คำว่า พอ เป็นธรรมเลิศสุดยอด
วันที่ 12 ธันวาคม 2545 ความยาว 38.04 นาที
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม

วันที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ [เช้า]

“คำว่า พอ เป็นธรรมเลิศสุดยอด”

 

[ก่อนจังหัน]

        (ม.ร.ว.ทองศิริ ทองแถม : งานศพของภรรยาผม สอางค์ ทองแถม มีผู้ร่วมบุญได้ช่วยเมตตาเกี่ยวกับงานศพ ผมรวบรวมได้แล้ว ๗๐๐,๐๐๐ บาท และผมก็ซื้อดร้าฟท์มาถวายหลวงตาแล้ว โดยไม่ได้หักค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว เป็นเงิน ๗๐๐,๐๐๐ บาทของท่านพี่น้องทั้งหลายที่ช่วยงานศพภรรยาผม จึงขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ครับ) เอามามอบให้หลวงตาเมื่อคืนนี้ เอาดร้าฟท์มามอบ ๗๐๐,๐๐๐ บาท ที่ศรัทธาพี่น้องทั้งหลายมาอนุโมทนาทำบุญอุทิศให้สอางค์ ทองแถม หมูเรานั่นแหละ ปัจจัยรวบรวมแล้วเอาดร้าฟท์มาถวายหลวงตา ๗๐๐,๐๐๐ บาทเมื่อวานนี้ แต่หลวงตาชักน้อยใจอยู่หน่อยหนึ่ง ได้น้อยเกินไป เอาละจบแล้ว ๆ

         ที่เขาว่า พระที่วัดนรนาถฯ ไปเรียนวิทยานิพนธ์นิเพนที่ไหนมา มาพูดบรรยายถึงเรื่องของเรา ว่าหลวงตาบัวเทศน์เรื่องอรรถเรื่องธรรมนี้ไม่มีสงสัยเลย ถูกต้องแม่นยำตลอด นี่อันที่สองข้อเปรียบเทียบกันเหมาะเจาะเหลือเกิน ข้อที่สาม แต่ท่านชอบตลกหน่อย ข้อที่สามเหน็บลงมา ทีนี้ให้พรนะ ได้เวลาแล้ว ต่อจากนี้ไปเราก็จะได้รวบรวมทองคำ ดอลลาร์ เงินสด เข้าสู่คลังหลวงของเราไปเรื่อย ๆ นี่ตั้งต้นใหม่อีกแล้ว พอถึงจำนวนที่เราเคยมอบทุกครั้งมาก็ ๕๐๐ กิโล ทองคำ ส่วนดอลลาร์ให้ติดตามไป นี้เราก็จะมอบเป็นลำดับ จนกระทั่งถึง ๑๐ ตันแล้วหลวงตาก็ลาเวที ลาแบบหงายเลยนะ เพราะเวลานี้ตะเกียกตะกายเพื่อพี่น้องทั้งหลาย

สำหรับเราเองกำลังวังชาทุกอย่าง ลดลงหมดแล้ว แม้ที่สุดเทศน์หลงหน้าหลงหลังแล้วเดี๋ยวนี้ จึงขออภัยจากบรรดาท่านผู้ฟังทั้งหลายในขณะที่เทศน์ เทศน์ไป ๆ หลงลืมไปแล้วเวลานี้ นี่เราตะเกียกตะกายอยู่ด้วยน้ำใจของเราที่มีต่อพี่น้องชาวไทยเท่านั้นเองแหละ พอได้จบตามกำหนดกฎเกณฑ์ของพี่น้องชาวไทยเรา ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์เคียงข้างกันไป ที่เราตั้งใจอยู่ลึก ๆ ก็คือว่าให้ได้ ๑๐ ล้านดอลล์ แต่เวลานี้ได้ ๗ ล้านดอลล์กว่าแล้ว เพราะเสร็จนี้เราก็หงายเลยละทีนี้ หงายก็หงายไปเลย ไม่เอาไหนอีกนะ กรุณาทราบตามนี้ ให้ต่างคนต่างเร่งตามจุดหมายปลายทางของเราว่า ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วดอลลาร์ก็เคียงข้างกันไปก็คงไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้าน หนุนเข้าไปตรงนี้ละนะ ต่อไปนี้จะให้พร

                              

[หลังจังหัน]

 

        เหมือนสำนักงบประมาณนะ วัดป่าบ้านตาดเรา เรียกว่า สำนักงบประมาณวัดป่าบ้านตาดก็ไม่น่าจะผิดไป ที่นั้นมาที่นี่มา ส่วนมากจะเป็นโรงพยาบาลมากกว่าเพื่อน โรงเรียน อันนี้มากกว่าเพื่อน ที่จรมาแบบต่าง ๆ ก็เยอะ นี่ถึงว่ามันไม่ทัน อย่างมานี่ก็เกี่ยวกับสัตว์กับเสือ พวกสัตว์น้ำในคลอง หมุนไม่ทัน

         เมื่อคืนก็เทศน์ จะให้เทศน์อะไรนักหนา มันตายได้นะผู้เทศน์ อย่าว่าแต่ผู้ฟังตายได้นะ ผู้เทศน์ตายได้ เทศน์ไม่หยุดไม่ถอย มาที่นี่ยิ่งเทศน์ทั้งเช้าทั้งเย็น เราอยู่วัดจะมีตอนเช้า ฉันเสร็จแล้วก็เทศน์ ตอนกลางคืนไม่มี แต่ที่นี่มีทั้งเช้าทั้งเย็น มิหนำซ้ำมีงานแทรกเข้ามาอีก บางวันมี อยู่อย่างงั้น (ลูกศิษย์ : เทกซัสเขาติดตามมาถ่ายสดไปอเมริกาครับ) เออ อยู่อุดรก็ติดตามมา พวกเทกซัสติดตามมาฟังนี้ พอเทศน์นี้ก็ออกทางสหรัฐทุกเช้า ทุกเช้าเขามาติดต่อทางวัดป่าบ้านตาด เรามาที่นี่เขาก็ติดต่อมานี้อีกแล้ว เทศน์นี้ก็เพื่อทางสหรัฐก็ได้ฟัง ที่เทกซัสมันมีหลายประเทศนะ ลาว เขมร เวียดนาม แล้วคนไทยเราก็แทรกอยู่ในนั้นด้วย นี่หมายถึงพวกชาวพุทธ อยากได้ยินได้ฟังจากทางนี้ไปอีกทีหนึ่ง ทางอินเตอร์เน็ตเขาก็ฟัง เขาก็ดูอยู่ตลอดเหมือนกัน ส่งไปจากทางนี้แหละ นี้ยังไม่พอ เทศน์ที่นี่มาขอฟังที่นี่อีก นี่ก็รออยู่แล้วไม่ใช่หรือ ก็อย่างงั้นซิจะให้ว่าไง 

         มีธรรมเท่านั้นพี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบนะ ที่จะค่อยช่วยฉุดช่วยลากตัวของเราเองและส่วนรวมขึ้นมาได้ ส่วนเรื่องกิเลสท่านทั้งหลายอย่าหวังกับมัน ทั้ง ๆ ที่เราดิ้นกับมันอยู่ตลอดเวลา ดิ้นกับมันก็เป็นฟืนเป็นไฟเผาไปตลอดทั่วดินแดน มีธรรมเท่านั้นจะเป็นน้ำดับไฟ ถ้าใครมีธรรมในใจ ผู้นั้นก็จะพอยับยั้งตั้งตัวได้บ้าง ถ้ามีแต่การดีดการดิ้นกับกลมายาของกิเลสจะไม่มีหวังด้วยกันทั้งนั้น โลกไหนก็โลกเถอะ ว่างั้นเลย มีธรรมอย่างเดียว ชี้นิ้วเลย ที่จะค่อยฉุดค่อยลากตัวของเราและส่วนรวมขึ้นมาได้

เรื่องกิเลสท่านก็ประกาศไว้แล้ว พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ว่าคือภัยต่อธรรม ต่อธรรมก็คือภัยต่อเรา กิเลสก็มาเป็นภัยกับเรา เพราะเกิดขึ้นจากใจสัตว์โลก เกิดขึ้นจากใจทำลายใจ ธรรมเกิดขึ้นจากใจแต่ไม่มีโอกาสที่จะมาทำลายกิเลสได้ มีแต่กิเลสย่ำยีตีแหลกตลอดเวลา โลกนี้จึงหาความสุขได้น้อยมากทีเดียว ทั้ง ๆ ที่ใครเกิดมานี้มีแต่มุ่งหาความสุขด้วยกันทั้งนั้น ผลที่ได้มีตั้งแต่ผิดหวัง ๆ ก็เพราะเดินไปทางผิดหวัง ได้แต่เดินตามทางกิเลส มันไม่มีนะความสุข อย่าพากันตื่นไปกับมันนักหนา

ขอให้ฟังเสียงศาสดาองค์เอก ซึ่งเป็นผู้พ้นจากทุกข์โดยประการทั้งปวงแล้วบ้างนะ ถ้าไม่ฟังนี้จะไม่มีทาง ให้พากันตั้งอกตั้งใจฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ธรรมดาโลกมันชอบแต่ของแสลง เรื่องหยูกเรื่องยาที่จะให้หายโรคหายภัยมันไม่ค่อยชอบ แต่เราเชื่อทางเหตุทางผลแล้ว โรคนี้จะหายได้ด้วยยาเท่านั้น ไม่ได้หายด้วยของแสลง เราต้องปัดของแสลงออก ทั้ง ๆ ที่รักที่ชอบ ที่อยากมันนั้นแหละ ให้ปัดมันออก นั้นคือตัวภัย สิ่งที่ไม่ชอบคือตัวหยูกตัวยา นี้คือตัวผล ให้ยึดอันนี้เป็นหลัก บังคับตัวเข้าสู่หยูกสู่ยา เข้าสู่แถวทางเดินอันดีงาม

เรื่องของโลกนี้มันชอบของแสลง โรคหัวใจเราคือโรคกิเลสนี้ชอบของแสลงมาเป็นประจำแต่ไหนแต่ไรมา ธรรมท่านก็เป็นเครื่องกำจัดสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยจะสนใจกัน เรื่องความทุกข์จึงหนาแน่นขึ้นทุกวัน ๆ มองไปที่ไหนน่าสลดสังเวชนะ ใครจะว่าหลวงตาบัวเป็นบ้าก็ตาม ก็มันเป็นอย่างงั้นจริง ๆ จะให้ว่าไง ไปที่ไหนมองดูมีตั้งแต่เรื่องกิเลสล้อมหน้าล้อมหลังตามกิริยาภายนอกภายในใจของสัตว์โลก มีแต่กิเลสทำงาน มันทำงานเพื่อความทุกข์ความเดือดร้อน เพื่อฟืนเพื่อไฟ จะหาความเย็นอกเย็นใจมาจากไหน

ถ้ามีธรรมเข้าแทรกก็มีน้ำดับไฟบ้าง หากไม่มีธรรมเข้าแทรกไม่มีหวัง หมดตัวเลยละ เกิดมาชาติหนึ่งๆ หมดตัวไปเลย จะไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวเลย ใครอย่าเอาสิ่งที่กิเลสเอามาอวด เอามาอวดธรรมนะ กิเลสมันอวดธรรมนั่นแหละ แต่เราก็โง่กับกิเลสก็เอากิเลสมาอวดธรรม ถ้าเรื่องของอรรถของธรรมแสลงแทงใจ ไม่อยากคิดอยากอ่าน อยากเคลื่อนไหวไปทางอรรถทางธรรม แต่ถ้าเรื่องของกิเลสแล้วไหลไปเลย หากว่าเป็นรถนี้ไม่ต้องติดเครื่อง ดีไม่ดีไม่ได้เหยียบคันเร่ง มันพาไหลไปเลย ไหลไปไหน ไหลลงทะเลละซิ จะไหลขึ้นไปหามรรคผลนิพพานที่ไหน

        ธรรมประกาศป้างๆ มา เป็นความสัตย์ความจริงสำหรับชะล้างสิ่งเลวร้ายทั้งหลายของสัตว์โลก เราเป็นลูกชาวพุทธ ขอให้พากันฟัง อย่าบืนไปตามกิเลสอย่างเดียว ถ้าหากว่าสัตว์โลกนี้เป็นไปตามกิเลส มีความสุขความเจริญแล้ว ศาสนาซึ่งเป็นน้ำดับไฟของกิเลสก็ไม่ควรมีในโลก ศาสดาก็ไม่ควรมี เพราะกิเลสสมบูรณ์แบบทุกอย่างแล้วที่จะผลิตความสุขความสมหวังให้สัตว์โลก แต่นี้มันมีแต่ความผิดหวังละซิ พากันฟังให้ดี ให้พากันดัดแปลงแก้ไขจิตใจเราบ้าง วันหนึ่ง ๆ ให้มีธรรมเข้าแทรกในใจ ไม่มากก็ให้มี มีน้อยก็ดี ดีกว่าไม่มี ดีกว่าที่กิเลสเหมาเสียทั้งวัน ๆ เลย

         เรื่องทุกข์มากไม่มีใครเกินโลกมนุษย์เราแหละ เพราะมนุษย์เราฉลาด ความฉลาดของมนุษย์นี้มาจากกิเลสพาให้ฉลาด ถ้าธรรมพาให้ฉลาดจะหลุดพ้นไปโดยลำดับ ปลดเปลื้องทุกข์ไปได้เป็นลำดับลำดา แต่กิเลสพาฉลาดนี้พาจมทั้งนั้นแหละ ให้พากันฟังเสียงบ้าง มันน่าทุเรศจริงๆ มองดูคนทั้งคนจนแทบไม่เห็นคนเลย เห็นแต่กำแพงของกิเลสกั้นไว้ไม่ให้เห็นตัวคน รอบตัวของคนมีแต่กิเลสเต็มตัว กำแพงกั้นไว้เลย ไม่ให้อรรถให้ธรรมเข้าไปแทรกได้เลย กำแพงของกิเลสหนาแน่นมาก ธรรมจึงเข้าสู่จิตใจสัตว์ได้น้อยมากทีเดียว จึงต้องตีกำแพงเข้าไป ๆ มันไม่อยากทำดีฝืนเข้าไป ก็เราอยากดีอยู่นี่นะ จะให้ว่าไง

กิเลสมันไม่อยากให้ทำดี ก็เราอยากดีอยู่เราต้องทำดี ฝืนกิเลสละซิ ถ้าไม่ฝืนไม่มีวัน จะจมได้แน่ ๆ ถ้าใครไม่ฟังเสียงศาสนา คือพุทธศาสนาแล้วจะมีตั้งแต่ความจม ๆ  ความหวังเท่าไร หวังเท่าไรไม่มีความหมาย ถ้ามีอรรถมีธรรมแทรกอยู่ในใจ นี้ละคุณค่ามหาศาลอยู่ที่นี่ สมบัติเงินทองสิ่งใดในโลกสู้ธรรมภายในใจไม่ได้ ธรรมภายในใจนี้ผลิตออกได้หมด ความดีความงาม สมมักสมหมายออกได้จากธรรมเท่านั้นแหละ นี่พี่น้องทั้งหลายก็ได้ร่วมมือร่วมใจกันมอบทองคำเมื่อวันที่ ๑๐ นี้ก็สมมักสมหมาย สมใจ

นี้ละเป็นไปตามธรรมแล้วก็เป็นอย่างนี้เอง สมมักสมหมาย ทองคำได้ ๕๐๐ กิโล เต็มเปรี๊ยะเลย ดอลลาร์เราก็ไม่คาดว่าจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ๓๐๐,๐๐๐ ดอลล์ แต่ครั้นแล้วก็ปึ๋งปั๋งขึ้นมา นี่ละความรักชาติ ความเสียสละ เป็นคุณเป็นประโยชน์ ทั้งต่อจิตใจเรา ทั้งส่วนรวมคือชาติไทยเรา ให้มีความแน่นหนามั่นคงจากการเสียสละ ถ้าต่างคนต่างตระหนี่ถี่เหนียว เงินบาทหนึ่งก็ไม่ได้ ทองคำ ๑ กิโลก็ไม่ได้ เมืองไทยก็จม ทั้ง ๆ ที่คนไทย ใครก็อยากฟื้นอยากฟู อยากเจริญรุ่งเรือง แต่ตัวจมเพราะความขัดแย้งกับอรรถกับธรรมไม่รู้ตัวนะ นี่เราก็ได้บริจาครวมกันมาเป็นลำดับลำดา หลายพักหลายตอนนะ

เวลานี้กำหนดให้รวมเข้าสู่คลังหลวงครั้งละ ๕๐๐ กิโล นี่ได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลาย มอบทีไรให้มีกำหนดไว้ว่า เช่นอย่าง ๕๐๐ กิโล พอถึงครั้งที่ ๒ ก็เป็น ๑ ตัน จนกระทั่งถึงจุดที่หมายของเราที่ตั้งเอาไว้ว่า ๑๐ ตัน ในการช่วยชาติคราวนี้ ขอให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ส่วนดอลลาร์เราคาดไว้ค่อนข้างแน่นอนว่าจะไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านแหละ พอทองคำได้น้ำหนัก ๑๐ ตันแล้ว ดอลลาร์จะได้ ๑๐ ล้าน เคียงข้างกันไป ๆ นี้ละเป็นความมุ่งหมายที่จะตั้งชาติไทยของเราให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง ลมหายใจโล่งปอด เพราะการเสียสละของเรากลายเป็นเครื่องเสริมลมหายใจของเรา ให้หายใจโล่ง ผาสุกเย็นไปด้วยความรักชาติ ความพร้อมเพรียง ความสามัคคีกันด้วยการเสียสละ

นี่เราก็ได้เริ่มมากขึ้นแล้ว เวลานี้ค่อนแล้ว ๑๐ ตันน่ะ ได้ ๕,๕๕๙ กิโลแล้วเวลานี้ ต่อไปนี้เราก็เริ่มขึ้นไปอีกให้ถึงจุดที่หมาย จุดสำคัญแห่งชาติไทยของเราที่ต่างคนต่างวิ่งเต้นขวนขวายอยู่เวลานี้ก็คือทองคำซึ่งเป็นหัวใจของชาติไทยเรา นี้ละจุดสำคัญอยู่ที่ทองคำ ดอลลาร์ เป็นลมหายใจของคนไทยทั้งประเทศ เป็นเครื่องยืนยัน เป็นสักขีพยาน เป็นหลักเป็นแหล่งแห่งชาติไทย เป็นตัวประกันของชาติไทยเรา อยู่ในจุดที่ว่า ทองคำ ดอลลาร์ เงินสดก็พัวพันกันไปกับสมบัติทั้งสองนี้ นี่ละเป็นเครื่องหนุนชาติไทยของเราให้อบอุ่น ให้พากันอุตส่าห์พยายาม

เรามีมากมีน้อยเราไม่ได้เป็นเศรษฐี มีเท่าไรก็บริจาคตามเกิดตามมีนั้นแหละ บริจาคหลายครั้งหลายหนก็เพิ่มพูนกันขึ้น เหมือนฝนตกทีละหยดทีละหยาด แม้ไม่เม็ดใหญ่เม็ดโตเท่าภูเขาก็ตาม ตกทีละหยดละหยาด สามารถทำท้องฟ้ามหาสมุทรให้เต็ม ด้วยน้ำได้ นี่ก็ให้เต็มตื้นด้วยสมบัติแห่งชาติไทยของเรา เต็มได้ด้วยความเสียสละของพี่น้องทั้งหลาย ขอให้ยึดหลักธรรมเป็นหลักสำคัญ ไอ้เรื่องกิเลสนี้พอใจ ชั่วขนาดไหนมันก็บอกว่าดี นี่คือกิเลส ความไม่มีเหตุมีผลคือกิเลสอย่างเดียว

ธรรมมีเหตุมีผลล้วนๆ  ธรรมก้าวเดินทางไหนมีเหตุมีผลเป็นไปพร้อมกัน ๆ จึงทำโลกให้แคล้วคลาดปลอดภัยได้เรื่อยไป แต่กิเลสหาเหตุหาผลไม่ได้ ขอให้มีความต้องการอะไร สิ่งนั้นจะดีจะเลิศเลอไปหมดตามความสำคัญของตน แต่ครั้นแล้วมันก็มาเป็นภัยแก่ตัวของเราเองนั้นแหละ เพราะกิเลสไม่มีเหตุผล มันหลอกว่าดีแต่มันชั่วเสีย อยากได้ก็อยากได้ฟืนได้ไฟมาเผาตัวเสีย มันไม่อยากได้ของดิบของดี ถ้าธรรมแล้วดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่ว เสาะแสวงหาและปัดเป่าสิ่งที่ชั่วช้าลามก เสาะแสวงหาสิ่งที่ดีงามก็เป็นผลขึ้นมาให้เป็นที่พึงใจ

ส่วนกิเลสนั้น ลงว่าอยากแล้วมันไม่ได้สนใจกับเหตุผลนะ ขอให้ได้อย่างใจ ๆ ได้มาแล้วมาเผาเรา เผาครอบครัว เผาส่วนรวม จมไปได้ด้วยความไม่มีเหตุผลของกิเลส ซึ่งต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างดิ้นไปตามกิเลส เราก็จมได้นั่นแหละ ให้พากันจำให้ดีนะ นี่ก็พยายามเรื่อย ๆ พูดให้พี่น้องทั้งหลายทราบมาตลอด หลวงตาที่บึกที่บึนเวลานี้ บึกบึนเพื่อพี่น้องชาวไทยเรานั้นแหละ เราไม่ได้บึกบึนอะไรเพื่อเรา เราเคยบอก เคยกล่าวให้พี่น้องทั้งหลายทราบแล้วด้วยความสัตย์ความจริงที่เต็มอยู่ในหัวใจ ไม่สงสัยนี้เลยว่า เราพอทุกอย่างแล้ว เราไม่เอาอะไรในโลกอันนี้ มีแต่ความเมตตาสงสารพี่น้องชาวไทยเรา จึงได้พาบึกพาบึน

ไปที่ไหนจนเขาจะตำหนิติโทษหรือโจมตีก็ได้ ว่าหลวงตาบัวไปที่ไหนหาปล้นแต่เงินแต่ทอง พอเห็นหลวงตา นั่นมาแล้ว เขาก็ว่าอย่างงั้นแหละ คือเราดีดเราดิ้นด้วยความสงสารของเรา แต่กิเลสมันไม่ว่างั้นซิ มันว่าหลวงตานี้กวนบ้านกวนเมือง กิเลสมันว่างั้น แต่ธรรมแล้วกวนไปไหน ถ้ามากวนเข้ามาใส่พุงเรา ว่างั้นซิ พุงของเรามันหิวมันโหยมันจะตาย ต้องเสาะแสวงหาสิ่งเยียวยาเข้ามาใส่พุงของเรา เมื่อพุงเต็มแล้วอยู่ได้ นอนได้ ไปได้ สบายได้ เมื่อชาติไทยของเรามีความอบอุ่นด้วยสมบัติเงินทองข้าวของที่โลกยอมรับกันแล้ว เราก็อยู่ได้สบาย นี่ที่เราได้ตะเกียกตะกายอุตส่าห์พยายาม

มองเห็นหน้าไหนเขาไม่อยากดูหน้าเราละนะ พอมองไปนี่ ไหนล่ะทองคำ ไหนล่ะดอลลาร์ ไหนล่ะเงินสด มีแต่อย่างงั้น ก็มันขาดอันนี้ หมดประเทศไทยเรา มันขาดทองคำ ดอลลาร์ เงินสด จึงต้องถามหาซิ เพื่อจะให้ได้มา นี่ละได้อุตส่าห์พยายามเวลานี้นะ สำหรับเราเองเปิดโล่ง ในสามแดนโลกธาตุเราไม่เคยหวั่นต่อสิ่งใด ว่าจะมาเป็นอุปสรรคข้าศึกศัตรูหรือทำให้เราขยะแขยง ให้กล้าต่อสู้บ้าง ให้กลัวถอยบ้างเราไม่มี สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของสมมุติ ขึ้น ๆ ลง ๆ ธรรมมีความพออย่างเดียว ไม่มีอะไรที่จะเลิศเลอยิ่งกว่าคำว่าพอ พอคำเดียวเท่านั้น เอาอะไรมาใส่ก็ล้นไปหมด เหมือนน้ำพอแล้ว เต็มแก้วแล้ว เอาน้ำมหาสมุทรมาเทมันก็ล้นออกหมด นี่เรียกว่า ความพอ

ธรรมเมื่อถึงขั้นพอเป็นอย่างนั้น ไม่ต้องไปถามผู้ใด อยู่คนเดียวเต็มในหัวอก ไม่เคยไปหวังเอาสิ่งใดกับผู้ใดมาเป็นเครื่องสนับสนุนยืนยัน แล้วธรรมเต็มหัวใจ ไม่มีอะไรที่จะเลิศเลอยิ่งกว่าธรรมเต็มหัวใจ แสนสบายอยู่ในนั้นหมด นี่พระพุทธเจ้าสอนโลก สอนพวกเราท่านสอนด้วยความธรรมเต็มหัวใจ พวกเราฟังด้วยความหิวโหยด้วยกิเลส หิวโหยไปตามกิเลส ไม่ได้หิวโหยในอรรถในธรรมพอที่จะตักตวงเข้ามาใส่จิตใจให้มีความผาสุกเย็นใจตามทางของศาสดาที่สอนโลกมานานบ้างเลย ให้อุตส่าห์พยายามนะ เราเชื่อมานานแล้ว เชื่อกิเลส ให้อุตส่าห์พยายาม หลวงตาได้พยายามเต็มกำลัง

เรื่องสำหรับตัวเราเองเราหมดทุกอย่าง เราไม่มีอะไร วันหนึ่งๆ กินไปนอนไปเท่านั้น แล้วเอาสังขารร่างกายเป็นเครื่องมือ ใช้ทำประโยชน์ให้โลกได้เท่าที่กำลังสังขารร่างกายอำนวยแค่ไหนก็ทำไป ๆ อย่างตะเกียกตะกายอยู่เวลานี้ ก็ตะเกียกตะกายเพื่อพี่น้องทั้งหลายทั้งนั้นแหละ  เราไม่ได้ตะเกียกตะกายเพื่อเรา ถ้าเป็นเราแล้วเราแสนสบาย ไม่มีอะไรเลย วันหนึ่งคืนหนึ่งที่จะมีอะไรเข้ามาเป็นข้าศึกต่อจิตใจที่ชำระได้แล้วโดยสมบูรณ์ ไม่มีเลยที่จะเข้ามาขัดแย้งนิด ๆ หน่อย ๆ แม้เส้นผมก็ไม่ปรากฏ เม็ดหินเม็ดทรายก็ไม่มี นั่นคือสมมุติ สมมุตินั่นแลเป็นข้าศึกต่อจิตใจ

เมื่อชำระออกให้หมดโดยสิ้นเชิงแล้วก็ไม่มีอะไรมาขวาง โล่งว่างไปหมด สามแดนโลกธาตุว่างไปหมด คือจิตใจที่ว่างจากเสี้ยนจากหนามคือกิเลส ซึ่งสร้างกองทุกข์ให้แก่สัตว์ กิเลสพังลงไปแล้วว่างหมด กิเลสว่างแล้วทุกข์ก็ว่าง เพราะทุกข์ติดตามมาจากกิเลสเป็นตัวเหตุสร้างทุกข์ให้สัตว์โลก ทุกข์ดับไป โล่งไปหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย ที่พระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้ เราได้นำมาเป็นคติอยู่เสมอเพราะมันจ้าอยู่ที่หัวใจ เป็นแบบเดียวกัน มาพูดเมื่อไรก็สด ๆ ร้อน ๆ ตลอดไปเลย

ดังที่ท่านแสดงให้มานพ

สุญฺญโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ          โมฆราช สทา สโต

อตฺตานุทิฏฺฐึ อูหจฺจ                    เอวํ มจฺจุตฺตโร สิยา

เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ                     มจฺจุราชา น ปสฺสติ

ดูก่อนโมฆราช หนึ่งในมานพ ๑๖ คน เธอจงเป็นผู้มีสติทุกเมื่อ คนมีสติคือคนไม่ลืมตัว นั่งอยู่ถ้ามีสติก็มีค่านะ ยืน เดิน นั่ง นอน ถ้ามีสติอยู่กับตัวเป็นคนมีค่า เพราะฉะนั้นท่านจึงนำสติออกมาสอนพระโมฆราช ก็เท่ากับสอนพวกเราทั้งโลกนั้นแหละ ว่าจงเป็นผู้มีสติ อย่าเลินเล่อ อย่าตื่นอย่าเต้นกับอะไรโดยขาดสติ เธอจงเป็นผู้มีสติทุกเมื่อ พิจารณาโลกให้เห็นเป็นของสูญเปล่า ว่างเปล่าจากหัวใจ

ถอนอัตตานุทิฏฐิ ความเห็นว่านั่นเป็นเรา นี้เป็นของเรา นั้นเป็นสมบัติของเรา นั้นเป็นสมบัติของเขา นั้นเป็นข้าศึกศัตรูคู่เวร นี้เป็นคู่มิตร คู่พึ่งเป็นพึ่งตายของเราตัดออกหมด สิ่งเหล่านี้เป็นสายทางที่จะพาให้เราเกิดทุกข์ทั้งฝ่ายที่เราชอบไม่ชอบ ตัดออกให้ว่างให้หมด ไม่มีเหลือ ท่านบอกว่าจะข้ามพ้นพญามัจจุราชเสียได้ พญามัจจุราชก็คือความตาย ก่อนจะตายมันบีบบี้สีไฟ จนตกที่นั่งที่นอนหมอนมุ้งไปหมด ไม่มีสติสตัง นี้คนก่อนจะตาย ความทุกข์มันบีบบี้สีไฟขนาดนี้ทุกภพทุกชาติมา ท่านบอกพญามัจจุราชคือความตายนี้จะมองไม่เห็น ผู้พิจารณาตนถึงขั้นจิตที่เป็นของสูญเปล่าว่างเปล่าแล้ว

นี่ท่านสอนธรรมให้พวกเราฟัง ในหัวใจดวงนี้ได้ประกาศก้องมาแล้วได้ ๕๓–๕๔ ปีมานี้ พูดแล้วสาธุ ไม่ไปทูลถามพระพุทธเจ้าว่าจิตว่างเป็นยังไง จิตสิ้นจากกิเลสเป็นจิตชนิดไหน จิตว่างจากความทุกข์ทั้งหลายโดยประการทั้งปวง ทรงบรมสุขนั้นคือจิตเช่นไร เพราะท่านสอนลงในจุด สนฺทิฏฺฐิโก ให้ตัวเองรู้ตัวเองจากภาคปฏิบัติของตัวเอง เต็มสัดเต็มส่วนแล้วจะหมดปัญหาในการถามผู้ใด อย่างตถาคตก็ตรัสรู้แล้วไม่ถามใคร มาสอนโลกเต็มเม็ดเต็มหน่วยถึงสามแดนโลกธาตุ บรรดาสาวกทั้งหลายที่ตรัสรู้ธรรมตามศาสดาแล้ว ก็ไม่ไปทูลถามพระพุทธเจ้าในการตรัสรู้ของตนว่าบกพร่องที่ตรงไหน ไม่มี

แม้ที่สุดการแนะนำสั่งสอนสัตว์โลก พระพุทธเจ้าก็ทรงสั่งสอนเต็มภูมิของศาสดาเต็มเม็ดเต็มหน่วย สาวกก็เช่นกันไม่ไปขอหยิบขอยืม ขอศึกษาธรรมะจากพระพุทธเจ้ามาสอนโลก ไม่มีในสาวกทุก ๆ องค์เต็มหัวใจของท่าน สอนเต็มภูมินิสัยของสาวก นี่เรียกว่าเต็มแล้วเป็นอย่างงั้น เต็มด้วยกันหมด สาวกองค์ใดก็ตามตรัสรู้ธรรมแล้ว ไม่พอวิ่งกลับมาศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าก่อนแล้วไปสอนโลกใหม่นี้ไม่เคยมี เต็มอยู่ในหัวใจนั้นแล้ว เรียกว่าพอ ไม่มีคำว่าบกว่าบาง คือหัวใจของพระอรหันต์ที่ว่างจากสิ่งบกพร่องทั้งหลายแล้ว เต็มตื้นไปด้วยอรรถด้วยธรรมล้วน ๆ ภายในใจ

นั่นแหละพระพุทธเจ้าและพระสาวกจึงประกาศเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า นตฺถิ เสยฺโยว ปาปิโย ผู้ที่มีจิตที่บริสุทธิ์แล้วเสมอกันหมด ไม่มียิ่งมีหย่อนต่างกัน จึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปถามกัน หรือไปขอหยิบขอยืมมาเพิ่มเติมในความบกพร่องของตน เพราะต่างคนต่างเสมอกัน ไม่มีใครบกพร่อง และจะไปหามาเพิ่มเติม นี่ละธรรมพระพุทธเจ้าประกาศก้องมาเป็นเวลานาน ๒๕๐๐ กว่าปีแล้ว เราก็ได้นำธรรมเหล่านั้นมาปฏิบัติตะเกียกตะกายล้มลุกคลุกคลาน ทนเพื่อความดิบความดี ผลก็ปรากฏขึ้นมาเรื่อย ๆ ทนเพื่อความดิบความดี พยายามเต็มกำลังความสามารถ ผลก็ปรากฏขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งวาระสุดท้าย ผลเป็นที่พอใจ

ตั้งแต่บัดนั้นมาเราจึงไม่มีอะไรกับสามแดนโลกธาตุ ทั้งการชมเชย ยกมาชมเชยเราสามแดนโลกธาตุ หัวใจก็เต็มแล้วรับไม่ได้ เขาจะยกกันมาโจมตีเราทั้งสามแดนโลกธาตุ หัวใจเราเต็มแล้วด้วยธรรมที่เป็นสิ่งที่พึงปรารถนา ไม่บกบางแล้ว ไม่รับทั้งความนินทา ทั้งความสรรเสริญ เรียกว่าจิตใจที่พอแล้ว นี่ก็ได้ทรงมาแล้วได้ ๕๓–๕๔ ปีนี้ แล้วมาประกาศหลอกลวงพี่น้องทั้งหลายเหรอ ให้ท่านทั้งหลายพิจารณา คนแบบหลวงตาบัวมาหลอกลวงท่านทั้งหลายให้จมทั่วประเทศเขตแดนนี้แล้ว ก็ให้เห็นเสียทีในชาติแห่งชาวพุทธของเราในเมืองไทย

เราปฏิบัติต่อตัวของเรา ก็ไม่สร้างความล่มจมให้แก่ตนตลอดมา มีแต่สร้างความเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง มีความผาสุกร่มเย็นขึ้นไปเป็นลำดับๆ จนกระทั่งถึงขั้นพอใจ ไม่ต้องไปทูลถามพระพุทธเจ้าแล้ว และมาสั่งสอนสัตว์โลก เป็นธรรมที่เสนียดจัญไรให้ความเป็นฟืนเป็นไฟ เป็นภัยแก่โลกนั้นเป็นยังไง มีเหรอ พิจารณาซิท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่าเป็นความจริงตามหลักธรรมพระพุทธเจ้าแล้ว ขอให้พากันฝืนใจฟังธรรมพระพุทธเจ้า เราจะเป็นคนดิบคนดีไปเป็นลำดับ ถ้าข้องใจไปตามกิเลสแล้วจะจมทั้งนั้น ขอให้เชื่อธรรม เรามีศาสนา เรามีเครื่องยึด ขอให้ยึด ผู้ที่ไม่มีเครื่องยึดก็จำเป็น เห็นใจ อันนี้เรามีเครื่องยึด กิเลสที่ฉุดลากลงก็มีอยู่

เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องยึดธรรมที่เป็นเครื่องฉุดลากเราขึ้น อย่าให้แต่กิเลสฉุดลากลง นี่เราเปิดอกให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ตั้งแต่ก่อนเราก็ไม่เคยพูดธรรมะประเภทเหล่านี้นะ เมื่อมันถึงขั้นเต็มภูมิแล้วก็อยู่ไป ๆ การแนะนำสั่งสอนก็ตามเขตตามแดนที่กว้างแคบที่ผู้มาเกี่ยวข้อง เฉพาะอย่างยิ่งพระสงฆ์องคเจ้าที่อยู่ในป่าในเขาด้วยกันเสาะแสวงหาฟังธรรมอยู่ในป่าในเขา ครั้นต่อมาก็ค่อยกระจายออกมาๆ  ตั้งเป็นวัดเป็นวา กลายเป็นวัดป่าบ้านตาดขึ้นมา คนนั้นเข้ามา คนนี้เข้ามา การสอนก็ค่อยกว้างขวางออกไป สุดท้ายก็มาถึงช่วยชาติบ้านเมือง ดังพี่น้องทั้งหลายเห็นอยู่เวลานี้แหละ

เราจึงได้ออกมาช่วยชาติบ้านเมืองเต็มกำลังความสามารถ และเมตตาธรรมภายในจิตใจของเราไม่บกพร่อง จึงได้พาพี่น้องทั้งหลายตะเกียกตะกาย ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าเป็นสารคุณ บุญกุศล มหาคุณแก่ท่านทั้งหลายจากธรรมพระพุทธเจ้าที่หลวงตานำมาชี้แจงหรือฉุดลากกันอยู่เวลานี้ก็ขอให้ยึด ถ้าอันนี้ไม่มีความหมายแล้ว เราทั้งประเทศจะหมดความหมายนะ จะจมไปด้วยกัน ทั้งๆ  ที่กำลังพองตัวอยู่นั่นแหละด้วยความโง่เง่าเต่าตุ่นแต่สำคัญตนว่าเป็นนักปราชญ์ฉลาดแหลมคม เลิศเลอกว่าโลกกว่าสงสารแล้วจะพากันจมทั้งประเทศไทย

นี่เพราะไม่เชื่อฟังคำของพระพุทธเจ้า ใครมาสอนก็ไม่ยอมฟัง พระพุทธเจ้ามาสอนก็ไม่ฟัง บรรดาสาวกทั้งหลายสอนก็ไม่ฟัง ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสอนไม่ฟัง สิ่งที่จะฟังก็ฟังตั้งแต่เรื่องเทวทัตนรกอเวจีฉุดลากลงทุกวี่ทุกวัน ให้จมไปด้วยกันทั้งหมด นี้เป็นสิ่งที่เป็นมงคลแล้วเหรอ เอามาชั่งน้ำใจของเราทุกคน ให้ได้พินิจพิจารณา แล้วให้ตะเกียกตะกาย เวลานี้เป็นเวลาที่กำลังฉุดลากจิตใจของเราที่มันกำลังต่ำทราม มันเห็นบาปเป็นบุญ เห็นบุญเป็นบาปไปหมด เห็นของชั่วว่าเป็นของดี เห็นของดีว่าเป็นของชั่ว มันกลับตาลปัตร กิเลสพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงหลายสันพันคม ทำเราให้ล่มจมได้โดยไม่ต้องสงสัย

จึงขอให้ดำเนินตามอรรถตามธรรม พระพุทธเจ้าสอนยังไงจับให้ดี นี่ธรรมพระพุทธเจ้าสอน ให้จำให้ดีทุกคน ๆ นะ วันนี้ก็ได้สอนพี่น้องทั้งหลายฟัง ตั้งแต่ต้นมาจนกระทั่งได้นำออกช่วยชาติบ้านเมือง โดยที่ไม่เคยคิดเคยอ่าน มันจะเป็นนิสัยวาสนาของพวกเราชาวไทยทุกคนที่เป็นแดนแห่งชาวพุทธ เป็นลูกศิษย์ตถาคต ว่าได้ต่างคนต่างพยุงกันขึ้น เดินตามทางของสายอรรถสายธรรม เวลานี้ก็รู้สึกว่าค่อยแน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น ๆ โดยลำดับลำดา ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ ทองคำเราก็ได้ถึง ๕,๕๕๙ กิโลแล้ว แต่ก่อนเคยมีที่ไหน ใครเอามาให้พวกเรา

เมืองไทยนี้ก็ตั้งมาเป็นเวลานาน กรุงเทพฯ นี้ก็ตั้งมาได้ ๒๐๐ กว่าปี มีใครเอาทองคำมายื่นให้กรุงเทพมหานคร ไม่เห็นมี แต่เวลามีก็มีแต่พี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศนี้ละ ยื่นเข้ามา ๆ ด้วยความขวนขวายเนื่องมาจากความรักชาติของเรา ได้อุตส่าห์พยายามขวนขวายหาทองคำมาได้ ๕ ตันกว่าแล้ว นี่ก็คือคุณสมบัติแห่งชาติไทยของเราที่จะพยุงตนเองให้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาติไทยของเรา เพราะอำนาจแห่งการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พาฉุดลากทุกวี่ทุกวันอย่างนี้ แล้วต่อไปก็ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้อุตส่าห์พยายามอย่างนี้

นี่เราพูดถึงเรื่องความตะเกียกตะกายของหลวงตา หลวงตาไม่เอาอะไรแล้วในโลกนี้ ไม่มีอะไรเลิศยิ่งกว่าคำว่าพอ ลงถึงขั้นพอแล้ว อะไรมาก็ไม่มีอะไรเลิศ พระพุทธเจ้าถึงขั้นพอ พอคำว่า พอ จึงเป็นธรรมที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว พระสงฆ์สาวกทั้งหลายพอ ปุญญปาป ปหินบุคคล เป็นผู้ละแล้วซึ่งบุญและบาป ซึ่งเป็นสายทางเดินทั้งขึ้นและลง สายทางเดินขึ้น คือบุญ สายทางที่ลากลงคือบาป ท่านละหมดแล้ว ปล่อยหมดแล้ว ถึงขั้นแห่งความพอทุกอย่าง นี่ท่านมาสอนพวกเราท่านสอนด้วยความพอ ท่านไม่ได้สอนด้วยความหิวโหยตะเกียกตะกายเหมือนเราทั้งหลายที่เป็นคลังกิเลส ท่านสิ้นทุกอย่างแล้ว สอนโลกทั้งหลายด้วยความพอทุกอย่าง จึงขอให้พากันยึดหลักอันนี้ไว้มาเป็นสิริมงคลแก่ตัวเราเอง ให้อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกายในทางความดีงามทั้งหลาย เพราะกิเลสมันฉุดลากเอาไว้ ถ้าหากว่าจะทำความดี มันลากไว้นะ ถ้าจะนำความชั่วมันไสลงไปเลย ให้พากันจับข้อนี้เอาไว้นะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ เอาละยุติ

 

อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก