เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
ไม่ว่าก็ไม่เป็นไร
เตียงนอนที่อยู่ในโกดังเรายังไม่ได้ถามพระ เรื่องเตียงเรื่องอะไรที่มาเต็มอยู่ที่โกดัง จะเอาไปท่าอุเทนหรือ ทางจังหวัดชลฯ บ้านนั้นละเขาให้ เราค่อนข้างแน่ใจเลย เพราะปรกติเราไม่เคยขอนั้นขอนี้อะไร เห็นอันนี้มาอาจจะเป็นทางโน้นเขาให้มา มีที่ไหนมาเกี่ยวข้องบ้าง ถ้าไม่มีที่ไหนเราก็แน่ใจว่าจะเอาไปท่าอุเทน ตึกเขาจะเสร็จวันที่ ๑๕ ธันวา เราควรที่จะส่งไปก่อนก่อนที่เราจะไปกรุงเทพ อันนี้ก็พวกลูกศิษย์ทางเมืองชลแหละให้มา พวกเตียงนอนเตียงอะไร ที่เราสงสัยก็คือว่าเราไม่เคยขอใคร อยู่ ๆ อันนี้มา จะเป็นความเกี่ยวโยงกับใครบ้าง เราจึงสงสัย คงจะเป็นศรัทธาเขาเอง หรืออาจจะได้ยินคำพูดเกี่ยวกับเรื่องเครื่องอุปกรณ์โรงพยาบาลท่าอุเทนก็ได้ แต่ที่จะขอ ให้คนนั้นเอานั้นเอานี้มาเราไม่เคยอย่างนี้ เราเชื่อแน่เลย ก่อนที่จะไปกรุงเทพ อะไรที่ควรจะจัดเสียตอนนี้เราก็รีบจัด ๆ เพราะฉะนั้นจึงยุ่งบ้าง ก่อนจะไปกรุงเทพทีไรก็ตามมักจะยุ่ง เกี่ยวกับเรื่องการจ่ายเงินจ่ายทองอะไรเหล่านี้ มันอยู่กับเราหมดนี่ แล้วอย่างอื่นอีกด้วย
เมื่อวานนี้ผ้าป่าศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด วันที่ ๒๔ ทองคำได้ ๑๐ กิโล ๒๐ บาท ดอลลาร์ได้ ๑,๙๒๘ ดอลล์ เงินสดได้ ๑,๑๘๗,๑๔๕ บาท สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๒๔ ทั้งวัน ทองคำได้ ๑๐ กิโล ๖๐ บาท ๕๖ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒,๓๒๗ ดอลล์ รวมทองคำที่ได้แล้วทั้งหมด ๕,๔๐๙ กิโล ยังอีกเพียง ๑๑ วันเราก็จะไปกรุงเทพแล้ว วันที่ ๗ ไปกรุงเทพ ทีนี้ก็เอาทองคำเมื่อวานนี้ไปรวมกัน ส่วนใหญ่ที่ตายตัวไว้แล้วก็คือว่า ทองคำ ๕๐๐ กิโลนี้บอกทางโรงหลอมเขาเรียบร้อยแล้วให้หาให้ทั้งหมด เขาก็ตอบรับมาแล้วว่าหาแล้ว ดูว่าวันที่ ๓ เขาจะจัดให้เรียบร้อยหมด พอถึงวันนั้นก็มอบตูมเลย หากว่าเรายังไม่พอ พอมอบเสร็จแล้วเราจะมาเคลียร์ของเราแล้วไปแทนเขาปุ๊บเลย ไม่มีปัญหาอะไรแหละ
เพราะเวลานี้กฐินของเราทุกกองเราไม่เคยแตะนะ ๘๔,๐๐๐ กองเป็นอย่างน้อยที่อยู่ในธนาคารเรียบร้อยแล้วเรายังไม่เคยแตะ ส่วนที่กฐินตกค้าง ๆ ตกเข้ามาเรื่อยเข้าเรื่อยเราก็เลยไม่นับ นี่ละจนกระทั่งมอบแล้วยังขาดเหลือเท่าไร ทีนี้เราถึงจะไปถอนเงินสดออกมาซื้อทองคำมอบแทนเขา ก็เท่านั้นเอง เหลือจากนั้นเราก็เก็บไว้สำหรับงวดหน้าดังได้บอกไว้แล้ว เราจะมอบเป็นงวด ๆ แล้วก็บอกชัดเจนด้วยว่างวดละ ๕๐๐ กิโล ไม่ให้ต่ำกว่านั้นจนถึง ๑๐ ตัน พอถึง ๑๐ ตันแล้วไม่มีละปัญหาอะไร ปัญหาอะไรไปรวมอยู่จุดนั้นหมด อยู่ใน ๑๐ ตัน พอได้ถึง ๑๐ ตันแล้วเรียกว่าโล่งไปหมดเลย อะไรจะได้มาเป็นกรณีพิเศษก็เป็นวาสนาของชาติไทยเรา ยังไม่ถอย ยังได้อีกอยู่ วาสนาชาติไทยเราดีเพิ่มขึ้นอีก ก็ยอมรับเอาเรื่อยไป แต่ที่จะให้ไปประกาศเหมือนจำนวน ๑๐ ตันนี้ไม่แล้ว ว่ายังไงก็ต้องเป็นอย่างนั้น เชื่อถือได้ พูดอย่างนี้ไปอย่างนี้เคลื่อนอย่างนั้น โอ๋ย ไม่ได้กับเรา ถ้าว่ายังไงแล้วขาดเลย
ยิ่งคำพูดอย่างที่ว่าได้ออกสนามแล้วอย่างนี้ เคลื่อนไม่ได้เลยนะ เพราะทราบกันทั่วประเทศแล้ว อย่างน้อยทั่วประเทศ นอกนั้นเมืองนอกก็ทราบอีกว่า เมืองไทยเราจะพยายามให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ประกาศก้องทราบทั่วโลกแล้ว อย่างนี้เคลื่อนไม่ได้เลย เอา สมมุติว่ามันไม่ได้ตามนั้น ก็ต้องมีเรื่องชี้แจงให้ทราบตามเหตุผลใช่ไหมล่ะ อยู่ ๆ จะล้มไปเฉย ๆ ไม่ได้
สำหรับเงินดอลลาร์เราค่อนข้างแน่ใจ ที่ยังเหลืออยู่ ๓ ล้าน เวลานี้ได้ ๗ ล้านแล้ว เงิน ๓ ล้านกับทองคำยังเหลืออีกตั้ง ๔ ตันกว่านี้ มันจะพอ ๆ กันแหละ พอทองคำเข้าถึง อันนี้น่าจะถึงหรือเลยด้วยซ้ำไป เพราะดอลลาร์มันก็มาของมันเรื่อยไม่หยุด มันมาเป็นแต่เพียงไม่บอก ไม่บอกมันก็เป็นดอลลาร์ของมันอยู่ ทองคำประกาศป้าง ๆ ดีไม่ดีสู้ดอลลาร์ไม่ได้ ดอลลาร์ไม่ค่อยประกาศแต่ก้าวตลอด อย่างเมื่อวานนี้ดอลลาร์ก็ได้ ๒,๓๒๗ ดอลล์ อย่างนี้แล้ว มันก็มากับทองคำ ทองคำก็ฟาดเสียตั้ง ๑๐ กิโล ๖๐ บาท ๕๖ สตางค์ มีแต่ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น
เมื่อวานนี้ทองคำก็ใหญ่ ดอลลาร์ก็ใหญ่ เคียงข้างกัน เทศน์เมื่อวานนี้ไม่ดีแหละ หลงหน้าหลงหลัง เรารู้ของเราเองนะเทศน์เมื่อวาน มันเหนื่อย เพราะไม่ได้พักเลยเมื่อวานนี้ พอฉันจังหันเสร็จแล้วไปกุฏิ จดหมายน้อยมาแล้ว อ่านดู อ้าว แล้วกันเขามาหาตั้งแต่เมื่อวาน วานนี้เราไปวัดศรีชมภู เอาของไปทุ่มลงนั้นเต็มรถเลย อาหารทั้งนั้น อ้าว แล้วกันยังไงกันนี่ วันนี้ตอนเช้าเขาถวายอาหารบิณฑบาตอุทิศส่วนกุศลถึงผู้ล่วงลับ เรามาก็ขนของใส่รถปุบปับ ๆ เมื่อวานนี้นะ ขึ้นรถไปเลย ไปเอาของเทลงแล้วก็พูดกับเขาไม่นานนัก รวมเวลาทั้งหมดไม่เลย ๒๐ นาที เพราะเราก็เล็งทางนี้อยู่นะ คนกำหนดเวล่ำเวลาไว้แล้ว กลับมานี้ปั๊บ แน่ะ สักเดี๋ยวไม่นานก็ลงไปศาลาไปเทศน์มันเหนื่อย
ความจดความจำเลอะเลือนไปหมด เทศน์หลงหน้าหลงหลังนะ เจ้าของรู้ในเจ้าของ คนอื่นอาจจะรู้เวลาเนื้ออรรถเนื้อธรรมไม่ติดต่อกัน นั่นละ พอเทศน์ไป ๆ มันลืมตรงไหนมันขาดแล้วใช่ไหมล่ะ ทีนี้ระลึกไม่ได้มันก็จับใหม่ต่อไป นี่มันขาด ๆ ด้วยความจำมันหลงลืม ถ้าธรรมดาแล้วมันจะต่อกันไปเรื่อย ๆ เรื่องราว เมื่อวานนี้เป็นชัดเจนมากเมื่อวานหลงลืม เทศน์ก็ไม่ได้นานเหนื่อย เทศน์ไปสะเปะสะปะไปอย่างนั้นแหละ เมื่อวานนี้ก็ดูว่าเขาออกทางสหรัฐไม่ใช่เหรอ คือเขาเอาโทรศัพท์มือถือมาวางจ่อไว้ เทศน์ปั๊บมันก็ออกทางสหรัฐเลยว่าอย่างนั้น
โยม หลวงตาเจ้าคะ เทศน์เมื่อวานมันก็ได้สาระ
หลวงตา ตรงไหน
โยม ตรงที่ว่าหลวงตาบอกว่าพระที่ว่าไปอยู่แล้วเทวดาก็อนุโมทนา เสร็จแล้วพระก็ภาวนาเอง แต่แบบไม่เผื่อแผ่ แล้วก็ไปบอกพระพุทธเจ้า ก็ได้ตรงนี้ทำให้คนเขารู้ว่าพระสงฆ์นี้ต้องมาเมตตาเผื่อแผ่คนใช่ไหมคะ
หลวงตา เรื่องของธรรมแท้เป็นอย่างนั้น พระสงฆ์ท่านเฉลี่ยเผื่อแผ่ความสุขให้ทั่วถึงกันในบรรดาสัตว์ทั่วโลกว่างั้นเถอะ พระพุทธเจ้าก็ทรงดำเนินมาอย่างนี้ พระสงฆ์ท่านดำเนินอย่างนี้ ที่มีเปรตผีอะไรมาคัดค้านว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์นี้มันก็สอดปั๊บละซิ ว่าอันนี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ พระทำอย่างนี้ไม่ได้แล้วหมดศาสนาไม่มี สงฆ์ไม่มี สงฆ์ต้องทำกิจอย่างที่ว่านี้ ทำประโยชน์ให้โลกมาตลอดแต่ครั้งพระพุทธเจ้ามา แล้วยังมางัดกันว่า อันนี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์
มันก็สวนหมัดละซิ อะไรเป็นกิจของสงฆ์ ก็เท่านั้นละที่นี่ หนังสือพิมพ์เหรอกิจของสงฆ์ เอาละนะ เห็นไหม ถ้าต่อยมามันสวนทันทีเลย หนังสือพิมพ์ตัวเพลิดตัวเพลินกับโลกกับสงสาร ไม่มองดูหัวโล้นนั้นเหรอเป็นกิจของสงฆ์ วิทยุ เทวทัตโทรทัศน์ วิดีโอ โทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นเรื่องของโลกเขา เทียบกับธรรมะแล้วเรียกว่าเรื่องของส้วมของถานว่าอย่างนั้นเลย นั้นเหรอกิจของสงฆ์ มันถึงได้มีมากมายก่ายกองเต็มห้องเต็มหับ ตั้งหน้าตั้งตาจะเสาะแสวงหาขวนขวายกันมามากมาย นั้นหรือกิจของสงฆ์ ก็สอดเข้าไปละซิ เข้าใจไหม ถ้าอันนี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ นั้นเหรอกิจของสงฆ์ สงฆ์ประเภทนี้สงฆ์ประเภททำลายไม่มีศาสนาเหลือเลย จะว่ายังไง กิจของสงฆ์ประเภทนี้กิจสังหารพุทธศาสนา นี้หรือกิจของสงฆ์ ก็ว่าอย่างนั้นซิ เวลานี้พระสงฆ์กำลังส่งเสริมกิจของสงฆ์อย่างนี้มากขึ้นโดยลำดับ จนไม่มีที่ปลงที่วางเลย มีแต่กิจของสงฆ์เต็มวัดเต็มวาเต็มพระเต็มเณร แน่ะมันก็สอดเข้าไปละซิ ถ้าไม่ว่าก็ไม่เป็นไร ถ้าว่าปั๊บมันก็สวนกันเลย
ที่ว่า ภพฺพาภพฺเพ วิโลกานํ ทรงเล็งญาณดูสัตวโลก ก็ดูจิตใจผู้ที่ควรจะหลุดพ้น ให้หลุดพ้นไปเสีย นั่นเล็งญาณดู สัตว์ทั้งหลายที่ควรจะสงเคราะห์มากน้อยเพียงไร ก็สงเคราะห์เรื่อย ๆ ไป นี่ละให้รู้เสียว่ากิจของสงฆ์ ก็ได้เห็นหัวใจของพระไทยเราในคราวนี้ เป็นยังไงจิตใจ ใจดำน้ำขุ่น หรือใจสว่างกระจ่างแจ้งเต็มไปด้วยเมตตาสงสารสงเคราะห์โลกสงสาร ตามทางของศาสดาที่สอนมา ท่านสอนมาอย่างนั้นนี่นะ คนมีเมตตาก็เป็นธรรม ถ้าไม่มีเมตตาก็ไม่เกิด ไม่มีความเฉลี่ยเผื่อแผ่ไม่มองเห็นใครเลยก็ไม่เป็น ก็ดังที่พูดแล้วเทวดาเมื่อวานนี้เห็นไหมล่ะ ท่านจะมุ่งอรรถมุ่งธรรมเฉพาะตนจริง ๆ โดยถ่ายเดียวเท่านั้น เรียกว่าเป็นธรรมแล้ว ก็บกพร่องในการสงเคราะห์โลกอีก พวกเทวดาเป็นโลกว่าไง เกิดความเดือดร้อนขึ้นมาจนเรื่องราวกระเทือนถึงพระ พระอยู่ไม่ได้เลยหนีไป นั่นก็มีในคัมภีร์ พูดนี้ยันได้เลย พูดออกมาจากไหน ออกมาจากคัมภีร์ ยันได้เลย ๆ ที่จะหาโกหกหลอกลวงต้มตุ๋นเราไม่มี เราบอกว่าเราไม่มี พูดตรงไหนขึ้นเวทีได้เลย ถ้าลงได้พูดแล้วไม่เป็นอย่างอื่น
เราก็พึ่งได้ยินข่าว ทางสหรัฐเวลานี้มีศาสดาองค์ใหม่ขึ้นไปแทน ย้อนเข้าถึงเมืองไทยเราเหล่านี้ทั้งหมดนั้นแหละ เรียกว่าศาสดาองค์ใหม่ก็ได้นะ ศาสดาพระพุทธเจ้านั้นเป็นศาสดาองค์หนึ่ง ศาสดาเทวทัตอันหนึ่ง มันเป็นคู่ต่อสู้กันมาแต่ไหนแต่ไร นี่เราก็ทราบเรื่องราวเป็นมายังไง คัดค้านธรรมพระพุทธเจ้า เอาธรรมสด ๆ ร้อน ๆ ศาสดาองค์ใหม่ของตัวเข้าไปเหยียบยัน ๆ เข้าไป เข้าไปคัดค้านต้านทาน เราก็ได้ยินมาอย่างนั้น แต่ยังไม่ชัดเจนนักก็บอกว่ายังไม่ชัดเจนนัก เราก็พูดตามนี่นะ ที่คัดค้านธรรมพระพุทธเจ้ามาโดยลำดับ ขึ้นข้อไหนคัดค้านข้อนั้น ๆ เรียกว่ามหาภัยทำลายพุทธศาสนา เวลานี้กำลังเริ่มอยู่ทางสหรัฐได้ยินว่าอย่างงั้นนะ เรายังไม่ชัดเจนมากนะ ถ้าชัดเจนขนาดไหนจะออกขนาดนั้น เราทราบเพียงแค่นี้เราก็ออกเพียงแค่นี้ก่อน
แต่เท่าที่ฟังตามคำบอกเล่ามานี้รู้สึกว่าเป็นมหาภัยต่อพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง เรียกว่าลบล้าง ๆ ทุกแง่ทุกมุมของศาสนธรรม ที่แสดงออกไปด้วยความราบรื่นดีงามต่อสัตว์โลกทั้งหลาย อันนี้มาปิดตันกันเลย ๆ ไม่ให้ธรรมก้าวเดิน จะให้มีแต่พวกเทวทัตมหาภัยก้าวเดินเหยียบสัตว์โลกให้แหลกเหลวไปหมด ทั้ง ๆ ที่ศาสนามีอยู่ก็ถูกลบลงทะเลไปหมดเลย เวลานี้กำลังเริ่มได้ยินแล้วอยู่ทางโน้น เราได้ยินแค่นี้เราก็พูดแค่นี้เสียก่อน ถ้าได้ยินแค่ไหนจะออกแค่นั้น เรื่องธรรมนี้ไม่มีรอ ออกได้อย่างสะดวกสบายไม่สะทกสะท้าน นี่เราพึ่งเริ่มได้ยิน ก็ปล่อยไปอย่างนั้นเสียก่อน
เรื่องอรรถเรื่องธรรมเรามีมาจากศาสดา เฉพาะองค์ปัจจุบันนี้ก็ ๒๕๐๐ กว่าปี เอ้าฟังให้เต็มหู คิดให้เต็มใจชาวพุทธเรา เรื่องอะไรที่จะมาขัดมาขวางต่อทางเดินของศาสดา ที่สอนไว้แล้วโดยถูกต้อง ให้ปัดออกทันที อย่าเอาเข้ามาใกล้ชิดติดพันกับตัว จะเป็นภัยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลย ธรรมพระพุทธเจ้าสอนมามากเท่าไร ให้พากันจำเอาก็แล้วกัน นี่เราได้ฟังมาอย่างนั้นเพียงขนาดนี้ เราก็มาเล่าให้ฟังแค่นี้ ต่อไปมันเป็นยังไง ความเคลื่อนไหวนี้ออกมายังไง ๆ เรื่องราวมันจะติดตามมาเรื่อย ๆ มาถึงเรา ทางนี้ทราบยังไง ควรที่จะพูดยังไงบ้างก็พูดได้เอง ไม่ยาก
โยม หลวงตาเจ้าคะ ถ้าอย่างนี้เราไม่รู้ พระที่สอนมาผิด ๆ อย่างนี้นะคะ แล้วเรากราบอย่างนี้ ก็เท่ากับเราไม่ได้กราบพระองค์นั้นเลยใช่ไหมเจ้าคะ
หลวงตา ก็เรากราบพระพุทธเจ้า
โยม สมมุติว่าองค์นี้พูดอย่างนี้ ก็เท่ากับต้องขาดจากความเป็นพระซิคะ
หลวงตา ใครขาดจากพระ
โยม ที่สอนผิด ๆ มา
หลวงตา ผิดน้อยขาดน้อย ผิดมากขาดมาก ผิดหมดขาดเป็นพระหมด เข้าใจไหม มันเป็นขั้น ๆ เหมือนผ้าขาด ผ้าขาดเล็กน้อยไม่เป็นไรนุ่งไปก็ได้อยู่ ขาดมาก ๆ จนมองเห็นหีเห็นหำนี้อย่านุ่งนะ เอ้า ก็อย่างนั้นซิ ภาษาธรรมพูดให้ตรง ผิดหรือนี่ที่พูดอย่างนี้ใช่ไหม เมื่อมันขาดมากก็เป็นอย่างนั้นใช่ไหม นี่ละถูกต้องภาษาธรรม กิเลสมันปิดโน้นปิดนี้เป็นบ้า นั่นละภาษากิเลสกับภาษาธรรมจึงเข้ากันไม่ได้ เวลานี้เรากำลังเปิดภาษาธรรมออกให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วถึงกัน เปิดออกมาตามหลักความจริง ๆ ไปเลย จึงเรียกว่าธรรม ไม่สะทกสะท้านเรื่องธรรม กิเลสนั้นหลบนั้นหลบนี้ เพราะมันไม่จริง มันปลอมกิเลส ธรรมนี้จริง ตรงไปตรงมา
อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวันได้ที่ www.luangta.com |