยิบนี้ สอนนี้สอนอย่างจริงไม่มีอะไรสงสัยล่ะน่ะ ให้ยึดตามนี้เลย ทุกข์ก็ทุกข์ เป็นก็เป็น ตายก็ตายเพื่อพระพุทธเจ้า กราบพระพุทธเจ้าให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยความอุตส่าห์พยายามบึกบึนตามท่านเถอะ นี่เลิศเลอไปเรื่อยๆ นะ

ดีดดิ้นไปตามกิเลสลากพระพุทธเจ้าลงด้วยความสำคัญของตน ทั้ง ๆ ที่ลากตนลงนั้นแหละ นี่มันไม่มีความหมาย ให้พากันอุตส่าห์พยายามเสียตั้งแต่บัดนี้นะ จึงบอกว่าชีวิตของเราทุ่มใส่กันคราวนี้หมดเลย ว่างั้นแหละ แล้วก็สมมักสมหมาย สมเหตุสมผลทุกสิ่งทุกอย่าง ได้นำธรรมมาประกาศพี่น้องทั้งหลาย ด้วยความเมตตาล้วน ๆ เราไม่มีที่จะชอบยกชอบยอสรรเสริญ เป็นเรื่องของกิเลสหลอกธรรม ซึ่งมันเคยติดสันดานมานมนาน  มันมาหลอกสัตว์โลกทั้งหลาย  กิเลสไม่มีความจริง  มีแต่ความปลิ้นปล้อนหลอกลวงทั้งนั้นละ ให้พากันจำเอา

ธรรมมีแต่ของจริง ไม่มีคำว่าหลอก มันต่างกันอย่างนี้ ให้ยึดเอาเป็นคนละฝั่ง กิเลสอยู่ในหัวใจ ธรรมะอยู่ในหัวใจ เวลานี้กิเลสมีอำนาจมากมันบีบธรรมเอาไว้ มันออกประกาศลั่นโลก  เอาไฟเผาหัวใจโลกด้วยความหลอกลวงของมัน ทุกอย่างที่โลกจะติดร่างแหมันไป มันลากทั้งนั้นแหละ ธรรมประกาศก้องไปตามความสัตย์ความจริง พากันตั้งใจปฏิบัตินะ นี้เราสงสารจริง ๆ และมิหนำซ้ำชาติไทยของเราก็จะล่มจะจม มันมีหลายด้านหลายทาง เหมือนหลวงตาอกจะแตก ฟังซิ ถึงขนาดร้องโก้ก ๆ ต่อชาติไทยของเรา ถึงขนาดนั้นนะ เพราะฉะนั้นเวลาทำจึงจริงทุกอย่าง เพราะถอดออกมาจากหัวใจ ถ้าลงถึงใจแล้วธรรมไม่มีอะไรมาขวางหน้าได้เลย ขาดสะบั้นเลยล่ะ 

นี่ก็ทองคำเราเวลานี้หลังจากมอบคลังหลวงผ่านมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ธันวา ได้เพิ่มแล้วมาถึงเมื่อวานนี้ ๑๖ กิโล ๔๓ บาท ๔๖ สตางค์ ดอลลาร์ได้แล้ว ๓๕,๔๔๔ ดอลล์ นี่ละที่เข้าในคลังหลวงเพื่อเป็นหัวใจ ตับ ปอด พูดง่าย ๆ ของชาติไทยเราคืออันนี้เอง จำให้ดีคำนี้ก็ดี นี่ชี้แล้วชี้เล่า พูดแล้วพูดเล่าอยู่ กลัวชาติไทยของเราจะไม่มีลมหายใจ ยังเหลือแต่ร่างของเมืองไทยมีอย่างหรือ คน ๖๒-๖๓ ล้านคนมีแต่ร่าง ไม่มีคุณค่าสาระอะไรเลยติดเมืองไทยใช้ไม่ได้เลยนะ ให้ต่างคนต่างเด็ด เรามีน้อยเอาออกมา มีมากเอาออกมาจากน้ำใจของเรานี้คุณค่ามาก

การช่วยชาติไทยก็คือช่วยเราทั้งทางด้านวัตถุ คือตัวของเรา บ้านของเรา เมืองของเรา และด้านจิตใจ จิตใจนี้เป็นมหากุศล หนุนเข้ามาจากการบริจาคสมบัติเข้าสู่คลังหลวง บุญเป็นของเราทุกคน ๆ หนุนขึ้น อันนี้ก็ดีนะ ชาติไทยเราก็หนุนขึ้น ๆ จึงได้อุตส่าห์พยายาม นี่เน้นหนักในจุดทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ได้พิจารณาแล้วลงจุดนี้เหมาะสมที่สุด ไม่มีอะไรเหมาะสมยิ่งกว่าจุดทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน และเคียงข้างกันก็ดอลลาร์ ๑๐ ล้าน พอได้ถึงจุดนี้ เรียกว่าเต็มหัวใจตามความพินิจพิจารณา ความมุ่งมาดปรารถนา และความมั่นใจเลยทีเดียว

ถ้าลงถึงจุดนี้แล้ว ไปเมื่อไรก็ได้ ท่านทั้งหลายก็อยู่เป็นสุข ๆ บุญกุศลก็ได้จากการช่วยชาติของตัวเอง และความสุขความเจริญผาสุกร่มเย็นทุกอย่างก็ได้จากการช่วยชาติของเราเอง เราอยู่เป็นสุขทั่วประเทศ จิตใจของเราชุ่มเย็นด้วยมหากุศลที่เราบริจาคแก่ชาติไทยของเรา หลวงตาก็จะไปอย่างหายห่วง พูดจริง ๆ คราวนี้เป็นครั้งสุดท้ายของเรา เราจะไม่กลับมาเกิดอีกในชาตินี้ ใครจะว่าไงเราก็ว่า เราไม่เคยสนใจกับถังขยะล่ะนะ ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่เรากราบไหว้บูชา พ้นมาโดยลำดับก็พ้นเพราะธรรมพระพุทธเจ้า ไม่ได้พ้นจากกองมูตรกองคูถนะ เราอย่าเอามันมาเป็นอารมณ์อะไร

นี่ละหายห่วง ถ้าได้จุดนี้แล้วเราหายห่วง ในชีวิตนี้ได้ช่วยทั้งตัวเองและได้ช่วยทั้งชาติบ้านเมืองในวาระสุดท้ายแล้วหายห่วงเลย ขอให้พี่น้องทั้งหลายตั้งอกตั้งใจทุกคน ทุกคนให้มีขอบมีเขต มีเหตุมีผล มีหลักมีเกณฑ์ อย่าโลเลโลกเลกนะ การประพฤติปฏิบัติตัว เราไม่มีความสุขความเจริญแน่นหนามั่นคงและความสงบร่มเย็น จากการทำความชั่วและการปล่อยตัวนะ การปล่อยตัวมีแต่ความเลว ๆ ไร้สาระทั้งนั้น การปฏิบัติรักษาตัวเอง ไม่ว่าวัยใด ๆ ให้ต่างคนต่างปฏิบัติเพื่อความดีของตัวเอง ความดีนั้นแหละ ที่จะหนุนเราให้เป็นคนดีมีความสุขความเจริญ ความชั่วมีแต่เป็นไฟเผาลงทั้งนั้น เหล่านี้เป็นคำสอนพระพุทธเจ้าให้ฟังนะ เราอย่าฟังพวกโจรพวกมารที่มันกระซิบกระซาบอยู่ภายในใจของเราทุกวัน ดึงไปแต่ให้ทำความชั่วช้าลามกเตร็ดเตร่เร่ร่อน เต็มไปหมด นี่ความชั่วอยู่ในใจของเรา ธรรมก็อยู่ในหัวใจ สอนเข้าไปที่หัวใจเรา ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ พูดไปมันไปใหญ่นะ

 

                                                [หลังฉัน]

คนไทยต้องมาช่วยบ้านเมืองของตน พ่อแม่ของตนอยู่ที่นี่ต้องมาช่วยกัน ใครอยู่ที่ไหนไม่รักชาติบ้านเมือง ไม่รักพ่อรักแม่ของตนไม่มี แม้แต่สุนัขเขาก็ยังรักบ้านของเขา รักถิ่นฐาน ใครเข้าไปผ่านไม่ได้นะหมาน่ะ เขารักถิ่นฐานของเขา เขาหวงถิ่นฐาน คนเราไม่รักถิ่นฐานบ้านเรือนพ่อแม่ของตนใช้ไม่ได้เลย ต้องรัก เมื่อรักแล้วใครอยู่ที่ไหนก็ต้องส่งมาสนับสนุนบ้านเมืองของตนให้มีความแน่นหนามั่นคง ก็เท่ากับพ่อแม่ของตนแน่นหนามั่นคงอยู่เย็นเป็นสุขนั่นแหละ

ให้ช่วยกันทุกคนๆ เมื่อเช้านี้ก็ได้แผดออกหนหนึ่ง เทศน์เมื่อเช้าออกอย่างผึงเลย ติดเครื่องติดทันไม่ทันคันเร่งก็เหยียบ ทันไม่ทันมันพุ่งเลยเมื่อเช้านี้ เห็นไหมล่ะอย่างงั้นแล้ว ใครอยู่ที่ไหนช่วยกัน เวลานี้ทองคำของเราที่ได้เข้าสู่คลังหลวงแล้ว ๕,๕๕๙ กิโล มอบวันที่ ๑๐ เรียบร้อยแล้วนั้น หลังจากวันที่ ๑๐ เดือนธันวานี้ ได้เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ๑๖ กิโล ๔๓ บาท ๔๖ สตางค์ นี่จะตั้งทองคำขึ้นมาใหม่ ดอลลาร์ เงินสดตั้งขึ้นพร้อมกัน ให้ขึ้นพร้อม ๆ กันเลย ทองคำนี่ขึ้นตั้งเริ่มบัดนี้ถึง ๑๖ กิโลแล้ว

ก้าวถึง ๕๐๐ กิโลแล้วก็หลอมอีกทีหนึ่ง ดอลลาร์ตามกันไป พอให้ครบตามความมุ่งหมายบ้างก็เอา จะเป็น ๒ แสนหรือ ๓ แสน อะไรก็แล้วแต่เถอะ มันควรที่จะขยับถึงนั้นก็เอา อย่างคราวที่แล้วมาเอาจนได้ถึง ๓ แสนเลย กับทองคำ ๕๐๐ กิโลที่ผ่านมานี่ คราวนี้เราก็จะตั้งแบบเดียวกันตลอด จนกระทั่งเมืองไทยเราสมบูรณ์ตามความมุ่งหมายแล้วนั้นเราถึงจะหยุด คือยุติกันได้ และยุติกันไป ฟังกันไปเรื่อยๆ  ไม่ใช่ยุติปล่อยทิ้งไปเลย เราฟังอยู่ หากบกพร่องตรงไหนอีกเอาอีกอยู่อย่างงั้น

อันนี้จุดใหญ่เรามุ่งและประกาศออกมาแล้วว่า ทองคำให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตันในการช่วยชาติคราวนี้ ดอลลาร์ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าจะได้ ๑๐ ล้าน สองจุดนี้สำคัญมากทีเดียว ส่วนเงินสด เงินบาท ดังเรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ไม่ค่อยแน่นอนนักแหละ เพราะคนที่มาติดต่อขอความช่วยเหลือจากเรานี้ อยู่ในวัดป่าบ้านตาดแทบจะไม่เว้นแต่ละวันนะ เข้ามาเรื่อย ขอทางนู้นทางนี้ โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ต่างๆ ที่อะไรต่ออะไรมากจริงๆ  นะ

ยังไงพี่น้องชาวไทยเราอย่าให้ขายชาติของตนเองนะ ด้วยความอ่อนแอท้อแท้ ไม่สามารถที่จะพยุงเมืองไทยเราขึ้นได้ตามกำหนดและกำลังวังชาของเรา ที่พอจะยกจะอุ้มขึ้นได้ ในทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันนี้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของพี่น้องชายไทยเรา เราแน่ใจ เราเชื่อพี่น้องชาวไทยเรา ค่อยก้าวค่อยเดินไปอย่างนี้ เพราะเมืองไทยนี้เป็นเมืองใหญ่หนักมาก บรรจุคนตั้ง ๖๒ ล้านคน หมู หมา เป็ด ไก่ มีน้ำหนักเหมือนกันหมด เข้าใจไหม มีน้ำหนักแล้วมันก็ยกยาก ค่อยยกกันไป บืนกันไปอย่างนี้ละ  แต่ยังไงให้ได้ตามจุดนั้นนะ ไม่ให้เคลื่อนคลาดเลย

ทองคำเราต้องให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วดอลลาร์ก็ดังที่เรียนแล้วว่า ค่อนข้างเรียกว่าแน่ ๑๐ ล้านติดกันไปเลยละ นี่เป็นจุดใหญ่แห่งชาติไทยของเรา และเป็นกาลเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ชาติไทยของเราพยุงกันขึ้นในเวลาจำเป็นเช่นนี้ ดังพี่น้องทั้งหลายทราบทั่วกันแล้วเมืองไทยเป็นยังไง เมื่อผ่านมาแล้วไม่กี่วัน กี่ปี กี่เดือนมานี้ล่ะ เป็นยังไงบ้าง จนมองหน้ากันไม่ได้จะว่าไง เวลานี้ก็พอชื่นอกชื่นใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสบ้าง ก็เพราะกำลังแห่งความรักชาติและความเสียสละ และความพร้อมเพรียงสามัคคีหนุนกันขึ้นนะ เวลานี้ค่อนข้างดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกอย่างค่อยดีขึ้น ๆ

เราจึงต้องพยุงให้ได้ตามจุดนั้น จุดนี้เป็นจุดมุ่งหมายแห่งการช่วยชาติของเรา เวลาได้ตามจุดมุ่งหมายนี้แล้วโลกภายนอกภายในจะรู้ทั่วถึงกันหมด ว่าเมืองไทยของเราช่วยชาติตนเองเต็มความสามารถ และได้ตามความมุ่งหมายแห่งการช่วยชาติของตน คือทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์ ๑๐ ล้านดอลล์ นี้เป็นจุดใหญ่ และกาลนี้เป็นกาลเวลาสมควรอย่างยิ่ง ถ้านอกเหนือจากนี้จะไม่มีเวลาได้นะ เราอยู่เฉย ๆ ธรรมดาไม่เคยเห็นมีใครเอาทองคำมาให้คลังหลวงของเรา เอา นี่ทองคำสู่คลังหลวง ๑ กิโล หรือ ๕ กิโลไม่เคยมี เงินบาทก็ดี อยู่ ๆ เอามาให้เลย ดอลลาร์ก็ดี ไม่มี

นี่เวลาเราช่วยเมืองไทยมาทุกแบบ มาทุกอย่าง ทองคำก็มาแล้วเวลานี้ ๕,๕๕๙ กิโลครึ่งแล้ว ซึ่งเข้าสู่คลังหลวงอย่างเรียบร้อยปลอดภัย แล้วดอลลาร์เข้าถึง ๗ ล้าน ๒ แสนกว่าแล้วนี้ นี่เวลาเราช่วยชาติเห็นประจักษ์อย่างนี้ สำหรับเงินไทยเรากระจายทั่วดินแดนนั่นแหละ ผ่านไปตามถนนหนทาง เฉพาะอย่างยิ่งตามโรงพยาบาลจะได้เห็นตึกต่าง ๆ ที่เต็มอยู่โรงพยาบาล ล้วนแล้วตั้งแต่สมบัติของพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคแล้วกระจายออกไปเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองของเรา เป็นตึก โรงพยาบาล เครื่องมือแพทย์นี้มากนะ นับตั้งแต่เครื่องมือราคาแพง ๆ หลายๆ  ล้านลงมาจนกระทั่งถึงต่ำสุดของเครื่องมือ รถเวลานี้จะร้อยกว่าคันแล้ว เราไม่สงสัย ก็เราไม่ได้ไปนับนี่วะ ดูตามโรงพยาบาลและรถที่ติดตามเข้าไปในโรงพยาบาลนั้น คาดเอา คาดว่ามันไม่ผิด รถนี่ร้อยกว่าคันแล้วเวลานี้

ในโรงพยาบาลหนึ่ง ๆ เราก็ให้ตามความจำเป็น โรงไหนที่มีความจำเป็นมากให้มาก ให้ตามความจำเป็นทุกอย่าง โรงละหนึ่งคันนี้จำนวนมากแหละ สองคันมีน้อย สามคันมีน้อย สี่คันมีน้อยมาก บางโรงให้สี่คันก็มี สามคัน สองคัน หนึ่งคันมี ทั่ว ๆ ไป ตามวงราชการที่จำเป็นบางแห่งเรายังให้รถยนต์เหมือนกันนะ ให้วงราชการทั่ว ๆ ไปหมด นี่หมายถึงว่า สมบัติเงินทองของพี่น้องชาวไทยเราที่บริจาคออกไป เห็นทุกแห่งทุกหน ไปตามที่ต่าง ๆ เห็นหมด เพราะเราไม่เก็บ เราไม่มีคำว่าจะหยิบจะฉวยเอาจากพี่น้องทั้งหลาย เราชี้นิ้วเลยว่าบาทหนึ่งเราไม่มีในหัวใจเรา เราเปิดขนาดนั้นละด้วยความเมตตาครอบไว้หมด อะไรจะรั่วไหลแตกซึมไปไหนได้ว่ะ ความเมตตาครอบหมดแล้ว เราพิถีพิถันมากในการเงินทั้งหลาย

คิดดูซิว่าการเงินการทองหลวงตาได้เคยเกี่ยวข้องกับมันเมื่อไร ไม่เคย มาสร้างวัดสร้างวาก็ไม่เคย ได้มาเท่าไรบอกสั่งเขาเลยให้จัดซื้อนั้นซื้อนี้ ช่วยตามโรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาลนี้มีมาตั้งแต่สร้างวัดทีแรกนะ ไม่ใช่พึ่งมีมาตอนที่เราช่วยชาติ มีมาตั้งแต่สร้างวัดป่าบ้านตาด แต่ไม่มากนัก มาตอนช่วยชาตินี้ก็มีเงินขึ้นมาบ้าง คนนั้นก็ขอ คนนี้ก็ขอ แจกจ่ายไปเกือบจะว่าทั่วถึงกันนั่นแหละ ก็ทั่วเมืองไทยช่วยหมดทุกภาค ไปที่ไหนก็เห็นก็เจอแหละ ทั้งซื้อที่ซื้อฐานอะไรให้ พิสดารมากทีเดียว

นี่ละเราไม่มีการเก็บหรือที่ว่ารั่วไหลแตกซึม พี่น้องทั้งหลายเชื่อได้เลย หลวงตาเชื่อตัวเองเต็มกำลังด้วยความเมตตาบริสุทธิ์ใจ นี่ละเราจึงช่วยจริง ๆ เพราะฉะนั้นพูดถึงคราวเด็ดต้องเด็ด พูดเล่นไม่ได้เรา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมทั้งนั้น ใครจะว่าอะไรเราไม่สนใจกับใคร ขอให้ธรรมพาเดิน เดินตรงไหนขาดสะบั้นไปเลย เป็นอย่างอื่นไม่ได้นะเรื่องธรรม อ่อนไม่ได้เรื่องธรรมต้องแข็ง ถึงคราวแข็งต้องแข็ง กิเลสมันแข็งตลอดเวลา มันหน่วงเหนี่ยวพวกเรานี้เอาจมไป ๆ ไม่ฉุดไม่ลากด้วยธรรมไม่ได้นะ กิเลสพาให้จม ธรรมพาให้ฟื้น ให้พากันจดจำเอาทุกคน

นี่คราวนี้เป็นคราวจำเป็นมากที่สุด ที่เราจะประกาศก้องขึ้นมาด้วยความสามารถของเราที่รักชาติของตน ได้ช่วยกันทะนุถนอมอุ้มชูชาติไทยของเราให้ถึงตามจุดที่หมายที่ชาติของเราได้กำหนดกันไว้ว่า น้ำหนักทองคำให้ได้ ๑๐ ตันและดอลลาร์ ๑๐ ล้าน นี่เป็นจุด พอหยุดจากนี้แล้วก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน ก่อนมานี้ก็ไม่ได้ เวลานี้เป็นกาลอันควร มีมากมีน้อยได้ทั้งนั้น ควรทั้งนั้น เหมาะสมทั้งหมด ให้เอาเสียตอนที่เหมาะสม ตักตวงเอาเวลานี้ ไม่เช่นนั้นจะจมได้นะเมืองไทยเรา ขอให้พี่น้องทั้งหลายฟังเสียงหัวหน้าด้วยนะ มองมาดูหน้าหลวงตานี่ก็ได้ ว่าหลวงตาองค์นี้เหรอองค์ที่ต้มตุ๋นโลกทั้งหลายให้ล่มจมฉิบหายไป ดูให้ดีนะ หลวงตาทำตัวเองให้จมประการใดบ้าง แล้วมาทำพี่น้องทั้งหลายให้จมอีกไปด้วยอีกแล้วเหรอ ให้ถามว่างั้น

ถ้าเป็นที่แน่ใจว่าไม่จมแล้ว เอา พุ่งเลยนะ หลวงตานี้ไม่สงสัยแล้วในตัวเอง เราไม่มีคำว่าจม เราหมดทุกสิ่งทุกอย่าง คำว่าจม ว่าฟื้นว่าฟูเราหมด เราไม่มีอะไร เหลือแต่คำว่าพอเท่านั้น คำว่าพอนี้ ไม่ได้เหมือนเขากินข้าวกินน้ำ เขาพอ เขาอิ่ม แล้วนั้นพอ พอในธรรมทั้งหลายพอตลอดอนันตกาล เรียกว่านิพพานเที่ยง นี่คือความพอแห่งธรรมทั้งหลาย เรียกว่าเลิศเลออยู่ในคำว่าพออันนี้เอง เราได้เต็มเหนี่ยวของเราทุกอย่างแล้ว เราหายสงสัย อดีตอนาคตไม่มีในหัวใจของเรา ปัจจุบันก็เต็มเปี่ยมแล้ว เป็นห่วงเป็นใยแต่พี่น้องทั้งหลายเท่านั้น จึงประกาศก้องทั้งเช้าทั้งเย็น

บางท่านก็จะเกิดความรำคาญใจก็ได้ มองเห็นหน้าหลวงตาบัวอาจจะไม่อยากจะเห็น อยากพบ จะหลบจะหลีกปลีกตัวไปที่ไหนก็อาจเป็นได้ มาอะไร มารบกวนล่ะซิ รบกวนอะไร พอเขาถามว่ารบกวนอะไร ทางนี้จ้อเข้าไปแล้ว ไหนล่ะดอลลาร์ ทางนู้นยังไม่ตอบ นี่มันก็น่ากลัวเหมือนกัน ถ้าคิดเผิน ๆ ก็หลวงตาเป็นหลวงตาที่กวนบ้านกวนเมืองที่สุด  ถ้าคิดแบบกิเลสคิดนะ แล้วจะทำบ้านเมืองให้จม ถ้าคิดแบบอรรถแบบธรรม หลักธรรมชาติแล้ว ท่านทั้งหลายก็เข้าใจเอง เท่าที่หลวงตาเหนื่อยยากลำบากอยู่เวลานี้ หลวงตาไม่ได้เหนื่อย เพราะหลวงตาจะต้องเกี่ยวข้องดัดแปลงหรือซ่อมแซมตรงไหน ในหลวงตาเอง นอกจากซ่อมแซมในร่างกาย เดี๋ยวจาม เดี๋ยวไอ เดี๋ยวกินยาแก้หวัด กินยาแก้ท้องไปเท่านั้นเอง ส่วนที่จะกินยาแก้หัวใจนี่ไม่มี เราไม่มีเลย ว่าธรรมใดที่เราจะเสาะแสวงหาให้มากกว่านี้อีกเราก็ไม่มี

ขอให้ท่านทั้งหลายได้รักษาจิตใจให้ดีนะ จะเป็นอย่างนี้ไม่เป็นอย่างอื่นเลยนะ พระพุทธเจ้าแสดงอะไรหนึ่งไม่มีสอง เรียกว่าจิตเมื่อเต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรบกพร่องแหละ เรียกว่าหมด การเยียวยารักษาจิตใจที่บริสุทธิ์เต็มที่แล้วไม่มี ก็มีแต่รักษาโรค เกี่ยวกับเรื่องธาตุเรื่องขันธ์เป็นธรรมดาไปเท่านั้น นี่ก็แบบเดียวกัน เราไม่มีอะไรวันหนึ่ง ๆ อยู่ไป ๆ นี้อยู่เพื่อโลกเพื่อสงสาร อยู่เพื่อเราไม่มี จะเพื่ออะไรอีก นั่นมันก็รู้อยู่แล้ว ประจักษ์หัวใจของเรา ไม่ต้องไปถามใคร สนฺทิฏฺฐิโก ประกาศป้างขึ้นมาด้วยความรู้ตัวเองเท่านั้น นี่ละให้พากันจำไว้นะพี่น้องทั้งหลาย

ให้อุตส่าห์พยายามทุกคน ๆ วันนี้ก็จะมีไปเทศน์อีกตอนบ่าย เมื่อวานก็ไปเทศน์ทางนู้น เมื่อคืนนี้ก็มาเทศน์ที่กุฏินั้นเผ็ดร้อนบ้างเหมือนกัน เมื่อคืนนี้ก็ดี เป็นคติได้เป็นอย่างดี ๆ ในการเรียงลำดับวิถีจิตที่ก้าวเดินเพื่อความพ้นทุกข์ เรื่องจิตตภาวนา แทบจะว่าล้วน ๆ เลยเมื่อคืนนี้ ตอนเช้านี่ก็พูดเกี่ยวโยงไปช่วยชาติบ้านเมืองและจิตใจของเราให้มีธรรมเป็นเครื่องสัมผัสสัมพันธ์กัน อย่าให้มีแต่กิเลส มันเกี่ยวมันพันตลอดเวลา จะมีแต่ความทุกข์เดือดร้อนตลอดไปนะ ถ้ามีธรรมเป็นเครื่องกำจัดปัดเป่ากันบ้างคนเราพอซุกหัวนอนได้นะ เอาละเอาเพียงเท่านี้วันนี้ไม่มากนะ เหนื่อยแล้ว

(ลูกศิษย์ : กราบเรียนครับ วัด ๗ แห่งที่อเมริกาที่ฟังเช้า ๆ นี่ครับ ตอนนี้ก็ได้ฟังอยู่ครับ วัดพุทธรัตน์ วัดพุทธรัตนาราม วัดพุทธมหามุนี วัดลาวสันติธรรม วัดลาวเทพนิมิต วัดลาวศิริพุทธาวาส วัดเขมร มี ๗ วัดครับผม) ดีแล้วเขาได้ยินได้ฟังบ้าง เขาติดต่อทางนู้นมา พอพูดนี้ก็ติดโทรศัพท์มือถือ เขาจ่ออยู่นี่ พอพูดปั๊บติดลง ทางนู้นได้ฟังขณะเดียวกันกับเราฟัง

         

อ่านและฟังเสียงพระธรรมเทศนาของหลวงตาวันต่อวันได้ที่

www.Luangta.com or www.Luangta.or.th


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก